นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
ผู้ฝึกปราณมากมายกลั้นหายใจจดจ่อ ในใจประหม่ากังวล
พวกเขารวมตัวกันมาครั้งนี้ หวังจะเชิญให้หลินสวินออกหน้า ทำให้ทั่วหล้าสงบลง นี่เท่ากับล่วงเกินขุมอำนาจที่มาจากภายนอกเหล่านั้นโดยสิ้นเชิงอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่พวกเขาจำต้องทำเช่นนี้
ขืนปล่อยให้วุ่นวายต่อไป ต่อให้ไม่พูดถึงผู้คนทั่วกล้า แม้แต่พวกเขารวมถึงคนในตระกูลและขุมอำนาจของพวกเขาก็จะทยอยประสบเคราะห์
ทั่วหล้าวุ่นวาย ไม่มีใครสามารถวางตัวเป็นคนนอก!
“ทุกท่าน จักรพรรดิเต้ายวนกลับมา ด้วยความใจกว้างและความองอาจของเขาย่อมไม่มีทางนิ่งดูดายแน่ ที่พวกเรามาครั้งนี้บางทีอาจมีจุดประสงค์ของตน บ้างมาเพราะกังวลความอยู่รอดของตน บ้างมาเพื่อตระกูลเบื้องหลัง แต่ว่ากันถึงที่สุด นี่ก็คือการขอความช่วยเหลือให้กับคนทั่วหล้า! ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ขอเพียงพวกเราทำอย่างสุดความสามารถก็ไม่ต้องเสียใจ”
เฒ่าชราชุดเทาที่เป็นผู้นำพูดเสียงขรึม
ทุกคนรอบๆ ต่างพยักหน้า
สามารถเชิญให้หลินสวินลงมือได้หรือไม่ พวกเขาไม่มั่นใจ ในใจจึงล้วนเป็นกังวล
“ทุกท่านสังเกตเห็นหรือไม่ ไกลออกไปนั่นมีผู้แข็งแกร่งจากขุมอำนาจต่างถิ่นจับจ้องพวกเราอยู่”
มีคนพูดเสียงขรึม “พวกเขาคงเกลียดพวกเราเข้ากระดูกแล้ว”
ประโยคเดียวทำเอาคนอื่นๆ ในที่นี้หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
“ถูกพวกเขาชิงชังแล้วอย่างไร ถ้าเฒ่าชราอย่างพวกเราไม่ทำเรื่องเช่นนี้แล้วใครจะทำ ต่อให้ตายข้าก็ไม่เสียใจที่มาที่นี่!”
มีคนพูดด้วยเสียงหนักแน่นทรงพลัง
“เหอะๆ จริงหรือ เช่นนั้นพวกเราก็อยากเห็นนักว่าจักรพรรดิเต้ายวนที่พวกเจ้าพูดถึง จะช่วยคนที่ไม่ใช่ญาติมิตร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างพวกเจ้าหรือไม่”
ห่างออกไปมีผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจต่างถิ่นยิ้มเยาะ เผยความดูถูก
“อยากเชิญให้จักรพรรดิเต้ายวนจัดการพวกเราหรือ พวกเจ้าไม่กลัวตระกูลเบื้องหลังพวกเจ้าถูกกวาดล้างหรือ”
มีคนข่มขู่โดยตรง
“โลกกว้างใหญ่ไพศาลเพียงนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลินเต้ายวนคนเดียวหรอกนะ ต่อให้เขาร้ายกาจแค่ไหน แต่จะสามารถขวางขุมอำนาจทั้งหมดในแต่ละฟ้าดาราของโลกพันจักรวาลได้หรือ”
คำพูดที่เย็นเยียบ ดูถูก ข่มขู่ประโยคแล้วประโยคเล่าดังมาจากไกลๆ
พวกเฒ่าชราชุดเทารวมตัวกันมา หวังจะให้หลินสวินลงมือ ตอนนี้สีหน้าล้วนเปลี่ยนแปลงไม่สามารถสงบได้
พวกเขารู้ว่าครั้งนี้หากกลับไปพร้อมความล้มเหลว สิ่งที่รอคอยพวกเขาคือเคราะห์ทำลายล้างชั้นยอด!
“เสียใจภายหลังหรือไม่”
จู่ๆ ก็มีคนถามขึ้น
“มาขนาดนี้แล้ว จะเสียใจได้อย่างไร”
เฒ่าชราชุดเทาพูดโดยไม่คิด
จากนั้นเขาพลันอึ้งงัน
ในสายตา เงาร่างสง่างามปรากฏกลางอากาศเหนือแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังมองดูพวกเขาอยู่
“ข้าน้อยจางไจ้เหิง นำเหล่าสหายยุทธ์มาคารวะผู้อาวุโส!”
พวกเฒ่าชราชุดเทาคำนับโดยพร้อมเพรียง สีหน้ายากจะปกปิดความตื่นเต้น
จักรพรรดิเต้ายวนปรากฏตัวแล้ว!
สำหรับพวกเขา นี่ไม่ต่างอะไรกับเรื่องน่ายินดีที่สวรรค์ประทานใก้
“การสนทนาก่อนหน้านี้ของพวกเจ้าข้าได้ยินหมดแล้ว รู้จุดประสงค์การมาของพวกเจ้าแล้ว”
หลินสวินพยักหน้าเล็กน้อย
ขณะเดียวกันผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจต่างถิ่นที่ดูอยู่ไกลออกไปแต่ละคนล้วนหัวใจจมดิ่ง ไม่กล้าปริปากพูดอีก ถึงขั้นเกิดความคิดที่จะถอยหนี ตัดสินใจถอยทัพ
ภาพที่เจ็ดขุมอำนาจใหญ่ถูกหลินสวินกวาดล้างภายใต้การสะบัดแขนเสื้อครั้งเดียวเมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ จนตอนนี้ยังกระจายอยู่ทั่วหล้า
ก็เป็นตอนนี้เอง สายตาของหลินสวินกวาดมองมา ทำเอาผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจต่างถิ่นแต่ละคนตัวแข็งทื่อ ราวกับถูกราชันบนฟ้าจับจ้อง สันหลังเย็นวาบ
พวกเขาพลันหมุนตัวหนีทันที
“ตอนนั้นข้าคนแซ่หลินเคยพูดว่า ในรัศมีพันลี้จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ห้ามปรากฏขุมอำนาจใดๆ อีก พวกเจ้ารู้ทั้งรู้ยังจงใจทำ คิดว่าข้าเจรจาง่ายมากนักหรือ”
เสียงราบเรียบก้องอยู่กลางฟ้าดิน ชั่วพริบตา เงาร่างผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจต่างถิ่นเหล่านั้นก็ถูกผนึกอยู่กับที่ ไม่สามารถขยับได้อีกแม้แต่น้อย
“หลินเต้ายวน แค่เจ้าคนเดียวจะสู้กับพลังของทั้งโลกพันจักรวาลได้หรือ”
มีคนร้องเสียงแหลมด้วยความตื่นตระหนก “จะบอกเจ้าให้ ตอนนี้เผ่าจักรพรรดิของแต่ละฟ้าดาราล้วนรวมตัวกันเพื่อมาบดขยี้เจ้า หากเจ้ารู้ความสักหน่อย ไปจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นคราวเคราะห์ย่อมมาเยือนอย่างแน่นอน!”
ตูม!
เสียงยังดังก้องอยู่ ร่างของคนผู้นี้และผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ของขุมอำนาจต่างถิ่นทุกคนล้วนระเบิดออกโดยพร้อมเพรียง กลายเป็นหมอกเลือกกระจายไปทั่ว ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
“มดเขย่าต้นไม้ ไม่รู้จักประมาณตน”
หลินสวินคร้านจะใส่ใจ สายตาของเขามองไปยังพวกจางไจ้เหิงอีกครั้งแล้วเอ่ยว่า “ไม่ว่าพวกเจ้าจะมาด้วยเหตุผลส่วนตัว หรือมาเพื่อสรรพชีวิตทั่วหล้าจริงๆ เรื่องนี้ข้าจะไม่นิ่งดูดาย พวกเจ้ากลับไปรอข่าวเถอะ”
พูดจบเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ
แสงมรรคแถบหนึ่งมาเยือน ห่อหุ้มพวกจางไจ้เหิงแล้วพาพวกเขาเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศจากไป หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หากให้พวกเขาจากไปเอง คงยากจะรอดชีวิตออกจากทะเลกลืนวิญญาณ!
‘ด้วยพลังของข้าคนเดียว ไม่สามารถเดินทางไปฟ้าดาราทั่วหล้าในระยะเวลาสั้นๆ ได้…’
หลินสวินใคร่ครวญในใจ
ฮูม…
เมื่อละอองแสงระลอกหนึ่งไหวเคลื่อน อู๋ซวงที่งดงามบริสุทธิ์ราวกับเด็กสาวคนหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศ
“อู๋ซวง วันนี้เจ้ามาสยบทั่วหล้าแทนข้าเป็นอย่างไร” หลินสวินกล่าว
อู๋ซวงพูดอย่างว่าง่าย “ซวงเอ๋อร์ล้วนทำตามที่นายท่านสั่ง”
“ไปเถอะ ตั้งแต่วันนี้ไป หากมีกำลังพลที่หมายจะก่อเภทภัยให้สรรพชีวิตทั่วหล้าปรากฏตัว ก็ให้เจ้าเป็นคนกำราบ”
พูดจบหลินสวินก็หมุนตัวกลับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
จนกระทั่งเงาร่างของหลินสวินหายไป อู๋ซวงสูดหายใจลึกคราหนึ่ง พึมพำว่า ‘นี่เป็นครั้งแรกที่นายท่านมอบหมายหน้าที่ให้ข้า จะทำพังไม่ได้เด็ดขาด…’
ในดวงตามีชีวิตชีวาของนางปรากฏพลังระเบียบที่เร้นลับยากคาดเดา มองไปยังท้องฟ้าไกลๆ
ฟุ่บ!
เงาร่างของอู๋ซวงเปลี่ยนเป็นเลือนรางกะทันหัน กลายเป็นรุ้งเทพระเบียบพวยพุ่งขึ้นฟ้าเป็นสายๆ จากนั้นเริ่มแผ่ขยายออกไปด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
ไม่กี่อึดใจห้วงอากาศทะเลกลืนวิญญาณที่กว้างใหญ่ไพศาล ก็ปรากฏพลังระเบียบที่ลึกลับและคลุมเครือ ไร้รูปไร้แก่น ผู้ฝึกปราณทั่วไปไม่สามารถสังเกตเห็นได้
แต่ระดับจักรพรรดิขึ้นไปล้วนสังเกตเห็นอย่างฉับไวในทันที ว่ากลางฟ้าดินนี้มีคลื่นระเบียบที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเพิ่มเข้ามา กว้างใหญ่ไพศาลราวกับท้องฟ้า มีความน่าเกรงขามไร้เทียมทาน
ในพื้นที่แห่งหนึ่งของทะเลกลืนวิญญาณ มีขุมอำนาจต่างถิ่นสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันเพื่อช่วงชิงสิทธิ์ในการครอบครองน่านน้ำแถบนั้น
สองฝ่ายล้วนเคลื่อนกำลังระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ จำนวนคนมีถึงหลายร้อยคน
แต่ชั่วพริบตานี้ แสงเคราะห์อันน่ากลัวแถบหนึ่งมาเยือนจากฟากฟ้า เจิดจ้าพร่างพราว ส่องจนระหว่างท้องฟ้าแผลผืนน้ำสว่างไสว
ตูม!
แสงเคราะห์กระแทกลงไป ผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจต่างถิ่นสองกลุ่มนั้นล้วนจิตสิ้นวิญญาณสลาย
ในเวลาเดียวกันสรรพชีวิตที่กระจายอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกันของทะเลกลืนวิญญาณ ไม่ว่าพลังปราณสูงต่ำ ไม่ว่าเป็นขุมอำนาจต่างถิ่นหรือคนในพื้นที่ ล้วนสัมผัสได้ถึงเจตจำนงล้ำเลิศที่แผ่ออกมา
‘วันนี้ ข้าเป็นตัวแทนนายท่านหลินสวินสยบทั่วหล้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหากใครก่อเภทภัยให้สรรพชีวิตทั่วหล้า ฆ่าไม่ละเว้น!’
ประโยคเดียวไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ กลับดังก้องในใจผู้ฝึกปราณบนทะเลกลืนวิญญาณทุกคน ทำเอาพวกเขาล้วนหน้าเปลี่ยนสี
“เป็นพลังระเบียบที่หลินเต้ายวนปลดปล่อยออกมา! ทั้งยังมีจิตวิญญาณ นี่… นี่คือวิญญาณระเบียบในตำนาน มีเพียงแค่ระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าหายากเท่านั้นจึงจะมีได้!”
ระดับอมตะของขุมอำนาจต่างถิ่นคนหนึ่งสูดหายใจสะท้าน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง
พลังระเบียบเช่นนี้ สังหารระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้าอย่างเขาได้อย่างง่ายดาย!
“นี่เป็นการประกาศเตือนทั่วหล้า ว่าหากใครก่อเภทภัยล้วนต้องถูกสังหารหรือ”
ชั่วขณะนี้ขุมอำนาจต่างถิ่นไม่รู้เท่าไรมือเท้าเย็นเฉียบ ตระหนักได้ถึงความย่ำแย่ของสถานการณ์
“จักรพรรดิเต้ายวนลงมือแล้ว!”
“ในที่สุดก็ไม่ต้องถูกขุมอำนาจต่างถิ่นเหล่านั้นสังหารตามอำเภอใจแล้ว!”
ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งในพื้นที่ไม่รู้เท่าไรโห่ร้องด้วยความดีใจ ร้องตะโกนอย่างตื่นเต้น
ข่าวนี้น่าตกใจมาก เพราะไม่จำเป็นต้องกระจายข่าว ทุกคนก็ล้วนรับรู้ได้จากเสียงที่ดังก้องในใจผู้ฝึกปราณทุกคนในเวลาเดียวกัน
“ยังดีๆ ขอแค่ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เช่นนี้ถือว่ายังมีทางถอยได้…”
เฒ่าชราหลายคนสังเกตเห็นความหมายในคำพูดของอู๋ซวงอย่างฉับไว
พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ สามารถต่อสู้ได้ สามารถเข่นฆ่าได้ แต่จะทำร้ายและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริสุทธิ์ไม่ได้!
สิ่งเดียวที่ทำให้ผู้คนไม่แน่ใจคือ อะไรที่เรียกว่า ‘ผู้บริสุทธิ์’ กันแน่
ขอบเขตของผู้บริสุทธิ์อยู่ที่ไหน
นี่คลุมเครือมาก แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้ผู้คนไม่กล้าลงมือโดยพลการ เพราะหากเกิดการต่อสู้ขึ้นมา ใครก็บอกไม่ได้ว่าจะเกิดเคราะห์ภัยขึ้นหรือไม่
“ทะยาน!”
บนเวิ้งฟ้า พลังของอู๋ซวงแผ่ขยายต่อเนื่อง กระจายสู่จักรวรรดิจื่อเย่า ดินแดนรกร้างโบราณ เก้าเขตแดนดาราของทางเดินโบราณฟ้าดารา…
ภูเขาสำนักยุทธ์ก่อเกิดในจักรวรรดิจื่อเย่า
เดิมทีที่นี่เป็นพื้นที่ของสำนักยุทธ์ก่อเกิด ทว่าหลังจากสำนักยุทธ์ก่อเกิดย้ายไปแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เมื่อหลายปีก่อน ก็กลายเป็นสถานที่ไร้เจ้าของ
แม้ในจักรวรรดิจื่อเย่าเองก็มีขุมอำนาจผู้ฝึกปราณไม่น้อย แต่อิทธิพลของสำนักยุทธ์ก่อเกิดฝังลึกเข้าไปในใจผู้คนนานแล้ว ทำให้ไม่มีใครกล้าไปยึดครอง
ทว่าหลังจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกใจขึ้น ภูเขาสำนักยุทธ์ก่อเกิดก็กลายเป็นสถานที่ที่พิบัติเคราะห์ปะทุขึ้น ขุมอำนาจต่างถิ่นมากมายมาเยือน แก่งแย่งชิงดี เกิดการเข่นฆ่านองเลือดไม่รู้เท่าไร
ตอนนี้ภูเขาสำนักยุทธ์ก่อเกิดมีการต่อสู้สะเทือนฟ้าครั้งใหญ่อีกครั้ง ยามการต่อสู้สิ้นสุดลง ที่นี่เต็มไปด้วยศพ เลือดนองราวกับภาพวาด
“ตั้งแต่วันนี้ไป ที่แห่งนี้มีถ้ำสวรรค์วารีนภาของข้าปกครอง!”
ฝั่งผู้ชนะ ระดับอมตะคนหนึ่งแหงนหน้าหัวเราะ ท่าทางย่ามใจอย่างที่สุด
ตูม!
แต่ครู่ต่อมาแสงเคราะห์ที่ราวกับน้ำตกแถบหนึ่งมาเยือนจากฟากฟ้า โจมตีสังหารระดับอมตะคนนี้คาที่ กลายเป็นฝุ่นผงในชั่วพริบตา
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใต้อาณัติล้วนจิตสิ้นวิญญาณสลายไปด้วย
ดินแดนรกร้างโบราณ
การเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทำให้โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาโดยสมบูรณ์นานแล้ว ราวกับแดนพิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ พลังชีวิตสมบูรณ์
และย่อมมีขุมอำนาจต่างถิ่นมากมายรุกล้ำเข้ามา
แต่วันนี้ในใจผู้ฝึกปราณทุกคนในดินแดนรกร้างโบราณ ล้วนมีเสียงที่ไร้คลื่นอารมณ์ของอู๋ซวงดังก้องขึ้น
‘วันนี้ ข้าเป็นตัวแทนนายท่านหลินสวินสยบทั่วหล้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากใครก่อพิบัติทั่วหล้า จะต้องฆ่าเท่านั้น!’
ทันใดนั้นพลันเกิดความโกลาหล
ส่วนในแต่ละเขตแดนดาราของทางเดินโบราณฟ้าดารา ภาพเช่นนี้ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
บรรดาขุมอำนาจใหญ่แต่ละฟ้าดาราในโลกพันจักรวาลที่บุกรุกเข้ามา ล้วนสัมผัสถึงแรงกดดันใหญ่ยิ่ง ทั้งโกรธทั้งตกใจ หวาดกลัวกันถ้วนทั่ว
มีคนไม่เชื่อ เงยหน้าหัวเราะหยัน “ข้าอยากดูนักว่าพลังระเบียบเช่นนี้จะทำอะไรข้าได้!”
เสียงเผยความอหังการ
ทว่าครู่ต่อมาคนผู้นี้ก็ร้องโหยหวนน่าอนาถภายใต้สายตาของทุกคน เขาซึ่งมีมรรควิถีระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ กลายเป็นฝุ่นผงปลิดปลิวภายใต้แสงเคราะห์
ในเวลาหลังจากนั้นภาพเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนบนโลกบางส่วนล้วนฝืนชะตา ไม่เชื่อว่าด้วยคำสั่งเดียวจะทำให้คนยอมสยบได้อย่างไร
ทว่าตอนที่พวกเขาลองต่อต้าน ล้วนพบเจอการสังหารที่มาจากแสงเคราะห์บนท้องฟ้า
จนกระทั่งหลังจากนั้น ในที่สุดผู้ฝึกปราณทั่วหล้าจึงตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของพลังระเบียบที่ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าอย่างลึกซึ้ง!