บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – บทที่ 1357 ตกอยู่ในอ้อมแขนของเฉินซี

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 1357 ตกอยู่ในอ้อมแขนของเฉินซี

บทที่ 1357 ตกอยู่ในอ้อมแขนของเฉินซี

โดยมีเฉินซีเป็นศูนย์กลาง กระแสพลังที่คลุมเครือและผันผวนแปลก ๆ ได้ยืดยาวออกไปเหมือนหนวด เข้าสู่หมอกโกลาหล

ด้วยความงุนงง เฉินซีรู้สึกราวกับกลายเป็นแมงมุม และนอนอยู่บนใยที่สลับซับซ้อน รอคอยเหยื่อที่หลงเข้ามา

นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกมาก

พร้อมกับเวลาที่ไหลผ่านไปช้า ๆ ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากภายในห้วงจิตสำนึกเริ่มสั่นไหว เห็นได้ชัดว่ามันแทบจะทนไม่ได้แล้ว

ราวกับสัตว์ร้ายที่หิวโหย

โอม!

ทันใดนั้น คลื่นเสียงหึ่ง ๆ ที่รุนแรงก็เกิดขึ้นจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก

“เอ๊ะ!” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงอุทานด้วยความประหลาดใจจากสืออวี๋ก็ดังเข้าหูของเฉินซี

ลึกเข้าไปในหมอกโกลาหล เซียงหลิวหลี มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยา และผางตู่กำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง

มีวิญญาณมารโกลาหลมากกว่าสิบตัวกำลังโจมตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวมากมายพัดผ่านหมอกโกลาหล

ทว่า การโจมตีระดับนี้ไม่สามารถทำอันตรายเซียงหลิวหลีและคนอื่น ๆ ได้ ดังนั้นสถานการณ์จึงไม่เป็นอันตรายนัก

ไม่ไกลจากพวกเขา มีดวงแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวและดูพร่ามัวกำลังกะพริบ

หากสังเกตดี ๆ ดวงแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวนี้มีลักษณะกลมมนอย่างไร้ที่ติและมีขนาดเท่ากำปั้นทารก มันดูเหมือนดวงอาทิตย์สีเขียวสุกใสเล็ก ๆ ที่เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ออกมา

ขณะที่มันกะพริบ ดวงแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เผยให้เห็นฉากลึกลับและลึกซึ้งทุกประเภท มีทั้งฉากเหล่าเทพกำลังท่องมนต์ ดอกไม้สีเขียวร่วงหล่นจากท้องฟ้า วิหคและสัตว์มงคลที่มีชีวิตชีวา ท่วงทำนองเต๋าโบราณที่ล่องลอยไปบนท้องฟ้า…

ปรากฏการณ์ทั้งหมดนี้ช่างมีความศักดิ์สิทธิ์ สูงสุด ยิ่งใหญ่ และดูเหมือนว่าจะมาจากอาณาจักรแห่งทวยเทพในตำนาน

ผลวิญญาณเต๋า!

มีเพียงสมบัติศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถเผยปรากฏการณ์อันศักดิ์สิทธิ์และสูงสุดดังกล่าวได้

“ทุกคน คุ้มกันข้าด้วย ข้าจะปราบผลวิญญาณเต๋ากฎเทพแห่งพฤกษานี้” เซียงหลิวหลีออกคำสั่งก่อนที่จะสร้างผนึกศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมผลวิญญาณเต๋าในระยะไกล

ฟิ่ว!

นางกำลังจะจับผลวิญญาณเต๋า แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!

จู่ ๆ พลังไร้รูปร่างก็โผล่ขึ้นมาและคว้าผลวิญญาณเต๋าไปต่อหน้าเซียงหลิวหลี จากนั้นมันก็วูบวาบและหายไปในอากาศ!

เซียงหลิวหลีตกตะลึงจนนัยน์ตาหรี่ลง

“เกิดอะไรขึ้น?”

ไม่ใช่แค่นางเท่านั้น คนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ และตกตะลึงกันถ้วนหน้า “คู่แข่งหรือ?”

วิญญาณมารโกลาหลที่อยู่ใกล้เคียงกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยวและรุนแรง ราวกับกำลังคลุ้มคลั่งเพราะผลวิญญาณเต๋าได้หายไป

พวกมันส่งเสียงร้องเสียดหู เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดดังก้องกังวานภายในหมอกโกลาหลเหนือแท่นบูชาในช่วงเวลาเดียวกัน

ดูเหมือนว่าวิญญาณมารโกลาหลทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ภายในหมอกโกลาหลกำลังโกรธแค้น!

“บ้าเอ๊ย! เกิดอะไรขึ้น?”

“ซวยแล้ว! รีบถอยเร็วเข้า!”

“ถอย!”

ใบหน้าของเซียงหลิวหลีและคนอื่น ๆ หมองลง เมื่อสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ ทั้งยังรู้สึกว่าถูกคุกคามอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าลังเลและรีบหันหลังกลับทันที

ครืน! ครืน!

ในขณะนี้ หมอกโกลาหลบนจุดสูงสุดของเทวาคารบรรลุเทพกำลังพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง เกิดคลื่นเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดดังกึกก้องมาจากภายใน ประหนึ่งเสียงฟ้าร้อง

มองเห็นแสงสีดำเจิดจ้าจำนวนมากพุ่งผ่านหมอกอย่างบ้าคลั่ง มันคือวิญญาณมารโกลาหลจำนวนมหาศาลที่เหมือนกับกลุ่มสัตว์ร้าย

แสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีจำนวนมากพุ่งออกมาจากหมอกโกลาหลอย่างต่อเนื่อง และพวกมันก็พุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

หมอกโกลาหลกำลังเดือดพล่าน!

วิญญาณมารโกลาหลโกรธจัด!

ผลวิญญาณเต๋ากำลังบินไปในทิศทางเดียวกัน!

เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจนี้ทำให้สืออวี๋ซึ่งยืนอยู่เคียงข้างเฉินซีตกตะลึง และมีสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งยังรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อย

“บ้าเอ๊ย! เกิดอะไรขึ้น?” สืออวี๋ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าหลังจากที่พวกเขามาถึงเทวาคารบรรลุเทพด้วยความยากลำบาก และควรได้รับผลวิญญาณเต๋าแล้ว จะเกิดเหตุไม่คาดคิดเช่นนี้

“ออกไปเร็วเข้า! มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!” ในขณะเดียวกัน เซียงหลิวหลีและคนอื่น ๆ ก็กลับมาจากภายในหมอกโกลาหล ท่าทางของพวกเขาไม่น่าดูอย่างยิ่ง ทั้งยังเผยให้เห็นถึงความวิตกกังวล ไม่เต็มใจ ความโกรธ และความเสียใจอยู่ราง ๆ

แสดงว่าสถานการณ์ร้ายแรงจริง ๆ

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ปกคลุมทั่วทั้งเทวาคาร วิญญาณมารโกลาหลต่างโกรธเคืองและพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งพวกมันมีประมาณสี่สิบถึงห้าสิบตัว ในขณะที่กลุ่มของพวกเขาประกอบด้วยราชันเซียนเพียงหกคน ดังนั้นพวกเขาจะรับมือกับวิญญาณมารโกลาหลได้อย่างไร

ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงหนี!

เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์เช่นนี้ อันตรายอย่างยิ่ง

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะโกรธเพียงใด เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต พวกเขาทำได้เพียงจากไปในตอนนี้เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงวิญญาณมารโกลาหล!

โอม!!!

ทว่าทันใดนั้น คลื่นพลังผันผวนขนาดใหญ่และคลุมเครือก็พัดโหมไปทั่วบริเวณโดยรอบ

ร่างของสืออวี๋และคนอื่น ๆ แข็งทื่อ ในขณะที่ร่างกายของทุกคนถูกพัดพาไปด้วยสิ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเจตจำนงของทวยเทพ และทำให้ร่างกายหนาวสั่น

หลังจากนั้น ภาพที่น่าตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของพวกเขา!

พร้อมกับคลื่นพลังผันผวนมโหฬารและแปลกประหลาดที่แผ่ไปยังบริเวณโดยรอบ ฝูงของวิญญาณมารโกลาหล ถูกคว้าด้วยมือที่ไร้รูปร่าง ร่างกายของพวกมันหดตัวอย่างรวดเร็ว และร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไร้ประโยชน์ไม่ว่าพวกมันจะดิ้นรนอย่างไรก็ตาม

โครม โครม โครม!

ในช่วงเวลาต่อมา วิญญาณมารโกลาหลก็ถูกบดขยี้และตายทันที!

สืออวี๋และคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง และไม่กล้าเชื่อในสายตาของตนเอง

เพราะวิญญาณมารโกลาหลเหล่านั้นที่มีอยู่สี่สิบถึงห้าสิบตัวสามารถเทียบได้กับราชันเซียน แม้ว่าพวกมันจะไม่มีสติปัญญา แต่เมื่อพวกมันยึดร่างของราชันเซียนได้สำเร็จ พวกมันจะสามารถดูดซับผลวิญญาณเต๋า และบรรลุเต๋าเพื่อเป็นเทพมารได้ในคราวเดียว!

แต่ตอนนี้ พวกมันถูกบดขยี้จนตายอย่างง่ายดายเหมือนมด ด้วยคลื่นพลังผันผวนที่แปลกประหลาดและคลุมเครือ!

“หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับพวกเรา…” เมื่อคิดมาถึงจุดนี่ หัวใจของสืออวี๋และคนอื่น ๆ ก็หนาวสั่น และไม่กล้าคิดต่อไปมากกว่านี้

ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ทันใดนั้น ดวงแสงศักดิ์สิทธิ์มากมายที่เปล่งประกายอย่างงดงาม จู่ ๆ ก็พุ่งทะลุท้องฟ้า และเหมือนกับลำแสงศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สาดส่องลงมาพร้อมกัน

ดำ ขาว น้ำเงินคราม เขียวเข้ม… ทั้งหมดนี้คือผลวิญญาณเต๋า!

ความสุขอย่างสุดจะพรรณนาได้แล่นเข้าสู่หัวใจของสืออวี๋และคนอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดถึงเกิดขึ้น แต่เมื่อเห็นว่าผลวิญญาณเต๋าจำนวนมากกำลังบินมาหาจากระยะไกล ความประหลาดใจที่น่ายินดีและความตกใจที่อธิบายไม่ได้ก็ถาโถมเข้ามา

“ลงมือเร็วเข้า!”

“จับพวกมันไว้!”

“ผลวิญญาณเต๋าที่มีกฎเทพแห่งวารีนี้เป็นของข้า!”

โดยไม่ลังเล ทุกคนพยายามไขว่คว้าพวกมัน

แต่ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไร พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้ผลวิญญาณเต๋าได้เลย!

ดูเหมือนว่าพลังที่ไร้รูปร่างได้ห่อหุ้มผลวิญญาณเต๋าไว้อย่างสมบูรณ์

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อมองดูดี ๆ ก็สังเกตเห็นด้วยความเหลือเชื่อ เพราะผลวิญญาณเต๋าเหล่านั้นกำลังพุ่งเข้าหาเฉินซี!

“นี่…” ทุกคนล้วนตาเบิกโพลง และกรามก็แทบจะกระแทกพื้นเพราะความตกใจ ผลวิญญาณเต๋าบินเข้าสู่อ้อมแขนของเฉินซีอย่างเชื่อฟัง… นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อเกินไปหรือ?

ไม่ต้องพูดถึงพวกเขา แม้แต่เฉินซีก็รู้สึกตกใจอย่างไม่อาจอธิบายได้

เขาสังเกตเห็นคลื่นพลังผันผวนที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง แผ่ออกมาจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

วิญญาณมารโกลาหลถูกทำลายล้างหมดสิ้นเหมือนเศษกระดาษ ผลวิญญาณเต๋าบินเข้ามาหาเฉินซี… และหากไม่เคยเห็นอิทธิฤทธิ์ที่ไม่ธรรมดาของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากในอดีต ใคร ๆ ก็คงคิดว่ามันเป็นความฝัน

ฟิ่ว!

ผลวิญญาณเต๋าที่อบอวลไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีแดงเข้มเปล่งประกาย พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเฉินซี

ก่อนที่จะทันได้ตอบสนอง ผลวิญญาณเต๋านี้ก็เปลี่ยนเป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์สีแดงเพลิงบริสุทธิ์ ถูกชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากในห้วงจิตสำนึกดูดซับอย่างสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นเส้นแสงที่สว่างจ้าก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก และมันก็ไม่ได้สลัวเหมือนเมื่อก่อน

ก่อนหน้านี้ หลังจากการต่อสู้กับเนตรทัณฑ์สวรรค์ กลิ่นอายของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากก็อ่อนลง ในขณะนี้ หลังจากที่มันกลืนกินผลวิญญาณเต๋า เห็นได้ชัดว่ามันฟื้นตัวได้มากขึ้น

ในที่สุดเฉินซีก็เข้าใจ เหตุผลที่ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทำเช่นนี้ ก็เพราะว่ามันต้องการพลังงานของผลวิญญาณเต๋าอย่างเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูพลังที่อ่อนแรงของมัน

ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ต่อจากนั้น ผลวิญญาณเต๋าอื่น ๆ ก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเฉินซีอย่างไม่หยุดยั้ง พวกมันเปลี่ยนเป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ต่าง ๆ และถูกดูดซับโดยชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก

เมื่อสืออวี๋และคนอื่น ๆ สังเกตเห็นฉากนี้ ในใจก็บังเกิดคลื่นพายุอย่างอดไม่ได้

“สิ่งเหล่านี้คือผลวิญญาณเต๋าที่มีความลับแห่งการเป็นเทพ แล้วเด็กน้อยที่ขอบเขตเซียนปราชญ์จะสามารถดูดซับและกลืนกินพวกมันได้อย่างไร?”

สิ่งนี้ได้เกินจินตนาการของพวกเขาไปมากแล้ว

“น้องชายเฉินซี อาจมีสมบัติลับบางอย่างจากเขาเทพพยากรณ์กระมัง” เซียงหลิวหลีกล่าวอย่างแผ่วเบา

“มันอาจจะเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ ตัวข้าเองก็สงสัยว่าเขาอาจมีสมบัติอื่นที่ลึกลับและน่าเกรงขามยิ่งกว่ากระบี่เต๋าวิบัติ มิฉะนั้น เขาจะสามารถต้านทานเนตรทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างไร” สืออวี๋พยักหน้าและเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเซียงหลิวหลี

ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะข้อจำกัดสามสิบหกประการของเหล่าทวยเทพในตำหนักบรรลุเทพ ต่อต้านเนตรทัณฑ์สวรรค์ หรือแม้แต่การขึ้นเทวาคารบรรลุเทพ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กน้อยในขอบเขตเซียนปราชญ์ที่จะทำทั้งหมดนี้ให้สำเร็จได้

มีเพียงคำอธิบายดังกล่าวเท่านั้น ที่สามารถอธิบายความผิดปกติทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุผล

มิฉะนั้น หากเซียนปราชญ์สามารถบรรลุผลทั้งหมดนี้ได้ ราชันเซียนทั้งหมดก็คงเชือดคอตัวเองและฆ่าตัวตายไปแล้ว

“ด้วยเหตุนี้ ผลวิญญาณเต๋าจึงถูกดูดซับโดยสมบัติลับบางอย่างที่อยู่ในความครอบครองของเด็กคนนี้? นี่…นี่…นี่…นี่มันช่างเจ็บปวดจริง ๆ!” ขณะที่ดูผลวิญญาณเต๋าหายไปทีละผล มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ก็อดไม่ได้ที่จะทุบหน้าอกและกระทืบเท้า เพราะแต่ละผลก็มีความลับในการเป็นเทพ ทั้งยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่ราชันเซียนทุกคนใฝ่ฝัน!

ที่พวกเขาเสี่ยงชีวิตมา ก็เพื่อสมบัตินี้ไม่ใช่หรือ?

แต่ตอนนี้ มันกลับพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเฉินซีเหมือนอาหารที่ประเคนถึงที่ แล้วหัวใจของมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์จะไม่เจ็บปวดจากการสูญเสียครั้งนี้ได้อย่างไร? หัวใจของเขากำลังหลั่งเลือด…

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท