บทที่ 798 เสร็จสิ้น (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ลู่​เซิ่งอยู่​ใน​ตำบล​ใต้​ตีนเขา​ของ​พรรค​กระบี่​บรรณ​ภูผา​

รอบตัว​เขา​คือ​โรงเรียนกวดวิชา​ที่​มีอาจารย์​สอน​ความรู้​ ด้านใน​มีเสียง​ท่องหนังสือ​ของ​เหล่า​เด็ก​ๆ ที่​ไพเราะ​ดัง​มาไม่ขาดสาย​

สิ่งที่​ท่อง​คือ​หนังสือ​สอน​อ่าน​ที่​ใช้ประโยค​สั้น​เรียบง่าย​เหมือนกับ​คัมภีร์​ตรี​อักษร​และ​สมุด​ร้อย​แซ่

ลู่​เซิ่งเดิน​ไป​ได้​อีก​สอง​สามก้าว​ก็​พลัน​หยุด​ลง​

ด้านหน้า​รถเข็น​คัน​เล็ก​ที่​ขาย​เครื่องประดับ​มีหญิงสาว​หลาย​คน​กำลัง​เลือก​เครื่องประดับ​อยู่​

สอง​คนใน​นั้น​คือ​เห​อชู่ห​ร่วน​กับ​เห​อชู่เซียง​

หญิงสาว​ทั้งสอง​นาง​กำลัง​ถือ​เครื่องเงิน​พลาง​พิจารณา​อยู่​ พลัน​สัมผัส​ได้​ว่า​มีคน​จ้องมอง​มา จึงรีบ​เงยหน้า​มอง​

พอ​เห็น​ว่า​เป็น​ลู่​เซิ่ง เห​อชู่ห​ร่วน​ก็​ผุด​สีหน้า​แตกตื่น​ยินดี​ รีบ​ลาก​น้อง​สาวก้าว​เท้า​ยาว​ๆ มาด้าน​นี้​

“เฉินจื่อลัว!”​ นาง​ทักทาย​เสียงดัง​

ลู่​เซิ่งหยุด​ฝีเท้า​รอ​ให้​นาง​เข้าใกล้​

“ไม่เจอกัน​นาน​ทีเดียว​” เขา​ยิ้ม​

“ไม่เจอกัน​นาน​จริงๆ​ หลัง​ออกจาก​เขา​บรรณ​ภูผา​ท่าน​ไป​อยู่​ไหน​มา” เห​อชู่ห​ร่วน​ยังคง​ใส่ชุด​ล่าสัตว์​สีดำ​แนบเนื้อ​ขับ​เน้น​ขา​เรียว​ยาว​กับ​หน้าอก​ให้​โดดเด่น​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ ทำให้​คนเดินถนน​ที่อยู่​โดยรอบ​อด​มอง​ไม่ได้​

ส่วน​เห​อชู่เซียง​ใส่ชุด​รัดกุม​กว่า​ สวม​กระโปรง​สีน้ำเงิน​อม​ม่วง​ กำลัง​มอง​ลู่​เซิ่งอย่าง​สนใจ​

“ข้า​ไป​เที่ยวเล่น​ที่อื่น​มา ความ​จริงอยู่​คนเดียว​ก็​อิสระ​ดี​” ลู่​เซิ่งตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

“นับตั้งแต่​ซ่งซิ่น​หรู​เอาชนะ​หวัง​โหว​จงใน​ครั้งก่อน​ ข้า​ก็​ได้ยิน​มาว่า​ท่าน​ถูก​คน​ทำร้าย​จน​บาดเจ็บสาหัส​ ทั้ง​ยัง​ลอบ​โจมตี​ศิษย์​พี่ใหญ่​อย่าง​กวน​ซิ่ว​เหนียน​ที่​เป็น​ผู้นำ​ สุดท้าย​อาศัย​จังหวะ​สับสน​หนี​ออกมา​…นี่​ไม่ใช่เรื่องจริง​กระมัง​” เห​อชู่ห​ร่วน​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ร้อนใจ​ แต่​ความ​ร้อนใจ​ที่​แฝงอยู่​ใน​คำพูด​ยังคง​ทำให้​ลู่​เซิ่งตื้นตัน​เล็กน้อย​

แสดงให้เห็น​ว่า​นาง​ยัง​เห็น​เขา​เป็น​สหาย​ ไม่ได้​เชื่อ​คำพูด​ผีสาง​ที่​พรรค​กระบี่​บรรณ​ภูผา​ประกาศ​ออกมา​

ทั้งที่​เขา​เอาชนะ​หวัง​โหว​จงได้​ ใน​ข่าว​ที่​พรรค​บรรณ​ภูผา​ส่งออกมา​กลับ​กลายเป็น​ซ่งซิ่น​หรู​เอาชนะ​แทน​ แถมเขา​ยัง​ลอบ​โจมตี​กวน​ซิ่น​เหนียน​ จากนั้น​ก็​อาศัย​จัว​หวะ​ชุลมุน​หลบหนี​อีก​

ล้อเล่น​หรือ​ คน​อย่าง​กวน​ซิ่ว​เหนียน​ เป็น​สวะ​ที่​ใช้นิ้ว​เดียว​ก็​บด​บี้​ให้​ตาย​ได้​ ยัง​จำเป็นต้อง​ลอบ​โจมตี​อีก​หรือ​ พร​รบ​บรรณ​ภูผา​นี้​ยิ่ง​อยู่​ยิ่ง​ถอยหลัง​ลง​คลอง​แล้ว​…

ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​ใน​ใจ คร้าน​จะอธิบาย​

“สิ่งที่​พวกเขา​บอก​เป็นเรื่อง​แต่ง​” เขา​ตอบ​อย่าง​ราบเรียบ​

“ข้า​ย่อม​รู้​ว่า​เป็นเรื่อง​โกหก​ ดู​เจ้าคนขี้ขลาด​อย่าง​กวน​ซิ่ว​เหนียน​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​คำพูด​นี้​ปลอม​แค่​ไหน​” เห​อชู่ห​ร่วน​แค่น​เสียง​

“แล้ว​ตอนนี้​เจ้าเป็น​อย่างไรบ้าง​” ลู่​เซิ่งถาม

“สบายดี​…” นัยน์ตา​ของ​เห​อชู่ห​ร่วน​มีความกังวล​เล็กน้อย​ แต่​ไม่ได้​แสดงออก​

“ก่อนหน้านี้​ มียอด​ฝีมือ​มาขอให้​บิดา​ข้า​ปรุง​ยาพิษ​ บิดา​ข้า​ไม่ยอม​ร่วมมือ​ สอง​ฝ่าย​จึงสู้กัน​ บิดา​ข้า​ได้รับบาดเจ็บ​ ช่วงนี้​จึงพัก​รักษาตัว​อยู่​ตลอด​” เห​อชู่เซียง​บอกเล่า​ความจริง​จาก​ด้าน​ข้าง​อย่าง​ตั้งใจ​ “ตอนนี้​คน​พวก​นั้น​กำหนด​วัน​ให้​พวกเรา​มอบ​ผง​ยา​ให้​ ไม่อย่างนั้น​จะ…”

“ยอด​ฝีมือ​หรือ​” ลู่​เซิ่งเลิกคิ้ว​

“ใช่ ถ้าก่อนหน้านี้​พรรค​บรรณ​ภูผา​ยังอยู่​ คนอื่น​อาจจะ​กริ่งเกรง​อยู่​บ้าง​ แต่​ตอนนี้​พรรค​บรรณ​ภูผา​ไม่เหลือ​แม้แต่​ซุ้มประตู​ด้วยซ้ำ​ เดือนก่อน​ยอด​ฝีมือ​ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​ขึ้น​เขา​ไป​ มีแต่​พวก​ผู้อาวุโส​หวัง​เยวี่ย​ไม่กี่​คน​หลบหนี​ออกมา​ คนอื่น​ล้วน​ตาย​หมดสิ้น​…” เห​อชู่ห​ร่วน​เอ่ย​อย่าง​จนปัญญา​

“ดังนั้น​ตอนนี้​เลย​ได้​แต่​พึ่งตัวเอง​แล้ว​”

“ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​หรือ​” ลู่​เซิ่งจด​จำได้​ว่า​คน​สวม​อาภรณ์​เทา​สอง​คน​ที่​ประจัญ​หน้า​กับ​ตน​บน​เขา​เส้าหลิน​ใน​ครั้งกระโน้น​เหมือน​จะเป็น​คน​ของ​ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​

ก่อนหน้านี้​พัก​หนึ่ง​ดูเหมือน​ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​จะส่งคน​มาถามตัวเอง​เกี่ยวกับ​ท่าที​ที่​เขา​มีต่อ​พรรค​บรรณ​ภูผา​ ลู่​เซิ่งจำได้​ว่า​ตอนนั้น​ตน​ตอบ​ส่งๆ แบบ​ขอไปที​ แต่​ดู​จาก​ตอนนี้​เหมือนว่า​หลังจาก​ลัทธิ​สังหาร​โลหิต​ทราบ​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ตอน​หวัง​โหว​จงบุก​เขา​ใน​ตอนนั้น​จงใจตอบแทน​ตนเอง​

ลู่​เซิ่งนึกย้อน​ไป​

สำนัก​อย่าง​ลัทธิ​โลหิต​สังหาร​เหมือน​กำลัง​วางหมาก​กระดาน​ใหญ่​อยู่​ ครึ่ง​เดือน​ก่อนหน้านี้​ พวกเขา​ส่งคน​มาติดต่อ​กับ​เขา​ ทว่า​ตอนนั้น​ลู่​เซิ่งตัดสินใจ​จะจากไป​แล้ว​ จึงไม่ได้​รับปาก​

เขา​ผิด​กับ​มาร​สวรรค์​คนอื่น​ตรง​ที่​มาร​สวรรค์​พวก​นั้น​จะอยู่​เป็นเวลา​อย่าง​ต่ำสุด​สิบ​ยี่สิบ​ปี​เพราะ​ผลประโยชน์​ทั้งหมด​ของ​โลก​ ดังนั้น​จึงมีเวลา​วางแผนการ​เหลือเฟือ​

แต่​เขา​ไม่เหมือนกัน​

“แล้ว​ตอนนี้​พรรค​กระบี่​บรรณ​ภูผา​มีคน​รอด​มากี่​คน​” ลู่​เซิ่งถามอีก​

“เหลือ​แค่​หวัง​เยวี่ย​กับ​ศิษย์​ที่​แข็งแกร่ง​หน่อย​เท่านั้น​…ตอนที่​บิดา​ข้า​เร่งรุด​ไป​ถึงก็​สาย​ไป​แล้ว​ เพียง​ไล่​คน​จาก​ลัทธิ​โลหิต​สังหาร​ส่วนหนึ่ง​ไป​ได้​เท่านั้น​” เห​อชู่ห​ร่วน​ตอบ​พลาง​ส่ายหน้า​

“ไม่เป็นไร​หรอก​ ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เรื่อง​ของ​บิดา​เจ้า” ลู่​เซิ่งไตร่ตรอง​เล็กน้อย​ “ดูเหมือน​ข้า​จะเคย​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​มาก่อน​ คน​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ยอด​ฝีมือ​ที่​ไปหา​บิดา​เจ้าใกล้​จะตาย​แล้ว​ ไม่มีเวลา​มาหาเรื่อง​บิดา​เจ้าแล้ว​ล่ะ​”

“อย่างนั้น​หรือ​” เห​อชู่ห​ร่วน​งุนงง​

“อือ​ ใช่แล้ว​” ถึงจะไม่รู้​ว่า​คน​ผู้​นั้น​คือ​ใคร​ แต่​อีก​ประเดี๋ยว​ลู่​เซิ่งออกคำสั่ง​คำ​เดียว​ก็​พอ​ หาก​เขา​บอ​กว่า​คน​ผู้​นั้น​ใกล้​จบ​แล้ว​ เช่นนั้น​ก็​จะต้อง​ใกล้​ตาย​จริงๆ​ แล้ว​

“ไม่พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​ วันหน้า​เล่า​ ท่าน​มีแผนการ​อะไร​” เห​อชู่ห​ร่วน​เดิน​บน​ริมถนน​เคียงข้าง​ลู่​เซิ่ง

“ข้า​เตรียม​จะเดินทางไกล​ไป​เก็บเกี่ยว​ประสบการณ์​เพื่อ​ฝึกฝน​มรรคา​ยุทธ์​สักหน่อย​” ลู่​เซิ่งตอบ​

“เก็บเกี่ยว​ประสบการณ์​หรือ​ ดูเหมือน​จะไป​ที่​ที่อยู่​ไกล​มาก​เสียแล้ว​” เห​อชู่ห​ร่วน​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ นาง​มีสหาย​ไม่มาก​ ลู่​เซิ่งนับ​เป็น​คน​หนึ่ง​

“ใช่แล้ว​ ไกล​ทีเดียว​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​ “ถ้าหาก​เจ้ามีเวลาว่าง​ ช่วยดูแล​อาจารย์​ข้า​ให้​หน่อย​นะ​”

“ไม่มีปัญหา​ แต่ว่า​…ข้า​จะได้​อะไร​เล่า​” เห​อชู่ห​ร่วน​สัพยอก​

“ได้​อะไร​หรือ​…สิ่งนี้​ไง…” ลู่​เซิ่งดีด​หน้าผาก​นาง​แผ่วเบา​

ตูม​!

ชั่ว​ขณะนั้น​มีปราณ​ปฐพี​หลาย​สาย​ไหล​เข้าไป​ใน​สมอง​ของ​เห​อชู่ห​รวน​ เริ่ม​หล่อเลี้ยง​ไข​สมอง​ของ​นาง​อย่าง​รวดเร็ว​ การ​กระตุ้น​ทาง​ประสาท​ที่​น่าอัศจรรย์​ได้​ส่งไป​ทั่ว​สรรพางค์​ของ​นาง​ผ่าน​เส้นประสาท​ทั่ว​ร่าง​

เห​อชู่ห​รวน​ตะลึงงัน​ ยืน​งุนงง​อยู่กับที่​ไม่ขยับเขยื้อน​ ใน​สมอง​ของ​นาง​มีคัมภีร์​เล่ม​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​โดยอัตโนมัติ​

ปก​คัมภีร์​เขียน​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ กระบี่​มหา​นกกระจาบ​เมฆาหางนกยูง​

“นี่​เป็น​วิชา​กระบี่​สูงสุด​ที่​ข้า​ปรับเปลี่ยน​จาก​กระบี่​นกกระจาบ​เมฆาหางนกยูง​ ตอนนี้​ขอ​ถ่ายทอด​ให้​เจ้า อย่า​ทำให้​ข้า​ผิดหวัง​เล่า​” เสียง​ไกลลิบ​ของ​ลู่​เซิ่งลอย​มาเข้าหู​นาง​

เห​อชู่ห​ร่วน​พลัน​ลืมตา​ เห็น​เห​อชู่เซียง​กำลัง​ตบหน้า​ของ​ตน​ด้วย​อาราม​ตระหนก​ ส่วน​ลู่​เซิ่งที่อยู่​ด้านหน้า​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​สิบ​กว่า​หมี่​โดย​ไม่หัน​กลับมา​ก่อน​จะหาย​ไป​จาก​มุมถนน​อย่าง​รวดเร็ว​

นาง​รีบ​วิ่ง​ตาม​ไป​

แต่​อยู่​ๆ ก็​มีชายฉกรรจ์​ร่าง​บึกบึน​สอง​คน​ขวางทาง​นาง​ไว้​

“หยุด​ก่อน​ ท่าน​ผู้นำ​ให้​พวกเรา​บอก​ท่าน​ว่า​ ถ้าฝึก​วิชา​กระบี่​ถึงขีดจำกัด​ สามารถ​ไปหา​เขา​ที่​แท่นบูชา​หลัก​ของ​พันธมิตร​สามานย์​ได้​” ชายฉกรรจ์​ที่อยู่​ทางขวา​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

“พันธมิตร​สามานย์​หรือ​” พวก​เห​อชู่ห​ร่วน​พลัน​ผุด​สีหน้า​หวาดกลัว​ “เขา​ไป​เกี่ยวกับ​พันธมิตร​สามานย์​ได้​อย่างไร​!”

“เพราะ​ท่าน​ผู้​นั้น​คือ​ท่าน​ผู้นำ​ใหญ่​ของ​พันธมิตร​สามานย์​ของ​พวกเรา​อย่างไรเล่า​” ชายฉกรรจ์​สอง​คน​มอง​พวก​เห​อชู่ห​ร่วน​ด้วย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ เห็น​คุย​กัน​อยู่​นาน​ สุดท้าย​กลับ​ไม่ทราบ​สถานะ​ท่าน​ผู้นำ​หรอก​หรือ​นี่​

เห​อชู่ห​ร่วน​พลัน​ตกใจ​จน​เสียง​หาย​ นาง​ลืม​ตาโต​ ปาก​เล็ก​อ้า​เล็กน้อย​ หุบ​ไม่ลง​อยู่​ชั่วขณะ​

เห​อชู่เซียง​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ส่งเสียงร้อง​กรี๊ด​ จากนั้น​ก็​กัด​ริมฝีปาก​ล่าง​ ดวงตา​ฉายแวว​ตื่นตระหนก​และ​คับข้องใจ​

“โอ๊ย​! รู้​อย่างนี้​แต่แรก​ไม่ยก​ให้​ท่าน​พี่​ดีกว่า​! นั่น​มัน​ท่าน​ผู้นำ​แห่ง​พันธมิตร​สามานย์​เชียว​นะ​! หาก​หลอก​เอา​อะไร​สัก​อย่าง​จาก​ตัว​เขา​ได้​ ชาติ​นี้​ก็​ไม่มีทาง​ใช้หมด​! แต่​…พวก​ท่าน​คง​ไม่ได้​แต่งเรื่อง​หลอก​กัน​ใช่ไหม​”

“เซียงเซียง!”​ เห​อชู่ห​ร่วน​ได้สติ​กลับมา​ บีบ​หน้า​รูปไข่​ของ​น้องสาว​อย่าง​แรง​ “หัวสมอง​น้อย​ๆ ของ​เจ้าคิด​อะไร​อยู่​กัน​! จะสนใจ​ทำไม​ว่า​จริง​หรือ​ปลอม​ ไป​! กลับบ้าน​กัน​!”

วินาที​นี้​ นาง​เข้าใจ​ในทันที​ว่า​เหตุใด​พรรค​บรรณ​ภูผา​จึงกระจาย​ข่าว​ใส่ร้าย​ลู่​เซิ่ง

ส่วน​สถานะ​ของ​ลู่​เซิ่ง นาง​รู้ดี​ว่า​พันธมิตร​สามานย์​เป็น​แบบ​ไหน​ ถ้ามีคน​อ้าง​ตัว​เป็น​ผู้นำ​อย่าง​เปิดเผย​ วัน​ต่อมา​ศพ​ของ​เขา​จะถูกวาง​ไว้​บน​ถนน​เพื่อ​แสดง​ให้​ทุกคน​เห็น​

สำนัก​สามานย์​ที่​ไร้​กฎ​ไร้​เกณฑ์​นี้​จะมีใคร​กล้า​มาอ้าง​ตัว​กัน​

“เจ็บ​ๆๆ! ท่าน​พี่​ปล่อยมือ​ได้​แล้ว​!”

หญิงสาว​สอง​คน​ทะเลาะ​กัน​ วิ่ง​ไล่ตาม​กัน​ไป​ยัง​ที่​ไกล​

ลู่​เซิ่งยืน​อยู่​บน​หลังคา​คฤหาสน์​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ห่าง​ออกมา​โดย​มียอด​ฝีมือ​ใน​พันธมิตร​สอง​คน​หนึ่ง​เตี้ย​หนึ่ง​ต่ำ​อยู่​ด้านหลัง​ มอง​เห​อชู่ห​ร่วน​ที่​จากไป​ไกล​

เขา​จัดการ​ผลกรรม​สุดท้าย​เรียบร้อย​แล้ว​ ถึงเวลา​กลับ​สักที​

อย่างไร​โลก​เล็ก​ๆ ใบ​นี้​ก็​เป็น​โลก​วรยุทธ์​ระดับ​ต่ำ​ การ​ที่​ได้​อะไร​มามากมาย​ขนาด​นี้​ก็​ถือว่า​ดี​เหนือ​ความคาดหมาย​แล้ว​

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​ออก​ไป​ว่า​ข้า​จะกัก​ตน​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​เสียงต่ำ​

“นับตั้งแต่​วันที่​ข้า​กัก​ตน​ ภารกิจ​ใน​พันธมิตร​ทั้งหมด​ขอ​มอบให้​รอง​ผู้นำ​หวัง​โหว​จงจัดการ​”

“ขอรับ​!”

ลู่​เซิ่งก้ม​มอง​ตำบล​เล็ก​นี้​เป็น​ครั้งสุดท้าย​

กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​โบราณ​และ​ควัน​ปรุงอาหาร​ใน​ตัว​ตำบล​เหมือน​ทำให้​รู้สึก​กลับมา​อยู่​ใน​ยุค​โบราณ​ของ​โลก​ใบ​เดิม​

ขณะ​มองดู​ปุถุชน​ที่​ใช้ชีวิต​อย่าง​ธรรมดา​เหล่านั้น​ ใน​อดีต​เขา​เอง​ก็​เคย​เป็นสมาชิก​คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​เหมือนกัน​ เป็น​เพียง​คุณชาย​บ้าน​รวย​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​

ทว่า​ตอนนี้​ไม่อาจ​กลับ​ไปหา​ชีวิต​ธรรมดา​เรียบง่าย​แบบนี้​ได้​อีกแล้ว​

ลู่​เซิ่งถอนใจ​แผ่วเบา​ก่อน​จะเหิน​ร่าง​พุ่ง​ออก​ไป​ไกล​

อีก​สอง​คน​ที่​เหลือ​ตามหลัง​ไป​ติดๆ​ ทั้ง​สามหาย​ไป​ใน​แสงสายัณห์​ยาม​เย็น​อย่าง​รวดเร็ว​

ณ โลก​มาร​สวรรค์​ ดาว​เงาพริบตา​

ด้านใน​ถ้ำใต้ดิน​ บัน​ไซกับ​ทัวห​ลัน​ปา​เฮ่อ​รอคอย​ให้​ค่าย​กล​ด้านหน้า​ทำงาน​อีกครั้ง​

เมื่อครู่นี้​พวกเขา​ได้รับ​การ​แจ้งเตือน​จาก​ค่าย​กล​ว่า​ ลู่​เซิ่งกลับ​มาจาก​โลก​ใบ​เล็ก​แล้ว​ ทั้งสอง​จึงวาง​ภารกิจ​ทุกอย่าง​ แล้ว​มารอคอย​อยู่​ที่นี่​อย่าง​นิ่งเงียบ​

ลู่​เซิ่งใน​ปัจจุบัน​เป็น​ความมั่นใจ​และ​หัวใจสำคัญ​ของ​ดาวเคราะห์​รอบข้าง​นี้​

ไม่ว่า​จะอยู่​ใน​สำนัก​นที​คราม​ ระบบ​ดาว​ปร​ภพ​ หรือ​แม้แต่​เขต​อื่น​อย่าง​นคร​ตราชั่ง​กับ​สำนัก​แปลง​วายุ​ ชื่อ​จักรพรรดิ​มาร​ชุ่นอิ่ง​ล้วน​มีอิทธิพล​ทั้งสิ้น​

หลังจาก​ชื่อเสียง​ขจร​ขจาย​ คน​ที่​ต้องการ​มากราบ​เขา​เป็น​อาจารย์​ก็​จำนวน​ทบ​ทวี​ขึ้น​เรื่อยๆ​

ต่อให้​สำนัก​นที​คราม​จะอยู่​ใน​ช่วง​สงคราม​ ก็​ต้านทาน​ความ​คลั่งไคล้​ของ​คน​เหล่านี้​ไม่ได้​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ค่าย​กล​ขนาด​ยักษ์​พลัน​สั่น​ไหว​ ถัด​จากนั้น​ผลึก​สายฟ้า​ที่​เสียบ​อยู่​โดยรอบ​ก็​เรืองแสง​สีทอง​ กระแสไฟฟ้า​สีทอง​หลาย​สาย​ทะลัก​ออก​มาจาก​ด้านใน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ดัง​เปรี๊ยะ​วม​ตัว​กัน​กลาง​ค่าย​กล​

ตูม​!

เกิด​เสียงดัง​กึกก้อง​ กระแสไฟฟ้า​สีทอง​ชน​ใส่กัน​อย่าง​รุนแรง​ แล้ว​ฉีก​ช่อง​สีเทา​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ให้​ขยาย​ใหญ่​กลายเป็น​รอยแตก​รูปทรง​ดวงตา​ที่สูง​เท่า​หนึ่ง​คน​

แสงสีเหลือง​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ใน​รอยแยก​ ทิ้งตัว​ลง​กลาง​พื้น​ของ​ค่าย​กล​อย่าง​แม่นยำ​

พอ​แสงสีเหลือง​เลือนหาย​ เงาราง​ของ​ลู่​เซิ่งก็​ปรากฏ​ออกมา​

“นาย​ท่าน​ ในที่สุด​ท่าน​ก็​กลับมา​แล้ว​!” พอ​เห็น​ลู่​เซิ่งกลับมา​ บัน​ไซก็​ผลุนผลัน​พุ่ง​เข้าไป​

ทัวห​ลัน​ปา​เฮ่อ​ตามหลัง​ไป​ติดๆ​ ด้วย​ใบหน้า​เป็นกังวล​ เห็นได้ชัด​ว่า​เกิด​เรื่องใหญ่​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​จน​ทำให้​ทั้งสอง​ร้อนรน​ใจเช่นนี้​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​ พวก​เจ้าลนลาน​อะไร​ ใจเย็น​หน่อย​!” ลู่​เซิ่งดีด​แสงสีเหลือง​สอง​สาย​ไป​ตรึง​ทั้งสอง​ไว้​

รอ​จน​คลื่น​ค่าย​กล​สงบ​ลง​ เขา​จึงก้าว​เท้า​ออกจาก​ค่าย​กล​ไป​ยืน​ตรงหน้า​คน​ทั้งสอง​

“พวกเรา​ไม่ได้​ลนลาน​นะ​ขอรับ​ นาย​ท่าน​! สัตว์​โบราณ​ นั่น​มัน​สัตว์​โบราณ​เชียว​นะ​ขอรับ​!” บัน​ไซร้อง​

“หุบปาก​!” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​หงุดหงิด​ก่อน​จะชี้นิ้ว​ไป​ที่​อีก​ฝ่าย​ แสงสีเหลือง​พลัน​ปิดปาก​ของ​บัน​ไซไว้​ “เจ้าเล่า​มา!” เขา​มอง​ไป​ยัง​ทัวห​ลัน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​

ทัวห​ลัน​พยักหน้า​

“แปด​วัน​ก่อนหน้านี้​ อสูร​อินทรี​ราชสีห์​แปด​เศียร​ที่​เป็น​เผ่า​สัตว์​โบราณ​โจมตี​พันธมิตร​วิญญาณ​ดวงดาว​บน​เขต​ดาว​เขต​นี้​เจ้าค่ะ​”

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท