มงคลคู่!
หลินสวินได้ยินเช่นนี้มุมปากเผยยิ้มดูถูก เอ่ยว่า “ข้าคนแซ่หลินอยากดูนักว่าอะไรเรียกว่ามงคลคู่”
พูดจบเขาก็ไม่กดกลิ่นอายของตนอีกต่อไป
ครืน!
ราวกับมีสัตว์ร้ายหมื่นกาลตื่นจากในร่างของหลินสวิน อานุภาพที่น่ากลัวประหนึ่งภูเขาถล่มสมุทรซัดสาดแผ่ออกจากกลางโถงคฤหาสน์
โต๊ะงานเลี้ยงรอบๆ ล้วนกลายเป็นธุลีสาดพรมในชั่วพริบตา ระดับอมตะขั้นหลุดพ้นเหล่านั้นล้วนหน้าเปลี่ยนสียิ่ง หนีอย่างทุลักทุเล
เพียงแค่อานุภาพระดับนั้นก็ทำให้พวกเขารู้สึกหายใจไม่ออกแล้ว เจ็บแปลบไปทั้งตัว แม้แต่สภาวะจิตยังมีสัญญาณถูกกดข่มอย่างสิ้นเชิง
ชั่วพริบตาเท่านั้น ภายในคฤหาสน์เทพใจกลางนี้ก็เละเทะไปหมด
ครั้นมองดูหลินสวินอีกครั้ง แสงมรรคนิรันดร์คลุมเครือและเร้นลับวนเวียนอยู่รอบร่างสูงสง่า เสื้อผ้าโบกสะบัดจนเกิดเสียง ดูเหมือนอยู่ตรงหน้า แต่กลับประหนึ่งราชันบนเก้าชั้นฟ้า ให้ความรู้สึกห่างไกลสูงส่งไม่อาจเอื้อม
“ขั้นล่วงกฎขั้นปลาย!”
จี้เซียวอวิ๋นนัยน์ตาหดรัด ตกใจกับศักยภาพที่หลินสวินสำแดงออกมา
ควรรู้ว่าตั้งแต่หลินสวินทะลวงระดับนิรันดร์จนถึงตอนนี้ไม่ถึงครึ่งปีเท่านั้น กลับครอบครองมรรควิถีขั้นล่วงกฎขั้นปลายแล้ว ความเร็วในการทะลวงขั้นเช่นนี้น่าตกใจจริงๆ
“เป่ยเฟิง เจ้าไปเชิญจี้เหอมา”
ยามจี้เซียวอวิ๋นพูดก็สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง เจดีย์สมบัติหลังหนึ่งปรากฏกลางอากาศ
วู้ม!
แสงมรรคนิรันดร์สีทองม่วงแผ่กระจาย พลังที่หนาหนักราวกับภูเขาพลุ่งพล่านเข้ากำราบหลินสวิน
เขาไม่อาจไม่ลงมือ
อานุภาพของหลินสวินแข็งแกร่งเกินไป หากไม่กำราบจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆ ในคฤหาสน์ หากปล่อยให้แขกสูงศักดิ์จากเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลอื่นๆ ประสบเคราะห์ ตระกูลจี้ของพวกเขาก็ยากจะหนีความรับผิดชอบ
ตูม!
เจดีย์สมบัติทองม่วงทะยานอากาศเข้ามา แสงประกายปานโซ่เทพไพศาลไหลลู่จากตัวเจดีย์ เรืองรองสว่างไสว
หลินสวินไม่หลบไม่หนี ดีดนิ้วคราหนึ่ง
เคร้ง!!
ในเสียงปะทะสะเทือนหู เจดีย์สมบัติทองม่วงถูกซัดกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง ละอองแสงที่สาดกระเซ็นเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างน่ากลัวถึงขีดสุด ชั่วพริบตาเสาหินใหญ่มากมายที่ค้ำคฤหาสน์เทพใจกลางก็แตกสลายถล่มทลาย
และภายใต้การโจมตีเช่นนี้มีขั้นหลุดพ้นหลายคนหนีไม่ทัน ถูกสังหารคาที่โดยตรง กายจิตดับสลาย
“หนี!”
“รีบไปเร็ว!”
เสียงร้องตื่นตระหนกดังขึ้น คนใหญ่คนโตอื่นๆ ในโถงคฤหาสน์แต่ละคนต่างลนลาน หนีออกไปสุดชีวิต
แต่หลินสวินจะปล่อยพวกเขาจากไปได้อย่างไร
ก็เห็นมือทั้งคู่ของเขากดกลางอากาศ
ตูม!
กฎเกณฑ์นิรันดร์น่ากลัวแผ่ไปรอบๆ ราวกับพายุกาลเวลาเหิมหาญโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง
ทั้งคฤหาสน์ล้วนถูกแสงมรรคนิรันดร์ไพศาลกลบท่วม
“ไม่…!”
“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย!”
“หลินสวินเจ้าไม่ได้ตายดีแน่!”
เสียงตะโกนน่าอนาถ ตื่นตระหนก สิ้นหวัง เดือดดาลที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายพลันหยุดไปกะทันหัน
ระดับอมตะเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นคนของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลอื่นหรือคนใหญ่คนโตของตระกูลจี้ ล้วนจิตสิ้นวิญญาณสลายในชั่วขณะนี้
ไม่รอดแม้แต่คนเดียว!
ไม่ใช่จี้เซียนอวิ๋นไม่คิดช่วยเหลือ แต่เพราะยามหลินสวินลงมือ เขาทำได้เพียงใช้พลังทั้งหมดสลายการโจมตีนี้
จี้เป่ยเฟิงที่เดิมจะไปเชิญจี้เหอมาลงมือก็โดนลูกหลงไปด้วย ทำได้เพียงปกป้องตัวเอง
ตูม โครม!
และเมื่อหลินสวินโจมตีออกมาด้วยอานุภาพเช่นนี้ คฤหาสน์เทพใจกลางที่ผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลจี้ใช้เจตวัตถุต่างๆ สร้างขึ้นก็ถูกซัดรุนแรง ถล่มทลายโดยพลัน
ตรงลานมรรคใหญ่เสียงอุทานด้วยความตกใจนับไม่ถ้วนดังขึ้น
“คฤหาสน์เทพใจกลางถล่มแล้ว!!”
“สวรรค์ หรือว่า… คนใหญ่คนโตเหล่านั้นจัดการคนเมื่อครู่นี้ไม่ได้”
“หลบเร็ว!”
…ความลนลานแตกตื่นแผ่ขยายราวกับกระแสน้ำ บนลานใหญ่เต็มไปด้วยเงาร่างหนีกระเจิง โกลาหลอย่างสิ้นเชิง
บนใบหน้าผู้แข็งแกร่งทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ใครจะจินตนาการได้ว่าก่อนที่งานมงคลตระกูลจี้จะมาเยือนในวันพรุ่งนี้ กลับเกิดเรื่องร้ายเช่นนี้
ถึงขั้นที่ตอนนี้แม้แต่คฤหาสน์เทพใจกลางที่ถูกมองเป็นสถานที่สำคัญตระกูลจี้ยังพังถล่ม!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ทำให้คนตั้งตัวไม่ทัน
และชั่วขณะนี้ไม่เพียงผู้คนบนลานมรรคที่ตกใจ ทั้งเขาเทพตั้งต้น คนตระกูลจี้ทุกคนต่างตกใจเช่นกัน
“นี่… นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“รีบไปดูหน่อย!”
“สมควรตาย หรือยังมีคนกล้าบุกรุกตระกูลของเรา”
…หากมองลงมาจากบนฟ้า สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าบนทิศทางที่แตกต่างกันของเขาเทพตั้งต้น เงาร่างของคนตระกูลจี้มากมายกลายเป็นลำแสงพุ่งไปทางคฤหาสน์เทพใจกลาง
สีหน้าของคนตระกูลจี้ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจและเดือดดาล
ตั้งแต่อดีตตระกูลจี้อยู่ในน่านฟ้าที่เก้ามาอย่างยาวนาน ความแข็งแกร่งของอานุภาพจัดอยู่ในห้าอันดับแรกในหมู่เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูล
เคยเกิดเรื่องเช่นนี้เสียที่ไหน
ในเวลาเดียวกัน
เหนือห้วงอากาศคฤหาสน์เทพใจกลางที่พังถล่ม
หลินสวินยืนอยู่กลางอากาศ แสงมรรคไพศาลไหลเคลื่อนอยู่รอบตัว ขับให้เขาราวกับนายเหนือหัวมหามรรค
ไกลออกไปจี้เซียวอวิ๋นและจี้เป่ยเฟิงยืนเคียงกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความเดือดดาลและไอสังหาร
คฤหาสน์เทพใจกลางถูกทำลายไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่บรรดาแขกสูงศักดิ์เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลอื่นๆ ที่มาร่วมงานเลี้ยง กลับล้วนสิ้นชีพ นี่ต่างหากที่ทำให้พวกเขาเดือดดาล
ตูม โครม!
ฟ้าดินสั่นไหว สองฝ่ายที่ประชันกันกลางอากาศ อานุภาพระดับนิรันดร์ที่แผ่ออกจากรอบตัวน่ากลัวเกินไป ก่อกวนเมฆลม ทำให้สุริยันจันทราอับแสง
ผู้คนที่หนีออกไปไกลล้วนตัวสั่นระริก กลัวถึงขีดสุด
ระดับนิรันดร์!
คนที่บุกเข้าคฤหาสน์เทพใจกลางเพียงลำพังก่อนหน้านี้ ถึงกับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ระดับนิรันดร์ที่สุดยอดมากคนหนึ่ง
และทุกอย่างตรงหน้าล้วนบอกว่าตระกูลจี้ในตอนนี้กำลังจะมีเคราะห์ครั้งใหญ่เกิดขึ้น
‘ก่อนหน้านี้… ก่อนหน้านี้ข้าตาบอดจริงๆ!’
ในใจเฒ่าชราชุดงูมีระลอกคลื่นปั่นป่วน นึกถึงยามตนเพิ่งเจอหลินสวินยังวางท่าดูหมิ่นอีกฝ่าย พูดจาโอ้อวดดูถูก แต่ตอนนี้เขาถึงขั้นรู้สึกเหมือนรอดพ้นเคราะห์กรรม
หากตอนนั้นอีกฝ่ายลงมือรุนแรง เขายังจะรอดชีวิตได้หรือ
“ทุกท่านวางใจ วันนี้ข้าคนแซ่หลินฆ่าเพียงคนที่สมควรฆ่า จะไม่ทำให้คนอื่นลำบาก แน่นอนว่าอีกเดี๋ยวยามต่อสู้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องให้หลบไปไกลๆ จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นหากโดนลูกหลงก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
เสียงราบเรียบของหลินสวินดังก้องในฟ้าดิน
ในอาณาเขตของตระกูลจี้กลับเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา นี่ทำให้สีหน้าของจี้เซียวอวิ๋นยิ่งคล้ำเขียว
“หลินสวิน เจ้าอย่าได้กำเริบเสิบสาน”
ขณะกล่าว เขากระตุ้นเจดีย์สมบัติม่วงทองโจมตีเข้าใส่หลินสวินผ่านอากาศ
ตูม!
เจดีย์สมบัติทองม่วงทะยานห้วงอากาศ อานุภาพแข็งแกร่งยิ่งยวด
กลับเห็นหลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง เสียงปังดังขึ้น เจดีย์สมบัติทองม่วงถูกซัดกระเด็นออกไปอีกครั้ง ภายใต้การปะทะ เงาร่างของจี้เซียวอวิ๋นสั่นไหวระลอกหนึ่ง
สีหน้าเขาเปลี่ยนไป ยากจะเชื่อ
เขาเป็นถึงขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ ทั้งลงมือเต็มกำลังแล้ว แต่กลับไม่สามารถสั่นคลอนหลินสวินได้ นี่จะให้เขายอมรับได้อย่างไร
และตอนนี้รอบบริเวณเดือดพล่านอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“หลินสวิน! เขาคือหลินสวินหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ของลัทธิแรกกำเนิด!!”
“เขาถึงกับแจ้งมรรคนิรันดร์แล้วหรือ”
“สวรรค์ คนร้ายกาจเย้ยฟ้าที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั้งเก้าน่านฟ้า ถึงกับบุกมาที่นี่…”
“มิน่าถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นเขา!”
…ในที่สุดผู้คนก็มีปฏิกิริยา จำฐานะของหลินสวินได้ ต่างไม่อาจสงบ เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากทั่วทุกทิศ
หลินสวิน!
คนร้ายกาจเย้ยฟ้าซึ่งเป็นตำนานที่สุดของโลกยอดนิรันดร์ในเกือบร้อยปีมานี้ ใครจะไม่รู้จัก
“ทุกคนรีบไปจากที่นี่ อย่าเข้าใกล้อีก!”
จี้เซียวอวิ๋นพลันสังเกตเห็นว่ารอบด้านแปดทิศมีคนตระกูลจี้มากมายเร่งทะยานมา ในใจพลันบีบรัดขึ้นมาทันที
เขารู้ดีที่สุดว่าการต่อสู้ระหว่างระดับนิรันดร์เช่นนี้คนอื่นแทรกแซงไม่ได้ ทันทีที่โดนลูกหลงเข้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
จี้เซียวอวิ๋นไม่อยากให้ตระกูลจี้เกิดการล้มตายน่าอนาถ!
ทันใดนั้นพลันเห็นไกลออกไปคนตระกูลจี้จำนวนมากยังไม่ทันเข้าใกล้ก็หมุนตัวจากไปแล้ว
เห็นชัดว่าพวกเขาตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง
หลินสวินไม่ได้ขวาง ตอนนี้ระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมอยู่รอบเขาเทพตั้งต้นล้วนถูกเขาควบคุม ย่อมไม่มีใครหนีไปได้
เขาก้าวเดินในห่วงอากาศ โจมตีเข้าใส่จี้เซียวอวิ๋น “มีฝีมืออะไรก็สำแดงออกมาเป็นพอ”
ตูม!
เขายื่นมือไปคว้า กฎเกณฑ์นิรันดร์ทั่วฟ้ารวมตัวกลายเป็นมือใหญ่ปานบดบังฟ้าดิน ปกคลุมมาทางจี้เซียวอวิ๋น
พลังฝ่ามือนั่นยังไม่ทันมาถึง กล้ามเนื้อทั่วตัวจี้เซียวอวิ๋นก็เจ็บแปลบขึ้นมา ในใจพลันหล่นวูบ เขาตระหนักได้ว่าแม้ตนจะเป็นขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ แต่เมื่อเทียบกับหลินสวินกลับยังห่างกันช่วงใหญ่
จี้เซียวอวิ๋นตัดสินใจทันที ส่งเสียงคำรามออกมา “ทะยาน!”
ตูม!
ภูเขาเขียวมรกตลูกหนึ่งปรากฏกลางอากาศ ตัวภูเขาปกคลุมด้วยกฎเกณฑ์นิรันดร์แน่นขนัด แผ่กลิ่นอายเก่าแก่ดั้งเดิมปานดึกดำบรรพ์
นี่คือยอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลจี้… เขาถิ่นธัญ!
นี่คือสมบัติชั้นยอดที่ถือกำเนิดจากระเบียบระดับเทพ ถูกผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลจี้ในยุคก่อนหล่อเลี้ยงด้วยเลือดในอก อานุภาพเหนือกว่าศาสตรามรรคนิรันดร์ทั่วไป
ตึง!
ยามมือใหญ่ของหลินสวินตบมา ภูเขานี้พลันปลดปล่อยแสงเขียวทั่วฟ้า ทว่าเพียงพริบตาก็เกิดเสียงครวญระลอกหนึ่ง ถูกซัดกระเด็นออกไป กระแทกห้วงอากาศทลายเสียงดังครึกโครม
จี้เซียวอวิ๋นกระอักเลือดออกมาพลันด้วยโดนลูกหลง สีหน้ายิ่งไม่น่ามอง
หลินสวินนี่… พลังต่อสู้น่ากลัวมาก!
“ฆ่า!”
ยามนี้จี้เป่ยเฟิงออกโจมตีอย่างอุกอาจ บนร่างเขามีเกราะสีทองราวกับปีกจักจั่นเพิ่มเข้ามา ในมือถือทวนสามง่ามสีทองเล่มหนึ่ง กฎเกณฑ์นิรันดร์ทั่วตัวสลับทับซ้อน อานุภาพราวกับเทพสงคราม
ตูม!
เมื่อทวนสามง่ามของเขากวาดไปตามแนวขวาง พลันระเบิดปรากฏการณ์ประหลาดน่ากลัวออกมา กลายเป็นภาพฟ้าถล่มดินทลาย ภูตผีร่ำไห้ หมื่นมรรคดับสลายทุกแห่งหน
แข็งกร้าวเกินบรรยาย
แต่การโจมตีเต็มพลังที่สั่งสมอานุภาพมานานเช่นนี้ ยามเข้าใกล้หลินสวินกลับถูกฝ่ามือที่เรียบง่ายทลายออก ปรากฏการณ์ประหลาดน่ากลัวก็สลายไปประหนึ่งฟองอากาศ
จากนั้นเงาร่างของหลินสวินพริบไหวกลางอากาศมาอยู่เบื้องหน้าจี้เป่ยเฟิงทันใด ยื่นมือคว้าออกไปโดยพลัน
พลังของการจับคว้านี้เผด็จการถึงขั้นทำให้คนสิ้นหวัง ใช้วิธีแข็งกร้าวทำลายการสกัดขวางของจี้เป่ยเฟิง เกราะสีทองบนร่างแตกระเบิดออกทันใด
ยามจี้เป่ยเฟิงหมายจะหนี ลำคอของเขาก็ถูกหลินสวินคว้าเอาไว้แล้ว เมื่อพลังฝ่ามือของหลินสวินแผ่กระจายออกไป มรรควิถีทั้งหมดของจี้เป่ยเฟิงพลันถูกข่มและผนึกเอาไว้ ไม่สามารถขยับได้อีก
เมื่อดูสีหน้าเขาอีกครั้ง เต็มไปด้วยความตื่นตกใจและหวาดกลัวแล้ว เหมือนไม่กล้าเชื่อว่าตนจะถูกกำราบเร็วขนาดนี้…
การโจมตีเดียวจี้เป่ยเฟิงก็ถูกกำราบแล้ว!
ภาพนี้ล้วนทำให้ทุกคนตกใจ ตะลึงจนอ้าปากค้างอึ้งงันอยู่ตรงนั้น
เงาร่างปานไร้ศัตรูของหลินสวินกลายเป็นแสงที่น่าทึ่งที่สุดในฟ้าดิน!