ตอนที่ 3012 ท้าทายหน้าประตูเพียงลำพัง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3012 ท้าทายหน้าประตูเพียงลำพัง

ProjectZyphon

ระหว่างทาง​หลิน​สวิน​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​พลัง​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​ใน​น่านฟ้า​ที่​เก้า​แห่ง​นี้​สามารถ​รับ​พลัง​ของ​ระดับ​นิรันดร์​ได้​

มิน่า​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ถึงมีอีก​ชื่อว่า​แดน​นิรันดร์​

ก็​มีแต่​สถานที่​เช่นนี้​ถึงรองรับ​พลัง​ปราณ​ของ​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​ รวมถึง​ระดับ​นิรันดร์​เหล่านั้น​ได้​

หาก​เปลี่ยนเป็น​ที่อื่น​ย่อม​เป็นไปไม่ได้​สักนิด​

‘เป็น​สถานที่​ที่​ดี​จริงๆ​’

ตลอดทาง​แม้ว่า​หลิน​สวิน​จะเร่ง​เดินทาง​อย่าง​รวดเร็ว​ยิ่ง​ แต่​ตาม​ทาง​ก็ได้​เห็น​ว่า​ทุกหน​แห่ง​ภูเขา​งามน้ำดี​ ผืนดิน​พิสุทธิ์​กว้างใหญ่​ สิ่งมีชีวิต​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​น่านฟ้า​นี้​ต่าง​ได้รับ​การ​หล่อเลี้ยง​จาก​ไอ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​ตาม​ธรรมชาติ​ มีรากฐาน​มหา​มรรค​ที่​เหนือกว่า​สิ่งมีชีวิต​ใน​น่านฟ้า​อื่น​

นี่​ยัง​เป็น​แค่​สิ่งที่​พบเห็น​ได้​ทั่วไป​ ถ้าฝึก​ปราณ​ใน​ถ้ำสวรรค์​แดน​มงคล​หา​ยาก​บางแห่ง​ ประโยชน์​ที่​ได้​ย่อม​มากยิ่งขึ้น​

ตอนนี้​หลิน​สวิน​รู้​แล้ว​ว่า​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ไม่ได้​มีแต่​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​กับ​เผ่า​เทพ​อมตะ​ยี่สิบ​สี่ตระกูล​

ใน​น่านฟ้า​อัน​กว้างใหญ่​ไร้​สิ้นสุด​แห่ง​นี้​ยังมี​สิ่งมีชีวิต​มากมาย​กระจาย​ตัว​อยู่​ มีขุม​อำนาจ​ตระกูล​และ​สำนัก​มากมาย​นับไม่ถ้วน​

แต่​ขุม​อำนาจ​เหล่านี้​ต่าง​อิงแอบ​อยู่​ภายใต้​เผ่า​เทพ​ต่างๆ​ ทั้งสิ้น​

เพราะ​อาณาเขต​ใน​น่านฟ้า​ที่​เก้า​แห่ง​นี้​ถูก​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​กับ​เผ่า​เทพ​อมตะ​เหล่านั้น​แบ่งสรร​อย่าง​ชัดเจน​ไป​นาน​แล้ว​ คิด​จะเติบโต​ใน​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ก็​ทำได้​เพียง​เลือก​ศิโรราบ​

นี่​คล้าย​กับ​สถานการณ์​ใน​น่านฟ้า​ที่​แปด​อยู่​บ้าง​

แต่​ก็​มีอีก​หลายอย่าง​ที่​แตก​ต่างกัน​ จุดหลัก​ก็​อยู่​ที่​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​เป็น​นาย​เหนือ​หัว​สูงสุด​ที่​แท้จริง​ของ​โลก​หล้า​ ดำรงอยู่​มาถึงตอนนี้​ไม่รู้​กี่​วัน​เวลา​ เรียก​ได้​ว่า​เป็น​คงอยู่​มาแต่​โบราณ​!

หาก​เป็น​แต่ก่อน​หลิน​สวิน​ก็​ไม่กล้า​มาเยือน​ตามลำพัง​สักนิด​ ถึงอย่างไร​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​แต่ละ​ตระกูล​ล้วน​มีเฒ่าชรา​ระดับ​นิรันดร์​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​ดูแล​

แต่​ตอนนี้​…

สถานการณ์​เปลี่ยนไป​นาน​แล้ว​

เมื่อ​พวก​เฒ่าชรา​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​กับ​ขั้น​สรร​สร้าง​เหล่านั้น​ทยอย​มุ่งหน้า​ไป​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ ก็​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​ทั้ง​น่านฟ้า​ที่​เก้า​อ่อนแอ​ที่สุด​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

แน่นอน​ว่า​นี่​มีผลต่อ​หลิน​สวิน​เพียงผู้เดียว​เท่านั้น​

เพราะ​ไม่ว่า​กับ​ขุม​อำนาจ​หรือ​ผู้​แข็งแกร่ง​คนใด​ก็ตาม​ เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​ที่​ยัง​มีระดับ​นิรันดร์​คอย​ดูแล​อยู่​ ก็​ยัง​เป็น​มหา​คีรี​ที่​ไม่อาจ​สั่นคลอน​ได้​!

……

เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​

ใน​ส่วนลึก​ของ​เขา​เทพ​ที่​ทั้ง​ภูเขา​ปกคลุม​อยู่​ใต้​กฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​มีแดน​ลับ​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​

ใจกลาง​แดน​ลับ​นี้​มียอดเขา​ที่สูง​เด่น​ทะลุ​เมฆลูก​หนึ่ง​ ณ จุดสูงสุด​ของ​ยอดเขา​มีคฤหาสน์​เก่าแก่​หลัง​หนึ่ง​เผย​ตัว​วับแวม​อยู่​กลาง​ทะเล​เมฆ

ที่นี่​คือ​คฤหาสน์​หลัก​ของ​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​ตระกูล​หยาง​

ใน​ตระกูล​หยาง​มีเพียง​เฒ่าชรา​ที่​มีพลัง​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ขึ้นไป​ถึงมีสิทธิ์​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​หลัก​ของ​ตระกูล​

ยาม​นี้​ผู้นำ​ตระกูล​หยาง​ชางเซิงกำลัง​สนทนา​กับ​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ระดับ​นิรันดร์​สอง​คน​อย่าง​หยาง​เสีย​เทียน​และ​หยาง​ปู้ต้ง​

“พูด​เช่นนี้​ เป็นไปได้​สูงยิ่ง​ว่า​กลิ่นอาย​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​บน​โลก​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​จะเกิดขึ้น​จาก​หลิน​สวิน​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​หรือ​”

หยาง​ชางเซิงขมวดคิ้ว​แน่น​ เขา​สวม​ชุด​ขาว​ เครา​ยาว​ปลิว​ไหว​ ใบหน้า​ดุจ​หยก​ยอด​มงกุฎ​ สง่างามเป็นธรรมชาติ​ แม้เป็น​ผู้นำ​ตระกูล​หยาง​ แต่​ตัว​เขา​เอง​กลับ​มีพลัง​ปราณ​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​

“ไม่ใช่เป็นไปได้​สูงยิ่ง​ แต่​ใช่แน่ๆ​”

หยาง​เสีย​เทียน​เอ่ย​เสียง​เครียด​ “อีก​ทั้ง​หลิน​สวิน​คน​นี้​ต้อง​บรรลุ​ระดับ​นิรันดร์​ไป​แล้ว​ ไม่เช่นนั้น​ลำพัง​คน​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​เพียง​หยิบมือ​นั่น​ ไม่มีทาง​ต้าน​การ​ล้อม​โจมตีจาก​ระดับ​นิรันดร์​เก้า​คน​ได้​สักนิด​”

เขา​สวม​ชุด​ดำ​ทั้งตัว​ เบ้าตา​ลึก​โหล​ แม้ชรา​แต่​ผิวหน้า​อ่อนเยาว์​ กลิ่นอาย​ระดับ​นิรันดร์​อัน​น่า​ตกตะลึง​แผ่​ไป​ทั้ง​ร่าง​

หยาง​ชางเซิงเอ่ย​อย่าง​ยาก​จะเชื่อ​ว่า​ “หรือ​ผู้อาวุโส​คิด​ว่า​หลิน​สวิน​ที่​เพิ่ง​ฝ่าเคราะห์​แจ้งมรรค​ผู้​นี้​ สามารถ​สังหาร​ระดับ​นิรันดร์​เก้า​คน​นั้น​ได้​หรือ​”

“เรื่อง​นี้​เป็นไปไม่ได้​ตรงไหน​ อย่า​ลืม​สิว่า​ตอนนั้น​อาจารย์​เขา​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​เคย​คุยโว​ใน​น่านฟ้า​ที่​เก้า​นี้​ ว่า​เมื่อ​ยอด​มรรคา​อมตะ​ปรากฏ​จะต้อง​ทำลาย​ความรู้​ความเข้าใจ​ใน​อดีต​ทั้งหมด​ พลิก​ความคาดหมาย​ของ​ผู้คน​ทั่วหล้า​”

หยาง​ปู้ต้ง​เอ่ย​เนิบๆ​ ว่า​ “และ​ไม่กี่​ปีก่อน​ หลิน​สวิน​ได้​พิสูจน์​ความ​เย้ย​ฟ้าและ​แกร่งกล้า​ของ​มรรคา​ยอด​อมตะ​ด้วย​ศึก​ใหญ่​ต่างๆ​ มาแล้ว​”

เขา​เว้น​ช่วง​ไป​ ดวงตา​ปรากฏ​แวว​คลุมเครือ​ “ยิ่งกว่านั้น​ถ้าไม่ใช่เพราะ​สัมผัส​ได้​ถึงภัย​คุกคาม​จาก​ตัว​หลิน​สวิน​ ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​ของ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​นั่น​จะมีคำสั่ง​ให้​พวกเรา​ร่วมมือ​กับ​ลัทธิ​พ่อ​มด​และ​ลัทธิ​ฌาน​ ไป​ฆ่าเจ้าหนุ่ม​หลิน​สวิน​นั่น​ได้​อย่างไร​”

เขา​สวม​ชุด​หยก​ ผม​ยา​วสี​ดอกเลา​กระเซอะกระเซิง​ ใบหน้า​แห้งเหี่ยว​

หยาง​เสีย​เทียน​ก็​พยักหน้า​เอ่ย​ “กระทั่ง​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​ยัง​คิด​ว่า​ส่งระดับ​นิรันดร์​เก้า​คน​ไป​จึงจะมีโอกาส​สังหาร​หลิน​สวิน​ แค่​คิด​ก็​รู้​ว่า​หลังจาก​คน​ผู้​นี้​แจ้งมรรค​นิรันดร์​แล้​วจะ​เป็น​ภัย​ร้ายแรง​แค่​ไหน​”

ระหว่าง​ที่​ฟังการ​วิเคราะห์​ของ​ผู้อาวุโส​ระดับ​นิรันดร์​ทั้งสอง​ ใจหยาง​ชางเซิงยัง​เปลี่ยนเป็น​หนักอึ้ง​

ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​คน​หนึ่ง​ กลับ​เย้ย​ฟ้าถึงขั้น​เพิ่ง​แจ้งมรรค​นิรันดร์​ก็​สังหาร​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ระดับ​นิรันดร์​เก้า​คน​ได้​!?

นี่​น่า​ตกตะลึง​ยิ่ง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

ครู่หนึ่ง​หยาง​ชางเซิงถึงถอนหายใจ​ยาว​ เอ่ย​ว่า​ “ถ้าตอนนี้​หลิน​สวิน​บุก​มาใน​น่านฟ้า​ที่​เก้า​…เช่นนั้น​ก็​อันตราย​แล้ว​…”

กลับ​พบ​ว่า​หยาง​เสีย​เทียน​หัวเราะ​หยัน​ “ผู้นำ​ตระกูล​ อย่า​ตกใจ​เพราะ​หลิน​สวิน​ อย่า​ลืม​สิ ที่นี่​คือ​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ เป็น​อาณาเขต​ของ​พวกเรา​ตระกูล​หยาง​ ต่อให้​หลิน​สวิน​บุก​มาก็​ต้อง​ถูก​ขวาง​ไว้​นอก​กฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​ของ​ตระกูล​เรา​!”

เสียง​เผย​แวว​มั่นใจ​โดย​สมบูรณ์​

หยาง​ชางเซิงดวงตา​เปล่งประกาย​ “ใช่ พลัง​ต่อสู้​ของ​เขา​อาจจะ​สู้กับ​คน​หลาย​คน​เพียงลำพัง​ได้​ เย้ย​ฟ้าถึงขีดสุด​ แต่​ย่อม​ไม่อาจ​สั่นคลอน​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ได้​แน่ๆ​!”

ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ นั่น​เป็น​สมบัติ​ล้ำ​ค่าที่​ขัดขวาง​การ​โจมตี​ของ​ระดับ​นิรันดร์​ได้​ และ​ยัง​เป็น​รากฐาน​ของ​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​ตระกูล​หนึ่ง​

ทำไม​ระดับ​นิรันดร์​ถึงปรากฏ​ใน​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​ได้​

จุดหลัก​ก็​อยู่​ที่​มีระเบียบ​ระดับ​เทพ​!

“นอกจากนี้​ตระกูล​เรา​ยังมี​กระบวน​ค่าย​กล​ร้อนระอุ​ ทั้ง​ยังมี​ข้า​กับ​เสีย​เทียน​อยู่​ ต่อให้​หลิน​สวิน​นั่น​บุก​มาก็​ต้อง​คว้าน้ำเหลว​กลับ​ไป​”

หยาง​ปู้ต้ง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ “ข้า​ถึงกับ​กังขา​ว่า​หลิน​สวิน​ก็​คง​รู้​เหมือนกัน​ ว่า​ถ้ามีระเบียบ​ระดับ​เทพ​คุ้มครอง​ เผ่า​เทพ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​แห่ง​นี้​ย่อม​ไม่ใช่สิ่งที่​เขา​จะประจันหน้า​ได้​ ดังนั้น​เกรง​ว่า​เขา​จะไม่กล้า​มา”

หยาง​ชางเซิงพลัน​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ กล่าวว่า​ “เป็น​เช่นนี้​จะดี​ที่สุด​ ต้องโทษ​ว่า​ผลกระทบ​ของ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​รุนแรง​เกินไป​ หาไม่​ต่อให้​หลิน​สวิน​คน​นี้​จะเย้ย​ฟ้าปาน​ไหน​ก็​ไม่มีทาง​อยู่​ใน​สายตา​พวกเรา​ได้​สักนิด​”

ได้ยิน​ดังนั้น​หยาง​เสีย​เทียน​กับ​หยาง​ปู้ต้ง​ต่าง​ก็​ทอดถอนใจ​

เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ภัย​คุกคาม​ของ​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​ ระดับ​นิรันดร์​ขั้น​สรร​สร้าง​และ​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​ของ​พวกเขา​ตระกูล​หยาง​ต่าง​ไป​ยัง​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ตั้งแต่​เมื่อ​ไม่กี่​สิบ​ปีก่อน​แล้ว​

หาก​ไม่เป็น​เช่นนี้​ ย่อม​ไม่ต้อง​สนใจ​เจ้าหนุ่ม​เย้ย​ฟ้าอย่าง​หลิน​สวิน​สักนิด​

“ราย​งาน.​..”

ทันใดนั้น​เสียง​แก่​ชรา​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​นอก​คฤหาสน์​

เงาร่าง​ข้า​รับใช้​อาวุโส​คน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​มาทันที​ หมอบ​คำนับ​ลง​กับ​พื้น​เอ่ย​ว่า​ “ใต้เท้า​ทุกท่าน​ มีชายหนุ่ม​ที่​เรียก​ตัวเอง​ว่า​หลิน​สวิน​ปรากฏตัว​อยู่​นอก​ประตู​ภูเขา​ ประกาศ​ว่า​ให้​ตระกูล​เรา​ศิโรราบ​ หาไม่​จะทำลาย​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​ให้​ราบเป็นหน้ากลอง​”

หลิน​สวิน​!

หยาง​ชางเซิงใจสะท้าน​ เอ่ย​ว่า​ “เขา​ถึงกับ​มาจริงๆ​!?”

เมื่อ​ครู่​เพิ่ง​พูดถึง​คน​ผู้​นี้​ เขา​ดัน​มาแล้ว​จริงๆ​ นี่​จะไม่ให้​พวกเขา​ประหลาดใจ​ได้​อย่างไร​

“เจ้าหมอ​นี่​ไป​เอา​ความมั่นใจ​มาจาก​ไหน​ ถึงกับ​กล้า​มาท้าทาย​พวกเรา​อย่าง​เปิดเผย​เช่นนี้​

หยาง​เสีย​เทียน​ก็​รู้สึก​เหลือเชื่อ​นัก​

“ดู​สักหน่อย​ว่า​ตกลง​ใช่เจ้าหมอ​นี่​หรือไม่​”

ขณะ​พูด​หยาง​ปู้ต้ง​ก็​สะบัด​แขน​เสื้อ​ วง​คลื่น​ระเบียบ​เป็น​ระลอก​ๆ ไหลเวียน​แปลง​เป็น​จอภาพ​ชิ้น​หนึ่ง​ สิ่งที่​ฉาย​อยู่​ใน​จอ​ก็​คือ​ภาพ​นอก​ประตู​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​

ก็​เห็น​เงาร่าง​สูงโปร่ง​สาย​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ตามลำพัง​ตรงนั้น​ เขา​สวม​ชุด​ขาว​พระจันทร์​ ผม​ยาว​ปลิว​ไหว​ รูปลักษณ์​หล่อเหลา​ละ​โลกีย์​ เป็น​หลิน​สวิน​จริงๆ​

“ถึงกับ​เป็น​เขา​จริงๆ​….” หยาง​ปู้ต้ง​นิ่วหน้า​อย่า​งอด​ไม่ได้​เช่นกัน​

เมื่อ​หยาง​ชางเซิงนึกได้​ว่า​คนใหญ่คนโต​ระดับ​นิรันดร์​เก้า​คน​ต่าง​ถูก​หลิน​สวิน​คนเดียว​ฆ่าตาย​ ใน​ใจก็​สั่นระรัว​ไป​ครู่หนึ่ง​ เอ่ย​ถามอย่า​งอด​ไม่อยู่​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​ นี่​จะทำ​อย่างไร​”

หยาง​เสีย​เทียน​เอ่ย​เรียบๆ​ “หาก​เขา​บุก​เข้ามา​ได้​เกรง​ว่า​คง​ไม่ต้อง​ท้าทาย​สักนิด​ ย่อม​บุก​ฆ่าเข้ามา​โดยตรง​ หัวหน้า​ตระกูล​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ มีกฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​กับ​กระบวน​ค่าย​กล​ร้อนระอุ​อยู่​ เขา​ต้อง​อับจน​หนทาง​แน่​”

ก็​ใน​ตอนนี้​เอง​หลิน​สวิน​ที่อยู่​ใน​จอภาพ​นั้น​คล้าย​สัมผัส​ได้​ว่า​มีคน​แอบมอง​เขา​อยู่​ จู่ๆ ก็​เงย​ขึ้น​มอง​ บน​ใบหน้า​ยัง​ปราก​ฎรอยยิ้ม​เย็นชา​

‘ทุกท่าน​ ถ้ายัง​ไม่ออกมา​อีก​ เกรง​ว่า​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​ที่​เรียก​ได้​ว่า​ไม่เป็นรอง​ใคร​ใน​โลก​นี้​จะถูก​ทำลาย​แล้ว​’ หลิน​สวิน​พูด​เนิบๆ​

แม้ไม่มีเสียง​ออกมา​ แต่​พวก​หยาง​ชางเซิงกลับ​อ่าน​จาก​ปาก​เขา​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​เขา​พูด​อะไร​

“กำเริบเสิบสาน​จริงๆ​!”

สีหน้า​หยาง​เสีย​เทียน​อึมครึม​ลง​แล้ว​

ตั้งแต่​อดีต​ถึงตอนนี้​ ทั่วหล้า​นี้​ใคร​กล้า​โหวกเหวก​หน้า​ประตู​ภูเขา​ของ​พวกเขา​ตระกูล​หยาง​เช่นนี้​

“ช่างเถอะ​ ให้​ข้า​ใช้กฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​ฆ่าเจ้าหมอ​นี่​ก็​พอ​”

ขณะ​พูด​หยาง​ปู้ต้ง​ก็​สะบัดมือ​ทันที​

โครม​!

ฟ้าดิน​ที่​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​ตั้งอยู่​นี้​พลัน​ปลดปล่อย​แสงสว่าง​ไร้​ขอบเขต​ ชั่วพริบตา​นั้น​คล้าย​มีดวงอาทิตย์​นับ​ร้อย​นับ​พัน​ลอย​สูงขึ้น​จาก​พื้นดิน​ ประกาย​แสงหมื่น​จั้งโชติช่วง​ชัชวาล​

คน​ตระกูล​หยาง​ที่​กระจาย​อยู่​ตาม​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​ต่าง​ตกตะลึง​อย่า​งอด​ไม่อยู่​ ล้วน​หยุด​สิ่งที่​ทำ​อยู่​ สีหน้า​เผย​แวว​งุนงง​

นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​!

พวกเขา​เคยชิน​กับ​ความ​สงบสุข​ใน​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​มาไม่รู้​กี่​ปี​ คนใน​ตระกูล​มากมาย​ถึงกับ​ไม่เคย​เห็น​อานุภาพ​กฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​ของ​ตระกูล​

แต่​ตอนนี้​กฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​ถูก​โคจร​แล้ว​ อานุภาพ​ยิ่งใหญ่​น่า​ตกตะลึง​อุบัติ​ขึ้น​

ขณะเดียวกัน​ที่​นอก​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​ หลิน​สวิน​ก็​สังเกต​เห็นภาพ​นี้​เช่นกัน​ นัยน์ตา​หรี่​ลง​เล็กน้อย​ แต่​สีหน้า​ยังคง​ราบเรียบ​เช่น​เดิม​

พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​สาย​หนึ่ง​หรือ​

นับว่า​ให้​ตน​ได้​ครอบครอง​พลัง​กฎระเบียบ​เพิ่ม​อีก​สาย​

เมื่อ​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา หลิน​สวิน​ก็​ตั้งตาคอย​อยู่​บ้าง​อย่า​งอด​ไม่ได้​ ถ้าชิงระเบียบ​ระดับ​เทพ​ของ​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​ได้​ทั้งหมด​ บางที​อาจ​เติมเต็ม​ความต้องการ​ใน​การ​ฝึก​ปราณ​ยาม​ตน​อยู่​ขั้น​สรร​สร้าง​ให้​เพียงพอ​ก็​เป็นได้​

“หลิน​สวิน​ ให้โอกาส​เจ้าครั้งหนึ่ง​ รีบ​จากไป​เสีย​ตอนนี้​ยัง​รักษา​ชีวิต​น้อย​ๆ ของ​เจ้าไว้​ได้​ หาไม่​แล้ว​อย่า​โทษ​ที่​ข้า​จะสังหาร​เจ้าที่นี่​”

ทันใดนั้น​เสียง​เฉยชา​เหี้ยมเกรียม​ของ​หยาง​ปู้ต้ง​ก็​ดัง​ขึ้น​กลาง​ฟ้าดิน​

กลับ​พบ​ว่า​หลิน​สวิน​ยิ้ม​อย่าง​ไม่ใส่ใจ เอ่ย​ว่า​ “สาเหตุ​ที่​ข้า​คน​แซ่หลิน​ตรง​มาที่นี่​ ก็​ไม่มีอะไร​มาก​ไป​กว่า​หมาย​จะหลอม​เขา​เทพ​ตะวัน​ไพศาล​แห่ง​นี้​ไป​อย่าง​สมบูรณ์​ไม่สึกหรอ​ก่อน​จากไป​ ถ้าพวก​เจ้าคิด​ว่า​ข้า​คน​แซ่หลิน​ไม่มีความสามารถ​จัดการ​กฎระเบียบ​ตะวัน​ไพศาล​นี้​ก็​ผิด​มหันต์​แล้ว​”

เสียงพูด​เพิ่ง​เงียบ​ลง​ เสียงหัวเราะ​ด้วย​ความ​กราดเกรี้ยว​ยิ่ง​ของ​หยาง​ปู้ต้ง​ก็​ดัง​ขึ้น​ “หลิน​สวิน​ นี่​เจ้ามารนหาที่​ตาย​เอง​นะ​!”

ทุก​คำพูด​ดังสนั่น​ดุจ​อสนีบาต​ กึกก้อง​ไป​สิบ​ทิศ​

จากนั้น​ก็​มีเสียง​ดังสนั่น​สะท้าน​ฟ้าดิน​ดัง​ขึ้น​ระลอก​หนึ่ง​ ก็​เห็น​ว่า​ดวงอาทิตย์​ดุจ​ไฟลุกโชน​ดวง​แล้ว​ดวง​เล่า​ทะยาน​ฟ้า แปลง​เป็น​วงแหวน​เท​พกลม​เกลี้ยง​มหึมา​หา​ใด​เทียบ​วง​หนึ่ง​พุ่ง​ทะยาน​มาทาง​หลิน​สวิน​

ชั่วพริบตา​นั้น​ฟ้าดิน​ยัง​ขาวโพลน​ไป​หมด​ พลัง​ระเบียบ​น่า​ครั่นคร้าม​ถัก​ทอ​เป็น​ดวงอาทิตย์​สามสิบ​หก​ดวง​ จากนั้น​ก็​รวมตัว​เป็น​วงแหวน​เท​พกลม​เกลี้ยง​มหึมา​วง​หนึ่ง​ เพียงแค่​กลิ่นอาย​ทำลายล้าง​เช่นนั้น​ก็​ทำให้​ระดับ​นิรันดร์​ล้วน​หวาดผวา​!

………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท