จี้ซานไห่มองหลินสวินอีกคราอย่างอดไม่ได้ ในใจลอบกล่าวว่าพี่สาวมองคนไม่ผิดจริงๆ บนโลกนี้ใครจะสามารถช่วยพี่สาวโดยไม่สนทุกอย่างได้เหมือนเขา
นางเป็นทายาทเผ่าเทพนิรันดร์ ย่อมรู้ดีว่ารากฐานพลังของเผ่าเทพนิรันดร์แข็งแกร่งเพียงใด สำหรับทุกชีวิตในโลกยอดนิรันดร์ นี่คือผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำได้เพียงแหงนมอง
ต่อให้เป็นระดับนิรันดร์ก็ยังต้องก้มหัวให้!
แต่หลินสวินกลับแตกต่าง…
เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยจริงๆ เหมือนมองข้ามความเป็นตายไปแล้ว
ซีใคร่ครวญครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หลินสวิน ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตระกูลจี้ ยังพัวพันไปถึงตระกูลไท่เฮ่า พรุ่งนี้ขบวนรับเจ้าสาวของพวกเขาจะมาเยือนแล้ว ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ตระกูลจี้ไม่ยอมให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันใดๆ แน่”
ดวงตาของนางมองไปยังหลินสวิน เพิ่งหมายจะพูดต่อก็เห็นหลินสวินยิ้มขื่นเหมือนจนปัญญา เอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ถ้าท่านยังจะห้ามข้าสอดมืออีก เช่นนั้นข้าก็จะทำตามใจตัวเองแล้ว”
ดังคำกล่าวที่ว่าเป็นห่วงเกินไปจนสบสน
เห็นชัดว่าซีกังวลว่าตนจะพลอยลำบาก พบเจอเคราะห์สังหารไปด้วย
เพียงแต่…
เขายังจะสนใจเรื่องพวกนี้เสียที่ไหน
ขณะกล่าวประกายเย็นเยียบวาบผ่านในดวงตาหลินสวิน คิดจะลงมือค้นวิญญาณของจี้โม่เหลย
ส่วนฝ่ายหลังตั้งแต่ถูกกำราบคุกเข่าลงพื้นก็เงียบมาโดยตลอด แต่ตอนนี้คล้ายสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี พลันส่งเสียง “หลินสวิน! ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเป็นใคร!”
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก สีหน้าเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวและไอสังหาร “แต่ข้าจะบอกเจ้าให้ ต่อให้เจ้าเป็นหัวหน้าหอของลัทธิแรกกำเนิด อยู่ในอาณาเขตตระกูลจี้ก็ยากจะหนีความตายพ้น!”
แววตาหลินสวินเผยความดูถูก เห็นชัดว่าเฒ่าสารเลวนี่ยังไม่รู้สถานการณ์ของตัวเอง
เขากำลังจะลงมือกลับต้องหยุดไปอีกครั้ง
เพราะมีคนมาอีกแล้ว
“ซีเอ๋อร์ พ่อมาเยี่ยมเจ้า”
นอกเรือนเสียงแหบพร่าที่เผยความเหนื่อยล้าดังขึ้น
ท่านพ่อ!
จี้ซานไห่และจี้ซีสบตากัน ต่างรู้สึกทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา ในสถานการณ์เช่นนี้หากท่านพ่อเห็นภาพในเรือนนี้…
ทว่าไม่รอพวกนางตอบสนอง ประตูเรือนก็ถูกผลักออก คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาแล้ว
ผู้นำเป็นชายวัยกลางคนที่ร่างผอมสูง สีหน้าแฝงความเหนื่อยล้าที่ปิดไม่อยู่
คนผู้นี้ก็คือจี้หวังถูผู้นำตระกูลจี้!
ยามเห็นภาพในเรือน จี้หวังถูนัยน์ตาหดรัดทันที ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าหายไป ถูกความเคร่งเครียดเข้าแทนที่
สายตาเขากวาดมองพวกจี้โม่เหลยที่อยู่บนพื้น แล้วมองซีและจี้ซานไห่ สุดท้ายสายตาหยุดอยู่ที่หลินสวิน “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ตอนนี้ยามนี้จี้หวังถูเผยความสุขุมที่ผู้นำตระกูลควรมี แม้ตกใจแต่ก็ไม่ลนลาน
เพียงแต่เหล่าคนที่มากับเขาไม่สามารถสงบได้แล้ว แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสียิ่ง ตะโกนเสียงดัง
“จี้ซี นี่เจ้าจะคืนคำหรือ”
“พวกเจ้า… พวกเจ้าถึงกับลงมือกับพวกผู้อาวุโสรองแล้วหรือ”
“พวกเจ้าคิดจะหักหลังตระกูลหรือ”
…คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตตระกูลจี้ ลำดับความอาวุโสอยู่ในรุ่นเดียวกับผู้นำตระกูลจี้หวังถู มีฐานะเป็นลุงเป็นอาของซีและจี้ซานไห่
ยามนี้ล้วนเดือดดาล สีหน้าอึมครึม
ยิ่งมีคนเดินเข้ามาจะพยุงพวกจี้โม่เหลยขึ้น
เพียงแต่ที่น่าอักอ่วนคือไม่ว่าคนผู้นั้นออกแรงอย่างไรร่างของพวกจี้โม่เหลยก็ไม่ขยับสักนิด อยู่ในท่าถูกคุกเข่ากับพื้นเช่นนั้น
ภาพนี้ทำเอาทุกคนยิ่งเดือดดาล
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
จี้หวังถูเอ่ยเสียงขรึม
ปัง!
ประตูเรือนปิดลงทันที
จากนั้นหลินสวินเอ่ยเรียบๆ “ข้าคือหลินสวิน ครั้งนี้มาเพื่อรับซีและแม่นางซานไห่ไป พวกที่คุกเข่าอยู่พูดจาล่วงเกินข้า ทั้งยังคิดจะขัดขวางข้า จึงลงโทษพวกเขาก็เท่านั้น”
คำพูดราบเรียบสบายๆ กลับทำเอาทุกคนตกใจ
หลินสวิน!
ชื่อนี้กระจายไปทั่วทุกน่านฟ้านานแล้ว ตระกูลจี้ของพวกเขาจะไม่รู้จักได้อย่างไร
เพียงแต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินกลับปรากฏตัวในสถานที่สำคัญของตระกูลจี้ นี่น่าประหลาดใจเกินไปแล้ว
ชั่วขณะหนึ่งทุกคนล้วนฉงนใจไม่สามารถสงบได้
“ที่นี่คือสถานที่ต้องห้ามของตระกูลจี้ เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” มีคนถามอย่างเดือดดาล
หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ “สำหรับข้าที่นี่ไม่ใช่บึงมังกรถ้ำเสือ ย่อมเดินเข้ามาอยู่แล้ว”
“หลินสวิน ข้าว่านี่เจ้ากำลังรนหาที่ตายแล้ว…”
มีคนพูดด้วยสีหน้าอึมครึม แต่เพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียวทั้งตัวเขาก็ถูกกำราบคุกเข่ากับพื้น ร่างกายเกร็งกระตุก ไม่ว่าดิ้นรนอย่างไรกระทั่งเสียงก็เปล่งออกมาไม่ได้
ภาพนี้ทำเอาพวกจี้หวังถูตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี เพราะไม่เห็นหลินลงมือด้วยซ้ำแต่คนก็ถูกกำราบโดยตรงแล้ว!
“มีอะไรก็คุยกันดีๆ ไม่เช่นนั้นก็คุกเข่าฟังอยู่บนพื้นแต่โดยดี”
หลินสวินพูดเรียบๆ
ทุกคนทั้งโกรธทั้งตกใจหาใดเปรียบ
ในอาณาเขตของตนกลับถูกผู้อื่นข่มขู่ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้สัมผัสถึงความรู้สึกอับอายเช่นนี้
ซีเห็นเหตุการณืเช่นนี้ก็อดถอนหายใจในใจไม่ได้ ในดวงตาของนางพลันเผยความเด็ดขาด สายตากวาดมองทุกคนแล้วเอ่ยว่า
“ท่านพ่อ ท่านลุงท่านอาทุกท่าน หลินสวินมาเพื่อช่วยข้า เรื่องในวันนี้ข้าหวังว่าทุกคนจะไม่ถือสา ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้ตอนที่ขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่ามา ข้าจะปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้ต่อหน้าทุกคนโดยไม่สนสิ่งใด ผู้ที่จะขายหน้าก็คือตระกูลจี้ทั้งตระกูล!”
เสียงกระจ่างชัดมีพลัง
จี้หวังถูแววตาซับซ้อน สีหน้าปรากฏความรู้สึกผิดและเสียใจที่พูดไม่ออก
เขารู้ว่าที่บุตรสาวตอบตกลงแต่งงานก็เพื่อปกป้องตำแหน่งผู้นำตระกูลของเขา จะโทษว่านางก่อเรื่องในตอนนี้ได้อย่างไร
เพียงแต่ทุกคนรอบตัวจี้หวังถูล้วนไม่สามารถสงบได้ แต่ละคนทั้งโกรธทั้งตกใจ
“ซีเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพูดเช่นนี้มีผลลัพธ์รุนแรงเพียงใด” มีคนสีหน้าอึมครึม
“ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าทำเรื่องโง่ๆ ไม่ว่าจะเพื่อตนเองหรือเพื่อพ่อของเจ้าก็ต้องคิดให้รอบคอบ” มีคนเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนใจ
“ซีเอ๋อร์…”
คนรุ่นลุงรุ่นอาของซีเหล่านี้ล้วนพากันเอ่ยปาก บ้างข่มขู่ บ้างเย็นชา บ้างร้อนใจบ้างกังวล
สีหน้าและท่าทีของทุกคนล้วนแตกต่างกัน
หลินสวินเห็นทุกอย่างนี้ในสายตาก็พอจะตัดสินได้คร่าวๆ แล้วว่าใครที่หวังดีกับซี และใครที่เจตนาร้าย
สุดท้ายจี้หวังถูก็เอ่ยปาก “ซีเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ามาทำไม”
ซีอึ้งไป พูดเสียงเบา “ท่านพ่อเชิญชี้แนะ”
จี้หวังถูสูดหายใจลึกก่อนจะเอ่ยว่า “ตำแหน่งผู้นำตระกูลนี้ ข้าไม่ต้องการแล้ว!!”
คำพูดนี้เมื่อดังออกมาก็สร้างความแตกตื่นไปทั่ว
ทุกคนผิดคาด เผยสีหน้ายากจะเชื่อ
แม้แต่ซีกับจี้ซานไห่ยังอึ้งไป
“ท่านพ่อ! ไม่ได้เด็ดขาด!” ยามนี้ซีเองก็รู้สึกปั่นป่วนยิ่งยวดอย่างยากจะได้เห็น
จี้หวังถูโบกมือกล่าว “เจ้าไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมข้า ในฐานะบิดา กลับทำได้เพียงให้บุตรสาวทนรับความอดสูขนาดนี้จึงจะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตระกูลไว้ได้ ข้ายังจะต้องการมันไปทำไม”
“ท่านพ่อ…” ขอบตาของซีและจี้ซานไห่แดงระเรื่อ มีน้ำตาคลอออกมา
จี้หวังถูเผยยิ้มกว้าง เอ่ยว่า “ข้าคิดดีแล้ว ต่อให้ถูกมองว่าเป็นคนบาปของตระกูล ต่อให้ล่วงเกินตระกูลไท่เฮ่าอย่างสิ้นเชิง แต่ข้าก็ต้องทำหน้าที่บิดาก่อน ถ้าแม้แต่ลูกของตนยังปกป้องไม่ได้ ข้าจี้หวังถูจะต้องละอายไปชั่วชีวิต!”
ขณะกล่าวทั้งตัวเขาเหมือนได้ปลดปล่อย ราวกับหลุดพ้นพันธนาการ สีหน้าแน่วแน่ “สำหรับตำแหน่งผู้นำตระกูลนี้ ใครอยากได้ก็เอาไป ต่อให้เสียอำนาจล้นฟ้านี้ไปข้าก็จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพวกเจ้าสองพี่น้อง ไม่ให้พวกเจ้าได้รับความอดสูอีก”
แม้สีหน้าของซีจะราบเรียบ แต่น้ำตากลับเอ่อล้นออกมาอย่างไม่เอาไหน เดิมทีนางตัดใจและยอมรับชะตาแล้ว
แต่ไม่เคยคิดว่าหนึ่งวันก่อนแต่งงานจะมีหลินสวินมาเยือนถึงที่ หมายจะพานางออกไปจากสภาพยากลำบากนี้โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ยิ่งคิดไม่ถึงว่าแม้แต่ท่านพ่อยังยินยอมทิ้งอำนาจผู้นำตระกูล เพื่อไม่ให้ตนได้รับความอดสูอีก…
ทั้งหมดนี้ทำให้อารมณ์ความรู้สึกของนางพลิกม้วน ก็เหมือนอยู่ในหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง แต่จู่ๆ กลับมองเห็นแสงอาทิตย์เจิดจ้า คลื่นอารมณ์พวยพุ่งยากจะควบคุมตัวเอง
จี้ซานไห่กลับตื่นเต้นยินดี ในสายตานาง ภาพลักษณ์ของบิดาพลันเปลี่ยนเป็นมีเลือดมีเนื้อขึ้นมา ไม่ใช่ผู้นำตระกูลที่สูงส่งเคร่งขรึม เย็นชาไร้ปรานีคนนั้นอีกต่อไปแล้ว
แต่กลับมีคนร้อนรนยิ่ง เอ่ยว่า “ผู้นำตระกูล ทำเช่นนี้สายของพวกเราต้องพบเจอการโจมตีปานทำลายล้าง ถึงตอนนั้นคนที่ต้องได้รับเคราะห์ย่อมไม่ใช่แค่ไม่กี่คน แต่เป็นพวกเราทุกคน!”
“ใช่แล้ว ผู้นำตระกูลหากท่านสละอำนาจ พวกเรา… เกรงว่าพวกเราคงถูกจับขังในฐานะคนบาปของตระกูล ต้องถูกทรมานและรับความอับอายอย่างไม่สามารถจินตนาการได้”
คนส่วนหนึ่งล้วนเอ่ยปากเกลี้ยกล่อม
จี้หวังถูส่ายหน้ากล่าว “ทุกท่านวางใจ ตอนที่ข้าสละอำนาจผู้นำตระกูลจะยื่นข้อเสนอล่วงหน้า จะไม่ให้ทุกท่านลำบากไปด้วย”
เห็นชัดว่าเขาคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว
“นี่…” คนเหล่านั้นสีหน้าสับเปลี่ยนไปมา
ในใจหลินสวินอดประทับใจไม่ได้ ภาพที่มีต่อจี้หวังถูเปลี่ยนไปไม่น้อย บางทีก่อนหน้านี้นี่อาจจะเป็นบิดาที่ไม่ได้เรื่อง แต่เมื่อถึงช่วงสำคัญยังกลับตัวกลับใจทัน ไม่ถือว่าสายเกินไป
อย่างน้อยตอนนี้เขาสามารถเรียกตนว่าเป็นบิดาของซีและจี้ซานไห่ได้อย่างเต็มปาก!
“ผู้นำตระกูล ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ เรื่องตรงหน้าจะจัดการอย่างไร”
จู่ๆ พลันมีคนเผยสีหน้าเย็นเยียบ “หลินสวินนี่เป็นศัตรูร่วมกันของเผ่าเทพนิรันดร์ ตอนนี้เขาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งกดข่มคนในตระกูลพวกเรา หากให้เขารอดออกไปได้…”
นี่ไม่ประสงค์ดีชัดๆ!
จี้หวังถูขมวดคิ้ว เห็นชัดรู้สึกรับมือยากอย่างที่สุด
ก่อนเขามาไม่เคยคิดเลยว่าหลินสวินจะปรากฏตัวที่นี่ อีกทั้งดูจากสถานการณ์คือคิดจะพาบุตรสาวทั้งคู่ของตนไป ถึงขั้นกำราบพวกจี้โม่เหลยโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเพราะเรื่องนี้!
ความตั้งใจระดับนี้ จี้หวังถูจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าหลินสวินยืนอยู่ข้างบุตรสาวของตน ถึงขั้นไม่ห่วงชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ
ควรรู้ว่าที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลจี้!
บนโลกนี้ใครกล้ามาช่วยบุตรสาวของเขาจี้หวังถูโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นอย่างหลินสวินบ้าง
และตอนนี้คนที่กังวลและไม่รู้จะทำอย่างไรยังมีซีกับจี้ซานไห่ หากหลินสวินเป็นคนอื่นก็คงไม่ถึงขั้นนี้
แต่เขาคือหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ เป็นผู้สืบทอดของเจ้าแห่งคีรีดวงกมล ยิ่งเป็นหนามยอกอกของเผ่าเทพนิรันดร์!
ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำคัญของตระกูลจี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้อยากรักษาชีวิตเขาไว้ก็ลำบากนัก!
และในบรรยากาศที่อึดอัดนั้น พลันมีคนหมุนตัวไปหมายจะพุ่งออกจากเรือน
ทว่าได้ยินเพียงเสียงปังดังขึ้นคราหนึ่ง คนผู้นี้ไม่เพียงไม่สามารถเปิดประตูที่ปิดไว้นั่นได้ กลับถูกซัดจนเงาร่างโซซัดโซเซ ล้มนั่งลงพื้น
สายตาของหลินสวินเผยความดูถูก เอ่ยว่า “นี่คิดจะไปแจ้งข่าวรายงานเรื่องวันนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการกำจัดข้าหลินสวินหรือ”