คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 687 เรื่องเล่นลิ้น นางทำได้

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 687 เรื่องเล่นลิ้น นางทำได้

ถึงฉินหลิวซีดึงมือกลับมา แต่ก็ไม่ได้อยู่ห่างจากผลเต้ากั่วสีม่วงแม้แต่ก้าวเดียว เพียงแต่จ้องมองเงาสีดำขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างเย็นชา

เมื่อนางเห็นรูปร่างของฝ่ายตรงข้าม ก็รู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว ร่ายคาถาสร้างม่านอาคมเล็กๆ รอบตัวทันที

ตู้ม

เงาดำกระทบลงผิวน้ำอย่างแรงเสียงดังตู้ม น้ำกระเซ็น ไม่สิ น่าจะเรียกว่าน้ำกระจาย น้ำสาดเข้ามา

ม่านอาคมขวางคลื่นน้ำนั้นไว้ ฉินหลิวซีไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไหวพริบดีขนาดนี้มาก่อน มิเช่นนั้นก็คงได้อาบน้ำเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า

ฉินหลิวซีรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย แต่เงาดำที่อยู่ตรงหน้ากลับโกรธเป็นอย่างมาก กระแทกลงบนผิวทะเลสาบระลอกใหญ่อีกครั้ง โมโหนัก คลื่นลูกใหญ่ขนาดนี้แต่กลับไม่ได้ทำให้หัวขโมยน้อยผู้นี้เปียกแม้แต่น้อย นางดันใช้ม่านอาคมบังไว้เสียได้

มนุษย์ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมเสียจริง!

“เจ้าหัวขโมย บอกชื่อเสียงเรียงนามของเจ้ากับปู่เฒ่าเฮยซาเดี๋ยวนี้ ปู่จะเหลือศพไว้ให้เจ้าครบทุกประการ”

หลังจากปลดม่านอาคมเล็กออก ฉินหลิวซีจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเงาดำที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยขนสีดำเงา ขนแข็งกระด่าง และช่องว่างระหว่างขนยังมีเกล็ดแวววาวอีกชั้นหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาสีดำสนิท นี่คือหมีตาบอดหรือ

ไม่สิ หมีตาบอดจะปรากฏในทะเลทรายได้อย่างไร

“เจ้าหัวขโมยน้อยน่ารังเกียจ ยังไม่รีบบอกชื่อแซ่มาอีก”

ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าสิหัวขโมย เจ้าเป็นหัวขโมยทั้งครอบครัว ข้าขโมยอะไรเจ้าไป”

ปีศาจเฒ่าเฮยซาตะโกน “เจ้ายังจะมาเล่นลิ้นอีก เจ้าคิดที่จะขโมยผลเต้ากั่วสีม่วงของข้า รังเกียจที่อายุยืนยาวหรือ”

เสียงคำรามนี้ทำเอาแก้วหูคนสั่นสะเทือน หูอื้อไปหมด

“ผลเต้ากั่วนี้เติบโตอยู่ที่นี่ดีๆ เจ้าบอกว่าเป็นของเจ้าก็เป็นของเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าลองเรียกมันดูสิว่ามันจะตอบรับเจ้าหรือไม่” ฉินหลิวซีเอ่ยเย้ยหยันกลับไป มือที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเคลื่อนไหวเล็กน้อย ฉีกตุ๊กตากระดาษ

ผีสามตนที่อยู่ไกลออกไป ‘เรื่องเล่นลิ้น นางทำได้!’

ปีศาจเฒ่าเฮยซาชะงักไป “ข้า…”

“เจ้าอะไร ใครเป็นหลานเจ้า”

ปีศาจเฒ่าเฮยซายืดอก มือทั้งสองข้างทุบอก เอ่ย “ข้าเป็นผู้มีอำนาจในทะเลทรายดำที่รู้จักกันในนามปีศาจเฒ่าเฮยซาผู้ยิ่งใหญ่ เจ้ากลัวหรือไม่!”

“อ้อ ปู่ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนหรอก”

ปีศาจเฒ่าเฮยซา “!”

ไม่สิ ชื่อเสียงของเขาแพร่หลายไปทั่วทะเลทรายดำนี้ ใครบ้างไม่เคยได้ยิน ใครบ้างที่กล้ามายั่วยุเขา วิญญาณบริสุทธิ์ในที่แห่งนี้ มีใครบ้างไม่หลบให้เขา แม้แต่บรรดายมทูตน้อยในยมโลกก็ยังไม่กล้ามาสร้างปัญหาที่นี่

เจ้าหัวขโมยน้อยหน้าขาวผู้นี้กลับไม่เคยได้ยินชื่อเขา?

อัปยศสิ้นดี

นี่มันยอมไม่ได้

เดี๋ยวนะ นางเป็นปู่ใครกัน

ปีศาจเฒ่าเฮยซาได้สติกลับมา ดวงตาสีดำสนิทสะท้อนแสงประกายอันตรายออกมา เอ่ย “หัวขโมยน้อยอย่างเจ้า กล้าดีอย่างไรมาหลอกท่านปู่อย่างข้า อยากตายหรือ!”

“บอกว่าไม่เคยได้ยินถือว่าโกหกหรือ อีกอย่างหมีตาบอดอย่างเจ้าไยจึงได้ปรากฏตัวในทะเลทราย ไม่ควรไปหาอาหารตามภูเขาป่าไม้หรือ มาแทะทรายอยู่ทำไมที่นี่!”

“เจ้าสิหมี เจ้าเป็นหมีกันทั้งครอบครัว ข้าคือภูตภูเขาต่างหาก” ปีศาจเฒ่าเฮยซาคำรามเสียงดัง “อีกอย่างใครบอกว่าที่นี่คือทะเลทราย ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเป็นภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง และข้าก็คือภูตภูเขาของเขาลูกนี้”

ฉินหลิวซีกะพริบตา ประหลาดใจเล็กน้อย ที่นี่เคยเป็นภูเขามาก่อนหรือ

“กลายร่างเป็นภูตภูเขาหรือ ในเมื่อเป็นภูตภูเขาก็ควรจะมีรูปร่างงดงาม เหตุใดเจ้าจึงรูปร่างเหมือนหมี” ฉินหลิวซีเอ่ยพลางปล่อยตุ๊กตากระดาษตัวน้อยไป

ปีศาจเฒ่าเฮยซาสบถอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยว่า “หนุ่มน้อยหน้าขาวอย่างเจ้าจะไปเข้าใจอะไร หมีจึงจะเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในภูเขา มีอำนาจยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับข้าที่กลายร่างเหมือนมัน เป็นสิ่งที่ข้าต้องการ”

ปีศาจเฒ่าเฮยซารู้สึกว่าคำพูดนี้ของนางมีบางอย่างผิดปกติ แต่กลับคิดไม่ออกว่ามีตรงไหนผิดปกติ จ้องมองฉินหลิวซีอยู่พักหนึ่ง สำรวจดูอย่างละเอียด เอ่ยด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้าก็คือคนที่มีกลิ่นหอมผู้นั้น”

เขาหลับตาแล้วลืมตาอีกครั้ง เมื่อมองดู ดวงตาทั้งสองข้างก็เป็นประกาย เอ่ย “มิน่าล่ะ เจ้ามีบุญกุศลป้องกันตัว”

สายตาของเขามีความโลภ

ท่าทางราวกับต้องการกลืนกินฉินหลิวซีทั้งตัว

“เมื่อกินเจ้าแล้วตบะของข้าก็จะก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้น จะกลายเป็นปีศาจที่ทรงพลังกว่าเดิมอย่างแน่นอน”

ฉินหลิวซีเอ่ย “ภูตก็คือภูต เจ้าจะไปเรียกตัวเองว่าปีศาจเฒ่าทำไมกัน เป็นภูตไม่ดีหรือ”

“ปีศาจเก่งกาจกว่า มีอำนาจเหนือกว่า ข้าจะกินเจ้า”

ปีศาจเฒ่าเฮยซากำลังจะเคลื่อนไหว ฉินหลิวซีก็ชี้ไปที่ข้างหลังเขา “แย่แล้ว เจ้าดูสิ มีงูยักษ์”

งูยักษ์อะไรกัน หรือว่าปีศาจงูชื่อซาตนนั้นมาแล้ว

ปีศาจเฒ่าเฮยซาหันหลังกลับไปทันที ล้วนว่างเปล่า มีเพียงระลอกคลื่นทะเลสาบที่ถูกลมพัด มีงูที่ไหนกัน

ถูกหลอกแล้ว

มันรีบหันกลับไปทันที แต่เห็นฉินหลิวซีลอยบนผิวน้ำหนีไป กระโดดไปทางบนฝั่งแล้ว เมื่อมองดูอีกครั้ง ไม่มีผลเต้ากั่วสีม่วงเหลืออยู่แล้ว ไม่เหลือแม้แต่ใบ เหลือเพียงแค่กิ่งโล้น!

ต้นของผลเต้ากั่วสีม่วงสั่นไหวท่ามกลางสายลม ‘หากไม่ใช่เพราะเจ้าภูตภูเขาผู้โง่เขลาเอาแต่พูดเรื่องสัพเพเหระกับเขา มันก็คงไม่ถึงขั้นแม้แต่ใบก็ไม่เหลือ’

คนอื่นเป็นภูตภูเขา ถึงมันก็เป็นภูตภูเขา แต่กลับไม่ได้ฝึกบำเพ็ญความฉลาด ดันมีรูปร่างเป็นหมี สมองก็โง่เง่าเต่าตุ่น

“เจ้าหัวขโมยน้อยไร้ยางอาย คืนผลเต้ากั่วมาให้ข้า!” ปีศาจเฒ่าเฮยซาสองมือตบลงบนผิวน้ำ พุ่งขึ้นมาอยู่บนกลางอากาศ ทันทีที่ร่ายคาถา มือหมีก็ยืดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฟาดไปที่หลังของฉินหลิวซี

เพียะ

แม้ว่าฉินหลิวซีจะสัมผัสได้ถึงอันตราย หลบหลีกเล็กน้อย แต่ฝ่ามือนี้ก็ยังกระทบลงบนไหล่ของนาง

ปีศาจเฒ่าเฮยซารูปร่างไม่เล็ก สามารถรู้ได้ตั้งแต่ที่มันกระแทกลงบนผิวน้ำจนเกิดระลอกคลื่นขึ้นมาได้ ฝ่ามือนี้ก็ไม่ได้ยั้งแรงเช่นกัน แม้จะโจมตีโดนเพียงไหล่ของนาง แต่ก็ทำให้นางกระอักเลือดออกมา

ให้ตายเถอะ ไอ้หมีภูตภูเขา!

ฉินหลิวซีรู้สึกถึงความยุ่งเหยิงเล็กน้อยของลมปราณ รีบหยิบยาลูกกลอนออกมาแล้วกลืนลงคอ

ปีศาจเฒ่าเฮยซารูปร่างใหญ่ แต่การเคลื่อนไหวก็ไม่นับว่าช้า ไม่นานก็ไล่ตามมาจนถึงด้านหลังของฉินหลิวซี ออกแรงคำรามเสียงดัง

ฉินหลิวซีเจ็บแก้วหู รู้สึกได้รับบาดเจ็บภายใน ในหูมีความชื้นเล็กน้อย

ทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่านางโมโหไม่เป็นหรือ

นางหันหลังกลับแล้วตอบโต้กลับไปยังปีศาจเฒ่าเฮยซาเมื่อหลบหนีไม่ได้แล้ว เขย่งปลายเท้า พุ่งขึ้นกลางอากาศ เตะเท้าแนวทแยงพุ่งไปที่เขา

ปั้ก

ทรายติดเต็มหน้า

ปีศาจเฒ่าเฮยซาถูกเตะจนล้มลงบนพื้น มึนงงอยู่ครู่หนึ่ง

หนุ่มน้อยหน้าขาวผู้นั้นรูปร่างเล็กนิดเดียวแต่กลับเตะปีศาจเฒ่าเฮยซาผู้ยิ่งใหญ่อย่างมันจนกระเด็น นี่มันผิดมนุษย์เล็กน้อย

เสียงคำรามดังขึ้น

มันกระโดดเข้ามาอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างทุบหน้าอกสองที

ฉินหลิวซีมุมปากกระตุก ภูตภูเขาตนนี้ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง นับว่าเขาเลียนแบบพฤติกรรมหมีตาบอดได้ทุกประการ การตีอกนี้ยิ่งชัดเจนมาก

“คืนผลเต้ากั่วให้ข้า” ปีศาจเฒ่าเฮยซาพุ่งเข้าไปหานาง

ฉินหลิวซีแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา “ผลเต้ากั่วอะไรกัน ตาข้างไหนของเจ้าเห็นว่าข้าเป็นคนเด็ดไป ทุกเรื่องต้องมีหลักฐาน ข้าสาบานต่อสวรรค์ก็ได้ หากข้าเป็นคนเด็ดไป ขอให้ถูกห้าสายฟ้าผ่าจนตาย! เจ้าดูสิ สวรรค์ไม่ได้ตอบสนองอะไรเลย”

สวรรค์ ‘ก็เจ้าไม่ได้เป็นคนเด็ดเอง ใครจะไปกล้าผ่า!’

“ดวงตาของข้าก็คือหลักฐาน เลิกเอ่ยไร้สาระแล้วมาสู้กัน” ปีศาจเฒ่าเฮยซากระโดดขึ้นแล้วตบลงไป

มันต้องการตบให้หัวขโมยที่เล่นลิ้นเก่งผู้นี้กลายเป็นขนมเปี๊ยะไส้เนื้อ แล้วค่อยๆ กัดกิน เมื่อกินคนมีบุญกุศลผู้นี้เข้าไป ทักษะของมันจะต้องเพิ่มพูนขึ้นมากอย่างแน่นอน

ฉินหลิวซีกลิ้งไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกฝ่ามือ ฝ่ามือที่สองของอีกฝ่ายกำลังจะตามมา นางคว้าทรายมาหนึ่งกำมือแล้วขว้างไปที่มัน

“โอ๊ย เจ้าหัวขโมยไร้ยางอาย” ปีศาจเฒ่าเฮยซาเอามือกุมดวงตาแล้วร้องด้วยความเจ็บปวด โกรธมากจริงๆ บัดซบ มันต้องการให้นางตาย

มันกำหมัดทั้งสองข้าง อ้าปากออกแล้วดูดน้ำจากแหล่งน้ำกลางทะเลาทรายเข้าไป จากนั้นก็พ่นไปทางฉินหลิวซี น้ำหมุนวนอยู่ในปากของมันก่อนจะพ่นออกไปอีกครั้ง กลายเป็นใบมีดน้ำแข็งที่คมกริบจำนวนมาก

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท