ตอนที่ 3015 ทางหนี

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ยามเงาร่างหยางปู้ต้งปรากฏ ระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมเขาเทพตะวันไพศาลรอบทิศล้วนไปรวมตัวที่กระบี่ในมือเขาเล่มนั้นเหมือนถูกดึงไป

ครืน!

อานุภาพของกระบี่เล่มนี้ยิ่งโชติช่วง ยิ่งแกร่งกล้า ประหนึ่งสุริยันนิรันดร์ฉายเด่นเหนือเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาทำให้หลินสวินยังต้องหันมองอย่างอดไม่อยู่

แต่ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเอ่ยว่า “กระทั่งสมบัติสำคัญที่แปลงจากต้นกำเนิดระเบียบระดับเทพยังถูกเอามาใช้ ดูท่าพวกเจ้าตระกูลหยางจะไม่มีไพ่ตายเท่าไรแล้วจริงๆ”

“พอจะฆ่าเจ้าได้แล้ว!”

ดวงตาทั้งสองของหยางปู้ต้งลุกโชนดุจเพลิงกล้า เผยความชิงชังและไอสังหาร

พูดพลางเขาก็กระชับกระบี่บุกเข้ามา

หนึ่งกระบี่ประหนึ่งดวงอาทิตย์ฉายเด่นเหนือหมื่นกาล เจตกระบี่อาละวาดดุดันกลายเป็นลำแสงไร้สิ้นสุดหลอมรวมห้วงอากาศ เผาผลาญสรรพสิ่ง

ระดับนิรันดร์คนหนึ่งสู้สุดชีวิตด้วยสมบัติสำคัญที่หลอมจากต้นกำเนิดระเบียบระดับเทพ อานุภาพเช่นนั้นน่าสะพรึงปานไหน

หลินสวินในตอนนี้สัมผัสได้แล้ว

ชั่วพริบตานี้ก็เหมือนอยู่ในเตาหลอมหมื่นโลกา มีเจตกระบี่เปลวเพลิงขาวโพลนบาดตาอยู่ทั่วทุกแห่งหน พลังเช่นนั้นเผาโลกใหญ่ใบหนึ่ง ปลิดชีพสรรพชีวิตได้อย่างง่ายดาย!

หลินสวินไม่กล้าชักช้า โคจรมรรควิถีทั้งตัวออกมาจนหมด

ชิ้ง!

เขาตวัดกระบี่มรรคฟันออกไปอย่างกราดเกรี้ยว

กระบี่นี้ประทับด้วยนัยเร้นลับนิพพานถ้วนทั่ว

เจตกระบี่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสองชนิดปะทะกัน เมื่อเสียงโครมครามดังขึ้น ฟ้าดินแห่งนี้ยังเกิดเสียงระเบิดคล้ายรับอานุภาพเช่นนั้นไม่ไหว ปราณกระบี่ไร้เทียมทานแผ่กระจายปั่นป่วนไปสิบทิศ

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

เพียงแต่ที่ทำให้หยางปู้ต้งรู้สึกรับไม่ได้ก็คือ กระบี่นี้ของเขายังถูกสลายไปเหมือนเดิม!!

ควรรู้ว่ากระบี่ในมือเขาหลอมจากต้นกำเนิดระเบียบตะวันไพศาล ส่งเสริมมรรควิถีระดับนิรันดร์ทั้งตัวเขา อานุภาพเช่นนั้นต่อให้เป็นขั้นสรรสร้างยังได้รับบาดเจ็บ!

“ภายในสิบลมหายใจ ถ้าเจ้าปกป้องประตูภูเขานี้ไว้ได้ ข้าคนแซ่หลินจะจากไปทันที ไม่พลิกลิ้นเด็ดขาด”

กลับพบว่าหลินสวินเอ่ยปากพูดเนิบๆ มือกระชับกระบี่มรรคกระโจนเข้ามา

สิบลมหายใจ!

นี่เป็นการประกาศอย่างหนึ่ง แต่สำหรับหยางปู้ต้งแล้วกลับเหมือนการลบหลู่มากกว่า

เขาโกรธยิ่งยวด ตวัดกระบี่ในมือโจมตีเข้าใส่

ตูม!

ระเบียบตะวันไพศาลดุจกระแสธารสวรรค์เกรียงไกร ถูกกระบี่เล่มนั้นชักนำปั่นป่วนโลกา ความแกร่งกล้าของเจตกระบี่ถึงขั้นน่าเหลือเชื่อไปแล้ว

ทว่าหลินสวินที่ใช้นัยเร้นลับนิพพานควบคุมกระบี่มรรคกลับดูแข็งแกร่งยิ่งกว่า

เคร้ง!

ลมหายใจแรก สองกระบี่ตัดสลับ แสงมรรคระเบียบเต็มฟ้าแผ่กระจาย เงาร่างของหยางปู้ต้งถูกซัดจนโซเซถอยออกไป

หลินสวินไม่พูดมากความ ฉวยโอกาสกระโจนเข้าไป เงาร่างสูงโปร่งอบอวลด้วยแสงสะท้อนทั่วหล้า กระบี่มรคในมือฟันออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งล้วนมีอานุภาพเบิกฟ้าแยกดิน กวาดล้างภูผาธารา นัยเร้นลับนิพพานอึงอลกดข่มพลังระเบียบตะวันไพศาลนั้นไว้โดยสมบูรณ์

ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ หยางปู้ต้งเหมือนใบไม้ใบหนึ่งที่อยู่กลางพายุฝนบ้าคลั่ง ถูกโจมตีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ในครรลองสายตาเขามีแต่เจตกระบี่เกรียงไกรม้วนตลบ เงาร่างหลินสวินประหนึ่งนายเหนือหัวสูงใหญ่ไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่โจมตีล้วนทำให้จิตวิญญาณของเขาถูกจู่โจม ทั้งตัวถูกกดข่มอย่างไม่เคยประสบมาก่อน

พรูด!

ลมหายใจที่ห้า หยางปู้ต้งพลันกระอักเลือด แม้การโจมตีของหลินสวินจะถูกเขาสกัดไว้ได้หมด แต่การแรงโจมตีที่ได้รับหนักหน่วงเกินไป ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสแล้ว ไอรีนโนเวล

“เป็นไป… เป็นไปได้อย่างไร!!” หยางปู้ต้งตาแทบหลุดจากเบ้า ในใจปั่นป่วน ไม่อาจคาดคิดได้ว่าหลินสวินที่เพิ่งอยู่ขั้นล่วงกฎขั้นต้นจะเย้ยฟ้าปานนี้ได้อย่างไร

ควรรู้ว่าเขามีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ ทั้งยังใช้พลังต้นกำเนิดของกฎระเบียบตะวันไพศาล ในสถานการณ์เช่นนี้สู้กับขั้นสรรสร้างก็ยังได้

แต่ตอนนี้เขากลับกำลังถูกหลินสวินกดข่ม!

……

ในเวลาเดียวกัน

แดนลับที่อยู่ในส่วนลึกของเขาเทพตะวันไพศาลโกลาหลปั่นป่วนไปหมด

“เร็ว! รีบเคลื่อนไหว!”

“ไปแจ้งผู้อาวุโสระดับอมตะในตระกูล ให้พวกเขาแยกกันเคลื่อนไหวพาคนในตระกูลเข้าไปอยู่ใน ‘กงล้อมหาหยินหยาง’ ให้หมด!”

“นี่เป็นคำสั่งของผู้นำตระกูล!”

“เร็วเข้า!”

…เสียงตะโกนมากมายดังขึ้น ทั้งตระกูลหยางล้วนเคลื่อนไหว เงาร่างพุ่งทะยานลนลานมีอยู่ทุกแห่งหน หลายคนสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนงงงวย

นี่มันเกิดอะไรขึ้น

หรือเกิดภัยพิบัติที่เป็นอันตรายต่อการคงอยู่ของตระกูล

อาจเป็นเพราะสงบสุขมานานเกินไป เคยชินกับชีวิตสูงส่งเหนือสรรพชีวิต ยามภัยพิบัติมาเยือนถึงทำให้คนตระกูลหยางส่วนใหญ่ปรับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะ

พวกเขาไม่อาจจินตนาการว่าทั่วหล้านี้จะมีใครกล้าเป็นศัตรูกับพวกเขาตระกูลหยาง!

กระทั่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ละคนถึงสับสนงุนงงเช่นนั้น ถึงขั้นยอมรับได้ยาก

พวกเขาตระกูลหยาง… ถูกผู้อื่นสั่นคลอนได้อย่างไร

เป็นไปได้อย่างไร

ต่อให้เป็นผู้นำตระกูลหยางชางเซิง ในตอนแรกก็ไม่อาจคาดคิดว่าเคราะห์ภัยครั้งนี้จะร้ายแรงถึงขั้นนี้

แต่เมื่อหยางเสียเทียนถูกสังหาร กระบวนค่ายกลร้อนระอุถูกเก็บไป… ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเลวร้ายของสถานการณ์

โกรธแค้นหรือ ตกตะลึงหรือ ยอมรับได้ยากหรือ

ความรู้สึกพวกนี้ล้วนไม่สำคัญแล้ว!

หยางชางเซิงรู้เพียงว่าถ้าตนยังไม่รีบเคลื่อนไหวอีก เป็นไปได้มากว่าตระกูลหยางที่ยืนผงาดในน่านฟ้าที่เก้ามาไม่รู้กี่ปีจะพินาศลงในวันนี้!

ทันทีที่เกิดผลลัพธ์นี้ขึ้น เขาหยางชางเซิงก็จะเป็นคนบาปตลอดกาลของตระกูล แม้ตายไปก็จะถูกตรึงบนเสาอัปยศ

ตระกูลหยางยังมีหวังว่าจะอยู่รอดต่อไปหรือไม่

หยางชางเซิงไม่แน่ใจ เพราะเขาเห็นแล้วว่าต่อให้ใช้พลังต้นกำเนิดระเบียบ ผู้อาวุโสหยางปู้ต้งก็ยังถูกหลินสวินกดข่ม!

ทั้งหมดนี้ก็เหมือนฝันร้าย ทำให้หยางชางเซิงยังไม่กล้าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

แต่ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ ทั้งหมดนี้ก็กำลังเกิดขึ้น เขามีแต่ต้องเตรียมตัวไว้ก่อน

“ผู้นำตระกูล นอกจากคนในตระกูลที่อยู่ดูแลตามอาณาเขตใหญ่ต่างๆ เหล่านั้น ตอนนี้คนในตระกูลที่อยู่ในเขาเทพตะวันไพศาลทุกคนต่างถูกพาไปอยู่ในกงล้อมหาหยินหยางแล้ว”

เสียงร้อนรนเสียงหนึ่งดังมาอย่างรวดเร็ว

จิตใจที่บีบคั้นของหยางชางเซิงค่อยๆ คลายลง เอ่ยว่า “เอากงล้อมหาหยินหยางมา”

ข้ารับใช้อาวุโสที่มารายงานนำสมบัติขนาดประมาณฝ่ามือ ครึ่งดำครึ่งขาว กลมเกลี้ยงเหมือนจานชิ้นหนึ่งส่งให้

หยางชางเซิงรับสมบัตินี้ไว้แล้วกัดฟันพูดว่า “เจ้าไปส่งขาว แจ้งคนในตระกูลที่อยู่ตามอาณาเขตใหญ่เหล่านั้น ให้พวกเขา… ให้พวกเขาหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้!”

พูดถึงตอนท้าย ความเศร้าโศกอย่างบอกไม่ถูกก็ผุดขึ้นในใจเขาอย่างอดไม่ได้

เมื่อไรกันที่พวกเขาตระกูลหยางตกต่ำถึงขั้นนี้

พวกเขาเป็นถึงเผ่าเทพนิรันดร์นะ!

เป็นตระกูลที่ดำรงมาหมื่นกาล เหยียดหยันทั่วหล้า ทำให้สรรพชีวิตและขุมอำนาจแทบทั้งหมดบนโลกไม่กล้าท้าทายหรือจาบจ้วง!

แต่ตอนนี้…

หยางชางเซิงกำมือทั้งสองแน่นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ควบคุมความรู้สึกในใจที่แทบจะเสียการควบคุมไว้

ก็ในตอนนี้เอง…

นอกประตูเขาเทพตะวันไพศาล

ลมหายใจที่เก้า ร่างกายแตกระแหงหลั่งโลหิต หยางปู้ต้งที่ได้รับบาดเจ็บทั้งตัวพลันส่งเสียงตวาดลั่นเหมือนคลุ้มคลั่ง

“หลินสวิน ข้าจะสู้สุดตัวกับเจ้า!!”

เงาร่างผอมแห้งของเขาพลันลุกโชน ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความชิงชัง

ตูม!

เขายื่นแขนทั้งสองออกมา กฎเกณฑ์นิรันดร์ทั้งร่างระเบิดปะทุ ปลดปล่อยและลุกโชนถึงขีดสุดเข้าโจมตีไปยังหลินสวิน

หมายจะลากหลินสวินให้ตายตกไปตามกัน!

เมื่อระดับนิรันดร์ไม่ต้องการแม้แต่ชีวิต อานุภาพเช่นนั้นจะน่ากลัวปานไหน

หลินสวินเคยได้เห็นมาก่อน

ตอนนั้นเหนือทะเลหมื่นดารานอกลัทธิแรกกำเนิด พุทธปัจจุบันเจียหนานจากลัทธิฌานผลาญมรรควิถีตัวเอง ใช้พลังของโคมบัวสุญญากาศยอดสมบัติพิทักษ์สำนักจนหมด เข้าสู้สุดตัวโดยไม่สนใจสิ่งใด แข็งแกร่งจนทำให้หลินสวินยังสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามถึงชีวิต

และตอนนี้เขาได้เห็นระดับนิรันดร์สู้สุดตัวเป็นครั้งที่สอง ยังคงน่าครั่นคร้ามชวนให้ใจสั่นเช่นเดิม

แต่หลินสวินที่มีประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว ทั้งยังเตรียมตัวไว้ก่อนแล้วไม่ได้ถอยร่น

เขามองดูหยางปู้ต้งพุ่งเข้ามาเงียบๆ ก่อนสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง

อภินิหารประตูเนรเทศพลันปรากฏ พาดขวางฟ้าดินเบื้องหน้าหลินสวิน ประตูเนรเทศระยะพันจั้งก็เหมือนประตูใหญ่สู่นรกที่เปิดขึ้นในยามนี้

และเป็นเวลาเดียวกันที่หยางปู้ต้งบุกมา ทั้งตัวเขาพุ่งเข้าไปในประตูเนรเทศโดยแทบไม่อาจหลบได้…

ดูไปก็ไม่ต่างอะไรกับโยนตัวเองเข้าแห!

ตูม!

ประตูเนรเทศปั่นป่วนรุนแรง ถึงอย่างไรหยางปู้ต้งก็เป็นระดับนิรันดร์ ความน่ากลัวของอานุภาพที่ปลดปล่อยออกมายามต่อสู้สุดชีวิตทำให้ประตูเนรเทศถูกจู่โจมรุนแรง

แต่แค่ชั่วพริบตาก็คืนสู่ความสงบ

“ลมหายใจที่สิบ…”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยเสียงเบา

ตอนนั้นที่จัดการกับเจียหนาน เขาก็ใช้ประตูเนรเทศเช่นกัน

และตอนนี้ก็แค่ใช้วิธีเดิมเท่านั้น

ขณะพูดหลินสวินยื่นมือคว้ากลางอากาศ กระบี่มรรคที่แปลงมาจากต้นกำเนิดกฎระเบียบตะวันไพศาลนั้นก็ร่วงมาอยู่ในมือเขา เหมือนคว้าเอาแสงที่เปล่งประกายที่สุดไว้

“หยางเสียเทียนกับหยางปู้ต้งไม่อยู่แล้ว กระบวนค่ายกลร้อนระอุกับกฎระเบียบตะวันไพศาลก็ถูกสยบแล้ว พวกเจ้าตระกูลหยาง… ไม่มีไพ่ตายอื่นแล้วจริงๆ หรือ”

หลินสวินมองไปยังเขาเทพตะวันไพศาลที่อยู่ไกลออกไป

ด้านหยางชางเซิงที่เห็นทุกอย่างนี้ถูกความพรั่นพรึงกลบร่างจนมิดไปแล้ว เขาเลือกหลบหนีแทบจะทันที

เมื่อนานมาแล้วบรรพชนตระกูลหยางก็วาง ‘ทางหนี’ ในอาณาเขตของตระกูลไว้สายหนึ่ง

‘ทางหนี’ นี้คือแท่นบูชาเก่าแก่แท่นหนึ่ง ขอเพียงเหยียบบนนั้นก็จะเคลื่อนย้ายออกจากน่านฟ้าที่เก้าแห่งนี้ในชั่วพริบตา

แต่ผ่านไปเนิ่นนานไม่รู้กี่ปี ตระกูลหยางที่มีฐานะเป็นหนึ่งในเผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าไม่เคยประสบกับภยันตรายใดๆ ทางหนีนี้ถึงกับถูกคนในตระกูลลืมเลือนไปสิ้น

แต่ในฐานะผู้นำตระกูล หยางชางเซิงย่อมไม่อาจลืมได้

เขาเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ เงาร่างพริบไหวสองสามคราก็มาถึงส่วนลึกของเขตหวงห้ามของตระกูล แท่นบูชาเก่าแก่แท่นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น ฝุ่นปกคลุมมานานมากแล้ว

หยางชางเซิงไม่ลังเลสักนิด ทะยานไปทางแท่นบูชาเก่าแก่นั้นทันที

ขอเพียงหนีไปถึงแท่นบูชานั้นก็จะรักษาชีวิตคนทั้งตระกูลหยางของเขาไว้ได้ ภายหน้าย่อมมีโอกาสกลับมาผงาดอีกครั้ง!

แต่ในพริบตาที่หยางชางเซิงก้าวเท้านั่นเอง…

พลังระเบียบน่าครั่นคร้ามแผ่กระจายในชั่วพริบตา ผนึกฟ้าดินแห่งนี้ไว้มั่น ส่วนเงาร่างหยางชางเซิงก็เหมือนแมลงที่ตกลงไปในใยแมงมุม เท้าที่ก้าวออกมาค้างอยู่เช่นนั้น ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกแม้สักนิด

เขาหน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิงแล้ว ใจหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม ทั้งร่างหนาวสะท้าน

นี่เป็นพลังของกฎระเบียบตะวันไพศาล!

แต่ตอนนี้กลับทำให้ความหวังเดียวที่พวกเขาตระกูลหยางทั้งหมดจะรอดออกไปได้พังทลายลงแล้ว!

“ดูท่าตระกูลหยางของพวกเจ้าถึงคราวอับจนหนทางแล้วจริงๆ”

เงาร่างหลินสวินปรากฏขึ้นกลางอากาศ มองเห็นหยางชางเซิงที่หน้าถอดสีเหมือนวิญญาณหลุดลอยก็ถอนใจในใจช้าๆ

ก่อนหน้านี้เขาระแวงมาตลอดว่าในตระกูลหยางยังมีไพ่ตายและไม้เด็ดอื่นๆ อยู่อีก ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหนึ่ง รากฐานพลังที่สั่งสมมาไม่รู้กี่ปีย่อมยากจะรับรองว่าจะไม่มีวิธีร้ายกาจอื่นๆ

แต่ตอนนี้ดูท่า ตนคล้ายจะคิดมากเกินไปแล้ว…

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท