บทที่ 797 เสร็จสิ้น (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

สอง​สุดยอด​มหา​ปรมาจารย์​ที่​เหมือน​อาทิตย์​กลางหาว​ของ​ยุทธ​จักร​ใน​ปัจจุบัน​ มารวมตัว​ใน​สถานที่​นี้​พร้อมกัน​

‘ล้อ​…ล้อเล่น​หรือ​ไร​! เรื่อง​แบบนี้​…เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​!’ คน​ทั้ง​สามเหงื่อ​แตก​โชก​ ก่อน​จะถอยหลัง​ช้าๆ

ใน​ช่วง​เวลานี้​ ชื่อเสียง​บน​ยุทธ​จักร​ของ​พันธมิตร​สามานย์​ไป​ถึงจุดสูงสุด​อย่าง​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​

ตั้งแต่​โบราณกาล​ถึงปัจจุบัน​ มีไม่กี่​ครั้ง​เท่านั้น​ที่​มีฝ่าย​อธรรม​และ​ฝ่าย​มาร​สามารถ​สะกด​ข่ม​เขา​เส้าหลิน​และ​ยุทธ​จักร​ได้​

และ​ครั้งนี้​ผู้นำ​พันธมิตร​สามานย์​เฉินจื่อลัว​ได้​จุดไฟ​เผา​เขา​เส้าหลิน​ ทำให้​ทุกคน​ยกยอ​เขา​ขึ้นไป​เทียบ​กับ​มหา​ปรมาจารย์​หลาย​คนใน​ประวัติศาสตร์​

แม้จะมีคน​แยกแยะ​บอ​กว่า​ มหา​ปรมาจารย์​อย่าง​หวัง​โหว​จงจะต้อง​เป็นกำลัง​หลัก​ที่​แท้จริง​อย่าง​แน่นอน​ แต่​คน​ที่​เห็น​ศึก​ระหว่าง​ลู่​เซิ่งกับ​หลวงจีน​เฒ่าผู้​นั้น​มีมากเกินไป​ ทั้ง​ยังมี​ผู้รอดชีวิต​มากกว่า​ร้อย​คน​ ข้อมูล​ที่​แพร่กระจาย​ออก​ไป​จึงละเอียด​ถึงขีดสุด​ ไม่มีช่องโหว่​ให้​โต้แย้ง​

ทว่า​ตอนนี้​ กลับ​ไม่มีใคร​กล้า​สงสัย​ว่า​ลู่​เซิ่งไม่มีพลัง​ต่อหน้า​เขา​

ต่อให้​จะอ่อนแอ​อย่างไร​ ก็​ฆ่าพวกเขา​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ดวงตา​สีเลือด​ของ​ลู่​เซิ่งกวาด​มอง​ที​หนึ่ง​ ไม่นาน​ก็​หยุด​บน​ร่าง​ชาย​ชรา​ร่าง​กำยำ​ที่​เพิ่ง​เข้ามา​

“ผู้อาวุโส​อสรพิษ​นภา​ชรา​แล้วแต่​ยัง​แข็งแกร่ง​ ได้ยิน​มาว่า​ท่าน​ครอง​ความ​เป็นใหญ่​บน​น่านน้ำ​ทิศตะวันออก​ มีอำนาจ​เหลือล้น​ ไม่ทราบ​เหตุใด​จึงมายัง​จงหยวน​กัน​” ลู่​เซิ่งจงใจไล่​บริวาร​จำนวนมาก​ออก​ไป​ ประการ​แรก​เป็น​เพราะ​อยาก​หลีกเลี่ยง​การ​บาดเจ็บ​ล้มตาย​ที่​ไร้​ความหมาย​ ส่วน​อีก​ประการ​เป็น​เพราะ​เขา​สนใจ​ใน​ตัว​อสรพิษ​นภา​ผู้​นี้​มาก​

แม้เขา​จะปล่อย​จิตวิญญาณ​ออกมา​ไม่ได้​ แต่​หลังจาก​เขา​ปรับตัว​เข้ากับ​การ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​และ​การเรียนรู้​ส่วนใหญ่​ของดี​ป​บลู​ พลัง​ฝึกปรือ​ใน​ตอนนี้​ก็ได้​ก้าว​ข้าม​ขีดจำกัด​ของ​คนธรรมดา​บน​โลก​ใบ​นี้​ไป​แล้ว​

ตามเหตุผล​ ระดับ​แบบนี้​ เขา​ไม่ควร​มีศัตรู​ใด​ใน​ใต้​หล้า​อีก​

ทว่า​ความรู้สึก​ที่​อสรพิษ​นภา​ตรงหน้า​มอบให้​ กลับเป็น​ตัวตน​ราว​สัตว์ประหลาด​ที่​ก้าว​ข้าม​การดำรงอยู่​ของ​มนุษย์​ธรรมดา​เช่นเดียวกับ​เขา​

นอกจากนี้​ลู่​เซิ่งยัง​สัมผัส​กลิ่นอาย​ล่องลอย​ที่​มาจาก​ร่าง​มาร​สวรรค์​บน​ตัว​อีก​ฝ่าย​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

อสรพิษ​นภา​เป็น​ชาย​ชรา​หน้า​ยาว​สีหน้า​ดำคล้ำ​ หน้าผาก​มีรอย​ฟัน​ ใส่ชุด​คลุม​สีดำ​แขน​เสื้อ​ขาว​ ตรง​ข้อมือ​สวม​กำไล​หยก​สีเขียว​เข้ม​สอ​งวง​

หลัง​เข้ามา​แล้ว​ ครั้น​เขา​มอง​ลู่​เซิ่งที่นั่ง​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​ สายตา​ก็​แปรเปลี่ยน​เล็กน้อย​เช่นกัน​ ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ค่อย​เดิน​ไป​นั่ง​อีก​ฝั่งของ​โต๊ะ​

“ตอนแรก​คิด​จะมาเอา​แก่น​ปฐม​ไป​ นึกไม่ถึง​จะเจอ​สหาย​ร่วม​เส้นทาง​” อสรพิษ​นภา​เค้น​รอยยิ้ม​ออกมา​ พร้อมกับ​ยก​ชาตรงหน้า​ขึ้น​แต่​ไม่ดื่ม​ เพียง​ถือ​ไว้​ใน​มือ​ แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ยิ้ม​น้อย​ครั้ง​มาก​ รอยยิ้ม​ที่​เค้น​ออกมา​จึงแข็งทื่อ​อย่าง​ที่สุด​

“ท่าน​อยากได้​แก่น​ปฐม​หรือ​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​ “ข้า​ให้​ท่าน​ก็ได้​”

“เงื่อนไข​คือ​อย่างไร​” อสรพิษ​นภา​ตอบสนอง​ทันที​

“ช่วย​ข้า​หา​ของ​สิ่งหนึ่ง​” ลู่​เซิ่งพลิก​มือ​หยิบ​กระดาษ​ขาว​แผ่น​หนึ่ง​ออก​มาจาก​อก​เสื้อ​ บน​กระดาษ​วาดรูป​บางอย่าง​ไว้​

อสรพิษ​นภา​กวาดตา​มอง​ สีหน้า​พลัน​แปลกประหลาด​ขึ้น​เล็กน้อย​

“ของ​สิ่งนี้​ยังมี​รายละเอียด​อย่าง​อื่น​อีก​หรือไม่​ แค่​เค้าโครง​นี้​ ของ​ที่​มีรูปร่าง​คล้าย​กัน​ก็​มีจำนวนมาก​แล้ว​”

“ยังมี​อีก​อย่าง​ ข้า​รู้​ว่า​มัน​ชื่อ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​” ลู่​เซิ่งกล่าว​เสริม​

“ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​หรือ​” อสรพิษ​นภา​พยักหน้า​ “ได้​ ข้า​จะคอย​หา​ให้​”

ลู่​เซิ่งครุ่นคิด​เล็กน้อย​ ก่อน​จะโยน​แก่น​ปฐม​ใน​มือ​ให้​อสรพิษ​นภา​

“ให้​ข้า​แบบนี้​เลย​หรือ​” อสรพิษ​นภา​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ขณะ​รับ​แก่น​ปฐม​ไว้​

“แน่นอน​ ท่าน​ยัง​อยาก​จะทำ​อะไร​อีก​เล่า​” ลู่​เซิ่งถามกลับ​

“…” นิ่ง​ไป​สักพัก​ อสรพิษ​นภา​ก็​พยักหน้า​ “ท่าน​ได้รับ​ไมตรี​ของ​ราก​แห่ง​ความเจ็บปวด​แล้ว​ คิด​ว่า​ก่อนหน้านี้​ท่าน​น่าจะ​ได้​เจอ​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​สอง​คน​มาแล้ว​กระมัง​ ความจริง​ข้า​เอง​ก็​เป็น​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​เช่นกัน​ ตาม​กฎ​ทั่วไป​ ยิ่ง​แก่น​ปฐม​ที่​รวบรวม​ได้​มีมาก​เท่าไหร่​ พลัง​และ​ตำแหน่ง​ก็​จะยิ่ง​สูงส่งมาก​เท่านั้น​”

ลู่​เซิ่งยิ้ม​ เขา​ย่อม​เดา​ออ​กว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​เช่นกัน​ ส่วน​แก่น​ปฐม​ก้อน​นั้น​ก็​คือ​หยก​เท​วะ​นั่นเอง​ เขา​ดูดซับ​พลัง​อาวรณ์​ที่อยู่​ด้านใน​จน​เกลี้ยง​แล้ว​ เหลือ​แต่​แก่น​ปฐม​ธรรมดา​ที่​ด้านใน​ไม่มีอะไร​เลย​

ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงได้​พลัง​อาวรณ์​มาอย่าง​น้อย​แปด​ล้าน​หน่วย​ ผลลัพธ์​มั่งคั่ง​ถึงขีดสุด​

นี่​ทำให้​ลู่​เซิ่งที่​เดิมที​คิด​จะไป​ยัง​โลก​ตี้​วา​ต้อง​ละทิ้ง​ทาง​ด้าน​นั้น​แล้ว​มารวบรวม​แก่น​ปฐม​อยู่​ที่นี่​อย่า​งอด​ไม่ได้​ เนื่องจาก​เร็ว​กว่า​มาก​

เพียงแต่​พอ​นึกถึง​เจ้าลัทธิ​ไม่จีรัง​ที่อยู่​ทาง​นั้น​ ลู่​เซิ่งก็​หนักใจ​ ใน​เมื่อ​ที่นี่​มีทรัพยากร​ที่​ล้ำค่า​อย่าง​แก่น​ปฐม​ อย่างนั้น​ก็​เป็นไปได้​มาก​ที่จะ​มีผู้​เข้มแข็ง​ระดับ​เดียวกัน​เช่นกัน​

ที่​เขา​ลงมือ​อย่าง​สุดกำลัง​ ก็​เพื่อ​จะได้​มีโอกาส​สัมผัส​กับ​ขุม​กำลัง​สาย​นี้​ อย่างไร​เขา​ก็​ใช้แก่น​ปฐม​ไม่ได้​ แม้ของ​สิ่งนี้​จะไม่เลว​ แต่​หลังจาก​ดูดซับ​พลัง​อาวรณ์​หมดเกลี้ยง​ มัน​ก็​มีผล​คืน​สภาพ​นิดหน่อย​เท่านั้น​

สิ่งที่​ใช้แทน​ของ​อย่างนี้​ได้​มีอยู่​มากมาย​เหลือเกิน​

“ท่าน​เพียงแค่​ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วย​หา​ของ​สิ่งนี้​หรือ​” อสรพิษ​นภา​คล้าย​กลับ​ไม่เข้าใจ​อยู่​บ้าง​ ลู่​เซิ่งยอม​มอบ​สมบัติ​ล้ำค่า​อย่าง​แก่น​ปฐม​เพื่อ​คำขอ​เล็ก​ๆ แบบนี้​อย่างนั้น​หรือ​

“ถูกต้อง​ จะว่า​ไป​ข้า​เคย​เจอ​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​คน​หนึ่ง​มาก่อน​ คน​ที่อยู่​ที่​ตระกูล​จ้าว​ ไม่ทราบ​ท่าน​รู้จัก​หรือไม่​” ลู่​เซิ่งถามตรงๆ​

“อ้อ​?!” อสรพิษ​นภา​สีหน้า​เปลี่ยนแปลง​ “ตระกูล​จ้าว​…ตระกูล​จ้าว​ไหน​หรือ​”

“นคร​ตราชั่ง​” ลู่​เซิ่งบอก​

อสรพิษ​นภา​นิ่ง​ไป​และ​ยก​มือขึ้น​สะบัด​

ประกาย​เย็นเยียบ​สามสาย​พุ่ง​ออก​ไป​ทาง​ช่อง​ประตู​ดัง​พรึ่บ​ พรึ่บ​ พรึ่บ​ พริบตาเดียว​ก็​มีเสียง​กระอัก​สามเสียงดัง​มาจาก​ที่​ที่อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป​ คล้าย​เป็น​เสียง​อาวุธ​ลับ​ทะลวง​เลือดเนื้อ​

ลู่​เซิ่งไม่ประหลาดใจ​ กลิ่นอาย​สามสาย​ที่​ประสาทสัมผัส​ทั้ง​ห้า​สัมผัส​ได้​จางหาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ เขา​จิบ​ชาช้าๆ และ​รอ​คำตอบ​จาก​อีก​ฝ่าย​

“ตระกูล​จ้าว​…คน​ที่​ท่าน​เจอ​เป็น​บุคคล​สำคัญ​ใน​ลัทธิ​ของ​พวกเรา​จริง​ การ​ที่​สามารถ​ติดต่อ​กับ​ท่าน​ผู้​นั้น​ได้​…การ​ที่​เห็น​ท่าน​ผู้​นั้น​แล้ว​ยัง​รอด​อยู่​ ดูเหมือน​สถานะ​กับ​พลัง​ของ​ท่าน​จะอยู่​เหนือกว่า​การประเมิน​ของ​ข้า​” อสรพิษ​นภา​เอ่ย​เสียงทุ้ม​ “เอา​เช่นนี้​ ขอ​มอบ​สิ่งนี้​ให้​ท่าน​”

เขา​หยิบ​ตราประทับ​สีแดง​เล็ก​กระทัดรัด​อัน​หนึ่ง​ออกมา​ส่งให้​ลู่​เซิ่ง

“นี่​คือ​ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐม​ ถ้าท่าน​เจอ​ปัญหา​อะไร​ที่​ยาก​แก้ไข​หรือ​พบ​ข้อมูล​กับ​ของล้ำค่า​ที่​ต้องการ​รวบรวม​ สามารถ​ใช้มัน​อัญเชิญ​พวกเรา​สาวก​ได้​หนึ่ง​ครั้ง​ ราก​แห่ง​ความเจ็บปวด​จะมอบ​การตอบแทน​ที่​คู่ควร​ให้​แก่​คุณูปการ​และ​การ​ช่วยเหลือ​ที่​ท่าน​มอบให้​กับ​พวกเรา​ จงจำไว้​ว่า​ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐม​ใช้ได้​แค่​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​”

ลู่​เซิ่งรับ​ตราประทับ​ขนาด​กะทัดรัด​สีแดง​อันนี้​มา เขา​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ​ ตน​มอบ​แก่น​ปฐม​ให้​ก้อน​เดียว​ ถึงกับ​ผูก​สัมพันธ์​กับ​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​ที่​ลึกลับ​ยาก​หยั่ง​คาด​นี้​ได้​แล้ว​

ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​ ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​เป็น​ขุม​กำลัง​ลึกลับ​ที่อยู่​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​ลัทธิ​จันทรา​แดง​ อย่า​เห็น​ว่า​ลัทธิ​จันทรา​แดง​มีการพัฒนา​ใน​นคร​ตราชั่ง​ไม่เท่าไร​ แต่​พวกเขา​มีชื่อเสียง​ฉาวโฉ่​ไป​ทั่วโลก​มาร​สวรรค์​ ต่อให้​เป็น​พวก​สัตว์​โบราณ​ก็​ไม่กล้า​หาเรื่อง​พวกเขา​ได้​ง่ายๆ​

ส่วน​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​มีความลึกลับ​ยิ่งกว่า​ พวกเขา​เหมือน​เทพ​หาย​ผี​ซ่อน​ พวก​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ พวกเขา​ซ่อน​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​จิตใจ​คน​บน​โลก​มาร​สวรรค์​อีกที​ สัมผัส​ได้​ยากเย็น​ถึงขีดสุด​

เกิด​ไป​หาเรื่อง​พวกเขา​เข้า​ ตัว​ท่าน​ยัง​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​ถูก​เล่นงาน​ตอน​ไหน​

“ตกลง​ ขอบคุณ​มาก​” ลู่​เซิ่งลูบไล้​ตราประทับ​ ผิวนอก​ของ​มัน​ดู​เหมือนกับ​ตราประทับ​โคลน​แดง​ทั่วไป​ ย่อม​ไม่มีใคร​คาดเดา​ได้​ว่า​มัน​ถึงกับ​เกี่ยวข้อง​กับ​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​

“อย่างนั้น​ถ้าข้า​หา​แก่น​ปฐม​ก้อน​อื่น​เจอ.​..” ลู่​เซิ่งถามอีก​

“เหมือนเดิม​ ท่าน​จะได้รับ​ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐม​เพิ่มขึ้น​ ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐม​ทุก​ตรา​คือ​คำสัญญา​หนึ่ง​ครั้ง​ของ​ราก​แห่ง​ความเจ็บปวด​” คำพูด​ของ​อสรพิษ​นภา​ทำให้​ลู่​เซิ่งทราบ​ถึงความสำคัญ​ที่​แก่น​ปฐม​มีต่อ​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​

เดิมที​การ​ที่​สามารถ​ตามหา​ผลประโยชน์​ยิ่งใหญ่​อย่าง​พลัง​อาวรณ์​ใน​โลก​ใบ​นี้​ได้​ ก็​อยู่​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​แล้ว​ ตอนนี้​ถึงกับ​มีผลพลอยได้​เพิ่ม​อีก​

“อย่างนั้น​ข้า​ยังมี​อีก​คำถาม​” ลู่​เซิ่งฉุกใจ​นึกได้​ จึงเอ่ย​ถามอีกครั้ง​

“โปรด​ถาม” พอได้​แก่น​ปฐม​ไป​ ท่าที​ของ​อสรพิษ​นภา​ก็​เป็นมิตร​ขึ้น​อย่าง​เห็นได้ชัด​

“ครั้งก่อน​ตอน​ข้า​กลับ​โลก​มาร​สวรรค์​ ทาง​เชื่อม​โลก​ที่​ข้า​เปิด​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ผิดปกติ​ขึ้น​…” ลู่​เซิ่งบรรยาย​ประตู​ทาง​เชื่อม​สีเลือด​ที่​ตน​เห็น​อย่าง​ละเอียด​

ตอนแรก​อสรพิษ​นภา​ยัง​ไม่ถือ​เป็นจริงเป็นจัง​ เพียงแต่​พอ​ฟังคำบรรยาย​อย่าง​ละเอียด​ในภา​ยหลัง​ของ​ลู่​เซิ่ง เขา​ก็​เคร่งขรึม​ขึ้น​

“เป็น​เพราะ​เรื่องใหญ่​บางส่วน​ที่​เกิดขึ้น​ใน​เขต​ดวงดาว​เขต​อื่น​ส่งผล​ต่อ​สมดุล​ของ​โลก​ โลก​มาร​สวรรค์​เป็น​ปลายทาง​ของ​หมื่น​โลกา​ ไม่นาน​ก็​จะฟื้นตัว​ได้​เอง​ ท่าน​ไม่ต้อง​ห่วง​ ไม่มีทาง​เกิด​เรื่องใหญ่​ขึ้น​หรอก​” เขา​กล่าว​เสียงทุ้ม​ต่ำ​

ลู่​เซิ่งฟังความนัย​ของ​เขา​ออก​

นั่น​ก็​คือ​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่สิ่งที่​คน​ระดับ​พวกเขา​ควร​ใส่ใจ อย่า​ไป​สนใจ​จะดีกว่า​

“ทราบ​แล้ว​ อย่างนั้น​ขอ​อวยพร​ให้​ท่าน​หา​แก่น​ปฐม​ได้​มากกว่า​นี้​” ลู่​เซิ่งได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ไม่พูด​อะไร​มาก​อีก​

“ขอบคุณ​” อสรพิษ​นภา​พยักหน้า​ ก่อน​จะลุก​จากไป​

ลู่​เซิ่งมอง​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​อย่าง​เงียบงัน​ รู้สึก​ว่า​เป้าหมาย​ใน​การ​จุติ​ครั้งนี้​บรรลุผล​พอสมควร​แล้ว​

“เจอ​อาจารย์​ของ​เฉินจื่อลัว​เมื่อไร​ค่อย​ไป​ก็แล้วกัน​ อย่างไร​สถานที่​แห่ง​นี้​ก็​ไม่ใช่ที่​ที่​ควร​อยู่​นาน​” เพิ่ง​ผ่าน​ไป​ได้​ไม่นาน​ เขา​ก็​เจอ​แก่น​ปฐม​และ​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​มากมาย​ขนาด​นี้​แล้ว​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นไปได้​มาก​ที่​โลก​เล็ก​ๆ ใบ​นี้​จะเป็น​โลก​ที่​ราก​แห่ง​ความเจ็บปวด​เอาไว้​รวบรวม​แก่น​ปฐม​โดยเฉพาะ​

ต่อให้​เขา​อยู่​ต่อไป​ ก็​จะต้อง​ถูก​เมล็ด​แห่ง​แก่น​ปฐม​จับตามอง​แน่​ มิสู้ไป​เอง​ดีกว่า​

พอ​นึกถึง​ตรงนี้​ ลู่​เซิ่งก็​ยก​กา​ต้ม​ชาขึ้น​ดื่ม​รวดเดียว​หมด​

จากนั้น​ ภายใน​เวลา​ครึ่ง​เดือน​กว่า​ๆ

ลู่​เซิ่งกำชับ​ให้​พันธมิตร​สามานย์​ออก​ค้นหา​ที่อยู่​ของ​หยก​เท​วะ​สุดกำลัง​ ขณะเดียวกัน​ก็​ไม่ลืม​หา​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ไป​ด้วย​

สิ่งที่​น่าเสียดาย​ก็​คือ​ การ​ที่​นำ​แก่น​ปฐม​จาก​หลวงจีน​ชรา​มาได้​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​เป็น​ความโชคดี​จริงๆ​ พันธมิตร​สามานย์​ใหญ่โต​ มีสมาชิก​มากกว่า​หมื่น​คน​ ทว่า​ตระเวน​ตามหา​กัน​กว่า​ครึ่ง​ค่อน​เดือน​ยังคง​ไม่ได้​ผลลัพธ์​อะไร​

กลับ​กลายเป็น​ว่า​หา​ที่อยู่​ของ​ตู้​เฟิงจื่อ​กับ​หนิง​เหมย​เจอ​แทน​

ผู้​ที่​ไล่ล่า​พวก​ประมุข​พรรค​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​เป็น​ขุม​กำลัง​ที่​มีชื่อว่า​ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​ แต่ว่า​ครึ่ง​เดือน​ก่อนหน้านี้​ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​ได้​ปล่อยตัว​คน​ของ​พรรค​กระบี่​บรรณ​ภูผา​และ​หนิง​เหมย​โดย​ไม่มีสาเหตุ​ รอ​จน​คน​ของ​พันธมิตร​สามานย์​เจอ​ตัว​คน​กลุ่ม​นี้​เข้า​ ตู้​เฟิงจื่อ​ก็​อยู่​บน​เส้นทาง​กลับ​เขา​บรรณ​ภูผา​แล้ว​

“โบราณ​กล่าวว่า​ อาทิตย์​ลับ​ขอบฟ้า​ ทราย​เหลือง​หิน​กระจาย​…ดูเหมือน​พืชผล​ปี​นี้​จะเก็บเกี่ยว​ได้​ไม่ดี​อีกแล้ว​…”

บน​รถ​เทียม​วัว​ ตู้​เฟิงจื่อ​มองดู​นา​ที่​แห้งเหี่ยว​สอง​ข้างทาง​พลาง​สะท้อนใจ​

หนิง​เหมย​นั่ง​อ่าน​ตำรา​ใน​มือ​อยู่​ข้าง​หน้าต่าง​ตามลำพัง​ คนอื่น​ใน​รถ​สนทนา​กัน​เบา​ๆ

“ใกล้​จะถึงเขต​ของ​เขา​บรรณ​ภูผา​แล้ว​กระมัง​” ตู้​เฟิงจื่อ​พลัน​ถาม

หนิง​เหมย​วาง​ตำรา​ลง​และ​นึก​ทบทวน​แผนที่​

“พวกเรา​เพิ่ง​ออก​มาจาก​ตำบล​หอย​ขาว​ ขอ​แค่​ผ่านเมือง​ดอก​ท้อ​ ก็​จะไป​ถึงเขา​บรรณ​ภูผา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

“ไม่รู้​ว่าที่​พรรค​จะเป็น​อย่างไรบ้าง​” ตู้​เฟิงจื่อ​ถอนใจ​

“ยังมี​ศิษย์​น้อง​เฉิน​อี​กค​น.​..เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​นะ​ เหตุใด​อยู่​ๆ ศิษย์​น้อง​เฉิน​จึงถูก​ขับ​ออกจาก​พรรค​ นั่น​คือ​ศิษย์​ของ​ข้า​ตู้​เฟิงจื่อ​แท้ๆ​! พวกเขา​มีสิทธิ์​อะไร​มาขับไล่​กัน​โดยพลการ​!” พอ​ตู้​เฟิงจื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ก็​เกิด​ความ​พลุ่งพล่าน​ใจ ก่อน​จะก้มหน้า​ไอ​ค่อ​ก​แค่​กอ​ย่า​งอด​ไม่ได้​

“อาจารย์​ ท่าน​ยัง​ไม่หาย​ดี​ เบา​เสียหน่อย​เถิด​” หนิง​เหมย​รีบ​ลุกขึ้น​มาลูบ​หลัง​ตู้​เฟิงจื่อ​เบา​ๆ

“มีคน​ มีคน​มาแล้ว​!” ทันใดนั้น​ศิษย์​ที่​ขับรถ​อยู่​ด้านนอก​ก็​เตือน​เสียงดัง​ “เป็น​คน​ของ​พรรค​กระบี่​!”

ตู้​เฟิงจื่อ​รีบ​เลิก​ม่าน​บน​รถ​ขึ้น​ก่อน​จะมอง​ไป​ด้านนอก​ เห็น​หวัง​เยวี่ย​แห่ง​พรรค​กระบี่​บรรณ​ภูผา​พา​ศิษย์​วัยเยาว์​หลาย​คน​มารอ​อยู่​ใน​เพิง​ขาย​น้ำชา​แห่ง​หนึ่ง​ด้านหน้า​พอดี​

เพียงแต่​สิ่งที่​ผิด​กับ​ที่​เขา​คิด​ไว้​ก็​คือ​ พวก​หวัง​เยวี่ย​ต่าง​ได้รับบาดเจ็บ​ มีสภาพ​ทุลักทุเล​อย่างยิ่ง​

รถ​เทียม​วัว​แล่น​ไป​ถึงอย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​ตู้​เฟิงจื่อ​ก็​พลิกตัว​ลงรถ​เข้า​ไปหา​

“ผู้อาวุโส​ตู้​…” ครั้น​เห็น​ตู้​เฟิงจื่อ​ พวก​หวัง​เยวี่ย​ก็​เกิด​ความเสียใจ​ขึ้น​ชั่วขณะ​

“พรรค​บรรณ​ภูผา​…พรรค​บรรณ​ภูผา​…” หวัง​เยวี่ย​เดิน​ขึ้นหน้า​หลาย​ก้าว​ แล้ว​โซเซที​หนึ่ง​จน​เกือบจะ​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​

ตู้​เฟิงจื่อ​รีบ​ประคอง​เขา​ไว้​ด้วย​ความตกใจ​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​!?” เขา​ถามเสียง​เร่งร้อน​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท