ตอนที่ 2939 โหยวเป่ยไห่

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ถูมู่หุน​สีหน้า​ราบเรียบ​ เอ่ย​ว่า​ “ถ้าสงคราม​น้ำลาย​ใช้การได้​ ยัง​จะเอา​มรรค​วิถี​แห่ง​ตน​ไป​ทำ​อะไร​ ใน​เมื่อ​พวก​เจ้าลัทธิ​แรก​กำเนิด​ยืนกราน​ต้อง​การปกป้อง​เจ้าหลิน​สวิน​คน​นี้​ เช่นนั้น​พวก​ข้า​ก็​รอ​ตรงนี้​อีก​สักพัก​จะเป็นไร​”

ขณะ​พูด​เขา​ก็​นั่งขัดสมาธิ​บน​หิน​ก้อน​หนึ่ง​ที่อยู่​ริม​ฝั่งทะเล​ หลับตา​ทำสมาธิ​

เหล่า​คนใหญ่คนโต​ลัทธิ​พ่อ​มด​เห็น​เช่นนี้​ก็​นั่งลง​ตามใจ​ด้วย​ท่าทาง​สงบนิ่ง​

ใน​วัง​กระบี่​หมื่น​ยอด​

เสวียน​เฟยห​ลิง​ขมวดคิ้ว​กล่าว​กับ​หลิน​สวิน​ “ดู​จาก​ภายนอก​ ครั้งนี้​ลัทธิ​พ่อ​มด​เคลื่อนไหว​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ยี่สิบ​สี่คน​และ​ขั้น​หลุดพ้น​ขั้น​ปลาย​สามสิบ​หก​คน​ แต่​พวกเขา​กล้า​มาเอะอะ​ว่า​จะเหยียบ​สำนัก​พวกเรา​ เกรง​ว่า​คงจะ​เตรียมการ​อื่น​ไว้​”

หลิน​สวิน​กล่าว​ “หรือ​พวกเขา​ยัง​จะเคลื่อน​กำลัง​ระดับ​นิรันดร์​ด้วย​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​กล่าว​เสียง​ขรึม​ “อาจ​มีความ​เป็นได้​เช่นนี้​จริงๆ​ แต่​เจ้าวางใจ​ ทันทีที่​ร่าง​ต้น​ระดับ​นิรันดร์​ปรากฏตัว​ ย่อม​ถูก​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​ตรึง​และ​สะท้อน​กลับ​ เป็นเวลา​อื่น​มรรค​วิถี​เสียหาย​ไป​บ้าง​คง​ไม่เป็นไร​ แต่​อย่า​ลืม​ว่า​ใน​พันปี​นี้​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ต้อง​มาเยือน​แน่​ ทำให้​มรรค​วิถี​เสียหาย​ในเวลานี้​ สำหรับ​ระดับ​นิรันดร์​ไม่ว่า​คนใด​ล้วน​ต้อง​แบกรับ​ความเสี่ยง​ใหญ่​ยิ่ง​”

หลิน​สวิ​นก​ล่าง​คล้าย​ขบคิด​ “พูด​เช่นนี้​ หมายความว่า​ถ้าจำเป็น​พวกเขา​ก็​สามารถ​เคลื่อน​กำลัง​ของ​ร่าง​ต้น​ระดับ​นิรันดร์​ได้​ แต่​จะไม่มีทาง​ใช้ออกมา​ง่ายๆ​ ใช่หรือไม่​ขอรับ​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​ยิ้ม​กล่าว​ “นี่​เป็นธรรมดา​ ก็​เหมือน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ของ​พวกเรา​ ถ้าเจอ​เรื่อง​คอขาดบาดตาย​จริงๆ​ เจ้าคิด​ว่า​หัวหน้า​หอ​ไท่​เสวียน​ที่​ขัง​ตัวเอง​อยู่​ใน​เขต​ผนึก​แจ้งเร้น​… จะนั่ง​มอง​โดย​ไม่สนใจ​ได้​หรือ​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​น้อย​ๆ

เสวียน​เฟยห​ลิง​กล่าว​ “เป้าหมายหลัก​ใน​การ​มาครั้งนี้​ของ​ลัทธิ​พ่อ​มด​ ไม่มีอะไร​นอกจาก​ตีชิง​ตามไฟ​ ทั้ง​หมาย​เอาชีวิต​เจ้า ทั้ง​คิด​ชิงพลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ที่อยู่​ใน​มือ​เจ้า และ​เกรง​ว่า​ตัว​พวกเขา​น่าจะ​รู้ดี​ ว่า​ถ้าจะให้​ระดับ​นิรันดร์​ลงมือ​ด้วยตัวเอง​ หมาย​เหยียบย่ำ​สำนัก​เรา​ แทบจะ​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าวว่า​ “สำหรับ​ลัทธิ​ฌาณก็​เป็น​เช่นเดียวกัน​นี้​”

หลิน​สวิน​พ่นลม​หายใจออก​เฮือก​หนึ่ง​กล่าว​ “ข้า​จะเฝ้าอยู่​ที่นี่​ และ​ให้​พวกเขา​หยุด​เท้า​อยู่​ที่นี่​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​ตบ​ไหล่เขา​เบา​ๆ เอ่ยปาก​ “อย่า​กดดัน​ตัวเอง​มากเกินไป​ จำไว้​ว่า​สำนัก​ย่อม​รุก​ถอย​ไป​กับ​เจ้า”

ไม่นาน​นัก​เสวียน​เฟย​หลิน​ก็​จากไป​

หลิน​สวิน​กลับ​นึกถึง​พวก​ศิษย์​พี่​สามใน​ลัทธิ​วิญญาณ​

เรื่อง​กังวล​หนึ่งเดียว​ใน​ตอนนี้​ของ​เขา​ คือ​ถ้าพวก​ศิษย์​พี่​สามรู้​สถานการณ์​ทาง​ฝั่งลัทธิ​แรก​กำเนิด​ หาก​บุ่มบ่าม​เข้ามา​ช่วย​กลับ​จะทำให้เกิด​ตัวแปร​อื่น​ขึ้น​มา

อย่างเช่น​ ดู​ภายนอก​การ​ร่วมมือ​กัน​ของ​ลัทธิ​พ่อ​มด​และ​ลัทธิ​ฌาน​ครั้งนี้​คือ​เพื่อ​จัด​กา​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ แต่​นี่​จะเป็น​ข้ออ้าง​อย่างหนึ่ง​หรือไม่​ เป้าหมาย​คือ​ตั้งใจ​ล่อ​ให้​พวก​ศิษย์​พี่​สามมุ่งหน้า​มาช่วย​หรือไม่​

และ​ขอ​เพียง​จับ​พวก​ศิษย์​พี่​สามได้​ ย่อม​นำมา​ข่มขู่​หลิน​สวิน​ได้​!

เช่นเดียวกัน​ หาก​เรื่อง​เช่นนี้​เปลี่ยน​ขึ้นกับ​ลัทธิ​วิญญาณ​ ถ้าตน​มุ่งหน้า​ไป​ช่วยเหลือ​ เกรง​ว่า​ก็​คง​เกิด​ตัวแปร​มากมาย​เช่นกัน​…

‘หวัง​ว่า​พวก​ศิษย์​พี่​สามจะสุขุม​อดกลั้น​ได้​ ไม่เข้ามา​พัวพัน​ด้วย​…’

หลิน​สวิน​พึมพำ​ใน​ใจ

เวลา​ผ่าน​พ้นไป​วันแล้ววันเล่า​

ริม​ฝั่งทะเล​หมื่น​ดารา​

เหล่า​ผู้ยิ่งใหญ่​ลัทธิ​พ่อ​มด​อย่าง​พวก​ถูมู่หุน​รอคอย​เงียบๆ​ มาตลอด​

ศัตรู​ประชิด​กำแพง​ นี่​เป็น​ภัย​คุกคาม​โดยตรง​ที่สุด​อย่างหนึ่ง​!

ข่าว​ที่นี่​กระจาย​ออก​ไป​ทั่วหล้า​อย่า​รวดเร็ว​เช่นกัน​ ทั่วโลก​ต่าง​รู้​ว่า​ลัทธิ​พ่อ​มด​ลงมือ​แล้ว​ เตรียมตัว​พร้อมสรรพ​ ศึก​ใหญ่​ปะทุ​ขึ้น​ได้​ทุกเมื่อ​!

ข่าว​นี้​กระจาย​เข้า​ลัทธิ​วิญญาณ​ทันที​เช่นกัน​

“พวกเรา​ลัทธิ​วิญญาณ​กับ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​เป็นมิตร​ที่​ดี​มาโดยตลอด​ เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​พวกเรา​จะนิ่งเฉย​ได้​อย่างไร​”

จอม​วิญญาณ​ชิงอ​วิ๋น​ประหลาดใจ​

เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​หลังจาก​ได้​รู้​ข่าว​ที่​ลัทธิ​พ่อ​มด​ร่วมมือ​กับ​ลัทธิ​ฌาน​หมาย​บุก​โจมตี​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ครั้ง​ใหญ่​ รั่ว​ซู่ดัน​มาหา​ตน​และ​ขอ​ไม่ให้​ลัทธิ​วิญญาณ​ยื่นมือ​ช่วยเหลือ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​

“เป็นไป​ได้มา​กว่า​นี่​คือ​กับดัก​”

รั่ว​ซูกล่าว​เสียง​เบา​ “หรือ​ควร​บอ​กว่า​ เป้าหมาย​ที่​ลัทธิ​พ่อ​มด​และ​ลัทธิ​ฌาน​เคลื่อนไหว​ครั้งนี้​ ไม่ได้​อยู่​ที่​การ​เปิดศึก​กับ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ แต่​เป็น​เพื่อ​จัดการ​ข้า​กับ​ศิษย์​น้อง​คนอื่นๆ​ เพียง​จับ​พวก​ข้า​ได้​ พวกเขา​ย่อม​สามารถ​ข่มขู่​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ของ​ข้า​ตาม​ต้องการ​ได้​”

นัยน์ตา​ชิงอ​วิ๋น​ไหว​วูบ​ “แต่​เจ้าไม่กังวล​หรือว่า​ถ้าเจ้าเดา​ผิด​ ศิษย์​น้อง​ของ​พวก​เจ้ากับ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ก็​อาจ​เจอภัย​ใหญ่​ได้​”

รั่ว​ซูยิ้ม​น้อย​ๆ “กังวล​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​ ตอนนี้​ขอ​แค่​พวกเรา​ที่นี่​ไม่พลาด​ ทาง​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ย่อม​ไม่เจอ​ผลกระทบ​”

นาง​เว้น​ช่วง​ไป​แล้ว​กล่าว​ต่อ​ “ยิ่งกว่านั้น​ ถ้าต้องการ​ความช่วยเหลือ​จริงๆ​ ศิษย์​น้อง​คง​ส่งสาร​มานาน​แล้ว​”

ชิงอ​วิ๋น​นิ่งเงียบ​ไป​ครู​หนึ่ง​ กล่าวว่า​ “ข้า​ก็​ไม่อยาก​ปิดบัง​เจ้า ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​ข้า​ได้รับ​ข่าว​จาก​ฟางเต้า​ผิง​ บอ​กว่า​เรื่อง​นี้​ไม่ให้​พวกเรา​ลัทธิ​วิญญาณ​ยื่นมือ​เข้า​แทรก​ เดิมที​ข้า​ยัง​แปลกใจ​อยู่​บ้าง​ แต่​ตอนนี้​ดูท่า​ไม่ว่า​จะเป็น​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​หรือ​ศิษย์​น้อง​คน​นั้น​ของ​เจ้า เกรง​ว่า​คง​เตรียมการ​ไว้​นาน​แล้ว​”

นัยน์ตา​รั่ว​ซู่ทอ​ประกาย​วาบ​ “พูด​เช่นนี้​ ทาง​สำนัก​ก็​รู้เรื่อง​นี้​มานาน​แล้ว​หรือ​”

ชิงอ​วิ๋น​พยักหน้า​กล่าว​ “ยาม​โหย​วเป่ย​ไห่​แจ้งมรรค​ สำนัก​จะส่งผู้อาวุโส​ส่วนหนึ่ง​ไป​ ถึงตอนนั้น​เจ้ากับ​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​คนอื่น​ก็​ไม่ต้อง​มุ่งหน้า​ไป​พร้อมกัน​”

รั่ว​ซูใคร่ครวญ​ครู่หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ตอบรับ​

ห่าง​จาก​ช่วงเวลา​ที่​โหย​วเป่ย​ไห่​จะแจ้งมรรค​นิรันดร์​อีก​เพียง​ครึ่ง​เดือน​

ริม​ฝั่งทะเล​หมื่น​ดารา​

พวก​ลัทธิ​พ่อ​มด​อย่าง​ถูมู่หุน​ทุกคน​ล้วน​สัมผัส​ได้​ถึงคลื่น​อากาศ​ระลอก​หนึ่ง​

จากนั้น​เงาร่าง​กำยำ​ที่​สวม​รองเท้า​ฟางห่ม​จีวร​ทั้งหมด​ก็​ปรากฏตัว​ใน​ที่​นั้น​ แต่ละคน​หน้าตา​เคร่งขรึม​ ท่าทาง​น่าเกรงขาม​

เป็น​เหล่า​ผู้ยิ่งใหญ่​แห่ง​ลัทธิ​ฌาณ

ผู้นำ​มีหนวดเครา​ขาว​หิมะ​ เรือน​กาย​ผอม​ตอบ​ ห่ม​จีวร​ที่​เต็มไปด้วย​รอบ​ปะชุน​ แก้ม​ซูบ​ตอบ​เต็มไปด้วย​รอยย่น​ ผิวหนัง​แห้ง​กร้าน​ออก​สีน้ำตาล​แก่​

จอม​มุนี​จี้คง​!

ถูก​กล่าวขาน​ว่า​เป็น​จอม​มุนี​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ลัทธิ​ฌาน​ แจ้งมรรค​ถึงยาม​นี้​หลาย​แสน​ปี​แล้ว​ เหมือน​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ที่​มีชีวิต​มาเนิ่นนาน​คน​หนึ่ง​

เบื้องหลัง​จี้คง​คือ​เหล่า​คน​ชั้นยอด​ของ​ลัทธิ​ฌาน​ จำนวน​คน​เท่ากับ​ผู้​แข็งแกร่ง​ลัทธิ​พ่อ​มด​

“ไม่สำเร็จ​หรือ​”

ถูมู่หุน​ลุกขึ้น​เอ่ย​ถามเสียงแหบ​พร่า​

จี้คง​ส่าย​หัว​ “ลัทธิ​วิญญาณ​ยังคง​ไร้​การเคลื่อนไหว​ รอ​นาน​กว่า​นี้​ไม่ได้​ ไม่อาจ​ไม่จาก​มา”

ถูมู่หุน​ขมวดคิ้ว​แล้ว​กล่าว​ “พูด​เช่นนี้​ คิด​จับ​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​ใน​ลัทธิ​วิญญาณ​มาข่มขู่​เจ้าหลิน​สวิน​นี่​คง​เป็นไปไม่ได้​แล้ว​…”

“เดิมที​อุบาย​นี้​ก็​แค่​แผน​รอง​เท่านั้น​”

บน​หน้า​ซูบ​ตอบ​ของ​จี้คง​เผย​ความราบเรียบ​เคร่งขรึม​ “ใน​เมื่อ​ไม่ได้ประโยชน์​อะไร​ ก็​ออก​เคลื่อนไหว​โดยตรง​เพื่อ​บรรลุผล​ดัง​หวัง​”

ถูมู่หุน​ส่งเสียง​เย็นชา​ “อุบาย​สกปรก​นี่​เป็น​สิ่งที่​ลัทธิ​ฌาน​ของ​พวก​เจ้าเสนอ​มา อย่า​ตบหน้า​ตัวเอง​เลย​”

จี้คง​สีหน้า​ราบเรียบ​ไร้​คลื่น​อารมณ์​ กล่าวว่า​ “แผน​หลัก​แผน​รอง​ล้วน​เป็น​แผน​ หา​ได้​แยก​สูงต่ำ​”

ขณะ​พูด​นัยน์ตา​เขา​ก็​มอง​ไป​ยัง​ทะเล​หมื่น​ดารา​ไกลๆ​ เอ่ย​ว่า​ “พวกเรา​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​ร่วมมือ​กัน​ครั้งนี้​ ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ย่อม​เตรียม​ต่อสู้​และ​ระดมกำลัง​ทั้งหมด​เช่นกัน​ พี่​ถูคิด​ว่า​ลำพัง​กำลัง​ใน​มือ​พวกเรา​มีโอกาส​ชนะ​เท่าไร​”

“คน​ทำ​เต็มกำลัง​ ที่​เหลือ​ฟังลิขิต​ฟ้า”

ถูมู่หุน​กล่าว​เรียบ​เฉย​ “ขอ​แค่​ระดับ​นิรันดร์​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ไม่ลงมือ​ ครั้งนี้​ไม่ว่า​เป็น​ใคร​ก็​ปกป้อง​หลิน​สวิน​ไม่ได้​!”

จี้คง​เอ่ย​เรียบๆ​ ว่า​ “แผน​หมื่น​กาล​ของ​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ กำเนิด​หนึ่ง​บัว​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​ ยอด​อมตะ​เช่นนี้​ ทันที​ที่แจ้ง​มรรค​นิรันดร์​ย่อม​ปั่นป่วน​ทั่วหล้า​ และ​พวก​แรก​สุด​ที่จะ​โดน​บุก​ก็​คือ​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​อย่าง​พวกเรา​”

ลัทธิ​พ่อ​มด​กับ​ลัทธิ​ฌาน​ล้วน​มอง​คีรี​ดวงกมล​เป็น​ศัตรู​ตัวฉกาจ​ นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ไม่มีมูลเหตุ​

ถูมู่หุน​กล่าว​ “พลัง​ต่อสู้​ตอนนี้​ของ​เจ้าหมอ​นี่​ สามารถ​คุกคาม​ถึงชีวิต​เฒ่าชรา​อย่าง​พวกเรา​ได้​แล้ว​ คิด​จะจัดการ​เขา​… ย่อม​ไม่ง่าย​”

ก่อนหน้านี้​ใคร​จะสนใจ​เจ้าหนุ่ม​คน​หนึ่ง​เช่นนี้​เล่า​

แต่​ตอนนี้​คนหนุ่ม​ผู้​นี้​กลับ​กลายเป็น​หนาม​ตำ​ใจพวกเขา​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ใคร​ก็​ไม่อาจ​คาดเดา​ได้​

จี้คง​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ “ปี​นั้น​ใน​น่านฟ้า​ที่หก​ พันธมิตร​สงคราม​สิบ​ตระกูล​เคย​ใช้รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​ระดับ​นิรันดร์​หลาย​คน​ แต่​ล้วน​ไม่อาจ​ทำ​อะไร​เจ้านี่​ได้​โดย​ไม่มีข้อยกเว้น​ ตาม​ความคิดเห็น​ของ​พี่​ถู ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ควร​บุก​จับตัว​เจ้าหมอ​นี่​อย่างไร​”

ถูมู่หุน​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ “การต่อสู้​ที่​เกิดขึ้น​ใน​น่านฟ้า​ที่หก​ไม่มีใคร​เห็นด้วย​ตา​ตัวเอง​ ต่อให้​เจ้าหลิน​สวิน​นี่​มีพลัง​แห่ง​ยอด​อมตะ​ แต่​คิด​จะกำจัด​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​ ตาม​ความเห็น​ข้า​ เรื่อง​ใน​น่านฟ้า​ที่หก​เมื่อ​ตอนนั้น​ต้อง​มีคนใหญ่คนโต​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ยื่นมือ​ช่วยเหลือ​เป็นแน่​”

เขา​เว้น​ช่วง​ไป​แล้ว​เอ่ย​ต่อ​ “แต่​สถานการณ์​ตอนนี้​ไม่เหมือนกัน​ พวกเรา​มาอยู่​นอก​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​แล้ว​ ภัย​คุกคาม​ของ​เจ้าหลิน​สวิน​นี่​กลับ​มีน้อยที่สุด​ ที่​ต้อง​ระวัง​อย่าง​แท้จริง​คือ​พวก​เฒ่าชรา​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​เหล่านั้น​ต่างหาก​”

จี้คง​กล่าว​ “หาก​หัวหน้า​หอ​ไท่​เสวียน​ลงมือ​ควร​ทำ​อย่างไร​”

นัยน์ตา​ถูมู่หุน​พลัน​หด​รัด​ กล่าว​เรียบๆ​ ทันที​ “หาก​เขา​กล้า​ลงมือ​ ย่อม​มีคน​ไป​จัดการ​เขา​”

จี้คง​กล่าว​ “ดูท่า​พี่​ถูเตรียมการ​มาเสร็จสรรพ​แล้ว​”

“หรือ​พวก​เจ้าลัทธิ​ฌาณไม่ใช่แบบนี้​”

ถูมู่หุน​แค่น​เสียง​เย็นชา​ “หาก​ไม่มีความมั่นใจ​สักนิด​ ย่อม​กิน​เนื้อ​ติด​มัน​ชิ้น​นี้​อย่าง​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ไม่ไหว​!”

จี้คง​เงียบ​อยู่​นาน​แล้ว​พลัน​ถอนหายใจ​กล่าว​ “การ​แพ้ชนะ​ใน​ศึก​ครั้งนี้​ เกรง​ว่า​จะอยู่​ที่​นอก​กระดาน​หมาก​”

“นอก​กระดาน​หมาก​หรือ​”

ถูมู่หุ่น​ขมวดคิ้ว​ “หมายความว่า​อย่างไร​”

จี้คง​กล่าว​ “ลางสังหรณ์​ ไม่แน่​ว่า​จะจริง​เสมอไป​”

“คน​ของ​พวก​เจ้าลัทธิ​ฌาน​ล้วน​ยึกๆ​ ยัก​ๆ พูดจา​คลุมเครือ​”

ถูมู่หุน​เผย​แวว​เหยียดหยาม​เสี้ยว​หนึ่ง​ “ข้า​ไม่สน​ใน​นอก​กระดาน​อะไร​ทั้งนั้น​ เชื่อ​เพียง​ว่า​ตราบใดที่​พลัง​แข็งแกร่ง​ย่อม​บดขยี้​ได้​”

จี้คง​ยิ้ม​น้อย​ๆ ไม่ได้​พูด​อะไร​มาก​อีก​

ครึ่ง​เดือน​ถัดมา​

บน​ยอด​วัง​กระบี่​หมื่น​ หลิน​สวิน​ที่​กำลัง​นั่งสมาธิ​อยู่​คล้าย​สัมผัส​อะไร​ได้​ ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​

แทบจะ​เวลา​เดียวกัน​ ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​เสียง​ระฆัง​ทุ้ม​หนัก​รื่นหู​ดัง​ขึ้น​ ฟ้าดิน​ต่าง​เงียบสงัด​

จากนั้น​ใน​แดน​ลับ​เขต​ผนึก​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​หลังเขา​แรก​พิสุทธิ์​นั้น​ เงาร่าง​สาย​หนึ่ง​ทะยาน​ตัว​เหยียบย่าง​ห้วง​อากาศ​มาอยู่​ใต้​เวิ้ง​ฟ้า แล้ว​เงยหน้า​มอง​ฟ้า

เขา​สวม​ชุด​ยา​วสี​ขาว​ รูปโฉม​ราว​เด็กหนุ่ม​ ผิวพรรณ​ขาว​กระจ่าง​หมดจด​ มีเพียง​ส่วนลึก​ของ​นัยน์ตา​เท่านั้น​ที่​มีแสงมรรค​เจิดจ้า​อัน​เร้นลับ​ยาก​คาดเดา​พลุ่งพล่าน​

ด้านหลัง​ของ​เขา​สะพาย​กระบี่​ไม้ ด้าม​กระบี่​พัน​เชือก​ไหม​แดง​ ลอย​พลิ้ว​อยู่​ใน​สายลม​

ทั้ง​ร่าง​เขา​ราวกับ​เทพ​เซียน​ที่​อิสระ​เสริ​ ก้าวเดิน​ตามใจ​ มีกลิ่นอาย​ไร้​ผูกมัด​ ท่าทาง​สันโดษ​อหังการ​

หัวหน้า​หอ​แรก​พิสุทธิ์​โหย​วเป่ย​ไห่​!

เฒ่าดึกดำบรรพ์​คน​หนึ่ง​ที่​ปิด​ด่าน​มาหลาย​ปี​ จดจ่อ​กับ​การ​ฝึก​ปราณ​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ตำนาน​บน​เส้นทาง​มรรค​กระบี่​ ก่อนหน้านี้​นานมาแล้ว​เคย​ถูก​เรียก​รวม​กับ​ไท่​เสวียน​ว่า​ ‘คู่​สุดยอด​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​’

“เหล่า​โหย​ว​ วันนี้​เจ้าแจ้งมรรค​ได้​อย่าง​วางใจ​!”

ไกล​ออก​ไป​เงาร่าง​ของ​เหยียน​จี้ปรากฏ​กลางอากาศ​ เอ่ยปาก​เรียบๆ​ “เรื่อง​อื่น​ไม่ต้อง​สนใจ​”

โหย​วเป่ย​ไห่​พยักหน้า​น้อย​ๆ

จากนั้น​เขา​ก็​ยื่น​นิ้ว​ออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​ กรีด​วาด​ไป​ทาง​เวิ้ง​ฟ้า

ส่วนลึก​ใน​ท้องฟ้า​ที่​เดิม​ปลอดโปร่ง​ ทันใดนั้น​พลัน​ปรากฏ​เงามืด​สาย​หนึ่ง​ เข้า​กลืน​กิน​ฟ้ายาม​กลางวัน​ไป​ทั้งหมด​

ฟ้าดิน​จมสู่ความ​มืดมิด​ทันควัน​!

ตูม​!

ขณะเดียวกัน​พลัง​ระเบียบ​ที่​ปกคลุม​รอบ​แดน​แรกเริ่ม​ก็​คล้าย​เผชิญ​การ​คุกคาม​ครั้ง​ใหญ่​ เริ่ม​ปรากฏ​คลื่น​ผันผวน​รุนแรง​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท