ตอนที่ 2921 เผ่าจักรพรรดิที่พินาศอย่างต่อเนื่อง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

หลินสวินเคลื่อนกายอยู่ใต้เวิ้งฟ้า

เผิงเทียนเสียงมอบม้วนหยกม้วนหนึ่งให้เขาตั้งแต่ตอนที่อยู่ระหว่างทางกลับตระกูลเผิงแล้ว

ในม้วนหยกบันทึกข้อมูลโดยละเอียดของเผ่าจักรพรรดิอมตะทุกตระกูลที่เคยลงมือกับตระกูลเผิงในช่วงสิบแปดปีนี้

ยามนี้ข้อมูลในม้วนหยกก็ปรากฏขึ้นในใจหลินสวิน

‘เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลคุน ตั้งอยู่ในแคว้นเทพเลิศดารา ในตระกูลมีระดับอมตะห้าคนบัญชาการ ผู้นำตระกูลคุนโหย่วเต้า…’

‘เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลรุ่ย ตั้งอยู่ในแคว้นเทพรุ้งเหิน มีระดับอมตะสี่คนบัญชาการ ผู้นำตระกูลรุ่ยเฉิงเจวี๋ย…’

‘เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลกง…’

ข้อมูลของเผ่าจักรพรรดิอมตะปรากฏขึ้นตระกูลแล้วตระกูลเล่า ในบรรดาข้อมูลเหล่านี้มีทั้งขุมอำนาจที่หลินสวินไม่คุ้นเคยนัก และขุมอำนาจที่เขาคุ้นเคยดี

อย่างเช่นตระกูลเหิง ตระกูลเฮ่อ ตระกูลจู่ ต่างก็เคยบุกรุกและกลืนกินพื้นที่และอิทธิพลของตระกูลเผิงในช่วงสิบแปดปีมานี้

แต่หลินสวินไม่ได้สนว่าจะรู้จักหรือไม่ เรื่องคราวนี้เกิดขึ้นเพราะเขา เขาต้องระบายแค้นแทนตระกูลเผิง

สำหรับเขาแล้ว ทำเช่นนี้ก็เป็นการข่มขวัญอย่างหนึ่ง

ว่ากันถึงที่สุด การประสบเคราะห์ของตระกูลเผิง เป็นเพราะขุมอำนาจในน่านฟ้าที่หกเหล่านี้คิดว่าหากอาศัยพันธมิตรสงครามสิบตระกูล ก็ไม่ต้องกลัวการทวงแค้นของหลินสวินสักนิด

และสิ่งที่หลินสวินอยากทำในตอนนี้ก็คือใช้วิธีการที่นองเลือดที่สุดเคาะเตือนเผ่าจักรพรรดิพวกนี้ให้ดีสักครั้ง

ถ้าการทำลายสี่ตระกูลตงหวงยังไม่คุกคามมากพอ เช่นนั้นก็ฆ่าเพิ่มสักสองสามตระกูล ต้องเล่นงานให้เผ่าจักรพรรดิอมตะพวกนี้อกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าล่วงเกินอีกตลอดกาล!

สวบ!

ไม่นานนักเงาร่างหลินสวินก็ปรากฏอยู่หน้าเขาเทพชะตาสวรรค์

เขาสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง เงาร่างของเหล่าคนตระกูลเผิงก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ คนเหล่านี้ต่างถูกเขาช่วยกลับมาจากตระกูลเหวิน

“กลับไปบอกผู้นำตระกูลของพวกเจ้าว่าต่อไปยังจะมีคนตระกูลเผิงกลับมาอีกมาก ให้เขาเตรียมตัวไว้ให้ดี”

หลินสวินพูดจบเงาร่างก็ทะลวงอากาศจากไป

วันนี้ทั้งตระกูลเผิงสะเทือนไหว

คนตระกูลเผิงที่ถูกช่วยกลับมาเหล่านั้นนำข่าวตระกูลเหวินถูกทำลายกลับมาด้วย ทำให้เหล่าคนใหญ่คนโตอย่างพวกเผิงจั้นยังสั่นสะท้านอยู่ตรงนั้น

คิดคำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ตั้งแต่หลินสวินออกจากตระกูลเผิงจนตระกูลเหวินย่อยยับ ยังไม่ถึงสามชั่วยาม!

และควรรู้ว่าแคว้นเทพนภาครามที่ตระกูลเผิงอยู่ห่างไกลจากเขาเทพเมฆวารีที่ตระกูลเหวินยึดครองถึงพันลี้

“รองหัวหน้าหอหลินเป็นเทพจริงๆ!” เผิงจั้นทอดถอนใจ

สัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลเผิงคนอื่นๆ ต่างจิตใจปั่นป่วน

เมื่อเห็นภาพนี้ ความภูมิใจที่บอกไม่ถูกก็ผุดขึ้นในใจเผิงเทียนเสียง ร่วมรู้สึกเป็นเกียรติไปด้วย!

……

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ใต้เวิ้งฟ้า กายมรรคไม้เขียว ทองขาว เพลิงแดงและดินเหลืองของหลินสวินก็พุ่งตัวออกมา เคลื่อนตัวไปตามทิศต่างๆ

เผ่าจักรพรรดิอมตะที่ต้องจัดการคราวนี้มีมากมาย ถ้าให้เขาตะลอนไปคนเดียวต้องใช้เวลามาก แต่ถ้ามีร่างแยกมหามรรคร่วมกันออกโจมตีจะร่นเวลาลงเกินครึ่ง

พอเห็นว่าสี่กายมรรคหายลับไปจากขอบฟ้า ร่างต้นของหลินสวินก็เคลื่อนตรงไปยังพื้นที่ที่ตระกูลเหิงอยู่

……

ครึ่งวันผ่านไป

ทะเลสาบแรกมังกร แคว้นเทพเลิศดารา

ที่นี่เป็นอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลคุน

บัดนี้เหล่าคนเบื้องบนของตระกูลคุนส่วนใหญ่ต่างมารวมตัวในตระกูล

คุนโหย่วเต้านั่งอยู่ที่นั่งประธาน ผู้นำตระกูลคุนที่ขึ้นชื่อว่าปกครองด้วยความเข้มงวดมาตลอดผู้นี้หน้านิ่วคิ้วขมวด จิตใจกระสับกระส่าย

“ผู้นำตระกูล ให้พวกเราทุกคนมารวมตัวที่นี่เพราะอะไรกันแน่”

ชายชราผอมตอบคนหนึ่งเอ่ยเจือความไม่พอใจเล็กน้อย

ชายชราผอมตอบผู้นี้เป็นระดับอมตะของตระกูลคุน ทั้งยังเป็นปู่น้อยผู้หนึ่งของคุนโหย่วเต้า เดิมทีเขากำลังปิดด่าน แต่กลับถูกสั่งว่าต้องมาร่วมการประชุมของตระกูลจึงไม่ชอบใจอยู่บ้าง

“ท่านปู่น้อย ข้าเพิ่งได้ยินข่าวว่าเจ้าหนุ่มที่ตอนนี้เป็นรองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิดแล้วคนนั้น… กลับมาแล้ว”

คุนโหย่วเต้าถอนใจยาว

“อะไรนะ หลินสวินหรือ!?”

ชายชราผอมตอบตกตะลึง สูดหายใจสะท้าน หน้าเปลี่ยนสีไปแล้ว

“ผู้นำตระกูล ข่าวนี้มาจากไหน หลินสวินนั่นถูกพันธมิตรสงครามสิบตระกูลหมายหัวมานานแล้ว หลายปีมานี้หดหัวในลัทธิแรกกำเนิดไม่กล้าออกมาข้างนอกโดยตลอด เขาจะกล้าปรากฏตัวที่น่านฟ้าที่หกได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวใหญ่ขนาดนี้ทั้งน่านฟ้าที่หกกลับไม่มีเสียงลือสักนิดได้อย่างไร”

มีคนนิ่วหน้าเอ่ย

คุนโหย่วเต้าแววตาวาบไหว “ข้าเพิ่งได้ข่าวจากสหายเก่าผู้หนึ่ง สหายเก่าผู้นี้ตั้งอาณาเขตในแคว้นเทพวารีนภา ตามที่เขาพูด กำลังพลตระกูลเหยาที่ยึดครองเขาเทพหลังมังกรถูกเขาฆ่าเกลี้ยงในคืนเดียว กระทั่งที่ตั้งของตระกูลเหยายังถูกเขาทำลาย ผู้คนในโลกต่างรู้ว่าเดิมเขาเทพหลังมังกรเป็นอาณาเขตของตระกูลลั่ว สันนิษฐานเช่นนี้ คนร้ายผู้นั้นถ้าไม่ใช่หลินสวินแล้วจะเป็นใคร ก็มีแต่เขาคนเดียวถึงมีอานุภาพทำลายตระกูลหนึ่งได้!”

“ผู้นำตระกูล สหายเก่าของท่านผู้นี้เคยพบหลินสวินด้วยหรือ” มีคนถาม

คุนโหย่วเต้าส่ายหัว “นี่ก็ไม่ได้เคยเจอ”

ชายชราผอมตอบลอบถอนใจโล่งอก กล่าวว่า “พูดเช่นนี้ ข่าวก็อาจไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป คิดดูก็รู้ว่าหลินสวินนั่นกำลังถูกพันธมิตรสงครามสิบตระกูลหมายหัว เกรงว่าทันทีที่ออกจากลัทธิแรกกำเนิดก็ถูกเล่นงานถึงขั้นวอดวาย จะมีโอกาสปรากฏตัวในน่านฟ้าที่หกอย่างเงียบๆ ได้อย่างไร”

เขาหยุดไปแล้วยิ้มเอ่ย “ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ไม่ได้มีความแค้นกับหลินสวิน ต่อให้เขากลับมาก็ไม่ได้กระทบกับพวกเรามาก”

คนอื่นต่างก็ยิ้มออกมา

แต่ก็ในตอนนี้เอง…

“พวกเจ้าไม่มีความแค้นกับข้าคนแซ่หลินก็จริง แต่พวกเจ้ากลับเชื่อฟังคำสั่งของพันธมิตรสงครามสิบตระกูล ไปทำร้ายคนที่เกี่ยวข้องกับข้าคนแซ่หลิน พวกเจ้าคิดว่าเรื่องนี้จะสะสางอย่างไร”

เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศท่ามกลางเสียงเรียบเฉย เป็นกายมรรคไม้เขียวของหลินสวินนั่นเอง

เหล่าคนใหญ่คนโตอย่างพวกคุนโหย่วเต้าต่างสะท้านไปทั้งตัว ล้วนลุกขึ้นมา

ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญใจกลางของตระกูลพวกเขา แต่ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาถึงขั้นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายปรากฏตัวได้อย่างไร กระทั่งเค้าลางสักนิดยังไม่อาจรับรู้!

ความหวาดหวั่นอันไร้ขอบเขตปกคลุมจิตใจโดยพลัน เข้าเกาะกุมหัวใจของพวกเขาทุกคน

“หลิน… หลินสวิน… เจ้าถึงกับกลับมาแล้ว!?”

คุนโหย่วเต้าหน้าถอดสี ริมฝีปากพูดสั่นเครือ

ก่อนหน้านี้พวกเขายังถกเรื่องนี้กันอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าคนผู้น่ากลัวจนมิอาจจินตนาการได้ผู้นั้นจะดันปรากฏตัวเช่นนี้

“ถ้าข้าไม่กลับมา จะรู้ว่ากระทั่งลัทธิแรกกำเนิดพวกเจ้ายังไม่เห็นอยู่ในสายตาได้อย่างไร”

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ

ลัทธิแรกกำเนิดเคยประกาศต่อโลกภายนอก ว่าทุกคนที่เป็นศัตรูกับเขาหลินสวิน ล้วนเป็นศัตรูของลัทธิแรกกำเนิดด้วย!

แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นตระกูลเหวินหรือตระกูลคุนต่างไม่สนใจเรื่องพวกนี้ พวกเขาอ้างว่ากระทำการให้พันธมิตรสงครามสิบตระกูล รุกล้ำและกลืนกินตระกูลเผิงไม่หยุดหย่อน!

“พวกเรา…”

คุนโหย่วเต้ากำลังจะอธิบายอะไร ร่างกายก็สลายเป็นเถ้าธุลีอย่างเงียบเชียบ

ที่ตามมาติดๆ คือคนใหญ่คนโตที่อยู่ที่นั่น ไม่ว่าพลังปราณจะสูงต่ำ ร่างกายก็สลายเป็นผุยผงราวกับเศษกระดาษที่ถูกจุดไฟ

หลินสวินหันหลังจากไป

เขาไม่ได้มาฟังคำอธิบาย!

……

เขาเทพตะวันนภา แคว้นเทพรุ้งเหิน

อาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลรุ่ย

รุ่ยเฉิงเจวี๋ย ผู้นำตระกูลรุ่ยกำลังหารืออยู่กับเหล่าคนใหญ่คนโต เป้าหมายคือควรจะชิงพลังระเบียบของตระกูลเผิงก่อนที่ตระกูลเผิงจะล้มลงอย่างไร

ขณะที่บรรยากาศกำลังคึกคัก กายมรรคเพลิงแดงของหลินสวินก็ปรากฏตัวกลางอากาศ สะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง เหล่าคนใหญ่คนโตที่รวมรุ่ยเฉิงเจวี๋ยด้วยก็ถูกสังหารคาที่กันหมด

……

แคว้นเทพธารพฤกษา

เขาเทพวิญญาณวาโย

อาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลกง

ผู้นำตระกูลกงเทียนเหอร้อนรนเหมือนอกไหม้ ตะคอกดุดันว่า “เร็วเข้า ถอนกำลังคนในตระกูลทั้งหมด!”

เขาเพิ่งได้ข่าวว่าตระกูลเหวินที่ครองเขาเทพเมฆวารีถูกคนถอนรากถอนโคนและยึดครองโดยสมบูรณ์ มิหนำซ้ำในข่าวยังบอกว่านี่เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นฝีมือของหลินสวิน!

เรื่องนี้ทำให้กงเทียนเหอตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหาในทันที พลันออกคำสั่งรวมตังคนใหญ่คนโตทั้งตระกูล หมายจะหลบหนีสถานการณ์อันตรายนี้ในทันใด

“เพิ่งหนีเอาตอนนี้ไม่รู้สึกว่าสายไปหรือ”

เสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งดังขึ้น กายมรรคดินเหลืองของหลินสวินปรากฏตัว

สีหน้าของกงเทียนเหอซีดเผือดไร้สีเลือดลงทันควัน

วันนี้เขาเทพวิญญาณวาโยถูกทำลายย่อยยับ เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลกงถูกทำลายแต่เพียงเท่านี้

……

แคว้นเทพนพเลิศ อาณาเขตของตระกูลเหิง…

แคว้นเทพหมื่นหลิว อาณาเขตของตระกูลเฮ่อ…

แคว้นเทพเลิศลักษณ์…

ในเวลาสั้นๆ เพียงสามวัน ร่างต้นกับร่างแยกของหลินสวินออกเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำลายเผ่าจักรพรรดิอมตะเก้าตระกูลตามลำดับ!

ในนั้นมีขุมอำนาจอมตะชั้นยอดของน่านฟ้าที่หกอย่างตระกูลเหวิน ตระกูลเหิง ตระกูลเฮ่อและตระกูลจู้

ทั้งยังมีขุมอำนาจชั้นหนึ่งอย่างตระกูลคุน ตระกูลรุ่ย และตระกูลกง

ขอเพียงเคยลงมือกับตระกูลเผิงในช่วงสิบแปดปีนี้ หลินสวินล้วนไม่ปล่อยไปทั้งนั้น

เพียงแค่สามวัน!

คนใหญ่คนโตของเผ่าจักรพรรดิอมตะทั้งเก้าตระกูลต่างถูกสังหารสิ้น ระดับจักรพรรดิถูกทำลายพลังปราณ ตระกูลถูกเหยียบราบถอนรากถอนโคน!

สำหรับน่านฟ้าที่หกแล้ว เผ่าจักรพรรดิอมตะทั้งเก้านี้ก็เหมือนฟ้าเบื้องบนอันสูงส่ง ทำได้เพียงเคารพยำเกรง

แต่ในสามวันนี้กลับฟ้าถล่มแล้ว!

สำหรับหลินสวินในตอนนี้ การทำลายเผ่าจักรพรรดิอมตะสักเผ่าจะง่ายดายยิ่งกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่ต้องทำลายทั้งเผ่าสักนิด ขอเพียงเก็บพลังระเบียบพวกเขาไป คนใหญ่คนโตชั้นสูงย่อยยับลงก็เพียงพอแล้ว

บุกจู่โจมอย่างรวดเร็วสามวัน ต่อสู้ไปตามดินแดนอันไร้ที่สิ้นสุด สังหารเก้าเผ่าจักรพรรดิอมตะอย่างต่อเนื่อง ,กระทำการเสร็จสิ้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไป รวดเร็วจนข่าวเหล่านั้นยังไม่ทันกระจาย

แต่คาดได้ว่าต่อไปทั้งน่านฟ้าที่หกจะต้องสั่นสะท้านเพราะเขา!

ที่ที่ตกอยู่ในความสะเทือนเลือนลั่นเป็นที่แรก ก็คือตระกูลเผิง

สามวันต่อมา พอหลินสวินพาเหล่าคนตระกูลเผิงที่ถูกช่วยกลับคืนมา ผู้นำตระกูลเผิงจั้นกับเหล่าคนใหญ่คนโตยังแทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

กระทั่งหลังจากได้ยินหลินสวินเอ่ยขึ้นว่าเก้าเผ่าจักรพรรดิอมตะดับสลายไปจากโลกแล้ว ไม่มีโอกาสกลับมาทวงแค้นตระกูลเผิงได้อีก พวกเผิงจั้นต่างอึ้งอยู่ตรงนั้น หวาดหวั่นจนงุนงงไปหมด นานแล้วก็ไม่อาจได้สติกลับมา

สามวัน!

เก้าเผ่าจักรพรรดิอมตะพังพินาศ!

ใครกล้าจินตนาการว่านี่เป็นเรื่องที่คนคนเดียวทำได้

ขนาดเผิงเทียนเสียงยังตกตะลึงอ้าปากค้าง ต่อให้เขารู้อยู่ก่อนว่าหลินสวินหาใครเทียบเทียมมิได้มานานแล้ว แต่เรื่องพวกนั้นต่างก็เป็นข่าวลืออยู่ดี ห่างไกลกับเขาเกินไป

ทว่าตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสามวันนี้กลับต่างพิสูจน์ว่าพลังที่ ‘สหายเก่า’ ของเขาผู้นี้มีในตอนนี้น่าครั่นคร้ามเพียงไหน!

“ขอบพระคุณรองหัวหน้าหอหลิน ความเมตตาใหญ่โตเช่นนี้ ตระกูลเผิงของข้าทุกๆ รุ่นย่อมไม่กล้าลืมเลือน!”

ครู่ใหญ่ เผิงจั้นที่ได้สติกลับมาโค้งตัวคำนับ ตื่นเต้นจนเสียงสั่นเครือ

“ขอบพระคุณรองหัวหน้าหอหลิน!”

คนใหญ่คนโตคนอื่นก็พากันคำนับตามไปด้วย

“ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจกันเช่นนี้ เดิมทีเรื่องนี้ข้าคนแซ่หลินก็ควรทำอยู่แล้ว”

หลินสวินเอ่ย “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เรื่องราวยังไม่ได้คลี่คลายลงอย่างแท้จริง ยังขอทุกท่านรีบเตรียมตัว อีกหนึ่งวันข้าคนแซ่หลินจะพาทุกท่านจากไปตั้งถิ่นฐานในสถานที่ปลอดภัยสักแห่ง”

น่านฟ้าที่หกเกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้ ขอเพียงรู้ข่าวเขาปรากฏตัวอยู่ในแดนนี้ กำลังพลพันธมิตรสงครามสิบตระกูลจะนั่งติดที่ได้อย่างไร

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน