บทที่ 793 พันธมิตรอธรรม (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

หลังจากที่​มหา​ปรมาจารย์​หวัง​โหว​จงปรากฏตัว​สยบ​ยุทธ​จักร​ ฝ่าย​มาร​และ​ฝ่าย​อธรรม​ซึ่งได้แก่​เก้า​สำนัก​และ​ สิบ​หก​ลัทธิ​ก็​ฉวยโอกาส​ออกมา​ก่อ​คลื่น​ลม​ทันที​

เพียงแต่​สิ่งที่​นึกไม่ถึง​ก็​คือ​ มหา​ปรมาจารย์​สั่งเรียก​รวมตัว​วีรชน​แห่ง​ฝ่าย​อธรรม​ทั้งหมด​เพื่อ​ร่วมมือ​กับ​สำนัก​สามานย์​ที่​ก่อ​ตั้งขึ้น​ใหม่​ พร้อมทั้ง​สร้าง​พันธมิตร​สามานย์​ขึ้น​มาเพื่อ​รับมือ​พรรค​ธรรมะ​ของ​ยุทธ​จักร​

ครา​แรก​ฝ่าย​อธรรม​ไม่อาจ​สู้ฝ่าย​ธรรมะ​ได้​ ราวกับ​ทราย​ที่​กระจัดกระจาย​บน​จาน​เพราะ​ไม่มีผู้นำ​ ตอนนี้​พอ​หวัง​โหว​จงเปล่งเสียง​ขึ้น​มา ก็​พา​กัน​มารวมตัว​ทาง​นี้​เหมือนกับ​มีกระดูกสันหลัง​ขึ้น​มาแล้ว​

หวง​เจิน​หดตัว​ขณะ​มองดู​คน​หลาย​กลุ่ม​ใน​ความมืด​อย่าง​ถี่ถ้วน​

อาศัย​แสงไฟริบหรี่​จาก​คบเพลิง​ เขา​พอ​จะมองเห็น​ว่า​คน​กลุ่ม​นี้​แบ่ง​ออก​เป็น​สามกลุ่ม​ ทุกคน​ยืน​ด้วยกัน​ราวกับ​ทั้ง​ใกล้ชิด​ทั้ง​ห่างไกล​ ท่ามกลาง​กลุ่ม​สามกลุ่ม​มีแกน​หลัก​อยู่​ มีคน​ห้อมล้อม​อยู่​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​

เขา​พิจารณา​ดู​ ก่อน​จดจำ​ผู้นำทาง​ฝั่งตะวันออก​ได้​ทันที​ ภายใต้​คบเพลิง​สีเหลือง​สลัว​นั่น​คือ​ชาย​ชรา​ ผมหงอก​ขาว​ที่​สัก​ตัว​อักษรเลข​เก้า​ไว้​บน​ใบหน้า​ ชาย​ชรา​มีสีหน้า​อึมครึม​ ซ่อน​สอง​แขน​ไว้​ใน​แขน​เสื้อ​สีดำ​ยาว​ ไม่เอ่ย​คำ​ใด​ เป็น​แมงป่อง​เก้า​หาง​ ยอด​ฝีมือ​ฝ่าย​อธรรม​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​ยุทธ​จักร​

ทาง​ทิศ​หนือ​คือ​ชายฉกรรจ์​หัวล้าน​สอง​คน​ที่​มีรูปร่าง​เตี้ย​ล่ำ​และ​แบก​ลูกตุ้ม​ไว้​บน​หลัง​ บน​บ่า​ทั้งสอง​สัก​มังกร​เหิน​ สีดำ​ไว้​ หาง​ตา​เป็น​สีแดง​ราวกับ​พร้อม​จะอาละวาด​ได้​ตลอดเวลา​ ไม่รู้​ว่า​ฝึก​วิชา​อธรรม​อะไร​ถึงได้​กลายเป็น​ เช่นนี้​

หวง​เจิน​จำได้​ทันที​ว่า​สอง​คน​นี้​คือ​พี่น้อง​ชว​งเห​อ​หู่​ คน​หนึ่ง​ใน​นี้​ก็​คือ​เจิน​ชิงหู่​ผู้​เป็นยอด​ฝีมือ​ที่​เกือบจะ​ไป​ถึงระดับ​ปรมาจารย์​

ส่วน​ทิศใต้​กับ​ทิศตะวันตก​กลับ​เห็น​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ใกล้​กัน​ชวน​ให้​งุนงง​ ไม่มีใคร​กล้า​เดิน​ออกมา​ประจัญ​หน้า​กับ​สอง​ยอด​ฝีมือ​ที่​เหลือ​สัก​คน​

หวง​เจิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ส่ายหน้า​น้อย​ๆ เขา​เป็น​คนใน​ยุทธ​จักร​จาก​แดน​ใต้​ พอ​เห็นภาพ​นี้​จึงรู้สึก​อึดอัด​อยู่​บ้าง​ แต่​ก็​จนปัญญา​เช่นกัน​

พรรค​สำนัก​ธรรมะ​ใน​ยุทธ​จักร​ทิศใต้​กับ​ทิศตะวันตก​อ่อนแอ​กว่า​ทาง​ตะวันออก​และ​เหนือ​มาแต่ไหนแต่ไร​แล้ว​ บวก​กับ​ทางตะวันตก​และ​ใต้​เกิด​ศึก​ไม่หยุดหย่อน​ ด้าน​การต่อสู้​จึงไม่ได้รับ​การ​ขัดเกลา​ ทำให้​ไม่เพียงแต่​ฝ่าย​ธรรมะ​ทางตะวันตก​กับ​ใต้​จะค่อนข้าง​อ่อนแอ​เท่านั้น​ แม้แต่​ฝ่าย​อธรรม​กับ​ฝ่าย​มาร​ทางตะวันตก​และ​ใต้​ก็​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​ทาง​ตะวันออก​และ​เหนือ​เช่นกัน​

“ดูเหมือน​ทางตะวันตก​กับ​ใต้​จะไม่อาจ​เลือก​หัว​หน้าที่​ทุกคน​ยอมสยบ​ได้​ เช่นนั้น​ให้​ข้า​รักษาการณ์​แทน​ก่อน​ชั่วคราว​ ถือว่า​เตรียมการ​ให้​แก่​มหา​ปรมาจารย์​ก็แล้วกัน​” เฒ่าแมงป่อง​เก้า​หาง​กล่าว​พลาง​แสยะ​ยิ้ม​ด้วย​สีหน้า​เยียบ​เย็น​

“ผู้อาวุโส​แมงป่อง​เก้า​หาง​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เรื่อง​นี้​ไป​ พวกเรา​จะจัดการ​เรื่อง​ทางตะวันตก​ของ​พวกเรา​เอง​” เสียง​สตรี​กระจ่าง​ใสดัง​ใกล้​เข้ามา​อย่าง​รวดเร็ว​ด้วย​ความเร็ว​สูง เงาร่าง​สีดำ​สะโอดสะอง​สาย​หนึ่ง​โฉบ​ผ่าน​กลาง​แสงสลัว​ ก่อน​จะทิ้งตัว​ลง​ด้านหน้า​ยอด​ฝีมือ​ฝ่าย​อธรรม​ของ​ฝั่งตะวันตก​

“หง​เซิงฮวา​!”

“ปรมาจารย์​พิษ​หง​เซิงฮวา​!”

พวก​ยอด​ฝีมือ​ที่​มีความรู้​หลาย​คน​อด​อุทาน​ขึ้น​มาไม่ได้​

แมงป่อง​เก้า​หาง​พลัน​ชะงัก​ ไม่พูดมาก​อีก​ เขา​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​หง​เซิงฮวา​มาก่อน​ อีก​ฝ่าย​มีพลัง​ธรรมดา​ แต่​บรรลุ​ความสามารถ​ใช้พิษ​จน​ช่ำชอง​ ต่อให้​เขา​จะมั่นใจ​ใน​ตัวเอง​มาก​ ก็​ไม่กล้า​รับประกัน​เต็ม​ร้อย​ว่า​ตัวเอง​จะ ไม่ต้อง​พิษ​ขึ้น​มา

เช่นนั้น​ทางใต้​เล่า​

เขา​กวาดสายตา​มอง​คน​จาก​ฝ่าย​ใต้​ที่​ยังคง​เป็น​มังกร​ไร้​หัว​

“ใน​เมื่อ​ทางตะวันตก​มีผู้นำ​แล้ว​ อย่างนั้น​ทางใต้​เล่า​” แมงป่อง​เก้า​หาง​แค่น​เสียง​

“ท่าน​ผู้เฒ่า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ทางใต้​ของ​พวกเรา​ไป​” ชายฉกรรจ์​ที่​ไว้​เครา​ข้าง​แก้ม​คน​หนึ่ง​กระชับ​กระบี่​แน่น​ ยิ้ม​เย็น​พลาง​เอ่ย​

“นี่​มัน​พาน​ต้า​หยวน​แห่ง​พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​ไม่ใช่หรอก​หรือ​ พวก​เจ้าพันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​อ่อนแอ​จน​กลายเป็น​ เช่นนี้​ ถูก​มหา​ปรมาจารย์​ทำลาย​ไป​ห้า​ถูก​ทำให้​พิการ​ไป​สอง​ ยัง​มีหน้า​มาเสนอ​บอ​กว่า​ตัวเอง​เป็น​ผู้นำ​ได้​อีก​”

เสียง​ชั่วร้าย​พลัน​หัวเราะ​ขึ้น​จาก​กลุ่มคน​ตะวันออก​

ชายฉกรรจ์​ไว้​เครา​ข้าง​แก้ม​คน​นั้น​หน้า​แดงก่ำ​ทันที​

“ข้า​ไม่ใช่คน​ของ​พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​มานาน​แล้ว​! ใคร​กัน​!? กล้า​พูดจา​เหลวไหล​ แสดงตัว​เสีย​!”

“ได้ยิน​มาว่า​ครั้งกระโน้น​เจ้าเป็น​ผู้นำ​ของ​พรรค​หวน​บูรพา​ ดู​จาก​ตอนนี้​ พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​ก็​ไม่เห็นจะ​เท่าไร​” เสียง​นั้น​กล่าว​ต่อ​

พาน​ต้า​หยวน​พลัน​โมโห​กว่า​เดิม​ ชัก​กระบี่​ออกมา​พลาง​กวาดสายตา​ไป​ทั่ว​

“ผู้ใด​! จงไสหัว​ออกมา​!?”

“ใคร​กล้า​พูดจา​สามหาว​ขนาด​นี้​ ถึงขนาด​ไม่เห็น​พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​อยู่​ใน​สายตา​เชียว​หรือ​ หรือไม่​ทราบ​ว่า​ ใต้เท้า​มหา​ปรมาจารย์​ก็​ได้รับบาดเจ็บ​จาก​หนึ่ง​ใน​พันธมิตร​เช่นกัน​”

บุรุษ​ผม​ยาว​อีก​คน​เดิน​ออกมา​ เขา​สูด​หายใจ​ลึก​กล่าว​เสียงดัง​

ยอด​ฝีมือ​ฝ่าย​อธรรม​ที่​อดีต​เคย​อยู่​ใน​พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​ต่าง​ก็​ทยอย​แสดงตัว​เพื่อ​เพิ่ม​แรงกดดัน​

แม้พวกเขา​จะทรยศ​พรรค​ตัวเอง​ แต่​เมื่อ​เผชิญ​กับ​สังคม​ใต้ดิน​แบบนี้​ หาก​เกิด​แสดง​ความอ่อนแอ​ขึ้น​มา เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ยุทธ​จักร​ทางใต้​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​ทาง​ตะวันออก​และ​เหนือ​หรอก​หรือ​

ใน​ฐานะ​ขุม​กำลัง​ตัว​แทนที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​ทางใต้​ ยอด​ฝีมือ​ที่​มาจาก​พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​จึงมีจำนวนมาก​ที่สุด​ ตอนนี้​ย่อม​เกาะกลุ่ม​เพราะ​มีความแค้น​ร่วมกัน​

“ใน​เมื่อ​พวก​เจ้าร้ายกาจ​ขนาด​นี้​ เช่นนั้น​ก็​ออกมา​ประมือ​กับ​ข้า​เสีย​”

จู่ๆ เงาร่าง​ดุจ​ค้างคาว​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​มาจาก​ท้องฟ้า​ ทิ้งตัว​ลง​ด้านหน้า​ทุกคน​

คน​ผู้​นี้​เปิด​ผ้าคลุม​หน้า​และ​ชุด​อำพราง​สีดำ​สนิท​ออก​ เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​วัยเยาว์​ซีด​ขาว​หล่อเหลา​ เนตร​กระบี่​เฉียบขาด​คุกคาม​คน​ บุคลิก​กดดัน​จางๆ

“ซือ​ถูคง​…! กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​ซือ​ถูคง​!?”

ครั้น​คน​ที่อยู่​รอบข้าง​เห็น​ดังนั้น​ ก็​อด​ถอยหลัง​ไป​หลาย​ก้าว​พร้อม​ส่งเสียง​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มาไม่ได้​

แสดงให้เห็น​ว่า​คน​ผู้​นี้​มีชื่อเสียง​ชั่วร้าย​ถึงที่สุด​ ไม่ใช่โจรผู้ร้าย​ธรรมดา​

พวก​พาน​ต้า​หยวน​จำได้​ทันที​ว่า​เป็น​ใคร​

ต่าง​คน​ต่าง​หน้าซีด​ ไม่กล้า​พูดจา​ต่อ​อีก​

หวง​เจิน​เอง​ก็​ตัวสั่น​ ซือ​ถูคง​กระบี่​โลหิต​ผู้​นี้​ไม่ใช่คนธรรมดา​ ใน​อดีต​เคย​สังหาร​ฆ่าล้างบาง​สำนัก​ใน​ยุทธ​จักร​มาหลายครั้ง​ ทั้ง​ยัง​หนีรอด​จาก​การ​ไล่ล่า​ของ​ผู้อาวุโส​จาก​บู๊ตึ๊ง​ได้​หลาย​ครา​ วิชา​ตัวเบา​และ​ วิชา​กระบี่​เหี้ยมหาญ​ถึงขีดสุด​ พูดจา​ไม่ลงรอย​คำ​เดียว​ก็​อาจ​ลง​มือสังหาร​คน​ได้​ทันที​

ว่า​กัน​ว่า​มีโครงกระดูก​ขาวโพลน​นับ​พัน​ที่​ตก​ตาย​ภายใต้​กระบี่​ของ​เขา​

“ข้า​คือ​ซือ​ถูคง​ ข้า​ต้องการ​ตำแหน่ง​ผู้นำ​ พวก​เจ้าไม่มีปัญหา​กระมัง​” เขา​ไม่สนใจ​เหนือ​ใต้​ออก​ตก​ หาก​แต่​ ยืน​กล่าว​เสียง​เย็นชา​ท่ามกลาง​ฝูงชน​

“เจ้า!?” คน​จาก​พันธมิตร​เจ็ด​ขุนเขา​พลัน​ปั่นป่วน​ เป็น​เพราะ​ซือ​ถูคง​มอง​มาทาง​พวกเขา​ แสดงให้เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​ คิด​ยึด​ครองตำแหน่ง​ผู้นำ​ของ​แดน​ใต้​

“แต่​จะว่า​ไป​ มหา​ปรมาจารย์​เรียก​พวกเรา​มารวมตัวกัน​แท้ๆ​ เหตุใด​ตัวเอง​ยัง​มาไม่ถึงอีก​” มีคน​ส่งเสียง​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​

“ข้า​ย่อม​มาถึงนาน​แล้ว​” ทันใดนั้น​ด้านนอก​ฝูงชน​ก็​มีเสียงดัง​มาลิบ​ๆ

ฉับพลัน​นั้น​ทุกคน​ก็​พา​กัน​หลีกทาง​ จน​กลายเป็น​ทางเดิน​เข้าออก​

เงาดำ​ที่อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป​ลอยตัว​ลง​มายัง​ท่ามกลาง​ฝูงชน​ ผู้​มามีผม​สีขาว​สอง​นัยน์​ตาวาว​โรจน์​ดุจ​อัสนี​ สวม​ชุด​คลุม​สีดำ​ บุคลิก​ล้ำเลิศ​ เป็น​หวัง​โหว​จงที่​เพิ่ง​กลับ​มาจาก​แดน​ใต้​

“แต่​ผู้​ที่​เรียก​ทุกคน​มารวมตัวกัน​ไม่ได้​มีข้า​เพียง​คนเดียว​” หวัง​โหว​จงเอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ กล่าว​อย่าง​ไม่รีบร้อน​

“น้อง​เฉิน​ ยัง​ไม่ปรากฏตัว​อีก​” เขา​มอง​ไป​ยัง​ที่ลับ​ทางตะวันตก​

ทุกคน​พลัน​ฮือฮา​ ยังมี​ยอด​ฝีมือ​คน​ไหน​เทียบเคียง​กับ​มหา​ปรมาจารย์​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ฝ่าย​อธรรม​ได้​อีก​

ฉับพลัน​นั้น​สายตา​หลาย​สาย​พา​กัน​ตกลง​บน​ทิศทาง​ที่หวัง​โหว​จงมอง​ไป​

ไม่ทราบ​ว่า​ใน​ความ​มืดมิด​ตรงนั้น​มีบุรุษ​หนุ่ม​ที่​รูปร่าง​สมส่วน​กำยำ​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ตั้งแต่​เมื่อไร​ หุ่น​สามเหลี่ยม​คว่ำ​บ่า​กว้าง​บึกบึน​ ขา​เรียว​ยาว​ สอง​แขน​ทรงพลัง​ มัด​โซ่สีดำ​พาด​ไขว้​กัน​ไว้​บน​ไหล่​ซ้าย​ขวา​

คน​ผู้​นี้​ก็​คือ​ลู่​เซิ่งที่​เพิ่งจะ​ออกจาก​พรรค​กระบี่​บรรณ​ภูผา​

ลู่​เซิ่งกวาด​มอง​ทุกคน​ที่อยู่​รอบข้าง​ด้วย​สายตา​ราบเรียบ​ ดวงตา​ไม่มีสีสัน​หรือ​ความรู้สึก​ใดๆ​ เพียง​ประเมิน​พิจารณา​เท่านั้น​

“ข้า​ต้องการ​สิ่งของ​อย่างหนึ่ง​ ถ้าใคร​ใน​หมู่​พวก​เจ้าหา​มาได้​ ก็​สามารถ​เอา​มาแลก​ของ​ชิ้น​หนึ่ง​กับ​ข้า​ได้​ ของ​สิ่งนี้​จะเป็น​คัมภีร์​ลับ​มรรคา​ยุทธ์​ หรือ​เป็น​ทรัพย์สมบัติ​เงินทอง​ก็ได้​ แน่นอน​ บางที​พวก​เจ้าอาจจะ​อยาก​ถามว่า​ ข้า​มีสิทธิ์​อะไร​มาสั่งให้​พวก​เจ้าเชื่อฟัง​ข้า​กระมัง​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​สงบ​

ทุกคน​ที่อยู่​รอบ​ๆ ซึ่งเดิม​กำลังจะ​โพล่ง​ปาก​พลัน​เงียบ​ลง​ ด้วย​คิด​จะฟังว่า​เขา​จะตอบคำถาม​นี้​อย่างไร​

ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​ก่อน​จะฉีก​ยิ้ม​

“นั่น​เป็น​เพราะ​ที่หวัง​โหว​จงเรียก​มือดี​ฝ่าย​อธรรม​มารวมตัวกัน​ ความจริง​เป็น​เพราะ​ข้า​สั่งให้​เขา​ทำ​…”

หลังจาก​ลู่​เซิ่งพูด​ประโยค​นี้​ เสียง​ส่วนหนึ่ง​ที่​ตอนแรก​ยังคง​ดัง​อยู่​พา​กัน​เงียบสงัด​ สายตา​จำนวนมาก​ตกลง​บน​ร่าง​หวัง​โหว​จงที่​ยืน​อยู่​ใกล้​ๆ อย่าง​รวดเร็ว​

“ตอนนี้​ ถ้ามีคน​ไม่ยินยอม​ สามารถ​เข้ามา​ลองดู​ได้​ คนเดียว​ก็ดี​ สิบ​คน​ก็ได้​ พวก​เจ้าจะเข้ามา​หมด​เลย​ก็​ไม่มีปัญหา​”

ลู่​เซิ่งยืด​ร่าง​ขึ้น​ กล้ามเนื้อ​บน​ร่าง​ขยับ​และ​พอง​ขยาย​อย่าง​เชื่องช้า​ เป็นมัน​เลื่อม​ดุจ​เหล็กกล้า​ ใต้​แสงเปลวเพลิง​

“แน่​นอ​น.​..ถ้าพวก​เจ้ารับปาก​แล้ว​ทำ​ไม่ได้​ ข้า​จะฆ่าพวก​เจ้าเสีย​” ลู่​เซิ่งพลิก​มือจับ​ลูกตุ้ม​ทองเหลือง​ด้านหลัง​

“โอหัง​!” ทันใดนั้น​ก็​มีประกาย​กระบี่​สีเลือด​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ผ่าน​อากาศ​ไป​หลายครั้ง​ เสือก​เข้าใส่​หู​ขวา​ลู่​เซิ่ง

ฟึบ!​

กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​ลงมือ​แล้ว​!

ทุกคน​ตกใจ​ พา​กัน​เพ่ง​สมาธิกลั้นลมหายใจ​ขณะ​มอง​ทั้งสอง​คน​สู้กัน​ แม้แต่​หายใจ​แรง​ก็​ยัง​มิกล้า​

คนหนุ่ม​ผู้​นี้​ปาก​ดี​ยิ่งนัก​ ทว่า​กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​ก็​เป็น​สุดยอด​อัจฉริยะ​บร​ร​ลือ​โลก​เช่นกัน​ สามารถ​ หนีรอด​จาก​เงื้อมมือ​ของ​ผู้อาวุโส​บู๊ตึ๊ง​ได้​นับ​หลายครั้ง​ พลัง​ย่อม​ไม่ธรรมดา​สามัญเด็ดขาด​

ตอนนี้​พอ​ประกาย​กระบี่​สีเลือด​ถูก​แทง​ออก​ไป​ ก็​หมายความว่า​ศัสตรา​อันเป็น​สัญลักษณ์​ของ​กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​ออกจาก​ฝัก​แล้ว​ ผลลัพธ์​สุดท้าย​จะเป็น​อย่างไร​ เป็นไปได้​ว่า​อาจ​ตัดสิน​ตัว​ผู้นำ​ของ​ทางใต้​ รวมไปถึง​หัว​หน้าที่​แท้จริง​ของ​งาน​ชุมนุม​ฝ่าย​อธรรม​ใน​ครั้งนี้​อีกด้วย​

เวลานี้​ประกาย​กระบี่​สีเลือด​แทง​ใส่หู​ของ​ลู่​เซิ่งราว​สาย​ฟ้าแลบ​ ความเร็ว​นั้น​น่า​ตกตะลึง​อย่างยิ่ง​ ยอด​ฝีมือ​อย่าง​น้อย​เก้า​ส่วน​ที่อยู่​โดยรอบ​ไม่ทัน​ตอบสนอง​ ก็​พบ​ว่า​ประกาย​กระบี่​อยู่​ห่าง​จาก​หู​ของ​ลู่​เซิ่งไม่เกิน​หนึ่ง​ฝ่ามือ​แล้ว​

ทว่า​ใน​ตอนนั้น​เอง​ เงาสีเหลือง​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ฟาด​ลงมา​

กล้ามเนื้อ​บน​แขน​ของ​ลู่​เซิ่งนูน​ขึ้น​ ท่อน​แขน​ที่​มีพลัง​กระแทก​รุนแรง​สุด​เปรียบ​ปาน​กระแทก​ใส่ประกาย​กระบี่​สีเลือด​อย่าง​รุนแรง​

เปรี้ยง​!

คม​กระบี่​โค้ง​งอ​ กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​ที่​ถือ​กระบี่​ถูก​แรง​กระแทก​ลอย​ขึ้น​ ร่าง​ชาด้าน​ ไม่อาจ​ควบคุม​สภาพ​หมดแรง​นี้​ได้​โดย​สมบูรณ์​

จู่ๆ หาง​ตา​เขา​ก็​เหลือบเห็น​เงาสีเหลือง​ลอย​มา

‘แย่​แล้ว​!’ กล้ามเนื้อ​ส่วน​ขา​ของ​กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​ยังคง​ชาดิก​ ไม่อาจ​หลบหลีก​ได้​ รอ​จน​เงาสีเหลือง​เข้ามา​ใกล้​ เขา​จึงพบ​ว่า​นั่น​คือ​ลูกตุ้ม​ยักษ์​สำริด​ที่​หมุน​ควง​ด้วย​ความเร็ว​สูง

ตูม​!

ฝน​โลหิต​กลุ่ม​หนึ่ง​ระเบิด​กลางอากาศ​

ลูกตุ้ม​สำริด​ของ​ลู่​เซิ่งตก​ลงพื้น​ ฝังเข้าไป​ใน​ดิน​โดย​ไม่ขยับเขยื้อน​

คน​ที่อยู่​รอบข้าง​พลัน​แตกตื่น​ ไม่อาจ​รับ​กับ​ความโหดเหี้ยม​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อ​ครู่​ได้​

หวัง​โหว​จงสีหน้า​ไม่แปรเปลี่ยน​ ใน​ประสบการณ์​เกือบ​ร้อย​ปี​ของ​เขา​ แม้จะเคย​เห็นภาพ​โหดร้าย​แบบนี้​มาไม่กี่​ครั้ง​ แต่​ก็​ไม่ถึงกับ​ตื่น​ตระหนกตกใจ​

“ยังมี​ใคร​กล้า​ลอง​แสนยานุภาพ​ของ​น้อง​เฉิน​อีก​หรือไม่​” เขา​ตวาด​เสียงต่ำ​

ฉึก​!

ในเวลานี้​กระบี่​ของ​กระบี่​โลหิต​บู๊ตึ๊ง​หมุน​คว้าง​ลงมา​ปัก​บน​ดิน​ ซากศพ​ที่​หลงเหลือ​กลิ้ง​ไปมา​ที่​พื้น​ สภาพ​โดยรอบ​กลายเป็น​โรง​เชือด​สัตว์​อย่าง​สิ้นเชิง​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท