บทที่ 836 เลื่อนระดับ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ลู่​เซิ่งเดิน​ออกจาก​ห้อง​อ่านหนังสือ​ ยืน​อยู่​ใน​ระเบียง​โล่งโจ้ง​ กลับ​ไป​ตาม​ทาง​เดิม​ แต่​ในขณะที่​เดิน​ถึงบันได​และ​กำลังจะ​ลง​ไป​นั้น​

เขา​พลัน​กวาดสายตา​เห็น​แผ่น​สำริด​ของ​ห้อง​อ่านหนังสือ​แผ่น​หนึ่ง​

‘ห้อง​เก็บ​ข้อมูล​ต่างประเทศ​’

“เฮ้ แจ๊ค”​

ลู่​เซิ่งงุนงง​เล็กน้อย​ หันไป​มอง​ระเบียง​อีก​ด้าน​ โท​เลย์​ครูฝึก​ทหาร​ หรือ​อาจารย์​คาบ​เรียน​รวม​ของ​นักศึกษา​ใหม่​ ถือ​หนังสือ​ปก​หนัง​สีน้ำตาล​เล่ม​หนึ่ง​ เดิน​มาพร้อมกับ​สุภาพสตรี​กระโปรง​แดง​อีก​คน​

“เพิ่งจะ​เข้าเรียน​ได้​เดือน​เดียว​ ฉัน​ได้ยิน​นักศึกษา​กับ​อาจารย์​หลาย​คน​พูดถึง​คุณ​ไม่หยุด​เลย​ ฉายา​นั้น​มาจาก​ไหน​กัน​ ปีศาจ​คลั่ง​แห่ง​ห้องสมุด​งั้น​เหรอ​” โท​เลย์​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​สัพยอก​ ไม่ว่า​จะเป็น​อาจารย์​คน​ไหน​ก็​ยินดี​ที่จะ​แสดง​ความ​สนิท​และ​รอยยิ้ม​ของ​ตัวเอง​แก่​นักศึกษา​อันดับ​ต้น​ๆ ที่​ตนเอง​สอน​อยู่​ทั้งนั้น​

“สวัสดี​ครับ​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ทักทาย​

“คุณ​กำลังจะ​กลับ​เหรอ​” โท​เลย์​ถาม

เธอ​ใส่เสื้อ​ครอป​เชิ้ต​สีดำ​แนบเนื้อ​ ขา​เรียว​ยาว​สมส่วน​สวม​กางเกง​หนัง​ดำ​เงา เอว​ด้านหลัง​เหมือน​จะเสียบ​ซอง​ปืนสั้น​ไว้​

“ครับ​ ไม่เจอ​ข้อมูล​ที่​อยากได้​ มีเนื้อหา​ซ้ำซ้อน​กัน​เยอะ​เกินไป​น่ะ​ครับ​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

“หือ​? ไม่เจอ​งั้น​เหรอ​” โท​เลย์​เลิกคิ้ว​ “ถ้าไม่เจอ​จริงๆ​ คุณ​ก็​ไป​เขต​วรรณกรรม​ภาษาอื่น​ดู​สิ หรือไม่​ก็​…มาอีกที​ตอนกลางคืน​…” มุมปาก​เธอ​เผย​รอยยิ้ม​อันตราย​

“อย่า​ไป​เป่าหู​นักศึกษา​สิโท​เลย์”​ สุภาพสตรี​กระโปรง​แดง​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​และ​ตัดบท​เธอ​ “ห้องสมุด​ตอนกลางคืน​ไม่ใช่สถานที่​ที่​นักศึกษา​ปี​หนึ่ง​ควร​แตะต้อง​”

“ก็ได้​ๆ” โท​เลย์​ยกมือ​ยอมแพ้​

“ควร​กลับ​ได้​แล้ว​” หญิงสาว​กระโปรง​แดง​เอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​ สายตา​จ้อง​จับ​บน​ร่าง​ลู่​เซิ่งที่อยู่​ด้านหน้า​ “เด็กน้อย​ ขอ​บอก​เธอ​ตามตรง​นะ​ มีน้อย​คน​ที่​รู้​ว่า​มหาวิทยาลัย​แห่ง​นี้​มีห้องสมุด​ทั้งหมด​สามแห่ง​ ทิวา​ ราตรี​ และ​ห้วง​ฝัน​ ถ้าหา​สิ่งที่​ตัวเอง​ต้องการ​ไม่เจอ​ใน​ตอนกลางวัน​ คุณ​ลอง​กลับ​ไป​หลับ​สัก​งีบ​ดู​สิ แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ ทาง​ที่​ดี​อย่า​ไป​ห้องสมุด​ตอนกลางคืน​บ่อยๆ​ จะดีกว่า​ ที่นั่น​เต็มไปด้วย​เจตนาร้าย​ต่อ​นักศึกษา​ที่​ไป​ เชื่อ​ฉัน​ ครั้ง​ก่อนที่​เธอ​ไม่เจอ​ปัญหา​เพราะ​โชคดี​นั่นแหละ​”

สิ้น​เสียง​ เธอ​ก็​พา​โท​เลย์ลง​ไป​ด้านล่าง​ ไม่นาน​ก็​หาย​ลับ​ไป​

ลู่​เซิ่งหวน​นึกถึง​คำพูด​เมื่อ​ครู่​ แล้วก็​พลัน​ตกใจ​ว่า​ ตอนนี้​ทำ​อย่างไร​เขา​ก็​นึก​ใบหน้า​ของ​หญิงสาว​กระโปรง​แดง​คน​เมื่อ​ครู่​ไม่ออก​

เหมือนกับ​ใบหน้า​ของ​หญิงสาว​คน​นั้น​พร่ามัว​

‘นี่​ไม่ปกติ​…’ ลู่​เซิ่งก้ม​มอง​พื้น​ รอยเท้า​ที่​พวก​โท​เลย์​ทิ้ง​ไว้​ยัง​คงอยู่​ แต่กลับ​นึก​รูปร่างหน้าตา​ของ​หญิงสาว​กระโปรง​แดง​คน​นั้น​ไม่ออก​แม้แต่​นิดเดียว​

‘ลึกลับ​จริงๆ​…มหาวิทยาลัย​แห่ง​นี้​’ ลู่​เซิ่งโคลง​ศีรษะ​ ไม่พูด​อะไร​มาก​อีก​

‘เมื่อ​ครู่​โท​เลย์​เตือน​เรา​ ใน​เมื่อ​หา​ข้อมูล​ที่​ต้องการ​ไม่เจอ​จาก​ภาษาอังกฤษ​กับ​ภาษาเยอรมัน​ ทำไม​เรา​ไม่ลอง​ไป​คลัง​เก็บ​เอกสาร​ข้อมูล​ต่างประเทศ​ดู​ล่ะ​’

เขา​มอง​ห้อง​เก็บ​ข้อมูล​ภาษาต่างประเทศ​ด้านหน้า​ ก่อน​จะสาวเท้า​เข้าไป​

เวลา​หนึ่ง​ชั่วโมง​เหลือ​ไม่มาก​แล้ว​ อีกไม่นาน​ก็​จะหมด​ลง​ ตอนที่​ลู่​เซิ่งออกจาก​ห้องสมุด​ ใน​หัว​ก็​มีเนื้อหา​ประมวล​กฎเกณฑ์​ภาษาฝรั่งเศส​ที่​หา​เจอ​ชุด​ใหม่​เพิ่มขึ้น​มา

ตั้งแต่​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นต้น​ ขั้น​กลาง​ ถึงขั้นสูง​ จนถึง​ตอนนี้​ นี่​เป็น​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​ที่สี่​ เป็น​ประมวล​กฎเกณฑ์​ระดับ​สูงสุด​ และ​ระดับ​ที่​ลึก​สุด​เท่าที่​คนธรรมดา​จะหา​มาได้​

ลู่​เซิ่งพลิก​หา​ใน​ห้อง​เก็บ​เอกสาร​ภาษาต่างประเทศ​รอบ​หนึ่ง​ แม้จะเจอ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​สี่ที่อยู่​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​ แต่​ประสิทธิผล​ไม่ต่าง​จาก​ชุด​ก่อนหน้า​มาก​เท่าไร​ มีประโยชน์​ไม่มาก​นัก​

พอ​กลับ​ไป​ถึงหอพัก​ เขา​ก็​โยน​ความคิด​ทุกอย่าง​ทิ้ง​ออก​ไป​ แล้ว​ตั้งสมาธิ​กับ​การ​ยกระดับ​ตัวเอง​

เมื่อ​ขับรถ​ไป​ถึงยอดเขา​ ย่อม​ต้อง​มีหนทาง​ เรียนรู้​ประมวล​กฎเกณฑ์​ใน​มือ​ให้​เรียบร้อย​ก่อน​ค่อย​คิดถึง​อย่าง​อื่น​

เขา​กิน​อาหารเย็น​กับ​แอนดี้​ จากนั้น​ทาง​ด้าน​ชายหนุ่ม​หล่อเหลา​ก็​ไป​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​เต้นรำ​นักศึกษา​เหมือน​อย่างเคย​ ช่วงนี้​เขา​จีบ​รุ่นพี่​ปี​สอง​ที่​ยั่วยวน​เซ็กซี่​ติดกัน​สอง​คน​ ใช้ชีวิต​อย่าง​สนุก​สุดเหวี่ยง​ทีเดียว​

ทาง​เออร์นี​ยังคง​ตั้งสมาธิ​กับ​การ​ทำ​ภารกิจ​ของ​ตระกูล​ตัวเอง​ หลาย​วัน​มานี้​เหมือน​จะไป​ไหน​มาไหน​กับ​ชาย​ที่​ชื่อ​คา​ฟิส

ลู่​เซิ่งเห็น​ทั้งสอง​กินข้าว​และ​พูดคุย​หยอกล้อ​กัน​ใน​โรงอาหาร​ เหมือน​บรรยากาศ​ไม่เลว​ทีเดียว​

เขา​ปฏิเสธ​คำเชิญ​ไป​งานเลี้ยง​เต้นรำ​ของ​แอนดี้​ แล้ว​กลับ​ไป​ทุ่มเท​กับ​การเรียนรู้​ประมวล​กฎเกณฑ์​อีกครั้ง​ที่​ห้อง​

หมุด​เล็ก​ๆ จำนวนมาก​ลอย​อยู่​รอบตัว​ลู่​เซิ่ง ประกอบ​กัน​เป็น​ลวดลาย​รูปภาพ​รูปทรง​สัตว์​ชนิด​ต่างๆ​ กลางอากาศ​ตลอดเวลา​

นี่​เป็น​ขั้นตอน​การฝึกฝน​สำหรับ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ระดับ​สิบเอ็ด​

ลู่​เซิ่งกำลัง​ทดลอง​ควบคุม​บังคับ​พลัง​ของ​ตัวเอง​ ตอนที่​สู้กับ​ชาย​ชุด​ดำ​คน​นั้น​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ เขา​ค้นพบ​ว่า​ตนเอง​ควบคุม​กระแส​อากาศ​ได้​ไม่แม่นยำ​นัก​ ดังนั้น​จึงเริ่ม​ฝึกฝน​ความสามารถ​ด้าน​นี้​ตาม​วิธีการ​ใน​ประมวล​กฎเกณฑ์​

‘ดี​ป​บลู​’ เขา​ฝึกฝน​และ​ควบคุม​หมุด​พลาง​เรียก​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ออกมา​

‘ยกระดับ​วิชา​เลือด​ลม​หนึ่ง​ระดับ​ก่อน​ ค่อย​ยกระดับ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขึ้น​สูงอีก​หนึ่ง​ระดับ​’

เขา​ออกคำสั่ง​ทันที​

อินเตอร์​เฟซดี​ป​บลู​พร่ามัว​อย่าง​รวดเร็ว​ แล้ว​กรอบ​ของ​วิชา​เลือด​ลม​ค่อย​ชัดเจน​ขึ้น​

[วิชา​เลือด​ลม​: ระดับ​ที่สี่​สิบ​เก้า​ (ยกระดับ​ทุก​ด้าน​สี่สิบ​เก้า​ขั้น​ ทุก​ขั้น​ยกระดับ​หน่วย​ละ​ 0.1)]

เลือด​ลม​อัน​มหาศาล​หมุนเวียน​อยู่​ใน​ร่าง​ ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ร่างกาย​กำลัง​ปลดปล่อย​อุณหภูมิ​ร้อนระอุ​ออกมา​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​บน​ตัว​กำลัง​พอง​ขยาย​และ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​

ถัด​จากนั้น​ กรอบ​ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ก็​พร่ามัว​ลง​ สอง​สามวินาที​ต่อมา​ก็​กลับมา​ชัดเจน​ใหม่​อีกครั้ง​

[ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​: ระดับ​สิบเอ็ด​]

ไม่มีการ​แสดงผล​พิเศษ​ใดๆ​ สิ่งที่​ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ก็​คือ​พลัง​แห่ง​กู​ลาร์​ที่​บรรยาย​ไม่ได้​ใน​ร่างกาย​หลาย​สาย​กำลัง​ขยายตัว​และ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ ขณะเดียวกัน​อวัยวะ​สัมผัส​ที่หก​บน​มือขวา​ก็​มีพลัง​อาวรณ์​จำนวนมาก​ทะลัก​เข้ามา​อย่าง​ต่อ​เนื่องด้วย​

พลัง​อาวรณ์​ที่​ทะลัก​เข้ามา​ไม่มีการ​ป้อนข้อมูล​กลับ​ไป​ราวกับ​หาย​ไป​เสีย​เฉย​ๆ

‘นี่​คือ​กำลัง​สั่งสมเพื่อ​รอ​การเปลี่ยนแปลง​เหรอ​’ ลู่​เซิ่งสูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​

‘เอา​อีก​ ยกระดับ​วิชา​เลือด​ลม​หนึ่ง​ระดับ​!’

‘ยกระดับ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​หนึ่ง​ระดับ​!’

ลู่​เซิ่งนั่ง​อยู่​กลาง​ห้อง​ ยกระดับ​สลับ​กัน​ไปมา​แบบนี้​ทีละ​ระดับ​ ใน​ตอนที่​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ไป​ถึงระดับ​สิบ​เก้า​ ในที่สุด​อวัยวะ​สัมผัส​ที่หก​ก็​มีการเคลื่อนไหว​แล้ว​

ลู่​เซิ่งยก​มือขึ้น​ เห็น​ดอก​ตูม​บน​แขน​ค่อยๆ​ งอก​กลีบดอก​ที่​เรียว​เล็ก​เหมือน​หนาม​แหลม​ออกมา​เป็น​จำนวนมาก​ ลวดลาย​ที่​ปกคลุม​ผิว​เพิ่มจำนวน​ขึ้น​ ดู​งดงาม​กว่า​เดิม​ไม่น้อย​ เกสร​ดอกไม้​ตรงกลาง​ค่อยๆ​ กลายเป็น​รูปทรง​ก้อน​หอย​ คล้าย​กับ​ใช้การพ่น​โจมตี​ด้วย​กระแส​อากาศ​

สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ ลู่​เซิ่งยัง​สัมผัส​ได้​ว่า​จิตวิญญาณ​ของ​ร่าง​หลัก​ขยายตัว​ขึ้น​อีกแล้ว​

‘นี่​คือ​รูปแบบ​ที่สาม​งั้น​เหรอ​’

ครั้งนี้​ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ว่า​ พลัง​แห่ง​กู​ลาร์​ที่​ไหลเวียน​ใน​ร่างกาย​ขยาย​ตัวอย่าง​อย่าง​บ้าคลั่ง​เหมือน​ถูก​เป่า​ลม​ ใช้เวลา​แค่​สิบ​กว่า​นาที​ ก็​ขยาย​ขึ้น​จาก​เดิม​หลาย​เท่าตัว​

จิตวิญญาณ​ของ​ร่าง​หลัก​ขยาย​ขนาด​ขึ้น​เช่นกัน​ เหมือน​ในที่สุด​จิตวิญญาณ​ก็​เริ่ม​ปรับตัว​กับ​กฎ​พื้นฐาน​ส่วนหนึ่ง​ของ​โลก​ใบ​นี้​ได้​แล้ว​ ค่อยๆ​ ปล่อย​รยางค์​เล็ก​ออกมา​ส่วนหนึ่ง​ แล้ว​เริ่ม​สูบ​กิน​สาร​ลึกลับ​ที่​บรรยาย​ไม่ได้​ส่วนหนึ่ง​จาก​อากาศ​โดยรอบ​

สาร​ชนิด​นี้​เหมือน​จะเป็น​ปัจจัยหลัก​ที่​ทำให้​จิตวิญญาณ​เติบโต​อย่าง​บ้าคลั่ง​

สาร​ลึกลับ​จำนวนมาก​ทะลัก​เข้า​จิตวิญญาณ​ จากนั้น​ก็​ถูก​ย่อยสลาย​และ​ดูดซับ​ กลายเป็น​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​ที่เกิด​จาก​การ​เปลี่ยน​จิตวิญญาณ​ของ​วิญญาณ​แห่ง​วัฏจักร​ให้​กลายเป็น​รูปธรรม​ ทั้ง​ยัง​กลืน​กิน​พลัง​จิตวิญญาณ​ที่​เทียบ​ได้​กับ​ตัวเอง​สอง​คน​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​

ครืน​ๆๆ…

ลู่​เซิ่งหลับตา​ สัมผัส​ได้​ว่า​จิตวิญญาณ​ของ​ร่าง​หลัก​กำลัง​สั่นเทิ้ม​

นั่น​คือ​ร่องรอย​ที่​พลัง​จิตวิญญาณ​ใกล้​จะอิ่มตัว​ ใน​ตอนที่​จิตวิญญาณ​กลืน​กิน​และ​ขยาย​ขนาด​ถึงขีดจำกัด​หนึ่ง​ เหล่า​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​จะไป​ถึงแปร​สัจจะ หรือ​ขอบเขต​ใหญ่​ที่สอง​

วัฏจักร​ลวง​เป็น​ร่องรอย​ที่​มาร​สวรรค์​สร้าง​วัฏจักร​ขึ้น​ใน​โลก​ของ​ตัวเอง​ขั้นต้น​ ส่วน​แปร​สัจจะ คือ​การ​เปลี่ยน​ทุก​สิ่งของ​โลก​รูป​จิต​ให้​กลาย​เป็นจริง​ใน​ขั้น​เบื้องต้น​

ทำให้​ทุกสิ่ง​ที่อยู่​ด้านใน​ไม่คงอยู่​ใน​สภาพ​จิตวิญญาณ​หรือ​สภาพ​มายา​อีกต่อไป​ หาก​แต่​สามารถ​ปล่อย​ออกมา​ให้​กลายเป็น​สิ่งมีชีวิต​ที่​จับต้อง​ได้​ตลอดเวลา​

ถ้าหาก​บอ​กว่า​ผู้​เข้มแข็ง​วัฏจักร​ลวง​มายา​พิศวง​สู้ศึก​ลำพัง​ อย่างนั้น​ขอบเขต​แปร​สัจจะก็​สามารถ​ปลดปล่อย​พลัง​ของ​โลก​รูป​จิต​ออกมา​ได้​พร้อมๆ กัน​

เมื่อ​เป็น​แบบนี้​แล้ว​ พลัง​และ​ขุม​กำลังจะ​เพิ่มขึ้น​ถึงขั้น​น่า​สะพรึง​ใน​เวลา​อัน​สั้น​

เท่ากับ​ลู่​เซิ่งครอบครอง​กองหนุน​ของ​ขุม​กำลัง​ใหญ่​ทั้งหมด​ฟรี​ๆ นอกจากนั้น​สิ่งที่​สำคัญ​ยิ่งกว่า​ก็​คือ​ โลก​รูป​จิต​สามารถ​ใส่วัตถุ​เข้าไป​ได้​ นี่​นับว่า​เป็น​ตู้นิรภัย​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​ใน​โลก​ ไม่อาจ​เทียบ​กับ​อุปกรณ์​มิติ​ที่​รูปลักษณ์​อาจ​พังทลาย​และ​ถูก​แย่ง​ไป​ได้​พวก​นั้น​

จิตวิญญาณ​ใน​ตัว​ของ​ลู่​เซิ่งกำลัง​พลุ่งพล่าน​และ​เปลี่ยนแปลง​ เหมือนกับ​เมือก​น้ำมัน​นับไม่ถ้วน​กำลัง​จับตัว​และ​รวมกลุ่ม​กัน​กลายเป็น​ผลผลิต​ทาง​พลังงาน​ที่​เหมือนกับ​เม็ด​อนุภาค​จำนวนมาก​

โผละ​

ร่างกาย​ของ​เขา​สั่นสะท้าน​อย่าง​รุนแรง​ อวัยวะ​ทั้งหมด​ใน​ตัวแปร​เปลี่ยนเป็น​สีดำ​ เซลล์​เหลือ​คณานับ​ใน​เลือดเนื้อ​ต่าง​เริ่ม​งอก​หนาม​แหลม​สีดำ​ออกมา​อย่าง​แน่นขนัด​

ระหว่าง​โครงสร้าง​ห่วง​โซ่ที่​เป็นเกลียว​คู่​บน​ห่วง​โซ่ดีเอ็นเอ​ที่​ตอนแรก​เป็น​ของ​มนุษย์​ เริ่ม​งอก​อนุภาค​แข็ง​ที่​เหมือนกับ​ผลึก​สีดำ​ขึ้น​มาใหม่​

อนุภาค​พวก​นี้​เกาะ​ติดกับ​ผิว​และ​บริเวณ​รอบ​ดีเอ็นเอ​เหมือนกับ​ผลึก​คริสตัล​ ผลึก​คริสตัล​ทุก​เม็ด​เริ่ม​เห็น​ภาพวาด​มีสีสัน​นับไม่ถ้วน​ปรากฏ​ด้านใน​ได้​อย่าง​เลือนราง​ เหมือนกับ​ใน​นั้น​คือ​มิติ​ต่างๆ​

ฟุ่บ​!

ลู่​เซิ่งขด​ตัวอย่าง​กะทันหัน​ หลัง​โก่ง​ขึ้น​ ปลายนิ้ว​ของ​เขา​แห​ลมขึ้น​เรื่อยๆ​ เริ่ม​เหมือนกับ​ตัว​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​ หรือ​ปีศาจ​แห่ง​ห้วง​ความว่างเปล่า​มากขึ้น​ไม่หยุด​

ทั่ว​ร่าง​ค่อยๆ​ ถูก​ปกคลุม​ด้วย​เกราะ​เกล็ด​สีดำ​ แต่​สิ่งที่​ต่าง​จาก​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​ทั่วไป​ก็​คือ​ เกราะ​เกล็ด​ของ​เขา​ยิ่ง​ผ่าน​ไป​ยิ่ง​หนา​ตัว​ขึ้น​เรื่อยๆ​ แค่​ไม่กี่​วินาที​ ก็​งอก​ยาว​ขึ้น​สิบ​เซนติเมตร​

เกราะ​เกล็ด​ปกคลุม​บน​ร่าง​ เหมือนกับ​สวม​เกราะ​โลหะ​สีดำ​หนา​หนัก​ไว้​ชั้นหนึ่ง​

ซู่….

กระแส​อากาศ​สีขาว​จำนวนมาก​ถูก​พ่น​ออก​มาจาก​ข้อต่อ​บน​เกราะ​

“มา…จงมา…รวม​เป็นหนึ่งเดียว​กับ​ข้า​…ห้วง​ความว่างเปล่า​จะปกครอง​ทุกสิ่ง​…บุญคุณ​ของ​เทพ​จะยุติ​โลก​ที่​ไม่จีรัง​นี้​…มีแต่​ความโกลาหล​เท่านั้น​ที่จะ​เป็น​นิรันดร์​…พวกเรา​เป็นหนึ่ง​ ไม่อาจ​แยก​จากกัน​…สรรพสิ่ง​เป็นหนึ่ง​…”

เสียง​เลือนราง​เสียง​หนึ่ง​สะท้อน​ใน​ห้วง​สมอง​ของ​ร่าง​หลัก​

“สรรพสิ่ง​บ้าน​แก​สิวะ​!” ลู่​เซิ่งรู้​ว่าการ​เติบโต​ที่​เร็ว​ขนาด​นี้​จะต้อง​ผิดปกติ​แน่​! ตอนนี้​ดูเหมือน​จะเป็น​อย่าง​ที่​คาด​ไว้​! สิ่งนี้​มุด​เข้ามา​ใน​หัวสมอง​ของ​เขา​แล้ว​!

“บุกเข้าไป​ฆ่ามัน​ซะ!” เลือด​ลม​เขา​เดือด​พล่าน​ กระเรียน​ยักษ์​ไร้​รูปร่าง​ตัว​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​จิตวิญญาณ​ของ​ร่าง​หลัก​ส่งเสียงร้อง​แหลม​สูง แล้ว​รวมตัว​กลาย​เป็นรูปเป็นร่าง​อย่าง​รวดเร็ว​

กลาง​ทะเลสาบ​สีดำ​ผืน​หนึ่ง​ใน​จิตวิญญาณ​ กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​กลายเป็น​มนุษย์​หัว​กระเรียน​ สอง​มือ​คว้า​จับ​วัตถุ​เหนียวหนืด​ที่​เหมือน​โคลน​ดำ​จาก​ส่วนลึก​ของ​ทะเลสาบ​ดำ​

โคลน​ดำ​จับตัว​เป็นรูปเป็นร่าง​กลายเป็น​คน​หัว​กระเรียน​ที่​เหมือน​พัน​เท​วะ​ไม่ผิดเพี้ยน​อย่าง​รวดเร็ว​ นอกจาก​ร่างกาย​ที่​เป็น​สีแดง​เรื่อ​ๆ แล้ว​ แม้แต่​ขนาด​ก็​ยัง​เหมือนกัน​อีกด้วย​

เปรี้ยง​!

กระเรียน​ยักษ์​สอง​ตัว​เข้า​ปะทะ​กัน​

พลัง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​สูสีก้ำกึ่ง​ ถึงกับ​แบ่ง​ผล​แพ้ชนะ​ไม่ได้​ชั่วขณะ​

“จงยอมแพ้​เถอะ​…ข้า​คือ​เจ้า เจ้าคือ​ข้า​…” เสียง​เลือนราง​กลุ่ม​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​

ตูม​!

กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​ถูก​กระเรียน​ยักษ์​สีแดง​ผลัก​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​ ส่วนหัว​ถูก​จิก​อย่าง​รุนแรง​ ร่าง​ท่อน​บน​ถูก​การ​โจมตี​นี้​กระแทก​จน​เกือบ​แหลก​เละ​ไป​ทั้ง​ร่าง​

พูดถึง​พลัง​ พลัง​ของ​พัน​เท​วะ​อ่อนแอ​กว่า​อีก​ฝ่าย​ มัน​ถึงกับ​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​อีก​ฝ่าย​เสีย​ด้วยซ้ำ​ และ​ลู่​เซิ่งยัง​สัมผัส​ได้​ว่า​กระเรียน​ยักษ์​สีแดง​ที่อยู่​ด้านหน้า​กำลัง​ดูดซับ​พลัง​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ไม่ขาดสาย​ แต่​พลัง​ของ​พัน​เท​วะ​กำลัง​ลดลง​อย่าง​รวดเร็ว​

“ไม่ว่า​เจ้าจะแข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​ ข้า​ก็​สามารถ​ดูด​พลัง​จาก​เจ้าได้​ ดังนั้น​ ไม่มีประโยชน์​หรอ​ก.​..ยอมแพ้​เถอะ​…พวกเรา​เป็นหนึ่ง​เดียวกัน​อยู่แล้ว​”

พัน​เท​วะ​ดีดดิ้น​บน​พื้น​อย่าง​บ้าคลั่ง​ สัตว์​ขนาด​มโหฬาร​สอง​ตัว​กำลัง​เข่นฆ่า​กัน​ แต่​พลัง​ของ​อีก​ฝ่าย​เหนือกว่า​เขา​อย่าง​ชัดเจน​ ไม่ว่า​พัน​เท​วะ​จะดิ้นรน​อย่างไร​ ก็​ไม่อาจ​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​

“ยอมแพ้​เถอะ​…ข้า​ก็​คือ​เจ้า…!” กระเรียน​ยักษ์​สีแดง​คำราม​ต่ำ​ เสียง​อัน​อึงอล​ดัง​สะท้อน​ใน​มิติ​ทะเลสาบ​ดำ​อย่าง​ต่อเนื่อง​

“ไม่…เจ้าไม่ใช่ข้า​!” ปาก​ของ​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​ส่งเสียง​ของ​ลู่​เซิ่ง “เจ้าไม่รู้​เลย​ว่า​…ข้า​แข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​!”

“ดี​ป​บลู​!”

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท