ตอนที่ 2970 ออกเดินทาง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

หนึ่ง​ปี​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

วันนี้​หลิน​สวิน​ตื่น​จาก​สมาธิ หัว​คิ้ว​ขมวด​ขึ้น​เล็กน้อย​

ตั้งแต่​ครึ่ง​ปีก่อน​เขา​หลอม​ระเบียบ​นิพพาน​ได้​ถึงเก้า​ส่วน​ แต่​ครึ่ง​ปี​ต่อมา​กลับ​ไม่ขยับ​แม้แต่​นิด​!

แกน​พลัง​หนึ่ง​ส่วนที่เหลือ​นั้น​ ไม่ว่า​เขา​ทุ่มเท​หลอม​อย่างไร​ล้วน​ไม่อาจ​สั่นคลอน​สัก​เสี้ยว​

‘ดูท่า​ว่า​นี่​จะเป็น​คอขวด​ ใช่ว่า​ใช้เวลา​และ​ความ​ทุ่ม​เมไป​แล้​วจะ​จัดการ​ได้​…’

หลิน​สวิน​สันนิษฐาน​

‘อู๋ซวง’​

เขา​คิดในใจ​ เงาร่าง​ของ​อู๋ซวง​ปรากฏตัว​กะทันหัน​ “นาย​ท่าน​มีเรื่อง​ใด​สั่งความ​หรือ​”

ตอนนั้น​ยาม​พา​คน​ตระกูล​ลั่ว​กลับมา​จากน่านฟ้า​ที่หก​ อู๋ซวง​ก็​ถูก​หลิน​สวิน​พา​กลับมา​ด้วย​

“จาก​มุมมอง​ของ​เจ้า อานุภาพ​กฎเกณฑ์​อมตะ​ของ​ข้า​ตอนนี้​เป็น​อย่างไร​”

หลิน​สวิน​ถาม

อู๋ซวง​คือ​วิญญาณ​ระเบียบ​มรรค​สวรรค์​ของ​โลก​ต้นกำเนิด​ใน​ยุค​ก่อน​ ผ่าน​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จน​รอด​มาถึงปัจจุบัน​ มีอานุภาพ​น่า​เหลือเชื่อ​เป็น​อย่างยิ่ง​

จาก​คำพูด​ของ​นาง​ ตอน​นาง​รุ่งเรือง​ที่สุด​อานุภาพ​ที่​ครอบครอง​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​

นัย​เร้นลับ​ที่​แฝงอยู่​ใน​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​บน​โลก​ล้วน​เกี่ยวข้อง​กับ​มรรค​นิรันดร์​ พลัง​ระเบียบ​ที่​แฝงอยู่​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​พลัง​กฎระเบียบ​

หรือ​พูด​ได้​ว่า​ยาม​อู๋ซวง​อยู่​ใน​สภาพ​ยอดเยี่ยม​ พลัง​ที่​ครอบครอง​ล้วน​ไม่ต่าง​กับ​กฎระเบียบ​มรรค​สวรรค์​

อู๋ซวง​กล่าว​เสียง​กระจ่าง​ใส “กฎเกณฑ์​อมตะ​ของ​นาย​ท่าน​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​แล้ว​ กระทั่ง​แข็งแกร่ง​กว่า​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ แต่​กฎเกณฑ์​อมตะ​ของ​นาย​ท่าน​ สุดท้าย​แล้วก็​เป็น​พลัง​กฎเกณฑ์​ ไม่ใช่มรรค​นิรันดร์​ที่​แท้จริง​”

นาง​เว้น​ช่วง​ไป​ก่อน​กล่าว​อย่าง​ใคร่ครวญ​ “ใน​ความเห็น​ข้า​ สาเหตุ​ที่​เป็น​เช่นนี้​เป็น​เพราะ​ถูก​จำกัด​ด้วย​พลัง​ปราณ​ของ​นาย​ท่าน​ หาก​นาย​ท่าน​แจ้งมรรค​นิรันดร์​ กฎเกณฑ์​อมตะ​ทั้งตัว​นี้​ต้อง​เปลี่ยนเป็น​กฎเกณฑ์​นิรันดร์​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​แน่​ เพราะ​เดิมที​กฎเกณฑ์​นิรันดร์​ก็​ไม่ต่าง​กับ​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​ “ดูท่า​ว่า​สิ่งที่​ข้า​สันนิษฐาน​ไว้​คง​ไม่ผิด​ ต่อให้​กฎเกณฑ์​อมตะ​เย้ย​ฟ้าแค่​ไหน​ สุดท้าย​ก็​เป็น​พลัง​บน​มรรคา​อมตะ​ ถูก​จำกัด​ด้วย​ระดับ​มรรค​วิถี​ของ​ข้า​ ย่อม​ไม่มีทาง​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ใหม่​ทั้งหมด​ได้​อีก​”

เขา​เข้าใจ​กระจ่าง​แล้ว​

แกน​พลัง​หนึ่ง​ส่วนที่เหลือ​อยู่​ของ​ระเบียบ​นิพพาน​นี้​ ไม่ใช่สิ่งที่​ระดับ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​สามารถ​หลอม​ได้​ แต่​ต้อง​รอ​เขา​แจ้งมรรค​นิรันดร์​จึงจะมีคุณสมบัติ​ไป​หลอม​มัน​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

“นาย​ท่าน​ กฎเกณฑ์​อมตะ​ของ​ท่าน​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​สิ่งต้องห้าม​แล้ว​ เทียบ​กับ​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​แล้ว​มีแต่​จะเหนือกว่า​ นี่​หมายความว่า​มรรค​วิถี​ของ​ท่าน​ตอนนี้​สามารถ​ต้านทาน​พลัง​ของ​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​ได้​”

เสียง​ของ​อู๋ซวง​กังวาน​เสนาะ​หู​

หลิน​สวิน​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​ “ปากหวาน​ขนาด​นี้​ คง​ไม่ใช่ว่า​คิด​จะเอา​พลัง​ระเบียบ​จาก​ข้า​อีก​กระมัง​”

ใบหน้า​เล็ก​ไร้เดียงสา​เหมือน​เด็กสาว​ของ​อู๋ซวง​เผย​แวว​เขินอาย​พลาง​กล่าว​ “นาย​ท่าน​ ซวงเอ๋อร์​ขาด​แค่​ก้าว​เดียว​ก็​ฟื้น​คืน​สภาพ​ยอดเยี่ยม​ได้​แล้ว​…”

ไม่รอ​ให้​พูด​จบ​ หลิน​สวิน​ก็​โยน​ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​ขั้น​เก้า​ห้า​สาย​ออกมา​ “เอา​ไป​เถอะ​”

นัยน์ตา​งามเป็นประกาย​ของ​อู๋ซวง​พราว​ระยับ​ กระโดดโลดเต้น​กล่าว​ “ขอบ​คุณนาย​ท่าน​ รู้​อยู่แล้ว​ว่า​นาย​ท่าน​รัก​ซวงเอ๋อร์​ที่สุด​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​ออกมา​

แม้รู้​ว่า​อู๋ซวง​ไร้ความรู้สึก​และ​สติปัญญา​ การกระทำ​และ​สีหน้าท่าทาง​ตอนนี้​ล้วน​วิวัฒน์​ออก​มาจาก​พลัง​ระเบียบ​ของ​นาง​ แต่​เหมือน​ไม่แสร้งทำ​สักนิด​ ดู​เป็นธรรมชาติ​และ​มีจิตวิญญาณ​นัก​

หลิน​สวิน​เก็บ​อู๋ซวงลง​ไป​แล้ว​จมสู่ห้วง​คิด​

ตอนนี้​บน​ตัว​เขา​ยัง​มีพลัง​ระเบียบ​ไม่น้อย​ แต่​ระเบียบ​ระดับ​สวรรค์​ขั้น​เก้า​ที่​หา​ยาก​เหลือ​เพียง​น้ำเต้า​ม่วง​เขียว​คู่​หนึ่ง​แล้ว​

นอกจากนี้​ยังมี​อู๋ซวง​ เสี่ยว​หมิง​ เสี่ยว​เซียน​ รวมถึง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ปฐม​ด้วย​

ใน​นั้น​ ระเบียบ​ปฐม​กำราบ​ได้​มาจาก​แดน​มาร​สิบ​ทิศ​ แฝงด้วย​มรรค​นิรันดร์​แรกเริ่ม​สุด​

จาก​คำพูด​ของ​อู๋ซวง​ ตอนนั้น​ระเบียบ​ปฐม​เพิ่ง​ก่อเกิด​ เหมือน​เด็ก​ที่​เป็น​ดั่ง​กระดาษ​ขาว​ มีศักยภาพ​แฝงไร้​สิ้นสุด​ให้​ขุดค้น​

หลาย​ปี​มานี้​ระเบียบ​ปฐม​ถูก​กฎเกณฑ์​นิพพาน​ทั้งตัว​หลิน​สวิน​หล่อเลี้ยง​ตลอด​ มอง​กฎเกณฑ์​นิพพาน​เป็น​ผู้ให้กำเนิด​ หลาย​ปี​นี้​ยัง​ฟื้น​คืน​และ​เกิด​ใหม่​อย่าง​ต่อเนื่อง​

แต่​สุดท้าย​จะเปลี่ยนไป​เป็น​อย่างไร​ แม้แต่​ตัว​หลิน​สวิน​ก็​ไม่รู้​แน่ชัด​

แต่​สิ่งที่​หลิน​สวิน​แน่ใจ​ได้​คือ​พลัง​ของ​ระเบียบ​นิพพาน​ สามารถ​ดำเนินการ​นิพพาน​และ​สร้าง​ ‘ระเบียบ​ระดับ​เทพ​’ ขึ้น​ใหม่​ได้​!

เหมือน​ตอนนี้​ที่​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ปฐม​ถูก​หล่อเลี้ยง​ใน​กฎเกณฑ์​อมตะ​ของ​หลิน​สวิน​ตลอดเวลา​

เมื่อ​หลิน​สวิน​แจ้งมรรค​นิรันดร์​ก็​จะหลอม​มัน​ได้​ ควบ​รวม​เป็น​กฎเกณฑ์​นิรันดร์​ของ​ตน​

แน่นอน​ว่า​เก็บ​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​นี้​ไว้​ได้​ด้วย​ ถ้าเป็น​เช่นนี้​ภายหน้า​ย่อม​สามารถ​สร้าง​ขุม​อำนาจ​ที่​คงอยู่​ชั่วนิรันดร์​แห่ง​หนึ่ง​ขึ้น​มาได้​

ครู่ใหญ่​หลิน​สวิน​จึงตื่น​จาก​ห้วง​ความคิด​

‘ควร​เดินทาง​กลับ​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​แล้ว​…’

เขา​หยัด​ร่าง​ขึ้น​และ​ออกจาก​ถ้ำสถิต​ไป​

หลังจากนั้น​ครู่หนึ่ง​

หลิน​สวิน​มาพบ​หัวหน้า​หอ​แรก​นภา​เสวียน​เฟยห​ลิง​กับ​หัวหน้า​หอ​แรก​มายา​ตู๋​กู​ยง​ที่​เรือน​มรรค​กลาง​ พูดถึง​เรื่อง​ที่​ตน​ตัดสินใจ​มุ่งหน้า​ไป​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​กับ​ทั้งสอง​คน​

ทั้งสอง​ต่าง​พยักหน้า​รับคำ​

สำหรับ​หลิน​สวิน​ใน​ตอนนี้​ นอก​เสีย​จากว่า​ร่าง​ต้น​ระดับ​นิรันดร์​ลงมือ​ มิฉะนั้น​บน​โลก​นี้​ก็​แทบ​ไม่มีใคร​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​เขา​

ยิ่งไปกว่านั้น​สถานที่​อย่าง​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​ เป็น​แค่​เพียง​ดินแดน​แห่ง​หนึ่ง​ใน​โลก​พัน​จักรวาล​ ทั้ง​ตกต่ำ​มานาน​แล้ว​ ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ที่ผ่านมา​นี้​แทบจะ​ถูก​โลก​ยอด​นิรันดร์​ลืมเลือน​

สถานที่​เช่นนี้​ไหน​เลย​จะมีคู่ต่อสู้​ที่​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​หลิน​สวิน​ปรากฏตัว​

“แม้ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​จะตกต่ำ​มานาน​ แต่กลับ​มีแหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​หนึ่ง​ใน​จตุ​โบราณสถาน​ สถานที่​ซึ่งเชื่อมต่อ​กับ​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ กล่าว​ได้​ว่า​สภาพแวดล้อม​เอื้ออำนวย​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​มาจาก​ตระกูล​เสวียน​ ย่อม​รู้​สถานการณ์​ของ​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​อย่าง​ดี​ “สิ่งที่​น่าเสียดาย​คือ​แม้ว่า​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​จะมีวาสนา​และ​ศุภโชค​เช่นกัน​ แต่​ส่วนใหญ่​ถูก​ชิงไป​นาน​แล้ว​ ตอนนี้​จึงกลายเป็น​สถานที่​แก่งแย่ง​แห่ง​หนึ่ง​ยาม​ยุคสมัย​ผัน​เปลี่ยน​ มีเพียง​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ระดับ​นิรันดร์​ที่​มีคุณสมบัติ​ฟันฝ่า​อยู่​ใน​นั้น​ อันตราย​เกินไป​”

“แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ยัง​เป็น​สถานที่​ซึ่งสำนัก​คีรี​ดวงกมล​ของ​พวก​เจ้าตั้งอยู่​ เรียก​ว่า​เป็นแดน​ต้นกำเนิด​มหา​มรรค​ของ​ทั่วหล้า​หมื่น​พิภพ​ หาก​ย้อน​ทวน​ต้นกำเนิด​ โลก​ยอด​นิรันดร์​นี้​ก็​มีความสัมพันธ์​บางอย่าง​กับ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​เช่นกัน​”

“แต่​เมื่อนานมาแล้ว​พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​หมดกำลัง​ ไม่อย่างนั้น​คีรี​ดวงกมล​ของ​พวก​เจ้าคง​ไม่มีทาง​ถูก​ศัตรู​เหยียบย่ำ​โดยง่าย​”

หลิน​สวิน​ได้ยิน​ถึงตรงนี้​แล้ว​นึกถึง​ ‘ซาก​คีรี​ดวงกมล​’ ที่​เคย​เห็น​ใน​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​เมื่อ​ตอนนั้น​ เขา​พลัน​ทอดถอนใจ​อย่า​งอด​ไม่อยู่​

“ผู้อาวุโส​รู้เรื่อง​ตอนนั้น​ด้วย​หรือ​”

หลิน​สวิน​กล่าว​

เสวียน​เฟยห​ลิง​กล่าว​ “แน่นอน​ ทว่า​ความพินาศ​ย่อยยับ​ตรง​ประตู​ทางเข้า​คีรี​ดวงกมล​ของ​พวก​เจ้าไม่เกี่ยวกับ​ความ​แข็งแกร่ง​หรือ​อ่อนแอ​ของ​ศัตรู​ แต่​เป็น​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​สังเกตเห็น​ว่า​พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​อ่อนกำลัง​ตั้งแต่​ช่วงต้น​ดึกดำบรรพ์​ จึงได้​ย้าย​สำนัก​ไป​อยู่​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ก่อน​แล้ว​”

“มิน่าเล่า​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​ เขา​รู้อยู่​ก่อน​แล้ว​ว่า​กำลัง​พล​ที่​ทำให้​ประตู​ทางเข้า​คีรี​ดวงกมล​พินาศ​ย่อยยับ​นั้น​ มาจาก​หก​เรือน​มรรค​ใหญ่​แห่ง​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​

แต่​ตอนนี้​ดูท่า​ว่า​ประตู​คีรี​ดวงกมล​ที่​ถูก​พวกเขา​เหยียบย่ำ​เมื่อ​ปี​นั้น​คง​เป็น​แค่​เปลือก​แล้ว​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​สามารถ​ทำได้​

“จริง​สิ หาก​เจ้าจากไป​ครั้งนี้​ ช่วย​พา​ลื่อ​คน​นั้น​ของ​ข้า​ไป​ด้วย​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​พลัน​กล่าว​

หลิน​สวิน​กล่าว​ “ผู้อาวุโส​ก็​คิด​พา​คน​ตระกูล​ตน​มาแดน​แรกเริ่ม​หรือ​”

เสวียน​เฟยห​ลิง​พยัก​หน้ายิ้ม​กล่าว​ “ไม่ผิด​ เดิม​ข้า​คิด​รอ​อีก​สอง​สามปี​ค่อย​ไป​เยือน​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​ แต่​หาก​มีเจ้าไป​แทน​ ข้า​คง​ไม่ต้อง​เสียเวลา​ไป​กลับ​”

หลิน​สวิน​รับคำ​อย่าง​ยินดี​

หลังจาก​บอกลา​เสวียน​เฟยห​ลิง​กับ​ตู๋​กู​ยง​ เขา​ก็​ไปหา​เสวียน​จิ่วอิ้น​กับ​จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​

หอ​แรก​นภา​ เรือน​เมฆาคลั่ง​

เมื่อ​เห็น​หลิน​สวิน​ เสวียน​จิ่วอิ้น​ยิ้ม​ระรื่น​กล่าว​ “ข้า​ก็​ว่า​อยู่​ว่า​เป็น​ใคร​ ที่แท้​ก็​เป็น​ใต้เท้า​หลิน​หัวหน้า​หอ​แรก​พิสุทธิ์​ที่​ชื่อเสียง​สะเทือน​ใต้​หล้า​”

หลิน​สวิน​ใช้มือ​ข้าง​หนึ่ง​ตบ​บ่า​เขา​ “เจอ​หัวหน้า​หอ​ทำไม​ไม่คารวะ​”

เสวียน​จิ่วอิ้น​เจ็บ​จน​แยกเขี้ยว​ยิงฟัน​ รีบ​ร้องขอ​ความเมตตา​ไม่หยุด​

หลิน​สวิน​ยิ้ม​อย่า​งอด​ไม่ได้​ กล่าวว่า​ “เตรียมตัว​กลับ​ไป​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​พร้อม​ข้า​”

“ข้า​ไป​ด้วย​”

ห่าง​ไป​ไม่ไกล​จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ยอด​กล่าว​ไม่ได้​

“แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​ทิ้ง​เจ้าไว้​โดย​ไม่สนใจ​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​พลาง​มอง​จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​

อาภรณ์​ขาว​ของ​นาง​พลิ้วไหว​ เอว​คาดเข็มขัด​ทอง​ งามผุดผ่อง​ดั่ง​ภาพวาด​ บุคลิก​เยียบ​เย็น​ดุจ​น้ำแข็ง​ งดงาม​ขึ้น​เรื่อยๆ​

ตอนนี้​นาง​เหมือนกับ​เสวียน​จิ่วอิ้น​ ล้วน​ก้าว​สู่มรรคา​อมตะ​อย่าง​ราบรื่น​ตั้งแต่​สิบ​กว่า​ปีก่อน​แล้ว​ ปัจจุบัน​ต่าง​มีมรรค​วิถี​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​

เปรียบเทียบ​กับ​หลิน​สวิน​แล้ว​ การ​เลื่อนขั้น​ไม่อาจ​พูด​ได้​ว่า​เร็ว​มาก​นัก​

แต่​เทียบ​กับ​คนอื่น​แล้ว​เรียก​ได้​ว่า​มีพัฒนาการ​รวดเร็ว​

ไม่นาน​หลิน​สวิน​ก็​พา​เสวียน​จิ่วอิ้น​และ​จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​กลับมา​ถ้ำสถิต​พร้อมกัน​

“ซย่า​จื้อ​ พวกเรา​ควร​ออกเดินทาง​แล้ว​”

ซย่า​จื้อ​กำลัง​แทะ​เมล็ด​แตง​ ได้ยิน​ดังนั้น​แล้ว​ขานรับ​ว่า​อืม​ก่อน​ลุกขึ้น​กล่าว​ “ไป​เถอะ​”

ไม่เคย​มีความลังเล​หรือ​ใคร่ครวญ​ใดๆ​ เป็นธรรมชาติ​จน​เหมือน​แค่​ออก​ไป​เดินเล่น​รอบ​หนึ่ง​

หลิน​สวิน​ทิ้ง​กาย​มรรค​ทั้ง​ห้า​ไว้​ให้​คอย​ดูแล​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​และ​จัดการ​ทุก​เรื่อง​ใน​สำนัก​ได้​ตลอดเวลา​

เตา​กระบี่​ไร้​ก้นบึ้ง​ยัง​ถูก​หลิน​สวิน​ทิ้ง​ไว้​ด้วย​ มีกาย​มรรค​เพลิง​แดง​ กาย​มรรค​ไม้เขียว​ กาย​มรรค​ทองขาว​ช่วย​หลอม​ด้วยกัน​

เจต​วัตถุ​และ​วัตถุดิบ​เทพ​ที่​ชิงมาจาก​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​เหล่านั้น​ สามารถ​ยกระดับ​อานุภาพ​ของ​เตา​กระบี่​ไร้​ก้นบึ้ง​ได้​อีก​ช่วง​ใหญ่​

สรุป​คือ​ตอนนี้​ไม่ว่า​หลิน​สวิน​ทำ​เรื่อง​ใด​ เวลา​ที่​ถูก​ใช้ไป​ล้วน​ไม่สิ้นเปลือง​แม้แต่น้อย​

วันนั้น​หลิน​สวิน​ ซย่า​จื้อ​ เสวียน​จิ่วอิ้น​ จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​ออกจาก​แดน​แรกเริ่ม​ไป​พร้อมกัน​

ฟุ่บ​!

ใน​เขตแดน​ฟ้าดารา​นอก​เวิ้ง​ฟ้า ยาน​น้อย​ลำ​หนึ่ง​นำ​พวก​หลิน​สวิน​เดินทาง​ไป​ด้วย​ความเร็ว​ว่องไว​ แสงวาบ​เดียว​ก็​ข้าม​ผ่านฟ้า​ดารา​แห่ง​หนึ่ง​ราว​แล่น​ผ่าน​ห้วง​มิติ​ ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​เหมือน​ดาว​เคลื่อน​ดารา​คล้อย​

เพียง​ไม่กี่​ชั่ว​ยาม​

ประตู​สีทอง​มหึมา​กว้าง​พัน​จั้งบาน​หนึ่ง​ปรากฏ​ใน​ครรลอง​สายตา​ ราวกับ​สะพาน​รุ้ง​สีทอง​สาย​หนึ่ง​พาด​ขวาง​กลางอากาศ​

นี่​คือ​หนึ่ง​ใน​ประตู​ซึ่งเชื่อมต่อ​จาก​ ‘เมือง​จรด​ฟ้า’ ด่าน​นภา​อมตะ​ที่สี่​สิบ​เก้า​ของ​แดน​ใหญ่​พัน​ศึก​มายัง​โลก​ยอด​นิรันดร์​

เมื่อ​หลิน​สวิน​ขับเคลื่อน​ยาน​มาถึงก็​ผ่าน​บานประตู​สีทอง​นี้​อย่าง​ราบรื่น​ ทัศนวิสัย​พลัน​แปรเปลี่ยน​ มาถึงใน​เมือง​จรด​ฟ้าทันที​

เมือง​จรด​ฟ้า!

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ด่าน​สุดท้าย​ของ​แดน​ใหญ่​พัน​ศึก​ เมือง​จรด​ฟ้าเป็น​ศูนย์กลาง​สำคัญ​ใน​การ​เชื่อมต่อ​กับ​โลก​ยอด​นิรันดร์​

ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ที่ผ่านมา​มีขุม​อำนาจ​จาก​โลก​ยอด​นิรันดร์​มากมาย​ตั้งถิ่นฐาน​ที่​เมือง​นี้​ เปิดกิจการ​สารพัด​เพื่อ​รับซื้อ​สมบัติ​นานัปการ​ที่​หา​ได้​แค่​ใน​แดน​ใหญ่​พัน​ศึก​

เช่น​สมบัติ​อย่าง​มุก​ยมโลก​และ​มุก​บรรจุ​มรรค​ หาก​อยู่​ใน​โลก​ยอด​นิรันดร์​ก็​เป็น​ทรัพยากร​ใน​การ​ฝึก​ปราณ​ที่​ขายดี​อย่างยิ่ง​

นอกจากนี้​ยังมี​เผ่า​จักรพรรดิ​อมตะ​มากมาย​ลงหลักปักฐาน​ ควบคุม​ดูแล​อยู่​ที่นี่​โดยเฉพาะ​ เป้าหมาย​คือ​เพื่อ​เชิญชวน​อัจฉริยบุคคล​ให้ได้​เร็ว​ที่สุด​!

ต้อง​รู้​ว่า​ขอ​แค่​เป็น​ผู้​เข้าสู่​แดน​ใหญ่​พัน​ศึก​ ทั้ง​ผ่าน​การเข่นฆ่า​และ​นองเลือด​นับไม่ถ้วน​จน​มาถึงด่าน​นภา​อมตะ​ที่สี่​สิบ​เก้า​นี้​ได้​ ย่อม​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​ใน​หมื่น​คน​ยัง​หาไม่​ได้​ทั้งสิ้น​

ปี​นั้น​หลิน​สวิน​ก็​เคย​บุก​ฝ่าจาก​ด่าน​นภา​อมตะ​ด่าน​แรก​ มาถึงเมือง​จรด​ฟ้าด่าน​นภา​อมตะ​ที่สี่​สิบ​เก้า​นี้​ตลอดทาง​

ตอนนั้น​เขา​เป็น​ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​

แต่​ตอนนี้​เมื่อ​มาอีกครั้ง​ เขา​เป็น​ระดับ​อมตะ​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​แล้ว​!

เมื่อ​มาถึงเมือง​นี้​ใน​ใจหลิน​สวิน​อด​นึกถึง​ความทรงจำ​มากมาย​ใน​ปี​นั้น​ไม่ได้​ เขา​เก็บ​ยาน​น้อยลง​ไป​พลาง​กล่าว​ “ทุกคน​ เดินเล่น​ใน​เมือง​นี้​เป็นเพื่อน​ข้า​หน่อย​เป็น​อย่างไร​”

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท