บทที่ 810 หมากลับ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ฆ่ามัน​…”

“ฆ่ามัน​…”

“ฆ่า…”

หญิงสาว​สวม​เด​รส​สีแดง​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ใน​เงามืด​ใต้​ไฟเหลือง​สลัว​ริมถนน​ สอง​ตา​มอง​เหม่อ​ไกล​ออก​ไป​

หน้าซีด​ขาว​ของ​เธอ​ฉายแวว​ร้อนรน​ แต่​ก็​ดู​ไร้​ชีวิตชีวา​ยิ่งกว่า​เดิม​เมื่อ​อยู่​ใน​เงามืด​

“ฉัน​กำลัง​ฟัง…” หญิงสาว​ตอบ​เสียง​ที่​ลอย​เข้าหู​ของ​เธอ​อย่าง​ต่อ​เนื่องจาก​ใน​ความมืด​

“ฉัน​กำลัง​ฟัง…เสียง​ที่​มาจาก​ความมืด​…”

หมอก​จางค่อย​เริ่ม​แผ่​กระจาย​ออกมา​รอบตัว​หญิงสาว​ แสงไฟสีเหลือง​จาก​ไฟริมถนน​ดู​สลัว​ลง​กว่า​เดิม​เหตุ​ด้วย​ถูก​หมอก​บดบัง​

“ราชา​แห่ง​วารี​ที่​ยิ่งใหญ่​…พลัง​ของ​ราชา​แห่ง​วารี​คงอยู่​ทุก​แห่งหน​ พิธีกรรม​ของ​พวกเรา​จะต้อง​จัด​ขึ้น​ให้ได้​ ทุกคน​ที่​ขัดขวาง​จะต้อง​ถูก​กำจัด​ทิ้ง​!” เสียง​ใน​ความมืด​กล่าว​ต่อ​

“ฉัน​รู้​…” หญิงสาว​ตอบ​เสียงต่ำ​

“ขอ​แค่​จัด​พิธีกรรม​ได้​อย่าง​ราบรื่น​ พลัง​ของ​ราชา​แห่ง​วารี​จะชำระล้าง​ลอนดอน​ พวก​มัน​จะโหยหวน​ ร่ำไห้​ และ​สำนึก​เสียใจ​ต่อ​อาชญากรรม​มากมาย​ที่​ได้​ทำ​ลง​ไป​ใน​หุบเหว​แห่ง​วารี​ที่​ไร้​สิ้นสุด​”

“ตอนนี้​สร้าง​ตราประทับ​เสร็จสิ้น​ไป​สอง​ครั้ง​แล้ว​ ขอ​แค่​มีครั้ง​ที่สาม​ ก็​จะเริ่ม​พิธีกรรม​ขั้นแรก​ได้​…ทูต​จะก้าว​ข้าม​ผ่าน​โลก​มา…แล้ว​ค่อย​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​และ​เริ่ม​พิธีกรรม​ช่วง​ที่สอง​” เสียง​นั้น​ว่า​ต่อ​

“ดังนั้น​ จงไป​เถอะ​…ไป​ฆ่าผู้​ขัดขวาง​ทั้งหมด​ ไม่ว่า​จะเป็น​ใคร​…ไม่ว่า​จะ…”

หญิงสาว​ยืน​เงียบงัน​อยู่​ใน​เงามืด​

ทันใดนั้น​ ผม​สีดำ​ของ​เธอ​ก็​ยาว​ขึ้น​และ​เพิ่มจำนวน​ขึ้น​เรื่อยๆ​ พริบตาเดียว​ก็​ตกลง​ไป​บน​พื้น​ราวกับ​สายน้ำ​ แล้ว​เริ่ม​แผ่​กระจาย​ไป​โดยรอบ​

พื้น​ใต้​ร่าง​เธอ​กลายเป็น​สีดำ​จาก​ผม​ดำ​กอง​สุมรวมกัน​ ส่วนตัว​หญิงสาว​ค่อยๆ​ หลอมละลาย​กลายเป็น​เส้น​ผม​นับไม่ถ้วน​ และ​แยกส่วน​ลงมา​ผสม​กับ​ผม​สีดำ​ข้างใต้​ ก่อน​จะหาย​ไป​ทันที​

‘จิตวิญญาณ​ของ​เรา​…กำลัง​ยกระดับ​อยู่​…’ ลู่​เซิ่งไม่เคย​เกิด​ความรู้สึก​แบบนี้​มาก่อน​ การ​ยกระดับ​พลัง​ใน​โลก​ใบ​เล็ก​ถึงกับ​ทำให้​จิตวิญญาณ​เพิ่ม​ระดับ​ขึ้นไป​ด้วย​เหมือนกับ​คนธรรมดา​!

พึง​ทราบ​ว่า​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​ไป​ถึงขั้น​ที่​ยิ่งใหญ่​จน​ไม่อาจ​ยิ่งใหญ่​ไป​กว่า​นี้​ได้​อีกแล้ว​ ทว่า​ระดับ​แบบนี้​ยัง​ยกระดับ​ขึ้น​ต่อ​ได้​อีก​ ช่างน่า​เหลือเชื่อ​โดยแท้​

ทันใดนั้น​เขา​ก็​อด​นึกถึง​สัญลักษณ์​ลึกลับ​ที่​ตน​ได้​เห็น​ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​ งูตัว​หนึ่ง​ที่​ขด​เป็น​วงแหวน​รอบ​ดวงตา​ข้าง​หนึ่ง​…

‘ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ก็​เป็น​ดวงตา​เหมือนกัน​ และ​สิ่งนี้​ก็​เป็น​ดวงตา​…’ ไม่รู้​เพราะเหตุใด​เขา​ถึงเกิด​ความรู้สึก​คุ้นเคย​บางอย่าง​กับ​สัญลักษณ์​ประเภท​นี้​ เหมือนกับ​เขา​เคย​เห็น​ของ​สิ่งนี้​มานาน​มาก​ๆ แล้ว​

‘ยกระดับ​ต่อ​…ระดับ​ยี่สิบ​สี่…วิชา​เลือด​ลม​…’ เลือด​ลม​เป็น​สิ่งที่​สามารถ​ยกระดับ​ได้​อย่าง​ไร้ขีดจำกัด​ ขอ​แค่​ร่างกาย​รองรับ​ไหว​ก็​พอแล้ว​

ลู่​เซิ่งไม่เคย​ลอง​ใช้วิธี​ยกระดับ​เลือด​ลม​เพื่อ​ยกระดับ​คุณสมบัติ​ทุก​ด้าน​มาก่อน​

วิถี​นี้​เป็น​การทดลอง​ ทดลอง​ขีดจำกัด​เลือด​ลม​ที่​สิ่งชีวิต​บน​โลก​ใบ​นี้​จะรอง​รับได้​

ฮู่ว…​

ฮ่า…

ฮู่ว…​

ลู่​เซิ่งที่​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​ห้อง​ ปอด​สูด​ลึก​และ​ผ่อนปรน​อากาศ​ขนาดใหญ่​หลาย​สาย​อย่าง​ไม่หยุดยั้ง​ เขา​ใน​ตอนนี้​มีเลือด​ลม​เยอะ​กว่า​คนธรรมดา​ถึง 2.4 เท่า​แล้ว​ การ​ยกระดับ​ทุก​ด้าน​แบบนี้​ไม่เพียง​มีแค่​การป้องกัน​ พลัง​ฟื้นฟู​ หรือ​ความเร็ว​เท่านั้น​ ยังมี​จิตวิญญาณ​ด้วย​…

เขา​เหมือน​ย้อนกลับ​ไป​สู่สภาพ​คนธรรมดา​ ตอนนั้น​ขอ​แค่​กาย​เนื้อ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​แค่​นิดเดียว​ ก็​จะทำให้​จิตวิญญาณ​ยกระดับ​ตาม​ไป​ด้วย​

‘มีบางอย่าง​ผิดปกติ​…!’

เลือด​ลม​พอง​ขยาย​และ​เพิ่มจำนวน​ขึ้น​เรื่อยๆ​

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ว่า​ทั่ว​ร่าง​เกิด​อาการ​ปวด​บวม​ นี่​เป็นปัญหา​ที่​เกิดขึ้น​เพราะ​กาย​เนื้อ​เริ่ม​ไม่อาจ​รองรับ​เลือด​ลม​ที่​เพิ่มขึ้น​ได้​ใน​เวลา​อัน​สั้น​

นี่​ไม่ได้​เกิดขึ้น​เพราะ​ขีดจำกัด​จาก​ยีน​ใน​ร่าง​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ปรับตัว​ได้​เร็ว​ขนาด​นี้​

‘ปราณ​ปฐพี​!’ ลู่​เซิ่งโคจร​พลัง​ของ​ร่าง​หลัก​ กระแส​อากาศ​สีเหลือง​หลาย​สาย​โคจร​ใน​ร่าง​อย่าง​รวดเร็ว​ ที่ใด​กาย​เนื้อ​เสียหาย​ ก็​จะพุ่ง​เข้าไป​เร่ง​ฟื้นฟู​

เวลา​ค่อยๆ​ เคลื่อน​ผ่าน​ไป​

ระดับ​ยี่สิบ​หก​…

ระดับ​สามสิบ.​..

ระดับ​สี่สิบ.​..

ระดับ​สี่สิบ​หก​…

ระดับ​สี่สิบ​เจ็ด​…

ระดับ​สี่สิบ​แปด​…

ตูม​!

ทันใดนั้น​ก็​มีเลือด​ไหล​ออก​มาจาก​ตา​ หู​ จมูก​ ปาก​ของ​ลู่​เซิ่ง

เขา​ลืมตาอ้าปาก​ ราวกับ​ส่งเสียง​ตะโกน​ที่​ไร้​เสียง​ เส้นเลือดฝอย​ใน​ดวงตา​ใกล้​ปริ​แตก​

‘ใกล้​จะไม่ไหว​แล้ว​ ถึงขีดจำกัด​แล้ว​ ดูเหมือน​ได้​แต่​รอ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ใน​ครั้ง​ต่อไป​แทน​…’ ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ถึงความเจ็บปวด​ที่​เหมือนกับ​ทั้ง​ร่าง​ถูก​ฉีก​กระชาก​แทบจะ​ระเบิด​ จึงเตรียม​จะให้​ปราณ​ปฐพี​หล่อเลี้ยง​และ​ฟื้นฟู​ร่างกาย​ต่อ​

ทันใดนั้น​ เขา​ก็​สัมผัส​บางอย่าง​ได้​ จึงก้มหน้า​มอง​ตัวเอง​โดยสัญชาตญาณ​

เอ๋​?

จู่ๆ เขา​ก็​ชะงัก​

ไม่รู้​ว่า​มีเส้น​สีเลือด​จำนวนมาก​ปรากฏ​ขึ้น​ตรง​หน้าอก​ของ​ร่างกาย​ร่าง​นี้​ตั้งแต่​เมื่อไร​ เส้น​เล็ก​ๆ เหล่านี้​ดู​เหมือนกับ​เส้นเลือดฝอย​บน​ผิว​ที่​แตก​ออก​ ก่อนหน้านี้​ลู่​เซิ่งไม่ทันสังเกต​ แต่​พอ​พิจารณา​ดู​ เวลานี้​เขา​กลับ​พบ​บางสิ่ง​ที่​อธิบาย​ไม่ได้​

‘นี่​มัน​…อะไร​กัน​เนี่ย​?!’

ลู่​เซิ่งยื่นมือ​ไป​ลูบ​หน้าอก​เบา​ๆ เส้นเลือด​ตรงนั้น​ดู​พร่ามัว​ ไม่เห็น​สิ่งใด​ แต่ว่า​หลังจาก​เขา​ใช้นิ้ว​ลูบ​เบา​ๆ สัญลักษณ์​ตัว​หนึ่ง​ก็​ค่อย​ปรากฏ​นูน​ขึ้น​บน​ผิว​

มัน​คือ​เหยี่ยว​ มีปีก​ทั้งสอง​ด้าน​ของ​สัญลักษณ์​ ด้านหลัง​มีหาง​ ด้านบน​มีหัว​เหยี่ยว​ มีดวงตา​ข้าง​หนึ่ง​อยู่​ตรงกลาง​

เหมือนกับ​งูที่​ขดตัว​เป็น​วงแหวน​และ​ห้อมล้อม​ดวงตา​ไว้​

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ ทั้งสอง​สิ่งนี้​เหมือน​จะมีการ​เชื่อมโยง​กัน​พิเศษ​

‘สัญลักษณ์​นี้​…ลักษณะ​คล้าย​กับ​สัญลักษณ์​เทพ​นอกรีต​ที่​เห็น​ก่อนหน้านี้​เลย​ แต่​ก็​ไม่เหมือนกัน​เสีย​ทีเดียว​ มัน​มาอยู่​บน​ตัวเรา​ตั้งแต่​เมื่อไร​…อยู่​มานาน​แค่​ไหน​แล้ว​’ ลู่​เซิ่งไม่ทราบ​

เขา​ไม่รู้สึก​ถึงภาวะ​วิกฤต​มานาน​แล้ว​ ทว่า​ตอนนี้​กลับ​รู้สึก​ได้​โดยสัญชาตญาณ​

ลู่​เซิ่งหลับตา​ แล้ว​ดำ​ดิ่ง​จิตวิญญาณ​ลง​ไป​ จิต​เข้าสู่​ความว่างเปล่า​อัน​มืดมิด​ของ​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​อย่าง​รวดเร็ว​

ภายใน​ความว่างเปล่า​ พัน​เท​วะ​อันเป็น​ร่าง​หลัก​ของ​เขา​ขดตัว​อยู่​นิ่ง​ๆ ใน​ความมืด​

ลู่​เซิ่งส่งจิต​กลับ​ไป​ใน​ร่าง​พัน​เท​วะ​ จากนั้น​ก็​พบ​ความผิดปกติ​ทันที​

ตอนนี้​กลา​งอก​ของ​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​มีสัญลักษณ์​ลึกลับ​รูป​เหยี่ยว​ห่อหุ้ม​ดวงตา​ปรากฏ​ขึ้น​เช่นกัน​

‘สัญลักษณ์​นี้​เข้ามา​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ไม่สิ…ไม่ใช่…กลิ่นอาย​แบบนี้​ ไม่มีทาง​เด็ดขาด​ที่จะ​มีอะไร​เล็ดลอด​เข้ามา​ใน​จิตวิญญาณ​เรา​อย่าง​ไร้​สุ้มเสียง​ได้​!’

ลู่​เซิ่งมั่นใจ​ใน​เรื่อง​นี้​มาก​ เขา​คือ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ เป็น​ปรมาจารย์​ด้าน​การควบคุม​จิตวิญญาณ​ ไม่มีทาง​ถูก​คน​วาง​เล่ห์กล​ใน​จิตวิญญาณ​โดยที่​ตัวเอง​ไม่พบเห็น​เด็ดขาด​

ทว่า​ตอนนี้​จู่ๆ เขา​ก็​พบ​ว่า​พลัง​จิตวิญญาณ​ของ​ตัวเอง​มีสิ่งนี้​อยู่​ด้วย​ เป็น​สิ่งที่​เขา​ไม่เคย​สัมผัส​พบ​เจอ​มาก่อน​ นี่​ทำให้​เขา​ตื่นตระหนก​เข้า​แล้ว​

‘มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​มีความสามารถ​ย้อน​ความทรงจำ​ทั้งหมด​ของ​ตัวเอง​ที่​สมบูรณ์แบบ​ ก่อนหน้านี้​นึก​ว่า​ความสามารถ​นี้​ไม่มีประโยชน์​อะไร​ แต่​ตอนนี้​กลับ​เอา​มาใช้ได้​พอดี​ว่า​สิ่งนี้​คือ​อะไร​!’

กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​ใน​ความมืด​ค่อยๆ​ ขยับตัว​ ก่อน​จะอ้า​ปาก​พ่น​ลมหายใจ​อย่าง​ไร้​เสียง​

ครืน​!

ชั่วพริบตา​นั้น​แสงสว่าง​สีเหลือง​อม​ดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ห่อหุ้ม​มัน​ไว้​ พัน​เท​วะ​ค่อยๆ​ หลับตา​ ความทรงจำ​เริ่ม​เล่น​ย้อนกลับ​อย่าง​รวดเร็ว​

ภาพ​นับไม่ถ้วน​ไหล​ย้อนกลับ​ใน​ดวงตา​ของ​ลู่​เซิ่ง เรื่องราว​ที่​เคย​ผ่านพบ​มาไม่ว่า​จะเรื่องเล็ก​เรื่องใหญ่​ ต่าง​นึกย้อน​ได้​เป็น​ฉาก​ๆ

เหมือนกับ​เล่น​ภาพยนตร์​ย้อนกลับ​ สามารถ​กดปุ่ม​หยุด​และ​พิจารณา​รายละเอียด​ใน​ภาพ​ได้​ตลอดเวลา​

ความทรงจำ​ตั้งแต่​เริ่ม​จุติ​ย้อนกลับ​ไป​ถึงดาว​เงาพริบตา​อย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​ก็​ย้อน​ไป​ใน​ตอน​เขา​เพิ่ง​เข้าร่วม​สำนัก​นที​คราม​ กลับ​ถึงนคร​ตราชั่ง​ กลับ​ถึงบทสนทนา​ระหว่าง​เขา​กับ​อสูร​อินทรี​ราชสีห์​แปด​เศียร​…

พลัง​จิตวิญญาณ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​ลู่​เซิ่งตรวจสอบ​ช่วง​ความทรงจำ​ช่วงละ​หนึ่ง​วินาที​

ไม่นาน​นัก​ ความทรงจำ​ก็​ย้อนกลับ​ไป​ถึงบน​ดาว​ปร​ภพ​ ตั้งแต่​สำนัก​มาร​กำเนิด​ ถึงต้า​ซ่ง ถึงแดน​เหนือ​

‘เป็นไปได้​อย่างไร​!?’ ลู่​เซิ่งมองดู​ตนเอง​ใน​ความทรงจำ​ ไม่ว่า​จะหยุด​ลง​ช่วงเวลา​ใด​ ขอ​แค่​หา​ให้​ละเอียด​ ก็​จะเจอ​สัญลักษณ์​ดวงตา​กับ​เหยี่ยว​บน​ตัว​ใน​ความทรงจำ​ได้​ตลอด​

สัญลักษณ์​ประหลาด​นั่น​ซ่อน​อยู่​ลึก​สุดขีด​ ซ่อน​อยู่​ใน​ส่วนลึก​สุด​ของ​จิตวิญญาณ​เสมอมา​

ลู่​เซิ่งหยุด​ดู​หลาย​สิบ​รอบ​ ถึงขั้น​เห็น​สัญลักษณ์​อันนั้น​เปล่งแสง​อย่าง​ลับ​ๆ หลายครั้ง​เพื่อ​ช่วย​เร่ง​ฟื้นฟู​อาการ​บาดเจ็บ​

ไม่นาน​ความทรงจำ​ก็​ย้อนกลับ​ไป​ถึงเมือง​เก้า​ประสาน​!

เปรี้ยง​!

ดวงตา​ขนาด​ยักษ์​ของ​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​ฉายแวว​โมโห​ ตกตะลึง​ และ​บิดเบี้ยว​อย่าง​ไม่อาจ​ควบคุม​

‘สัญลักษณ์​นี้​!…’ เขา​ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​มีสัญลักษณ์​นี้​มาตั้ง​แต่ต้น​

มัน​ซ่อน​อยู่​ใน​ร่างกาย​และ​ส่งผล​ซ่อนเร้น​อย่าง​ลับ​ๆ

ความทรงจำ​ยังคง​เล่น​ย้อนกลับ​ ความทรงจำ​ใน​เมือง​เก้า​ประสาน​เล่น​ช้าลง​มาก​ เวลานี้​เป็นเวลา​ที่​เขา​ทะลุ​มิติ​มาเป็น​คนธรรมดา​ตอน​เพิ่ง​มาถึงดาว​ปร​ภพ​

แต่​ยิ่ง​มาถึงตรงนี้​ ลู่​เซิ่งก็​ยิ่ง​ขนลุกขนพอง​

แม้สัญลักษณ์​นี้​จะไม่ได้​มีความรู้สึก​ของ​การดำรงอยู่​มาก​นัก​ แต่​เขา​ก็​รับ​ไม่ได้ที่​ตัวเอง​ไม่เคย​เจอ​การดำรงอยู่​ของ​มัน​

นี่​คือ​ตัวแปร​!

ความทรงจำ​เล่น​ย้อนกลับ​ไป​จนถึง​ฉาก​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ตอน​เพิ่ง​ทะลุ​มิติ​

ไม่นาน​นัก​ เขา​ก็​เห็น​จิตวิญญาณ​ของ​ตัวเอง​พลิก​ไปมา​ใน​ร่าง​ ใน​จิต​ของ​ตัวเอง​ย้อน​นึกถึง​ความเจ็บปวด​เจียน​ตาย​ ณ เวลา​นั้น​ วิญญาณ​หลอม​รวม​เข้ากับ​กาย​เนื้อที่​ไม่คุ้นเคย​ ความเจ็บปวด​ใน​ตอนนั้น​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​ไป​กว่า​ความ​ทรมาน​ที่​พบ​เจอ​หลังจากนั้น​เลย​

หลังจาก​จิตวิญญาณ​กับ​กาย​เนื้อ​หลอม​รวมกัน​ ในที่สุด​ลู่​เซิ่งก็​ค้นพบ​ว่า​ จิตวิญญาณ​อันนั้น​มาจาก​ที่ใด​

ใน​ตอนที่​จิตวิญญาณ​กับ​กาย​เนื้อ​กำลัง​ดิ้นรน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ สัญลักษณ์​ดวงตา​กับ​เหยี่ยว​อัน​ลึกลับ​ก็​ค่อยๆ​ ปรากฏ​ขึ้น​ใน​เลือดเนื้อ​ และ​เริ่ม​ช่วย​กาย​เนื้อ​ป้องกัน​จิตวิญญาณ​ของ​ลู่​เซิ่ง

แต่​คล้าย​จะเป็น​เพราะ​พื้นฐาน​ของ​กาย​เนื้อ​อ่อนแอ​เกินไป​ หลังจาก​สัญลักษณ์​นั้น​สู้กับ​จิตวิญญาณ​ของ​ลู่​เซิ่งอยู่​สักพัก​ มัน​ก็​ผลาญ​พลัง​มากเกินไป​ จึงจำต้อง​ถอยกลับ​ไป​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​ร่างกาย​เหมือน​ทำได้​เพียง​เพิ่ม​พละกำลัง​ให้​แก่​กาย​เนื้อ​เท่านั้น​ ไม่มีความสามารถ​ใดๆ​ อีก​

สุดท้าย​จิตวิญญาณ​ก็​หลอม​รวม​กับ​ร่างกาย​เป็นหนึ่ง​

ความทรงจำ​ย้อน​ต่อไป​

ภาพ​ต่อไป​เป็น​ภาพ​ที่​จิตวิญญาณ​ของ​ลู่​เซิ่งลอยละล่อง​ใน​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​สีรุ้ง​ เวลา​ที่​ล่องลอย​อยู่​ยาวนาน​อย่างยิ่ง​…

ตอนแรก​ยังมี​จิตวิญญาณ​ที่​คล้าย​กัน​จำนวนมาก​ล่องลอย​อยู่​ร่วมกับ​เขา​ แต่​พอ​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​เปลี่ยนแปลง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ จิตวิญญาณ​ก็​เริ่ม​ถูก​บดขยี้​ จิตวิญญาณ​ที่​ป่นปี้​กลายเป็น​อนุภาค​นับไม่ถ้วน​ แล้ว​ถูก​จิตวิญญาณ​ที่​เหลือ​หลอม​รวม​ดูดซับ​

ลู่​เซิ่งเห็น​วิญญาณ​ของ​ตัวเอง​เป็น​ดวง​ที่​ดูดซับ​มาก​ที่สุด​ หลังจาก​เวลา​ผ่าน​ไป​เรื่อยๆ​ วิญญาณ​ที่​ตาย​ก็​ทวี​จำนวน​ขึ้น​ พวก​มัน​เหมือน​เริ่ม​ปลุก​ความสามารถ​ต่างๆ​ ขึ้น​มาได้​

เพียงแต่​ตอนนั้น​จิต​ยัง​สับสน​ ไม่รู้​อะไร​สัก​อย่าง​ เมื่อ​ไม่มีกาย​เนื้อ​คอย​ประคับประคอง​ และ​ไม่เคย​ผ่าน​การฝึกฝน​มาก่อน​ จิตวิญญาณ​ก็​ทำตาม​แค่​สัญชาตญาณ​เท่านั้น​

เวลา​ผ่าน​ไป​อย่าง​เชื่องช้า​ ไม่ทราบ​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าไร​ สุดท้าย​ลู่​เซิ่งก็​เห็น​จิตวิญญาณ​ของ​ตัวเอง​จับตัว​กัน​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ ในที่สุด​ก็​เจอ​โอกาสดี​ที่​พันปี​ยาก​พบพาน​

ร่อง​แยก​สีเทา​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​แวบ​หนึ่ง​ท่ามกลาง​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​

‘มัน​นี่เอง​!’

ลู่​เซิ่งเห็น​วิญญาณ​ของ​ตัวเอง​เบียดเสียด​วิญญาณ​ที่​หลง​เหลืออยู่​โดยรอบ​อย่าง​เกรี้ยวกราด​ ก่อน​จะพุ่ง​เข้าไป​ใน​ร่อง​แยก​เหมือน​สุนัข​หิวโซ​พุ่ง​เข้า​หาอาหาร​

เหมือน​เป็น​เพราะ​หลังจาก​ปรับตัว​เข้ากับ​มิติ​เวลา​ได้​ใน​ขณะ​กำลัง​ข้าม​มิติ​ ก็​ได้รับ​การ​หล่อเลี้ยง​จาก​กระแส​ปั่นป่วน​ของ​มิติ​เวลา​ที่​ห่อหุ้ม​อยู่​

ลู่​เซิ่งมองเห็น​จาก​ใน​ความทรงจำ​ว่า​ วิญญาณ​ของ​ตน​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​ตั้งแต่แรก​ เหมือน​จะมีพรสวรรค์​ความสามารถ​บางอย่าง​อยู่แล้ว​

เขา​เห็น​ตัวเอง​พุ่ง​ลง​มาถึงดาว​ปร​ภพ​ราว​สายฟ้า​ฟาด​ ลอย​ไป​ถึงเมือง​เก้า​ประสาน​ และ​มุด​เข้าไป​ใน​ร่าง​ชายหนุ่ม​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​

หนุ่ม​คน​นั้น​เพิ่งจะ​อยู่​ใน​สภาพ​ย่ำแย่​หลังจาก​จิตวิญญาณ​สู้กับ​พลังงาน​บางอย่าง​ใน​ตัว​

ลู่​เซิ่งมองเห็น​จิตวิญญาณ​ของ​ตน​ฉวยโอกาส​มุด​เข้าไป​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​แย่งชิง​สิทธิ์​ควบคุม​ร่าง​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท