ตอนที่ 2971 ศิษย์อาจารย์เจอกัน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

เมือง​จรด​ฟ้าเด่น​ตระหง่าน​และ​ยิ่งใหญ่​สง่างาม ส่อง​ประกาย​เยียบ​เย็น​เหมือน​หล่อ​จาก​ทอง​เทพ​ ท่ามกลาง​ความ​ราง​เลือน​ยังมี​แสงสีแดงเข้ม​ชั้นหนึ่ง​ปรากฏ​เหมือน​แต้ม​แสงโลหิต​

เล่าลือ​ว่า​นี่​คือ​เลือด​จักรพรรดิ​ที่​ผู้​แข็งแกร่ง​ทุก​ยุคสมัย​ซึ่งสิ้นชีพ​ไป​หลั่ง​ไว้​ยาม​กรำ​ศึก​นับแต่​โบราณ​ ถึงขั้น​มีเลือด​ของ​ระดับ​อมตะ​ด้วย​

แน่นอน​ว่า​แห้ง​เกรอะกรัง​นาน​แล้ว​ แก่น​พลัง​สลาย​สิ้น​ ไม่อย่างนั้น​เมือง​แห่ง​นี้​คง​มีไอ​สังหาร​แผ่ซ่าน​ ไม่อาจ​เข้าใกล้​ได้​แน่นอน​

หอ​ประตูเมือง​มหึมา​สูงถึงหลาย​พัน​จั้ง กว้างใหญ่​ไพศาล​ แผ่​ความกดดัน​ทำให้​ผู้คน​หวั่นหวาด​

ประตู​ทางเข้า​ซึ่งหลอม​จาก​ทราย​เทพ​ธาร​ดารา​กับ​วัตถุ​อมตะ​ ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​สั่นสะท้าน​

นี่​ก็​คือ​เมือง​จรด​ฟ้า!

สถานที่​ซึ่งผู้ฝึก​ปราณ​นับไม่ถ้วน​ของ​โลก​พัน​จักรวาล​ใฝ่ฝัน​อยาก​มาถึงนับแต่​โบราณ​จวบ​จนบัดนี้​ ขอ​แค่​มาถึงที่นี่​ก็​มีโอกาส​ทะยาน​ขึ้นไป​สู่โลก​ยอด​นิรันดร์​!

สิ่งปลูกสร้าง​ใน​เมือง​จรด​ฟ้าล้วน​เก่าแก่​หา​ใด​เปรียบ​ บรรยากาศ​ครัดเคร่ง​ ท้องถนน​ตัด​สลับ​กัน​ คึกคัก​รุ่งเรือง​ ทุกหน​แห่ง​คือ​ภาพ​จอแจ​อย่าง​ผู้คน​สัญจร​คลาคล่ำ​ ม้าเกวียน​สวน​กัน​ขวักไขว่​

พวก​หลิน​สวิน​ล้วน​เก็บ​กลิ่นอาย​ทั้งตัว​ก้าวเดิน​อยู่​ภายใน​นั้น​

ระหว่าง​เดินเล่น​ใน​สมอง​หลิน​สวิน​ปรากฏ​ภาพ​มากมาย​

ปี​นั้น​เขา​เคย​เจอ​อาจารย์​อา​คง​เจวี๋ย​ที่​สูญสิ้น​ปัญญา​ราวกับ​เสียสติ​ใน​เมือง​นี้​

เคย​เข้าร่วม​ภารกิจ​ใน​ ‘โบราณสถาน​ทวยเทพ​’ ที่อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​นี้​ไป​ ผูกพยาบาท​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​สี่ตระกูล​ตง​หวง​

เคย​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​ชั้นเลิศ​ใต้​ต้น​หง​เห​มิงหมื่น​มรรค​ แจ้งมรรค​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ สังหาร​คน​จาก​น่านฟ้า​ที่​แปด​อย่าง​พวก​ฉีห​ลิ​งอ​วิ๋น​ จงหลี​เซียว​ ชือพั่วจ​วิน​ใน​ครา​เดียว​

นอก​โบราณสถาน​ทวยเทพ​นี้​เอง​ที่​เขา​เจอ​เคราะห์​สังหาร​ ด้วย​มีศิษย์​พี่​สี่ห​ลิง​เสวียน​จื่อ​กับ​อาจารย์​อา​คง​เจวี๋ย​คุ้มครอง​จึงโชคดี​พ้นเคราะห์​มาได้​…

เวลานี้​เรื่อง​ใน​อดีต​มากมาย​เหมือน​แจ่มชัด​ขึ้น​มา ทำให้​ใน​ใจหลิน​สวิน​ทอดถอนใจ​ไม่หยุด​

เขา​มาถึงตรงจุด​ที่​ ‘ศิลา​ศึก​ข้ามแดน​’ ตั้งอยู่​โดยไม่รู้ตัว​

ศิลา​ศึก​ข้ามแดน​สัมผัส​พลัง​ต่อสู้​และ​ผลงาน​การต่อสู้​ใน​แดน​ใหญ่​พัน​ศึก​ของ​ระดับ​จักรพรรดิ​ได้​ ปี​นั้น​หลิน​สวิน​ก็​เคย​ก้าว​สู่อันดับ​หนึ่ง​ของ​กระดาน​เร้นลับ​ใน​ครา​เดียว​ ไม่มีใคร​เหนือกว่า​!

หน้า​ศิลา​ศึก​ข้ามแดน​มีเงาร่าง​มากมาย​รวมตัวกัน​

แต่ละคน​กลิ่นอาย​แข็งแกร่ง​ เผย​อานุภาพ​ผิดธรรมดา​ บ้าง​สง่างามไร้​เทียมทาน​ บ้าง​อหังการ​ทะยาน​ฟ้า บ้าง​เหมือน​เซียน​เยือน​โลก​โลกีย์​ บ้าง​ราวกับ​นาย​เหนือ​หัว​สัญจร​กลาง​โลก​…

ตั้งแต่​อดีต​ถึงปัจจุบัน​ ขอ​เพียง​เป็น​ผู้​เข้าสู่​แดน​ใหญ่​พัน​ศึก​ย่อม​มีพลัง​ปราณ​ระดับ​จักรพรรดิ​ขึ้นไป​ทั้งสิ้น​

ส่วน​ผู้เดินทาง​และ​ท่อง​ผจญ​จาก​ด่าน​นภา​อมตะ​ที่หนึ่ง​มาถึงด่าน​นภา​อมตะ​ที่สี่​สิบ​เก้า​ได้​ในที่สุด​ ก็​เป็น​บุคคล​แห่ง​ยุค​ชั้นยอด​ใน​ระดับ​จักรพรรดิ​ เป็น​ผู้​ร้ายกาจ​ยาก​จะหา​ใน​หมื่น​คน​!

บริเวณ​ใกล้เคียง​ศิลา​ศึก​ข้ามแดน​นี้​ล้วน​เป็น​บุคคล​แห่ง​ยุค​เช่นนี้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​

“ย้อน​นึกถึง​ปี​นั้น​ ผู้อาวุโส​หลิน​สวิน​ก็​เคย​ทดสอบ​อันดับ​ที่นี่​ ตอนนั้น​เขา​ยัง​ไม่แจ้งมรรค​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ แต่​ตอนนี้​ได้ยิน​ว่า​เขา​เป็น​ยักษ์​ใหญ่​ระดับ​อมตะ​ซึ่งเจิด​จรัส​ที่สุด​ของ​โลก​ยอด​นิรันดร์​แล้ว​!”

มีคน​ทอดถอนใจ​

หลิน​สวิน​!

ผู้​โดดเด่น​ใน​ระดับ​จักรพรรดิ​ที่อยู่​ใกล้​ต่าง​นัยน์ตา​หด​รัด​อย่า​งอด​ไม่ได้​ สีหน้าแตก​ต่างกัน​ออก​ไป​

“ใต้​หล้า​มัก​ปรากฏ​อัจฉริยะ​ ยุคสมัย​ของ​หลิน​สวิน​ต้อง​ผัน​ผ่าน​ ภายหน้า​ใต้​หล้า​ย่อม​ถูก​ลิขิต​ให้​เป็น​ยุค​ของ​พวกเรา​แน่​!”

มีคน​ดวง​ตาวาว​โรจน์​ เปี่ยม​ความทะเยอทะยาน​

“ไม่ผิด​ พวกเรา​ผ่านการทดสอบ​เป็น​ตาย​และ​การเข่นฆ่า​สังหาร​นับไม่ถ้วน​จน​มาถึงเมือง​จรด​ฟ้านี้​ วันหน้า​ต้อง​ฉายแวว​เจิด​จรัส​อัศจรรย์​ สร้าง​ตำนาน​ของ​พวกเรา​ใน​โลก​ยอด​นิรันดร์​ได้​แน่​!”

“ใช่ ลูกผู้ชาย​ต้อง​อย่างนี้​!”

เสียง​มากมาย​ดัง​ขึ้น​ทันที​ ล้วน​มั่นใจ​เต็มเปี่ยม​ เหิมหาญ​ใจกล้า​

พวก​หลิน​สวิน​ เสวียน​จิ่วอิ้น​สบตา​กัน​วูบ​หนึ่ง​ ล้วน​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​อย่า​งอด​ไม่ได้​

ด้วย​ฐานะ​ของ​พวกเขา​ใน​ปัจจุบัน​ แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ กลับเป็น​ว่า​รู้สึก​สนใจ​ยิ่งนัก​ เพราะ​ตอนนั้น​พวกเขา​ก็​เป็น​เช่นนี้​

คลื่นลูกใหม่​แซงคลื่น​ลูก​เก่า​ คนรุ่นใหม่​เหนือกว่า​คน​รุ่นเก่า​

แต่​จาก​มุมมอง​ของ​เสวียน​จิ่วอิ้น​กับ​จิน​เทียน​เสวียน​เย​วี่ย​ คนรุ่นใหม่​รุ่น​แล้ว​รุ่น​เล่า​ต่อจากนี้​ คิด​จะทำลาย​ทุก​สถิติ​ที่​หลิน​สวิน​สร้าง​ไว้​ตอนนั้น​… คง​แทบ​ไม่มีหวัง​เท่าไร​

“คุยโว​โอ้อวด​ไม่กระดาก​”

ทันใดนั้น​เสียง​เย็นชา​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ ทำให้​ระดับ​จักรพรรดิ​ซึ่งฮึกเหิม​ใน​ที่​นั้น​อด​มุ่น​คิ้ว​ไม่ได้​ หัน​มอง​ไป​พร้อมกัน​

ก็​เห็น​ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​คน​หนึ่ง​เดิน​มา “ขอ​ถามทุกท่าน​ในที่นี้​ จน​ปัจจุบัน​ผู้​แจ้งมรรค​ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​โดย​ใช้เวลา​ไม่เกิน​ห้า​ร้อย​ปี​มีกี่​คน​”

ทุกคน​มองหน้า​กัน​ไปมา​ ไม่เข้าใจ​ว่า​นี่​หมายความว่า​อะไร​อยู่​บ้าง​

“เช่นนั้น​ข้า​ขอ​ถามอีก​ประโยค​ จน​ปัจจุบัน​ผู้​แจ้งมรรค​ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​ โดย​ใช้เวลา​ไม่เกิน​สอง​ร้อย​ปี​เล่า​มีกี่​คน​”

ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​กวาด​มอง​ทุก​คนใน​ที่​นั้น​

บรรยากาศ​เงียบสงัด​ยิ่งกว่า​เดิม​ใน​ชั่วขณะ​เดียว​ ทุกคน​ตระหนัก​ได้​รางๆ​ แล้ว​ว่า​ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​จะพูด​อะไร​

“ทำไม​ไม่มีใคร​พูด​เล่า​”

ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​กล่าว​ “ช่างเถิด​ ข้า​บอก​พวก​เจ้าก็ได้​ ตอนนั้น​ยาม​ผู้อาวุโส​หลิน​สวิน​แจ้งมรรค​ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​ เขา​ใช้เวลา​ฝึก​ปราณ​ไม่เกิน​ร้อย​ปี​ ฝึก​ปราณ​มาถึงตอนนี้​เพิ่ง​ผ่าน​ไป​ไม่ถึงสี่ร้อย​ปี​ หาก​กล่าวถึง​อายุ​ ตอนนี้​เขา​ถึงขั้น​อายุ​มาก​สู้คน​ส่วนใหญ่​ใน​หมู่​พวก​เจ้าไม่ได้​ แต่​ปัจจุบัน​เขา​เป็น​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ที่​ชื่อเสียง​สะเทือน​โลก​ยอด​นิรันดร์​แล้ว​!”

“รู้​ไหม​ว่า​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​คือ​อะไร​ บุคคล​ที่​มีพลัง​ปราณ​ทะลวง​ขั้น​หลุดพ้น​!”

“รู้​ไหม​ว่า​ชื่อเสียง​สะเทือน​ใต้​หล้า​คือ​อะไร​ ทั้ง​เก้า​น่านฟ้า​ใหญ่​ล้วน​รู้จัก​ชื่อ​ของ​เขา​!”

เมื่อ​เอ่ย​คำพูด​นี้​ออกมา​ ใน​ลาน​เงียบสนิท​ไร้​สุ้มเสียง​

ทุกคน​อึ้ง​งัน​ใจกระเพื่อม​ไหว​ ไม่ถึงร้อย​ปี​ก็​แจ้งมรรค​ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​?

ไม่ถึงสี่ร้อย​ปี​ก็​แจ้งมรรค​ขั้น​หลุดพ้น​แล้ว​?

ชื่อเสียง​สะเทือน​เก้า​น่านฟ้า​ใหญ่​?

ทุก​ประโยค​ราวกับ​ภูเขาใหญ่​ลูก​หนึ่ง​ กด​ทับ​ใจเหล่า​บุคคล​แห่ง​ยุค​ใน​ที่​นั้น​เต็มแรง​ ทำเอา​พวกเขา​บางคน​หน้าเจื่อน​ บ้าง​ตกตะลึง​เหม่อลอย​

ทั้ง​มีคน​เผย​สีหน้า​ไม่พอใจ​ กล่าว​อย่าง​เย็นชา​ “เจ้าเป็น​ใคร​ ทำไม​ถึงรู้ตื้นลึกหนาบาง​ของ​หลิน​สวิน​ อาศัย​คำพูด​นี้​ของ​เจ้า ใคร​จะรู้​ว่า​จริง​หรือ​เท็จ​”

ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​กล่าว​ “เชื่อ​หรือไม่​เชื่อ​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​พวก​เจ้า”

พูด​จบ​เขา​ก็​หันหลัง​จากไป​

“ดูเหมือนว่า​เจ้าหมอ​นี่​จะรู้จัก​เจ้าดี​ทีเดียว​”

เสวียน​จิ่วอิ้น​ที่​เห็น​ทุก​อย่างนี้​ใน​สายตา​อด​แปลกใจ​ไม่ได้​

“ศิษย์​ของ​ข้า​ ถ้าไม่รู้จัก​อาจารย์​อย่าง​ข้า​จะไม่ได้ความ​แย่​หรือ​”

หลิน​สวิน​พูด​พลาง​ไล่ตาม​ไป​

ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ล้วน​เก็บ​กลิ่นอาย​ คนใน​ที่​นั้น​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ แต่​ตอนนี้​เมื่อ​หลิน​สวิน​ตาม​ไป​ ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​รู้ตัว​ทันที​ กล่าว​โดย​ไม่แม้แต่​จะหัน​กลับมา​มอง​ “ทำไม​ ไม่พอใจ​เลย​คิด​ลงมือ​หรือ​ เมือง​จรด​ฟ้านี้​มีพลัง​ระเบียบ​ปกคลุม​ พวกเรา​มิสู้ไป​นอกเมือง​เพื่อ​ประลอง​กัน​หน่อย​เป็น​อย่างไร​”

น้ำเสียง​ราบเรียบ​ แต่กลับ​เปี่ยม​ความ​หยิ่งผยอง​มั่นใจ​

เสียงหัวเราะ​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ “เอ๋​ ไม่เจอกัน​หลาย​ปี​เจ้ากล้า​ท้าทาย​ข้า​แล้ว​”

ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​ร่าง​สะท้าน​หันหลัง​ขวับ​ เมื่อ​เห็น​รูปลักษณ์​ของ​ผู้​เอ่ยปาก​อย่าง​ชัดเจน​ บน​สีหน้า​ราบเรียบ​นิ่ง​สงบ​ก่อนหน้านี้​ฉายแวว​อึ้ง​งัน​โดย​ไม่อาจ​ระงับ​ ดวงตา​เบิก​กว้าง​เล็กน้อย​

ครู่ใหญ่​เขา​จึงเหมือน​ได้สติ​กลับมา​ กล่าว​เสียงหลง​ “อาจารย์​ ทำไม​ท่าน​ถึงอยู่​ที่นี่​”

หลิน​สวิน​ยิ้มละไม​กล่าว​ “พูด​แล้วก็​บังเอิญ​ เมื่อ​ครู่​ข้า​เพิ่ง​มาถึงเมือง​นี้​ แต่กลับ​ไม่คิด​ว่า​จะเจอ​เจ้าหนู​อย่าง​เจ้า”

ชายหนุ่ม​ชุด​ป่าน​พาด​กระบี่​ตรงหน้า​นี้​ก็​คือ​ซูไป๋​!

ไม่เจอกัน​หลาย​ปี​ ซูไป๋​ก้าว​สู่ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​แล้ว​ ทั้ง​มีพลัง​ปราณ​ด่าน​แปด​ อยู่​ห่าง​จาก​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ไม่ไกล​

นี่​ทำให้​หลิน​สวิน​อด​ประหลาดใจ​ไม่ได้​

ปี​นั้น​เขา​เคย​กลับ​ไป​ดินแดน​รกร้าง​โบราณ​ ช่วย​ซูไป๋​ซึ่งกรำ​ศึก​อาบ​เลือด​ใน​กำแพง​เมืองด่าน​จักรพรรดิ​กลับมา​ด้วยตัวเอง​ ตอนนั้น​ซูไป๋​มีมรรค​วิถี​แค่​ระดับ​กึ่ง​จักรพรรดิ​

ปัจจุบัน​เพิ่ง​ผ่าน​ไป​ร้อย​กว่า​ปี​เท่านั้น​ ซูไป๋​กลับ​กลายเป็น​ระดับ​มกุฎ​จักรพรรดิ​ด่าน​แปด​แล้ว​ พัฒนาการ​นี้​มาก​จริงๆ​

แน่นอน​ว่า​หาก​เทียบ​กับ​ถังเจียง​ที่​ฝึก​ปราณ​ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ตลอด​แล้วก็​ด้อย​กว่า​อยู่​บ้าง​

ถึงอย่างไร​คน​หนึ่ง​ก็​ถูก​ ‘เลี้ยง​แบบ​ปล่อย​’ ใน​ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​ ส่วน​อีก​คน​ได้รับ​การอบรม​บ่ม​เพาะ​อย่าง​ใส่ใจจาก​เหล่า​สัตว์ประหลาด​เฒ่าใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ตั้งแต่​เด็ก​

แต่​บุคลิก​และ​สภาวะ​จิต​ที่​ผ่าน​การ​เคี่ยว​กรำ​เข่นฆ่า​นองเลือด​นับไม่ถ้วน​บน​ตัว​ซูไป๋​ กลับเป็น​สิ่งที่​ถังเจียง​ไม่อาจ​เทียบ​อยู่​โข​

เวลานี้​ซย่า​จื้อ​ เสวียน​จิ่วอิ้น​ จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​ล้วน​เดิน​มาแล้ว​

“นี่​ก็​คือ​ศิษย์​ชื่อ​ซูไป๋​ที่​เจ้ากล่าวถึง​หรือ​” เสวียน​จิ่วอิ้น​มอง​ซูไป๋​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​ อด​จุ๊ปาก​อย่าง​ประหลาดใจ​ไม่ได้​

“ไม่ผิด​”

หลิน​สวิน​พูด​พลาง​แนะนำ​ซูไป๋​กับ​ทุกคน​

จนถึง​ตอนนี้​ซูไป๋​ยัง​รู้สึก​เหมือน​กำลัง​ฝัน​

หลาย​ปี​นี้​เขา​ก้าว​ผ่านฟ้า​ดารา​ บุก​สังหาร​จาก​ด่าน​นภา​อมตะ​ที่หนึ่ง​มาจนถึง​เมือง​จรด​ฟ้านี้​ ระหว่างทาง​ไม่ว่า​เดิน​ไป​ที่ไหน​ล้วน​ได้ยิน​เสียง​วิพากษ์วิจารณ์​ถึงอาจารย์​

ใน​ใจมุ่งหวัง​อยู่​บ่อยครั้ง​ว่า​ภาพ​เหตุการณ์​ยาม​พบ​อาจารย์​ที่​โลก​ยอด​นิรันดร์​นั้น​จะเป็น​อย่างไร​

แต่​เขา​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​จะเจอ​อาจารย์​ใน​เมือง​จรด​ฟ้านี้​!

เหนือ​ความคาดหมาย​เกินไป​ ทั้ง​น่ายินดี​อย่าง​มาก​!

“ไป​เถอะ​ หา​สถานที่​คุย​กัน​ดี​ๆ”

ใน​ใจหลิน​สวิน​มีเรื่อง​มากมาย​อยาก​ถามซูไป๋​เช่นกัน​

“อาจารย์​โปรด​รอ​สักครู่​”

สีหน้า​ซูไป๋​ดู​อึดอัด​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ “ยัง​ต้อง​รอ​อีก​คน​”

“ใคร​หรือ​”

หลิน​สวิน​เลิกคิ้ว​

ตอนนี้​เอง​เสียง​ไพเราะ​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​แต่ไกล​ “ท่าน​พี่​ ที่แท้​ท่าน​ก็​อยู่​ที่นี่​”

พร้อมกับ​เสียง​นั้น​ หญิงสาว​ชุด​ฟ้าร่าง​สูงโปร่ง​ ผิวขาว​กระจ่าง​ ท่าทาง​งดงาม​คน​หนึ่ง​ก้าวเดิน​มา

หลิน​สวิน​จำได้​ทันที​ ผู้หญิง​คน​นี้​คือ​กู้​ซี!

ปี​นั้น​ยาม​อยู่​ดินแดน​รกร้าง​โบราณ​ กู้​ซีเดินทาง​อย่าง​ยากลำบาก​จน​มาถึงตระกูล​หลิน​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ​จาก​หลิน​สวิน​ภายใต้​อาการ​บาดเจ็บสาหัส​ จึงทำให้​หลิน​สวิน​ไป​ถึงกำแพง​เมืองด่าน​จักรพรรดิ​ทันเวลา​ ช่วย​ซูไป๋​ซึ่งตก​อยู่​ใน​สภาพ​โดดเดี่ยว​ไร้​ที่พึ่ง​กลับมา​ได้​

“ที่แท้​พวก​เจ้าก็​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​กัน​แล้ว​” หลิน​สวิน​ยิ้ม​พลาง​เอ่ยปาก​

ยาม​นี้​กู้​ซีเห็น​หน้าตา​ของ​หลิน​สวิน​ชัดเจน​เช่นกัน​ นา​งอด​กล่าว​อย่าง​ตกใจ​ไม่ได้​ “ผู้อาวุโส​ ทำไม​… ทำไม​ถึงเป็น​ท่าน​เล่า​”

ซูไป๋​รีบ​อธิบาย​เป็น​พัลวัน​ แต่​ดูเหมือน​กู้​ซียัง​ประหลาดใจ​ยิ่ง​ เห็นชัด​ว่าการ​เจอ​หลิน​สวิน​ที่นี่​เป็นเรื่อง​คาดไม่ถึง​สำหรับ​นาง​

“ไป​เถอะ​ ข้า​จำได้​ว่า​ใน​เมือง​จรด​ฟ้านี้​มีหอ​อุดม​ทรัพย์​อยู่​ ‘จอ​กล่อง​ธาร​ไหล​’ เหล้า​กลั่น​ที่​หอ​นั้น​จำหน่าย​เรียก​ได้​ว่า​เป็นเลิศ​ ข้า​จะพา​พวก​เจ้าไป​ลอง​ชิม”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​กล่าว​ ปี​นั้น​อาจารย์​อา​คง​เจวี๋ย​ที่​จิตใจ​ไม่สมประกอบ​ก็​ปรากฏตัว​นอก​หอ​อุดม​ทรัพย์​ โวยวาย​ว่า​อยาก​ดื่ม​จอ​กล่อง​ธาร​ไหล​

หอ​อุดม​ทรัพย์​ ใน​ห้อง​หรูหรา​แห่ง​หนึ่ง​

จอ​กล่อง​ธาร​ไหล​ไห​แล้ว​ไห​เล่า​ถูก​ยก​มา ยังมี​อาหาร​เลิศ​รส​หลายหลาก​อีก​

พวก​หลิน​สวิน​ต่าง​นั่ง​อยู่​ใน​นั้น​ ร่ำสุรา​เจรจา​พา​ที​ เบิกบาน​ปรองดอง​

แต่เพียง​ครู่หนึ่ง​ห้อง​ที่​ปิด​สนิท​มีเสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​

ปึง​ๆๆ!

เสียงเคาะ​ประตู​ดุดัน​หนักหน่วง​นัก​ เสียง​เยียบ​เย็น​หนึ่ง​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ “ซูไป๋​ ข้า​รู้​ว่า​เจ้าอยู่​ที่นี่​ ถ้ากล้า​เจ้าก็​ออกมา​เจอ​ข้า​!”

พวก​หลิน​สวิน​สบตา​กัน​วูบ​หนึ่ง​ ล้วน​หัน​สายตา​ไป​ทาง​ซูไป๋​

ซูไป๋​ขมวดคิ้ว​ “อาจารย์​ พวก​ท่าน​โปรด​รอ​ที่นี่​สักครู่​ เดี๋ยว​ข้า​มา”

เขา​พูด​พลาง​หยัด​ร่าง​ขึ้น​

กู้​ซีลุกขึ้น​ตาม​ “ข้า​ไป​กับ​เจ้า”

“เรื่อง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ อา​ซี เจ้าอยู่​คุย​กับ​อาจารย์​ ข้า​จัดการ​เอง​”

ซูไป๋​ว่า​พลาง​ผลัก​ประตูออก​ไป​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน