รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 973 ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าภาพมายาและความจริง ทั้งหมดล้วนเป็นของจริง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 973 ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าภาพมายาและความจริง ทั้งหมดล้วนเป็นของจริง!

บทที่ 973 ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าภาพมายาและความจริง ทั้งหมดล้วนเป็นของจริง!

เต๋าและกฎเกณฑ์ใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนหน้าทำให้สีหน้าของซีจริงจังเป็นพิเศษ

ที่นี่คือที่ใด?

เหตุใดจึงมีเต๋าและกฎเกณฑ์ใหม่เหล่านี้ปรากฏขึ้น?

“นี่คือโลกใหม่ที่ไม่เคยถูกค้นพบก่อนหน้าอย่างนั้นหรือ?”

ซีรำพึงขณะครุ่นคิด

“ไม่ต้องเอ่ยถึงสิ่งอื่นเลย สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่เลวจริง ๆ ข้าสัมผัสได้ว่าตนเองกำลังพัฒนาขึ้นในทุกด้าน ได้รับผลประโยชน์มหาศาล!”

เต่าชราหันไปกะพริบตาเอ่ยกับซี

ร่างกายของมันเปล่งแสงเรืองรอง สสารพิเศษจากท้องฟ้าร่วงหล่นลงบนร่างของมัน นี่นับว่าดีเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มันสบายไปทั้งตัว พลังทุกด้านเพิ่มสูงขึ้น

จักรวาลไม่ได้กว้างใหญ่นัก ดวงดาวมีจำนวนไม่มาก ซีและเต่าชราพากันเข้าไปยังดาวดวงใหญ่ที่สุด

ในดาวดวงนี้เปี่ยมด้วยประกายชีวิตหลั่งไหลเป็นพิเศษ สภาพแวดล้อมดียิ่งกว่าภายในจักรวาลดวงดารา

แม้จะเป็นปุถุชนหากได้อาศัยอยู่ที่นี่ ก็ยังได้รับผลประโยชน์มหาศาล ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อายุยืนยาว สุขภาพร่างกายแข็งแรง

หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินบนเส้นทางการฝึกตน ผลประโยชน์ก็ยิ่งมากทวี ด้วยสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ หากฝึกฝนย่อมได้รับผลเป็นสองเท่า หรืออาจมากกว่านี้อีกหลายเท่า

นอกจากนี้เต๋าและกฎเกณฑ์ที่ไหลเวียนยัง ‘เป็นมัตร’ กับผู้ฝึกตนอีกด้วย นางสามารถสัมผัสถึงเต๋าและกฎเกณฑ์ได้ในพริบตาแรก ไม่ได้สลับซับซ้อนมากมาย ทำให้ตระหนักรู้ได้อย่างรวดเร็ว

“แปลกประหลาดยิ่งนัก สภาพแวดล้อมดีเช่นนี้ แต่กลับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่?”

ซีขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

หญิงสาวขยายญาณสัมผัสออกไปเพื่อสำรวจสถานการณ์โดยรอบ ทว่ากลับไม่อาจสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตแม้แต่ตนเดียว!

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ได้?

ในสภาพแวดล้อมที่ดีเช่นนี้ จะไม่ให้กำเนิดจิตสำนึกสิ่งมีชีวิตใดขึ้นมาเลยหรือ?

นางขยายญาณสัมผัสอีกครั้ง ทว่าก็ยังไม่อาจรับรู้ถึงสิ่งมีชีวิตสักตน คิ้วจึงขมวดมากขึ้นเรื่อย ๆ

สถานการณ์แปลกประหลาดเกินไป ทำให้นางเกิดความไม่สบายใจเต็มอก

“พวกเราลองสำรวจดูรอบ ๆ…”

ซีเก็บญาณสัมผัสกลับมาด้วยสีหน้าจริงจัง

นางระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดประมาทแต่อย่างใด สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด นางจึงไม่กล้าจะขยายญาณสัมผัสให้ครอบคลุมทุกบริเวณ เพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะใช้งานญาณสัมผัสเพื่อตรวจสอบ แต่ก็ทำเพียงทีละเล็กละน้อย ไม่ได้ขยายครอบคลุมบริเวณกว้างโดยตรง

นางกับเต่าชราทะยานขึ้นไปบนฟ้าเพื่อสำรวจดูสถานการณ์ภายในดวงดาว

ดวงดาวแห่งนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก ทั้งสองสามารถลอยสำรวจครบรอบได้อย่างรวดเร็ว

“ไม่มีสิ่งมีชีวิตสักตนจริง ๆ!”

เต่าชราจ้องมองอย่างขนลุก รู้สึกผวาขึ้นมาเล็กน้อย

หากสภาพแวดล้อมไม่ดีแล้วไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ นั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

แต่สภาพแวดล้อมที่นี่ดีเป็นอย่างยิ่ง ดีมากเสียยิ่งกว่าสถานที่ที่พวกเขาเคยไปมาก่อนอย่างลิบลับ ทว่าภายในกลับไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!

ตู้ม!

ขณะนั้นเอง พลันมีลำแสงสายหนึ่งพุ่งตรงมาทางซีและเต่าชรา

ความเร็วของมันเกินกว่าจะจินตนาการได้ ทันทีที่แสงปรากฏขึ้นก็ประชิดซีกับเต่าชราเสียแล้ว

ซีตอบสนองอย่างรวดเร็ว ใช้วิชากระบี่ออกมาโดยพลัน แสงกระบี่เจิดจ้าสว่างทั่วนภาทำลายลำแสงที่พุ่งมา

“โชคดีที่มีท่านอยู่!”

เต่าชราตื่นตกใจกลัว หากไม่มีซีอยู่ มันจะต้องถูกลำแสงเส้นนี้สังหารสิ้นอย่างแน่นอน ไม่อาจกระทั่งจะต่อต้านเสียด้วยซ้ำ

ตู้มมม!

จากนั้นลำแสงอีกหลายเส้นพลันพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วโดยไร้สัญญาณใดล่วงหน้า ทำให้ยากแก่การเตรียมตัวป้องกัน

ดวงตาของสีเปล่งแสงออกมา กระบี่ร่ายรำอย่างสง่างามราวหลุดพ้นจากธุลีทั้งปวง พุ่งเข้าต้านทานลำแสงเหล่านั้น

“บุกรุกแดนพิสุทธิ์โดยพลการ…ตาย!”

มีสุ้มเสียงดังออกมา มันเป็นภาษาแปลกประหลาด ทั้งซีและเต่าชราไม่เคยได้ยินภาษานี้มาก่อน

ทว่าพวกเขาก็สามารถเข้าใจความหมายของประโยคดังกล่าวได้

พริบตาต่อมา เมืองขนาดมโหฬารแห่งหนึ่งพลันปรากฏออกมา มันใหญ่โตเสียยิ่งกว่าขุนเขา ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง

มีชายชราผู้หนึ่งทะยานออกมาจากด้านใน

ชายชราผู้นี้รูปร่างผอมบางเป็นอย่างยิ่ง ส่วมใส่เสื้อคลุมสีแดงเข้ม ด้านบนเสื้อคลุมสีแดงเข้มปักตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่ไว้หนึ่งตัว

ซีและเต่าชราไม่รู้จักตัวอักษรขนาดใหญ่นั่น ทว่าพวกเขาก็สามารถเข้าใจความหมายของตัวอักษรได้

คุก!

นี่เป็นอักษรตัวใหญ่ที่เขียนว่า ‘คุก’!

รูม่านตาของซีหดแคบลง

ตอนนั้นเองชายชราเสื้อคลุมสีแดงก็พุ่งตรงเข้าใส่

ร่างงดงามของซีเข้าประชันกับชายชราเสื้อคลุมแดง

‘อารยธรรมฝึกตนอื่นอย่างนั้นหรือ?’

ภายในใจซีตกตะลึงยิ่ง

วิชาและพลังที่ชายชราเสื้อคลุมแดงใช้นั้นแตกต่างจากที่นางเคยพบเห็นมาก่อน แตกต่างกระทั่งพื้นฐานที่มา

เสียงดังสนั่นไม่หยุดหย่อน พวกเขาสู้กันจนออกจากดาวดวงนี้ไปถึงยังจักรวาลอันเต็มไปด้วยดวงดารา พลังอันมหาศาลน่าสะพรึงกลัวพลุ่งพล่านพลิกคว่ำทุกสรรพสิ่ง

“มิน่าจึงมาถึงที่นี่ได้ นับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง!”

ดวงตาชายชราเสื้อคลุมแดงทอประกายแปลกประหลาด

ซีเอ่ยขึ้นมา “พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่ผ่านทางมา หากทำเรื่องล่วงเกินก็ต้องขออภัยด้วย!”

“มีเจตนาร้ายหรือเปล่าไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเมื่อพวกเจ้ามาถึงที่นี่จะต้องตาย!”

ชายชราเสื้อคลุมแดงยิ้มเย็นชา “นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สิ่งมีชีวิตมายาอย่างพวกเจ้าจะสามารถเข้ามาได้!”

“สิ่งมีชีวิตมายา หมายความว่าอย่างไร? หรือพวกเจ้าคือสิ่งมีชีวิตจริง?” ซีถาม

ครั้นตอนอยู่ที่ดินแดนว่างเปล่า นางได้รู้เกี่ยวกับแนวคิดมายาและความจริง

ความคิดสุญตาได้บอกเล่าเรื่องราวมากมายกับนาง

ความคิดสุญตาเคยกล่าวว่าโลกแบ่งออกเป็นมายาและความจริง สถานที่ที่พวกเขาอยู่อาจเป็นเพียงมายา ไม่มีอยู่จริง

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ความคิดสุญตาคิด แต่เป็นสิ่งที่ผู้เบิกทางท่านนั้นเข้าใจ

ด้วยเหตุนี้ผู้เบิกทางจึงมีปัญหาเป็นอย่างยิ่ง ก่อเกิดเป็น ‘โรค’ จำนวนมากมาย ปรารถนาจะทำลายล้างโลกมายาให้สิ้น

“แน่นอน!”

ชายชราเสื้อคลุมแดงเอ่ย “ข้ากับพวกเจ้าไม่เหมือนกัน ข้าเป็นตัวตนที่ดำรงอยู่จริง พวกเจ้าเป็นเพียงแค่ภาพมายา ไม่มีอยู่จริง!”

ภายในใจของซีตื่นตะลึง ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้พบเจอคนจริง ๆ ที่นี่!

“อันใดคือมายาและความจริงกัน อย่างไรข้าก็ไม่เชื่อ! ข้าผ่านประสบการณ์มามากมาย เจ้าจะบอกข้าว่าทุกสิ่งเป็นเพียงมายา เป็นของปลอมที่ไม่มีอยู่จริง จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!”

ซีเหยียดยิ้ม ไม่เชื่อในสิ่งที่เรียกว่ามายาและความจริง

ทุกสิ่งที่นางประสบมาล้วนสมจริงถึงเพียงนี้ ไหนจะอาณาจักรต่าง ๆ จักรวาลโกลาหลทั้งหมด เทวโลก หลังฉาก ทั้งหมดล้วนเป็นความจริง

จะเป็นภาพมายาได้อย่างไร?

“เจ้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็หาได้สำคัญ สุดท้ายแล้วภาพลวงตาทั้งหมดก็ต้องพังทลายลงในอนาคต!”

ชายชราเสื้อคลุมแดงยิ้มเยาะ

“น่าขัน! เจ้าพูดไร้สาระอันใด?”

ซีเอ่ย “หากทุกสิ่งเป็นภาพมายาไม่มีอยู่จริง เช่นนั้นเจ้าจะปรากฏตัวออกมาพบข้าได้อย่างไร? ภาพมายาและความจริงจะซ้อนทับกันได้อย่างไร?”

นางกล่าวต่อ “หากภาพมายาและความจริงสามารถซ้อนทับกันได้ เช่นนั้นสิ่งใดใช้แบ่งแยกมายาหรือความจริง? ทุกสิ่งล้วนเป็นความจริง!”

“นี่เป็นเพียงแค่การหลอกหลวงคนเท่านั้น!”

ชายชราเสื้อคลุมแดงกล่าว “เจ้าไม่รู้ความจริง มีเรื่องราวมากมายที่เจ้าไม่อาจจินตนาการถึง!”

“แปะป้ายภาพมายาให้กับพวกข้า ทำให้พวกเขาปฏิเสธตนเอง! พวกเจ้าช่างวางแผนได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

ซีเอ่ยอย่างเย็นชา “ในความคิดของข้า สิ่งที่เรียกว่ามายาและความจริงเป็นเพียงคำโกหกหลอกหลวงของพวกเจ้า! นี่เป็นอารยธรรมฝึกตนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสองแห่ง พวกเจ้าเพียงแค่ต้องการจะยึดครองอารยธรรมฝึกตนของพวกข้า!”

นางไม่เชื่อว่ามีการแบ่งแยกมายาและความจริง คิดว่านี่เป็นอารยธรรมฝึกตนสองแห่งที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาชนกัน

อารยธรรมฝึกตนของชายชราเสื้อคลุมสีแดงเพียงแค่ต้องการใช้ข้ออ้างเรื่องภาพมายามายึดครองพวกเขา

ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าภาพมายาและความจริง

ทุกอย่างล้วนเป็นของจริง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท