บทที่ 391 การค้นพบสุดสะเทือนโลก
กรุงปักกิ่งกว้างใหญ่ ผู้คนก็มีจำนวนมาก การจะหาเคสกระดูกหักสักเคสก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
นอกจากนี้ยูเนียนยังเป็นศูนย์การแพทย์ชั้นนำในปักกิ่ง เป็นองค์กรที่มีหน่วยงานกู้ภัยฉุกเฉินมากถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแห่ง ไป๋เยี่ยจึงเชื่อว่าเกาเย่ว์หยางจะช่วยตนได้
ทันทีที่พยาบาลพาอัลสตันมาที่ศูนย์วิจัย ไป๋เยี่ยก็เดินเข้ามาอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟัง
ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมให้ความร่วมมือด้วย!
อันที่จริงไป๋เยี่ยตั้งใจจะไม่เก็บค่ารักษาจากเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเงินไม่กี่หมื่นดอลลาร์จะไม่ใช่ปัญหาสำหรับอีกฝ่าย แต่ไป๋เยี่ยก็ยังคงหวังว่าอีกฝ่ายจะให้ความร่วมมือกับงานวิจัยชิ้นนี้
อัลสตันมองไป๋เยี่ยด้วยแววตาซาบซึ้ง “ไม่ต้องลังเล ผมเชื่อในตัวคุณ อาชีพของผมก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ผมดีใจที่ได้อุทิศตนให้กับมนุษยชาติมากกว่า!”
“ก็แค่เสียบท่อเล็กๆ เข้าไปเองนี่นา ฮ่าๆ เอาเลย ผมพร้อมแล้ว”
อัลสตันมองโลกในแง่ดีมาก ไป๋เยี่ยดำเนินการผ่าตัดให้เขาอย่างรวดเร็ว ทว่าอัลสตันก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าไป๋เยี่ยไม่ได้ผ่าตัด แต่กลับทำกายภาพบำบัดให้เขาโดยอิงตามฟิล์มเอ็กซเรย์เหล่านั้น
การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น นี่เป็นครั้งแรกที่อัลสตันได้เห็นขั้นตอนการรักษาที่เร็วและตรงจุดขนาดนี้ เขาจึงมองไป๋เยี่ยในฐานะผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง!
ทุกคนมองเห็นความผันผวนของระดับฮอร์โมนผ่านเครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมนได้อย่างแม่นยำ ส่วนไป๋เยี่ยก็มุ่งความสนใจไปที่การรักษาและคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบคอบ
เวลาผ่านไปช้าๆ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนพร้อมกับสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของอัลสตัน
ทันใดนั้น!
นักวิจัยคนหนึ่งก็โพล่งขึ้นมา “ดูสิ! ปริมาณเซลล์กลืนกินเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว จำนวนเซลล์กระดูกก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันด้วย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
คำพูดของชายคนนั้นทำให้ทุกคนต้องตะลึง จากนั้นต่างคนก็ต่างเข้ามามุงสังเกตการณ์กันอย่างรอบคอบ
เป็นดั่งที่คาดไว้ ทีมวิจัยเพิ่งจะเชื่อมต่อเครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมนกับร่างกายของอัลสตันเมื่อสามนาทีที่แล้ว แต่ตอนนี้กลับเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว
ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่นาที ความผันผวนนั้นก็หายไปในพริบตา!
โมลโดจึงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน “ต่อเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าในกล้ามเนื้อและเครื่องตรวจจับปฏิกิริยาของกระดูกดูซิว่ากลไกทางสรีรวิทยามีความผิดปกติตรงไหนไหม!”
ผู้คนรอบๆ จึงต่ออุปกรณ์และเริ่มตรวจสอบทันที
หลังจากที่เชื่อมต่อเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าแล้ว พบเขาก็พบว่าคลื่นไฟฟ้ามีความผิดปกติ
นี่มันหมายความว่าอะไร
หมายความว่าการแพร่กระจายสัญญาณมีความผิดปกติไงล่ะ!
แล้วสัญญาณนี้มาจากไหน
ไป๋เยี่ยตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เจอมันแล้ว ทุกคนตามหามันมานับหลายเดือน แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ และตอนนี้เขาก็เจอมันแล้ว
เครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมนจะแปลงสัญญาณการหลั่งของฮอร์โมนต่างๆ ให้เป็นคลื่นความผันผวนได้
ไป๋เยี่ยระงับความตื่นเต้นไว้ เขากดเสียงต่ำลงพลางเอ่ย “ตรวจหาสัญญาณที่ผิดปกติ วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ จากนั้นก็ตามหาที่มาของสัญญาณ!”
ถึงแม้ว่าไป๋เยี่ยจะพยายามกลั้นความรู้สึกนั้นไว้แล้ว แต่ทุกคนก็ยังคงมองเห็นความตื่นเต้นและความหวังของไป๋เยี่ย
ทุกคนจึงเริ่มลงมือค้นคว้าทันที!
เวลาค่อยๆ ผ่านไป ทุกคนพยายามค้นหา ‘สิ่งนั้น’ อยู่ตลอดเวลา ทว่านักวิจัยที่รับหน้าที่สังเกตเครื่องตรวจกลับเอ่ยขึ้นอย่างสิ้นหวัง “คลื่นความผันผวนหายไปแล้ว! มันไม่โผล่มาแล้ว…”
ประโยคนี้เพียงประโยคเดียวทำให้ทุกคนช็อก!
จู่ๆ ก็หายไปตอนนี้เนี่ยนะ เฮ้อ เหมือนจะได้คำตอบแล้วแท้ๆ แต่กลับต้องมาสิ้นหวังอีกรอบซะได้
จะเป็นแบบนี้ไม่ได้!
โมลโดถึงกับเก็บอาการไม่พอใจไม่อยู่ “คอยสังเกตต่อไป รอจนกว่าจะมีอะไรผิดปกติ!”
ตอนนี้ทุกคนเหมือนยืนอยู่บนปากเหวอย่างเคร่งเครียด
ใกล้จะได้คำตอบแล้ว จะพลาดไม่ได้!
ทว่าผ่านไปจนเที่ยงก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไป๋เยี่ยถอนหายใจ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาตีโพยตีพาย เขาจึงยืนขึ้นพร้อมกับเอ่ย “พักก่อนครับ ผมคิดว่าความผิดปกตินี้น่าจะเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาบางอย่าง ผมพลาดไปเอง แต่ความผิดปกตินั้นอาจจะเกิดขึ้นระหว่างระยะใดระยะหนึ่งก็ได้ ผมติดต่อทางยูเนียนไว้แล้ว พรุ่งนี้เช้าตอนแปดโมงจะมีเคสกระดูกหักหลายเคสเข้ามาที่นี่ คืนนี้ทุกคนไปพักผ่อนให้สบายเถอะครับ ผมเชื่อว่าความสนุกที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันต่อๆ ไปแน่นอนครับ”
คำพูดของไป๋เยี่ยยังคงได้ผล อย่างน้อยทุกคนก็ยังคงรับฟังเขา
เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยมาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าและพบว่าทุกคนรวมถึงโมลโดเองก็มาประจำการในห้องแล็บเรียบร้อยแล้ว
เคสกระดูกหักก็เดินทางมาถึงแล้วเช่นกัน ไป๋เยี่ยไม่ได้เริ่มทำหัตถการให้ผู้ป่วยทันที หลังจากถ่ายภาพเอ็กซเรย์แล้วเขาก็ขอให้พยาบาลพาผู้ป่วยไปส่งที่สถาบันวิจัยเพื่อต่อเครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมนก่อน จากนั้นจึงเริ่มทำหัตถการ โดยจะมีทีมวิจัยคอยสังเกตการณ์อยู่!
ไป๋เยี่ยคิดว่าครั้งนี้เขาจะต้องจับสัญญาณผิดปกติได้แน่!
การรักษาเริ่มต้นขึ้นแล้ว ตลอดทั้งสิบนาทีนั้น ทีมวิจัยก็ได้พบกับคลื่นความผันผวนลักษณะเดียวกันกับเมื่อวานอีกครั้งหนึ่ง แต่คลื่นนี้ก็ปรากฏขึ้นมาเพียงชั่วครู่และหายวับไปดั่งเคย!
รักษาเสร็จแล้ว พยาบาลก็รีบพาผู้ป่วยออกไปทันที!
ส่วนไป๋เยี่ยก็ส่งสัญญาณให้พาเคสที่สองเข้ามา!
คราวนี้ทุกคนก็ยังคงเห็นคลื่นความผันผวนเหมือนเดิม แต่ทุกคนก็ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว จึงบันทึกความผิดปกตินั้นไว้และทำการค้นหาแหล่งส่งสัญญาณดังกล่าว
ไป๋เยี่ยไม่ได้นับว่าวันนี้ตนรักษาผู้ป่วยไปกี่เคสแล้ว!
ทว่าผ่านไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มยกแขนไม่ไหว จึงให้โมลโดเข้ามาทำแทน
เวลาสิบเอ็ดโมงตรง ในที่สุดสมาชิกทีมวิจัยก็นำข่าวดีมาแจ้ง
พวกเขาวิเคราะห์คลื่นความผันผวนนั่นได้แล้ว
“จากการศึกษาคลื่นความผันผวนผ่านการใช้เครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมน พวกเราพบว่าแหล่งที่มาของสัญญาณคือไฮโปทาลามัส ซึ่งจะหลั่งสารพิเศษไปยังบริเวณที่มีการแตกหักของกระดูก เรายังไม่ได้วิเคราะห์สารตัวนี้อย่างละเอียด แต่เรามั่นใจแล้วว่าความผันผวนนี้มีที่มาจากจุดนี้!”
“แล้วเรายังพบว่าหลังจากที่เกิดคลื่นความผันผวนนี้ ลิ่มเลือดบริเวณกระดูกที่แตกหักจะเริ่มก่อตัวขึ้น เพราะมีบางอย่างไปกระตุ้นให้เลือดออก และทำให้ลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในที่สุด!”
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ สัญญาณความผันผวนนี้คือสิ่งที่เร่งการก่อตัวของลิ่มเลือดในระยะแรกนี่เอง