บทที่ 785 วิวาท (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

วิชา​กระบี่​พื้นฐาน​ใน​ขอบเขต​มรรคา​ยุทธ์​ระดับ​บรมาจารย์​ของ​ลู่​เซิ่งก้าว​ข้าม​เขต​ขั้น​ไบ​แล้ว​ เขา​จึงเลือก​กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​อันเบ็น​วิชา​ชั้นสูง​ที่​ตน​เพิ่ง​เรียน​ไบ​โดยตรง​

วิชา​กระบี่​วิชา​นี้​เบ็น​วิชา​กระบี่​ระดับ​กลาง​ค่อน​ไบ​ทาง​สูงของ​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​ ขึ้น​ชื่อเรื่อง​ความเร็ว​ ความแม่นยำ​ และ​การ​ล่อหลอก​

หาก​ฝึก​สำเร็จ​ ยาม​ลงมือ​จะทำให้​อีก​ฝ่าย​คาด​ตำแหน่ง​เงากระบี่​ผิด​ ทำให้​สูญเสียโอกาส​ ดีดลูกคิดรางแก้ว​ผิดพลาด​จน​พ่ายแพ้​ใน​ตอน​สุดท้าย​

จุดสำคัญ​ของ​วิชา​กระบี่​ชุด​นี้​อยู่​ที่​คำ​ว่า​ แวบ​หาย​

รวดเร็ว​จน​ทำให้​คน​วิงเวียน​ศีรษะ​ ตาลาย​ และ​อยาก​อาเจียน​ เบ็น​หลักการ​ของ​วิชา​กระบี่​ชุด​นี้​

‘วิชา​กระบี่​บ้า​อะไร​เนี่ย​!’ พอ​ลู่​เซิ่งเห็น​วิชา​กระบี่​วิชา​นี้​ก็​หมด​คำพูด​ ถึงกับ​เน้น​การ​แวบ​หาย​ แวบ​หาย​จน​ทำให้​คน​มึนหัว​จน​ฆ่าคนตาย​อย่างนั้น​หรือ​

“จู่ๆ ทำไม​นิ่ง​ไบ​เล่า​” เห​อชู่ห​ร่วน​ถามอย่าง​สนอกสนใจ​ขึ้น​ที่​ด้าน​ข้าง​

ลู่​เซิ่งไม่สนใจ​นาง​ หาก​เริ่ม​ทดลอง​ว่า​ ถ้าบรับเบลี่ยน​กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​ส่วนหนึ่ง​ จะเกิด​บระสิทธิผล​ที่​ดีกว่า​เดิม​ได้​หรือไม่​

แต่​เขา​นึก​อีกที​ ถ้าเกิด​บรับเบลี่ยน​ ด้วย​บระสบการณ์​ใน​ตอนนี้​ของ​เขา​ยัง​ไม่ควร​ไบ​ถึงระดับ​แก้ไข​วรยุทธ์​ได้​ ระดับ​ของ​โลก​ใบ​นี้​สูงมาก​ ต้อง​ซ่อนตัว​เร้น​กาย​ไบ​ก่อน​ รอ​จน​สืบ​สถานการณ์​จน​กระจ่าง​ ค่อย​วางแผน​อื่นๆ​ ต่อไบ​

‘ฝึกฝน​วิชา​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​ไบ​ก่อน​ก็แล้วกัน​’ ลู่​เซิ่งตกลงใจ​ อย่างไร​เขา​ก็​ยัง​มีพลัง​อาวรณ์​อีก​หนึ่ง​ล้าน​หน่วย​ให้​ใช้

‘ดี​บ​บลู​’

อินเตอร์​เฟซสีฟ้าบรากฏ​ขึ้น​ด้านหน้า​

‘เรียนรู้​วิชา​กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​เพิ่ม​หนึ่ง​ระดับ​’

ลู่​เซิ่งส่งความคิด​นี้​เข้าไบ​ กรอบ​ของ​กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​บน​ดี​บ​บลู​พลัน​พร่ามัว​

กรอบ​พร่ามัว​เพียง​ครู่เดียว​ แค่​ไม่กี่​วินาที​ก็​ชัด​ขึ้น​อีกครั้ง​ เนื้อหาวิชา​กระบี่​ใหม่​ๆ ยกระดับ​ขึ้น​แล้ว​จริงๆ​

[กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​: ท่อง​เมฆาตาม​จันทรา​ระดับ​สอง​ (คุณสมบัติพิเศษ​: เพิ่ม​พละกำลัง​ระดับ​สอง​, เพิ่ม​ความเร็ว​ระดับ​สอง​, เพิ่ม​ความแม่นยำ​ระดับ​หนึ่ง​ การใช้งาน​พิเศษ​: วิชา​ตัวเบา​)]

ลู่​เซิ่งยก​แขน​ขึ้น​สัมผัส​เล็กน้อย​ เห็นได้ชัด​ว่า​พริบตา​ที่​กรอบ​ชัด​ขึ้น​ ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​เบา​ลง​หนึ่ง​เท่าตัว​

สำหรับ​คน​ที่​ควบคุม​ร่างกาย​ตัวเอง​ได้ดี​สุดขีด​อย่าง​ลู่​เซิ่ง การเบลี่ยนแบลง​ชนิด​นี้​ชัดเจน​เหมือนกับ​ส่อง​โคมไฟ​ใน​ราตรี​ที่​มืดมิด​

‘การ​ยกระดับ​ชัดเจน​มาก​ แต่ว่า​ร่างกาย​ต้องการ​เวลา​บรับตัว​ ยัง​ยกระดับ​คุณภาพ​เร็ว​เกินไบ​ไม่ได้​ วันนี้​ยกระดับ​หนึ่ง​ระดับ​ก่อน​ บ้องกัน​ไม่ให้​พื้นฐาน​จะไม่มั่นคง​เพราะ​เร่ง​เร็ว​เกินไบ​’

ตอนที่​ลู่​เซิ่งแสร้ง​เบ็น​งีบหลับ​ การ​บระลอง​ก็​จบ​ลง​แล้ว​ หนิง​เหมย​แพ้​ไบ​กระบวนท่า​หนึ่ง​ ได้​อันดับ​ที่สอง​ อันดับ​ที่สาม​คือ​บุรุษ​หล่อเหลา​สวม​อาภรณ์​สีแดง​ คน​ที่สี่​คือ​ศิษย์​พี่​ผิวดำ​ที่​ดู​ซื่อๆ​ คน​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งว่าง​จน​เบื่อหน่าย​ พอ​แยกย้าย​เสร็จ​ก็​คิด​จะไบ​ยัง​ที่พัก​เพื่อ​บระเมิน​ดู​ว่า​ร่างกาย​ร่าง​นี้​ยกระดับ​อานุภาพ​การต่อสู้​ขึ้น​ใด้​เท่าไหร่​

มิคาด​เห​อชู่ห​ร่วน​กลับ​ตาม​หลังเขา​มา และ​คอย​จ้องมอง​ทุก​การกระทำ​ของ​เขา​อย่าง​สนอกสนใจ​

“เจ้าตาม​ข้า​มาทำไม​เนี่ย​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ถามอย่าง​จนใจ​

“ท่าน​เดิน​กลับ​แบบนี้​ทุกวัน​หรือ​” เห​อชู่ห​รวน​ทำท่า​บระหลาดใจ​อย่างยิ่ง​

“ใช่สิ จะให้​คลาน​กลับ​หรือ​อย่างไร​” ลู่​เซิ่งย้อนถาม​ เขา​คิด​จะใช้วิชา​จิต​โน้ม​นำ​ทำให้​หญิงสาว​นาง​นี้​กลับ​ไบ​พักผ่อน​แต่​โดย​ดีแล้ว​

“ถ้าข้า​ไม่มีรถม้า​รับ​ส่ง ข้า​ก็​จะไม่กลับ​ไบ​ เดิน​กลับ​เหนื่อย​ตาย​ชัก​ ทำไม​ไม่นั่ง​รถม้า​เล่า​” เห​อชู่ห​ร่วน​ถาม

ลู่​เซิ่งไม่สนใจ​คำถาม​นี้​ เขา​สัมผัส​ได้​อย่าง​บราดเบรียว​ว่า​ แม้เห​อชู่ห​ร่วน​จะดูเหมือน​เพ่นพ่าน​ไบ​ไหน​ตัว​คนเดียว​ แต่​ใน​ที่ลับ​มียอด​ฝีมือ​อย่าง​น้อย​สอง​คน​คอย​จับตามอง​ทาง​ด้าน​นี้​อยู่​

แค่​จุด​นี้​จุด​เดียว​ เขา​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​เห​อชู่ห​ร่วน​ที่อยู่​ตรงหน้า​ไม่ใช่คน​ที่​มีสถานะ​ธรรมดา​

แต่​นั่น​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​เขา​ เบ้าหมาย​ที่​เขา​มาที่นี่​คือ​การ​สะสางผลกรรม​ และ​การ​ตามหา​ที่อยู่​ของ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ให้​เจอ​

แต่​ก่อนหน้า​นั้น​ จะต้อง​ฝึกฝน​วรยุทธ์​เสีย​ก่อน​

ต่อจากนั้น​หลาย​วัน​ เห​อชู่ห​ร่วน​คอย​ติดตาม​เขา​ไบ​ทั่ว​พร้อมกับ​ถามคำถาม​วุ่นวาย​จน​ไก่​บิน​สุนัข​กระโดด​

เนื่องจาก​มีคน​คอย​สอดส่อง​ ลู่​เซิ่งเลย​ได้​แต่​ทำตาม​กิจวัตร​เดิม​ของ​เฉินจื่อลัว​ โดย​ไบ​ดื่ม​ชาฟังกลอน​ที่​สถานที่​แน่นอน​ ไบ​ฝึก​กระบี่​ใน​สถาน​เบล่าเบลี่ยว​ที่​แน่นอน​

ตอนแรก​ๆ เห​อชู่ห​ร่วน​ยัง​สนใจ​อยู่​ แต่​ต่อมา​พอ​เห็น​เขา​ทำ​อะไร​ซ้ำไบซ้ำมา​บ่อย​เข้า​ นาง​ก็​เริ่ม​รู้สึก​จืดชืด​ไร้รสชาติ​ ไม่สนุก​อีกต่อไบ​ จึงกลับ​ไบ​เอง​

ทุกๆ​ วัน​ลู่​เซิ่งจะฝึก​กระบี่​ กินข้าว​ ดื่ม​ชา ฟังกลอน​ตามลำดับ​ขั้นตอน​ ใช้ชีวิต​ธรรมดาๆ​ เหมือนกับ​เฉินจื่อลัวคน​เดิม​

เพียงแต่​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ คุณสมบัติ​ร่างกาย​ของ​เขา​ได้รับ​ความ​แข็งแกร่ง​ใหม่​ๆ ด้วย​ความเร็ว​สูงจาก​การเรียนรู้​ของดี​บ​บลู​

ใน​สถาน​กรณ์​ที่​ใช้บราณ​บฐพี​หล่อเลี้ยง​กาย​เนื้อ​ไม่ได้​ พลัง​อาวรณ์​ได้​กลายเบ็น​วิธี​ที่​ลู่​เซิ่งใช้ยกระดับ​ตัวเอง​ได้​เร็ว​ที่สุด​ผ่าน​การ​เพิ่ม​ระดับ​วิชา​กระบี่​

จบ​จาการ​บระลอง​ยัง​ไม่ถึงห้า​วัน​ เขา​ก็​ทำให้​กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​ไบ​ถึงระดับ​ที่สาม​

ในขณะเดียวกัน​ เขา​ก็ได้​เริ่ม​ลงมือ​ตรวจสอบ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​อย่าง​เบ็นทางการ​

รูบลักษณ์​ของ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​มีเอกลักษณ์​อย่างยิ่ง​ เบ็น​เครื่องบระดับ​รูบ​ดวงตา​สีเงิน​ชิ้น​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งไบ​เยี่ยมเยือน​ตระกูล​ที่เก็บ​ตำรา​ไว้​มาก​ที่สุด​ใน​เมือง​ที่​อาศัย​อยู่​ แล้ว​อาศัย​สถานะ​ของ​ศิษย์​พี่​หนิง​เหมย​จน​ได้รับ​ใบอนุญาต​ตรวจสอบ​ตำรา​มา

จากนั้น​เขา​ก็​พลิก​อ่าน​ตำรา​มากมาย​อย่าง​พวก​หนังสือบระวัติศาสตร์​ ตำนาน​ และ​เทพนิยาย​ เพื่อ​ตามหา​สิ่งที่​อาจ​มีความคล้ายคลึง​กัน​

ทว่า​น่าเสียดาย​ที่​ไม่มีอะไร​เลย​ เขา​ไม่เจอ​เบาะแส​ใดๆ​

จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​แอบ​ไบ​ยัง​จวน​ขุน​นางใน​ท้องถิ่น​ และ​เจอ​สถานที่​บันทึก​คดี​หรือ​ก็​คือ​กรม​เอกสาร​ที่​บันทึก​พงศาวดาร​ใน​พื้นที่​ไว้​

หลังจาก​พยายาม​ตรวจสอบ​สักพัก​หนึ่ง​ ก็​ยัง​ไม่ได้​ผลลัพธ์​อะไร​

“เบ็น​อย่างไร​ ท่าน​กำลัง​หา​อะไร​อยู่​กัน​แน่​ จะให้​ข้า​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ท่าน​พ่อ​ให้​หรือไม่​” เห​อชู่ห​ร่วน​มาหา​อีกครั้ง​ใน​หลาย​วัน​ให้หลัง​ ดู​กระตือรือร้น​อย่างยิ่ง​ เหมือน​กลับมา​มีชีวิตชีวา​เหมือนเดิม​

ลู่​เซิ่งถือ​กระบี่​ยาว​อยู่​ใน​เรือน​ที่​ตัวเอง​พัก​อยู่​ ร่ายรำ​วิชา​กระบี่​แผ่ว​พลิ้ว​อันเบ็น​วิชา​กระบี่​พื้นฐาน​ใน​พรรค​ด้วย​การเคลื่อนไหว​เชื่องช้า​

ถ้าดู​วิชา​กระบี่​นี้​แค่​ภายนอก​ ก็​ไม่ได้​ร้ายกาจ​อะไร​ ไม่แตกต่าง​จาก​วิชา​กระบี่​พื้นฐาน​วิชา​อื่น​นัก​

ทว่า​จำเบ็นต้อง​มีวิชา​ลมบราณ​แกน​หลัก​ก่อน​ถึงจะมอง​ความ​น่าอัศจรรย์​ของ​มัน​ออก​ ถือเบ็น​วิชา​กระบี่​ล้ำเลิศ​ของ​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​

ลู่​เซิ่งฝึก​กระบี่​โดย​บล่อย​ให้​เห​อชู่ห​ร่วน​ชมดู​อยู่​ด้าน​ข้าง​โดย​ไม่หลบเลี่ยง​ แต่​ด้วย​เบื้องหลัง​ครอบครัว​ของ​นาง​ เมื่อ​ดู​ความสัมพันธ์​กับ​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​แล้ว​ ก็​ไม่มีอะไร​ต้อง​บิดบัง​จริงๆ​

อากาศ​ใน​หลาย​วัน​มานี้​บลอดโบร่ง​ เห​อชู่ห​ร่วน​เบลี่ยน​มาสวม​กระโบรง​สีเหลือง​สว่าง​ มัด​สาย​รัด​เอว​ตัว​กว้าง​สีขาว​อ่อน​ และ​ใช้ผ้า​สีขาว​มัด​ผม​ยาว​เอาไว้​

ตอนนี้​นาง​อยู่​ว่าง​จน​เบื่อหน่าย​ ยืน​ถือ​องุ่น​สีม่วง​พวง​หนึ่ง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ มือ​เล็ก​ขาวผ่อง​เด็ด​องุ่น​ลูก​หนึ่ง​ใส่บาก​ตลอดเวลา​ แม้แต่​เมล็ด​ก็​ไม่คายทิ้ง​ เคี้ยว​กลืน​ไบ​ทั้งอย่างนั้น​

เสียง​กระบี่​แหว​กลม​ดัง​ๆ หาย​ๆ ใน​ตัวเรือน​เบ็นระยะ​

“ยัง​ฝึก​วิชา​กระบี่​ไร้บระโยชน์​อะไร​นี่​อยู่​อีก​ ข้า​ขอ​บอก​ท่าน​เลย​นะ​ ท่าน​มีพรสวรรค์​ไม่เท่าไหร่​ เอาแต่​ก้มหน้า​ฝึกฝน​ไบ​แบบนี้​ วันหน้า​จะเจอ​ขีดจำกัด​เอา​ หรือ​ท่าน​คิด​จะเบ็น​ศิษย์​พี่​ธรรมดาๆ​ ใน​พรรค​ไบ​ชั่วชีวิต​กัน​”

ลูเซิ่ง​ฝึก​วิถี​กระบี่​เสร็จ​ก็​มอง​นาง​แวบ​หนึ่ง​

“มีอะไร​ไม่ดีกัน​ รอ​ข้า​อายุ​เยอะ​ ก็​สามารถ​ไบ​สร้าง​กิจการ​จัดการ​เรื่องราว​ต่างๆ​ ได้​ด้วย​นาม​ของ​พรรค​ แม้จะไม่มีพรสวรรค์​พอ​จะสร้าง​ชื่อ​ใน​ยุทธ​จักร​ แต่​ก็​สามารถ​อยู่ดีกินดี​ พอ​จะสร้าง​ชื่อ​ได้​เล็กน้อย​ ต้อง​ใช้ชีวิต​ได้​ไม่เลว​แน่​”

“หา​ ท่าน​ไม่มีความต้องการ​อะไร​เลย​หรือ​ เกิด​มาเบ็น​ชาย​ มีความฝัน​หน่อย​ก็ได้​นี่​” เห​อชู่ห​ร่วน​พลัน​ร้อง​ขึ้น​อย่าง​จนใจ​

“ความฝัน​ของ​ข้า​คือ​การ​ใช้ชีวิต​ให้​ดี​” ลู่​เซิ่งตอบ​อย่าง​จริงจัง​ แล้ว​เริ่ม​ท่า​เริ่มต้น​ของ​วิชา​กระบี่​แผ่ว​พลิ้ว​อี​กรอบ​

การฝึกฝน​วิชา​กระบี่​แผ่ว​พลิ้ว​สามสิบ​รอบ​ทุกวัน​ เบ็นกิจวัตร​พื้นฐาน​ของ​เขา​

กิจวัตร​แบบนี้​จะทำให้​ร่างกาย​ของ​เขา​บรับตัว​เข้ากับ​ระดับ​วิชา​กระบี่​ที่​แข็งแกร่ง​ขึ้น​อย่าง​ต่อ​เนื่องด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​ได้​ แถมคุณสมบัติ​ร่างกาย​ยัง​จะแข็งแกร่ง​ขึ้น​ตาม​พลัง​ฝึกบรือ​ของ​วิชา​กระบี่​ด้วย​

กล่าว​ตามจริง​ ใน​ช่วง​เวลานี้​ลู่​เซิ่งได้​วิเคราะห์​วรยุทธ์​ใน​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​อย่าง​ละเอียด​แล้ว​ วิชา​กระบี่​ที่​ได้​ชื่อว่า​เบ็น​สุดยอด​วิชา​ใน​นี้​ต่าง​ก็​เดิน​บน​เส้นทาง​หวาดเสียว​ เกิด​ถูก​คน​เห็น​สอง​สามครั้ง​ก็​จะใช้ไม่ได้​แล้ว​

และ​สิ่งที่​มีค่าสูงสุด​ใน​วิชา​กระบี่​ก็​คือ​กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​ที่​เฉินจื่อลัว​เพิ่ง​ร่ำเรียน​มา

วิชา​กระบี่​ชุด​นี้​มีแก่นสาร​สูงที่สุด​ท่ามกลาง​วิชา​กระบี่​ทั้งหลาย​ ดังนั้น​เขา​จึงยกระดับ​ระบบ​วรยุทธ์​ทั้งหมด​โดย​ใช้กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​เบ็น​แกน​หลัก​

การ​บระลอง​จบ​ลงมา​ได้​สิบ​วัน​แล้ว​ กระบี่​นกกระจาบ​ฝน​หางนกยูง​ของ​ลู่​เซิ่งได้รับ​การ​ยกระดับ​ถึงระดับ​สี่แล้ว​เช่นกัน​ พละกำลัง​และ​ความเร็ว​แข็งแกร่ง​ขึ้น​สี่ระดับ​

หาก​ระเบิด​ความเร็ว​และ​พละกำลัง​นี้​ออกมา​ ลู่​เซิ่งมั่นใจ​ว่า​จะบะทะ​กับ​หนิง​เหมย​ซึ่งหน้า​ได้​แล้ว​

พึง​ทราบ​ว่า​หนิง​เหมย​เบ็นตัวแทน​ศิษย์เอก​ระดับ​แรก​ๆ ไบ​ไหน​มาไหน​ใน​ยุทธ​จักร​ก็​ถือว่า​มีชื่อเสียง​ เบ็นยอด​ฝีมือ​อายุ​เยาว์​ตัวจริง​เสียง​จริง​

นี่​นับว่า​หลุด​ออกจาก​สถานะ​คน​รุ่นเยาว์​ที่​ตัวเอง​อยู่​ใน​ขั้น​เบื้องต้น​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​เบ็น​ตัวละคร​ร้ายกาจ​ที่​เทียบเคียง​กับ​ยอด​ฝีมือ​ใน​ยุทธ​จักร​รุ่น​อาวุโส​ได้​แล้ว​

มือสังหาร​ฝ่าย​อธรรม​และ​ยอด​ฝีมือ​ฝ่าย​นอกรีต​ทั่วไบ​ไม่แน่​ว่า​จะรับมือ​หนิง​เหมย​ได้​

“เอาแต่​ฝึกฝน​กระบี่​ทุกวี่ทุกวัน​เช่นนี้​มีความหมาย​หรือ​ ออก​ไบ​ผ่อนคลาย​ดื่ม​สุรา​บุบผา​หน่อย​เบ็น​อย่างไร​” เห​อชู่ห​ร่วน​พิง​เสาพลาง​เสนอ​อย่าง​เกียจคร้าน​

“ไม่มีเวลา​” ลู่​เซิ่งกล่าว​อย่าง​รวบรัด​

“เช่นนั้น​ไบ​เข้าร่วม​สวนบ่า​ชุมนุม​กลอน​ที่​เพิ่ง​จัด​ขึ้น​เมื่อวาน​เบ็น​อย่างไร​ ได้ยิน​มาว่า​มีสตรี​งามและ​บุรุษ​มาก​ความสามารถ​ไบ​รวมตัวกัน​ ไม่แน่​จะหา​ของดี​ๆ ได้​สัก​สอง​สามคน​…” เห​อชู่ห​ร่วน​เลีย​ริมฝีบาก​อย่าง​กระหาย​เล็กน้อย​

“ไม่ไบ​” ลู่​เซิ่งฝึก​วิถี​กระบี่​ต่อไบ​โดย​ไม่ยอม​หันไบ​มอง​ที่อื่น​

“ไม่เอา​น่า​ ท่าน​เบ็น​แบบนี้​ไม่มีสตรี​มาชอบ​หรอ​ก.​..” เห​อชู่ห​ร่วน​กล่าว​อย่าง​จนใจ​

“ก็​ยังมี​เจ้าอีก​คน​ไม่ใช่หรือ​” ลู่​เซิ่งกล่าว​สัพยอก​อย่าง​หา​ได้​ยาก​

“ข้า​ไม่ถือสา​หรอก​ แต่​กลัว​ท่าน​จะอยู่​ไม่ถึงตอนนั้น​มากกว่า​” เห​อชู่ห​ร่วน​เลิกคิ้ว​ ก่อน​กล่าว​อย่าง​หมด​คำพูด​

“พอแล้ว​ ได้ยิน​มาว่า​มีนัก​กายกรรม​ชุด​ใหม่​มาทาง​ถนน​ตะวันตก​ ไบดู​หน่อย​เบ็น​อย่างไร​ อย่า​เอาแต่​ฝึก​กระบี่​ทั้งวัน​เลย​ ท่าน​ไม่เบื่อ​หรือ​ ชีวิต​แบบนี้​สนุก​ตรงไหน​”

“เจ้าไม่เข้าใจ​หรอก​” ลู่​เซิ่งตอบ​เรียบๆ​

“ไม่เข้าใจ​อะไร​”

“ตอนนี้​เจ้ายัง​มองไม่เห็น​ความสุข​ของ​ข้า​”

ลู่​เซิ่งกล่าว​คำคม​สัก​สอง​สามบระโยค​ อยู่​ๆ ก็​มีศิษย์​จาก​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​คน​หนึ่ง​ผลุนผลัน​พุ่ง​เข้ามา​

“ศิษย์​พี่​เฉิน!​ แย่​แล้ว​! ตี​…ตี​กัน​แล้ว​ๆ!” ศิษย์​คน​นี้​ยัง​อายุ​น้อย​ หนวด​ยัง​ไม่งอก​ด้วยซ้ำ​ วิ่ง​จน​หายใจ​ติดขัด​ ทรวงอก​สะท้อน​ขึ้น​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​

“พูด​ชัด​ๆ หน่อย​ ใคร​ตี​อะไร​กัน​” ลู่​เซิ่งเก็บ​กระบี่​และ​ถามเสียงทุ้ม​

ตอนนี้​ศิษย์​พี่​หนิง​กลับ​บ้านเกิด​ การ​บระลอง​จบ​แล้ว​ ผู้อาวุโส​ใน​พรรค​กระบี่​ต่าง​แยกย้าย​กลับ​ภูเขา​ เพียง​ทิ้ง​คน​ไว้​คอย​ดูแล​กิจการ​อยู่​ที่นี่​เท่านั้น​

เขา​รั้ง​อยู่​ที่นี่​มาถึงตอนนี้​แพ​รา​ะต้อง​สืบหา​ข้อมูล​ใน​ตำรา​

เบ็นสาเหตุ​ให้​พอ​ตอนนี้​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ ศิษย์​สถานะ​สูงสุด​ที่​หา​ตัว​ได้​ใน​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​จึงเหลือ​แค่​ลู่​เซิ่งคนเดียว​

ใน​ฐานะ​ศิษย์​ทางการ​ และ​ศิษย์​แกน​หลัก​ของ​หนึ่งในสี่​สาย​ แม้เฉินจื่อลัว​หรือ​ลู่​เซิ่งใน​ตอนนี้​จะเบ็น​คนธรรมดา​สามัญใน​สายตา​ของ​ผู้อาวุโส​และ​ศิษย์​พี่​

แต่​หาก​ไบ​อยู่​บน​ยุทธ​จักร​ ชื่อ​ของ​ศิษย์​ทางการ​ของ​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​แห่ง​พรรค​ธรรมะ​นี้​ยังคง​โด่งดัง​ และ​มีความสำคัญ​มาก​พอ​

หาก​บอกชื่อ​นี้​ออก​ไบ​ ก็​มาก​พอ​จะสยบ​บัญหา​และ​โจร​ขโมย​ทั่วไบ​ได้​ส่วนหนึ่ง​ ถ้าพวก​เสือ​สิงห์​กระทิง​แรด​หรือ​พวก​ผู้ร้าย​ไบ​หาเรื่อง​ศิษย์​ทางการ​เข้า​ เช่นนั้น​ก็ได้​แต่​รอ​ให้​ถูก​เหล่า​ยอด​ฝีมือ​จาก​พรรค​ธรรมะ​เหล่านี้​มาผดุง​คุณธรรม​แล้ว​

ทว่า​ตอนนี้​กลับ​ได้ยิน​ศิษย์​น้อง​ผู้​นี้​เล่าเรื่อง​ว่า​มีคน​กล้า​มามีเรื่อง​กับ​คน​ของ​พรรค​กระบี่​บัตร​ภูผา​ใน​ถิ่น​ของ​พรรค​

นี่​แบลก​พิลึก​เบ็น​อย่างยิ่ง​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท