เช้าแล้ว
สีรัตติกาลที่ราวกับหมึกเลือนหายไปจากเขาเทพจันทร์กระจ่าง แสงตะวันสาดส่องกลางฟ้าดิน
อูๆๆ…
เสียงเป่าเขาสัตว์ระลอกหนึ่งดังมาจากไกลๆ
จากนั้นแสงเคลื่อนสะดุดตาเกาะตัวเป็นกลุ่มพุ่งไปทางเขาเทพจันทร์กระจ่างจากทิศทางที่แตกต่างกัน
หลินสวินที่รอมาทั้งคืนเห็นดังนี้ใจในพอจะคาดเดาอะไรได้บ้างแล้ว
‘ดูท่าน่านฟ้าที่เก้าไม่คิดจะส่งคนมาแล้ว…’
หลินสวินหยิบน้ำเต้าสุราขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง ท่าทางผ่อนคลาย
เขาไม่ได้เร่งรีบเคลื่อนไหว
ตระกูลตงหวงในตอนนี้เห็นชัดว่ากำลังระดมกำลังมาป้องกัน
หลินสวินกลับรอคอยมากว่าตระกูลตงหวงที่เสียหายหนักหน่วงนานแล้วจะสามารถเคลื่อนกำลังได้เท่าไรกันแน่
ผู้ฝึกปราณกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าที่มาจากสี่ทิศแปดทาง ไม่นานก็หายไปในเขาเทพจันทร์กระจ่าง
“รายงานผู้นำตระกูล ผู้นำสิบแปดขุมอำนาจที่อยู่ใต้อาณัติตระกูลเราได้นำผู้แข็งแกร่งขั้นหลุดพ้นของตนมาถึงแล้ว รวมแล้วมีผู้แข็งแกร่งขั้นหลุดพ้นขั้นต้นสามสิบเอ็ดคน ขั้นหลุดพ้นขั้นกลางสิบห้าคน ขั้นหลุดพ้นขั้นปลายสี่คน!”
“ตอนนี้พวกเขาล้วนถูกจัดแจงเข้าที่แล้ว รอเพียงผู้นำตระกูลออกคำสั่งเคลื่อนกำลัง!”
ในโถงใหญ่มีคนมารายงาน
ตงหวงจิ่วหุ่ยพยักหน้าเอ่ยว่า “ให้พวกเขาเตรียมพร้อมไว้ ทันทีที่การต่อสู้ปะทุขึ้น ให้พวกเขาเข้าเคลื่อนไหวพร้อมกัน”
“ขอรับ!”
ผู้รายงานรับคำสั่งจากไป
“สหายยุทธ์ เจ้าสืบได้หรือไม่ว่าครั้งนี้ลัทธิแรกกำเนิดเคลื่อนกำลังคนมาเท่าไรกันแน่”
ในโถงใหญ่ คนใหญ่คนโตผู้หนึ่งเอ่ยถาม
ในโถงใหญ่ตอนนี้ เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าจากเก้ายักษ์ใหญ่อมตะ เพียงแค่ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ก็มีถึงสิบเก้าคนแล้ว!
“ตอนนี้ยังไม่รู้ชัด”
ตงหวงจิ่วหุ่ยพูด “ตามข่าวที่ผู้อาวุโสสิบสามส่งกลับมาก่อนประสบเคราะห์ ครั้งนี้หลินสวินเหมือนจะเคลื่อนไหวเพียงลำพัง”
ประโยคเดียวทำให้ทุกคนอึ้งงัน
“หากเพียงแค่หลินสวินคนเดียว การคุกคามไม่ถือว่ามากเกินไป ขอเพียงระวังรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ที่เขาครอบครองก็พอแล้ว”
หวังเต้าชวนที่ท่าทางมีสง่า สวมเกี้ยวสูงชุดโบราณกล่าวเสียงขรึม “แต่สิ่งที่พวกเรากังวลคือก็คือจะซ้ำรอยเหมือนตอนอยู่น่านฟ้าที่หก”
พูดถึงความพ่ายแพ้น่าอนาถที่เกิดขึ้นในน่านฟ้าที่หกเมื่อหลายปีที่แล้ว ในใจทุกคนล้วนอดหวาดหวั่นไม่ได้
ตอนนั้นหลินสวินนั่นก็ปรากฏตัวเพียงลำพัง
แต่กำลังพลที่พันธมิตรสงครามสิบตระกูลส่งมากลับพ่ายแพ้ย่อยยับ นี่ทำให้พวกเขามั่นใจนานแล้วว่าจะต้องมีคนใหญ่คนโตของลัทธิแรกกำเนิดเคลื่อนไหวด้วยแน่
ไม่เช่นนั้นด้วยพลังของหลินสวินคนเดียวไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนี้
อันที่จริงอย่าว่าแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในน่านฟ้าที่หก แม้แต่สถานการณ์ที่แท้จริงของศึกใหญ่ที่เกิดขึ้นเหนือทะเลหมื่นดาราของลัทธิแรกกำเนิด พวกเขาต่างไม่รู้ชัด
เหตุผลคือไม่ว่าจะเป็นกำลังพลของพันธมิตรสงครามสิบตระกูล หรือกำลังพลของลัทธิพ่อมดและลัทธิฌาน รวมถึงน่านฟ้าที่เก้า ต่างพ่ายแพ้อย่างย่อยยับแทบจะทั้งหมด ไม่มีข่าวหลุดออกมาสักนิด
ทำให้พวกเขาได้แต่คาดเดารายละเอียดการต่อสู้
แต่การคาดเดามักจะแตกต่างกับความจริง
อย่างเช่นความเข้าใจที่มีต่อหลินสวิน สัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นี้แม้เกรงกลัวพลังต่อสู้ของเขา ตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของมรรคายอดอมตะของเขา แต่กลับไม่รู้ว่าหลินสวินในตอนนี้ แค่ใช้พลังต่อสู้ของตนก็สามารถสังหารรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ให้ตายได้แล้ว…
ดังนั้นยามนี้เมื่อเอ่ยถึงหลินสวินซึ่งปรากฏตัวในน่านฟ้าที่แปด และเป็นไปได้สูงมากว่าจะมาแก้แค้นตระกูลตงหวง พวกเขาจึงคิดไปตามจิตใต้สำนึกว่าหลินสวินไม่มีทางมาคนเดียว มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะมีคนใหญ่คนโตอื่นๆ ของลัทธิแรกกำเนิดมาด้วย!
“เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือรีบสืบหาร่องรอยของหลินสวินนี่ให้ชัด รวมถึงกำลังพลของลัทธิแรกกำเนิดที่มาพร้อมกันเขา รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
หวังฝูผิงกล่าวเสียงขรึม
คนอื่นๆ ล้วนพยักหน้า
ตงหวงจิ่วหุ่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผู้อาวุโสสิบสามตระกูลข้าขาดการติดต่อไปตั้งแต่เมื่อคืน หากข้าเดาไม่ผิด เป็นไปได้สูงมากว่าหลินสวินมาถึงแล้ว”
ทุกคนต่างหัวใจกระตุกวูบ
จากนั้นตงหวงจิ่วหุ่ยก็ยิ้มพูด “ไม่ปิดบังทุกท่าน ข้ากลับอยากให้เจ้าหมอนั่นรีบปรากฏตัวโดยเร็ว พวกเราจะได้ไม่ต้องนั่งคอย จิตใจไม่เป็นสุขอยู่ที่นี่”
ทุกคนต่างหัวเราะอย่างไม่ได้
……
“รองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิดหลินสวินบุกมาน่านฟ้าที่แปดแล้ว!”
ข่าวนี้เริ่มกระจายในน่านฟ้าที่แปดด้วยความเร็วน่าตกใจ ชักนำความปั่นป่วนทั่วหล้า ผู้คนไม่รู้เท่าไรฮือฮา
และเขาเทพจันทร์กระจ่างอาณาเขตตระกูลตงหวง ก็กลายเป็นสถานที่ที่ทั่วหล้าจับตามองทันที
“ตอนนั้นพันธมิตรสงครามสิบตระกูลพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถในน่านฟ้าที่หก ย่อยยับแทบจะทั้งหมด ทำให้สิบยักษ์ใหญ่อมตะเสียหายอย่างหนัก รากฐานสั่นคลอน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินดันบุกมาถึงน่านฟ้าที่แปด นี่คิดจะเหยียบสิบยักษ์ใหญ่อมตะให้ราบหรือ”
“ว่ากันว่าหลินสวินเป็นทายาทเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ และควรรู้ว่าตอนนั้นเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ประสบเคราะห์ภายใต้การปิดล้อมโจมตีของสิบยักษ์ใหญ่อมตะ หลินสวินมาคราวนี้เป็นไปได้สูงมากว่าจะมาแก้แค้น!
“ตัวคนเดียวก็กล้าไปลงมือกับสิบยักษ์ใหญ่อมตะแล้วหรือ!”
“ผิด หลินสวินเป็นรองหัวหน้าหอคนหนึ่งในลัทธิแรกกำเนิด เขากล้ามาแก้แค้นที่น่านฟ้าที่แปด จะต้องมีกำลังพลของลัทธิแรกกำเนิดคอยช่วยเหลืออย่างแน่นอน!”
“ใต้หล้านี้วุ่นวายอลม่านแล้วจริงๆ ก่อนหนานี้ลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌานพ่ายแพ้ราบคาบหน้าประตูลัทธิแรกกำเนิด นี่ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนหลินสวินก็บุกมาน่านฟ้าที่แปดแล้ว เกรงว่าจะเกิดลมคาวฝนเลือดขึ้นอีกครั้งแล้ว”
…ทั่วหล้าสั่นไหว การปรากฏตัวของหลินสวินดึงดูดความสนใจของทั้งน่านฟ้าที่แปด ผู้แข็งแกร่งมากมายเร่งเดินทางไปเขาเทพจันทร์กระจ่างจากทั่วทิศ หมายจะรู้ข่าวในทันที
หลินสวิน!
ชื่อที่ฮือฮาที่สุดในโลกในช่วงร้อยปีมานี้ โดยเฉพาะไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ทั่วหล้าถูกประกายแสงของเขาคนเดียวบดบัง เขาผงาดด้วยความเร็วที่สุด กลายเป็นรองหัวหน้าหอคนหนึ่งของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ครอบครองพลังต่อสู้ยอดอมตะที่ประหนึ่งตำนาน สังหารผู้โดดเด่นในแดนมารสิบทิศทั้งหมด ทำลายพันธมิตรสงครามสิบตระกูลในน่านฟ้าที่หกจนแตกพ่าย…
แต่ละเรื่องหากเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งยังสามารถมีชื่อสะเทือนทั่วหล้าได้ นับประสาอะไรกับเรื่องทั้งหมดนี้รวมอยู่ที่เขาคนเดียว
นี่เป็นตำนานที่เกิดขึ้นในการต่อสู้และเข่นฆ่า เป็นตัวตนน่ากลัวขั้นหลุดพ้นที่อายุน้อยที่สุดและสะดุดตาที่สุดคนหนึ่ง!
บุคคลเช่นนี้ ตอนนี้ปรากฏตัวในน่านฟ้าที่แปด ใครจะไม่ให้ความสนใจได้
เวลาล่วงเลยไป
ไม่กี่วันผ่านไป ในบริเวณเขาเทพจันทร์กระจ่างมีผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรมาตามข่าวนานแล้ว
แต่ที่เหนือความคาดหมายของทุกคนคือหลินสวินกลับไม่ปรากฏตัวเสียที
แม้แต่พวกตงหวงจิ่วหุ่ยยังรอจนหงุดหงิดแล้ว
การปรากฏตัวของหลินสวินทำให้พวกเขาเคลื่อนกำลังทั้งหมด ระดมกำลังมาเขาเทพจันทร์กระจ่าง แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป หลินสวินกลับไม่เผยร่องรอยเสียที นี่เหมือนรู้ทั้งรู้ว่ามีดาบเล่มหนึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะ แต่ไม่รู้ว่าจะฟันลงมาตอนไหน ทรมานอย่างที่สุด
“ข้าว่าหลินสวินนี่ขี้ขลาดแล้ว!”
โลกภายนอกก็วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานาเช่นกัน “เกรงว่าเขาคงตระหนักได้แล้วว่าร่องรอยถูกเปิดเผย อีกทั้งในเขาเทพจันทร์กระจ่างมีไอสังหารมากมายซุ่มอยู่! คิดๆ ดูแล้วตระกูลตงหวงจะไม่เตรียมการณ์ไว้ได้อย่างไร หากเป็นข้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่กล้ามาล่วงเกินเช่นกัน”
“นี่นับว่าเป็นไปได้จริงๆ”
หลายคนต่างพยักหน้า
ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในความสามารถของหลินสวิน แต่เพราะตระกูลตงหวงอยู่ในน่านฟ้าที่แปดมาไม่รู้นานเท่าไร ความรุ่งเรืองของอิทธิพลฝังลึกในจิตใจผู้คนนานแล้ว ยักษ์ใหญ่อมตะเช่นนี้จะถูกสั่นคลอนง่ายๆ ได้อย่างไร
“ทุกท่าน ดูท่าพวกเราจะมาเสียเที่ยวแล้ว เห็นชัดว่าหลินสวินนั่นตระหนักได้ถึงความผิดปกติจึงถอนตัวไปนานแล้ว”
ในพื้นที่ใกล้ๆ แห่งหนึ่ง เฒ่าชราคนหนึ่งส่ายหน้าถอนหายใจ
“ท่านปู่ นี่ก็คือบุคคลชั้นเลิศที่ท่านบอกว่าเป็นดั่งตำนานหรือ จากที่ข้าดูเขาก็แค่คนขี้ขลาดคนหนึ่ง” เด็กสาวคนหนึ่งเบ้ปาก ผิดหวังอย่างมาก
“อย่าพูดเหลวไหล!”
ข้างๆ เด็กสาว ชายคนหนึ่งดุว่า “ต่อให้ครั้งนี้ผู้อาวุโสหลินสวินไม่มา ก็ไม่ใช่ผู้ที่คนอย่างเราสามารถดูหมิ่นได้”
เด็กสาวตกใจจนตัวสั่น พูดอึกอัก “แต่ว่า… แต่น่าผิดหวังจริงๆ นี่น่า… ข้ายังนึกว่าเขาจะร้ายกาจเพียงไหน…”
นางหันมองอีกด้าน ตรงนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ กำลังดื่มเหล้า
“นี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร”
เด็กสาวเอ่ยเสียงกังวาน
ตั้งแต่นางมาถึงที่นี่ก็เห็นชายหนุ่มคนนี้ดื่มเหล้ามาโดยตลอด ยามคุยกับเขาก็ยิ้มน้อยๆ เหมือนไม่มีอารมณ์หงุดหงิดใด
“หืม ข้าคิดว่าอะไรหรือ”
ชายหนุ่มอึ้งไป
เด็กสาวพูดอย่างไม่อภิรมย์ “เจ้าไม้ใช่มาดูการต่อสู้เหมือนกันหรือ หลินสวินนั่นไม่ปรากฏตัวเสียที เจ้าไม่ผิดหวังเลยหรือ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้ม เก็บน้ำเต้าสุราเอ่ยว่า “สาวน้อย ฟังข้าสักคำ รีบไปจากที่นี่จะดีกว่า การต่อสู้… ไม่ใช่เรื่องสนุกมาแต่ไหนแต่ไร”
ว่าพลางเขาก็เดินตรงออกไปไกลๆ
เด็กสาวพึมพำ “เจ้าเพิ่งจะอายุเท่าไร มาวางมาดสั่งสอนข้า เอ๋… เดี๋ยวก่อน นี่เจ้าจะไปทำอะไร”
นางเห็นชายหนุ่มเดินตรงไปทางเขาเทพจันทร์กระจ่างแล้วประหลาดใจมากอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย “นี่ ในนั้นเป็นอาณาเขตของตระกูลตงหวง เจ้าเข้าใกล้เช่นนี้ระวังจะเจ็บตัว!”
ชายหนุ่มโบกมือโดยไม่หันหลังกลับด้วยซ้ำ “ขอบคุณที่เตือน แต่ข้ามาคราวนี้เดิมก็เพื่อมาหาตระกูลตงหวง ตอนนี้ถือว่าเหมาะแล้ว”
เด็กสาวขมวดคิ้ว “เจ้าหมอนี่พูดเองเออเอง ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรอยู่”
เห็นหลินสวินที่ตัวคนเดียวเดินเข้าใกล้เขาเทพจันทร์กระจ่าง ปู่ของเด็กสาวคนนั้นกลับเหมือนตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “หรือจะ… เป็นเขา!?”
ในเวลาเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียง สายตามากมายก็สังเกตเห็นเงาร่างของชายหนุ่มคนนั้นแล้ว ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจอย่างอดไม่ได้
คนผู้นี้คงไม่ใช่…
ผู้คนมากมายที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันก็หยุดการสนทนา ถูกเงาร่างโดดเด่นนั่นดึงดูด
ความจริงบริเวณเขาเทพจันทร์กระจ่างว่างเปล่าเงียบสงัด ผู้ที่มาดูการต่อสู้ต่างหลบอยู่ไกลๆ ยามเงาร่างผ่าเผยนั่นเดินไปใกล้เขาเทพจันทร์กระจ่างจึงดึงดูดสายตาผู้คนถึงเพียงนั้น
“ท่านปู่ ท่านรู้จักคนผู้นั้นหรือ”
เด็กสาวถามอย่างประหลาดใจ
ก็เป็นตอนนี้เอง ในครรลองสายตานาง ชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้ยิ้มเกลี้ยกล่อมให้นางจากไป จู่ๆ ก็ทะยานขึ้นห้วงอากาศ สองมือไพล่หลัง มองเขาเทพจันทร์กระจ่างจากไกลๆ แล้วเอ่ยเรียบๆ
“คนตระกูลตงหวงอยู่ที่ใด”
เสียงเดียวกลับทำลายความเงียบสงบกลางฟ้าดินราวกับฟ้าร้อง กึกก้องไปทั่วเก้าชั้นฟ้า
ผู้ฝึกปราณบริเวณนั้นต่างหัวใจสั่นสะท้านโดยพร้อมเพรียง เป็นเขาดังคาด!
“เขาคงไม่ใช่…”
เด็กสาวเบิกดวงตาคู่งาม ดวงหน้าเล็กเต็มไปด้วยความตกตะลึง “หลินสวิน?!”