Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 711 ภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 711 ภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้

ในคลับแห่งหนึ่ง

ชายสองคนกำลังกินข้าวด้วยกัน

ชายหนึ่งคนในนั้นตักอาหารเข้าปาก กระซิบเสียงเบา “เทียนเหมิน พวกเราทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรือเปล่า?”

“ผมเองก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอก”

ชายฝั่งตรงข้ามเอ่ย “แต่ที่ปู้ลั่วให้ก็เยอะจริงๆ เป็นเงื่อนไขที่พวกเราปฏิเสธไม่ได้…”

ใช่แล้ว

สองคนนี้ก็คือเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉิน นักเขียนการ์ตูนระดับเทพซึ่งได้รับเชิญจากเว็บไซต์ใหม่เหลียนเหมิง

แน่นอนว่านี่คือนามปากกาของเขา

และพวกเขาชอบเรียกกันด้วยนามปากกาเมื่อสนทนากันส่วนตัว

“แค่พวกเราทำแบบนี้ ต่อไปชื่อเสียงคงไม่ดีสักเท่าไหร่แล้ว ทำให้พวกเราเหมือนกับสายลับในธุรกิจ เหลียนเหมิงยังต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หานจี้เหม่ยที่ไว้วางใจพวกเรายิ่งต้องแบกรับความรับผิดชอบที่ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดอีก”

ท้ายที่สุดแล้วก็ยังมีพันธนาการทางจรรยาบรรณอยู่

อย่างไรก็ตาม เยี่ยเซินเฉินกังวลกับปัญหาเรื่องชื่อเสียงมากกว่า

เทียนเหมินเอ่ยเสียงเรียบ “สำหรับนักวาดการ์ตูนแล้ว ผลงานชื่อรากฐานของอาชีพ ถ้าผลงานของเราดีพอ ชื่อเสียงย่อมไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ถ้าผลงานแย่เกินไป ต่อให้ชื่อเสียงดีแค่ไหนก็ไม่มีข้าวกิน ส่วนหานจี้เหม่ย พูดได้แค่ว่าเธอใส่ใจกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากเกินไป มีสไตล์การทำงานที่นุ่มนวลเกินไป เป็นเรื่องปกติที่จะเสียเปรียบเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้อย่างหลิงคงที่ทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ถ้าเธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในครั้งนี้ ในอนาคตคงเสียเปรียบน้อยลง นี่ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายกับเธอไปซะทีเดียว”

เยี่ยเซินเฉินพยักหน้า

คล้ายกับว่าจะเป็นเช่นนั้น

พวกเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหานจี้เหม่ย

แต่หากกล่าวว่าชื่อเสียงจะส่งผลต่ออนาคตของพวกเขาคงไม่ถึงขั้นนั้น นักเขียนการ์ตูนเป็นเพียงเบื้องหลัง ไม่ใช่นักแสดงหน้าเวที ผู้ผลิตผลงานที่นิสัยไม่ดีมีถมเถไป

แค่โดนด่าสักยกหนึ่งแล้วก็ผ่านไป

ตราบใดที่ผลงานดี ผู้อ่านไม่มีทางสนใจเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับการแข่งขันทางธุรกิจหรอก

“กลัวก็แต่ว่าหลิงคงข้ามแม่น้ำได้แล้วจะรื้อสะพานทิ้ง…”

“สัญญาที่หลิงคงมอบให้พวกเรามีค่าปรับสูงลิบถ้าผิดสัญญา และค่าปรับของทางเหลียนเหมิง เขาก็ระบุในสัญญาแล้วว่าจะช่วยพวกเราจ่าย เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานทิ้งหรอก ถ้าเขายอมรื้อสะพานของพวกเราโดยจ่ายค่าปรับแพงแสนสาหัสแบบนั้นจริง ต่อไปเขาไปดึงคนจากบริษัทอื่น คงไม่มีใครเชื่อเขาอีกแล้วล่ะ”

เทียนเหมินไม่ได้กังวลเรื่องนี้

หลิงคงรู้กฎพื้นฐานในการแข่งขันทางธุรกิจ

ที่เขาและเยี่ยเซินเฉินเข้าร่วมกับเหลียนเหมิน ก็เพราะต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อข่มขู่ในการเจรจาเงื่อนไขกับปู้ลั่ว

ตอนนี้บรรลุเป้าหมายแล้ว

เวลานี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านกที่ดีย่อมหากิ่งไม้เกาะ เขาเสียสละชื่อเสียงเพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาล

เขาทำสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง

เยี่ยเซินเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง “ทำได้แค่ขอโทษอิ่งจือกับเหลียนเหมิงแล้ว คนเรายอมตายเพราะทรัพย์ นกยอมตายเพราะอาหาร ไม่มีเหตุผลให้เราปล่อยเงื่อนไขที่ดีขนาดนี้ของปู้ลั่วทิ้งไปเพียงเพื่อเหลียนเหมิง ถึงยังไงตอนนั้นพวกเราออกจากปู้ลั่วแล้วเข้าร่วมกับเหลียนเหมิง ก็เพื่อให้ปู้ลั่วมอบสัญญาที่ดีกว่านี้ให้ ตอนนี้ถึงแม้วิธีการจะไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเราก็ได้รับสัญญาที่ใฝ่ฝันจากปู้ลั่ว…”

พูดมาถึงตรงนี้

จู่ๆ เยี่ยเซินเฉินก็เอ่ยขึ้น “เทียนเหมิน คุณว่าครั้งนี้เหลียนเหมิงยังพอมีหวังที่จะต่อสู้กับปู้ลั่วไหม”

“เหอะ”

เทียนเหมินส่งเสียงหัวเราะซึ่งไม่อาจล่วงรู้ความหมาย

หลายวินาทีผ่านไป เยี่ยเซินเฉินจึงหัวเราะตาม

ทั้งสองยกแก้วสุราขึ้นชนกันเบาๆ ก่อนจะจิบหนึ่งคำ

ทั้งหมดนี้ปราศจากบทสนทนา

ต่อให้พวกเขาทั้งสองจะร่วมมือกับอิ่งจือ เดิมทีก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของปู้ลั่วได้อยู่แล้ว

ถ้าหากเหลียนเหมิงเป็นเว็บไซต์ที่สามารถพึ่งพาอาศัยได้จริง ทำไมพวกเขาต้องกระเสือกกระสนกลับไปยังปู้ลั่วแม้ว่าชื่อเสียงจะเสียหายด้วยล่ะ?

จรรยาบรรณใครๆ ก็มี

เพียงแต่สูงต่ำไม่เท่ากัน

……

เว็บไซต์ใหม่เหลียนเหมิง

ผู้อ่านค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่กลับไม่พบผลงานของเยี่ยเซินเฉินและเทียนเหมิน

แรกเริ่มทุกคนคิดว่าเป็นเพียงความผิดพลาดทางเทคนิค จึงไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหามากนัก

ทว่าเมื่อทุกคนเห็นยอดนักสืบฉู่อวี๋ทุ่มอัปเดตอย่างจัดหนักจัดเต็ม แต่ยังไม่เห็นผลงานของทั้งสองคน ในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

‘เทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินทำไมยังไม่เคลื่อนไหว?’

‘เว็บไซต์ใหม่ก็เปิดตัวมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ!’

‘พวกเขาทั้งสองคงไม่ได้หนีไปหรอกนะ?’

‘เทคนอ่านไปแล้วว่างั้น?’

‘ถ้าหนีไปจริงๆ พวกเขาสองคนไม่ได้เทคนอ่านหรอก แต่เทเหลียนเหมิงต่างหากล่ะ!’

‘น่าจะมีความผิดพลาดแหละ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับเว็บไซต์ที่เพิ่งสร้าง’

‘ปัญหาน่าจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้น บางทีพวกเราอาจจะคิดมากไป รอดูไปก่อน’

‘…’

ชาวเน็ตเริ่มสงสัยขึ้นมา

ขณะนั้นเอง

จู่ๆ บนหน้าเว็บก็มีความคิดเห็นหนึ่งปรากฏขึ้น!

‘ให้ตายเถอะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ทุกคนรีบไปดูที่ปู้ลั่วประกาศเร็ว!’

ปู้ลั่ว?

ชาวเน็ตตกตะลึง ทันใดนั้นต่างคนต่างกดเปิดปู้ลั่ว

ทันใดนั้น ข้อความประกาศหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตาของทุกคน!

[ผลงานใหม่ของเทียนเหมินเยี่ยเซินเฉินจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปู้ลั่วเพียงแห่งเดียว ยินดีต้อนรับอาจารย์ทั้งสองกลับบ้าน!!!]

พรึบๆๆ!

ทุกคนต่างงุนงง!

อะไรกัน?

เจ้าสองคนนี้หนีกลับไปปู้ลั่ว?

‘รอเก้อเลย’

‘ผมไปอ่านการ์ตูนที่ปู้ลั่วดีกว่า’

‘สองคนนี้ยังมีจรรยาบรรณในวิชาชีพอยู่หรือเปล่า ตอนแรกบอกว่าเจรจาสัญญากับปู้ลั่วล้มเหลวถึงมาที่เหลียนเหมิงไม่ใช่เหรอ เหลียนเหมิงถูกเจ้าสองคนนี้แกงหม้อใหญ่เลย!’

‘สองคนนี้เล่นบ้าอะไรเนี่ย!’

ทุกคนต่างตกตะลึงกับข่าวนี้!

แฟนคลับของอิ่งจือพากันก่นด่า!

‘ก็แค่เปลี่ยนงานปกติเท่านั้นเอง!’

มีแฟนคลับของเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินแก้ต่าง

แฟนคลับของอิ่งจือกลับเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม

‘แน่นอนว่าการเปลี่ยนงานไม่ใช่ปัญหา แต่พวกคุณทำแบบนี้ตอนที่เหลียนเหมิงเพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ มันคนละเรื่องกันแล้ว เหลียนเหมิงกับสองคนนี้ไม่ได้มีความโกรธแค้นกันมาก่อน ทำไมต้องใจร้ายขนาดนี้ด้วย!’

แฟนคลับของเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินยังไม่ยอมจำแพ้

‘ไม่ใช่ว่าตัวเองจรรยาบรรสูงส่งแล้วจะมาต่อว่าคนอื่นมั่วๆ ได้ จะไปที่เทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินมีอิสระในการเลือก อาจารย์ทั้งสองท่านกล้าทำแบบนี้แปลว่าต้องจ่ายค่าปรับที่ผิดสัญญาแน่ๆ ส่วนที่ควรจ่ายเงินชดเชยก็จ่ายไปแล้ว ยังต้องให้อาจารย์สองท่านทำอะไรอีก!’

จ่ายเงินชดเชย?

แฟนคลับของอิ่งจือตอบโต้

‘ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงินค่าปรับ เห็นชัดๆ ว่าเป็นเรื่องของนิสัยต่างหาก สองคนนี้ใจดำ คิดจะตัดรากของของเหลียนเหมิงเลยว่างั้น!’

‘อย่ามาปากเก่งแต่หน้าคีย์บอร์ด!’

แฟนคลับทั้งสองฝั้งเปิดฉากปะทะฝีปากกัน!

ชาวเน็ตซึ่งผ่านไปมาต่างเอ่ยอย่างสะท้อนใจ

‘หลังจากนี้เหลียนเหมิงจบเห่แล้ว ตอนแรกสู้กับปู้ลั่วไม่ได้มีแววว่าจะชนะเลย ตอนนี้แกนหลักที่เป็นกุญแจสำคัญหายไปสองคนอีก’

เหลียนเหมิงและปู้ลั่วทะเลาะกันใหญ่โต

ชาวเน็ตติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ

ตอนนี้เหลียนเหมิงเกิดเรื่องเช่นนี้ มีใครไม่เข้าใจบ้างว่าหมายความว่าอย่างไร?

ก็ปู้ลั่วดึงตัวบุคลากรน่ะสิ!

นี่คือการขุดรากถอนโคน โหดเหี้ยมเหลือเกิน!

ต้องเข้าใจ!

ว่านักเขียนการ์ตูนที่เหลียนเหมิงนำออกมาได้นั้นน้อยเหลือเกิน!

คิดสะระตะแล้วมีอิ่งจือ บวกกับเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉิน รวมสามคนถ้วน!

ขณะนี้เพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งของคนยอมจำนนต่อศัตรู เหลือเพียงอิ่งจือที่ต่อสู้โดยลำพัง!

หรือว่าหลังจากนี้ทั้งเหลียนเหมิงจะพึ่งพายอดนักสืบฉู่อวี๋เพียงเรื่องเดียว?

และท่ามกลางความตื่นตระหนกของชาวเน็ต

บัญชีทางการซึ่งเพิ่งสร้างขึ้นของเหลียนเหมิงได้โพสต์ข้อความว่า

[เยี่ยเซินเฉินและเทียนเหมินทรยศต่อความไว้ใจและแปรพักตร์เป็นอื่น ฉีกสัญญาความร่วมมือกับเหลียนเหมิงเพียงฝั่งเดียว สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่เว็บไซต์ นับแต่วันนี้ เว็บไซต์ของเราขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะไม่ร่วมงานกับสองคนนี้อีกต่อไป จึงแจ้งมาเพื่อทราบ!]

เวลานี้ไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป!

เทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินแทงข้างหลังเหลียนเหมิงจริงๆ !

……

เล่นบ้าอะไรฟระเนี่ย!

แฟนคลับของอิ่งจือสติแตกแล้ว!

ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สัญญาของทั้งสอง!

ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่เว็บไซต์ใหม่นี้จะทำอย่างไรต่อไป!

จะอาศัยแค่ผลงานของอิ่งจือไม่พอแน่นอน!

หลังจากนี้เขาจะต่อสู้โดยลำพังงั้นหรือ?

ไม่ว่านักเรียนประถมแห่งความตายจะโด่งดังแค่ไหน ก็ไม่สามารถปล่อยให้เขาต่อสู้โดยลำพังล่ะมั้ง!

และในเรื่องนี้ ยอดฝีมืออย่างเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้!

แม้มีใจก็ไร้เรี่ยวแรง

วิธีการของอุตสาหกรรมการ์ตูน

การแข่งขันของนักเขียนการ์ตูน

เซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงเข้ามาแทรกแซงไม่ได้!

ฝ่ายตรงข้ามมุ่งเป้ามายังอิ่งจือ!

ต่อให้เหลียนเหมิงไม่ได้ปิดตัวลงด้วยเหตุผลดังกล่าว แต่หากอาศัยการสนับสนุนจากการ์ตูนเพียงเรื่องเดียวของอิ่งจือ อย่างมากก็อยู่ได้เพียงประคองลมหายใจไปวันๆ

ปู้ลั่วมีเงินทุนมหาศาล!

นี่คือการบดขยี้เว็บไซต์ใหม่อย่างไร้ปรานีโดยนายทุนรายใหญ่!

เฉกเช่นการระงับอิ่งจือก่อนหน้านี้

ช่างไร้เรี่ยวแรง!

เมื่อเผชิญหน้ากับนายทุนเงินหนาซึ่งใช้วิธีอันชั่วร้าย อิ่งจือและเว็บไซต์เหลียนเหมิงนั้นไร้เรี่ยวแรงจริงๆ !

ถึงขั้นที่คำว่า ‘เหลียนเหมิง’แปรเปลี่ยนเป็นการเสียดสีขึ้นมา

พันธมิตร?

พันธมิตรของคุณยอมจำนนต่อศัตรูไปแล้ว!

คุณเคยเห็นพันธมิตรที่มีคนเดียวด้วยหรือ?

ชั่วขณะนั้น!

แฟนคลับของอิ่งจือรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก!

ชาวเน็ตซึ่งสนับสนุนเหลียนเหมิงก็ถอนหายใจด้วยความจนใจ

เว็บไซต์การ์ตูนซึ่งเดิมทีมีศักยภาพรายหนึ่ง จู่ๆ ก็เหน็บหนาวขึ้นมา

เรื่องราวยังไม่ทันได้เริ่มต้นขึ้น กลับต้องมาปิดฉากลงล่วงหน้า

แต่ในขณะนั้นเอง

บนบล็อกของอิ่งจือ จู่ๆ ก็โพสต์ใหม่ปรากฏขึ้น

‘ให้เวลาผมหนึ่งสัปดาห์ เหลียนเหมิงจะมีผลงานอีกสองเรื่องที่ดีกว่ามาแทนที่เทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉิน!’

เปรี้ยง!

วินาทีนั้น!

ทุกคนที่เห็นโพสต์นี้ล้วนตกตะลึง!

?????

นี่อิ่งจือโมโหจนเป็นบ้าไปแล้ว?

เขาบอกว่าอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้จะมีผลงานมาแทนที่เทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินเนี่ยนะ?

ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?

หรือควรถามว่า ไปเอาผลงานมาจากไหน?

แถมยังตั้งสองเรื่อง?

หรือว่าเหลียนเหมิงยังสามารถดึงตัวนักเขียนการ์ตูนสองคนจากปู้ลั่วที่ฝีมือไม่เป็นรองเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉิน ถึงขั้นที่ฝีมือเหนือกว่าด้วยซ้ำไป?

จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

ปู้ลั่วจะให้โอกาสนั้นหรือ?

วิธีการเดียวกัน ถ้าปู้ลั่วทำได้ พวกเขามีหรือจะไม่เตรียมรับมือ?

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีเหตุผลให้นักเขียนการ์ตูนของปู้ลั่วย้ายไปเหลียนเหมิงเลยสักนิด!

สถานการณ์ของเหลียนเหมิงเป็นเช่นนี้ ใครจะกล้าย้ายไป?

แต่หากไม่ได้ดึงคนมาจากปู้ลั่ว อันที่จริงในเว็บไซต์การ์ตูนอื่นๆ ก็หานักเขียนการ์ตูนที่เก่งกว่าเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินไม่ได้แล้วนะ!

อย่าว่าแต่เก่งกว่าเลย…

ต่อให้คิดจะหานักเขียนการ์ตูนที่ฝีมือระดับเดียวกับสองคนนี้ก็เป็นไปไม่ได้!

ปู้ลั่วการ์ตูนผูกขาดอุตสาหกรรมนี้ไปแล้ว!

อิ่งจือคงไม่ได้จะวาดการ์ตูนสองเรื่องด้วยตัวเอง เพื่อถมสองหลุมยักษ์ดึกดำบรรพ์นี้หรอกใช่ไหม?

เดี๋ยวนะ…

อิ่งจือคงไม่ได้คิดจะวาดเองจริงๆ หรอกล่ะมั้ง?

ในห้วงสำนึกของทุกคนล้วนมีการคาดเดาอันน่าสะพรึงกลัวนี้ผุดขึ้นมา!

สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้

นี่ดูเหมือนจะเป็นความเป็นไปได้เพียงประการเดียว

เขาจะเขียนการ์ตูนสองเรื่องที่สนุกกว่าผลงานใหม่ของเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์?

สามเรื่องควบ?

เป็นไปไม่ได้!

นี่คือความคิดแรกของทุกคน!

ปล่อยออกมาเรื่องเดียวทุกคนยังพอเข้าใจได้ เพราะยอดนักสืบฉู่อวี๋อธิบายทุกอย่างแล้ว!

ไม่ว่าเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินจะเก่งกาจแค่ไหน ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่สถิติของการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขาจะเหนือกว่าผลงานคลาสสิกเรื่องนี้!

แต่ปัญหาคือ…

อิ่งจือมียอดนักสืบฉู่อวี๋แล้ว!

เขาจะไปหาแรงกายแรงใจจากที่ไหนมาสร้างสรรค์ผลงานระดับเดียวกับยอดนักสืบฉู่อวี๋อีกสองเรื่อง?

ยอดนักสืบฉู่อวี๋เป็นไปไม่ได้หรอก!

ไม่ใช่เพียงความคิดแรก ไม่ว่าทุกคนจะใคร่ครวญถึงโพสต์นี้อย่างไร ก็นึกออกเพียงผลลัพธ์นี้ คำพูดของอิ่งจือคือภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้!

บางทีอาจถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง?

ครั้งนี้อิ่งจือเลยเสียสติไปจริงๆ !!!

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท