ตอนที่ 2952 ร่วมต่อสู้กับศิษย์พี่

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

หลิน​สวิน​ตะลึง​ไป​ เก็บ​กลั้น​ความกังขา​ใน​ใจเอาไว้​ไม่พูด​อะไร​อีก​

“เหล่า​เสวียน​ สำนัก​ก็​ฝาก​พวก​เจ้าดูแล​แล้ว​”

ก่อน​จากไป​ไท่​เสวียน​ เหยียน​จี้ต่าง​กำชับ​กับ​เสวียน​เฟยห​ลิง​และ​หลิน​สวิน​

“ศิษย์​หลาน​ คืน​รูปจำลอง​เจตจำนง​ให้​ข้า​เถอะ​”

คง​เจวี๋ย​ยื่นมือ​ออกมา​ ยิ้ม​มอง​หลิน​สวิน​ “ด้วย​มรรค​วิถี​ของ​เจ้าใน​ตอนนี้​ก็​ไม่จำเป็น​อยู่แล้ว​”

หลิน​สวิน​ก็​ยิ้ม​เช่นกัน​ ส่าย​หัว​ปฏิเสธ​ “เก็บ​ไว้​ระลึกถึง​ก็ดี​”

คง​เจวี๋ย​อึ้ง​ไป​ ยิ้ม​ด่าว่า​ “ระลึกถึง​หรือ​ เจ้ามั่นใจ​ว่า​ข้า​กลับมา​ไม่ได้​แล้ว​ใช่ไหม​ ช่างเถอะ​ เจ้าอยาก​เก็บ​ไว้​ก็​เก็บ​ ภายหน้า​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​มีประโยชน์​อยู่​บ้าง​”

พูด​จบ​เขา​กลับ​หุบ​ยิ้ม​ ประสาน​หมัด​เอ่ย​กับ​หลิน​สวิน​ว่า​ “หลาย​ปี​นี้​ขอบคุณ​มาก​จริงๆ​!”

หลิน​สวิน​ใจสะท้าน​ กำลังจะ​พูด​อะไร​คง​เจวี๋ย​ก็​หมุนตัว​เดิน​หาย​เข้าไป​ใน​ประตู​น้ำวน​นั้น​อย่าง​สง่างาม

‘คนใน​ครอบครัว​ตัวเอง​ยัง​ต้อง​ขอบคุณ​อะไร​ อาจารย์​อา​หนอ​อาจารย์​อา​ ถ้าอยาก​ขอบคุณ​ข้า​จริงๆ​ ท่าน​รอด​กลับมา​ให้​ข้า​ก็​พอแล้ว​…’ หลิน​สวิน​คิดในใจ​

ไม่นาน​นัก​พวก​ไท่​เสวียน​ เหยียน​จี้ ต้ง​ลี่​และ​จือเจิ้ง​ก็​ทยอย​จากไป​

เห็น​เงาร่าง​พวกเขา​หาย​ลับ​ไป​ใน​ประตู​น้ำวน​นั้น​คน​แล้ว​คน​เล่า​ หลิน​สวิน​ยัง​กลัดกลุ้ม​อยู่​บ้าง​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​

ใคร​จะคิด​ว่า​สถานการณ์​ใน​วันนี้​จะพลิกผัน​มาถึงขั้น​นี้​

ดวงตา​จักจั่น​ทอง​มอง​ไป​ยัง​ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้า มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ที่​พุ่ง​เป้า​ไป​ที่​โหย​วเป่ย​ไห่​นั้น​ยัง​ดำเนิน​อยู่​ตลอด​

จักจั่น​ทอง​จับจ้อง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​ถอน​ใจเบา​ๆ เมื่อ​สะบัด​แขน​เสื้อ​ขวด​หยก​ขวด​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ ส่งผ่าน​อากาศ​มาให้​หลิน​สวิน​ “รอ​ด่าน​เคราะห์​นี้​จบ​ลง​ มอบ​ขวด​นี้​ให้​คน​ที่​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​นั้น​ก็​พอ​”

หลิน​สวิน​จิตใจ​หด​รัด​ เอ่ย​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ดู​อะไร​ออก​หรือ​”

จักจั่น​ทอง​พูด​เสียง​อ่อนโยน​ “นี่​ก็​คือ​พิบัติ​เคราะห์​ รอ​เมื่อ​ทุกอย่าง​ปิดฉาก​เจ้าก็​จะรู้​เอง​”

หลิน​สวิน​กำ​ขวด​หยก​นั้น​ไว้​ใน​มือ​ สูด​หายใจ​ลึก​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ครั้งนี้​ยัง​ต้อง​ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​ที่​ลงมือ​โดย​ทวง​ความ​เป็ฯ​ธรรม​ หาก​ไม่เป็น​เช่นนี้​ เคราะห์​ใน​วันนี้​ต้อง​สร้าง​หายนะ​ไป​ทั้ง​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​แน่​”

จักจั่น​ทอง​ยิ้ม​ “เจ้าไป​ขอบคุณ​อาจารย์​เจ้าเถอะ​ ข้า​มาจัดการ​ตามที่​เขา​กำชับ​ เอาล่ะ​ จะชักช้า​ไม่ได้​ ข้า​ก็​ควร​จากไป​แล้ว​”

พูดถึง​ตรงนี้​เขา​อด​มอง​ไป​ยัง​ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้านั้น​ไม่ได้​ “ไม่เช่นนั้น​ก็​จะหนี​ไม่พ้น​แล้ว​”

พูด​จบ​เขา​ก็​สะบัด​แขน​เสื้อ​

เงาร่าง​ของ​เขา​พลัน​หาย​ลับ​ไป​พร้อมกับ​ประตู​น้ำวน​บาน​นั้น​

ชั่วขณะ​เดียว​ฝั่งลัทธิ​แรก​กำเนิด​เหลือ​เพียง​หลิน​สวิน​ เสวียน​เฟยห​ลิง​ และ​จ้งชิว​

ส่วน​สัตว์ประหลาด​เฒ่าของ​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​อย่าง​พวก​ถูมู่หุน​กับ​จี้คง​ยังอยู่​ห่าง​ออก​ไปมา​ตลอด​

ผ่าน​เหตุการณ์​พลิกผัน​น่า​ตกตะลึง​ก่อนหน้านี้​แต่ละ​อย่าง​ ทำให้​พวกเขา​เกิด​ความรู้สึก​อยาก​ถอย​มานาน​แล้ว​ แต่กลับ​ไม่กล้า​บุ่มบ่าม​เคลื่อนไหว​ เพราะ​ตัวตน​ของ​จักจั่น​ทอง​น่ากลัว​เกินไป​จริงๆ​ ทำให้​พวกเขา​ยัง​ไม่กล้า​มีความคิด​หลบหนี​!

แต่​หลังจาก​เห็น​ว่า​พวก​น่ากลัว​ฝั่งลัทธิ​แรก​กำเนิด​หาย​ไป​เช่นเดียวกับ​จักจั่น​ทอง​ พวก​ถูมู่หุน​กับ​จี้คง​ต่าง​ถอนใจ​โล่งอก​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ รู้สึก​เหมือน​พวกเขา​เพิ่ง​เดิน​ออกจาก​ประตูผี​ ในที่สุด​ก็​ฟื้นคืนชีพ​มา

ยาม​นี้​พวกเขา​แค่​อยาก​จากไป​ทันที​!

แต่​ยัง​ไม่ทัน​รอ​ให้​พวกเขา​เคลื่อนไหว​ หลิน​สวิน​ที่อยู่​ไกลๆ​ ก็​เอ่ย​เสียง​เย็นเยียบ​ว่า​ “ทุกท่าน​ ตอนนี้​ไม่มีใคร​มารบกวน​การต่อสู้​ของ​พวกเรา​อีกแล้ว​”

เมื่อ​แรก​สุด​หลิน​สวิน​กำลัง​ห้ำหั่น​กับ​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​จาก​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​พ่อ​มด​กับ​ลัทธิ​ฌาน​ สังหาร​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​เก้า​คน​อย่าง​ต่อเนื่อง​

แต่​ก็​ใน​ตอนนั้น​เอง​ที่​ถูมู่หุน​ใช้ไพ่ตาย​ เชิญรูปจำลอง​เจตจำนง​บรรพ​จารย์​ผู้ก่อตั้ง​ลัทธิ​พ่อ​มด​เทียน​อู​ออกมา​

สถานการณ์​ก็​เริ่ม​มีตัวแปร​ปรากฏ​ขึ้น​ตั้งแต่​ตอนนั้น​

รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​บรรพ​จารย์​สี่หอ​บรรพ​จารย์​ทยอย​ปรากฏตัว​ เข้า​เผชิญหน้า​และ​ต่อสู้​กัน​

จากนั้นมา​ระดับ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ห้า​คน​อย่าง​หยวน​เฟย​หู​ก็​มาเยือน​ จากนั้น​ก็​เป็น​พวก​ไท่​เสวียน​ เหยียน​จี้และ​คง​เจวี๋ย​ที่​ปรากฏตัว​ออกมา​

จน​ต่อมา​สอง​หอ​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​ฌาน​และ​ลัทธิ​วิญญาณ​ต่าง​ก็​เคลื่อน​พล​ระดับ​นิรันดร์​ฝั่งละ​สอง​คน​ ถึงกับ​ทำให้​สถานการณ์​มีเค้า​ลาง​ว่า​จะคุม​ไม่อยู่​

กระทั่ง​จ้งชิว​ปรากฏตัว​ ก็​คล้าย​เป็น​คน​ทำลาย​สถานการณ์​ ทำให้​เหตุการณ์​พลิกผัน​จาก​จุด​นี้​!

และ​การ​ลงมือ​ของ​จักจั่น​ทอง​ เรียก​ได้​ว่า​หนึ่ง​คน​กำหนด​จักรวาล​ ย้าย​เคราะห์​สังหาร​ที่​พุ่ง​เป้า​มายัง​หอ​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ใน​วันนี้​ไป​ยัง​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​

ก็​ด้วยเหตุนี้​ ทั้ง​แดน​แรกเริ่ม​กับ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​จึงได้รับ​การปกป้อง​!

พูด​เหมือน​ง่าย​ แต่​การเปลี่ยนแปลง​แต่ละ​อย่างนั้น​ต่าง​เรียก​ได้​ว่า​น่า​อกสั่นขวัญแขวน​ เคราะห์​สังหาร​มีอยู่​ทั่วไป​หมด​ อันตราย​ถึงขีดสุด​

และ​ตอนนี้​วิกฤต​ทั้งหมด​ต่าง​มลาย​ไป​แล้ว​ หลิน​สวิน​จะปล่อย​พวก​ถูมู่หุน​ จี้คง​ไป​ได้​อย่างไร​

ขณะ​พูด​เงาร่าง​ของ​เขา​ก็​เคลื่อน​ออก​ไป​อย่าง​ฉับไว​ สำแดง​ประทับ​ผนึก​เวลา​ออก​ไป​โดย​ไม่ลังเล​!

วู้​ม…

กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​เหมือน​ถูก​เหนี่ยวนำ​ แสงเคลื่อน​นับไม่ถ้วน​ไหลหลั่ง​ ทอ​ประสาน​ตัด​สลับ​แปลง​เป็น​กระบวน​ผนึก​เข้า​ปกคลุม​ผืนน้ำ​แห่ง​นี้​ไว้​

ทั้ง​ยัง​ปิดตาย​ทาง​หนี​ของ​พวก​ถูมู่หุน​ จี้คง​อีกด้วย​!

ฝั่งสอง​หอ​บรรพ​จารย์​ยัง​เหลือ​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​หก​คน​ รวม​ถึงขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​กับ​ขั้น​หลุดพ้น​ขั้น​ปลาย​อีก​จำนวน​หนึ่ง​ กำลัง​พล​เรียก​ได้​ว่า​แกร่งกล้า​ยิ่งยวด​เช่นกัน​

แต่​ยาม​เผชิญหน้า​กับ​พวก​หลิน​สวิน​ จ้งชิว​ และ​เสวียน​เฟยห​ลิง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ใน​ใจพวกเขา​ต่าง​หนักอึ้ง​

“ทุกท่าน​ จะรอด​ออก​ไป​ได้​หรือไม่​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ศึก​นี้​แล้ว​!”

ถูมู่หุน​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​ แววตา​เย็นชา​

ตูม​!

รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​หก​คน​ลงมือ​ทันที​ แต่​ไม่ได้​ไป​จัดการ​หลิน​สวิน​ กลับ​จ่อ​ปลาย​หอก​ไป​ที่​พลัง​ของ​ประทับ​ผนึก​เวลา​

เห็นชัด​ว่า​พวกเขา​ต้องการ​ร่วมมือ​กัน​ทลาย​กระบวน​ผนึก​นี้​เต็มกำลัง​!

และ​ในขณะเดียวกัน​ ถูมู่หุน​กับ​จี้คง​ต่าง​นำ​เหล่า​สัตว์ประหลาด​เฒ่าที่อยู่​ใต้​อาณัติ​ออก​โจมตี​อย่าง​เหี้ยมหาญ​

พวกเขา​ไม่หวัง​จะสังหาร​ศัตรู​ แต่​ต้องการ​ซื้อเวลา​เพิ่ม​ให้​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​หก​คน​นั้น​ไป​ทำลาย​กระบวน​ผนึก​กาลเวลา​นั่น​!

“ศิษย์​น้อง​เล็ก​ มาดู​กัน​ว่า​ใคร​ฆ่าศัตรู​ได้​เยอะ​กว่า​เป็น​อย่างไร​ อาศัย​โอกาส​นี้​ให้​ศิษย์​พี่​ได้​เห็น​ความสง่างาม​ของ​ยอด​อมตะ​ด้วย​!”

จ้งชิว​ยิ้ม​เอ่ย​

เงาร่าง​เขา​ทะยาน​ฟ้า ชุด​ดำ​ปลิว​ไสว​ ทั้ง​ร่าง​มีแสงดุดัน​หา​ใด​เทียบ​พลุ่งพล่าน​ ประหนึ่ง​กระบี่​เทพ​ไร้​เทียมทาน​ที่​ไม่หวั่น​การเผย​คม​ออกมา​

ชิ้ง!

กระบี่​มรรค​สีดำ​ที่​มืดมน​อับ​แสงเล่ม​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​มือ​จ้งชิว​ ยาม​เผชิญหน้า​กับ​ศัตรู​ที่​จู่โจมเข้ามา​ เขา​ไม่หลบ​ไม่หนี​ เข้า​ประจันหน้า​ตรงๆ​

“ทำไม​จะไม่ได้​”

ขณะที่​หลิน​สวิน​พูด​ เงาร่าง​สูงโปร่ง​เหยียบย่าง​ไป​ใน​อากาศ​

ครืน​!

กาย​มรรค​ทั้ง​ห้า​ออก​เคลื่อนไหว​พร้อมกับ​ร่าง​ต้น​ กระโจน​เข้าไป​ใน​หมู่​ศัตรู​

เสวียน​เฟยห​ลิง​เห็น​ดังนี้​ก็​เลือก​สังเกตการณ์​อยู่​ข้างๆ​ อย่าง​รู้​จังหวะ​

พวกเขา​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​สอง​คน​หมาย​จะเทียบ​สูงต่ำ​ เขา​จะสอด​มือ​เข้าไป​ยุ่ง​ไม่ได้​

ตู​ม…

การต่อสู้​ปะทุ​ขึ้น​ ห้วง​อากาศ​ปั่นป่วน​

จ้งชิว​อานุภาพ​แข็งแกร่ง​หา​ใด​เทียบ​ มีท่วงท่า​สูงส่งเหนือ​ใต้​หล้า​ โอหัง​หยิ่งผยอง​เหนือ​ปวงชน​เช่นเดียวกับ​สมัย​ที่​เขา​อยู่​ใน​โลก​มืด​

มรรค​วิถี​ยิ่ง​สูง ใจเขา​ยิ่ง​ผยอง​!

เขา​ที่​มีมรรค​วิถี​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ ทันทีที่​เปิดศึก​ก็​พิชิต​คู่ต่อสู้​ได้​คน​หนึ่ง​ กระบี่​มรรค​กด​ข่ม​ลง​ซัด​ให้​ฝ่าย​หลัง​เลือด​ออก​เจ็ด​ทวาร​ ทั้งตัว​ถอย​กระเด็น​ออก​ไป​อย่าง​จัง

ท่วงท่า​อหังการ​เช่นนั้น​ทำเอา​เสวียน​เฟยห​ลิง​ยัง​ตกตะลึง​อย่า​งอด​ไม่ได้​ คน​ที่​หยิ่งผยอง​ที่สุด​ใน​คีรี​ดวงกมล​ผู้​นี้​ ไม่อาจ​เทียบ​กับ​คน​ระดับ​เดียวกัน​ทั่วไป​ได้​ดัง​คาด​!

ภาพ​นี้​ก็​ถูก​หลิน​สวิน​เห็น​เช่นกัน​ ใน​ใจปรีดา​หา​ใด​เทียบ​

นึกย้อน​ไป​สมัย​อยู่​โลก​มืด​ ศิษย์​พี่​รอง​ที่​มีฐานะ​เป็น​เจ้าหอ​วิหค​ทองแดง​หนึ่ง​ใน​สามยักษ์​ใหญ่​ของ​โลก​มืด​ ย่อม​เป็น​ผู้​ที่​ทำให้​เขา​ได้​แต่​แหงน​มอง​อย่าง​แน่นอน​

ตอนนั้น​ก็​เป็น​เพราะ​มีจ้งชิว​ปกป้อง​ ทำให้​เขา​สลาย​ข้อพิพาท​และ​เคราะห์​สังหาร​ได้​หลายครั้ง​

และ​ตอนนี้​ศิษย์​พี่​รอง​ยัง​แกร่งกล้า​หา​ใด​เทียบ​ สง่างามยิ่งกว่า​เก่า​ เพียงแต่​ตน​กลับ​ไม่ใช่ศิษย์​น้อง​เล็ก​ที่​ต้อง​ได้รับ​การปกป้อง​เช่น​ตอนนั้น​นาน​แล้ว​!

เขา​ใน​ตอนนี้​สู้เคียงบ่าเคียงไหล่​กับ​ศิษย์​พี่​รอง​ได้​ ด้าน​พลัง​ปราณ​ก็​สูสีกัน​!

“ฆ่า!”

หลิน​สวิน​องอาจ​มั่นใจ​ ไม่ได้​ออม​มือ​ ปลดปล่อย​มรรค​วิถี​ของ​ตน​ออกมา​ไม่ยั้ง​

ถ้าเปลี่ยนเป็น​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​เหล่านั้น​อาจจะ​ยัง​เปลือง​แรง​อยู่​บ้าง​ แต่​ยาม​เผชิญหน้า​กับ​คน​ระดับ​เดียวกัน​เหล่านี้​ ต่อให้​มีคน​มาก​แค่​ไหน​ สำหรับ​หลิน​สวิน​แล้วก็​ไม่ถึงกับ​เป็นอันตราย​เท่าไร​

ฟุ่บ​ๆๆ!

คู่ต่อสู้​คน​แล้ว​คน​เล่า​ล้ม​ลง​ ซัด​ให้​เกิด​ดอกไม้​โลหิต​สีแดงฉาน​

เพียง​ครู่​สั้น​ๆ เท่านั้น​ ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ที่​ตาย​ด้วย​น้ำมือ​หลิน​สวิน​ก็​มีเจ็ด​คน​แล้ว​

ส่วน​ฝั่งจ้งชิว​ เพิ่ง​ปลิด​ชีพ​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​คน​หนึ่ง​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หลุดพ้น​ขั้น​ปลาย​ไป​ห้า​คน​

แบ่งแยก​สูงต่ำ​ได้​ทันที​

อย่าง​น้อย​ใน​ความคิด​ของ​เสวียน​เฟยห​ลิง​ แม้พลัง​ต่อสู้​ของ​จ้งชิวจะ​เรียก​ได้​ว่า​ตะลึง​โลก​เช่นกัน​ แต่​เทียบ​กับ​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ของ​เขา​แล้วก็​ดู​ด้อย​กว่า​เล็กน้อย​

จ้งชิว​ได้​เห็นภาพ​นี้​เช่นกัน​ แม้เขา​จะไม่พูด​อะไร​แต่​ใน​ใจกลับ​ยินดี​ปรีดา​หา​ใด​เทียบ​

เขา​เชื่อฟัง​คำสั่ง​อาจารย์​ บัญชาการ​โลก​มืด​มาใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ เพียง​เพื่อ​รอ​หนึ่ง​บัว​ที่จะ​เบ่งบาน​เหนือ​หมื่น​กาล​

ใน​คีรี​ดวงกมล​ ก็​มีแต่​เขา​ที่​เข้าใจ​มรรค​คาถา​บท​นั้น​ดี​ที่สุด​

ยอด​หนทาง​สู่อมตะ​ แดน​ปรินิพพาน​

เคราะห์​จ่อม​จมชั่ว​กัป​กัลป์​ หนึ่ง​บัว​เบ่งบาน​!

ตอนนี้​บัว​ดอก​นี้​บานสะพรั่ง​ในที่สุด​ ปลด​ปล่อยแสง​แห่ง​ยอด​อมตะ​ มีชื่อ​ระบือ​ใต้​หล้า​สะท้าน​สี่ทิศ​!

ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​สอง​คน​ สภาวะ​จิต​ล้วน​แตก​ต่างกัน​

แต่​ยาม​สังหาร​ศัตรู​กลับ​ไม่มีใคร​ปรานี​สัก​คน​ ต่อให้​มองออก​นาน​แล้ว​ว่า​แม้จะสู้สุดตัว​ก็​ก้าว​ข้าม​หลิน​สวิน​ได้​ยาก​ แต่​จ้งชิว​ไม่ได้​รามือ​เพียงเท่านี้​

เขา​มีสภาวะ​จิต​มหา​มรรค​ของ​ตัวเอง​ เป็น​อย่าง​ที่​อาจารย์​ว่า​ไว้​ ศิษย์​ไม่จำเป็นต้อง​สู้อาจารย์​ไม่ได้​ ระหว่าง​ผู้​ร่วม​สำนัก​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​เอา​ลำดับ​มาตัดสิน​สูงต่ำ​

ศิษย์​เก่งกาจ​เหนือ​อาจารย์​ถึงสำคัญ​ที่สุด​!

ตู​ม…

เสียง​มรรค​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ ประกาย​เลือดสาด​กระเซ็น​

การต่อสู้​ปรากฏ​รูปการณ์​เอนเอียง​ไป​ฝั่งเดียว​ เพียง​ครู่หนึ่ง​เท่านั้น​ฝั่งลัทธิ​พ่อ​มด​กับ​ลัทธิ​ฌาน​ก็​บาดเจ็บ​ล้มตาย​มากมาย​ มีขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ล้ม​ลง​อย่าง​ต่อเนื่อง​!

ถูมู่หุน​โจมตี​จน​ตา​แดงฉาน​ ดวงตา​แทบ​หลุด​จาก​เบ้า​ ตะโกน​เสียงดัง​อย่าง​เศร้าโศก​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ทุกท่าน​ ขอให้​มาช่วยด้วย​!”

ไกล​ออก​ไป​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​หก​คน​ที่​กำลัง​โจมตี​ประทับ​ผนึก​เวลา​อยู่​ก็​จิตใจ​หนักอึ้ง​

พวกเขา​จู่โจมเต็มกำลัง​กลับ​ทำได้​เพียง​สร้าง​แรง​สะเทือน​ให้​ผนึก​กาลเวลา​นั้น​ แค่​คิด​ก็​รู้​ว่า​ถ้าต้องการ​ทะลวง​ออก​ไป​ย่อม​ไม่อาจ​ทำได้​ใน​เวลา​สั้น​ๆ

ยาม​นี้​เมื่อ​ได้ยิน​เสียงร้อง​เศร้า​ตรม​ของ​ถูมู่หุน​ พวกเขา​จะไม่รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​สถานการณ์​ร้ายแรง​จน​ไม่อาจ​เพิ่ม​ไป​กว่า​นี้​ได้​อีกแล้ว​

“สู้สุดตัว​!”

พวกเขา​สบตา​กัน​ เคลื่อนไหว​ไป​ใน​สนามรบ​พร้อมกัน​

เห็น​ดังนี้​หลิน​สวิน​สูด​หายใจ​เฮือก​หนึ่ง​ เงาร่าง​พลัน​ไหว​วูบ​มาตรงหน้า​จ้งชิว​ คว้า​ไหล่​ของ​เขา​ไว้​ แล้ว​ออกจาก​ฟ้าดิน​ที่​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​ประทับ​ผนึก​เวลา​แห่ง​นี้​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​

รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​หก​คน​นั้น​พลัน​โจมตี​ได้​เพียง​ห้วง​อากาศ​

“ศิษย์​พี่​ ท่าน​คอย​ดู​ก็​พอ​ คู่ต่อสู้​พวก​นี้​ให้​ข้า​สะสางเอง​”

ขณะ​พูด​หลิน​สวิน​ก็​กลืน​กิน​น้ำค้าง​เทพ​ฟ้าประทาน​หยด​หนึ่ง​ มรรค​วิถี​ที่​ใช้ไป​มหาศาล​ก็​คืน​กลับ​มาถึงสภาพ​สมบูรณ์​ยิ่ง​ใน​ชั่วพริบตา​

“เจ้าจะต้าน​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​ได้​หรือ​”

จ้งชิว​อึ้ง​ไป​

“ได้​”

ที่​ตอบ​กลับมา​คือ​เสวียน​เฟยห​ลิง​ เขา​เคลื่อนตัว​มายืน​อยู่​ข้างๆ​ จ้งชิว​ เอ่ย​ว่า​ “รอ​เจ้าได้​เห็น​ฝีมือ​ของ​ศิษย์​น้อง​เจ้าคน​นี้​ ก็​จะรู้​ว่า​ใน​ระดับ​นี้​อะไร​เรียก​ว่า​อานุภาพ​สูงสุด​”

จ้งชิว​ประหลาดใจ​ พูดว่า​ “เช่นนั้น​ข้า​จะต้อง​ดู​ให้​ชัด​จริงๆ​ แล้ว​”

ระหว่าง​ที่​สนทนา​กัน​ หลิน​สวิน​ก็​พุ่ง​เข้าไป​ใกล้​ฟ้าดิน​ที่​มีประทับ​ผนึก​เวลา​ปกคลุม​แห่ง​นั้น​อีกครั้ง​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท