บทที่ 863 ความวุ่นวาย (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ครืน​

แสงสายฟ้า​เล็ก​ๆ กระจัดกระจาย​วาด​ผ่าน​เหนือศีรษะ​ เหมือนกับ​กิ่งไม้​คาคบ​บิดเบี้ยว​คดเคี้ยว​คลาน​ไต่​ไป​ทั่ว​ท้องฟ้า​ราตรี​

มารา​โด​น่า​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​ ดวงตา​หรี่​ลง​เล็กน้อย​

“มาอีกแล้ว​เหรอ​”

เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​กลาง​อวกาศ​มีพลัง​เทพ​อัน​น่ากลัว​ที่​มหาศาล​ไร้​สิ่งใด​เปรียบ​กำลัง​รวมตัวกัน​ แต่​สิ่งที่​น่า​ประหลาดใจ​ก็​คือ​ เหมือน​เป้าหมาย​ที่​มัน​เล็ง​จะไม่ใช่เขา​

“เกิลร์”​

เงากลุ่ม​หนึ่ง​รวมตัว​ด้าน​หลังเขา​ แล้ว​ก่อ​ร่าง​กลายเป็น​คน​

“อยู่​ครับ​”

“นี่​เหมือน​จะไม่ใช่พลัง​เทพ​ของ​มารดา​แห่ง​วารี​…”

“พลัง​ของ​ปีก​ศักดิ์สิทธิ์​กำลัง​ปรวนแปร​ แต่ว่า​พวกเรา​ไม่เคย​ยุ่ง​กับ​มัน​ เหตุใด​อยู่​ๆ มัน​ถึงมาสร้าง​ปัญหา​ให้​มิสกา​ได้​ล่ะ​” มารา​โด​น่า​ไม่เข้าใจ​เล็กน้อย​

“ไม่ทราบ​ครับ​ แต่​ตอนนี้​เป็นช่วง​หน้าสิ่วหน้าขวาน​ เรา​ต้อง​รีบ​รักษาสถานการณ์​โดยเร็ว​ที่สุด​ ขุม​พลัง​สาย​อื่น​ ย่อม​ไม่ปล่อย​ให้โอกาส​หลุดลอย​ไป​เฉย​ๆ แน่​” เงาคน​สีดำ​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

“ฉัน​มีอักขระ​โบราณ​ ไม่ต้อง​ห่วง​ ไม่มีทาง​ที่​…”

ตูม​!

ควัน​สีดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ระเบิด​ใน​เขต​มหาวิทยาลัย​ หมอก​ควัน​แผ่ขยาย​ออก​ไป​ทั่ว​ระหว่าง​สิ่งก่อสร้าง​เหมือนกับ​เปลวไฟ​

หน้าต่าง​หอพัก​ที่​ตอนแรก​ยังมี​แสงสว่าง​พา​กัน​มืดมิด​ลง​หลัง​ถูก​หมอก​ควัน​ปกคลุม​

“บ้า​เอ๊ย​!” มารา​โด​น่า​สีหน้า​เปลี่ยนแปลง​

“พวก​แก​บัง​อา​จ…!?” เขา​กระทืบเท้า​ คิด​จะพุ่ง​ขึ้น​ท้องฟ้า​ไป​ยัง​ทิศทาง​นั้น​

แต่​เสียง​หนึ่ง​ที่​ดัง​ขึ้น​ด้านหลัง​อย่าง​กะทันหัน​ ทำให้​เขา​ชะงัก​ฝีเท้า​ใน​พริบตา​

“เซียร์​ มารา​โด​น่า​ ไม่เจอกัน​ตั้ง​ห้า​ร้อย​ปี​ เจ้ายังคง​หนุ่ม​เหมือนเดิม​เลย​ ดูแลตัวเอง​ได้ดี​จริงๆ​…”

มารา​โด​น่า​หันหลัง​กลับมา​ สายตา​จับ​จ้องมอง​หญิง​ชรา​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ด้านหลัง​อย่าง​กะทันหัน​ด้วย​สายตา​เย็นเยียบ​

อีก​ฝ่าย​สวม​ฮู้ด​และ​เสื้อคลุม​เก่า​หลวมโพรก​ ด้านหลัง​มีบางอย่าง​คล้าย​ปีก​กำลัง​ขยับ​ ส่วน​ศีรษะ​คลุม​หมวก​ฮู้ด​อำพราง​ไว้​จึงมองไม่เห็น​ใบหน้า​

แต่​เพียงแค่​ได้ยิน​เสียง​ เขา​ก็​จด​จำได้​ทันที​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​ใคร​

“กู​เนียร์​ เจ้านี่เอง​!”

มหา​ปุโรหิต​ของ​เทพ​มารดา​แห่ง​วารี​ ศัตรู​ที่​ขับเคี่ยว​กับ​เขา​มาหลาย​พันปี​

“ตอนนี้​ งานเลี้ยง​เพิ่งจะ​เริ่ม​ คน​แก่ๆ​ อย่าง​พวกเรา​อย่า​ไป​รบกวน​เด็ก​ๆ เลย​…”

มหา​ปุโรหิต​ยิ้ม​โฉด​ชั่ว​ เงาใต้​เสื้อคลุม​พลัน​พุ่ง​ไป​ด้านหน้า​

ผืนดิน​รอบ​ทั้งสอง​พลัน​ยุบตัว​ลง​ เงาดำ​จำนวนมาก​ห่อหุ้ม​ทั้งสอง​ไว้​ ก่อน​จะหาย​ไป​จาก​ที่​เดิม​ใน​พริบตา​

ลู่​เซิ่งรู้สึก​ได้​ว่า​ ร่างกาย​ของ​ตน​หลอม​รวม​เข้ากับ​สายลม​ หลอม​รวม​กับ​กระแส​อากาศ​ กำลัง​ไหลเวียน​และ​แผ่ขยาย​

เขา​บิน​ข้าม​มหาวิทยาลัย​ ข้าม​เมือง​ ข้าม​ประเทศ​เยอรมนี​และ​ยุโรป​ ไป​ยัง​ท้องฟ้า​

กระแส​อากาศ​และ​หมอก​เมฆนับไม่ถ้วน​คือ​ร่าง​ของ​เขา​ ไม่สิ…พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ เมฆหมอก​เป็น​เพียง​ปรากฏการณ์​ที่​เขา​กระตุ้น​ให้​เกิด​ตอน​ขยับตัว​เท่านั้น​

ร่างกาย​ของ​เขา​ปรากฏ​แวบ​ไปมา​ระหว่าง​การ​ไหลเวียน​ ถูก​ห่อหุ้ม​อยู่​ใน​กฎเกณฑ์​เก่าแก่​ที่​อัศจรรย์​ชนิด​นี้​

“ฉัน​กำลัง​ไหลเวียน​…ฉัน​คือ​สายล​ม…”

จิต​ของ​ลู่​เซิ่งยื่น​ขยาย​ไป​ยัง​อวกาศ​ เขา​เหมือนกับ​ทำลาย​พันธนาการ​ทิ้ง​ และ​ไป​ถึงขอบเขต​ใหม่​โดย​สมบูรณ์​

กลาง​ความว่างเปล่า​มีวัตถุ​ลึกลับ​จำนวน​เหลือ​คณานับ​ กำลัง​แย่ง​กัน​ทะลัก​เข้ามา​ใน​ตัว​เขา​ วัตถุ​เหล่านี้​กำลัง​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​ร่างกาย​กับ​วิญญาณ​ของ​แจ๊ค​

ในขณะเดียวกัน​ หลังจาก​วัตถุ​ลึกลับ​จำนวนมาก​ถูก​กาย​และ​จิต​ของ​แจ๊ค​กรอง​แล้ว​ ก็​โดน​ร่าง​หลัก​ดูดซับ​อีก​ต่อ​หนึ่ง​

ความเร็ว​ใน​การ​ขยายตัว​ของ​ร่าง​หลัก​เหนือกว่า​ใน​อดีต​

ขอบเขต​แปร​สัจจะถูก​ฉีก​ทำลาย​ใน​พริบตา​

เขา​ก้าว​สู่อนธการ​ ระดับ​สูงสุด​ของ​ผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​อย่าง​เงียบเชียบ​

จิต​ของ​ลู่​เซิ่งคล้าย​กับ​ยื่น​ขยาย​ไป​ยัง​อวกาศ​อย่าง​ไร้​สิ้นสุด​ ทว่า​ไม่นาน​ เขา​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​ส่วนลึก​ของ​จักรวาล​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​เหมือน​มีอะไร​บางอย่าง​ จิต​บาง​ชนิด​กำลัง​เกาะเกี่ยว​เข้าใกล้​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​

เหมือน​การระเบิด​พลัง​ของ​เขา​ไป​สร้าง​ความตื่นตัว​ให้​ตัวตน​บางอย่าง​เข้าให้​แล้ว​

‘ตอนนี้​ยัง​ไม่ใช่เวลา​…’ ลู่​เซิ่งใช้ความคิด​ พลัน​เริ่ม​เก้​บ​ทุกอย่าง​กลับมา​

จิตวิญญาณ​หวนกลับ​เข้า​ร่าง​เหมือน​กระแสน้ำ​

กระแส​อากาศ​สีขาว​นับไม่ถ้วน​รวมตัวกัน​ กลายเป็น​ร่าง​เดิม​ของ​ลู่​เซิ่งภายใน​สถาบันวิจัย​

ครืน​

มีเสียง​เหมือน​ฟ้าผ่า​ระเบิด​ขึ้น​บน​ท้องฟ้า​ด้านนอก​อย่าง​ฉับพลัน​

ลู่​เซิ่งสวมใส่​เสื้อผ้า​ ออกจาก​ห้องทดลอง​ แล้ว​มอง​ไป​ข้างนอก​หน้าต่าง​

เห็น​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​ที่​เมื่อ​ครู่​ปลอดโปร่ง​ เวลานี้​ถูก​หมอก​เมฆที่​เขา​สร้าง​ขึ้น​ปกคลุม​ สถานที่​ส่วนใหญ่​ตก​อยู่​ภายใต้​ไอ​หมอก​สีขาว​จำนวนมาก​ เหนือศีรษะ​เกิด​ฟ้าแลบ​อย่าง​ไม่ขาดสาย​

เพียงแต่​สิ่งที่​ทำให้​เขา​แปลกใจ​ก็​คือ​แค่​เลื่อน​ระดับ​ ไม่น่าจะ​ก่อให้เกิด​การเปลี่ยนแปลง​เป็น​วงกว้าง​ขนาด​นี้​สิ

‘ราวกับว่า​มีอะไร​กำลัง​ขยาย​การเคลื่อนไหว​ของ​เรา​อยู่​’

สำหรับ​มนุษย์​ใน​มหาวิทยาลัย​มิสกา​ แม้จาก​รูปแบบ​ที่หก​ถึงรูปแบบ​ที่​เจ็ด​จะเป็น​ระยะห่าง​ระหว่าง​ฟ้ากับ​เหว​ แต่​ไม่มีทาง​กระตุ้น​ให้​เกิด​ความ​อึกทึกครึกโครม​ขนาด​นี้​เด็ดขาด​

ลู่​เซิ่งละสายตา​กลับ​มาจาก​หน้าต่าง​ เขา​ไป​ยัง​ห้องเก็บของ​ หยิบ​เนื้อ​แห้ง​ที่​ตน​ทำ​ขึ้น​มา แล้ว​ออกจาก​สถาบันวิจัย​อย่าง​รวดเร็ว​

บน​ท้องฟ้า​ยังคง​เกิด​ฟ้าผ่า​ไม่หยุด​ มหาวิทยาลัย​เงียบสงัด​ลง​ ทุก​สิ่งมีชีวิต​ ทุก​ผู้​ทุกคน​ เหมือน​ถูก​สภาพแวดล้อม​กดดัน​ก่อน​ฝน​จะตก​ บีบคั้น​ให้​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

ความตึงเครียด​ที่​อธิบาย​ไม่ได้​กำลัง​ฟุ้งกระจาย​อยู่​ทั่ว​อากาศ​

ลู่​เซิ่งฝ่าลม​กลับ​หอพัก​ พร้อมกับ​พินิจ​พิจารณา​บริเวณ​รอบข้าง​

‘แม้เรา​จะเป็น​คน​เริ่ม​ แต่​ตอนนี้​ ไม่มีทาง​ที่​เรา​จะรักษา​สภาพ​ไว้​ หาก​เป็น​พลังงาน​อีก​ชนิด​กำลัง​สู้กับ​พลัง​เร้นลับ​ของ​มหาวิทยาลัย​อยู่​’

ลู่​เซิ่งสัมผัส​จุด​นี้​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

โครม​

ลู่​เซิ่งผลัก​ประตู​หอพัก​อย่าง​แรง​พลิก​มือ​ปิด​ ก่อน​จะสาวเท้า​เข้าไป​

หอพัก​เย็นเยียบ​ เหมือน​ไม่มีใคร​

เขา​เดิน​ขึ้น​บันได​ไป​ยัง​ชั้นสอง​ เร่งรุด​กลับ​ห้อง​ตัวเอง​

แก​ร๊ก​

มีเสียง​เปิด​ประตู​ดัง​มา

“แจ๊ค!”​

เสียง​ของ​เออร์นี​ดัง​มาจาก​ห้อง​ของ​เธอ​ ห้อง​เธอ​อยู่​ห่าง​จาก​ห้อง​ลู่​เซิ่งเพียง​สอง​ห้อง​เท่านั้น​

หญิงสาว​คน​นี้​สวม​ชุดนอน​สีดำ​ ยืน​กวักมือ​มาทาง​นี้​อยู่​ตรง​ประตู​

“คุย​กัน​หน่อย​ได้​ไหม​คะ​” ดูเหมือน​สีหน้า​เธอ​จะย่ำแย่​เล็กน้อย​ บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​ตกใจ​กับ​สภาพอากาศ​ที่​เลวร้าย​ เลย​นึก​เชื่อมโยง​ถึงความทรงจำ​ที่​ไม่ดี​ ตอนนี้​ผม​ยาว​ของ​เธอ​คลอเคลีย​ไหล่​ สีหน้า​อ่อนล้า​ เผย​ผิวขาว​ราวกับ​หยก​ภายใต้​ชุดนอน​

“ฉัน​สังหรณ์​ใจไม่ดี​เลย​…” เออร์นี​เอ่ย​เสียงต่ำ​

ลู่​เซิ่งลังเล​เล็กน้อย​

“ก็ได้​ มาห้อง​ฉัน​สิ” เขา​เสนอ​

เออร์นี​ถือ​เชิงเทียน​วิ่งเหยาะๆ​ มา แล้ว​ตาม​ลู่​เซิ่งเข้าไป​ใน​ห้อง​ โดย​ไม่กลัว​ว่า​ลู่​เซิ่งจะมีความคิด​ไม่ดี​หรือไม่​

จาก​การ​ทดสอบ​ร่างกาย​หลาย​ๆ ครั้ง​ใน​สถาบันวิจัย​ ลู่​เซิ่งแทบจะ​ลูบคลำ​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ของ​เออร์นีจน​หมด​แล้ว​

หาก​จะทำ​อะไร​จริงๆ​ คง​ทำ​ไป​นาน​แล้ว​ ไม่ต้อง​รอ​ถึงตอนนี้​

ทั้งสอง​ปิดประตู​ ลู่​เซิ่งถอด​เสื้อ​ พร้อมกับ​มอง​เออร์นี​ที่​นั่งลง​

“เป็น​อะไร​ไป​ ทำไม​จู่ๆ เป็น​แบบนี้​ล่ะ​ ภาพลักษณ์​ของ​เธอ​ก่อนหน้านี้​ไม่เห็น​เป็น​แบบนี้​เลย​ ใน​ฐานะ​ผู้นำ​ ไม่น่าจะ​กลัว​อะไร​ง่ายๆ​ อย่างนี้​สิ”

พลัง​ของ​เขา​เพิ่งจะ​เพิ่มขึ้น​อารมณ์ดี​ไม่น้อย​ เลย​สัพยอก​เธอ​โดย​ไม่ทัน​คิด​

“ไม่ใช่…คุณ​…สัมผัส​ไม่ได้​เหรอ​คะ​” เออร์นี​กลืนน้ำลาย​ “มีบางอย่าง​กำลัง​เข้ามา​ใกล้​ แล้ว​ระเบิด​ออก​ แผ่ขยาย​…ใน​มหาวิทยาลัย​…” เธอ​ก้มหน้า​ดึง​คอเสื้อ​โดยไม่รู้ตัว​

“ฉัน​กำลัง​นั่ง​ตากลม​อยู่​บน​ระเบียง​ อยู่​ๆ ก็​เห็น​แสงของ​หอพัก​ฝั่งตรงข้าม​ดับ​จน​หมด​ คุณ​เข้าใจ​ความรู้สึก​นั้น​ไหม​”

เออร์นี​ตัวสั่น​เล็กน้อย​

“ฉัน​ความรู้สึกไว​ต่อ​พลัง​แห่ง​เทพ​นอกรีต​มาตั้งแต่​เด็ก​แล้ว​ พลัง​ชนิด​นั้น​ ขอ​แค่​เข้าใกล้​ ฉัน​จะสัมผัส​คลื่น​พลัง​พิเศษ​บางอย่าง​ได้​ แต่​เมื่อกี้นี้​ฉัน​เห็น​แสงไฟแถว​ห้องเรียน​ที่หนึ่ง​ดับ​หมด​เลย​! ฉัน​อยาก​จะไปหา​หัวหน้า​หอพัก​เม็นเดิลส์​โซน​ แต่​ห้อง​ของ​เขา​ไม่มีใคร​อยู่​ ฉัน​เดิน​ไปมา​ใน​หอพัก​รอบ​หนึ่ง​แล้ว​ กลับ​ไม่เห็น​คน​เป็น​ๆ สัก​คน​! ฉัน​…ฉัน​…กลัว​จังเลย​!” เออร์นี​ก้มหน้า​ลง​ ตัว​สั่นเทา​เหมือน​ลูก​สัตว์​ที่​ตัวสั่น​เพราะ​ความ​หนาวเหน็บ​

“พูด​ให้​ชัด​ๆ หน่อย​ คนอื่น​ใน​หอพัก​ล่ะ​ พวกเขา​เป็น​อะไร​ไป​” ลู่​เซิ่งได้ยิน​สิ่งที่​เออร์นี​เล่า​ก็​พลัน​จริงจัง​ขึ้น​

ถ้าบอ​กว่า​การเคลื่อนไหว​ตอน​แรกเริ่ม​เป็น​การเปลี่ยนแปลง​ที่​เขา​ก่อให้เกิด​ขึ้น​ตอน​เลื่อน​ระดับ​ อย่างนั้น​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ภายหลัง​กลับ​ไม่ใช่การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​

เห็นได้ชัด​ว่า​ มีบางอย่าง​ฉวยโอกาส​โจมตี​มหาวิทยาลัย​อย่าง​กะทันหัน​ตอน​เขา​ระเบิด​พลัง​

“ไม่รู้​ค่ะ​…ฉัน​ไปดู​ห้อง​อื่น​ กลับ​เห็น​แต่​ความมืด​ ไม่มีอะไร​เลย​!” เออร์นี​ส่ายหน้า​อย่าง​แรง​

ความหวาดกลัว​ที่​อธิบาย​ไม่ได้​แผ่​พุ่ง​ไป​ใน​อากาศ​อย่าง​เลือนราง​

ลู่​เซิ่งสวม​เสื้อนอก​ ก่อน​จะเดิน​ไป​ระเบียง​มองออก​ไป​

ครืน​

เกิด​ฟ้าผ่า​ ระหว่าง​ชั้น​เมฆที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​เหมือน​มีเงาดำ​ขนาดใหญ่​หลาย​สาย​กำลัง​เข่นฆ่า​กัน​อยู่​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​ลู่​เซิ่งมีสายตา​ร้ายกาจ​ คง​ไม่เห็น​ร่องรอย​เล็ก​ๆ แบบนี้​

‘ไม่…ไม่ใช่แค่​ส่วนลึก​ของ​ชั้น​เมฆเท่านั้น​…’ ทันใดนั้น​ลู่​เซิ่งก็​เห็น​แสงสีแดง​จุด​หนึ่ง​ลอย​ขึ้นไป​

แสงสีแดง​ดู​อ่อนโยน​เป็นพิเศษ​ท่ามกลาง​ฟ้าดิน​ที่​เป็น​สีดำ​ตัด​ขาว​ ให้​ความรู้สึก​ที่​คุ้นเคย​เล็กน้อย​กับ​ลู่​เซิ่ง

เหมือนกับ​ใคร​บางคน​ที่​เขา​เคย​เจอ​มาก่อน​

ทันใดนั้น​ เงาคน​พร่ามัว​สาย​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​หัวสมอง​ของ​ลู่​เซิ่ง

“เธอ​นั่นเอง​!” เขา​นึกออก​ทันที​ว่า​แสงสีแดง​นี้​เป็น​ใคร​

เลดี้​แฮปปี้​!

ตัวตน​ลึกลับ​ที่​ครอบครอง​ห้องสมุด​แห่ง​อดีต​! ความรู้สึก​ที่​แสงสีแดง​นี้​มอบให้​ผู้คน​ไม่ต่าง​จาก​รอยยิ้ม​ของ​เธอ​เท่าไร​นัก​

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ความผิดปกติ​ได้​แล้ว​ อวัยวะ​สัมผัส​ที่หก​มอบ​วิธี​สัมผัส​โลก​แบบ​ที่หก​นอกจาก​ห้า​สัมผัส​ที่​เหลือ​ให้​แก่​เขา​

นั่น​คือ​การสัมผัส​องค์​รวม​

ไม่ว่า​จะถูก​หรือไม่​ ขอ​แค่​สัมผัส​แบบ​องค์​รวม​ได้​ ก็​เป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​จะเป็น​สิ่งที่​ตน​นึก​เชื่อมโยง​ถึง

“นั่น​คือ​แสงสีแดง​ของ​เลดี้​แฮปปี้​นี่​นา​!” เออร์นี​เดิน​มาถึงด้าน​ข้าง​ตั้งแต่​เมื่อไร​ก็​ไม่รู้​ กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​แปลกใจ​ขณะ​ชี้ประกาย​สีแดง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​

“ครั้งนี้​ไม่เป็นไร​แน่​ ถ้าเลดี้​แฮปปี้​ออกโรง​ด้วยตัวเอง​ เทพ​นอกรีต​ต้อง​ถูก​โจมตี​ล่าถอย​ เธอ​คือ​จิต​ที่​เป็น​รูปร่าง​ของ​มหาวิทยาลัย​! เพียงแต่​…ระดับสูง​ของ​มหาวิทยาลัย​ยังอยู่​ ไม่ควร​ให้​เธอ​เคลื่อนไหว​ใน​ตอนนี้​ถึงจะถูก​…” เออร์นี​ขมวดคิ้ว​ สับสน​

ลู่​เซิ่งไม่ได้​พูด​อะไร​ แต่​ชี้ไป​ยัง​ด้านล่าง​ “รีบ​ไป​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​เถอะ​ รวมตัวกัน​แล้ว​!”

เออร์นี​มองตาม​นิ้ว​ของ​เขา​ที่​ชี้ลง​ไป​ด้านล่าง​ ตอนนี้​ข้าง​แปลง​ดอกไม้​ระหว่าง​หอพัก​สอง​หอพัก​ มีนักศึกษา​จาก​คณะ​ต่างๆ​ มายืน​กระจาย​กัน​อยู่​สิบ​กว่า​คน​ พวกเขา​รวมตัวกัน​เหมือนกับ​ลูกไก่​ที่​ก้มตัว​งุด​ มอง​ลม​เย็น​ที่​พัด​รุนแรง​รอบ​ๆ

อาจารย์​และ​ศาสตราจารย์​ที่​เป็น​ผู้นำ​หลาย​คน​กางแขน​ร่วมมือ​กัน​สร้าง​โล่​ทรงกลม​กึ่ง​โปร่งแสง​ขึ้น​มา ปกป้อง​นักศึกษา​ทุกคน​ที่อยู่​โดยรอบ​

“รีบ​ไป​เถอะ​! เป็น​พวก​ศาสตราจารย์​เมอ​รัส​! พวก​อาจารย์​โท​เลย์​ก็​อยู่​เหมือนกัน​!” เออร์นี​เห็น​ดังนั้น​ก็​พลัน​ยินดี​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท