เมื่อสภาวะจิตพังทลาย มรรควิถีทั้งร่างล้วนจะเสียหาย
เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่า หัวหน้าตระกูลไท่เฮ่าอย่างไท่เฮ่าทงจะถึงขึ้นรับแรงกระเทือนเช่นนี้ไม่ไหว
เขาดีดนิ้วคราหนึ่ง ปราณกระบี่สายหนึ่งโฉบพุ่งออกมาตัดหัวไท่เฮ่าทงดับคาที่
ส่วนระเบียบระดับเทพที่ไท่เฮ่าทงครอบครองก็ตกไปอยู่ในมือหลินสวิน ถูกเขาสยบโดยสมบูรณ์ในไม่กี่อึดใจ
ทันใดนั้นทิวทัศน์ทุกบริเวณเขาเทพนภาลัยที่ถูกระเบียบระดับเทพปกคลุมก็ปรากฏขึ้นในใจหลินสวินอย่างละเอียด
เขาเห็นผู้คนที่ตกใจเสียขวัญ ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นราวกับรูปปั้นดินเผา
เห็นเงาร่างของคนตระกูลไท่เฮ่าที่วิ่งหนีไปทั่ว แตกตื่นราวสุนัขไร้ที่พึ่ง
และเห็นคนมากมายกำลังพุ่งออกนอกเขาเทพนภาลัยอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
ทั้งตระกูลไท่เฮ่าโกลาหลอย่างยิ่ง
หลินสวินที่ครอบครองระเบียบนภาลัยแล้วเปิดฉากสังหารทันทีโดยไม่ลังเลใดๆ
ไม่ว่าระดับอมตะของตระกูลไท่เฮ่าจะอยู่ที่ไหนล้วนถูกระเบิดตายคาที่ทั้งหมด จิตสิ้นวิญญาณสลาย
พวกที่มีปราณระดับจักรพรรดิขึ้นไปก็ถูกทำลายพลังปราณทั้งหมดเช่นกัน
ส่วนผู้แข็งแกร่งเผ่าเทพนิรันดร์อื่นซึ่งมาแสดงความยินดีกับตระกูลไท่เฮ่า ก็ถูกหลินสวินฆ่าทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น
ทุกอาณาบริเวณในเขาเทพนภาลัยเต็มไปด้วยเลือดนอง เผยภาพความตาย สำแดงภาพน่าสังเวชของนรกบนดินออกเป็นฉากๆ
และเหมือนก่อนหน้านี้ หลินสวินไม่ได้ฆ่าพวกเขาทั้งหมด
เพียงครึ่งชั่วยามหลังจากนั้น
หลินสวินก็หลอมเขาเทพนภาลัยที่เคยเป็นอาณาเขตของตระกูลไท่เฮ่าไป เหมือนที่ทำกับเขาเทพตะวันไพศาล
แน่นอนว่าสมบัติของตระกูลไท่เฮ่าที่สั่งสมไว้นานปีเหล่านั้นก็มาอยู่ในมือหลินสวินเช่นกัน
เมื่อทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว หลินสวินก็ไม่ได้โอ้เอ้ใดๆ ออกเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาทำการค้นวิญญาณคนใหญ่คนโตผู้หนึ่งของตระกูลไท่เฮ่า และได้รู้ว่าเผ่าเทพนิรันดร์ที่อยู่ใกล้ตระกูลไท่เฮ่าที่สุดก็คือตระกูลเหวิน
อีกทั้งในอาณาเขตของตระกูลไท่เฮ่าก็มีค่ายกลเคลื่อนย้ายไปอาณาเขตของตระกูลเหวินเช่นกัน
หากรีบเร่งทำเวลาภายในเวลาครึ่งวันก็น่าจะไปถึง
แน่นอนว่ายามเร่งเดินทางก็เป็นช่วงที่หลินสวินฟื้นฟูพลังกายเช่นกัน ไม่เช่นนั้นด้วยการทะยานอย่างรีบเร่งไปตลอดทาง ต่อให้มรรควิถีของเขาแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไม่ไหวแน่นอน
…
เดิมทีวันนี้เป็นวันมงคลที่ตระกูลไท่เฮ่ากับตระกูลจี้จะผูกสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน เป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก
แต่ก็วันนี้เช่นกันที่ประตูภูเขาของตระกูลไท่เฮ่าถูกเหยียบย่ำ ระเบียบระดับเทพถูกช่วงชิง เหล่าคนใหญ่คนโตของตระกูลถูกสังหาร!
ข่าวเช่นนี้แพร่ออกไปขณะที่หลินสวินเพิ่งจากไปได้ไม่นาน เรียกคลื่นลมปั่นป่วนในเวลาต่อมา
และขณะที่ข่าวแพร่ออกไปไม่หยุด หลินสวินก็มาถึงอาณาเขตที่เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลเหวินครอบครอง
ตระกูลเหวิน
เผ่าเทพนิรันดร์หนึ่งในสิบสองตระกูล รากฐานเก่าแก่หาใดเปรียบ หากพูดถึงความแข็งแกร่งก็อยู่ในสามอันดับแรกของน่านฟ้าที่เก้า เป็นยักษ์ใหญ่ที่ชื่อสมคำล่ำลือ
ตระกูลเหวินตั้งอาณาเขตใน ‘เขาเทพดาราอุดร’ และครอบครองระเบียบระดับเทพ ‘เจ็ดดารา’
ผู้นำตระกูลเหวินฉางเหอปัญญาเฉียบแหลมแผนการล้ำลึก มีชื่อเสียงมายาวนาว
และตอนนี้แค่ระดับนิรันดร์ที่ดูแลตระกูลเหวินก็มีถึงทั้งสี่คน เป็นขั้นล่วงกฎทั้งสิ้น
“ผู้นำตระกูลแย่แล้ว ข่าวเพิ่งมาถึงว่าเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางล่มสลายแล้ว!”
ในเขาเทพดาราอุดร เสียงร้อนรนสายหนึ่งดังขึ้นนอกโถงใหญ่ตระกูลเหวิน
เหวินฉางเหอที่กำลังอ่านคัมภีร์มรรคแข็งทื่อไปทั้งร่าง ลุกขึ้นโดยพลัน แววตาหวาดหวั่น “เจ้าว่าอะไรนะ ตระกูลหยางล่มสลายแล้วหรือ มีข่าวชัดเจนหรือไม่”
ทันใดนั้นข้ารับใช้ชราคนหนึ่งที่มาส่งข่าวก็มอบม้วนหยกให้
เหวินฉางเหอเปิดม้วนหยกดูทันที ทั้งตัวเขาอึ้งไปตรงนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปมา
เนื้อหาในม้วนหยกเรียบง่ายมาก มีเพียงอักษรไม่กี่บรรทัด และภาพม่านแสงภาพหนึ่ง
เนื้อหาที่เขียนคือกลางดึกสองวันก่อนมีข่าวกระจายออกมาว่า ‘นับแต่วันนี้ไปจะไม่มีเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางบนโลกอีก’ รวมถึงชักนำให้เกิดความโกลาหลในอาณาเขตที่ตระกูลหยางครอบครอง
จนกระทั่งเมื่อผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนไปสืบข่าวที่เขาเทพตะวันไพศาลที่ตั้งของตระกูลหยาง กลับพบว่า… เขาเทพตะวันไพศาลที่ยิ่งใหญ่นั้นหายไปจากโลกแล้ว
ภาพที่ม่านแสงนั้นสะท้อนออกมาก็คือพื้นที่ที่เดิมมีเขาเทพตะวันไพศาลอยู่ แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า
เนิ่นนานเหวินฉางเหอถึงใจเย็นลงแล้วเอ่ยถามว่า “สืบได้หรือไม่ว่าเป็นฝีมือของใคร”
ข้ารับใช้ชราส่ายหน้า
“ไปเชิญผู้อาวุโสในตระกูลทั้งหมดมา เร็วเข้า!”
เหวินฉางเหอออกคำสั่ง
ข้ารับใช้ชรารีบร้อนจากไป
จิตใจของเหวินฉางเหอยังคงปั่นป่วน
ในคืนเดียว เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางก็ย่อยยับ นี่ทำให้เหวินฉางเหอขนพองสยองเกล้า ไม่ต่างอะไรกับฟ้าเปลี่ยนชัดๆ
ต้องรู้ว่าตั้งแต่อดีตพวกเขาสิบสองตระกูลเผ่าเทพนิรันดร์ก็ยืนตระหง่านบนโลก กระทั่งปัจจุบันไม่เคยมีใครสามารถสั่นคลอนพวกเขาได้
ทว่าตอนนี้ตระกูลหยางกลับโดนทำลายทั้งตระกูล นี่จะไม่ให้เหวินฉางเหอตกใจได้อย่างไร
ดังคำกล่าวว่าสัมพันธ์ใกล้ชิด ทุกข์ร้อนร่วมชะตา ข่าวร้ายที่มาจากตระกูลหยางทำให้เหวินฉางเหอรู้สึกไม่ดี และตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา
‘รอหลังจากเหล่าผู้อาวุโสมาต้องหารือแผนการรับมือเตรียมไว้ล่วงหน้า…’ เหวินฉางเหอใคร่ครวญในใจ
“ผู้นำตระกูล แย่แล้ว!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนร้อนรนตื่นตระหนกสายหนึ่งก็ดังขึ้นนอกโถงอีก
เหวินฉางเหอหนังตากระตุก ในใจมีความเดือดดาลท่วมท้น ตวาดด่าว่า “เกิดอะไรขึ้นอีก”
นอกโถงเสียงเรียบเฉยสายหนึ่งดังขึ้น “ไม่มีอะไร ก็แค่ข้าคนแซ่หลินมาโดยไม่ได้รับเชิญ หมายจะจัดสะสางความแค้นในอดีตบางส่วนก็เท่านั้น”
นัยน์ตาเหวินฉางเหอพลันหดรัด
ก็เห็นเงาร่างสูงโปร่งสายหนึ่งก้าวมาจากนอกโถง สวมชุดสีขาวพระจันทร์โบกพลิ้ว หล่อเหลาละโลกีย์ ผ่อนคลายคล้ายมาเดินเล่นสบายๆ
“หลิน… หลินสวิน!?”
เหวินฉางเหอราวกับถูกฟ้าผ่า ดวงตาเบิกกว้าง
หลินสวินยิ้มกล่าว “ไม่เคยพบหน้ามาก่อนแต่กลับรู้จักข้าคนแซ่หลิน ความจำของสหายยุทธ์นี่ไม่เลว”
“เป็นไปได้อย่างไร… เจ้าโผล่มาที่นี่ได้อย่างไร…”
เหวินฉางเหอหน้าเปลี่ยนสี ไม่อาจเชื่อเรื่องนี้ได้ในเวลาอันสั้น
“ก่อนหน้านี้ตอนข้าคนแซ่หลินไปตระกูลหยาง ตระกูลจี้ ตระกูลไท่เฮ่า พวกเขาก็ตกใจมากเช่นกัน คล้ายคิดไม่ถึงว่าข้าคนแซ่หลินจะกล้ามาน่านฟ้าที่เก้าตามลำพัง แต่ผลลัพธ์ก็คือ… ข้าคนแซ่หลินยังรอดชีวิตอยู่ แต่พวกเขาล้วนตายไปแล้ว”
หลินสวินกล่าวสบายๆ
คำพูดเดียวคล้ายฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ทำเอาเหวินฉางเหอขนลุกเกรียวไปทั้งตัว เขาร้องเสียงหลง “ความพินาศของตระกูลหยางเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือ!?”
หลินสวินพยักหน้า “นอกจากข้าก็ไม่น่ามีใครผูกแค้นเช่นนี้แล้ว”
“เจ้า…”
เหวินฉางเหอพูดไม่ออกในชั่วขณะ
เขาต้องการเวลาสงบใจลง เรื่องกะทันหันนี้ทำให้เขาจิตใจปั่นป่วน
เพียงแต่หลินสวินไม่ได้ให้เวลาเขาเท่าไร ก้าวเข้ามาเบื้องหน้ากล่าวว่า “สหายยุทธ์ ความตายอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว ข้าคนแซ่หลินเตือนเจ้าด้วยความหวังดีสักประโยค นับแต่วันนี้ไปตระกูลเหวินเองก็จะถูกลบชื่อไปจากน่านฟ้าที่เก้าเช่นกัน”
น้ำเสียงสงบนิ่งแต่กลับดังก้องอยู่ในโถงกว้างราวกับคำตัดสินจากสวรรค์ ใจของเหวินฉางเหอจมดิ่งลงทันที
ครึ่งชั่วยามต่อมา
ผู้นำตระกูลเหวินฉางเหอแห่งเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลเหวิน ขั้นล่วงกฎสี่คนและระดับอมตะในตระกูลถูกสังหารเกลี้ยง
ภาพที่เกิดขึ้นในตระกูลหยางและตระกูลไท่เฮ่าปรากฏขึ้นในตระกูลเหวินเช่นกัน
ยามหลินสวินเดินออกมาจากเขาเทพดาราอุดร ระเบียบระดับเทพเจ็ดดาราและสมบัติที่สั่งสมมาหลายปีของตระกูลเหวินทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือหลินสวินเช่นกัน
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เกิดเรื่องเหนือคาดหมายใดๆ
และตอนที่หลินสวินจากไป แม้แต่เขาเทพดาราอุดรก็ถูกหลอมเอาไปเช่นกัน
และเพียงครึ่งวันหลังตระกูลไท่เฮ่าพินาศ ข่าวที่เกี่ยวกับความพินาศของตระกูลเหวินก็เริ่มกระจายออกไป…
ทั้งหมดนี้ยังไม่สิ้นสุดลง
…
น่านฟ้าที่เก้าใหญ่ยิ่ง เผ่าเทพนิรันดร์ทุกตระกูลล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต่างกัน และระยะห่างแต่ละตระกูลก็ไกลกันยิ่ง
นี่ทำให้การกระจายข่าวต้องใช้เวลาพอสมควร
เหมือนตั้งแต่คืนแรกที่หลินสวินไปจากตระกูลหยาง จนถึงเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลเหวินรู้ข่าวก็ผ่านไปเกือบสองวัน
เหมือนอย่างตอนที่หลินสวินเหยียบสองตระกูลเผ่าเทพนิรันดร์อย่างตระกูลไท่เฮ่าและตระกูลเหวิน ก็ใช้เวลาไปแค่ประมาณหนึ่งวันเท่านั้น
มีเพียงตอนตระกูลจี้เท่านั้นที่เวลาล่าช้าไปบ้าง
ทว่าการเคลื่อนไหวของหลินสวินเรียกได้ว่าเร็วยิ่งอย่างเห็นได้ชัด ไม่เช่นนั้นตระกูลไท่เฮ่ากับตระกูลเหวินคงไม่มีทางไม่ป้องกันการมาเยือนของหลินสวินเด็ดขาด
ทว่าตัวของหลินสวินเองก็รู้ดีว่าอย่างไรก็มีตนคนเดียว จึงได้แต่ไปแก้แค้นเผ่าเทพนิรันดร์เหล่านั้นได้ทีละตระกูล
นี่ก็หมายความว่าต่อให้การเคลื่อนไหวของเขาเร็วกว่านี้ ความเร็วของข่าวที่แพร่ออกไปหลังจากนั้นก็มีแต่จะเร็วยิ่งกว่า
ไม่ว่าช้าหรือเร็วเผ่าเทพนิรันดร์ที่เหลือก็จะรู้ข่าวล่วงหน้าและเตรียมการป้องกันได้!
แต่จะว่าไปแล้วหลินสวินก็ยังมั่นใจว่าต่อให้รู้ล่วงหน้า เผ่าเทพนิรันดร์ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาก็ไม่มีทางพาคนในตระกูลทั้งหมดหนีไปเด็ดขาด
ข่าวอย่างไรก็เป็ฯข่าว
สำหรับเผ่าเทพนิรันดร์อาจจะได้รับข่าว แต่หลังจากรู้ข่าวแล้วคิดจะให้พวกเขาสละอาณาเขตที่อยู่มานานและพาคนในตระกูลทั้งหมดลี้ภัยไปสุดขอบฟ้าอย่างไม่ลังเล นี่ไม่มีทางเป็นไปได้แน่
ต้องรู้ว่ายักษ์ใหญ่อย่างเผ่าเทพนิรันดร์ถูกสรรพชีวิตมากมายในโลกยำเกรงมาเนิ่นนาน มีหรือจะโดนข่าวเช่นนี้ทำให้ตกใจหนีไปได้
ตามที่หลินสวินคาดการณ์ อย่างมากเผ่าเทพนิรันดร์เหล่านี้ก็ทำได้เพียงเตรียมป้องกันไว้ล่วงหน้า แต่ไม่มีทางหนีไปเพราะได้ยินข่าวนี้
นั่นไม่ใช่การกระทำของเผ่าเทพนิรันดร์สักนิด!
และนี่ก็เป็นโอกาสให้หลินสวินแก้แค้นได้ทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย!
ช่องโหว่เดียวที่อาจจะมีก็คือ หลังจากรู้ข่าวความพินาศของเผ่าเทพนิรันดร์หลายตระกูลขึ้นเรื่อยๆ เผ่าเทพนิรันดร์ที่เหลือก็ใช่ว่าจะไม่หลบหนี
ดังนั้นสำหรับหลินสวิน สิ่งจำเป็นคือต้องเร่งเคลื่อนไหว
ครึ่งวันหลังออกจากอาณาเขตตระกูลเหวิน
เงาร่างหลินสวินก็ปรากฏตัวในอาณาเขตของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลเจวี๋ย
ไม่เกินความคาดหมาย ก่อนหลินสวินมาถึงตระกูลเจวี๋ยก็รู้ข่าวที่เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางพินาศแล้ว และเริ่มเตรียมการป้องกันไว้แล้ว
แต่น่าเสียดายที่การเตรียมการทั้งหมดของพวกเขาก็เป็นเพียงเพิ่มการป้องกันในตระกูลเท่านั้น ยังคงรั้งอยู่ในอาณาเขตของตนเหมือนเดิม
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางขัดขวางการบุกโจมตีของหลินสวินได้แน่นอน
แค่หนึ่งเค่อเท่านั้น
หลังจากตระกูลหยาง ตระกูลจี้ ตระกูลไท่เฮ่า ตระกูลเหวิน ยักษ์ใหญ่อย่างเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลเจวี๋ยก็ล่มสลายอยู่ใต้เท้าหลินสวิน!