บทที่ 777 เบาะแส (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

แกน​กระดูก​ผลึก​

หลังจาก​ลู่​เซิ่งได้​รู้จัก​ของ​ประหลาด​ชิ้น​นี้​จาก​ปาก​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​ผู้​เป็น​บิดา​ เขา​ก็​เตรียมการ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​โลก​สีเทา​ทันที​

หาก​บอ​กว่า​ตอน​แรกเริ่ม​เขา​มีความคิด​ว่า​ไป​ก็ได้​ไม่ไป​ก็ได้​ แต่​หลังจาก​ได้​รู้จัก​แกน​กระดูก​ผลึก​แล้ว​ เขา​ก็​สนใจ​โลก​สีเทา​มากกว่า​เดิม​ไม่น้อย​ กอ​รป​กับ​โลก​สีเทา​มีความต่าง​ของ​เวลา​ ทำให้​เขา​เกิด​ความสงสัย​ว่า​โลก​สีเทา​เป็น​ของ​โลก​ใบ​นี้​หรือไม่​

ใน​การ​จุติ​สู่โลก​ต่างๆ​ ที่ผ่านมา​ มีแต่​โลก​ที่​แตกต่าง​และ​มิติ​เวลา​ที่​แตกต่าง​เท่านั้น​ถึงจะปรากฏ​สถานการณ์​ที่​ความเร็ว​ของ​เวลา​ผิดปกติ​แบบนี้​

เวลา​และ​ปริภูมิ​มักจะ​ดำรงอยู่​ร่วมกัน​ใน​จักรวาล​ปกติ​ การเปลี่ยนแปลง​ของ​ปริภูมิ​จะทำให้​เวลา​เกิด​การ​บิดเบี้ยว​

หลังจาก​เตรียมตัว​เป็นเวลา​สามวัน​กว่า​ๆ เพื่อ​ป้องกัน​การ​ปิด​ตัว​ลง​ของ​โลก​สีเทา​ ลู่​เซิ่งได้​เข้าไป​ใน​โพรง​ถ้ำอันเป็น​ซาก​โบราณ​สถานที่​องค์กร​กึ่ง​มาร​บันทึก​ไว้​อีกครั้ง​ แล้ว​มุ่งสู่โลก​สีเทา​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​

ฟ้าว!​

ลู่​เซิ่งกระโดด​ลง​จาก​ปาก​ถ้ำเป็น​ครั้ง​ที่สอง​มอง​ไกล​ออก​ไป​จาก​กลางอากาศ​

ก่อนที่จะ​เข้าไป​ใน​บึง​น้ำ​ รอบข้าง​มีพื้นราบ​กว้างขวาง​ผืน​ใหญ่​ พื้นราบ​เหล่านี้​เหมือน​จะไม่ใช่ของ​โลก​ใบ​นี้​ หาก​แต่​เป็น​การข้าม​สภาพแวดล้อม​อย่างหนึ่ง​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​เวลา​มีจำกัด​ เขา​ก็​อยาก​จะไป​ค้นหา​โล​กรอบ​ๆ ที่​ตั้งอยู่​บน​ผืน​ราบ​แห่ง​นั้น​ซะก่อน​

เปรี้ยง​!

พลัน​ร่าง​ตกลง​ไป​ใน​น้ำ​เย็นเยียบ​เสียด​กระดูก​ ลู่​เซิ่งปล่อย​ไอ​ร้อน​ออกมา​ทั่ว​ร่าง​ นี่​คือ​พลังความร้อน​อัน​น่ากลัว​ที่​กระจาย​ออก​โดยธรรมชาติ​ตาม​การ​เต้น​ของ​หัวใจ​ที่​แข็งแกร่ง​สุด​เปรียบ​ปราน​หลังจาก​เลื่อน​เป็น​จักรพรรดิ​วรยุทธ์​

หาก​ตอนนี้​เขา​ไม่จงใจเก็บ​พลัง​ ก็​จะเป็น​สัตว์ประหลาด​ที่​มีความร้อน​และ​เลือด​ลม​อัน​มหาศาล​กระจาย​ออกมา​

นี่​คือ​ขอบเขต​สูงสุด​หรือ​ก็​คือ​จักรพรรดิ​วรยุทธ์​บน​โลก​ใบ​นี้​

เขา​ไม่เพียงแต่​กระจาย​กลิ่นอาย​น่ากลัว​สาย​นี้​ออกมา​เท่านั้น​ ทั้ง​ยัง​ควบคุม​กระแส​อากาศ​กับ​ไอ​ร้อนที่​กระจาย​ออกมา​จากรูขุมขน​เหล่านี้​ได้​ดั่ง​ใจนึก​ด้วย​

ลู่​เซิ่งว่าย​ท่ามกลาง​ฟองอากาศ​ที่​เดือด​พล่าน​เข้าไป​ยัง​ทาง​เชื่อม​ที่​เหมือนกับ​รังผึ้ง​ใต้​น้ำ​อีกครั้ง​อย่าง​รวดเร็ว​

หลังจาก​แหวกว่าย​ไป​ตาม​เส้น​ทางได้​สอง​สามนาที​ เขา​ก็​พลัน​เร่งความเร็ว​ขึ้น​

ไม่นาน​ก็​เกิด​เสียง​น้ำ​กระจาย​ดัง​ซ่า เขา​กระโดด​ออกจาก​บึง​น้ำ​ แล้ว​เหยียบย่ำ​ลง​บน​ผิวน้ำ​อย่าง​แผ่วเบา​สอง​สามก้าว​ ก่อน​จะยืม​แรง​ไป​หยุด​ยืน​ข้าง​บึง​น้ำ​

‘สภาพ​ยัง​เหมือนเดิม​…’ ลู่​เซิ่งเหลียว​มอง​โดยรอบ​ก็​ไม่พบ​อะไร​เลย​นอกจาก​กระดูก​ขาวโพลน​

ลม​เย็น​เสียด​กระดูก​พัด​มาจาก​บริเวณ​รอบข้าง​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​ ไม่มีกลิ่นอาย​ของ​สิ่งมีชีวิต​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

ความร้อน​พลุ่งพล่าน​บน​ร่าง​ลู่​เซิ่ง ไม่นาน​ก็​ระเหย​ไอ​น้ำ​สีขาว​กลุ่ม​ใหญ่​ออก​มาจาก​เสื้อผ้า​

หลังจาก​ระเหย​เสื้อผ้า​จน​แห้ง​ เขา​ไม่ได้​ไป​ตาม​ทิศทาง​เมื่อ​ก่อนหน้า​ หาก​แต่​วิ่ง​เต็ม​ฝีเท้า​ไป​ยังอีก​ทาง​หนึ่ง​

เสียง​ฝีเท้า​หนักอึ้ง​ดัง​ตึง​ ตัง​ กระทืบ​หลุม​ลึก​น่ากลัว​ที่​มีเส้นผ่าศูนย์กลาง​อลังการ​ขึ้น​มาบน​พื้น​หลาย​หลุม​

ลู่​เซิ่งสวม​เสื้อคลุม​เนื้อ​แข็งตัว​ใหญ่​ที่​เตรียม​ไว้​สำหรับ​ครั้งนี้​โดยเฉพาะ​ หลังจาก​กระโดด​ขึ้น​ เขา​ก็​จับ​ชาย​เสื้อคลุม​ แล้ว​ร่อน​ไป​ด้านหน้า​เหมือนกับ​เครื่องร่อน​เป็น​ระยะทาง​หนึ่ง​

นี่​เป็น​อุปกรณ์​อย่าง​ง่าย​ที่​ลู่​เซ่งประดิษฐ์​ขึ้น​ตามหลักการ​ของ​เครื่องร่อน​บน​โลก​ใบ​เดิม​

มัน​ช่วย​ประหยัด​แรง​ให้​เขา​ไป​ไม่น้อย​

เดินทาง​ด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​เป็น​ระยะทาง​ราว​สอง​สามร้อย​กง​ห​ลี่​ กระทั่ง​ไป​ถึงทะเล​กระดูก​ที่​แห้ง​กรัง​ ในที่สุด​ก็​ เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ใหม่​ขึ้น​

พายุ​สีเทา​กลุ่ม​ใหญ่​มากมาย​โผล่​ขึ้น​กลางอากาศ​โดยรอบ​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ก็​ไม่ทราบ​

พอ​ลู่​เซิ่งเข้าไป​ใน​พายุ​กลุ่ม​นี้​ ก็​สัมผัส​ได้​ทันที​ว่า​มีผง​พิษ​ที่​ทำให้​คน​เห็น​ภาพหลอน​และ​สลบไสล​แทรกตัว​อยู่​ด้านใน​

“พายุ​พิษ​หรือ​” เขา​อด​เร่งความเร็ว​ขึ้น​ไม่ได้​ ใช้เวลา​เกือบ​ครึ่ง​ชั่วโมง​ จคง​ตัดผ่าน​กระแส​อากาศ​สีเทา​กลุ่ม​นี้​ไป​ได้​

เดินทาง​อย่าง​เบื่อหน่าย​อีก​หนึ่ง​ชั่วโมง​กว่า​ ลู่​เซิ่งวางแผน​ว่า​หาก​ไม่เจอ​อะไร​ที่​มีค่า​อีก​ จะเตรียม​ติด​ตั้งค่าย​กล​กลับ​โลก​มาร​สวรรค์​

การ​อยู่​ที่นี่​เป็นการ​เสียเวลา​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

โผละ​!

อยู่​ๆ ไกล​ออก​ไป​ก็​มีเสียง​โผละ​ดัง​มาจาก​กอง​กระดูก​กลุ่ม​ใหญ่​ เสียง​นี้​ฟังดู​เหมือนกับ​ผ้าห่ม​ผืน​หนา​ถูก​กระแทก​กับ​พื้น​โคลน​แข็ง​

ตอนนี้​ใกล้​จะเย็น​แล้ว​ แสงจาก​ดวงอาทิตย์​ซีด​ขาว​ยาม​บ่าย​ก็​มืด​สลัว​ลง​เช่นกัน​

ลู่​เซิ่งเร่งฝีเท้า​เดินทาง​ต่อไป​ อุตส่าห์​เจอ​การเปลี่ยนแปลง​ใหม่​ทั้งที​ ย่อม​ต้อง​เร่งรุด​ไปดู​เสียหน่อย​

หลังจาก​ข้าม​เนิน​กระดูก​ผืน​หนึ่ง​ไป​ เขา​ก็ได้​เห็น​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ เสียง​ประหลาด​ที่​ดัง​โผละ​ๆ นั้น​ลอย​มาจาก​ไหน​

ด้านหน้า​เขา​มีภูเขา​กระดูก​สูงใหญ่​ที่​มีหมอก​สีขาว​อม​เทา​ลอย​วนเวียน​อยู่​กลุ่ม​หนึ่ง​

แมลงวัน​ขนาด​ยักษ์​นับไม่ถ้วน​เกาะ​บน​ภูเขา​ พวก​มัน​ยาว​หลาย​หมี่​ ตัว​ที่​ยาว​ที่สุด​ยาว​ถึงสิบ​กว่า​หมี่​

พวก​มัน​กระพือปีก​ช้าๆ เบียดเสียด​กัน​กลายเป็น​ก้อน​บน​ภูเขา​กระดูก​

มองดู​ไกลๆ​ ภูเขา​กระดูก​เหมือนกับ​มีแมลงวัน​เกาะ​อยู่​เต็มไปหมด​

ผง​พิษ​จำนวนมาก​กระจาย​ออกมา​จาก​ร่าง​ของ​แมลงวัน​เหล่านี้​ตลอดเวลา​ ผง​พิษ​ฟุ้งกระจาย​ออกมา​ แล้ว​ถูก​กระแส​อากาศ​สีเทา​ที่​ผ่าน​ทาง​มาพัด​ม้วน​ไป​

‘พิษ​ใน​สายลม​ก่อนหน้านี้​คง​มีที่มา​แบบนี้​ล่ะ​มั้ง’ ลู่​เซิ่งเข้าใกล้​อีก​นิด​ ไม่นาน​ก็​ค้นพบ​เบื้องหลัง​ของ​ภูเขา​กระดูก​ลูก​นี้​

ภูเขา​กระดูก​ข้างใต้​แมลงวัน​เหล่านี้​ไม่ใช่กระดูก​ธรรมดา​ทั่วไป​ หาก​แต่​เป็น​กระดูก​ของ​ยักษ์​ที่​แปลกประหลาด​ใน​สภาพ​สมบูรณ์​ที่​มีหาง​มากมาย​งอก​บน​หัว​

ยักษ์​ตัว​นี้​กึ่ง​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ หัว​ก้มลง​ ตรง​ท้ายทอย​มีรยางค์​ติด​อยู่​อย่าง​หนาแน่น​เหมือนกับ​หนวด​ปลาหมึก​ ระหว่าง​กระดูก​บน​ตัว​มีเยื่อ​บาง​ๆ สีขาว​อม​เทา​เชื่อม​ติด​อยู่​

ลู่​เซิ่งเข้าใกล้​ขึ้น​อีก​ อยู่​ๆ แมลงวัน​ส่วนหนึ่ง​พลัน​ตื่นตัว​ กระพือปีก​บินขึ้น​

พอ​พวก​มัน​บินขึ้น​ ลู่​เซิ่งค่อย​เห็นชัด​ว่า​ ส่วน​ท้อง​ของ​แมลงวัน​ทุก​ตัว​มีรัง​ไหม​ขนาดใหญ่​สีขาว​อม​เทา​พัน​อยู่​ มนุษย์​ที่​มีขนาด​ตัว​ต่างกัน​จำนวนมาก​ขดตัว​อยู่​ด้านใน​

รัง​ไหม​เหล่านี้​ถูก​เส้นสาย​ที่​เหมือนกับ​ใยแมงมุม​พัน​ติด​ไว้​กับ​ส่วน​ท้อง​ของ​แมลงวัน​ คน​ทุก​คนใน​รัง​ไหม​ทำ​หน้า​ ทำตา​เจ็บปวด​พิกล​

แมลงวัน​มีมากมาย​ชนิด​มืดฟ้ามัวดิน​ แทบจะ​บดบัง​แสงบน​ท้องฟ้า​ไว้​มิด​ขณะ​บิน​เข้าหา​ลู่​เซิ่งอย่าง​รวดเร็ว​

ลู่​เซิ่งพลิก​มือ​หยิบ​กระดูก​หลาย​ท่อน​บน​พื้น​ขึ้น​มา แล้ว​ระเบิด​พลัง​กล้ามเนื้อ​ทั่ว​ร่าง​อย่าง​ฉับพลัน​ กระดูก​ใน​มือ​หมุน​ควง​ออก​ไป​ดัง​ฟ้าว​

โผละ​ๆๆ!

กระดูก​หลาย​ท่อน​เจาะทะลุ​แมลงวัน​ยักษ์​สามตัว​ ทำให้​พวก​มัน​กลายเป็น​เนื้อ​สับ​กลุ่ม​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งกระทืบเท้า​ใส่พื้น​อย่าง​รุนแรง​

เปรี้ยง​!

เศษกระดูก​จำนวนมาก​ถูก​พละกำลัง​อัน​มหาศาล​กระแทก​ให้​ลอย​ขึ้น​มา จากนั้น​ลู่​เซิ่งต่อย​ใส่กระดูก​ ชิ้นส่วน​พลัน​กระจัดกระจาย​

เศษกระดูก​พุ่ง​ใส่แมลงวัน​บน​ท้องฟ้า​ราวกับ​ห่า​ฝน​อาวุธ​ลับ​ ฆ่าล้าง​พวก​มัน​ไป​มากมาย​

ของ​สีขาว​อม​เทา​จำนวนมาก​กระจาย​ลงมา​ดุจ​ห่า​ฝน​ กัดกร่อน​กระดูก​ด้านล่าง​เป็น​รู​ขนาด​ต่างๆ​

ลู่​เซิ่งฆ่าแมลงวัน​กลุ่ม​ใหญ่​ทั่ว​ท้องฟ้า​โดย​ใช้วิธี​เดิม​สามครั้ง​

เขา​หลบเลี่ยง​อากาศ​ที่​มีผง​พิษ​ กระโดด​ขึ้น​ แล้ว​ยืม​แรง​ตรง​ช่องว่าง​ ไม่นาน​ก็​ไป​ถึงบน​ภูเขา​กระดูก​สูงใหญ่​ที่​เดิม​มีแมลงวัน​เกาะ​อยู่​เต็มไปหมด​ลูก​นั้น​

ลู่​เซิ่งกระทืบเท้า​ พื้น​ส่งเสียง​ทึบ​หนัก​ราวกับ​จับต้อง​ได้​

‘ภูเขา​กระดูก​ลูก​นี่​ทนทาน​ดี​จริงๆ​’

เดิน​ขึ้น​ภูเขา​กระดูก​ได้​สอง​สามก้าว​ ไม่นาน​ลู่​เซิ่งก็​ค้นพบ​โลหะ​ก้อน​หนึ่ง​ที่​ลักษณะ​เหมือนกับ​หีบ​อยู่​บน​ส่วน​ยอด​สุด​

รอย​สนิม​จาก​การ​กัดกร่อน​กระจาย​เต็ม​ผิว​หีบ​ ตรง​ปาก​หีบ​สลัก​ลาย​มนุษย์​มีปีก​ทำ​มาจาก​เงิน​ มอง​ไปมา​เหมือนกับ​นักโทษ​ที่​ได้รับ​ความ​ทรมาน​อย่าง​แสน​สาหัส​ ร้อย​โซ่ตรวน​ประดับ​หัวกะโหลก​ไว้​บน​ตัว​

ลู่​เซิ่งยืน​อยู่​บน​หีบ​ เงยหน้า​มอง​รอบข้าง​ยังคง​มีทะเล​กระดูก​เปล่าเปลี่ยว​ไร้​สิ้นสุด​

‘คง​ค้นหา​ที่นี่​ให้​เสร็จ​ใน​เวลา​สั้น​ๆ ไม่ได้​…น่าเสียดาย​’ เหลือ​เวลา​ไม่มาก​ เขา​เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​มานาน​แล้ว​ ใน​เมื่อ​ตอนนี้​หา​พลัง​อาวรณ์​ไม่เจอ​และ​สะสางผลกรรม​ความปรารถนา​เสร็จ​แล้ว​ เขา​ก็​ควร​กาง​ค่าย​กล​ย้อนกลับ​สักที​ อยู่​ที่นี่​ต่อไป​ก็​มีแต่​จะเสียเวลา​เปล่า​

ลู่​เซิ่งยื่นมือ​ไป​จับ​ขอบ​หีบ​ก่อน​จะออกแรง​กระชาก​

โครม​

ฝาหีบ​ถูก​ดึง​เปิด​ เผย​ให้​เห็น​สิ่งของ​ข้างใน​

ตรีศูล​สีโลหะ​งามประณีต​เล่ม​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​ผ้า​กำมะหยี่​สีดำ​

ตรีศูล​เล่ม​นี้​ยาว​เท่ากับ​มีดสั้น​หรือไม่​ก็​หนาม​สั้น​ๆ มากกว่า​ ขนาด​เท่า​ฝ่ามือ​ ฝังเศษเพชร​ ทับทิม​ และ​ไพลิน​เอาไว้​เต็ม​ด้ามจับ​ ดู​ระยิบระยับ​พร้อมทั้ง​ขี้เหร่​ไม่น่าดู​ในเวลาเดียวกัน​

ส่วน​อื่นๆ​ เช่น​ส่วน​คม​สลัก​ลวดลาย​ที่​เหมือนกับ​เถาวัลย์​อัน​ประณีต​ไว้​ เพิ่ม​ความลึกลับ​ให้​กับ​อาวุธ​ชิ้น​นี้​ไม่น้อย​

‘ด้านล่าง​เหมือน​จะมีของ​อยู่​อีก​’ ลู่​เซิ่งหยิบ​ตรีศูล​ขึ้น​มาสัมผัส​ดู​ นี่​เป็น​เพียง​อาวุธ​ธรรมดา​เล่ม​หนึ่ง​ บางที​ใน​อดีต​อาจจะ​มีร่องรอย​พลัง​งานพิเศษ​อ่อน​ๆ เหลืออยู่​ แต่​ตอนนี้​ด้วย​วัน​เวลา​อัน​ยาวนาน​ทำให้​มัน​สูญเสีย​อานุภาพ​ดั้งเดิม​จน​กลายเป็น​อาวุธ​ที่​ธรรมดา​สามัญถึงขีดสุด​ชิ้น​หนึ่ง​เท่านั้น​

ลู่​เซิ่งยื่นมือ​ไป​หยิบ​ผ้า​กำมะหยี่​สีดำ​ออก​มาจาก​ใน​หีบ​ พลัน​เห็น​สมุด​เล่ม​เล็ก​ที่​ถูก​บัง​อยู่​ข้างใต้​

เขา​เอื้อมมือ​ไป​หยิบ​สมุด​ขึ้น​มา สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​สมุด​เล่ม​นี้​ไม่ได้​เย็บ​จาก​กระดาษ​ เหมือน​จะใช้หนัง​ของ​สิ่งมีชีวิต​บาง​ชนิด​ทำ​ขึ้น​มากกว่า​

กระดาษ​อ่อนนุ่ม​เรียบ​ลื่น​ ให้​ความรู้สึก​เหนียวหนึบ​หนับ​เหมือน​กระดาษ​หนัง​

บน​กระดาษ​เขียน​อักขระ​ตัวอักษร​เหมือน​ลายมือ​ไก่เขี่ย​ไว้​มากมาย​ ลู่​เซิ่งอ่านไม่ออก​สัก​นิดเดียว​ จึงโยน​มัน​เข้าไป​เก็บ​ใน​ไข่มุก​กลืน​สมุทร​ก่อน​ หลังจาก​กลับ​ไป​โลก​มาร​สวรรค์​ หาก​มีเวลาว่าง​ค่อย​เอา​มาแปล​ดู​

หีบ​ว่างเปล่า​แล้ว​ และ​เขา​ก็​ไม่มีอารมณ์​จะผลาญ​เวลา​อยู่​ที่นี่​อีก​

เขา​จึงหยิบ​วัตถุดิบ​ค่าย​กล​ออก​มาจาก​ไข่มุก​กลืน​สมุทร​ แล้ว​เริ่ม​กาง​ค่าย​กล​อย่าง​ง่าย​เหนือ​ยอด​ภูเขา​กระดูก​ลูก​นี้​

ผลึก​สีดำ​หลาย​แท่ง​ปัก​ลึก​เข้าไป​ใน​ผิว​ภูเขา​กระดูก​อย่าง​ต่อเนื่อง​ตาม​การเคลื่อนไหว​ของ​ลู่​เซิ่ง ไม่นาน​ก็​ประกอบ​กัน​เป็น​ค่าย​กล​ลวงตา​ง่ายๆ​

เมื่อ​มีการ​อำพราง​จาก​ค่าย​กล​คอย​ปกป้อง​ เขา​จึงค่อย​วาด​ค่าย​กล​ย้อนกลับ​ที่​แท้จริง​

ค่าย​กล​สำหรับ​ย้อนกลับ​ถูก​แบ่ง​ออก​เป็น​ชิ้นส่วน​จำนวนมาก​ภายใต้​การพัฒนา​ของ​บัน​ไซ เขา​เพียง​จำเป็นต้อง​วาด​ชิ้นส่วน​พวก​นี้​เป็น​ลวดลาย​ก็​พอ​

มีประสิทธิผล​เพิ่มขึ้น​กว่า​ก่อนหน้านี้​ไม่ต่ำกว่า​หนึ่ง​เท่าตัว​

นี่​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​ลู่​เซิ่งให้ความสำคัญ​กับ​บัน​ไซเป็น​อย่างยิ่ง​

ผ่าน​ไป​ราว​ครึ่ง​ชั่วโมง​ ค่าย​กล​ถูก​ติดตั้ง​จน​เสร็จ​ ลู่​เซิ่งปัก​ผลึก​สีดำ​แท่ง​หนึ่ง​ลงพื้น​เป็น​ชิ้น​สุดท้าย​ เพื่อ​ประกอบ​แหล่ง​ป้อน​พลังงาน​แหล่ง​สุดท้าย​ให้​แก่​ค่าย​กล​

ต่อมา​เขา​ก็​ค่อย​ถอนใจ​และ​ตรวจสอบ​โดยรอบ​อีกครั้ง​

ตอนนี้​ศพ​แมลง​วันที่​เขา​ฆ่าไป​เมื่อ​ครู่​ถูก​ตาข่าย​สีขาว​อม​เทา​ปกคลุม​ไว้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ก็​ไม่ทราบ​ ตาข่าย​เหล่านี้​กลายเป็น​สิ่งของ​ที่​เหมือนกับ​เยื่อ​กั้น​คลุม​ศพ​เอาไว้​อย่าง​สมบูรณ์​

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะอะไร​ ลู่​เซิ่งถึงสัมผัส​ได้​ว่า​ศพ​เหล่านี้​เหมือน​จะหด​เล็ก​ลง​ส่วนหนึ่ง​

‘เหมือน​กำลังจะ​จางหาย​ไป​…’ เขา​อด​นึก​เชื่อมโยง​ถึงห้วง​อเวจี​ไม่ได้​ ร่าง​ชีวิต​ที่​ยิ่งใหญ่​ขนาด​นั้น​จะทำให้​ชีวิต​ที่​ตาย​อยู่​ใน​ร่าง​ตัวเอง​หาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​เหมือนกัน​

‘ช่างเถอะ​ อย่า​เพิ่ง​ไป​สนใจ​’

ลู่​เซิ่งนั่งขัดสมาธิ​อยู่​กลาง​ค่าย​กล​ เขา​ทิ้ง​แผน​สำรอง​ไว้​ที่​แท่น​น้ำค้าง​คราม​แล้ว​ ต่อให้​ไม่อยู่​ เหล่า​บริวาร​ที่​ได้รับ​อิทธิพล​จาก​เสน่ห์​ของ​เขา​ก็​จะปกป้อง​ผัง​หยวน​จวิน​กับ​ถังชิงชิงสุดกำลัง​ต่อไป​

ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ตอนนี้​ที่​เขา​ยัง​เพิ่ม​แผนการ​ลับ​ไว้​อีก​มากมาย​ ขอ​แค่​แท่น​น้ำค้าง​คราม​ไม่เกิด​ปัญหา​ พวก​มัน​ก็​จะไม่ทำงาน​

ก่อนที่จะ​เข้าสู่​โลก​สีเทา​ เขา​สัมผัส​ได้​อย่าง​ประหลาดใจ​ว่า​ใน​ท้อง​ของ​ถังชิงชิงมีกลิ่นอาย​ชีวิต​ใหม่​ จาก​การประเมิน​ขั้นต้น​ เป็นไป​ได้มา​กว่า​จะเป็น​ฝาแฝด​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท