บทที่ 814 เบอร์ลิน (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

น้ำ​ใน​สระ​กระเพื่อม​น้อย​ๆ ผม​สีทอง​ของ​เซลี​น่า​สยาย​ออก​ เหมือน​ดอกไม้​สีทอง​ที่​เบ่งบาน​กลาง​น้ำ​

เสียง​ดำน้ำ​ดัง​ซู่ซ่า

เธอ​โผล่​ตัว​ขึ้น​จาก​น้ำ​ สะบัด​หยดน้ำ​บน​ตัว​ หน้าอก​หน้า​ใจที่ตั้ง​ตระหง่าน​ส่าย​ไปมา​ใน​มุมที่​ชวน​น่า​ลุ่มหลง​

เธอ​จับ​ราว​โลหะ​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​สระน้ำ​แล้ว​เดิน​ขึ้นฝั่ง​

“เซลี​น่า​! เห็น​ยา​โรคหัวใจ​ของ​ฉัน​ไหม​” บร​องค์​ถามเสียงดัง​

“ไม่นี่​ นาย​เอา​ไป​วาง​ไว้​ใน​ห้องนอน​ไม่ใช่เหรอ​ ห้องนอน​นาย​น่ะ​” เซลี​น่า​เช็ดน้ำ​บน​ใบหน้า​ก่อน​จะตอบ​

“หาไม่​เจอ​” บร​องค์​ตบ​ไหล่​ของ​เพื่อน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​แล้ว​เดิน​มาทาง​นี้​

เขา​นั่งลง​ริม​สระว่ายน้ำ​และ​คุย​กับ​เซลี​น่า​เบา​ๆ

ญาติ​ทาง​ครอบครัว​พ่อ​ของ​พวกเขา​กำลัง​เล่นไพ่​กับ​ลูก​ๆ อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ หนุ่มสาว​หลาย​คน​ที่​ไม่รู้จัก​กำลัง​คุย​เล่น​กัน​อยู่​

ลู่​เซิ่งถึงขั้น​ค้นหา​ใน​ความทรงจำ​ของ​แจ๊ค​อยู่​นานโข​ ก็​ไม่เจอ​ภาพ​ประทับใจ​ใดๆ​ เห็นได้ชัด​ว่า​ แจ๊ค​ไม่รู้จัก​คน​พวก​นี้​เช่นกัน​

เป็น​แบบนี้​ทุกครั้ง​

เป็น​แบบนี้​ทุกปี​

ลู่​เซิ่งหยิบ​เหล้า​แก้ว​หนึ่ง​บน​โต๊ะ​ใกล้​เขา​มาจิบ​ ความจริง​แอลกอฮอล์​ของ​เหล้า​พวก​นี้​ต่ำ​มาก​ บวก​กับ​ใส่อะไร​อีก​หลายอย่าง​เข้าไป​เช่น​น้ำผลไม้​ เวลา​ดื่ม​จึงรู้สึก​ไม่ต่าง​จาก​น้ำผลไม้​เท่าไหร่​

ลู่​เซิ่งไม่ชอบ​ดื่มเหล้า​ ดังนั้น​เหล้า​ที่​เขา​ดื่ม​จึงเป็น​ประเภท​เจือจาง​

นี่​เป็น​ภาพ​เหตุการณ์​ที่​มายัง​งานเลี้ยง​ของ​ไค​ลี​ จีผู้​เป็น​มารดา​ทุกปี​ แต่ละ​ปี​ล้วน​เป็น​แบบนี้​ แจ๊ค​แตกต่าง​จาก​พวกเขา​ เพราะ​เขา​ไม่อาจ​หลอม​รวม​เข้ากับ​กลุ่ม​ได้​ และ​พวก​บร​องค์​กับ​เซลี​น่า​ก็​ไม่มีความคิด​จะช่วย​เขา​ด้วย​

พวกเขา​เหมือนกับ​แม่น้ำ​สอง​สาย​ที่​แบ่ง​แยกกัน​ชัดเจน​ ไม่ยุ่งเกี่ยว​ซึ่งกันและกัน​

ลู่​เซิ่งนอน​อยู่​ใต้​ร่มกันแดด​ริม​สระ​เงียบๆ​ ดื่มเหล้า​พลาง​อาบแดด​ เช็ด​ถสอง​ขา​อย่าง​เกียจคร้าน​

“ถึงเวลา​รับประทาน​ข้าว​แล้ว​ค่ะ​!” จนกระทั่ง​ถึงยาม​เที่ยง​ หญิง​รับใช้​จึงมาเรียก​ทุกคน​ไป​กินข้าว​ เขา​ค่อย​ลุกขึ้น​จาก​เก้าอี้​เอนหลัง​ สวม​เสื้อนอก​ที่​ตั้งอยู่​ด้าน​ข้าง​ แล้ว​เดิน​ลาก​เท้า​ไป​ใน​คฤหาสน์​

โถงใหญ่​ของ​คฤหาสน์​ตากอากาศ​กว้างขวาง​มาก​ ตรงกลาง​มีโต๊ะ​ทรง​สี่เหลี่ยมจัตุรัส​ตั้ง​ชิด​กัน​สอง​ตัว​ กลายเป็น​โต๊ะ​ยาว​ที่นั่ง​ได้​สิบ​กว่า​คน​

เหล่า​คนรับใช้​รีบ​ปู​ผ้า​ขาว​ วาง​อุปกรณ์​ทานอาหาร​ จากนั้น​ก็​ยก​อาหาร​มา

ไค​ลี​ จีนั่ง​บน​ตำแหน่ง​ประธาน​ มองดู​ลูกชาย​ลูกสาว​และ​หลานชาย​หลานสาว​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ความรักใคร่​

“พวกเรา​เป็น​ครอบครัว​ใหญ่​ ทุกๆ​ ปี​ที่​ฉัน​ให้​พวก​เธอ​มารวมตัวกัน​ครั้งหนึ่ง​ ก็​เพราะ​หวัง​ว่า​ในอนาคต​เวลา​ไป​อยู่​ที่อื่น​แล้ว​เจอ​ความลำบาก​จะได้​ช่วยเหลือ​กัน​ ไม่ใส่ร้าย​กัน​ ฉัน​หวัง​ว่า​พวก​เธอ​จะทะนุถนอม​ความสัมพันธ์​และ​ข้อผูกมัด​นี้​”

“คุณแม่​ รีบ​กินข้าว​เถอะ​ครับ​ อีก​ประเดี๋ยว​พวกเรา​ยัง​ต้อง​ไป​โรงกลั่น​เหล้าองุ่น​ใกล้​ๆ นี้​ องุ่น​ของ​ที่นั่น​สุก​แล้ว​ ได้​ไป​เที่ยวเล่น​พอดี​” บร​องค์​เลิกคิ้ว​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ เขา​นับว่า​ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​เมื่อ​เทียบ​กับ​คน​ที่นั่ง​อยู่​ที่นี่​ เพิ่ง​อายุ​ยี่สิบ​กว่า​ปี​ อยู่​ใน​วัย​ชอบ​เที่ยว​พอดิบพอดี​

“เพื่อน​ฉัน​บอ​กว่า​จะไป​ซื้อ​หนังสือ​ที่​ถนน​ซานฟราน​ตอนบ่าย​…ฉัน​นัด​กับ​เขา​ไว้​แล้ว​ ตอนบ่าย​คง​ไป​กับ​พวก​นาย​ไม่ได้​” หนุ่ม​หล่อ​ผม​สีทอง​อีก​คน​เอ่ย​อย่าง​เสียดาย​

“งั้น​ก็​เหลือ​แค่​พวกเรา​สินะ​” เซลี​น่า​ส่งเสียง​ถาม

“ใช่ เหลือ​แค่​พวกเรา​”

กลุ่มคน​เริ่ม​สนทนา​กันเอง​ ไค​ลี​ จี ส่ายหน้า​อย่าง​จนใจ​ เธอ​เอ็นดู​เด็ก​ๆ เหล่านี้​มาโดยตลอด​

เธอ​มอง​ลู่​เซิ่ง ลูกติด​จาก​สามีคน​แรก​ยังคง​นั่ง​กินข้าว​อยู่​ตรงนั้น​โดย​ไม่ส่งเสียง​ เหมือนกับ​ไม่ได้ยิน​คำพูด​ของ​ลูก​คนอื่นๆ​ อย่างไร​อย่างนั้น​

ยัง​เข้ากัน​ไม่ได้​อีก​หรือ​

ไค​ลี​ จีถอนใจ​ใน​ใจ

“เซลี​น่า​ ตอนบ่าย​ลูก​ว่าง​อยู่​ใช่ไหม​” เธอ​ถามตามตรง​

“เอ่อ​…หนู​นัด​เพื่อนสนิท​ไว้​แล้ว​…”

“พา​แจ๊ค​ไป​ด้วย​สิ” ไค​ลี​ จีตัดบท​เธอ​

เซลี​ น่า​เผย​สีหน้า​ไม่ยินยอม​ แต่​เธอ​รู้จัก​แม่ของ​ตัวเอง​ดี​ ถ้าเกิด​ว่า​คุณแม่​ตัดบท​เวลา​คนอื่น​พูด​ การตัดสินใจ​ที่​เธอ​ทำ​ไป​แล้ว​ไม่อาจ​เปลี่ยนแปลง​ได้​อีก​ ถ้าไม่ปฏิเสธ​จนถึงที่สุด​แล้ว​สุดท้าย​ถูก​ต่อว่า​ ก็​ต้อง​ตอบรับ​โดย​ไม่มีข้อแม้​

เธอ​มอง​แจ๊ค​อย่าง​จนปัญญา​อยู่​บ้าง​ ใน​ใจหงุดหงิด​เล็กน้อย​ ไม่มีใคร​อารมณ์ดี​ใน​เวลา​แบบนี้​ได้​หรอก​ ทั้งที่​ตัวเอง​วางแผนการ​ทุกอย่าง​ไว้​แล้ว​ แต่​อยู่​ๆ ก็​มีคนแปลกหน้า​โผล่​มาแทรก​ ยัง​ต้อง​ให้​ตัวเอง​คอย​รับผิดชอบ​พา​เขา​เที่ยว​ทุกที่​ทุกเวลา​อีก​

“ก็ได้​ค่ะ​…” เธอ​พยักหน้า​ สุดท้าย​ก็​ตกลง​ เพราะ​ไม่อาจ​ต่อต้าน​ได้​

ลู่​เซิ่งมอง​เซลี​น่า​ ความจริง​เขา​ไม่อยาก​จะไป​เสวนา​กับ​น้องชาย​น้องสาว​เหล่านี้​ แต่​ท่าที​ของ​ไค​ ลี่​จีนั้น​ห้าม​ตั้ง​ข้อสงสัย​ เขา​เอง​ก็​ไม่ได้คิด​อะไร​ อย่างไร​เบาะ​แสก็อ​ยู่​ใน​เบอร์ลิน​ ไป​เดินเล่น​ก่อน​ก็​ไม่เลว​เหมือนกัน​ ถือว่า​ทำ​ความคุ้นเคย​กับ​สภาพแวดล้อม​

ขณะ​กินข้าว​ ไค​ลี​ จีก็​สอบถาม​สถานการณ์​ของ​พวก​หลาน​ๆ ไป​ด้วย​

เซลี​น่า​เพิ่ง​เข้าไป​ดูแล​บริษัท​ขุดเจาะ​น้ำมัน​ ถือว่า​รับหน้าที่​ระดับ​หัวหน้า​ควบคุม​ แต่​ความจริง​นี่​เป็น​อาชีพ​ที่​เธอ​ยอม​ทำ​เพราะ​เห็นแก่​เบื้องหลัง​ของ​วงศ์ตระกูล​ ทุกๆ​ วัน​เธอ​แค่​ต้อง​ทำเป็น​เดิน​ดู​เอกสาร​ก็​พอ​ ส่วน​เวลา​ที่​เหลือ​ก็​แทบ​ไป​เที่ยวเล่น​จน​หมด​

ปี​นี้​เซลี​น่า​อายุ​ยี่สิบ​เจ็ด​แล้ว​ ตระกูล​แนะนำ​คนหนุ่ม​มาก​ความสามารถ​ให้​เธอ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ถ้าเธอ​ยัง​ไม่ยอม​ตกลง​ คาด​ว่า​จะต้อง​ถูก​บังคับ​ให้​หมั้น​หมาย​แน่​

ตอนนี้​เธอ​มีสิทธิ์​เลือก​อิสรภาพ​เพราะ​ไค​ลี​ จีรับ​แรงกดดัน​ให้​ ถ้าเธอ​ไม่ยืนหยัด​ ภายหน้า​คง​ลำบาก​ กลายเป็น​คน​เสียสละ​ที่​เอาไว้​แต่งงาน​เชื่อม​สัมพันธ์​ของ​พวก​ตา​เฒ่าใน​ตระกูล​

ทุกคน​บน​โต๊ะอาหาร​สนทนา​กัน​โดย​มีเซลี​น่า​เป็น​ศูนย์กลาง​

ลู่​เซิ่งที่​ฟังอยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​เบื่อหน่าย​ จึงก้มหน้าก้มตา​กิน​ไป​ พอ​กิน​ไป​ได้​ครึ่งทาง​ ไค​ลี​ จีก็​ลาก​หัวข้อ​มาที่​ตัว​เขา​

“แจ๊ค​ ลูกคิด​จะทำงาน​ตำรวจ​นั่น​ต่อไป​อีก​เหรอ​ อาชีพ​แบบนี้​มีความหมาย​สำหรับ​ลูก​นัก​หรือไง​” ไค​ลี​ จีมอง​ลู่​เซิ่งด้วย​ความ​จนปัญญา​

“ผม​แค่​อยาก​ทำ​เรื่อง​ที่​ผม​อยาก​ทำ​ครับ​” ลู่​เซิ่งตอบ​

“คดี​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ยัง​ไม่ได้​เตือนสติ​ลูก​อีก​เหรอ​ หรือ​สักวัน​ลูกคิด​จะให้​แม่กับ​พ่อ​ไป​ยืน​ไว้อาลัย​ให้​ลูก​จริงๆ​” คำพูด​ของ​ไค​ลี​ จีหนักอึ้ง​เล็กน้อย​ บรรยากาศ​บน​โต๊ะอาหาร​ที่​เดิมที​คึกคัก​จึงกร่อย​ลง​

ดวงตา​สิบ​กว่า​คู่​มอง​ลู่​เซิ่ง ดู​ว่า​เขา​จะตอบ​อย่างไร​

ลู่​เซิ่งนิ่ง​ไป​เล็กน้อย​และ​ค่อยๆ​ กล่าวว่า​ “ผม​แค่​รับประกัน​ได้​ว่า​จะพยายาม​รักษา​ตัวเอง​อย่าง​เต็มที่​”

ไค​ลี​ จีส่ายหน้า​อย่าง​ผิดหวัง​ ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​

ใน​บรรดา​ลูก​ๆ แจ๊ค​เป็น​คน​ไม่กี่​คน​ที่​ไม่ฟังคำสั่ง​ของ​เธอ​ เพราะ​เขา​ไม่รับ​บุญคุณ​จาก​เธอ​ และ​ไม่ต้อง​การเงิน​ของ​เธอ​ ชีวิตประจำวัน​ของ​เขา​ถึงขั้น​เรียบง่าย​กว่า​คนธรรมดา​ ดังนั้น​เธอ​จึงไม่อาจ​ใช้เรื่อง​พวก​นี้​มาบีบบังคับ​เขา​ได้​

ไม่เหมือนกับ​ลูก​คนอื่นๆ​ หาก​ไม่มีเงินช่วยเหลือ​ชีวิต​หรูหรา​สุรุ่ยสุร่าย​ ก็​จะกลับ​สู่สภาพเดิม​ใน​พริบตา​

“ใน​เมื่อ​ลูก​ยืนกราน​ อย่างนั้น​…ก็​ไม่ต้อง​พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​ กินข้าว​ต่อ​เถอะ​” ไค​ลี​ จีเปลี่ยน​เรื่อง​ทุกคน​กินข้าว​กัน​อย่าง​เงียบๆ​ เหล่า​คนรับใช้​ยก​อาหาร​หลัก​มาเสิรฟ์​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​

หลัง​พ้น​ช่วง​บ่าย​ ลู่​เซิ่งก็​เดินตาม​เซลี​น่า​เลียบ​สระว่ายน้ำ​จาก​สวน​ด้านหลัง​ไป​ยัง​ลาน​จด​รถ​

“นั่ง​รถ​ฉัน​ไป​ จะได้​เอา​ของ​ให้​เพื่อนสนิท​ได้​” เซลี​น่า​สะบัด​ผม​สีทอง​อร่าม​ เธอ​สวม​กระโปรง​คอร์​เซทคอ​ต่ำ​สีดำ​ เสื้อผ้า​แหว​กอก​ถึงขั้น​เห็น​ร่อง​ลึก​ขาวโพลน​ชวน​คน​ให้​ตาลาย​

เอว​คอด​กิ่ว​ของ​เธอ​ดู​บอบบาง​กว่า​เดิม​ภายใต้​การรัด​จาก​กระโปรง​ดำ​ เหมือนกับ​แค่​บีบ​เบา​ๆ ก็​อาจ​หัก​ได้​

กอปร​กับ​หน้าตา​ที่​งดงาม​และ​รูปร่าง​ที่​สูงชะลูด​ ต่อให้​อยู่​ใน​แวดวง​ระดับ​เดียวกัน​ของ​เบอร์ลิน​ เซลี​น่า​ก็​ถือว่า​เป็น​สาวงาม​คน​หนึ่ง​

ทั้งสอง​อยู่​ด้วยกัน​ ไม่มีหัวข้อ​อะไร​ให้​คุย​ บรรยากาศ​จึงกระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​

“แจ๊ค​คุณ​อายุ​สามสิบ​แล้ว​ ยัง​ไม่คิด​แต่งงาน​อีก​หรือ​” เซลี​น่า​หา​ประเด็น​มาคุย​

“ไม่ล่ะ​ ฉัน​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​นั้น​เท่าไร​” ลู่​เซิ่งตอบ​

“ให้​ฉัน​แนะนำ​ให้​ดี​ไหม​ ผู้หญิง​ที่​ฉัน​รู้จัก​มีอยู่​ไม่น้อย​เลย​นะ​ที่​เหมาะกับ​คุณ​” เซลี​น่า​เสนอ​

“ขอ​ถามด้วย​เลย​ก็แล้วกัน​ว่า​ คุณ​ได้​เงินเดือน​เท่าไร​ ถ้าหาก​น้อย​เกินไป​คงจะ​เลี้ยงดู​คุณหนู​สวย​ๆ พวก​นั้น​ไม่ได้​”

“เดือน​หนึ่ง​มีรายรับ​ตายตัว​ที่หนึ่ง​พัน​กว่า​ปอนด์​ พอ​ใช้จ่าย​ได้​” ลู่​เซิ่งตอบ​ตามจริง​

“หนึ่ง​พัน​ปอนด์​เหรอ​” เซลี​น่า​ไม่รู้​ควร​พูด​อะไร​ดี​ เงิน​แค่นี้​…ใน​สังคม​ของ​เธอ​ ต่อให้​เป็น​เพื่อนสนิท​ที่​สภาพ​ครอบครัว​ธรรมดา​ที่สุด​และ​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ ก็​มีเงินเดือน​สามพัน​ปอนด์​แล้ว​…

จากนั้น​ทั้งสอง​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​

ตอน​เดิน​จะถึงลานจอดรถ​ เซลี​น่า​ก็​อด​ถามไม่ได้​

“คุณ​ไม่คิด​จะเปลี่ยน​งาน​หรือ​”

“ไม่” ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​

จากนั้น​ก็​ไม่พูด​อะไร​กัน​อีก​

รถ​ของ​เซลี​น่า​เป็น​รถ​ร่วมสมัย​สีขาว​บริสุทธิ์​ ไฟหน้า​รถ​สอง​ดวง​ด้านหน้า​ใหญ่โต​เหมือนกับ​ลูกตา​คางคก​

ทั้งสอง​แยกกัน​ขึ้นรถ​

“คุณ​อยาก​ไปเที่ยว​ไหนล่ะ​ ฉัน​จะไป​เดิน​ร้านหนังสือ​กับ​เพื่อน​ จากนั้น​ไป​ซื้อ​ชุดชั้นใน​” เซลี​น่า​แสดงออก​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ไม่คิด​พา​ลู่​เซิ่งไป​ด้วย​

ลู่​เซิ่งก็​อยาก​จะแยก​กับ​เธอ​เหมือนกัน​

“ไป​ส่งฉัน​ที่​เขต​ถนน​ฟาน​ดีเซล​ก็ได้​”

“ตรงนั้น​มีอะไร​เหรอ​ ช่างเถอะ​แล้วแต่​คุณ​ก็แล้วกัน​” เดิมที​เซลี​น่า​อยาก​ถามให้​ละเอียด​ แต่​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เขา​จะอยาก​ทำ​อะไร​ก็​ไม่เกี่ยวกับ​เธอ​อยู่ดี​

รถ​ถูก​สตาร์ต​และ​แล่น​ออกจาก​ลานจอดรถ​ ไป​ยัง​เขตเมือง​

ลม​อ่อน​ๆ ใน​วัน​แดดออก​พัด​มาปะทะ​หน้า​ ลู่​เซิ่งนั่ง​พิง​เก้าอี้​หนัง​ พาด​แขน​บน​ประตู​รถ​ รถ​เปิด​ประทุน​พุ่ง​ฉิว​ไป​ตาม​ทาง​เดินรถ​กลาง​ทุ่งนา​

ความเร็ว​สามสิบ​หลา​ถึงกับ​มอบ​ความรู้สึก​นั่ง​รถสปอร์ต​ให้​แก่​พวกเขา​

รถ​แล่น​ผ่าน​นา​ข้า​วสี​เขียว​ไป​หลาย​ผืน​ เห็น​คน​ขี่ม้า​วิ่ง​เหยาะย่าง​ร่วมกับ​สหาย​บน​เส้น​ทางได้​เป็นระยะ​ ใน​ทุ่งนา​เอง​ก็​มีชาวนา​กำลัง​ดำนา​อย่าง​ขยันขันแข็ง​เช่นกัน​

ตอนที่​รถ​ใกล้​ถึงเขตเมือง​ ชาย​ผม​สั้น​ที่​พัน​ผ้าพันแผล​ไว้​บน​หน้า​หลาย​คน​ก็​โผล่​ขึ้น​ข้างทาง​เมื่อไร​ก็​ไม่ทราบ​

พอ​คน​พวก​นี้​เห็น​รถ​เข้าใกล้​ก็​พา​กัน​ลุกฮือ​เหมือนกับ​นัด​กัน​ไว้​

ม่านตา​ของ​ลู่​เซิ่งหดตัว​เล็กน้อย​

“รอ​ก่อน​ เจอ​คนรู้จัก​พอดี​ ฉัน​ขอ​ลง​ตรงนี้​ก็แล้วกัน​” เขา​เอ่ย​อย่าง​ผ่อนคลาย​พร้อมกับ​ยิ้มแย้ม​

“ตรงนี้​เหรอ​ คุณ​แน่ใจ​นะ​” เซลี​น่า​พลัน​ประหลาดใจ​

“ใช่ ตรงนี้​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ยืนยัน​

“ก็ได้​ จาก​ที่นี่​ไป​ด้านหน้า​อีก​สอง​สามร้อย​เมตร​จะมีสถานี​พัก​ม้าอยู่​ ถ้าคุณ​ไม่อยาก​เดิน​ก็​ขี่ม้า​เข้า​เมือง​เอา​ก็ได้​” เซลี​น่า​จอด​รถ​

ลู่​เซิ่งโบกมือ​ก่อน​จะเปิด​ประตู​ลง​จาก​รถ​

“ไว้​เจอกัน​ตอนค่ำ​”

เขา​เดิน​ไปหา​คน​พัน​ผ้าพันแผล​บน​ใบหน้า​พวก​นั้น​

คน​พวก​นี้​ยืน​กระจาย​กัน​อยู่​ พัน​ผ้าพันแผล​ปิด​ใบหน้า​ครึ่ง​ล่าง​และ​ริมฝีปาก​ ดู​ประหลาด​ยิ่งนัก​

พอ​เห็น​ลู่​เซิ่งมา พวกเขา​ยัง​ยก​มือขึ้น​โบก​ไปมา​ด้วย​

เซลี​น่า​ไม่ได้​สงสัย​อะไร​ ส่ายหน้า​เล็กน้อย​ ก่อน​จะขับรถ​ไป​ต่อ​

ลู่​เซิ่งละสายตา​จาก​รถ​หันมา​มอง​พวก​คน​ด้านหลัง​

“เห็น​สัญลักษณ์​น่าขยะแขยง​บน​ตัว​พวก​แก​มาแต่ไกล​แล้ว​” เขา​เอ่ย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​

“รอ​แก​มานาน​แล้ว​ แต่​ดูเหมือน​แก​ไม่คิด​จะตาม​พวกเรา​ไป​ดี​ๆ สินะ​…” ชาย​พัน​ผ้าพันแผล​ที่​เป็น​ผู้นำ​หรี่ตา​จ้องมอง​ลู่​เซิ่ง พร้อมกับ​ถูมือ​เข้าด้วยกัน​

เสียง​ของ​พวกเขา​มีสำเนียง​ท้องถิ่น​อย่าง​เห็นได้ชัด​

“แก​ฆ่าหมี​ดำ​ ทำลาย​การ​เซ่นสรวง​ ทั้ง​ยัง​มาถึงที่​เอง​ ถ้าหาก​พวกเรา​ยัง​ไม่ตอบโต้​ อย่างนั้น​ก็​ซื่อบื้อ​เกินไป​แล้ว​…” ชาย​ที่​เป็น​ผู้นำ​ยิ้มเยาะ​

“ไป​เถอะ​ ไม่มีปืน​ แก​คง​ไม่คิด​หรอก​ใช่ไหม​ว่า​จะรับมือ​พวกเรา​ได้​”

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท