ตอนที่ 2968 ข่าวดีและข่าวร้าย

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ลัทธิ​แรก​กำเนิด​

ร่าง​ต้น​ของ​หลิน​สวิน​กำลัง​ฝึก​ปราณ​

จู่ๆ เขา​ลืมตา​ขึ้น​เงียบๆ​

จากนั้น​ระลอกคลื่น​กลิ่นอาย​ที่​คุ้นเคย​ถูก​เขา​คว้า​จับได้​

กาย​มรรค​ทั้ง​ห้า​กลับมา​แล้ว​!

เมื่อ​ความคิด​ของ​ร่าง​ต้น​หลิน​สวิน​ไหว​ขยับ​ ห้า​กาย​มรรค​ที่​เพิ่ง​เข้า​แดน​แรกเริ่ม​ก็​เคลื่อนย้าย​ผ่าน​ห้วง​อากาศ​มาปรากฏ​ใน​ถ้ำสถิต​

ระหว่าง​ร่าง​ต้น​และ​ร่าง​แยก​เกิด​การ​เชื่อม​ต่อกัน​โดยพลัน​ ทำให้​หลิน​สวิน​ได้​รู้​ทุก​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ใน​น่านฟ้า​ที่​แปด​ทันที​

ครู่ใหญ่​หลังจากนั้น​ร่าง​ต้น​ของ​หลิน​สวิน​เผย​รอย​ยิ้มมุมปาก​

ก่อนหน้านี้​เขา​ไม่ได้​คาด​ว่า​เรื่องราว​จะราบรื่น​เช่นนี้​!

‘น่านฟ้า​ที่​เก้า​นิ่ง​สงบ​ไม่เคลื่อนไหว​ นี่​ก็​แปลก​จริงๆ​…’

ขณะ​ใคร่ครวญ​ ร่าง​ต้น​ของ​หลิน​สวิน​เก็บ​กาย​มรรค​ทั้ง​ห้า​ เขา​สังหรณ์​ว่า​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​เหล่านั้น​จะต้อง​สังเกตเห็น​การเปลี่ยนแปลง​น่า​ตะลึง​บางอย่าง​แน่นอน​ จึงทำให้​พวกเขา​ไม่มีเวลา​สนใจ​เรื่อง​ของ​น่านฟ้า​ที่​แปด​

การเปลี่ยนแปลง​น่า​ตกตะลึง​เช่นนั้น​ เกรง​ว่า​จะเกี่ยวข้อง​กับ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​!

เป็น​อะไร​กัน​แน่​นะ​

หลิน​สวิน​คิด​ไม่ตก​ แต่​สำหรับ​เขา​การเคลื่อนไหว​ครั้งนี้​ที่​สามารถ​ทำลาย​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ได้​ ก็​เป็นผล​เก็บเกี่ยว​ครั้ง​ใหญ่​ที่​เหนือ​ความคาดหมาย​แล้ว​

จู่ๆ พลัง​ระเบียบ​นอก​ถ้ำสถิต​ก็​เกิด​คลื่น​ระลอก​หนึ่ง​

เมื่อ​หลิน​สวิน​เปิด​ปลด​พลัง​ผนึก​ เสียง​ของ​เสวียน​เฟยห​ลิง​พลัน​ดัง​ขึ้น​ “จัดการ​เรื่องราว​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

หลิน​สวิน​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​ออก​ไปนอก​ถ้ำสถิต​ ยิ้ม​กล่าว​ “ถือว่า​ราบรื่น​ ตั้งแต่​วันนี้​ไป​ บน​โลก​นี้​ไม่มีสิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​อีกแล้ว​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​อึ้ง​งัน​ไป​ทันที​ เบิก​ตาโพลง​ “ล่มสลาย​หมด​แล้ว​หรือ​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​

เสวียน​เฟยห​ลิง​ตื่นเต้น​จน​ตบ​ไหล่​หลิน​สวิน​ “รีบ​บอก​ข้า​ว่า​ทำได้​อย่างไร​!”

……

วันนั้น​ข่าว​ที่​หลิน​สวิน​กวาดล้าง​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​แห่ง​น่านฟ้า​ที่​แปด​กระจาย​ไป​ทั่ว​แดน​แรกเริ่ม​ สร้าง​ความฮือฮา​ครั้ง​ใหญ่​

“หัวหน้า​หอ​หลิน​คนเดียว​ก็​กวาดล้าง​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ได้​แล้ว​หรือ​”

“ขะ​ ขะ​ เขา​… ร้ายกาจ​เกินไป​หรือไม่​”

คนใหญ่คนโต​เหล่านั้น​แต่ละคน​ตกใจ​จน​อ้าปากค้าง​ ตกตะลึง​กัน​ทั่วหน้า​

บรรดา​ผู้สืบทอด​สามหอ​เก้า​ยอดเขา​ต่าง​เหิมฮึก​ แต่ละคน​ถก​กัน​อย่าง​ตื่นเต้น​ไม่หยุด​ สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​เป็น​ถึงผู้ยิ่งใหญ่​ที่อยู่​มาไม่รู้​นาน​เท่าไร​!

แต่​ตอนนี้​ล้วน​ถูก​ลบล้าง​ไป​จาก​โลก​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​!

“ศิษย์​น้อง​ถังเจียง​ ถึงอย่างไร​หัวหน้า​หอ​หลิน​ก็​เป็น​อาจารย์​ของ​เจ้า เหตุใด​เจ้ากลับ​ดู​ไม่ดีใจ​เท่าไร​”

ใน​ลาน​ฝึก​ยุทธ์​ยอดเขา​ที่​เก้า​ ศิษย์​มากมาย​ล้วน​พูดคุย​เรื่อง​ที่​หลิน​สวิน​ได้รับ​ชัยชนะ​อย่าง​ปิติยินดี​ และ​มีคน​สังเกตเห็น​ว่า​ถังเจียง​นั่ง​กอดเข่า​อยู่​ตรงนั้น​คนเดียว​ ท่าทาง​เหม่อลอย​

“แน่นอน​ว่า​ข้า​ดีใจ​มาก​ แต่​ตอนนี้​ข้า​เป็นกังวล​เพียง​ว่า​ต่อให้​พยายาม​ฝึก​ปราณ​แค่​ไหน​ ก็​ไม่สามารถ​ทำให้​อาจารย์​พอใจ​ได้​” ถังเจียง​เอ่ย​ทอดถอนใจ​เบา​ๆ

“อย่า​กดดัน​ตนเอง​ไป​ คน​อย่าง​อาจารย์​เจ้าเป็นหนึ่งเดียว​ทั่วหล้า​ สิ่งที่​เจ้าควร​ทำ​คือ​ตั้ง​จิต​ให้​มั่น​ เสาะหา​มรรคา​ของ​ตน​ ไม่ถือดี​ไม่ร้อนรน​ ไม่ถูก​ล่อลวง​ด้วย​ผลประโยชน์​”

ไม่ไกล​นัก​ผู้นำ​ยอดเขา​โม่ห​ลัน​ซาน​เดิน​เข้ามา​ พูด​ด้วย​เสียง​อ่อนโยน​

ถังเจียง​รีบ​ลุกขึ้น​เอ่ย​ว่า​ “ผู้นำ​ยอดเขา​สั่งสอน​ได้​ถูกต้อง​”

โม่ห​ลัน​ซาน​กล่าว​ “ถังเจียง​ เจ้าไม่เจอ​อาจารย์​เจ้ามานาน​แค่​ไหน​แล้ว​”

ถังเจียง​ตอบ​โดย​ไม่ต้อง​คิด​ “แปด​ปี​กว่า​”

“นาน​พอดู​แล้ว​” โม่ห​ลัน​ซาน​พยักหน้า​ “ตอนนี้​อาจารย์​เจ้าเพิ่ง​ได้รับ​ชัยชนะ​กลับมา​ เจ้าสามารถ​ฉวยโอกาส​นี้​ไป​พบ​เขา​ได้​”

ถังเจียง​เบิก​ตาโพลง​ “ได้​หรือ​”

โม่ห​ลัน​ซาน​ยิ้ม​พูด​ “เจ้าเป็น​ศิษย์​ของ​เขา​ ไป​พบ​เจอ​เขา​ย่อม​เป็นเรื่อง​สมเหตุสมผล​ เหตุใด​จะไม่ได้​”

“ได้​ ข้า​จะไป​เดี๋ยวนี้​เลย​”

ว่า​พลาง​ถังเจียง​ก็​หมุนตัว​จากไป​แล้ว​

วันนี้​คน​ที่​ไป​เยี่ยม​หลิน​สวิน​มีเยอะ​มาก​ อย่างเช่น​พวก​รองหัวหน้า​หอ​ ผู้อาวุโส​ ประตู​บ้าน​เหมือน​ตลาด​ ล้วน​มาแสดงความยินดี​กับ​หลิน​สวิน​

ตอนที่​ถังเจียง​มาถึงก็​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​สายตา​มากมาย​ทันที​

“นั่น​เสี่ยว​ถังเจียง​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ เวลา​สิบ​แปด​ปี​สั้น​ๆ ก็​ก้าว​สู่ระดับ​กึ่ง​จักรพรรดิ​ด่าน​สามแล้ว​”

มีสัตว์ประหลาด​เฒ่าพูด​อย่าง​หยอกล้อ​

“นาง​หนู​นี่​รากฐาน​ไม่ถึงกับ​ดีมาก​นัก​ แต่​พรสวรรค์​กับ​ความสามารถ​ใน​การ​หยั่งรู้​กลับ​มหัศจรรย์​ถึงขีดสุด​ ความสำเร็จ​ในอนาคต​ย่อม​ไร้​จำกัด​”

มีคน​ลูบ​หนวด​วิจารณ์​

“ถังเจียง​ รอ​ตอนที่​ข้า​แจ้งมรรค​ระดับ​จักรพรรดิ​ ข้า​จะคุ้มครอง​เจ้าเอง​!”

มีคน​ยิ้ม​ตาหยี​พูด​

“ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​ทุกท่าน​อย่าง​มาก​”

เห็นชัด​ว่า​ถังเจียง​มีมารยาท​มาก​ รู้ความ​และ​ว่านอนสอนง่าย​

นาง​ย่อม​รู้​ว่าที่​ตน​ถูก​ผู้อาวุโส​มากมาย​ขนาด​นี้​สนใจ​ แน่นอน​ว่า​เพราะ​อาจารย์​ของ​ตน​

ยาม​ถังเจียง​เจอ​หลิน​สวิน​ เขา​กำลัง​ดื่ม​กับ​พวก​ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​อย่าง​มีความสุข​ นี่​ทำให้​ใน​ใจนาง​ระมัดระวัง​และ​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​

“ถังเจียง​ เจ้ามานี่​”

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​โบกมือ​พร้อม​รอยยิ้ม​

ถังเจียง​รีบ​เข้าไป​เอ่ย​ว่า​ “ศิษย์​ถังเจียง​คารวะ​อาจารย์​”

“ไม่ต้อง​มาก​พิธี​ง เจ้านั่ง​รอ​ก่อน​ อีก​เดี๋ยว​ข้า​จะดู​วิชา​มรรค​ของ​เจ้า”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​พูด​

สำหรับ​ลูกศิษย์​คน​นี้​ เขา​ไม่เคย​สอน​อย่าง​เต็มที่​ ใน​ใจจึงรู้สึก​ผิด​อยู่​บ้าง​

ถังเจียง​ไม่ได้​คิดมาก​ขนาด​นั้น​ นั่ง​นิ่ง​อยู่​ข้าง​อาจารย์​ ใน​ใจปลื้ม​ปริ่ม​มาก​

จนกระทั่ง​คน​ร่วม​สำนัก​ที่มา​เยี่ยม​จากไป​

หลิน​สวิน​ถามเรื่อง​การ​ฝึก​ปราณ​ของ​ถังเจียง​คร่าวๆ​ จน​สุดท้าย​จึงพูดว่า​ “ก่อน​จะแจ้งมรรค​ระดับ​จักรพรรดิ​ เจ้าอยู่​ฝึก​ปราณ​ข้าง​ข้า​ก็​พอ​”

ระดับ​จักรพรรดิ​เป็น​ก้าว​ที่​สำคัญ​ที่สุด​บน​เส้นทาง​มหา​มรรค​ ใน​ฐานะ​อาจารย์​ หลิน​สวิน​ย่อม​ไม่หวง​ความรู้​ ตัดสินใจ​ใช้โอกาส​นี้​ชี้แนะ​ถังเจียง​อย่าง​จริงจัง​สักหน่อย​

“อืม​!”

ถังเจียง​พยักหน้า​ บน​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความดีใจ​

……

กลางดึก​

กาย​มรรค​ไม้เขียว​กำลัง​ถ่ายทอด​มรรค​กับ​ถังเจียง​ สลาย​ความข้องใจ​ให้​นาง​

ร่าง​ต้น​ของ​หลิน​สวิน​กลับ​กำลัง​ทำอาหาร​ ซย่า​จื้อ​นั่ง​อยู่​หน้า​โต๊ะ​เตี้ย​ เริ่ม​ดื่มด่ำ​กับ​อาหาร​เลิศ​รส​ที่​หลิน​สวิน​ยก​มาให้​เป็นระยะๆ​ อย่าง​จริงจัง​แล้ว​

บางครั้ง​ที่​เห็นภาพ​นี้​ ใน​ใจถังเจีย​งอด​เกิด​ความอิจฉา​ที่​บอก​ไม่ถูกระลอก​หนึ่ง​ ใน​ใจลอบ​เอ่ย​ว่า​ต่อไป​หาก​ข้า​จะหาคู่​บำเพ็ญ​ จะต้องหา​อย่าง​อาจารย์​

“ถังเจียง​ เจ้ามากิน​ด้วยกัน​สิ”

ครู่ใหญ่​หลิน​สวิน​จัดเตรียม​อาหาร​ทุกอย่าง​เสร็จสิ้น​ก็​เรียก​ถังเจียง​มากิน​ด้วยกัน​

ถังเจียง​รีบ​วิ่งเหยาะๆ​ เข้ามา​ นั่งลง​ข้างๆ​ อย่าง​ว่าง่าย​

กินข้าว​แล้ว​ถังเจียง​บอกลา​อย่าง​อาลัยอาวรณ์​ กลับ​ถ้ำสถิต​ของ​ตน​

ส่วน​หลิน​สวิน​ชงชาร้อน​กา​หนึ่ง​ดื่ม​กับ​ซย่า​จื้อ​ “รอ​พวก​ศิษย์​พี่​รอง​กลับมา​ ข้า​ตั้งใจ​ไป​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​สัก​รอบ​”

ตอนนี้​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ล่มสลาย​ ไม่ว่า​จะเป็น​ลัทธิ​พ่อ​มด​ ลัทธิ​ฌาน​ หรือ​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ล้วน​หดหัว​เหมือน​เต่า​ป้องกันตัว​

หลิน​สวิน​ฉวย​จังหวะ​นี้​ไป​รับ​พวก​จ้าว​จิ่งเซวียน​กับ​ญาติพี่น้อง​ตระกูล​หลิน​ทั้งหมด​ จัดแจง​ให้​อยู่​ใน​แดน​แรกเริ่ม​

แน่นอน​ว่า​ยังมี​บิดา​มารดา​และ​คน​ตระกูล​ลั่ว​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​โลก​แสงเหนือ​ใน​ทะเล​ประหัต​มาร​น่านฟ้า​ที่หก​ ก็​จำเป็นต้อง​พา​มาเช่นกัน​

“พา​ข้า​ไป​ด้วย​” ซย่า​จื้อ​กล่าว​

หลิน​สวิน​ตอบรับ​พร้อม​รอยยิ้ม​

เพียงแต่​แผน​การตาม​การเปลี่ยนแปลง​ไม่ทัน​

ครึ่ง​เดือน​หลังจากนั้น​ศิษย์​พี่​รอง​จ้งชิวก​ลับ​มาลัทธิ​แรก​กำเนิด​อย่าง​เหน็ดเหนื่อย​ บอก​ข่าวดี​และ​ข่าวร้าย​กับ​หลิน​สวิน​

ข่าวดี​คือ​พวก​ศิษย์​พี่ใหญ่​ที่​ถูก​ขัง​อยู่​ใน​แดน​ยอด​จักรวาล​ล้วน​ถูก​ช่วย​ออกมา​อย่าง​ราบรื่น​

ข่าวร้าย​คือ​ ใน​พันปี​นี้​ก่อนที่​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​มาเยือน​ ใน​โลก​ยอด​นิรันดร์​จะไม่ปรากฏ​จุด​เปลี่ยน​ของ​การ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​!

ได้​รู้​ข่าว​พวก​นี้​หลิน​สวิน​ยัง​รู้สึก​ตั้งตัว​ไม่ติด​

“เดิมที​ศิษย์​พี่ใหญ่​มีโอกาส​จะแจ้งมรรค​นิรันดร์​ แต่​เพราะ​การเปลี่ยนแปลง​ครั้งนี้​ทำให้​มรรคา​ของ​เขา​หยุด​อยู่​ใน​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ ไม่สามารถ​เดินหน้า​ได้​อีก​แม้แต่น้อย​”

ใน​ถ้ำสถิต​จ้งชิว​ถอนหายใจ​เบา​ๆ

“เช่นนั้น​พวก​ศิษย์​พี่ใหญ่​เล่า​”

หลิน​สวิน​อด​ถามไม่ได้​

“ไป​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​แล้ว​”

จ้งชิว​พูด​ “ตามที่​ศิษย์​พี่ใหญ่​พูด​ เขา​ไม่อาจ​เสียเวลา​ได้​อีก​ จะต้อง​ทะลวง​ระดับ​โดยเร็ว​ที่สุด​ ไม่เช่นนั้น​ความ​ฮึกเหิม​ใน​การ​แจ้งมรรค​ที่​สั่งสมไว้​เต็ม​ทรวง​ก็​จะค่อยๆ​ ถูก​ทำลาย​”

หลิน​สวิน​นัยน์ตา​หด​รัด​ “แต่​ตอนนี้​ใน​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​อันตราย​อย่าง​ที่สุด​ มีระดับ​นิรันดร์​ไม่รู้​เท่าไร​รวมตัวกัน​ พวก​ศิษย์​พี่ใหญ่​ไป​ครั้งนี้​อันตราย​เกินไป​แล้ว​”

จ้งชิวก​ล่า​ว​ “อย่า​ลืม​ว่า​รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​ผู้อาวุโส​จักจั่น​ทอง​และ​อาจารย์​ รวมถึง​พวก​อาจารย์​อา​คง​เจวี๋ย​ล้วน​อยู่​ที่นั่น​ มีพวกเขา​ดูแล​ ยาม​ศิษย์​พี่ใหญ่​แจ้งมรรค​นิรันดร์​กลับ​จะปลอดภัย​มาก​”

หลิน​สวิน​อด​ถอนหายใจ​ยาว​ไม่ได้​ เดิมที​เขา​ยัง​คาดหวัง​ว่า​จะสามารถ​รวมตัว​กับ​เหล่า​ศิษย์​พี่​คีรี​ดวงกมล​ได้​ ตอนนี้​ดู​ท่าจะ​พลาดโอกาส​แล้ว​

ความ​ไม่เที่ยง​ของ​โลก​ก็​คง​เป็น​เช่นนี้​

“ถ้าอย่างนั้น​นอกจาก​ศิษย์​พี่​รอง​ ศิษย์​พี่​คนอื่นๆ​ ล้วน​ไป​กับ​ศิษย์​พี่ใหญ่​หรือ​” หลิน​สวิน​ถาม

จ้งชิว​พยักหน้า​ “ไม่ผิด​ หลังจาก​ข้า​มาเจอ​เจ้าแล้วก็​จะไป​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ทันที​”

หลิน​สวิน​อึ้ง​ “เช่นนั้น​… ข้า​ไป​ด้วย​เป็น​อย่างไร​”

จ้งชิว​ปฏิเสธ​โดย​ไม่คิด​ด้วยซ้ำ​ “ไม่ได้​ ศิษย์​พี่ใหญ่​และ​ศิษย์​น้อง​สามให้​ข้า​มา ก็​เพื่อ​บอก​เจ้าว่า​ก่อนที่​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​อย่า​ได้​ไป​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​”

“เพราะเหตุใด​” หลิน​สวิน​ขมวดคิ้ว​

จ้งชิวก​ล่า​ว​ “แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ใน​ตอนนี้​ระดับ​นิรันดร์​ไม่รู้​เท่าไร​รวมตัวกัน​ แย่งชิง​เพื่อ​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ ดึงดูด​การต่อสู้​ที่​ไม่อาจ​คาดเดา​อยู่​ตลอดเวลา​ หาก​เจ้าไป​ ทำให้​พวก​เฒ่าชรา​เหล่านั้น​รู้​ว่า​กฎเกณฑ์​นิพพาน​บน​ตัว​เจ้าสามารถ​คุกคาม​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​ของ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ได้​ เจ้าลอง​เดา​ว่า​พวกเขา​จะทำ​อย่างไร​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​ “ขอ​เพียง​พวกเรา​ไม่พูด​ พวกเขา​จะรู้​ได้​อย่างไร​”

จ้งชิวก​ล่า​ว​ว่า​ “อย่า​ดูถูก​เฒ่าชรา​ระดับ​นิรันดร์​พวก​นั้น​ ยิ่งไปกว่านั้น​ตอนนี้​เจ้าเป็น​หัวหน้า​หอ​แรก​พิสุทธิ์​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​จะทิ้ง​ทุกอย่าง​จากไป​ได้​อย่างไร​”

หลิน​สวิน​ไม่รู้​จะพูด​อะไร​ไป​ชั่วขณะ​

เขา​ไม่สามารถ​ไป​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​โดย​ไม่ห่วง​อะไร​ได้​จริงๆ​

ไม่ใช่เพราะ​สละตำแหน่ง​หัวหน้า​หอ​แรก​พิสุทธิ์​ไป​ไม่ได้​ แต่​เพราะ​ยังมี​เรื่องราว​มากมาย​ที่​ยัง​ไม่ได้​จัดการ​

อย่างเช่น​พวก​พ่อแม่​ ท่าน​ลู่​ยังอยู่​ใน​โลก​แสงเหนือ​แห่ง​น่านฟ้า​ที่หก​ หรือ​อย่าง​พวก​จ้าว​จิ่งเซวียน​แม่ลูก​และ​บรรดา​คน​ตระกูล​หลิน​ ต่าง​กำลัง​รอ​เขา​กลับ​ไป​อยู่​

เรื่อง​พวก​นี้​จะต้อง​จัดการ​ก่อนที่​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​

“วางใจ​เถอะ​ สักวัน​พวกเรา​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​ต้อง​ได้​รวมตัวกัน​”

จ้งชิวก​ล่า​ว​เสียง​เบา​ “เจ้าเอง​ก็​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​พวก​ข้า​ อย่า​ลืม​ว่า​เมื่อนานมาแล้ว​คีรี​ดวงกมล​ของ​พวกเรา​เคย​อาศัย​อยู่​ใน​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ ความเข้าใจ​ที่​มีต่อ​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ก็​ไม่ใช่สิ่งที่​คนอื่น​จะเทียบ​ได้​สักนิด​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​ขื่น​พูด​ “นอกจาก​รับปาก​ ข้า​ยัง​จะพูด​อะไร​ได้​”

เขา​เว้น​ช่วง​ไป​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ศิษย์​พี่​ เหตุใด​ก่อนหน้านี้​ท่าน​ถึงพูดว่า​ก่อนที่​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​ โลก​ยอด​นิรันดร์​แห่ง​นี้​ไม่มีทาง​ปรากฏ​จุด​เปลี่ยน​ของ​การ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​อีก​”

แววตา​จ้งชิว​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทันที​ กล่าวว่า​ “นี่​เป็น​ข้อสรุป​ที่​ศิษย์​พี่ใหญ่​ไป​สืบหา​ด้วยตัวเอง​ จาก​ที่​เขา​พูด​ จุด​เปลี่ยน​ของ​การ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​นั่น​ เป็นไปได้​สูงมากว่า​อาจ​ถูก​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​สกัด​ไว้​ ไม่เช่นนั้น​เขา​ย่อม​สามารถ​ทำลาย​ปราการ​นั่น​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ตั้งแต่​เมื่อ​สิบ​กว่า​ปีก่อน​ ก้าว​สู่ระดับ​นิรันดร์​ไป​แล้ว​!”

หลิน​สวิน​ใจหนาวสะท้าน​ “เช่นนี้​หาก​ข้า​อยู่​ที่​โลก​ยอด​นิรันดร์​ต่อ​ ก็​ถูก​กำหนดให้​ไม่สามารถ​ก้าว​สู่มรรคา​นิรันดร์​ได้​ไม่ใช่หรือ​”

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท