สายตาของพวกเจียหนานกับเหวินไท่หลินทอดมองไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ที่นั่นคือทางเข้าของแดนแรกเริ่ม ปกคลุมด้วยพลังระเบียบระดับเทพ
“พวกเราลงมือเต็มกำลังพร้อมกัน บางทีคงไม่อาจทำลายระเบียบระดับเทพของแดนแรกเริ่มได้ เพียงแต่สามารถสร้างรอยแยกได้ในหนึ่งชั่วยาม ขอแค่บุกเข้าไป ทุกคนทั้งลัทธิแรกกำเนิดก็ยากพ้นเคราะห์”
เจียหนานเอ่ยเสียงเบา
เดิมพวกเขาตั้งใจจะฆ่าหลินสวิน ไม่สนใจทำลายลัทธิแรกกำเนิดเท่าใดนัก
แต่ตอนนี้เมื่อเวลาข้ามด่านเคราะห์ของหลินสวินนานขึ้นเรื่อยๆ นี่ทำให้เหล่าระดับนิรันดร์ในที่นั้นต่างรู้สึกร้อนรนอยู่รางๆ
ถ้าไปโจมตีลัทธิแรกกำเนิดตอนนี้คงไม่อาจบุกเข้าไปได้ในเวลาอันสั้น แต่ถ้าใช้วิธีนี้คงสามารถสั่นคลอนสภาวะจิตของหลินสวินได้
ลองคิดดู เมื่อเห็นว่าลัทธิแรกกำเนิดถูกโจมตี หลินสวินจะข้ามด่านเคราะห์อย่างสงบใจเช่นนั้นอีกหรือ
ขอแค่สภาวะจิตของเขาเกิดข้อผิดพลาดเสี้ยวหนึ่งก็ยากพ้นเคราะห์แน่!
“ได้!”
ถานอู่พยักหน้า
“ตกลงตามนี้”
ระดับนิรันดร์เจ็ดคนที่มาจากน่านฟ้าที่เก้าอย่างพวกเหวินไท่หลินก็ตกปากรับคำ
จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ ล้อมไปตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มด้วยกัน
บทสนทนาระหว่างพวกเขาไม่มีปิดบัง ดังนั้นจึงถูกพวกเสวียนเฟยหลิงได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง กระทั่งเห็นพวกเจียหนานบุกมาตรงทางเข้าแดนแรกเริ่ม พวกเสวียนเฟยหลิงแต่ละคนต่างสีหน้าไม่น่าดูเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจ
“ภายนอกพวกสารเลวนี่จะจัดการพวกเรา ความจริงจะสร้างผลกระทบต่อจิตมรรคของหลินสวิน!”
ฟางเต้าผิงหน้าคล้ำเขียว
ฆ่าคนบั่นจิต ที่แท้เป็นเช่นนี้
“มองออกแล้วอย่างไร นี่คือแผนร้ายเปิดเผย สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็คือปกป้องแดนแรกเริ่ม ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าให้เฒ่าระยำพวกนี้บุกเข้ามา!”
ตู๋กูยงกล่าวเย็นชา
“เร็วเข้า โคจรระเบียบระดับเทพเต็มกำลัง!”
เสวียนเฟยหลิงออกคำสั่ง ในมือพวกเขามีสมบัติลับซึ่งควบคุมระเบียบระดับเทพของลัทธิแรกกำเนิด เวลานี้ต่างไม่กล้าประมาทและเริ่มลงมือแล้ว
ตูม!
ทางเข้าแดนแรกเริ่ม แสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัส ระเบียบระดับเทพอัศจรรย์ม้วนซัดถูกโคจรเต็มกำลัง
เพียงพริบตาก็เห็นแสงม่วงหมื่นจั้ง แสงมงคลพวยพุ่ง งามตระการทั่วทิศ
“นี่ก็คือ ‘ระเบียบวัฏจักรฟ้า’ ของลัทธิแรกกำเนิด เล่าลือว่าบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดได้รับมหาศุภโชคหนึ่งโดยบังเอิญยามท่องยุคสมัยมากมาย เมื่อหยั่งรู้ระเบียบนี้ก็ควบคุมกฎระเบียบวัฏจักรฟ้าได้ มีประโยชน์อย่างมากต่อการฝึกปราณระดับนิรันดร์”
เจียหนานกล่าวอย่างผ่อนคลาย พวกเขาเข้ามาใกล้และเห็นการเปลี่ยนแปลงของพลังระเบียบระดับเทพตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มแล้ว
“ระเบียบระดับเทพบนโลกนี้มีน้อยนัก หากไม่เป็นเช่นนั้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันบุคคลที่ก้าวสู่ระดับนิรันดร์ได้คงไม่มีแค่หยิบมือแน่”
มีคนแววตาลุ่มลึก “ว่าไปแล้วในมือเจ้าหลินสวินนี่ก็มีระเบียบระดับเทพสายหนึ่ง ไม่รู้ว่าถูกเขาซ่อนไว้ที่ไหน”
“หึๆ วางใจเถอะ ครั้งนี้หลังจากลัทธิแรกกำเนิดพินาศย่อยยับ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบระดับเทพในมือเขาหรือระเบียบวัฏจักรฟ้านี้ล้วนต้องตกเป็นของพวกเราแน่”
มีคนยิ้มน้อยๆ
“ทุกท่านอย่าล่าช้าอีก ลงมือพร้อมกันก็พอ”
ถานอู่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แสงมรรคนิรันดร์อบอวลทั่วร่าง ซัดหมัดหนึ่งออกไปกลางอากาศ
ตูม!
กฎระเบียบฟ้าดินล้วนปั่นป่วนสั่นสะเทือน พลังหมัดนั้นราวกับทะลวงพันธนาการเวลาได้ แข็งแกร่งถึงขั้นน่าเหลือเชื่อ ซัดจนระเบียบวัฏจักรฟ้าพลันพลิกตลบ เกิดเสียงกัมปนาทครั่นครืน ละอองแสงสาดกระจาย
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นเห็นดังนี้ก็ลงมือพร้อมกันโดยไม่ลังเลอีก
ระดับนิรันดร์เก้าคนร่วมมือกัน อานุภาพนั้นน่ากลัวเพียงใด
ก็เห็นปราณกระบี่ ประทับฝ่ามือ แสงสมบัติทยอยปรากฏ ละอองแสงตัดสลับสาดส่องท้องนภา จากนั้นกระแสนิรันดร์ยิ่งใหญ่ทรงพลังพุ่งไปตรงทางเข้าแดนแรกเริ่ม
ตูม… โครม…
ฟ้าพลิกดินตลบ สุริยันจันทราหม่นแสง พลังกฎเกณฑ์นิรันดร์อัดแน่นในวิชามรรคกับศาสตรามรรคถล่มลงมาพร้อมกันอย่างแน่นหนา คว่ำโลกใหญ่แห่งหนึ่งและทำลายที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตมากมายได้โดยง่าย!
ส่วนระเบียบระดับเทพตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มก็ตกอยู่กลางคลื่นสะเทือนรุนแรง แสงม่วงสาดกระเซ็น ส่งเสียงครวญไม่หยุด…
แต่ถึงอย่างไรระเบียบระดับเทพก็เป็นระเบียบระดับเทพ ต่อให้ถูกโจมตีราวทำลายล้างเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะถูกทำลายในเวลาอันสั้น
สำหรับเรื่องนี้พวกเจียหนานเตรียมใจมาแต่แรก ทั้งไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย
พวกเขาลงมือโจมตีเต็มกำลัง เรียกศาสตรามรรคนิรันดร์ของแต่ละคนออกมา สำแดงยอดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตน ทำให้ฟ้าดินซึ่งมีทางเข้าแดนแรกเริ่มเป็นศูนย์กลางแถบนี้ถูกบดทลายเป็นจุณโดยตรง ทุกหนแห่งล้วนเปี่ยมกระแสพลังป่วนคลั่งน่าพรั่นพรึง
ในแดนแรกเริ่มพวกเสวียนเฟยหลิงหน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด ต่อให้เค้นพลังระเบียบระดับเทพเต็มกำลัง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่มีทางยืนหยัดได้นาน
หากเป็นไปดังคาด ภายในหนึ่งชั่วยามระเบียบวัฏจักรฟ้าต้องถูกทำลายแน่!
ระเบียบระดับเทพที่บกพร่อง ย่อมไม่มีทางปกป้องทั้งลัทธิแรกกำเนิดได้อีก!
เสวียนเฟยหลิงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วกัดฟันกล่าว “ไม่ว่าอย่างไร สามารถต้านนานเท่าไรก็ต้านนานเท่านั้น ต่อให้ตาย… ก็ไม่อาจถอย!”
ตายก็ไม่อาจถอย!
หากไม่ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง มีหรือจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและน่าหดหู่เช่นนี้
พวกตู๋กูยงกับฟางเต้าผิงจิตใจปั่นป่วน ความกังวล ร้อนรน สิ้นหวังก่อนหน้านี้พลันหายไปสิ้น ทั้งหมดกลายเป็นความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวถึงขีดสุด
ก็แค่ตายเท่านั้น
แต่ก่อนตายพวกเขาจะทุ่มเทพลังทั้งหมดของตนไปต้านทาน!
บนเวิ้งฟ้ามหาเคราะห์นิรันดร์ที่เพ่งเล็งหลินสวินยังเปิดฉากต่อเนื่อง ไม่สัญญาณซ่านสลายสักนิด
ตามเวลาที่ล่วงเลยระเบียบวัฏจักรฟ้าถูกโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ นานเข้าก็ยิ่งรุนแรง
ระดับนิรันดร์เก้าคนเงยหน้ามองส่วนลึกของเวิ้งฟ้าเป็นครั้งคราว คล้ายอยากแน่ใจว่าสภาวะจิตของหลินสวินได้รับผลกระทบ ทั้งประสบเคราะห์ถึงตายแล้วหรือไม่
แต่ไม่นานพวกเขาก็จดจ่ออยู่กับการโจมตี
สีหน้าแต่ละคนต่างกันออกไป แต่ล้วนเจือกลิ่นอายเฉยชา
“ทุกท่าน อีกไม่นานจะทะลวงช่องโหว่ตรงนี้ได้ เพียงพอให้พวกเราบุกเข้าไปในนั้น!”
ทันใดนั้นสีหน้าเจียหนานเผยยิ้มน้อยๆ เอ่ยปากเสียงดัง
เขาไม่สนใจว่าจะถูกหลินสวินหรือพวกเสวียนเฟยหลิงในแดนแรกเริ่มได้ยิน
“เยี่ยม! เช่นนั้นก็บุกเข้าไปในลัทธิแรกกำเนิดก่อน ค่อยจัดการเจ้าเดรัจฉานหลินสวินนี่ เช่นนี้ย่อมตัดสินสถานการณ์ได้แน่!”
ถานอู่กระเหี้ยนกระหือรือ
ตูม!
พวกเขายิ่งโจมตีหนักหน่วง
ในลัทธิแรกกำเนิดพวกเสวียนเฟยหลิงสีหน้าขาวซีด ใช้พลังไปเกือบหมดแล้ว ด้วยมรรควิถีของพวกเขา ยามใช้ระเบียบระดับเทพต้านศัตรูย่อมยืนหยัดได้ไม่นานนัก
“มหาเคราะห์ของหลินสวินยังไม่สิ้นสุด พวกเรา… พวกเราคงยืนหยัดได้ไม่นานแล้ว…”
มุมปากตู๋กูยงมีรอยเลือดสายหนึ่ง สีหน้าซีดเผือด
น้ำเสียงเจือความไม่ยินยอมและเดือดดาลอย่างเด่นชัด
เมื่อมองคนอื่นอีกครั้ง พลังขับเคลื่อนทั่วร่างต่างผลาญไปด้วยความเร็วชวนตะลึง สีหน้าแต่ละคนล้วนเจือความไม่ยินยอมและเคียดแค้น
ทำไมเป็นเช่นนี้
วันนี้ลัทธิแรกกำเนิดจะถูกลบชื่อไปจากโลกจริงหรือ
ปัง!
ทันใดนั้นสมบัติลับระเบียบในมือฟางเต้าผิงแตกละเอียด สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดไม่น่าดูในชั่วขณะเดียว “จบเห่แล้ว…”
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ระดับนิรันดร์เก้าคนที่โลกภายนอกสังเกตเห็นอย่างชัดเจน ว่าอานุภาพของพลังระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมทางเข้าแดนแรกเริ่มลดฮวบลงช่วงใหญ่อย่างเห็นได้ชัด
“ตอนนี้แหละ!”
ถานอู่ตวาดลั่น นัยน์ตาวาววาบหาใดเปรียบ
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นต่างเผยสีหน้ายินดีเสี้ยวหนึ่ง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าพลังระเบียบของแดนแรกเริ่มจะเกิดช่องโหว่เร็วกว่าการคาดเดาของพวกเขา
“ฆ่า!”
พวกเขาลงมือเต็มกำลังโดยไม่ลังเล
ในช่วงเวลาคับขันนี้เสียงกัมปนาทลุ่มลึกสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้องในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า
ตูม!!!
เสียงกัมปนาทนั้นราวกับจะสั่นคลอนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ปั่นป่วนอยู่นอกเวิ้งฟ้า สะเทือนจนระดับนิรันดร์เก้าคนที่ตั้งท่าบุกเข้าไปในลัทธิแรกกำเนิดรวดเดียวตัวแข็งทื่อ ในใจสั่นสะท้าน
นี่คือ?
พวกเขาพลันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่า…
แสงเคราะห์ชวนประหวั่นที่ปกคลุมส่วนลึกของเวิ้งฟ้าดั่งมหาสมุทรเวลานี้ถึงกับระเบิดออกทันที เมฆาเคราะห์แน่นหนาที่ปกคลุมเวิ้งฟ้านั้นระเบิดกระจุยเหมือนถูกโจมตีจนดับสลาย
จากนั้นเงาร่างสูงโปร่งหนึ่งหยัดตัวขึ้นในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า
พริบตานั้นอานุภาพชวนประหวั่นที่ทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือนแผ่กระจายออกมาจากร่างสูงโปร่งนั่น เวลานี้แสงเคราะห์และเมฆาเคราะห์ที่ถูกซัดแหลกทั่วทิศเหมือนถูกพายุม้วนกลืน ถาโถมไปทางร่างนั้นจากทั่วทิศอย่างบ้าคลั่ง
โครมครืน…
พลังของแสงเคราะห์กับเมฆาเคราะห์โหมกระหน่ำ ล้วนถูกเงาร่างนั้นกลืนกินดั่งพายุหอบเศษเมฆา แค่ไม่กี่ลมหายใจเท่านั้นฟ้าดินก็ปลอดโปร่งทั้งแถบ
ไม่มีทั้งแสงเคราะห์และเมฆาเคราะห์!
มหาเคราะห์นิรันดร์ราวกับวันสิ้นโลก เวลานี้ถึงกับถูกกลืนกินจนหมด!?
นัยน์ตาของพวกเจียหนาน ถานอู่พลันหดรัดในชั่วขณะ เผยสีหน้ายากจะเชื่อออกมา
หลินสวินนั่น… ถึงกับข้ามด่านเคราะห์สำเร็จแล้ว!
ในสายตาพวกเขา ที่ส่วนลึกของเวิ้งฟ้าตอนนี้ ทั่วร่างหลินสวินล้วนถูกกลิ่นอายนิรันดร์ยิ่งใหญ่ที่คลุมเครือเร้นลับอบอวล เปล่งประกายโชติช่วง อานุภาพของกลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั่วร่างบีบกดจนฟ้าดินแถบนี้สั่นสะเทือน ส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด
ทำให้พวกเขาระดับนิรันดร์เก้าคนรู้สึกถึงพลังกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง
แข็งแกร่งมาก!
เพิ่งข้ามด่านเคราะห์สำเร็จเท่านั้น ไม่เพียงไม่มีสัญญาณอ่อนแอใดๆ กลับเป็นว่าแข็งแกร่งจนทำให้เฒ่าชราที่แจ้งมรรคนิรันดร์มาไม่รู้กี่กาลเวลาอย่างพวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคามอย่างเด่นชัด!
ในแดนแรกเริ่ม
พวกเสวียนเฟยหลิงที่เดิมเตรียมใจตายอึ้งงันไปก่อน จากนั้นก็ยินดีปรีดาไม่หยุด
หลินสวินข้ามด่านเคราะห์สำเร็จแล้ว!
นี่ทำให้พวกเขาเห็นความหวังเสี้ยวหนึ่ง ตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว
“วันนี้หากข้าคนแซ่หลินไม่สังหารพวกเจ้าจะไม่ขอเป็นคน!”
เสียงหลินสวินดังก้องจากส่วนลึกของเวิ้งฟ้า ในความเยียบเย็นเจือไอสังหารโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย เหมือนจักรพรรดิสวรรค์ออกคำสั่ง ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
ก่อนหน้านี้แม้เขากำลังข้ามด่านเคราะห์ แต่ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มถูกเขาเก็บไว้ในใจนานแล้ว
กล่าวได้ว่าหลินสวินแค้นระดับนิรันดร์ที่ต่ำช้าถึงขีดสุดพวกนี้เข้ากระดูก ไอสังหารพลุ่งพล่าน ไม่มีทางปล่อยพวกเขาจากไปแน่
พวกเจียหนานหรี่ตา จากนั้นก็ไม่วายยิ้มหยัน
ระดับนิรันดร์ที่เพิ่งข้ามด่านเคราะห์แจ้งมรรคคนหนึ่ง ยังพูดเพ้อเจ้อว่าจะฆ่าเฒ่าชราอย่างพวกเขา เรื่องนี้น่าขันเพียงใด
“สหายยุทธ์ถานอู่ เจ้ากับข้ามิสู้ลงมือพร้อมกันจัดการเจ้าหมอนี่ สหายยุทธ์อีกเจ็ดคนโจมตีลัทธิแรกกำเนิดต่อเป็นอย่างไร”
เจียหนานกล่าวสีหน้าราบเรียบ
“ได้”
ถานอู่พยักหน้า
พวกเหวินไท่หลิน เย่ซางคิดๆ แล้วก็เอ่ยตกลง
ทำสองสิ่งพร้อมกัน ไม่ว่าจัดการหลินสวินหรือจัดการลัทธิแรกกำเนิด ล้วนสร้างแรงโจมตีถึงชีวิตได้ทั้งสิ้น!
“ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงไม่มีโอกาส”
ในส่วนลึกของเวิ้งฟ้าสีหน้าหลินสวินเรียบเฉยเยียบเย็น ขณะกล่าวเขาก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ก็พลันมาถึงหน้าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับนิรันดร์พวกนั้นแล้ว