ตอนที่ 2965 ค่ายกลโบราณ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ประตู​ภูเขา​ทรุดตัว​ ฝุ่น​ควัน​คละคลุ้ง​

กลาง​ฟ้าดิน​เหลือ​เพียง​ห้า​กาย​มรรค​ของ​หลิน​สวิน​ยืน​อยู่​กลางอากาศ​ราวกับ​เทพ​

วู้​มๆๆ…

เสียง​ลม​อึงอล​ ปั่นป่วน​พลุ่งพล่าน​ บริเวณ​รอบ​ๆ กลายเป็น​ซากปรักหักพัง​นาน​แล้ว​ พลัง​ชีวิต​โรยรา​ สรรพสิ่ง​ล้วน​กลายเป็น​ฝุ่นผง​

ทุกคน​ต่าง​สีหน้า​อึ้ง​ค้าง​ มอง​บรรดา​ร่าง​แยก​ที่​อาบ​อยู่​ใน​แสงประกาย​กฎเกณฑ์​อมตะ​ทั่ว​ฟ้าด้วย​ความหวาดกลัว​

ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​สิบ​เก้า​คน​ นอกจาก​ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​ ล้วน​ถูก​หลิน​สวิน​สังหาร​ราวกับ​หั่น​ผัก​หั่น​ปลา​ทั้งหมด​!

แข็งแกร่ง​เกินไป​แล้ว​

แข็งแกร่ง​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​

บน​โลก​นี้​ใช่ว่า​จะไม่เคย​ปรากฏ​คน​ชั้นเลิศ​ที่​กด​ข่ม​โลก​ บดขยี้​คนใน​ยุค​เดียวกัน​ แต่​อย่าง​หลิน​สวิน​ที่​สังหาร​คนใน​ระดับ​เดียวกัน​ราวกับ​เชือดไก่ให้ลิงดู​นั้น​ ไม่เคย​มีมาก่อน​!

“เหลือ​แค่​เจ้าแล้ว​”

กาย​มรรค​ไม้เขียว​ของ​หลิน​สวิน​จ้อง​พลังจิต​ของ​ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​ ดวงตา​ทั้งคู่​ไม่ดีใจ​หรือ​เสียใจ​

“หลิน​สวิน​ ภายใน​พันปี​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​ ทุก​คนใน​โลก​หล้า​นี้​ล้วน​ยาก​จะหนี​เคราะห์​พ้น​ เจ้าก็​เช่นกัน​ ข้า​จะรอ​เจ้าที่​ยมโลก​!”

ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​เสียงแหบ​พร่า​ แววตา​อาฆาตแค้น​อย่าง​หา​ที่​เปรียบ​ไม่ได้​

หลิน​สวิน​ไม่สะทกสะท้าน​ จิต​รับรู้​ของ​เขา​แทง​เข้าไป​ใน​พลังจิต​ของ​ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​อย่าง​รุนแรง​ปาน​กระบี่​เทพ​ไร้​เทียมทาน​

อีก​ฝ่าย​เจ็บ​จน​ร้อง​ครวญ​ พลังจิต​พลิก​ตลบ​รุนแรง​

ครู่หนึ่ง​หลังจากนั้น​เสียง​ปัง​ดังสนั่น​ พลังจิต​ของ​ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​ระเบิด​สลาย​ไป​

“มิน่า​หลาย​วัน​มานี้​ข้า​ถึงไม่สังเกตเห็น​ ที่แท้​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​เหล่านั้น​มาโดย​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​โบราณ​…”

ดวง​ตาดำ​ของ​หลิน​สวิน​วูบ​ไหว​

เขา​สืบ​เรื่อง​ที่​ตน​อยากรู้​ได้​จาก​ใน​พลังจิต​ของ​ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​แล้ว​

หลังจากนั้น​ร่าง​ของ​หลิน​สวิน​พริบไหว​ ก้าว​ไป​ใน​ส่วนลึก​ของ​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​

ปัง​ๆๆ!

ระหว่างทาง​ผู้​แข็งแกร่ง​ตระกูล​ตง​หวง​ทุกคน​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ ไม่ว่า​ใคร​ที่​ถูก​จิต​รับรู้​ของ​หลิน​สวิน​สัมผัส​ได้​ว่า​พลัง​ปราณ​เหนือกว่า​ระดับ​จักรพรรดิ​ ล้วน​ถูก​ทำลาย​ปราณ​ ส่วน​ผู้​ที่​ครอบครอง​มรรค​วิถี​ขั้น​หลุดพ้น​ถูก​กำจัด​โดยตรง​

ครั้งนี้​หลิน​สวิน​ยังคง​ไม่ได้​กวาดล้าง​ให้​สิ้นซาก​ เป็น​อย่าง​ที่​เขา​พูด​ก่อนหน้านี้​ว่า​สังหาร​เพียง​คน​หลัก​ๆ และ​เหมือนกับ​ที่​เขา​ปฏิบัติ​ต่อ​ขุม​อำนาจ​ศัตรู​น่านฟ้า​ที่หก​ ยาม​เหยียบ​ประตู​ภูเขา​ก็​เก็บ​พลัง​ระเบียบ​ของ​พวกเขา​มา คน​พวก​นั้น​ที่​มีมรรค​วิถี​ต่ำกว่า​ระดับ​จักรพรรดิ​ล้วน​ไม่อาจ​ผงาด​ขึ้น​มาได้​อีก​

อีก​ทั้ง​เมื่อ​ตระกูล​ตง​หวง​ล่มสลาย​ จะต้อง​กลายเป็น​เหยื่อ​ใน​สายตา​ของ​ผู้อื่น​อย่าง​แน่นอน​ พวก​ที่​คอย​ซ้ำเติม​และ​ฉวยโอกาส​ลงมือ​เหล่านั้น​ย่อม​มีนับไม่ถ้วน​

หลิน​สวิน​มั่นใจ​ว่า​หลัง​ผ่าน​เรื่อง​นี้​ไป​ ขุม​อำนาจ​ที่​เคย​อยู่​ใต้​อาณัติ​ตระกูล​ตง​หวง​ เป็นไปได้​สูงมากว่า​อาจ​กลายเป็น​หมาป่า​ผู้​หิวโหย​ เข้า​กัด​กิน​ตระกูล​ตง​หวง​!

“ผู้อาวุโส​ไว้ชีวิต​ด้วย​! ผู้อาวุโส​ไว้ชีวิต​ด้วย​!”

“ผู้อาวุโส​ ข้า​เป็น​เพียง​ผู้ดูแล​นอก​ตระกูล​ที่​รับ​คำสั่ง​จาก​ตระกูล​ตง​หวง​ ไม่ใช่คน​ตระกูล​นี้​ ท่าน​โปรด​ไว้ชีวิต​ด้วย​”

“หลิน​สวิน​ สักวัน​เจ้าต้อง​ตาย​อนาถ​!”

ใน​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​วุ่น​วา​ยอ​ล​ม่าน​ทั้ง​แถบ​ คน​ตระกูล​ตง​หวง​เหล่านั้น​บ้าง​คุกเข่า​อ้อนวอน​ บ้าง​ต่อต้าน​เต็มกำลัง​ บ้าง​หนี​สุด​ชีวิต​ บ้าง​ข่มขู่​เสียง​ขรึม​

แต่​หลิน​สวิน​ไม่สะทกสะท้าน​สักนิด​

แม้เขา​ไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์​ แต่​ก็​มีขอบเขต​และ​หลักการ​ของ​ตน​

ระหว่าง​ที่​เขา​ก้าวเดิน​ ใน​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​ถูก​สังหาร​จน​เลือด​ไหล​เป็น​สายน้ำ​ เต็มไปด้วย​เสียง​กรีดร้อง​โหยหวน​ ส่วน​คน​ตระกูล​ตง​หวง​ที่​ถูก​หลิน​สวิน​มองข้าม​ไป​ล้วน​หนี​กระเจิง​แตกตื่น​ ดู​สั่น​ไหว​วุ่นวาย​มาก​

สวบ​!

ไม่นาน​เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​ก็​พริบไหว​ มาถึงสถานที่สำคัญ​แกน​หลัก​ของ​ตระกูล​ตง​หวง​ ภูเขาใหญ่​ที่​กลิ่นอาย​ระเบียบ​ห้วง​อากาศ​พวยพุ่ง​แห่ง​นี้​ ทั้ง​บน​ล่าง​มีระเบียบ​ห้วง​อากาศ​ซัดสาด​พลิก​ม้วน​ราวกับ​น้ำตก​

หลิน​สวิน​ยื่นมือ​ไป​คว้า​ทันใด​

ตูม​!

ภูเขา​ลูก​นี้​พัง​ถล่ม​ ต้นกำเนิด​ระเบียบ​ที่​ยาว​พัน​ฉื่อ​กลายเป็น​ลักษณ์​คล้าย​มังกร​ ถูก​หลิน​สวิน​คว้า​ไว้​ใน​มือ​อย่าง​มั่นคง​

นี่​คือ​ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​ขั้น​เก้า​ที่​หา​ยาก​ มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​มรรค​แห่ง​ห้วง​อากาศ​ วิญญาณ​ของ​ระเบียบ​นี้​คือ​ทวน​ที่​อานุภาพ​แข็งแกร่ง​ยิ่ง​เล่ม​หนึ่ง​

หาก​เปลี่ยนเป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หลุดพ้น​คนอื่นๆ​ คิด​จะกำราบ​พลัง​ระเบียบ​ระดับ​นี้​ก็​ต้อง​พบ​เจอ​ความยากลำบาก​มากมาย​

แต่​สำหรับ​หลิน​สวิน​ที่​กฎเกณฑ์​อมตะ​ทั้ง​ร่าง​เทียบ​ได้​กับ​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​ขั้น​เก้า​ที่​หา​ยาก​นี้​ก็​เหมือนกับ​หนอน​แมลง​ ถูก​หลอม​เป็น​มุก​ขนาด​เท่า​ไข่​นก​พิราบ​และ​กลืน​เข้าไป​ใน​ร่าง​ตรงๆ​

‘พลัง​ระเบียบ​ระดับ​นี้​หาก​หาย​ไป​ ตระกูล​หนึ่ง​จะสามารถ​ผงาด​ขึ้น​อีก​ได้​อย่างไร​ นอก​เสีย​จากว่า​จะหา​อีก​สาย​ที่​เหมือนกัน​มาได้​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​บน​โลก​นี้​ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​หาย​ากใช่ว่า​จะได้มา​ง่าย​ขนาด​นั้น​…’

หลิน​สวิน​ใคร่ครวญ​พลาง​หมุนตัว​ไป​อีก​ทาง​

ไม่นาน​ความมั่งคั่ง​และ​ทรัพยากร​ฝึก​ปราณ​ที่​ตระกูล​ตง​หวง​สั่งสมมาก็​ถูก​หลิน​สวิน​กวาด​เรียบ​

ท้ายที่สุด​ห้า​กาย​มรรค​ของ​หลิน​สวิน​หยุด​อยู่​หน้า​ค่าย​กล​เคลื่อน​ย้ายที่​เก่าแก่​แห่ง​หนึ่ง​

“มีค่าย​กล​นี้​ ข้า​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​กำลัง​พล​ของ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​ จะได้ยิน​ข่าว​แล้ว​หนี​ไป​แล้ว​ ถือว่า​ประหยัดเวลา​และ​ช่วย​ได้​มาก​”

จาก​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​โบราณ​นี้​สามารถ​ไป​ถึงทุก​ขุม​อำนาจ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ได้​ใน​ชั่วพริบตา​ นี่​ก็​หมายความว่า​เขา​สามารถ​บุกเข้าไป​ใน​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​ ได้​ก่อนที่​ข่าว​ว่า​ตระกูล​ตง​หวง​ล่มสลาย​จะกระจาย​ออก​ไป​!

อีก​ทั้ง​ครั้งนี้​พวก​สัตว์ประหลาด​เฒ่าที่​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​ ส่งมาล้วน​ถูก​สังหาร​แล้ว​ ตอนนี้​ใน​ขุม​อำนาจ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ของ​พวกเขา​ อย่าง​มาก​ก็​มีเพียง​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​หนึ่ง​คน​ดูแล​อยู่​

สำหรับ​หลิน​สวิน​ แทบจะ​ไม่มีการ​คุกคาม​ใดๆ​ แล้ว​

สิ่งเดียว​ที่​ต้อง​แลก​ อาจ​เป็นการ​เปิด​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​โบราณ​นี้​ ที่​ใช้หนึ่ง​ครั้ง​ก็​ต้อง​เสีย​พลัง​ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​ขั้น​แปด​หนึ่ง​สาย​

แต่​สำหรับ​หลิน​สวิน​ที่​มั่งคั่ง​ร่ำรวย​ นี่​ไม่ใช่เรื่องใหญ่​อะไร​

“ส่งกาย​มรรค​สี่คน​เคลื่อนไหว​พร้อมกัน​ก็​พอแล้ว​”

ไม่นาน​หลิน​สวิน​ก็​ตัดสินใจ​ ทิ้ง​กาย​มรรค​วารี​ดำ​ให้​ควบคุม​ที่นี่​ ป้องกัน​ไม่ให้​ผู้ฝึก​ปราณ​คนอื่น​ใช้ค่าย​กล​นี้​ไป​รายงาน​ข่าว​กับ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​

สี่กาย​มรรค​ที่​เหลือ​ต่าง​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ เดิน​เข้าไป​ใน​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​โบราณ​นั่น​พร้อมกัน​

วู้​ม!

ชั่วพริบตา​เมื่อ​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​โบราณ​เกิด​ระลอกคลื่น​ กาย​มรรค​ทั้ง​สี่ของ​หลิน​สวิน​ก็​อันตรธาน​หาย​ไป​

กาย​มรรค​วารี​ดำ​ที่อยู่​ใน​ชุด​ดำ​ยืน​นิ่ง​กลางอากาศ​ มอง​ไป​รอบ​ๆ ก็​เห็น​ภูผา​ธารา​พังทลาย​ เลือด​สดๆ​ ไหล​ย้อม​ สภาพ​ยับเยิน​ไป​หมด​

‘คิดไม่ถึง​ว่าการ​เดินทาง​ครั้งนี้​จะราบรื่น​ขนาด​นี้​…’ กาย​มรรค​วารี​ดำ​พึมพำ​ใน​ใจ

ก่อน​จะมาน่านฟ้า​ที่​แปด​ เดิม​เขา​เพียง​อยาก​ก่อเรื่อง​สักหน่อย​ หาก​สามารถ​ทำให้​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​เสียหาย​หนัก​ได้​ก็​เพียง​พอแล้ว​

ที่​คิด​เช่นนี้​ก็​เพราะ​การ​พึ่งพา​ระหว่าง​น่านฟ้า​ที่​แปด​และ​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ ใน​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ทุก​ตระกูล​ล้วน​มีเผ่า​เทพ​นิรันดร์​ตระกูล​หนึ่ง​อยู่​เบื้องหลัง​

นี่​ทำให้​หลิน​สวิน​อด​ระแวง​ไม่ได้​ ว่า​ยาม​ตน​ปรากฏตัว​ใน​น่านฟ้า​ที่​แปด​จะชักนำ​การ​โจมตีจาก​น่านฟ้า​ที่​เก้า​มาหรือไม่​

ก็​เพราะ​เช่นนี้​เขา​จึงรอ​อยู่​นอก​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​หลาย​วัน​ ให้​เวลา​ตระกูล​ตง​หวง​เตรียมตัว​ เพื่อ​ดู​ว่า​น่านฟ้า​ที่​เก้า​จะส่งคน​มาช่วย​ตระกูล​ตง​หวง​หรือไม่​

ตอนนี้​หลิน​สวิน​รู้​แล้ว​ ว่า​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ตระกูล​ตง​หวง​เลือก​ทิ้ง​สุนัข​เฝ้าประตู​อย่าง​ตระกูล​ตง​หวง​อย่าง​ชัดเจน​

ไม่เช่นนั้น​ตระกูล​ตง​หวง​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ไป​ขอให้​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​ ช่วย​!

ที่​น่าสนใจ​คือ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​ ที่​พลัง​ดั้งเดิม​สูญเสีย​อย่าง​หนัก​เช่นกัน​ ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ยากแค้น​ แต่​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ นอกจาก​ตระกูล​ฝูแล้ว​ยักษ์​ใหญ่​อื่นๆ​ ล้วน​ส่งเฒ่าดึกดำบรรพ์​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​มา

ทำให้​หลิน​สวิน​เดา​ออก​ทันที​ว่า​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​เบื้องหลัง​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​ เอง​ก็​คง​เป็น​เช่นกัน​ ไม่สนใจ​จะช่วย​สุนัข​เฝ้าบ้าน​เหล่านี้​อีกต่อไป​…

เช่นนี้​สถานการณ์​ก็​จะเป็นผลดี​ต่อ​หลิน​สวิน​

อย่าง​น้อย​ไม่มีการ​คุกคาม​จาก​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​เหล่านั้น​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ทั้ง​น่านฟ้า​ที่​แปด​ ก็​ไม่มีกำลัง​พล​ใด​ที่​สามารถ​คุกคาม​เขา​ได้​แล้ว​!

นี่​คือ​เหตุผล​ที่​หลิน​สวิน​รู้สึก​ว่า​การเคลื่อนไหว​ครั้งนี้​ราบรื่น​มาก​

นอก​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​

พร้อมกับ​เวลา​ที่​ล่วงเลย​ไป​ เริ่ม​มีเงาร่าง​ทยอย​ปรากฏตัว​เข้าใกล้​

คน​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​ผู้ชม​การต่อสู้​ ก่อนหน้านี้​เห็น​การต่อสู้​นองเลือด​ทั้งหมด​ เห็น​ว่า​เฒ่าดึกดำบรรพ์​อย่าง​พวก​ตง​หวง​จิ่วหุ่ย​ถูก​ฆ่าตาย​อย่าง​ง่ายดาย​อย่างไร​ และ​เห็น​ว่า​ประตู​ภูเขา​ของ​ตระกูล​ตง​หวง​ถูก​เหยียบย่ำ​ล่มสลาย​อย่างไร​

เหตุผล​ที่​พวกเขา​เข้าใกล้​ใน​ตอนนี้​ เพราะ​อยาก​ดู​สักหน่อย​ว่า​ใน​พื้นที่​ของ​ตระกูล​ตง​หวง​เป็น​อย่างไร​กัน​แน่​ จะสามารถ​ฉกฉวย​ผลประโยชน์​ใด​ได้​หรือไม่​

อย่างเช่น​ปล้น​สมบัติ​ที่​ทิ้ง​เอาไว้​จำพวก​นั้น​

เพียงแต่​พวกเขา​ยัง​ไม่ทัน​เข้าสู่​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​ เสียง​ราบเรียบ​ของ​หลิน​สวิน​ก็​ดัง​ขึ้น​

“รอ​ข้า​คน​แซ่หลิน​จากไป​ ย่อม​มีโอกาส​ให้​พวก​เจ้าฉกฉวย​สมบัติ​ที่นี่​ ตอนนี้​พวก​เจ้าอยู่​นอก​ประตู​ภูเขา​แต่​โดยดี​จะดี​ที่สุด​ ไม่เช่นนั้น​อย่า​หาว่า​ข้า​ไม่เกรงใจ​”

ประโยค​เดียว​ทำเอา​ผู้ชม​การต่อสู้​เหล่านั้น​ตัว​สั่นเทิ้ม​ หน้า​เปลี่ยนสี​ไป​

พวกเขา​คิด​ว่า​หลิน​สวิน​จากไป​นาน​แล้วจึง​กล้า​เข้ามา​

เพียงแต่​ความหมาย​ใน​คำพูด​ของ​หลิน​สวิน​ นอกจาก​ทำให้​พวกเขา​ประหลาดใจ​แล้ว​ยัง​รู้สึก​ตื่นเต้น​อีกด้วย​

ที่แท้​ผู้อาวุโส​หลิน​สวิน​ไม่ถือสา​ที่​พวกเขา​มาปล้น​สมบัติ​ของ​ตระกูล​ตง​หวง​!

แน่นอน​ว่า​ใน​ใจพวกเขา​ล้วน​รู้ดี​ ว่า​ทรัพย์สิน​และ​ความมั่งคั่ง​ที่​ตระกูล​ตง​หวง​สั่งสมมาไม่รู้​นาน​เท่าไร​คง​ถูก​หลิน​สวิน​เก็บ​ไป​นาน​แล้ว​

ทว่า​แม้จะเป็น​เช่นนี้​ พวกเขา​ยังคง​คาดหวัง​อย่าง​ที่สุด​

ต่อให้​ไม่ได้​กิน​เนื้อ​ ดื่ม​น้ำแกง​สัก​คำ​ก็​ยัง​ดี​

เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​ยังคง​เป็นแดน​มงคล​ชั้นหนึ่ง​ของ​น่านฟ้า​ที่​แปด​ ถูก​ตระกูล​ตง​หวง​ครอบครอง​มาไม่รู้​นาน​เท่าไร​ ต่อให้​ไม่พูดถึง​อย่าง​อื่น​ ใคร​สามารถ​ยึดครอง​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​ได้​ ก็​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ศุภโชค​ชั้นหนึ่ง​ใน​โลก​แล้ว​!

ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​เทพ​จันทร์​กระจ่าง​ครอบคลุม​อาณาเขต​หนึ่ง​แสน​ลี้​ ใน​นั้น​โอสถ​วิญญาณ​และ​วัตถุดิบ​เทพ​มากมาย​ สมบัติ​ที่​ไม่เข้าตา​หลิน​สวิน​ สำหรับ​พวกเขา​อาจจะ​เป็น​สมบัติ​ล้ำ​ค่าที่​เรียก​ได้​ว่า​หา​ยาก​!

‘การต่อสู้​เพิ่ง​สิ้นสุดลง​ก็​ดึงดูดสายตา​ละโมบ​ไม่รู้​เท่าไร​แล้ว​ รอ​ข่าว​กระจาย​ออก​ไป​ยัง​ไม่รู้​ว่า​จะดึงดูด​หมาป่า​หิวโหย​มาอีก​เท่าไร​…’

หลิน​สวิน​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

ไม่ต้อง​เดา​เขา​ก็​รู้​ว่า​ตระกูล​ตง​หวง​จบสิ้น​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​

ทว่า​ทั้งหมด​นี้​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เขา​

……

เขา​เทพ​ยอด​น้ำแข็ง​

อาณาเขต​ที่​ตระกูล​หวัง​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อันดับ​หนึ่ง​ยึดครอง​

ใน​สายตา​ของ​สรรพ​ชีวิต​ใน​น่านฟ้า​ที่​แปด​ เขา​เทพ​ยอด​น้ำแข็ง​ก็​เหมือน​แดน​ศักดิ์สิทธิ์​อันดับ​หนึ่ง​ของ​โลก​ ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ที่ผ่านมา​ ตระกูล​หวัง​ที่​ครอบครอง​ที่​แห่ง​นี้​ก็​เป็น​พวก​ไร้​เทียมทาน​ปาน​ราชัน​ของ​โลก​ใบ​นี้​

เพียงแต่​ใน​ร้อย​ปี​มานี้​อิทธิพล​ของ​ตระกูล​หวัง​ไม่ได้​ยิ่งใหญ่​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​!

พลัง​ดั้งเดิม​เสียหาย​อย่าง​หนัก​ รากฐาน​สั่นคลอน​ สถานการณ์​คับขัน​ ไม่ต่าง​อะไร​กับ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อื่นๆ​

ทุก​อย่างนี้​แน่นอน​ว่า​เป็น​เพราะ​หลิน​สวิน​

กลางดึก​

ใน​โถงใหญ่​ตระกูล​หวัง​

ผู้นำ​ตระกูล​หวัง​จ้งเทียน​เดินไปเดินมา​ ขมวดคิ้ว​แน่น​ แม้สีหน้า​นิ่ง​สงบ​เหมือนเดิม​ แต่​ภายใต้​แสงไฟที่​ส่องสว่าง​กลับ​ดู​อึมครึม​ไม่สามารถ​สงบ​ได้​

“เหตุใด​จน​ตอนนี้​ยัง​ไม่มีข่าว​…”

หวัง​จ้งเทียน​กังวลใจ​

ไม่กี่​วันก่อน​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​อย่าง​หวัง​เต้า​ชวน​และ​หวัง​ฝูผิง​นำ​ยอด​สมบัติ​ของ​ตระกูล​ ‘กระบี่​ตัด​มรรค​’ ไป​เสริม​ทัพ​ที่​ตระกูล​ตง​หวง​ด้วยกัน​

ตั้งแต่​ตอนนั้น​หวัง​จ้งเทียน​ก็​รอ​ข่าว​มาโดยตลอด​ ใน​ใจทรมาน​ยิ่งนัก​

ถึงตอนนี้​เขา​แทบจะ​ทนไม่ไหว​แล้ว​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​การ​ใช้ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​โบราณ​หนึ่ง​ครั้ง​ต้อง​เสีย​ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​ขั้น​แปด​หนึ่ง​สาย​ เขา​คง​ไป​สืบ​ข่าว​ที่​ตระกูล​ตง​หวง​เอง​อย่า​งอด​ไม่ได้​แล้ว​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท