ยามเงาร่างหยางปู้ต้งปรากฏ ระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมเขาเทพตะวันไพศาลรอบทิศล้วนไปรวมตัวที่กระบี่ในมือเขาเล่มนั้นเหมือนถูกดึงไป
ครืน!
อานุภาพของกระบี่เล่มนี้ยิ่งโชติช่วง ยิ่งแกร่งกล้า ประหนึ่งสุริยันนิรันดร์ฉายเด่นเหนือเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาทำให้หลินสวินยังต้องหันมองอย่างอดไม่อยู่
แต่ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเอ่ยว่า “กระทั่งสมบัติสำคัญที่แปลงจากต้นกำเนิดระเบียบระดับเทพยังถูกเอามาใช้ ดูท่าพวกเจ้าตระกูลหยางจะไม่มีไพ่ตายเท่าไรแล้วจริงๆ”
“พอจะฆ่าเจ้าได้แล้ว!”
ดวงตาทั้งสองของหยางปู้ต้งลุกโชนดุจเพลิงกล้า เผยความชิงชังและไอสังหาร
พูดพลางเขาก็กระชับกระบี่บุกเข้ามา
หนึ่งกระบี่ประหนึ่งดวงอาทิตย์ฉายเด่นเหนือหมื่นกาล เจตกระบี่อาละวาดดุดันกลายเป็นลำแสงไร้สิ้นสุดหลอมรวมห้วงอากาศ เผาผลาญสรรพสิ่ง
ระดับนิรันดร์คนหนึ่งสู้สุดชีวิตด้วยสมบัติสำคัญที่หลอมจากต้นกำเนิดระเบียบระดับเทพ อานุภาพเช่นนั้นน่าสะพรึงปานไหน
หลินสวินในตอนนี้สัมผัสได้แล้ว
ชั่วพริบตานี้ก็เหมือนอยู่ในเตาหลอมหมื่นโลกา มีเจตกระบี่เปลวเพลิงขาวโพลนบาดตาอยู่ทั่วทุกแห่งหน พลังเช่นนั้นเผาโลกใหญ่ใบหนึ่ง ปลิดชีพสรรพชีวิตได้อย่างง่ายดาย!
หลินสวินไม่กล้าชักช้า โคจรมรรควิถีทั้งตัวออกมาจนหมด
ชิ้ง!
เขาตวัดกระบี่มรรคฟันออกไปอย่างกราดเกรี้ยว
กระบี่นี้ประทับด้วยนัยเร้นลับนิพพานถ้วนทั่ว
เจตกระบี่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสองชนิดปะทะกัน เมื่อเสียงโครมครามดังขึ้น ฟ้าดินแห่งนี้ยังเกิดเสียงระเบิดคล้ายรับอานุภาพเช่นนั้นไม่ไหว ปราณกระบี่ไร้เทียมทานแผ่กระจายปั่นป่วนไปสิบทิศ
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เพียงแต่ที่ทำให้หยางปู้ต้งรู้สึกรับไม่ได้ก็คือ กระบี่นี้ของเขายังถูกสลายไปเหมือนเดิม!!
ควรรู้ว่ากระบี่ในมือเขาหลอมจากต้นกำเนิดระเบียบตะวันไพศาล ส่งเสริมมรรควิถีระดับนิรันดร์ทั้งตัวเขา อานุภาพเช่นนั้นต่อให้เป็นขั้นสรรสร้างยังได้รับบาดเจ็บ!
“ภายในสิบลมหายใจ ถ้าเจ้าปกป้องประตูภูเขานี้ไว้ได้ ข้าคนแซ่หลินจะจากไปทันที ไม่พลิกลิ้นเด็ดขาด”
กลับพบว่าหลินสวินเอ่ยปากพูดเนิบๆ มือกระชับกระบี่มรรคกระโจนเข้ามา
สิบลมหายใจ!
นี่เป็นการประกาศอย่างหนึ่ง แต่สำหรับหยางปู้ต้งแล้วกลับเหมือนการลบหลู่มากกว่า
เขาโกรธยิ่งยวด ตวัดกระบี่ในมือโจมตีเข้าใส่
ตูม!
ระเบียบตะวันไพศาลดุจกระแสธารสวรรค์เกรียงไกร ถูกกระบี่เล่มนั้นชักนำปั่นป่วนโลกา ความแกร่งกล้าของเจตกระบี่ถึงขั้นน่าเหลือเชื่อไปแล้ว
ทว่าหลินสวินที่ใช้นัยเร้นลับนิพพานควบคุมกระบี่มรรคกลับดูแข็งแกร่งยิ่งกว่า
เคร้ง!
ลมหายใจแรก สองกระบี่ตัดสลับ แสงมรรคระเบียบเต็มฟ้าแผ่กระจาย เงาร่างของหยางปู้ต้งถูกซัดจนโซเซถอยออกไป
หลินสวินไม่พูดมากความ ฉวยโอกาสกระโจนเข้าไป เงาร่างสูงโปร่งอบอวลด้วยแสงสะท้อนทั่วหล้า กระบี่มรคในมือฟันออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งล้วนมีอานุภาพเบิกฟ้าแยกดิน กวาดล้างภูผาธารา นัยเร้นลับนิพพานอึงอลกดข่มพลังระเบียบตะวันไพศาลนั้นไว้โดยสมบูรณ์
ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ หยางปู้ต้งเหมือนใบไม้ใบหนึ่งที่อยู่กลางพายุฝนบ้าคลั่ง ถูกโจมตีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ในครรลองสายตาเขามีแต่เจตกระบี่เกรียงไกรม้วนตลบ เงาร่างหลินสวินประหนึ่งนายเหนือหัวสูงใหญ่ไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่โจมตีล้วนทำให้จิตวิญญาณของเขาถูกจู่โจม ทั้งตัวถูกกดข่มอย่างไม่เคยประสบมาก่อน
พรูด!
ลมหายใจที่ห้า หยางปู้ต้งพลันกระอักเลือด แม้การโจมตีของหลินสวินจะถูกเขาสกัดไว้ได้หมด แต่การแรงโจมตีที่ได้รับหนักหน่วงเกินไป ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสแล้ว ไอรีนโนเวล
“เป็นไป… เป็นไปได้อย่างไร!!” หยางปู้ต้งตาแทบหลุดจากเบ้า ในใจปั่นป่วน ไม่อาจคาดคิดได้ว่าหลินสวินที่เพิ่งอยู่ขั้นล่วงกฎขั้นต้นจะเย้ยฟ้าปานนี้ได้อย่างไร
ควรรู้ว่าเขามีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ ทั้งยังใช้พลังต้นกำเนิดของกฎระเบียบตะวันไพศาล ในสถานการณ์เช่นนี้สู้กับขั้นสรรสร้างก็ยังได้
แต่ตอนนี้เขากลับกำลังถูกหลินสวินกดข่ม!
……
ในเวลาเดียวกัน
แดนลับที่อยู่ในส่วนลึกของเขาเทพตะวันไพศาลโกลาหลปั่นป่วนไปหมด
“เร็ว! รีบเคลื่อนไหว!”
“ไปแจ้งผู้อาวุโสระดับอมตะในตระกูล ให้พวกเขาแยกกันเคลื่อนไหวพาคนในตระกูลเข้าไปอยู่ใน ‘กงล้อมหาหยินหยาง’ ให้หมด!”
“นี่เป็นคำสั่งของผู้นำตระกูล!”
“เร็วเข้า!”
…เสียงตะโกนมากมายดังขึ้น ทั้งตระกูลหยางล้วนเคลื่อนไหว เงาร่างพุ่งทะยานลนลานมีอยู่ทุกแห่งหน หลายคนสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนงงงวย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
หรือเกิดภัยพิบัติที่เป็นอันตรายต่อการคงอยู่ของตระกูล
อาจเป็นเพราะสงบสุขมานานเกินไป เคยชินกับชีวิตสูงส่งเหนือสรรพชีวิต ยามภัยพิบัติมาเยือนถึงทำให้คนตระกูลหยางส่วนใหญ่ปรับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะ
พวกเขาไม่อาจจินตนาการว่าทั่วหล้านี้จะมีใครกล้าเป็นศัตรูกับพวกเขาตระกูลหยาง!
กระทั่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ละคนถึงสับสนงุนงงเช่นนั้น ถึงขั้นยอมรับได้ยาก
พวกเขาตระกูลหยาง… ถูกผู้อื่นสั่นคลอนได้อย่างไร
เป็นไปได้อย่างไร
ต่อให้เป็นผู้นำตระกูลหยางชางเซิง ในตอนแรกก็ไม่อาจคาดคิดว่าเคราะห์ภัยครั้งนี้จะร้ายแรงถึงขั้นนี้
แต่เมื่อหยางเสียเทียนถูกสังหาร กระบวนค่ายกลร้อนระอุถูกเก็บไป… ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเลวร้ายของสถานการณ์
โกรธแค้นหรือ ตกตะลึงหรือ ยอมรับได้ยากหรือ
ความรู้สึกพวกนี้ล้วนไม่สำคัญแล้ว!
หยางชางเซิงรู้เพียงว่าถ้าตนยังไม่รีบเคลื่อนไหวอีก เป็นไปได้มากว่าตระกูลหยางที่ยืนผงาดในน่านฟ้าที่เก้ามาไม่รู้กี่ปีจะพินาศลงในวันนี้!
ทันทีที่เกิดผลลัพธ์นี้ขึ้น เขาหยางชางเซิงก็จะเป็นคนบาปตลอดกาลของตระกูล แม้ตายไปก็จะถูกตรึงบนเสาอัปยศ
ตระกูลหยางยังมีหวังว่าจะอยู่รอดต่อไปหรือไม่
หยางชางเซิงไม่แน่ใจ เพราะเขาเห็นแล้วว่าต่อให้ใช้พลังต้นกำเนิดระเบียบ ผู้อาวุโสหยางปู้ต้งก็ยังถูกหลินสวินกดข่ม!
ทั้งหมดนี้ก็เหมือนฝันร้าย ทำให้หยางชางเซิงยังไม่กล้าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
แต่ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ ทั้งหมดนี้ก็กำลังเกิดขึ้น เขามีแต่ต้องเตรียมตัวไว้ก่อน
“ผู้นำตระกูล นอกจากคนในตระกูลที่อยู่ดูแลตามอาณาเขตใหญ่ต่างๆ เหล่านั้น ตอนนี้คนในตระกูลที่อยู่ในเขาเทพตะวันไพศาลทุกคนต่างถูกพาไปอยู่ในกงล้อมหาหยินหยางแล้ว”
เสียงร้อนรนเสียงหนึ่งดังมาอย่างรวดเร็ว
จิตใจที่บีบคั้นของหยางชางเซิงค่อยๆ คลายลง เอ่ยว่า “เอากงล้อมหาหยินหยางมา”
ข้ารับใช้อาวุโสที่มารายงานนำสมบัติขนาดประมาณฝ่ามือ ครึ่งดำครึ่งขาว กลมเกลี้ยงเหมือนจานชิ้นหนึ่งส่งให้
หยางชางเซิงรับสมบัตินี้ไว้แล้วกัดฟันพูดว่า “เจ้าไปส่งขาว แจ้งคนในตระกูลที่อยู่ตามอาณาเขตใหญ่เหล่านั้น ให้พวกเขา… ให้พวกเขาหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้!”
พูดถึงตอนท้าย ความเศร้าโศกอย่างบอกไม่ถูกก็ผุดขึ้นในใจเขาอย่างอดไม่ได้
เมื่อไรกันที่พวกเขาตระกูลหยางตกต่ำถึงขั้นนี้
พวกเขาเป็นถึงเผ่าเทพนิรันดร์นะ!
เป็นตระกูลที่ดำรงมาหมื่นกาล เหยียดหยันทั่วหล้า ทำให้สรรพชีวิตและขุมอำนาจแทบทั้งหมดบนโลกไม่กล้าท้าทายหรือจาบจ้วง!
แต่ตอนนี้…
หยางชางเซิงกำมือทั้งสองแน่นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ควบคุมความรู้สึกในใจที่แทบจะเสียการควบคุมไว้
ก็ในตอนนี้เอง…
นอกประตูเขาเทพตะวันไพศาล
ลมหายใจที่เก้า ร่างกายแตกระแหงหลั่งโลหิต หยางปู้ต้งที่ได้รับบาดเจ็บทั้งตัวพลันส่งเสียงตวาดลั่นเหมือนคลุ้มคลั่ง
“หลินสวิน ข้าจะสู้สุดตัวกับเจ้า!!”
เงาร่างผอมแห้งของเขาพลันลุกโชน ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความชิงชัง
ตูม!
เขายื่นแขนทั้งสองออกมา กฎเกณฑ์นิรันดร์ทั้งร่างระเบิดปะทุ ปลดปล่อยและลุกโชนถึงขีดสุดเข้าโจมตีไปยังหลินสวิน
หมายจะลากหลินสวินให้ตายตกไปตามกัน!
เมื่อระดับนิรันดร์ไม่ต้องการแม้แต่ชีวิต อานุภาพเช่นนั้นจะน่ากลัวปานไหน
หลินสวินเคยได้เห็นมาก่อน
ตอนนั้นเหนือทะเลหมื่นดารานอกลัทธิแรกกำเนิด พุทธปัจจุบันเจียหนานจากลัทธิฌานผลาญมรรควิถีตัวเอง ใช้พลังของโคมบัวสุญญากาศยอดสมบัติพิทักษ์สำนักจนหมด เข้าสู้สุดตัวโดยไม่สนใจสิ่งใด แข็งแกร่งจนทำให้หลินสวินยังสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามถึงชีวิต
และตอนนี้เขาได้เห็นระดับนิรันดร์สู้สุดตัวเป็นครั้งที่สอง ยังคงน่าครั่นคร้ามชวนให้ใจสั่นเช่นเดิม
แต่หลินสวินที่มีประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว ทั้งยังเตรียมตัวไว้ก่อนแล้วไม่ได้ถอยร่น
เขามองดูหยางปู้ต้งพุ่งเข้ามาเงียบๆ ก่อนสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง
อภินิหารประตูเนรเทศพลันปรากฏ พาดขวางฟ้าดินเบื้องหน้าหลินสวิน ประตูเนรเทศระยะพันจั้งก็เหมือนประตูใหญ่สู่นรกที่เปิดขึ้นในยามนี้
และเป็นเวลาเดียวกันที่หยางปู้ต้งบุกมา ทั้งตัวเขาพุ่งเข้าไปในประตูเนรเทศโดยแทบไม่อาจหลบได้…
ดูไปก็ไม่ต่างอะไรกับโยนตัวเองเข้าแห!
ตูม!
ประตูเนรเทศปั่นป่วนรุนแรง ถึงอย่างไรหยางปู้ต้งก็เป็นระดับนิรันดร์ ความน่ากลัวของอานุภาพที่ปลดปล่อยออกมายามต่อสู้สุดชีวิตทำให้ประตูเนรเทศถูกจู่โจมรุนแรง
แต่แค่ชั่วพริบตาก็คืนสู่ความสงบ
“ลมหายใจที่สิบ…”
หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยเสียงเบา
ตอนนั้นที่จัดการกับเจียหนาน เขาก็ใช้ประตูเนรเทศเช่นกัน
และตอนนี้ก็แค่ใช้วิธีเดิมเท่านั้น
ขณะพูดหลินสวินยื่นมือคว้ากลางอากาศ กระบี่มรรคที่แปลงมาจากต้นกำเนิดกฎระเบียบตะวันไพศาลนั้นก็ร่วงมาอยู่ในมือเขา เหมือนคว้าเอาแสงที่เปล่งประกายที่สุดไว้
“หยางเสียเทียนกับหยางปู้ต้งไม่อยู่แล้ว กระบวนค่ายกลร้อนระอุกับกฎระเบียบตะวันไพศาลก็ถูกสยบแล้ว พวกเจ้าตระกูลหยาง… ไม่มีไพ่ตายอื่นแล้วจริงๆ หรือ”
หลินสวินมองไปยังเขาเทพตะวันไพศาลที่อยู่ไกลออกไป
ด้านหยางชางเซิงที่เห็นทุกอย่างนี้ถูกความพรั่นพรึงกลบร่างจนมิดไปแล้ว เขาเลือกหลบหนีแทบจะทันที
เมื่อนานมาแล้วบรรพชนตระกูลหยางก็วาง ‘ทางหนี’ ในอาณาเขตของตระกูลไว้สายหนึ่ง
‘ทางหนี’ นี้คือแท่นบูชาเก่าแก่แท่นหนึ่ง ขอเพียงเหยียบบนนั้นก็จะเคลื่อนย้ายออกจากน่านฟ้าที่เก้าแห่งนี้ในชั่วพริบตา
แต่ผ่านไปเนิ่นนานไม่รู้กี่ปี ตระกูลหยางที่มีฐานะเป็นหนึ่งในเผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าไม่เคยประสบกับภยันตรายใดๆ ทางหนีนี้ถึงกับถูกคนในตระกูลลืมเลือนไปสิ้น
แต่ในฐานะผู้นำตระกูล หยางชางเซิงย่อมไม่อาจลืมได้
เขาเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ เงาร่างพริบไหวสองสามคราก็มาถึงส่วนลึกของเขตหวงห้ามของตระกูล แท่นบูชาเก่าแก่แท่นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น ฝุ่นปกคลุมมานานมากแล้ว
หยางชางเซิงไม่ลังเลสักนิด ทะยานไปทางแท่นบูชาเก่าแก่นั้นทันที
ขอเพียงหนีไปถึงแท่นบูชานั้นก็จะรักษาชีวิตคนทั้งตระกูลหยางของเขาไว้ได้ ภายหน้าย่อมมีโอกาสกลับมาผงาดอีกครั้ง!
แต่ในพริบตาที่หยางชางเซิงก้าวเท้านั่นเอง…
พลังระเบียบน่าครั่นคร้ามแผ่กระจายในชั่วพริบตา ผนึกฟ้าดินแห่งนี้ไว้มั่น ส่วนเงาร่างหยางชางเซิงก็เหมือนแมลงที่ตกลงไปในใยแมงมุม เท้าที่ก้าวออกมาค้างอยู่เช่นนั้น ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกแม้สักนิด
เขาหน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิงแล้ว ใจหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม ทั้งร่างหนาวสะท้าน
นี่เป็นพลังของกฎระเบียบตะวันไพศาล!
แต่ตอนนี้กลับทำให้ความหวังเดียวที่พวกเขาตระกูลหยางทั้งหมดจะรอดออกไปได้พังทลายลงแล้ว!
“ดูท่าตระกูลหยางของพวกเจ้าถึงคราวอับจนหนทางแล้วจริงๆ”
เงาร่างหลินสวินปรากฏขึ้นกลางอากาศ มองเห็นหยางชางเซิงที่หน้าถอดสีเหมือนวิญญาณหลุดลอยก็ถอนใจในใจช้าๆ
ก่อนหน้านี้เขาระแวงมาตลอดว่าในตระกูลหยางยังมีไพ่ตายและไม้เด็ดอื่นๆ อยู่อีก ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหนึ่ง รากฐานพลังที่สั่งสมมาไม่รู้กี่ปีย่อมยากจะรับรองว่าจะไม่มีวิธีร้ายกาจอื่นๆ
แต่ตอนนี้ดูท่า ตนคล้ายจะคิดมากเกินไปแล้ว…
——