บทที่ 852 แกนหลักและเทพเจ้า (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“เธอ​ก็​เลย​มาร้องไห้​อยู่​ตรงนี้​น่ะ​เหรอ​” ลู่​เซิ่งหมด​คำ​จะพูด​

“…” เอียน​เพียง​ปาด​น้ำตา​เงียบๆ​ เท่านั้น​

“เอาล่ะ​ ลุกขึ้น​มาได้​แล้ว​ อย่า​นอน​บน​พื้น​ อยาก​จะเรียน​วาดรูป​กับ​ฉัน​ไม่ใช่เหรอ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ “ถ้าเธอ​ซื่อบื้อ​อยู่​อย่างนี้​ อ​ฉัน​ก็​สอน​ทักษะ​วาดรูป​ของ​ฉัน​ให้​ไม่ได้​หรอก​นะ​”

“เอ๋​” เอียน​งุนงง​ เงยหน้า​มอง​เขา​ ไม่รู้​ว่า​สอง​อย่างนี้​เกี่ยวข้อง​กัน​ได้​อย่างไร​

ลู่​เซิ่งเหม่อมอง​ทะเลสาบ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ หวน​นึกถึง​วัน​เวลา​ที่​เขา​ได้​เรียน​วาดรูป​จาก​โลก​ใบ​นั้น​ ใน​ใจเต็มไปด้วย​ความ​คะนึง​หา​

“เธอ​ว่า​ทักษะ​การ​วาด​ของ​ฉัน​ยอดเยี่ยม​ไหม​”

“สุดยอด​มาก​ค่ะ​! ฉัน​เคย​เลียนแบบ​ผลงาน​ของ​ปรมาจารย์​มามากมาย​ แต่​ยัง​ไม่น่า​ตื่น​ตะลึง​เท่า​ผลงาน​ของ​คุณ​” เอียน​พยักหน้า​เมื่อ​โดน​หันเห​ความสนใจ​ ก็​คล้าย​จะไม่เศร้าใจ​ขนาด​นั้น​แล้ว​

“เธอ​มีพรสวรรค์​ยอดเยี่ยม​มาก.​..พูด​ได้​เลย​ว่า​ใน​บรรดา​คน​ที่​ฉัน​เคย​เจอ​มาเธอ​อยู่​ใน​อันดับ​สอง​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ราบเรียบ​ “ใน​อดีต​ฉัน​เคย​มีศิษย์​ที่​มีพรสวรรค์​ร้ายกาจ​เหมือนกัน​ น่าเสียดาย​…สุดท้าย​แล้ว​เขา​ก็​ทรยศ​ฉัน​ เขา​คิด​จะใช้ทักษะ​ที่​ฉัน​สอน​เขา​มาทำร้าย​ฉัน​ ดังนั้น​…เขา​ก็​เลย​ตาย​”

“อะไร​นะคะ​” เอียน​มึนงง​ ไม่ใช่เพิ่ง​พูดถึง​การ​วาดภาพ​หรอก​หรือ​ เหตุใด​จู่ๆ ไป​ถึงตอน​เขา​ตาย​ได้​ล่ะ​

“ใน​อดีต​เคย​มีคน​นับไม่ถ้วน​คิด​ใช้ทักษะ​ของ​พวกเขา​ทำลาย​ฉัน​ แต่​พวกเขา​ล้มเหลว​ ฉัน​ซ่อนตัว​อยู่​หลัง​ม่าน​ ครอบครอง​ทักษะ​การ​วาด​นับไม่ถ้วน​ ไม่มีใคร​สู้ได้​ ไม่มีใคร​เอื้อม​ถึงระดับ​ที่​ฉัน​ไป​ถึงได้​ แต่ว่า​ ไม่มีใคร​ ไม่มีใคร​มาถึงระดับ​ของ​ฉัน​อีกแล้ว​ พวกเขา​ถึงขั้น​เข้าใกล้​ฉัน​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​” ลู่​เซิ่งถอนใจ​

“…” เอียน​รู้สึก​ว่า​ตน​กำลัง​ฟังคนละเรื่อง​ เธอ​แค่​อยาก​เรียน​วาดภาพ​…ไม่ได้​อยาก​เรียน​ต่อสู้​สักหน่อย​

ลู่​เซิ่งได้สติ​กลับมา​

“ขอโทษ​ที​ เมื่อกี้​เหม่อ​ไป​หน่อย​ พอ​เห็น​เด็ก​ที่​มีพรสวรรค์​ ก็​อด​นึกถึง​อดีต​ที่​ไม่ค่อย​จรรโลงใจ​พวก​นี้​ไม่ได้​”

“ไม่เป็นไร​ค่ะ​ ฉัน​เห็น​เรื่อง​พิลึก​ๆ ใน​มหาวิทยาลัย​มาเยอะ​แล้ว​ เลย​ชิน​นาน​แล้ว​ค่ะ​” เอียน​เช็ด​คราบ​น้ำตา​ พร้อม​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​

“เอาล่ะ​ เมื่อกี้​เธอ​พูดว่า​อยาก​เรียน​วาดภาพ​กับ​ฉัน​ใช่ไหม​” ลู่​เซิ่งทวน​

“ค่ะ​ ก่อนหน้านี้​ฉัน​เคย​บอก​คุณ​ว่า​ทักษะ​ของ​คุณ​ทำให้​ฉัน​นับถือ​มาก​ๆ ดังนั้น​ฉัน​เลย​อยาก​จะขอให้​คุณ​เป็น​อาจารย์​ แล้ว​สอน​ศาสตร์​ทักษะ​วาดภาพ​ให้​กับ​ฉัน​” เอียน​ลุกขึ้น​และ​โค้ง​ตัว​น้อย​ๆ

“เธอ​เป็น​เด็กดี​…เด็กดี​จริงๆ​…” ลู่​เซิ่งลูบ​ผม​ของ​เอียน​อย่าง​อ่อนโยน​ เธอ​ทำให้​เขา​นึกถึง​ลูกบุญธรรม​องค์​หญิง​มังกร​ทอง​ ที่​ไม่ยอม​จาก​บ้านเกิดเมืองนอน​

“ฉัน​อายุ​สิบ​เก้า​แล้ว​นะ​ อย่า​ทำ​อย่างนี้​สิคะ​…” เอียน​แก้มแดง​ ถอยหลัง​ไป​สอง​ก้าว​เอ่ย​ขึ้น​ยิ้ม​ๆ

“อ่า​ ขอโทษ​นะ​ ฉัน​เสียมารยาท​แล้ว​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ “เอาล่ะ​ ฉัน​รับ​เธอ​แล้ว​ เดี๋ยว​จะสอน​ทักษะ​วาดรูป​ให้​ แต่​เธอ​จะต้อง​เข้าใจ​ก่อน​ว่า​ การกราบ​อาจารย์​เป็น​เพียง​ความสัมพันธ์​เรื่อง​ทักษะ​วาดภาพ​ ฉัน​กับ​เธอ​มีความสัมพันธ์​อย่าง​ครู​สอน​วาดภาพ​และ​นักเรียน​เท่านั้น​”

หลัง​ออกจาก​โลก​ใบ​นั้น​ ลู่​เซิ่งก็​ไม่อยาก​ให้​ทักษะ​วาดรูป​อัน​ร้ายกาจ​อยู่​เพียงแต่​ติด​ตัวตน​ไป​ตลอด​ บางที​การ​หา​ศิษย์​ที่​เหมาะสม​เพื่อ​สืบทอด​ต่อ​ ก็​อาจจะ​เป็น​ตัวเลือก​ที่​ไม่เลว​เช่นกัน​

เขา​เคย​เป็น​จิตรกร​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ด้วย​เบื้องหลัง​หัตถ์​สีเงิน​และ​หัตถ์​แห่ง​ประกาย​นิล​ ขณะเดียวกัน​ก็​เป็น​ผู้นำ​องค์กร​น่ากลัว​ที่​ชน​ชาวโลก​เรียก​ว่า​ราชา​สีเงิน​ รวมถึง​ผู้นำ​แห่ง​จิตรกร​ใต้ดิน​ด้วย​

แต่​หลัง​ออก​มาจาก​โลก​ที่​มีกฎ​พิเศษ​ใบ​นั้น​มา ทักษะ​วาดภาพ​ที่​สามารถ​สังหาร​สิ่งมีชีวิต​ได้​นั้น​ก็​ไม่มีที่​ให้​ใช้อีก​

นี่​เป็น​ความเสียดาย​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ของ​เขา​ อย่างไร​การ​วาดภาพ​ก็​เป็น​งานอดิเรก​ที่​เขา​เคย​หลงใหล​ และ​ตอนนี้​ก็​เจอ​นักศึกษา​จริงใจ​เหมาะสม​ อยาก​จะเรียน​วาดภาพ​ และ​แสดงท่าที​ยืนกราน​พอดิบพอดี​

บางที​นี่​อาจจะ​เป็น​โอกาส​

“ฉัน​เข้าใจ​แล้ว​ค่ะ​…” เอียน​พยักหน้า​อย่าง​จริงจัง​ “อย่างนั้น​ฉัน​จะจ่าย​ค่าเรียน​ให้​คุณ​อาทิตย์​ละ​สามพัน​มาร์ค​ได้​ไหม​คะ​” ราคา​ปกติ​คือ​หนึ่ง​พัน​ แต่​เธอ​เสนอ​เพิ่มขึ้น​เป็น​สามเท่า​

“ไม่จำเป็น​ ฉัน​ไม่เอา​ค่าเรียน​ ฉัน​มีเรื่อง​ขอ​เพียง​ข้อ​เดียว​เท่านั้น​” ลู่​เซิ่งยก​นิ้วชี้​ “ทุ่มเท​ให้​เต็มที่​ ตาม​ความก้าวหน้า​ของ​ฉัน​ให้​ทัน​ ห้าม​ยอมแพ้​”

“…เข้าใจ​แล้ว​ค่ะ​!” เอียน​มอง​ท่าที​ของ​ลู่​เซิ่งออก​ เธอ​จริงจัง​ขึ้น​ทันที​ “ฉัน​จะพยายาม​!”

“เอาล่ะ​ อย่า​ไป​คิด​เรื่อง​เด็กผู้หญิง​คน​เมื่อวาน​เลย​ พวกเรา​มาเริ่ม​เรียน​กัน​เถอะ​” ลู่​เซิ่งเริ่ม​ถ่ายทอด​ทักษะ​วาดภาพ​ทันที​

ทักษะ​วาดภาพ​ที่​เขา​ครอบครอง​มีอยู่​มากมาย​ ทั้ง​ยัง​ยอดเยี่ยม​ที่สุด​ ดังนั้น​ต่อให้​เอียน​จะมีพรสวรรค์​มาก​ก็​ต้อง​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ ถึงจะตาม​ได้​ทัน​

ทั้งสอง​เป็น​คน​ที่​สมาธิดี​อย่างยิ่ง​ แม้เอียน​จะยัง​เศร้าหมอง​ แต่​ถ้าเครื่อง​ติด​ขึ้น​เมื่อไร​ก็​สามารถ​เอา​กระดาน​วาดภาพ​มาเริ่ม​ฝึก​ทันที​

ลู่​เซิงชี้ข้อผิดพลาด​พื้นฐาน​ให้​แก่​เอียน​ และ​มอบ​การบ้าน​ให้​เธอ​ โดย​ต้องการ​ให้​เธอ​ฝึกฝน​วิชาพื้นฐาน​จำนวน​หนึ่ง​ทุกวัน​

นับแต่​นี้​เป็นต้นไป​ ทั้งสอง​ถือว่า​เป็น​ศิษย์​อาจารย์​ แม้จะเป็น​แค่​ศิษย์​อาจารย์​ด้าน​วาดภาพ​ก็ตาม​

พรสวรรค์​ของ​เอียน​ร้ายกาจ​อย่าง​แท้จริง​ ยาม​เจอ​ปัญหา​ เธอ​เพียง​เพิ่ม​ความตั้งใจ​เล็กน้อย​ ก็​สามารถ​จัดการ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ส่วน​ความ​เชี่ยวชาญ​ด้าน​ทักษะ​วาดภาพ​ของ​ลู่​เซิ่งก็​ไป​กว่า​เหนือ​จินตนาการ​ของ​เธอ​เสีย​อีก​ เหมือนกับ​ไม่ว่า​เธอ​จะถามอะไร​ ขอ​แค่​เป็นเรื่อง​การ​วาดภาพ​ ก็​จะได้รับ​คำตอบ​ทั้งหมด​

เธอ​เคย​นำ​ผลงาน​ของ​ลู่​เซิ่งไป​ให้​อาจารย์​คน​ก่อน​ของ​ตนเอง​ชม อีก​ฝ่าย​ถามเธอ​ตรงๆ​ ว่า​นี่​เป็น​ผลงาน​ของ​ปรมาจารย์​ใน​ประวัติศาสตร์​คน​ไหน​

ด้วย​คำวิจารณ์​ที่​แสน​จะยกย่อง​เช่นนี้​ ยิ่ง​ทำให้​เอียน​อุทิศตัว​อุทิศ​ใจเรียน​วาดภาพ​กับ​ลู่​เซิ่งเพิ่ม​ขึ้นไป​อีก​

เวลา​ผ่าน​ไป​วันแล้ววันเล่า​

อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ลู่​เซิ่งหาย​ดีแล้ว​ เขา​เริ่ม​ฝึกฝน​ประมวล​กฎเกณฑ์​พร่างพราย​อนธการ​อีกครั้ง​ ความก้าวหน้า​ของ​ห้องทดลอง​ที่​ศาสตราจารย์​ดาห์ล​รับผิดชอบ​ก็​รวดเร็ว​ขึ้น​เช่นกัน​ ขณะเดียวกัน​วัตถุดิบ​ทรัพยากร​ที่​ยื่น​เรื่อง​ขอ​ก็​มารวดเร็ว​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ด้วย​

ในที่สุด​ หลังจาก​กิน​วัตถุดิบ​ทดลอง​ตัว​ที่​ห้า​ ลู่​เซิ่งก็​วิวัฒนาการ​อีกครั้ง​

เขา​เพิ่งจะ​ฝึกฝน​ประมวล​กฎเกณฑ์​พร่างพราย​อนธการ​ถึงระดับ​สี่ ก็​กระตุ้น​การวิวัฒนาการ​ครั้ง​ที่​ห้า​สำเร็จ​

การวิวัฒนาการ​ขั้น​ห้า​เป็น​เพียง​การ​ยกระดับ​เชิงปริมาณ​ เพียงแค่​ระดับ​การควบคุม​ของ​อวัยวะ​สัมผัส​ที่หก​ต่อ​กระแส​อากาศ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เท่านั้น​ ที่​เหลือ​ไม่มีการเปลี่ยนแปลง​ที่​สำคัญ​ใดๆ​ อีก​

เป้าหมาย​สุดท้าย​ของ​การ​สร้าง​ประมวล​กฎเกณฑ์​พร่างพราย​อนธการ​ก็​คือ​การ​กระตุ้น​ให้​เกิด​การวิวัฒนาการ​ครั้ง​ที่​ห้า​ และ​ใน​เมื่อ​การวิวัฒนาการ​ครั้ง​ที่​ห้า​เสร็จสิ้น​แล้ว​ วิธี​การฝึกฝน​ที่​เหลือ​ จะทำ​หรือไม่​ทำ​ก็​ไม่สำคัญ​อีกต่อไป​ เป็น​เพราะว่า​สิ่งเหล่านั้น​เป็น​สิ่งที่​สร้าง​ขึ้น​โดย​มีพื้นฐาน​จาก​การวิวัฒนาการ​ระดับ​สี่ลง​ไป​

ดังนั้น​ สิ่งที่​ลู่​เซิ่งต้องการ​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​ห้า​ที่​กระตุ้น​ให้​เกิด​การวิวัฒนาการ​ครั้ง​ที่หก​ได้​

และ​เขา​ได้รับ​เบาะแส​ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​ห้า​จาก​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​แล้ว​

พอ​เรียนจบ​ ลู่​เซิ่งกับ​แอนดี้​ก็​ออกจาก​ห้องเรียน​ไป​ยัง​โรงอาหาร​ด้วยกัน​

“คุณ​ว่า​วิชา​ช่วงนี้​เริ่ม​ยาก​ขึ้น​ไหม​” แอนดี้​เอ่ย​อย่าง​หงอย​ๆ

“…วิชา​ไหน​ยาก​ล่ะ​” ลู่​เซิ่งถาม

“…” แอนดี้​โบกมือ​อย่าง​ไร้​เรี่ยวแรง​ “ผม​ไม่อยาก​พูด​กับ​คุณ​แล้ว​…ไอ้บ้า​ที่​สอบ​ได้​คะแนนเต็ม​ คุณ​ไม่รู้​ว่า​เรียน​ไป​ถึงไหน​ด้วยซ้ำ​ แต่​ก็​ยัง​ได้​คะแนนเต็ม​อีก​”

“ก็​นาย​แค่​ไม่ได้​สนใจ​เท่านั้นเอง​” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​

“ก็ได้​ ได้ยิน​มาว่า​ใน​ชั้นเรียน​ต้องการ​เลือก​คน​เข้า​ร่วมงาน​แลกเปลี่ยน​ความรู้​นานาชาติ​ นั่น​เป็น​โอกาสดี​นะ​ กิจกรรม​ระหว่างประเทศ​ระดับสูง​แบบนี้​เป็น​โอกาส​ฝึกฝน​ที่​หา​ได้​ยาก​สำหรับ​นักศึกษา​ ไม่แน่​หลัง​จบ​ออก​ไป​ จะอาศัย​เส้นสาย​ที่​สร้าง​ใน​ครั้งนี้​แสดง​ความ​โดดเด่น​ได้​” แอนดี้​ส่งเสียง​เชียร์​

“นาย​จะไป​ไหม​ล่ะ​ ฉัน​เป็น​คน​กำหนด​รายชื่อ​เข้าร่วม​ เดี๋ยว​เพิ่ม​โควตา​ให้​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​

“…” แอนดี้​อ้าปากค้าง​อยู่​อย่างนั้น​ ก่อน​จะค่อยๆ​ ลด​มือ​ลง​อย่าง​แข็งทื่อ​

ทั้งสอง​นิ่ง​ไป​พัก​หนึ่ง​

“ก็ได้​ๆ…ฉัน​รู้​ว่า​คุณ​ไม่ใช่นักศึกษา​ธรรมดา​แล้ว​ ฉัน​รู้​ๆ…” แอนดี้​ถอนใจ​อย่าง​จนปัญญา​ “แต่​ไม่ว่า​ยังไง​ พรุ่งนี้​ศาสตราจารย์​แฮธาเวย์​จะมาใน​คาบ​กายวิภาค​ภาคปฏิบัติ​ของ​พวกเรา​ ขาดเรียน​ไม่ได้​ด้วย​สิ ช่วงนี้​คุณ​เป็น​คน​ลงชื่อ​แทน​ฉัน​ แต่​รอบ​นี้​คง​ทำ​ไม่ได้​แล้ว​ ศาสตราจารย์​แฮธาเวย์​ขึ้น​ชื่อเรื่อง​ความเข้มงวด​ เกิด​ขาดเรียน​ขึ้น​มาคง​ได้​ลำบาก​จริงๆ​ แน่​ เธอ​เคย​เป็น​อาจารย์​นักศึกษา​ปริญญาโท​ที่​มหาวิทยาลัย​พ​ริน​สตัน​ ขณะเดียวกัน​ยัง​เป็นรอง​อธิการบดี​ที่​มีชื่อเสียง​ของ​มหาวิทยาลัย​เบอร์ลิน​ด้วย​ ถึงขั้น​เคย​เป็น​นักวิชาการ​ประจำ​ราชวงศ์​ มีคุณธรรม​กับ​บารมี​สูงส่ง…”

“ไม่ต้อง​ห่วง​น่า​ คาบ​กายวิภาค​พรุ่งนี้​เปลี่ยนเป็น​ฉัน​แทน​ ศาสตราจารย์​แฮธาเวย์​มีธุระ​กะทันหัน​ เธอ​สั่งให้​ฉัน​สาธิต​การ​ผ่าตัด​ให้​พวก​นาย​ดู​ นาย​ไม่มาก็​ไม่เป็นไร​หรอก​” ลู่​เซิ่งปลอบ​

อ๊า​ก.​..!

แอนดี้​มอง​เพื่อนสนิท​ที่​เริ่ม​แปลกหน้า​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ด้วย​ความขมขื่น​ รู้สึก​ปวดท้อง​ไส้อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

“ถ้าได้​เรียน​กับ​คุณ​ ฉัน​เป็นบ้า​แน่นอน​!” เขา​เร่ง​เดิน​นำหน้า​ลู่​เซิ่งด้วย​สีหน้า​เหมือน​คน​ท้องผูก​

“ช่างเถอะ​ พวกเรา​ไม่พูด​เรื่อง​เรียน​ดีกว่า​” ลู่​เซิ่งตบ​บ่า​เขา​ “นาย​รู้สึก​ไหม​ว่า​ช่วงนี้​ทาง​มหาวิทยาลัย​วุ่นวาย​ขึ้น​ทุกที​ๆ เดี๋ยว​ก็​ปิดผนึก​นั่น​ เดี๋ยว​ก็​ปิดผนึก​นี่​”

“มัน​ก็​ใช่อยู่​หรอก​ แต่​มัน​ทำไม​ล่ะ​” แอนดี้​ลูบ​ผ้าพันแผล​บน​แก้ม​ บาดแผล​ครั้งก่อน​ยัง​ไม่หาย​ดี​ เขา​ก็​เลย​ไม่อยาก​จะไป​หาเรื่อง​อีกแล้ว​

“ฉัน​รู้สึก​ว่า​ช่วงนี้​อาจจะ​เกิด​เรื่องใหญ่​อะไร​สัก​อย่าง​ นาย​ระวังตัว​ไว้​หน่อย​ก็แล้วกัน​ อย่า​โง่พุ่ง​ไป​อยู่​แนวหน้า​สุด​ล่ะ​” ลู่​เซิ่งเตือน​

“ไม่ต้อง​ห่วง​น่า​ ฉัน​ไม่ใช่คนโง่​ขนาด​นั้น​สักหน่อย​” แอนดี้​ตบ​อก​ตัวเอง​

ทั้งสอง​ปะปน​กับ​กลุ่มคน​เดิน​เข้าไป​ใน​โรงอาหาร​ แล้​วหา​ที่​นั่งลง​

ลู่​เซิ่งพลิก​สมุด​จด​ของ​ตัวเอง​อย่าง​ทุกที​ สมุด​พวก​นี้​เป็น​สิ่งที่​เขา​ท่อง​ออก​มาจาก​ห้องสมุด​ หลังจาก​คัดลอก​แล้วก็​เอา​มาเรียนต่อ​

“จริง​สิ แอนดี้​ นาย​บอ​กว่า​ตัวเอง​เชี่ยวชาญ​เทพนิยาย​มาก​ใช่ไหม​ ฉัน​มีบาง​จุด​ไม่เข้าใจ​ ช่วย​ดู​หน่อย​ว่า​พวก​นี้​คือ​สัตว์ประหลาด​อะไร​”

ลู่​เซิ่งโยน​สมุด​ให้​แอนดี้​

แอนดี้​รับ​มาเปิด​อ่าน​

บน​สมุด​เต็มไปด้วย​รูป​สัตว์ประหลาด​พิลึก​หา​ยาก​มากมาย​ รูปภาพ​ถูกวาด​อย่าง​ประณีต​ และ​สมจริง​ราว​มีชีวิต​ รายละเอียด​เยอะ​มาก​ เหมือนกับ​มีสัตว์ประหลาด​พวก​นี้​อยู่​จริงๆ​

“วาด​ได้​สุดยอด​ไป​เลย​นี่​” แอนดี้​พ่อ​ลมหายใจ​ชมเชย​ขณะ​เปิด​ดู​ภาพ​บน​สมุด​

“ไอ้​รู้จัก​มัน​ก็​รู้จัก​หรอก​ แต่​พวก​นี้​เป็น​พวก​ไม่ค่อย​ได้รับ​ความนิยม​ คุณ​ยัง​อุตส่าห์​หา​มาได้​เยอะ​ขนาด​นี้​ อ่านหนังสือ​ไป​กี่​เล่ม​กัน​แน่​เนี่ย​” แอนดี้​รับ​ปากกา​เล่ม​หนึ่ง​มา แล้ว​เขียน​ชื่อ​กับ​ลักษณะเด่น​ รวมถึง​สถานที่​ที่​ปรากฏ​ลง​ด้านล่าง​ภาพ​ทุกๆ​ หน้า​

“ไม่เท่าไร​หรอก​ ฉัน​อ่าน​ตอน​เวลา​เหลือ​ทั้ง​นั้นแหละ​ นาย​ก็​รู้​ว่า​พวกเรา​อ่าน​ใน​ห้องสมุด​ได้​แค่​หนึ่ง​ชั่วโมง​เอง​” ลู่​เซิ่งพูด​อย่าง​จนปัญญา​

“คุณ​ไป​เอา​หนังสือ​พวก​นี้​มาจาก​ไหน​ อย่า​บอก​นะ​ว่า​คุณ​มีลับลมคมใน​อะไร​ใน​ห้องสมุด​น่ะ​” แอนดี้​หัวเราะ​เหอะ​ๆ

“ช่วยไม่ได้​ เพราะ​เวลา​อ่าน​น้อย​เกินไป​ ฉัน​เลย​ได้​แต่​ท่องหนังสือ​ แล้ว​กลับมา​เขียน​ที่​หอ​น่ะ​สิ นาย​ไม่รู้​หรอ​กว่า​ การ​เขียนหนังสือ​สิบ​เล่ม​ใน​ครั้ง​เดียว​น่ะ​เป็นเรื่อง​ที่​เหนื่อย​มาก​…เหนื่อย​มาก​จริงๆ​” ลู่​เซิ่งว่า​พลาง​ส่ายหน้า​

“…” จิตใจ​ของ​แอนดี้​ได้รับ​การ​กระทบกระเทือน​อย่าง​หนัก​

วันนี้​เขา​ยัง​ต้อง​ท่อง​คำศัพท์​อักขระ​แค่​สิบ​ตัว​หลาย​ๆ รอบ​อยู่เลย​

ผ่าน​ไป​สัก​พักใหญ่​…

“ช่างเถอะ​ๆ…ดู​สมุด​เล่ม​นี้​สิ เป็น​พวก​หา​ยาก​ทั้งนั้น​ ขอ​บอก​คุณ​เลย​นะ​ ปีศาจ​พวก​นี้​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ผม​ล่ะ​ก็​ยาก​มากกว่า​คุณ​จะหา​เจอ​ มีสัตว์ประหลาด​หลายชนิด​ที่​เป็น​เทพ​บอกเล่า​กัน​มาปากต่อปาก​จาก​บาง​ชน​เผ่า​ ไม่มีการ​บันทึก​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​” แอนดี้​ถอนใจ​พลาง​กล่าว​ “เป็น​เพราะ​ผม​อยู่​กับ​พ่อ​ช่วง​หนึ่ง​ใน​นี้​เลย​รู้จัก​อยู่​หลาย​ตัว​”

เขา​เขียน​เสร็จ​อย่าง​รวดเร็ว​

“เอ้า​ รับ​ไป​สิ” เขา​คืน​สมุด​ให้​ลู่​เซิ่ง และ​เริ่ม​หยิบ​เมนู​ขึ้น​มาสั่งอาหาร​

ลู่​เซิ่งพลิก​สมุด​ดู​ ไม่นาน​ก็​ชะงัก​ไป​

หนึ่ง​ใน​นี้​เป็น​ภาพ​ที่​เขา​จงใจแทรก​ไว้​ด้านใน​ สิ่งที่​วาด​คือ​สัตว์ประหลาด​ก้อน​เนื้อ​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​ที่​ได้​เจอ​ใน​ห้องสมุด​แห่ง​อดีต​

ก้อน​เนื้อ​สีม่วง​ขนาด​ยักษ์​ที่​มีดวงตา​ใหญ่​อยู่​ตรงกลาง​

เหลือบมอง​ชื่อ​ที่​ระบุ​บน​ภาพเหมือน​คือ​ ‘เทพ​เมฆา’

เทพ​รุ่นใหม่​ผู้ควบคุม​เมฆและ​ความชื้น​ ว่า​กัน​ว่า​เป็น​โอรส​องค์​ที่​สิบ​สามของ​ราชัน​เทพ​ฮุสนา​ ครั้งหนึ่ง​ สูญเสีย​กาย​เนื้อ​ไป​ใน​การต่อสู้​กับ​เทพ​รุ่นเก่า​ จน​กลายเป็น​เทพเจ้า​ที่อยู่​ใน​โลก​ไร้​ตัวตน​อย่าง​สิ้นเชิง​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท