บทที่ 833 พานพบ (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

วัฏจักร​ลวง​เป็น​ระดับ​หนึ่ง​ของ​ผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​ มีทั้งหมด​สี่ระดับ​ย่อย​ ลู่​เซิ่งติด​อยู่​ใน​ระดับ​ที่สาม​มานาน​แล้ว​ การ​ยกระดับ​เข้าสู่​ระดับ​ที่สี่​ของ​วัฏจักร​ลวง​ใน​ครั้งนี้​หมายความว่า​ แปร​สัจจะอันเป็น​ขอบเขต​ใหญ่​ที่สอง​มีความหวัง​แล้ว​

สามขอบเขต​ใหญ่​อย่าง​วัฏจักร​ลวง​ แปร​สัจจะ อนธการ​ แต่ละ​ขอบเขต​แบ่ง​ออก​เป็น​สี่ระดับ​ย่อย​ ทั้งหมด​สิบสอง​ช่วง​ ครอบคลุม​การ​แบ่ง​รูปแบบ​ทั้งหมด​ของ​ระดับ​มายา​พิศวง​

หาก​บอ​กว่า​วัฏจักร​ลวง​เป็น​ราชัน​ระดับ​ทำลายล้าง​ดวงดาว​ผู้ปกครอง​ดาวเคราะห์​จำนวนมาก​ ซึ่งสามารถ​ทำลาย​สิ่งมีชีวิต​ทั้งหมด​บน​ดาวเคราะห์​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

อย่างนั้น​อธน​การ​ก็​เป็น​ผู้​ทำลายล้าง​ที่​อันตราย​ถึงขั้น​สูญสิ้น​สำหรับ​ดาวเคราะห์​อย่าง​แท้จริง​

พวกเขา​ทำลาย​ดาวเคราะห์​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ยิ่ง​ ถึงขั้น​ที่​ดาวฤกษ์​ วิญญาณ​ดาว​กับ​สัตว์​โบราณ​ทั่วไป​ก็​ไม่คณนา​มือ​พวกเขา​เช่นกัน​

อนธการ​ที่​แข็งแกร่ง​สามารถ​ปกครอง​ระบบ​ดาว​ได้​ เช่นเดียวกับ​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​และ​หยวน​ชิงลี่​เจ้าสำนัก​นที​คราม​

พวกเขา​ทำลาย​ดาว​ได้​เพียงแค่​สะบัดมือ​ ขอบเขต​นี้​เป็น​ขอบเขต​ที่​ลู่​เซิ่งวาดหวัง​มานาน​แล้ว​

ถ้าเขา​เดา​ไม่ผิด​ ก็​เป็นไปได้​มาก​ที่​เหล่า​เทพ​นอกรีต​ของ​โลก​ใบ​นี้​จะอยู่​ใน​ระดับ​นี้​ หรือ​สูงกว่า​

เขา​จัดการ​สภาพร่างกาย​ ปรับ​ให้​เลือด​ลม​ที่​พลุ่งพล่าน​ให้​สงบ​ลง​ ก่อน​จะลุกขึ้น​แล้ว​พบ​ว่า​กล้ามเนื้อ​ของ​ตัวเอง​พอง​ขยาย​อย่าง​เห็นได้ชัด​ แต่​ไม่ได้​ใหญ่​ล่ำสัน​เหมือน​ร่าง​หลัก​ หาก​แต่​เป็น​กล้ามเนื้อ​ไขมัน​ต่ำ​ที่​ให้​ความรู้สึก​สมส่วน​งดงาม​

นอกจากนี้​แล้ว​ พลัง​ประหลาด​ที่​ใช้ปรับ​สมดุล​อวัยวะ​และ​ร่างกาย​ภายใน​ตัว​เขา​ ก็​ขยาย​ใหญ่​ตาม​ไป​ด้วย​ เห็นได้ชัด​ว่า​พลัง​อาวรณ์​ยกระดับ​และ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​มัน​เช่นกัน​

‘มาถึงระดับ​ที่​สิบ​ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ ต่อจากนี้​ต้อง​พักผ่อน​ปรับตัว​อีก​ ฉวยโอกาส​ที่​มีเวลาว่าง​ใน​ตอนนี้​ ศึกษา​ระบบ​ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ทั้งหมด​สัก​รอบ​หนึ่ง​ดีกว่า​’

ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ตาม​มาตรฐาน​ที่​เขา​จำมาจาก​ห้องสมุด​ ด้านใน​ไม่เพียง​มีทฤษฎี​การฝึกฝน​ ยังมี​หลักการ​ การฝึกฝน​เพิ่มเติม​ด้วยตัวเอง​ และ​ความรู้​อัน​น่าพิศวง​ไม่น้อย​

ลู่​เซิ่งศึกษา​ไป​จนถึง​กลางดึก​จึงนอนหลับ​พักผ่อน​ เช้าตรู่​วัน​ต่อมา​เขา​ก็​ไป​ห้องสมุด​อีกครั้ง​

ครั้งนี้​เขา​ไป​ยัง​ห้อง​อ่าน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ นอกจาก​ประมวล​กฎเกณฑ์​อันเป็น​หนังสือเรียน​ตาม​มาตรฐาน​แล้ว​ ที่นี่​ยังมี​ห้อง​เดี่ยว​เล็ก​ๆ อีก​ไม่น้อย​ ใน​ห้อง​แต่ละ​ห้อง​มีประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ชนิด​พิเศษ​วาง​อยู่​ส่วนหนึ่ง​

ลู่​เซิ่งหา​ห้อง​เดี่ยว​ห้อง​หนึ่ง​ ประมวล​กฎเกณฑ์​ด้านใน​เป็น​การศึกษา​ว่า​จะทำให้​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​วิวัฒนาการ​ได้​อย่างไร​ ลู่​เซิ่งกวาดสายตา​อ่าน​ ใช้เวลา​หนึ่ง​ชั่วโมง​ ก็​จดจำ​วิธี​การฝึกฝน​บน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ได้​ทั้งหมด​

ใน​ตอนที่​ยัง​ศึกษา​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ไม่เสร็จ​สมบูรณ์​ สำหรับ​เขา​แล้ว​ การขยับขยาย​แนวคิด​ทาง​ด้าน​นี้​เป็น​ตัวเลือก​ใหม่​

เวลา​อ่าน​หมด​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ ลู่​เซิ่งปิด​หนังสือ​อย่าง​อาลัยอาวรณ์​ ก่อน​จะลุกขึ้น​เดิน​ออกจาก​ห้อง​อ่านหนังสือ​

เขต​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​กลาง​บน​ชั้น​สามไม่มีใคร​ เขา​เดินลง​บันได​ เตรียม​จะไป​กิน​อาหารเช้า​ที่​โรงอาหาร​

แอ๊ด​

ทันใดนั้น​ก็​มีเสียง​เบา​ๆ ดัง​มาจาก​ด้าน​ข้าง​

ลู่​เซิ่งหันไป​มอง​ ชาย​สวม​เสื้อคลุม​สีดำ​รูปร่าง​สูงใหญ่​ กำลัง​ยืน​อยู่​ข้าง​หน้าต่าง​ สอง​มือ​สอด​อยู่​ใน​กระเป๋า​ มอง​เหม่อ​ออก​ไป​

ดูเหมือน​เขา​จะมีสมาธิมาก​ทีเดียว​

ชาย​คน​นั้น​เหมือน​สัมผัส​ได้​ถึงสายตา​ของ​ลู่​เซิ่ง จึงหันมา​มอง​เขา​และ​ยิ้ม​ให้​

ลู่​เซิ่งยิ้ม​ตอบ​อย่าง​มีมารยาท​เช่นกัน​

เขา​ไม่ใช่คน​ที่​ชอบ​สังเกต​สังกา​คนอื่น​ แต่​ชาย​คน​นี้​ให้​ความรู้สึก​มีตัวตน​อยู่​ต่ำ​เกินไป​

สำหรับ​คนธรรมดา​ อาจจะ​มองข้าม​ชาย​คน​นี้​ไป​โดย​ไม่ทันสังเกต​ แต่​สำหรับ​ลู่​เซิ่ง ร่างกาย​ของ​เขา​ถูก​เสริม​ความ​แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​ฉับไว​ขีดสุด​แล้ว​ กอปร​กับ​จิตวิญญาณ​ร่าง​หลัก​แข็งแกร่ง​เกินไป​ จึงให้ความสำคัญ​ตัวตน​ที่​จงใจลบ​ตัวตน​ประเภท​นี้​ยิ่งกว่า​

ชาย​ผู้​นี้​คิ้ว​บาง​ยิ่ง​ ดวงตา​สีฟ้างดงาม​อ่อนโยน​ ผม​สั้น​สีน้ำตาล​หยักศก​ บุคลิก​เรียบ​นิ่ง​เป็นมิตร​

ผิว​ของ​เขา​ขาว​มาก​ เหมือน​คน​ขาว​ แต่​เค้าโครง​หน้าตา​เหมือน​ชาว​เอเชีย​มากกว่า​

ชาย​คน​นี้​มอง​ลู่​เซิ่งสักพัก​ ค่อย​ยิ้มแย้ม​แล้ว​หันหลัง​จากไป​ ท่า​เดิน​ของ​เขา​แปลกประหลาด​มาก​ เสื้อคลุม​ยา​วสี​ดำ​ปกคลุม​สอง​ขา​ การเคลื่อนไหว​ไม่มีการ​การขยับ​ขึ้น​ลง​ เหมือนกับ​ไม่ได้​ใช้ขา​เดิน​ แต่​ใช้ล้อ​แทน​

ลู่​เซิ่งละสายตา​กลับมา​ ก่อน​จะเดินลง​ด้านล่าง​ต่อ​

เมื่อ​มาถึงชั้นหนึ่ง​ ห้องสมุด​ค่อย​คึกคัก​ขึ้น​เล็กน้อย​ นักศึกษา​กับ​อาจารย์​ที่​เข้าๆ ออกๆ​ เพิ่ม​ชีวิตชีวา​ให้​แก่​โถงใหญ่​ที่​อึมครึม​

ลู่​เซิงเดิน​ออกจาก​ประตู​ใหญ่​ คน​ที่มา​อ่านหนังสือ​ที่นี่​จะคำนวณ​เวลา​มาดีแล้ว​ เขา​ไม่รู้​ว่า​ถ้าอยู่​เกิน​เวลา​แล้​วจะ​เจอ​อะไร​ แต่​ดู​จาก​ความลึกลับ​ของ​มหาวิทยาลัย​แห่ง​นี้​ เขา​ไม่คิด​จะแกว่งเท้าหาเสี้ยน​

จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​เดินลง​บันได​ห้องสมุด​ อ้อม​รูป​สลัก​ แล้ว​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​หอพัก​ ตอนบ่าย​ไม่มีเรียน​ เขา​ต้อง​เตรียม​ทำการบ้าน​ที่​ได้รับ​มาก่อนหน้านี้​เสีย​ก่อน​

เวลา​ไหล​ไป​ตาม​ครรลอง​เดิม​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ใน​แต่ละวัน​ นอกจาก​เรียน​แล้ว​ ลู่​เซิ่งก็​จะไป​ห้องสมุด​ และ​ยกระดับ​ร่างกาย​กำลัง​ปรับ​ตัวอย่าง​มั่นคง​อย่าง​เป็น​ขั้น​เป็น​ตอน​

ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ที่​เขา​จำไว้​เพิ่มจำนวน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

ลู่​เซิ่งคาดเดา​ไว้​แล้ว​ว่า​ ความ​ยาก​ที่จะ​เจอ​ใน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​ต่อไป​ย่อม​ไม่ธรรมดา​อย่าง​แน่นอน​ อีก​ทั้ง​ประมวล​กฎเกณฑ์​ทุก​เล่ม​จำเป็นต้อง​ใช้เลือดเนื้อ​ปีศาจ​ ถึงจะยกระดับ​ขึ้น​ได้​ เกรง​ว่า​เงื่อนไข​คงจะ​มากกว่า​เดิม​

แทนที่จะ​รอ​ให้​ถึงเวลา​นั้น​แล้ว​หยุด​พัฒนา​ สู้เตรียม​คลังข้อมูล​ไว้​ก่อน​เสีย​ดีกว่า​

สิ่งที่อยู่​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​ลู่​เซิ่งก็​คือ​ ช่วง​ปรับตัว​ของ​ร่างกาย​ใน​ครั้งนี้​ยาวนาน​ยิ่ง​ ใช้เวลา​หนึ่ง​สัปดาห์​กว่า​ร่างกาย​ของ​เขา​ถึงค่อย​ปรับตัว​เข้ากับ​การฝึกฝน​ยกระดับ​ใน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

ตามเหตุผล​ ไม่ควรจะ​เชื่องช้า​ขนาด​นี้​ ลู่​เซิ่งเดา​ว่า​อาจ​เป็น​เพราะ​ร่าง​หลัก​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ เลย​พลอย​ทำให้​กระบวน​การปรับตัว​ต้อง​ปรับตัว​ทั้งสอง​ด้าน​

ดังนั้น​ความเร็ว​จึงช้าลง​

ด้าน​การเรียน​การสอน​ใน​มหาวิทยาลัย​เป็นไป​ตามปกติ​ นอกจาก​ความ​ยาก​ที่​เพิ่มขึ้น​แล้ว​ ที่​เหลือ​ก็​ไม่มีอะไร​เหนือกว่า​ที่​คาด​ไว้​

กลับเป็น​แอนดี้​ ที่​ร่วมมือ​ตรวจสอบ​คดี​นักศึกษา​หายสาบสูญ​มาโดยตลอด​ วัน​ๆ วิ่ง​ไป​วิ่ง​มา เหน็ดเหนื่อย​สายตัวแทบขาด​

ไม่นาน​ก็​มาถึงวันหยุด​สุดสัปดาห์​อีกครั้ง​ ขณะ​ลู่​เซิ่งกำลังจะ​ออกจาก​ห้องเรียน​หลัง​เลิกเรียน​ แอนดี้​ก็​เรียก​เขา​ไว้​

“แจ๊ค​ วันนี้​วันเกิด​ฉัน​ ไป​ดื่ม​ด้วยกัน​สัก​แก้​วดี​ไหม​ พวกเรา​ดื่ม​ด้วยกัน​”

เขา​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ห้องเรียน​ กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ สภาพ​ของ​เขา​ย่ำ​แย่มาก​ ผม​แห้ง​เป็น​กระเซิง​ ดวงตา​พร่ามัว​ ท่าทาง​สะลึมสะลือ​เล็กน้อย​ ใต้​ตา​ดำคล้ำ​

“ยังมี​ใคร​ไป​อีก​” ลู่​เซิ่งถาม

“ฉัน​กับ​นาย​” แอนดี้​หัวเราะ​แห้ง​ๆ “ว่า​กัน​ตามตรง​ ช่วงนี้​ฉัน​ลำบาก​มาก​ทีเดียว​”

ลู่​เซิ่งดู​เวลา​ ยัง​พอ​มีเวลา​อยู่​

“ก็ได้​ นาย​เลือก​ร้าน​เลย​” เขา​ตอบ​

ทั้งสอง​คน​ออกจาก​หอพัก​ เดิน​ไป​ยัง​ประตู​มหาวิทยาลัย​

แอนดี้​ทึ้ง​ผม​ตัวเอง​ด้วย​สีหน้า​งุ่นง่าน​

“พูด​ตามตรง​นะ​ ตอนแรก​ฉัน​นึก​ว่า​ไอ้​นั่น​มาหา​ฉัน​ แต่​ดู​แล้ว​ ฉัน​คงจะ​คาด​ผิด​ไป​ไกลโข​”

“นาย​คิดผิด​เหรอ​” ลู่​เซิ่งถาม อย่างไร​ก็​อยู่​ว่าง​ๆ ทั้ง​ยัง​เลิกเรียน​แล้ว​ ร่างกาย​เอง​ก็​ฟื้นฟู​แล้ว​เช่นกัน​ แต่​ต้อง​รอ​ตอนดึก​ก่อน​ถึงจะฝึก​ต่อ​ได้​

แอนดี้​ส่ายหน้า​

“ฉัน​นึก​ว่า​มัน​น่าจะ​มาหา​ฉัน​…แต่​พอ​สืบ​จนถึง​ตอนนี้​ ฉัน​ก็​ชัก​สงสัย​ใน​ความเป็นไปได้​นี้​แล้ว​…เกรง​ว่า​…ไอ้​นั่น​จะไม่ได้มา​เพราะ​ฉัน​ ตาม​การคาดการณ์​ของ​ฉัน​ต่อ​ทาง​ฝั่งนั้น​ พวก​มัน​ไม่มีความกล้า​และ​ความสามารถ​ใน​การ​ก่อความวุ่นวาย​ที่​มหาวิทยาลัย​มิสก้า​ได้​”

“หือ​?”

ลู่​เซิ่งสนใจ​ขึ้น​มาบ้าง​

ทั้งสอง​ไป​ยัง​ผับ​เล็ก​ๆ ที่​มีชื่อว่า​วายุ​สารท​ใบไม้​ปลิว​โปรย​ด้านนอก​มหาวิทยาลัย​ เข้าไป​ใน​ห้องส่วนตัว​ดื่มเหล้า​สอง​สามขวด​ แอนดี้​กรอก​เหล้า​เข้า​ปาก​คำโต​ เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​สับสน​และ​ยากลำบาก​ยิ่ง​

“ตอนนี้​ฉัน​นึก​วิธี​เท่า​ที่จะ​นึกออก​แล้ว​ …ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​มัน​ต้องการ​อะไร​กัน​แน่​ อยาก​ทำ​อะไร​กัน​แน่​…ฝ่าย​สภานักศึกษา​ก็​เหนื่อย​แล้ว​เหมือนกัน​ พวกเขา​ใช้กำลังคน​และ​สิ่งของ​มากมาย​ ทุกคน​มีเรื่อง​ที่​ตัวเอง​ต้อง​ทำ​ จะมัวแต่​ทำ​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​”

แอนดี้​บ่น​พลาง​ดื่มเหล้า​อย่าง​หงุดหงิด​

ลู่​เซิ่งไม่พูด​อะไร​ เพียง​นั่ง​ฟังเงียบๆ​ อยู่​ด้าน​ข้าง​เท่านั้น​

เหล้า​ผ่าน​ไป​ทีละ​ขวด​สอง​ขวด​

ตึง​!

อยู่​ๆ ศีรษะ​แอนดี้​ก็​ฟุบ​ลง​กับ​โต๊ะ​ ก่อน​จะหมดสติ​ไป​

ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​อย่าง​เอือมระอา​ เรียก​บริกร​มาคิดเงิน​ จากนั้น​ก็​นั่ง​เป็นเพื่อน​แอนดี้​อยู่​บน​โซฟา รอ​ให้​เขา​ตื่น​

พอ​อยู่​ว่าง​ๆ เขา​ก็​กวาดตา​มอง​ทั้ง​ผับ​ กลับ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะเห็น​เออร์นี​กำลัง​คุย​กับ​ใคร​บางคน​อยู่​ตรง​มุมหนึ่ง​

คุณหนู​ผู้​งดงาม​ที่​มีบุคลิก​หยิ่ง​ทะนง​คน​นี้​กำลัง​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​ชาย​หน้า​กระผม​สีทอง​ด้วย​สีหน้า​หงุดหงิด​ ดูเหมือน​เธอ​กำลัง​เกลี้ยกล่อม​เขา​ โดย​พยายาม​ทำท่า​มีเหตุมีผล​อยู่​

แต่​ชาย​คน​นั้น​แคะ​จมูก​อย่าง​เบื่อหน่าย​ ท่าทาง​ไม่อยาก​พบ​เจอ​เออร์นี​

ลู่​เซิ่งไม่รู้จัก​กับ​เออร์นี​ดี​ จึงหันไป​มอง​ที่อื่น​ต่อ​

“เอ๋​?”

อยู่​ๆ เขา​ก็​หยุด​สายตา​ เพราะ​เห็น​ชาย​เสื้อ​ดำ​ดู​คุ้นตา​คน​หนึ่ง​ตรง​มุมหนึ่ง​ของ​ผับ​

ชาย​คน​นั้น​มีร่าง​สูงใหญ่​ ต่อให้​นั่ง​อยู่​ ก็​ยัง​สูงกว่า​คน​ที่นั่ง​อยู่​ตรง​อื่น​ถึงช่วงตัว​หนึ่ง​ ผิ​วสี​ดำ​ของ​เขา​หนา​เป็น​อย่างยิ่ง​ ยังคง​เหมือน​ตอนที่​พบ​ใน​ห้องสมุด​

ดูเหมือน​จะเป็น​การพบกัน​โดยบังเอิญ​ แต่​พอ​ลู่​เซิ่งไล่​สายตา​ไป​ยัง​ทิศ​ที่​ชาย​คน​นั้น​มอง​อยู่​

ก็​พบ​ว่า​ทิศทาง​นั้น​คือ​แผ่น​หลัง​ของ​เออร์นี​พอดิบพอดี​

สายตา​ของ​อีก​ฝ่าย​หยุด​อยู่​บน​ร่าง​เออร์นี​อย่าง​นิ่งงัน​

เพราะ​ไร้​ตัวตน​เกินไป​ เขา​จึงไม่สนใจ​ว่า​การเคลื่อนไหว​ของ​ตัวเอง​จะถูก​คนอื่น​พบ​เจอ​

เป็น​เพราะว่า​แทบ​ทุกคน​ที่อยู่​โดยรอบ​ไม่สังเกตเห็น​เขา​ด้วยซ้ำ​ อย่า​ว่าแต่​จะรู้​เลย​ว่า​เขา​ทำ​อะไร​อยู่​

แต่​ลู่​เซิ่งไม่เหมือนกัน​

เขา​รีบ​ละสายตา​กลับมา​ แต่​ก็​ยัง​ถูก​คน​คน​นั้น​พบ​ อีก​ฝ่าย​หันมา​มอง​เขา​อย่าง​เป็นมิตร​

ตอนแรก​กวาดตา​มอง​แอนดี้​ที่​หมดสติ​อยู่​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​หยุด​สายตา​บน​ร่าง​ลู่​เซิ่ง

พอ​มอง​เสร็จ​ก็​ละสายตา​กลับ​ทันที​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ประสาทสัมผัส​ทั้ง​ห้า​ของ​ลู่​เซิ่งฉับไว​ถึงขีดสุด​ เกรง​ว่า​คง​ไม่พบ​การเคลื่อนไหว​ของ​อีก​ฝ่าย​

ไม่นาน​นัก​ เออร์นี​ก็​ลุกขึ้น​ผละ​จาก​ชาย​คน​นั้น​ เหมือน​จะทะเลาะ​กัน​อยู่​เนืองๆ​

ครั้น​เออร์นี​จากไป​ ชาย​สวม​เสื้อ​ดำ​คน​นั้น​ก็​ลุกขึ้น​และ​ตาม​ไป​อย่าง​ผ่าเผย​

ลู่​เซิ่งมอง​เหล้า​บน​โต๊ะ​ ดื่ม​ไป​พอประมาณ​แล้ว​ ควรจะ​หยุด​ได้​สักที​ เขา​จึงลุกขึ้น​ ตบ​ๆ ปัดๆ​ รอย​ยับ​บน​เสื้อ​ ก่อน​จะเดิน​ออกจาก​ประตู​ไป​

แอนดี้​ที่​ดื่ม​จน​หลับ​บน​โซฟาเหมือน​จะรู้สึก​ได้​ ลืมตา​สะลึมสะลือ​ คิด​จะลุกขึ้น​ แต่​ก็​สังเกต​ได้​ว่า​ไม่มีแรง​

ลู่​เซิ่งเดิน​ออกจาก​ผับ​ เหลียว​มอง​ซ้าย​ขวา​ ชาย​เสื้อ​ของ​ชาย​เสื้อ​ดำ​คน​นั้น​หาย​ไป​ตรง​กำแพง​มุมโค้ง​พอดี​

ลู่​เซิ่งไม่สนใจ​ นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​เขา​ เขา​จึงเดินทอดน่อง​กลับ​หอพัก​โดย​ซุก​มือ​ไว้​ใน​กระเป๋ากางเกง​

แม้เขา​จะสนใจ​ใน​ตัว​ผู้ชาย​คน​นี้​อยู่​บ้าง​ ทว่า​ตอนนี้​ เขา​คิด​เพียง​ตั้งใจ​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย​เท่านั้น​ ไม่คิด​จะทำ​อะไร​อย่าง​อื่น​

แม้ลู่​เซิ่งจะรู้สึก​ได้​ว่า​ ความสนใจ​ของ​ตน​มักจะ​หา​ผลประโยชน์​มาให้​ตน​ไม่น้อย​ใน​หลาย​ๆ ครั้ง​ก็ตาม​

แน่นอน​ว่า​สำหรับ​คนอื่น​อาจจะ​เป็น​ผลเสีย​ แต่​ผลดี​กับ​ผลเสีย​มัก​ช่วยเหลือ​เกื้อกูล​กัน​อยู่แล้ว​

เขา​เดินผ่าน​ทาง​เลี้ยว​แล้ว​เงยหน้า​มอง​ เห็น​ชาย​เสื้อ​ดำ​ถือ​กระบอง​สั้น​ไว้​ใน​มือ​ มองดู​เออร์นี​ที่​เดิน​ไป​ด้านหน้า​อย่าง​เชื่องช้า​

เขา​ยก​ปลาย​กระบอง​สั้น​ขึ้น​เล็ง​ไป​ด้านหน้า​ เหมือน​ปืน​ที่​กำลัง​เตรียม​ยิง​

หญิงสาว​คน​นั้น​กำลัง​ก้มหน้า​ มือ​กำ​ของ​บางอย่าง​ไว้​แน่น​ เหมือน​อารมณ์​หม่นหมอง​ยิ่ง​

เหมือน​สัมผัส​ได้​ถึงการเคลื่อนไหว​ด้านหลัง​ ชาย​เสื้อ​ดำ​จึงหัน​กลับมา​ พอ​เห็น​ลู่​เซิ่งที่อยู่​ด้านหลัง​ เขา​ก็​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเก็บ​กระบอง​สั้น​ แล้ว​เลี้ยว​ไป​ทางซ้าย​ ผละ​จากไป​ด้วย​รอยยิ้ม​

ลู่​เซิ่งมองตาม​จน​เขา​จากไป​ เมื่อ​ครู่​เขา​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​สังหาร​ที่​ชาย​คน​นั้น​ปล่อย​ออกมา​ต่อ​เออร์นี​

ท่าทาง​ที่​เหมือน​พร้อม​จะลงมือ​ได้​ทุกเวลา​นั้น​ไม่เหมือนกับ​ประดิษฐ์​ขึ้น​เลย​สักนิด​

‘นี่​มัน​อะไร​กัน​’ เขา​ส่ายหน้า​อย่าง​จนใจ​ ตอน​อยู่​ที่​ห้องสมุด​ เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​ชาย​คน​นั้น​น่าจะ​มีจุดประสงค์​บางอย่าง​

พอ​ตอนนี้​เห็น​ชาย​คน​นี้​อีกครั้ง​เตรียม​ลงมือ​อย่าง​โจ่งแจ้ง

‘แต่ว่า​มัน​เกี่ยว​อะไร​กับ​เรา​ล่ะ​’ ลู่​เซิ่งคร้าน​จะคิดมาก​ เดิน​ไป​มหาวิทยาลัย​ต่อ​

เรื่อง​พวก​นี้​ควร​เป็น​หน้าที่​ของ​สภานักศึกษา​กับ​ผู้มีอำนาจ​ใน​มหาวิทยาลัย​ เขา​เป็น​เพียง​นักศึกษา​ หน้าที่​และ​ภารกิจ​หลัก​ของ​เขา​คือ​การ​ตั้งใจ​เรียน​ สิ่งอื่น​ใด​ไม่สำคัญ​เท่า​การเรียน​ทั้งนั้น​

ความคิด​ของ​ลู่​เซิ่งใน​ตอนนี้​แน่วแน่​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท