ตอนที่ 2940 ไม่ชอบมาพากล

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ท้องฟ้า​มืด​ลง​กะทันหัน​ กลิ่นอาย​ด่าน​เคราะห์​ไร้​รูป​แผ่​กระจาย​ กดดัน​จน​คน​แทบ​หายใจไม่ออก​

ใต้​ฟ้าโหย​วเป่ย​ไห่​ยืน​มือ​ไพล่หลัง​ แขน​เสื้อ​โบกสะบัด​ นิ่งเงียบ​ไม่ไหวติง​

รอง​หัว​หอ​อย่าง​พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ล้วน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ ใน​ใจอด​กังวล​อยู่​บ้าง​ไม่ได้​

ด่าน​เคราะห์​ใกล้​มาเยือน​ หัวหน้า​หอ​โหย​วเป่ย​ไห่​จะแจ้งมรรค​นิรันดร์​ใน​วันนี้​

“เตรียมตัว​เรียบร้อย​แล้ว​หรือไม่​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​ถาม

พวก​ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​ล้วน​พยักหน้า​

นอกจาก​ขั้น​หลุดพ้น​แล้ว​ คนอื่นๆ​ ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ รวมถึง​คนใน​ตระกูล​ที่อยู่​ใน​แดน​แรกเริ่ม​ล้วน​ถูก​พา​ไป​อยู่​ใน​แดน​ลับ​แรก​ฟ้าแล้ว​

ใน​แดน​แรกเริ่ม​ตอนนี้​รกร้าง​ ว่างเปล่า​ และ​เงียบงัน​เป็น​ที่สุด​

“ดี​ จากนี้ไป​พวกเรา​เหล่า​ผู้​ร่วม​สำนัก​ขั้น​หลุดพ้น​ขึ้นไป​จะปก​ปักษ์​แดน​แรกเริ่ม​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ห้าม​ให้​ใคร​มาทำลาย​การ​แจ้งมรรค​ของ​หัวหน้า​หอ​โหย​ว”​

ดวงตา​เสวียน​เฟยห​ลิง​ทอ​ประกาย​เด็ดขาด​

รองหัวหน้า​หอ​อื่นๆ​ ต่าง​พยักหน้า​ เริ่ม​ออก​เคลื่อนไหว​

ส่วน​เสวียน​เฟยห​ลิง​กลับ​มุ่งหน้า​ไปนอก​แดน​แรกเริ่ม​เพียงลำพัง​ ไม่ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​ยัง​กังวล​ความปลอดภัย​ของ​หลิน​สวิน​

ทะเล​หมื่น​ดารา​

บน​วัง​กระบี่​หมื่น​ยอด​ หลิน​สวิน​เงยหน้า​ขึ้น​เช่นกัน​

ท้องฟ้า​ปลอดโปร่ง​ถูก​เมฆาเคราะห์​หนา​ทึบ​ดำมืด​ปาน​น้ำหมึก​ปกคลุม​จน​สิ้น​ ฟ้าดิน​ราวกับ​จมสู่ความ​มืดมิด​ไร้​สิ้นสุด​ใน​พริบตา​

กลิ่นอาย​ด่าน​เคราะห์​ที่​กดดัน​บีบคั้น​เหมือน​มีอยู่​ทุกที่​ ทำเอา​ทั้ง​ร่าง​หลิน​สวิน​หนาว​เยือก​

ฟ้าดิน​เงียบสงัด​จน​น่ากลัว​ แม้แต่​ทะเล​หมื่น​ดารา​ที่​คลื่น​โหม​รอบ​ทิศ​ก็​ดูเหมือน​จมสู่ความเงียบสงบ​อย่าง​แท้จริง​ ไม่มีระลอกคลื่น​สักนิด​

มีเพียง​เมฆเคราะห์​ที่​ปกคลุม​บน​ท้องฟ้า​นั่น​ที่​ยิ่ง​หนา​ขึ้น​ทุกที​ สีท้องฟ้า​ก็​ยิ่ง​กลายเป็น​มืดมิด​ไป​ทุกขณะ​เช่นกัน​…

สีหน้า​หลิน​สวิน​เจือ​แวว​เคร่งขรึม​

นี่​เป็น​ด่าน​เคราะห์​นิรันดร์​ของ​หัวหน้า​หอ​แรก​พิสุทธิ์​โหย​วเป่ย​ไห่​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ น่า​สะพรึง​จน​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​

ต่อให้​ใน​อดีต​หลิน​สวิน​เคย​ผ่าน​มหา​เคราะห์​เร้นลับ​ที่​คาดไม่ถึง​มากมาย​ ทั้ง​ก้าว​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​ชั้นเลิศ​ที่​เรียก​ได้​ว่า​เป็นประวัติการณ์​ไม่รู้​เท่าไร​ ทว่า​ตอนนี้​ก็​ยัง​รู้สึก​อกสั่นขวัญแขวน​อยู่ดี​

นิรันดร์​!

นี่​คือ​ระดับ​ที่​เปรียบเสมือน​ตำนาน​ใน​สายตา​สรรพ​ชีวิต​ทั่วหล้า​

และ​ใน​สายตา​ผู้​แข็งแกร่ง​บน​มรรคา​อมตะ​ นิรันดร์​ก็​เหมือน​ปราการ​สวรรค์​แห่ง​หนึ่ง​ที่​แทบจะ​ปีน​ข้าม​ไป​ไม่ได้​!

พวก​สัตว์ประหลาด​เฒ่าอย่าง​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ฟางเต้า​ผิง​ ตู๋​กู​ยง​แจ้งมรรค​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​มาไม่รู้​กี่​หมื่น​ปี​ แต่​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่มีใคร​แจ้งมรรค​นิรันดร์​

กรณี​เช่นนี้​ใน​หอ​บรรพ​จารย์​อื่นๆ​ และ​ใน​บรรดา​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อม​ตะเอง​ก็​มีให้​เห็น​กัน​เกลื่อน​

สาเหตุ​นั้น​ง่าย​มาก​

อันที่จริง​ธรณีประตู​แห่ง​นิรันดร์​สูงมากเกินไป​ สูงถึงขั้น​สามารถ​ทำให้​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​พวก​นั้น​แทบ​ยาก​จะเอื้อม​ถึง!

และ​ทันทีที่​เข้าสู่​ระดับ​นิรันดร์​ ก็​ไม่ต้อง​กลัว​ภัยพิบัติ​แห่ง​ยุคสมัย​ผัน​เปลี่ยน​ สามารถ​ใช้และ​ควบคุม​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​ได้​ นี่​ไม่ต่าง​กับ​เทพ​ผู้สร้าง​!

แม้ตอนนี้​หลิน​สวิน​เป็น​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​แล้ว​ ทว่า​การ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​… กลับ​ไร้​วี่แวว​เช่นกัน​

แต่​เขา​ไม่ได้​รีบร้อน​ เขา​เพิ่งจะ​ก้าว​สู่ธรณีประตู​ขั้น​สัมบูรณ์​ ภายหน้า​ยัง​มีโอกาส​ไป​เสาะหา​นัย​เร้นลับ​แห่ง​การ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​

ตูม​!

ทันใดนั้น​เสียง​ดังลั่น​รุนแรง​อุบัติ​ขึ้น​กลาง​ฟ้าดิน​

นี่​ไม่ใช่เสียง​ของ​อัสนี​เคราะห์​ เพราะ​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ที่​จ้อง​เล่นงาน​โหย​วเป่ย​ไห่​ครั้งนี้​ยัง​ไม่มาเยือน​

หลิน​สวิน​สังเกตเห็น​ว่า​พลัง​ระเบียบ​ที่​ปกคลุม​เหนือ​ทะเล​หมื่น​ดารา​กำลัง​เลือนหาย​ไป​ด้วย​ความเร็ว​น่า​ตกใจ​…

‘แม้แต่​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ก็​ยัง​ประสบ​แรงกดดัน​ของ​กลิ่นอาย​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ เช่นนั้น​ด่าน​เคราะห์​ระดับ​นี้​จะน่าหวาดกลัว​ขนาด​ไหน​’

หลิน​สวิน​ทอดถอนใจ​

จากนั้น​เขา​ก็​หัน​กลับมา​ ดวง​ตาดำ​ดุจ​หุบเหว​มอง​ไป​ทาง​ริม​ฝั่งทะเล​หมื่น​ดารา​ไกลๆ​

“ซย่า​จื้อ”​

หลิน​สวิน​กล่าว​เสียง​เบา​

ซย่า​จื้อ​ที่​กำลัง​นั่ง​แทะ​เมล็ด​แตง​อยู่​ด้าน​ข้าง​เงยหน้า​ขึ้น​ ใน​ดวงตา​กระจ่าง​ใสคล้าย​เขียน​คำ​ว่า​ ‘มีอะไร​’

นาง​ดูเหมือน​ไม่ได้​ใส่ใจมหา​เคราะห์​นิรันดร์​ครั้งนี้​ที่​กำลังจะ​มาเยือน​สักนิด​ และ​คร้าน​จะไป​สนใจ​พลัง​ระเบียบ​ที่​ค่อยๆ​ สลายตัว​ไป​จาก​ทะเล​หมื่น​ดารา​ด้วย​

เหมือนว่า​ตราบใด​ที่อยู่​ข้าง​กาย​หลิน​สวิน​ ไม่ว่า​ฟ้าถล่ม​ดิน​ทลาย​ คลื่น​ยักษ์​ท่วม​ฟ้า ล้วน​ไม่อาจ​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​นาง​ได้​สัก​เสี้ยว​

“ศัตรู​จะมาแล้ว​ อีก​เดี๋ยว​รอ​ฟังคำสั่ง​ลงมือ​จาก​ข้า​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​เสียง​เบา​

ซย่า​จื้อ​ขาน​รับคำ​หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​เก็บ​เมล็ด​แตง​วิญญาณ​ขึ้น​มาสอง​สามเมล็ด​ นาง​ตั้งใจ​ว่า​เดี๋ยว​ค่อย​กำจัด​สิ่งน้อย​ๆ แสน​อร่อย​พวก​นี้​หลังจาก​การต่อสู้​จบ​ลง​

ซย่า​จื้อ​ยืด​ตัวยืน​ เงาร่าง​อรชร​ยังคง​สวม​ชุด​ยา​วสี​ดำ​ ใบหน้า​งดงาม​ที่​สามารถ​ทำให้​ฟ้าดิน​อับ​แสงซ่อน​อยู่​ใต้​ม่าน​หมวก​

ทวน​ศึก​กระดูก​ขาว​ถูก​กระชับ​ใน​มือ​หยก​ขาว​เรียว​บาง​ของ​นาง​ไม่รู้​ตั้งแต่​เมื่อไร​ มอง​ไป​ยัง​ที่​ไกล​ออก​ไป​เคียง​ไหล่​หลิน​สวิน​

ห่าง​ออก​ไป​ไกล​ คลื่น​ระลอก​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​กลางอากาศ​ กลิ่นอาย​น่า​สะพรึง​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้าเป็น​ระลอก​คล้าย​พายุหมุน​ ทำลาย​บรรยากาศ​เงียบสงัด​กลาง​ฟ้าดิน​ กลิ่นอาย​กดดัน​เย็นเยียบ​ประหนึ่ง​เขา​ถล่ม​สมุทร​โหม​ซัด​บดขยี้​ผิว​ทะเล​ออกมา​

คลื่น​ทะเล​ที่​ซัดสาด​ยังคง​หอบ​ม้วน​กึกก้อง​ สัญญาณความโกลาหล​ที่​เห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​

จากนั้น​เงาร่าง​หลาย​กลุ่ม​กลายเป็น​แสงพร่างพราว​ทะยาน​เข้า​มาจาก​ไกลๆ​ แต่ละคน​สูงใหญ่​อานุภาพ​ร้ายกาจ​ แสงมรรค​อมตะ​ที่​แผ่​ออกมา​ทั่ว​ร่าง​ทำเอา​ฟ้าดิน​มืดมิด​ดั่ง​นิรันดร์​นี้​สว่างไสว​

เงาร่าง​พวก​นี้​แบ่ง​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ลัทธิ​พ่อ​มด​นำ​โดย​ถูมู่หุน​ และ​ผู้​แข็งแกร่ง​ลัทธิ​ฌาน​นำ​โดย​จี้คง​

คน​ที่​ศักยภาพ​อ่อน​แอ่​ที่สุด​ยังมี​มรรค​วิถี​ขั้น​หลุดพ้น​ขั้น​ปลาย​!

รวม​ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​แล้ว​มีมากกว่า​ร้อย​คน​ เมื่อ​พลัง​ของ​พวกเขา​รวมกัน​ ทุกที่​ที่​ผ่าน​ก็​เหมือน​การพลิก​ภูเขา​คว่ำ​สมุทร​ สร้าง​ความปั่นป่วน​ให้​ฟ้าดิน​

น่า​สะพรึง​เกินไป​ ต่อให้​เป็น​ใน​น่า​ฟ้าที่​แปด​ กำลัง​พล​ทั้งหมด​ของ​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​รวมตัวกัน​ก็​ไม่อาจ​ต้าน​การ​โจมตี​ขบวน​ทัพ​ระดับ​นี้​ได้​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​จาก​ไกลๆ​ สีหน้า​หลิน​สวิน​กลับ​ยัง​สงบนิ่ง​เช่นเคย​

ซย่า​จื้อ​นับ​จำนวน​อย่าง​จริงจัง​อยู่​ข้างๆ​ กล่าวว่า​ “อีก​ครู่​อยาก​แข่ง​ว่า​ใคร​ฆ่าได้​มากกว่า​กัน​หรือไม่​”

หลิน​สวิน​อึ้ง​ไป​ สีหน้า​พลัน​เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​ กล่าวว่า​ “อย่า​ชะล่าใจ​ไป​ ไพ่ตาย​ใน​มือ​พวกเขา​ย่อม​สามารถ​คุกคาม​เจ้ากับ​ข้า​ได้​”

เพราะ​เกี่ยวพัน​ถึงความปลอดภัย​ของ​ซย่า​จื้อ​จึงทำให้​เขา​กังวล​ขึ้น​มาอยู่​บ้าง​

“เจ้ากลัว​หรือ​” ซย่า​จื้อ​ถาม

หลิน​สวิน​ส่าย​ศีรษะ​ “ข้า​แค่​เป็นห่วง​เจ้าเท่านั้น​”

ซย่า​จื้อ​กล่าว​ “เช่นนั้น​เจ้ากับ​ข้า​ต่อสู้​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​ก็​พอ​”

หลิน​สวิน​ถึงค่อย​ว่าง​ใจ เอ่ย​ว่า​ “เช่นนี้​ดี​ที่สุด​”

ไกล​ออก​ไป​คน​ของ​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​อย่าง​พวก​ถูมู่หุน​ จี้คง​ต่าง​หยุด​เท้า​โดยพลัน​ สายตา​มอง​ไป​ใน​เมือง​เทพ​หมื่น​ยอด​ และ​สังเกตเห็น​ตัวตน​ของ​หลิน​สวิน​กับ​ซย่า​จื้อ​แล้ว​

นัยน์ตา​พวกเขา​หด​รัด​น้อย​ๆ ล้วน​คาดไม่ถึง​อยู่​บ้าง​

“หลิน​สวิน​หรือ​”

ถูมู่หุน​กล่าว​ด้วย​ความแปลกใจ​ “ลัทธิ​แรก​กำเนิด​นี่​ทำ​อะไร​กัน​ ถึงขั้น​ให้​พวก​เจ้าสอง​คน​มาเฝ้าที่นี่​เชียว​หรือ​”

ความจริง​นี่​เกิน​ความคาดหมาย​ของ​พวกเขา​ไป​

เดิมที​ก่อนหน้านี้​ พวกเขา​คิด​ว่าการ​จับ​หลิน​สวิน​เกรง​ว่า​จะต้อง​บุก​เข้า​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ให้​ใด้​ก่อน​ หลังจาก​ผ่าน​การขัดขวาง​ชั้น​แล้ว​ชั้น​เล่า​ถึงจะเจอ​หลิน​สวิน​ด้วยซ้ำ​

แต่​ใคร​จะคิด​ว่า​นี่​ยัง​ไม่ทัน​เข้า​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ก็​เจอ​หลิน​สวิน​อยู่​เหนือ​ทะเล​หมื่น​ดารา​นอก​แดน​แรกเริ่ม​แล้ว​

มิหนำซ้ำ​ใน​เมือง​เทพ​หมื่น​ยอด​ที่​ใหญ่โต​ยังมี​แค่​หลิน​สวิน​กับ​ผู้หญิง​คนเดียว​!

จี้คง​เอง​ก็​เลิกคิ้ว​น้อย​ๆ กล่าวว่า​ “ผิดปกติ​อยู่​บ้าง​จริงๆ​ “

หลิน​สวิน​กล่าว​เรียบๆ​ “เป็น​ิอะไร​ พวก​เจ้ามาที่นี่​ไม่ใช่ว่า​มาเพื่อ​จัดการ​ข้า​คน​แซ่หลิน​หรือ​ เหตุใด​ตอนนี้​กลับ​ลังเล​แล้ว​”

“ไม่เชิงว่า​ลังเล​ แค่​คิดไม่ถึง​ว่า​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​จะทุ่ม​สุดตัว​เช่นนี้​ หรือว่า​เพื่อให้​โหย​วเป่ย​ไห้​แจ้งมรรค​นิรันดร์​ ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ถึงได้​ตัดสินใจ​สละ​เศษเดน​คีรี​ดวงกมล​อย่าง​เจ้า”

นัยน์ตา​ถูมู่หุน​ฉายแวว​ชวน​หวาดหวั่น​ เขา​สัมผัส​ได้​แล้ว​ว่า​นอกจาก​พวก​หลิน​สวิน​สอง​คน​ ข้างนอก​แล้ว​ใน​ผืน​ทะเล​แห่ง​นี้​ก็​ไม่มีใคร​ดัก​ซุ่มอีก​

“ผิด​”

หลิน​สวิน​กล่าว​เรียบๆ​ “ดู​จาก​ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ทั้งหมด​ แค่​ให้​ข้า​คน​แซ่หลิน​มารับมือ​พวก​เจ้าก็​พอแล้ว​ ไม่ต้อง​รบกวน​คนอื่น​อีก​”

“กำเริบ​!”

เฒ่าดึกดำบรรพ์​ลัทธิ​พ่อ​มด​คน​หนึ่ง​หัวเราะ​หยัน​

“ทุกท่าน​ ข้า​ใช้วิชา​ลับ​สัมผัส​ทั่ว​ทิศ​แล้ว​ ที่นี่​ไม่มีใคร​ดัก​ซุ่ม จัดการ​เจ้าหมอ​นี่​ได้​เต็มที่​”

เฒ่าดึกดำบรรพ์​อีก​คน​กล่าว​อย่าง​กระเหี้ยนกระหือรือ​

เพียงแต่​ต่อให้​พูด​เช่นนี้​กลับ​ยัง​ไม่มีใคร​เคลื่อนไหว​

อันที่จริง​ภาพ​ตรงหน้า​นี่​ประหลาด​เกินไป​ รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​พวกเขา​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​มาเพื่อ​จัดการ​หลิน​สวิน​ แต่​ดัน​ส่งหลิน​สวิน​ออกมา​เฝ้านอก​แดน​แรกเริ่ม​ เป็น​ใคร​จะไม่รู้สึก​แปลกใจ​เล่า​

เกิดเรื่อง​ผิดปกติ​ย่อม​ต้อง​มีเหตุ​!

“ฮ่าๆๆ”

บน​ยอด​วัง​กระบี่​หมื่น​ยอด​ หลิน​สวิน​อด​แหงนหน้า​ขึ้น​ฟ้าหัวเราะ​ลั่น​ไม่ได้​

แม้แต่​เขา​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​แค่​เพราะ​ตัวเอง​เฝ้าอยู่​ที่นี่​ กลับ​ทำให้​สัตว์ประหลาด​เฒ่าของ​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​ทั้งหมด​ถึงขั้น​หวาดระแวง​ ไม่กล้า​บุ่มบ่าม​ลงมือ​

ชั่วขณะหนึ่ง​กลาง​ฟ้าดิน​เต็มไปด้วย​เสียง​หัวเราะเยาะ​ของ​หลิน​สวิน​

นี่​ทำให้​พวก​ถูมู่หุน​กับ​จี้คง​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​ เจ้านี่​… หรือ​จะถูก​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ตัด​หาง​ไป​แล้ว​จริงๆ​

หาก​เป็น​เช่นนี้​กลับ​จะเป็นเรื่อง​ที่​ดี​ยิ่งนัก​

เพียงแต่​ใคร​จะกล้า​มั่นใจ​ว่า​นี่​ไม่ใช่กับดัก​

“หลิน​สวิน​ เหตุใด​เจ้าถึงเริงร่า​เช่นนี้​” ซย่า​จื้อ​กล่าว​อย่าง​งุนงง​

หลิน​สวิน​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​กำลัง​ขำ​พวก​เฒ่าชรา​เหล่านี้​ แต่ละคน​ไม่รู้​มีชีวิต​มากี่​ปี​แล้ว​ แต่​ความกล้า​กลับ​ยิ่ง​อยู่​ยิ่ง​น้อยลง​”

ซย่า​จื้อ​กล่าว​จริงจัง​ “พวกเขา​หวาดกลัว​พวกเรา​สอง​คน​ นี่​ไม่ใช่ว่า​ปกติ​มาก​หรือ​”

หลิน​สวิน​อึ้ง​ไป​ เข้าใจ​เช่นนี้​ก็ได้​หรือ​!?

ทันใดนั้น​เข้า​ก็​อด​หัวเราะ​ลั่น​ขึ้น​มาอีก​ไม่ได้​ พยักหน้า​ไม่หยุด​ “ดูเหมือน​จะเป็น​อย่างนั้น​จริงๆ​ นั่นแหละ​”

เห็น​พวกเขา​สอง​คน​คุย​เล่น​กัน​อย่าง​กับ​ไม่มีใคร​อยู่​ นัย​ที่​เผย​ออกมา​ระหว่าง​คำพูด​ก็​ทำให้​ลัทธิ​พ่อ​มด​อย่าง​พวก​ถูมู่หุน​สีหน้า​อึมครึม​ลง​

“ไม่ว่า​เขา​จะเสแสร้ง​แกล้งทำ​อยู่​หรือไม่​ ข้า​จะไป​สู้กับ​เขา​ดูก่อน​”

ทันใดนั้น​เฒ่าดึก​ดำ​บรรพ​คน​หนึ่ง​ก็​เดิน​ก้าว​ออกมา​ ร่าง​ของ​เขา​องอาจ​ดั่ง​ขุนเขา​ ยิ่งใหญ่​ไร้​ใคร​เทียม​ หู​ทั้งสอง​ใส่ห่วง​กระดูก​สัตว์​สีขาว​หิมะ​ ผิวหนัง​ทั่ว​ร่าง​เปล่ง​ลวดลาย​แสงมรรค​น่า​สยอง​

หลู​ถู!

หนึ่ง​ใน​ราชครู​ดิน​ลัทธิ​พ่อ​มด​ ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​

ตูม​!

เขา​ก้าว​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้า เคลื่อนย้าย​ผ่าน​ห้วง​อากาศ​ ประหนึ่ง​เทพ​ที่​เหี้ยมโหด​ดุดัน​ ไม่ว่า​จะผ่าน​ไป​ที่ใด​ห้วง​อากาศ​ล้วน​พังทลาย​ครั่น​ครืน​

“เฮอะ​!”

กระบอง​ยาว​กระดูก​สัตว์​อัน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​มือ​เขา​ ฟาด​เข้าใส่​หลิน​สวิน​อย่าง​รุนแรง​จาก​ไกลๆ​

ตูม​!

เงากระบอง​พุ่ง​โฉบ​กลางอากาศ​ กฎเกณฑ์​อมตะ​สีดำ​น่าสยดสยอง​ดุจ​น้ำตก​ไหล​พุ่ง​ มอง​จาก​ไกลๆ​ ราวกับ​รุ้ง​เทพ​พุ่ง​โฉบ​ออก​มาจาก​ท้องฟ้า​

“ข้า​เอง​”

ขณะที่​ซย่า​จื้อ​พูด​ เงาร่าง​งดงาม​ก็​พุ่ง​ออก​ไป​ ทวน​กระดูก​ขาว​กวัดแกว่ง​

ตูม​ โครม​!

เงากระบอง​สาย​นั้น​ระเบิด​ออก​อย่าง​น่า​สะพรึง​

หลู​ถูเผย​ยิ้ม​เย็น​ นี่​เป็น​แค่​การ​ล่อหลอก​ของ​เขา​เท่านั้น​

เห็น​ซย่า​จื้อ​ทะยาน​ออกมา​ ไอ​สังหาร​ใน​นัยน์ตา​เขา​ก็​ฉาย​วาบ​ พลัน​บิด​ข้อมือ​ กระบอง​ยาว​กระดูก​สัตว์​ส่งเสียง​อสนีบาต​รุนแรง​เสียด​หู​ ทะลวง​ทุบ​ผ่าน​ห้วง​อากาศ​

หนักหน่วง​รุนแรง​ สั่นคลอน​ฟ้าดิน​!

กระบอง​เดียว​กด​อัด​จน​ห้วง​อากาศ​แถบ​นี้​พังทลาย​ บริเวณ​ใกล้​ๆ ผืน​ทะเล​แยก​ออก​เป็น​หุบเหว​ลึก​ไม่อาจ​วัด​ได้​สาย​หนึ่ง​ทันที​ พลัง​สังหาร​รุนแรง​หา​ใด​เปรียบ​พุ่ง​ออกมา​ กร้าว​แกร่ง​จน​พา​ให้​คน​ใจสะท้าน​

ซย่า​จื้อ​ไม่ได้​หลบหลีก​ ใช้ทวน​ศึก​เข้า​ปะทะ​จังๆ

เค​ร้ง!!​

กระบอง​ยาว​กระดูก​สัตว์​ปะทะ​กับ​ทวน​ศึก​ เสียง​ระเบิด​กึกก้อง​กัง​ลั่น​ กลิ่นอาย​สังหาร​น่า​พรั่นพรึง​แผ่​ออกมา​ระหว่าง​ทั้งสอง​

ร่าง​ของ​หลู​ถูที่​องอาจ​ดุจ​ภูผา​เซน้อย​ๆ เผย​สีหน้า​แปลกใจ​เสี้ยว​หนึ่ง​อย่า​งอด​ไม่ได้​

หญิง​ผู้​นี้​พลัง​แข็งแกร่ง​นัก​!

แต่​ไม่ให้​เวลา​เขา​คิดมาก​ ทวน​ศึก​กระดูก​ขาว​ใน​มือ​หยก​ขาว​กระจ่าง​เรียว​บาง​นั่น​ของ​ซย่า​จื้อ​ก็​แทง​ออก​ไป​ตรงๆ​ อย่าง​เรียบง่าย​ พลัง​แห่ง​โชคชะตา​กฎ​กรรม​ที่​คลุมเครือ​แผ่​ออกมา​

พริบตาเดียว​ใน​ใจหลู​ถูก็​สั่นสะท้าน​ คล้าย​สังเกตเห็น​อันตราย​ หลบหลีก​ไป​ตาม​จิตใต้สำนึก​

พรูด​!

จากนั้น​เลือด​แดงฉาน​จำนวน​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ออกมา​

หลู​ถูรู้สึก​เพียง​ร่างกาย​เจ็บปวด​รุนแรง​ ก้มหัว​ลง​ดู​ตาม​จิตใต้สำนึก​ ก็​เห็น​ทวน​ศึก​กระดูก​ขาว​ทะลุ​เข้า​อก​ตัวเอง​แล้ว​!

เขา​เผย​สีหน้า​ยาก​จะเชื่อ​ ถึงกับ​หนี​ไม่พ้น​หรือ​

นี่​… นี่​เป็นไปได้​อย่างไร​!?

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท