ตอนที่ 3049 ตั้งศิลาประกาศศึก

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ครู่ใหญ่​หลิน​สวิน​ถึงเก็บ​จิต​รับรู้​ไป​ ใน​ใจผ่อนคลาย​ลง​ไม่น้อย​

พรสวรรค์​ของ​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ไม่ได้​ถูก​ตัดออก​อย่าง​สิ้นเชิง​ แต่​ถูก​กระทบกระเทือน​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ นี่​จะต้อง​ส่งผลกระทบ​ต่อ​มรรคา​ของ​พวกเขา​อย่าง​แน่นอน​

หาก​เปลี่ยนเป็น​คนอื่น​ย่อม​หมดปัญญา​ไร้​ทาง​ช่วย​

แต่​สำหรับ​ผู้ครอบครอง​พลัง​ระเบียบ​นิพพาน​ ปัญหา​นี้​กลับ​สามารถ​คลี่คลาย​ได้​ง่ายดาย​ เพียงแค่​ใช้พลัง​ของ​นัย​เร้นลับ​นิพพาน​สร้าง​พรสวรรค์​ของ​พวกเขา​ขึ้น​ใหม่​ก็​พอแล้ว​

หลิน​สวิน​บอก​เรื่องราว​เหล่านี้​กับ​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ ทั้งสอง​ต่าง​ดีใจ​และ​ผ่อนคลาย​ลง​

“ท่าน​พ่อ​ ครั้งนี้​ทำให้​ท่าน​กังวล​แล้ว​”

บน​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​หลิน​ฝาน​ปรากฏ​ความละอาย​

หลิน​สวิน​เอ่ย​ด้วย​เสียง​อบอุ่น​ “ยาม​ข้า​ฝึก​ปราณ​ใน​วัยเยาว์​ก็​เคย​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​ผู้อาวุโส​มากมาย​ นี่​ไม่ใช่เรื่องใหญ่​อะไร​ ผ่าน​เรื่อง​นี้​ไป​ เชื่อ​ว่า​พวก​เจ้าคงจะ​สัมผัส​ได้​ว่า​ระดับ​นิรันดร์​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ต่อไป​ตั้งใจ​ฝึก​ปราณ​ก็​พอ​”

หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​พยักหน้า​พร้อมกัน​

“ท่าน​พ่อ​ นี่​คือ​ที่ไหน​หรือ​” หลิน​ฝาน​ถาม

หลังจาก​เขา​กับ​ซูไป๋​ถูกจับ​ใน​โลก​ยอด​นิรันดร์​ก็​อยู่​ใน​สภาพ​หมดสติ​มาโดยตลอด​ กระทั่ง​คืนนี้​ถึงเพิ่งจะ​ฟื้น​ขึ้น​มา จึงไม่รู้​อะไร​ทั้งสิ้น​

“แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ใน​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้แห่ง​โลก​ยุค​ทวยเทพ​”

หลิน​สวิน​เล่า​ความเป็นมา​ลวกๆ​ “ว่า​กัน​ถึงที่สุด​ เป้าหมาย​ของ​พวกเขา​ก็​เพื่อ​จัดการ​ข้า​ กลับ​เป็นการ​ทำให้​พวก​เจ้าทั้งสอง​พลอย​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​”

“อาจารย์​ ข้า​จดจำ​คำพูด​ของ​ท่าน​มาโดยตลอด​ ยิ่ง​เสพ​สุข​กับ​ผลประโยชน์​มาก​แค่​ไหน​ ก็​ต้อง​แบกรับ​ภาระหน้าที่​และ​อันตราย​ที่​สอดคล้องกัน​มาก​เท่านั้น​ เรื่อง​พวก​นี้​ไม่นับ​เป็น​เรื่องใหญ่​อะไร​ ท่าน​อย่า​ได้​โทษ​ตัวเอง​”

ซูไป๋​ที่​เงียบ​มาโดยตลอด​ตอนนี้​อด​พูด​ไม่ได้​

“ศิษย์​พี่​ซูไป๋​พูด​ถูก​”

หลิน​ฝาน​พูด​เสริม​พร้อม​รอยยิ้ม​

หลิน​สวิน​มอง​พวกเขา​ทั้งสอง​แล้ว​นึกถึง​ตนเอง​ใน​วัยเยาว์​กับ​อวิ๋น​ชิ่งไป๋​ขึ้น​มาโดยไม่รู้ตัว​ คน​หนึ่ง​ครอบครอง​พรสวรรค์​หุบเหว​กลืน​กิน​ อีก​คน​เกิด​มาพร้อม​กระดูก​กระบี่​…

สิ่งที่​แตก​ต่างกัน​คือ​ ระหว่าง​พวกเขา​ไม่ใช่ศัตรู​กัน​

เรื่องราว​ใน​อดีต​เหมือน​ควัน​ที่​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ ด้วย​ฐานะ​และ​มรรค​วิถี​ของ​หลิน​สวิน​ใน​ตอนนี้​ ย้อน​มอง​บุญคุณ​ความแค้น​กับ​อวิ๋น​ชิ่งไป๋​ใน​ตอนนั้น​ ก็​เหลือ​เพียง​ความสงสาร​และ​เห็นใจ​ต่อ​คน​ผู้​นี้​

ชีวิต​ไม่อาจ​กำหนด​ได้​ดั่ง​ใจ ต้อง​โหดร้าย​ปาน​ไหน​!

“ฝาน​เอ๋อร์​ ซูไป๋​ ตอนนี้​ระดับ​นิรันดร์​ของ​ตระกูล​จี้ถูก​ข้า​กวาดล้าง​แล้ว​ เจ้าคิด​ว่า​หลังจากนี้​ข้า​ควร​จัดการ​คนอื่นๆ​ ใน​ตระกูล​อย่างไร​”

จู่ๆ หลิน​สวิน​ก็​ถามขึ้น​

หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ต่าง​อึ้ง​ไป​ ตระหนัก​ได้​ว่า​หลิน​สวิน​ต้องการ​ทดสอบ​จิตใจ​ของ​พวกเขา​ต่อ​เรื่อง​นี้​

“ท่าน​พ่อ​ ตัว​หัวหน้า​ถูก​กำจัด​ไป​แล้ว​ คนอื่นๆ​ ล้วน​เป็น​ผู้บริสุทธิ์​ ปล่อย​พวกเขา​ไป​เถอะ​”

หลิน​ฝาน​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​ขึ้น​

หลิน​สวิน​ไม่ได้​ตอบรับ​หรือ​ปฏิเสธ​ สายตา​มอง​ไป​ยัง​ซูไป๋​ “เจ้าจะทำ​อย่างไร​”

ซูไป๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ “เรื่อง​ใน​วันนี้​มีอาจารย์​เป็น​คน​จัดการ​ ย่อม​ต้อง​ให้​อาจารย์​เป็น​ผู้ตัดสิน​ แต่​ในอนาคต​ข้า​จะต้อง​มาที่นี่​อีกครั้ง​อย่าง​แน่นอน​ เพื่อ​แก้แค้น​เรื่อง​วันนี้​”

สายตา​ของ​หลิน​สวิน​มอง​ไป​ยัง​หลิน​ฝาน​อีกครั้ง​ กล่าวว่า​ “หาก​อิง​ตาม​การตัดสินใจ​ของ​เจ้า ต่อไป​คน​ตระกูล​จี้ที่​รอดชีวิต​พวก​นี้​จะแก้แค้น​ตระกูล​หลิน​ของ​พวกเรา​จะทำ​อย่างไร​”

หลิน​ฝาน​พูด​โดย​ไม่ต้อง​คิด​ด้วยซ้ำ​ “ขอ​เพียงแค่​ข้า​แข็งแกร่ง​กว่า​พวกเขา​ พวกเขา​ย่อม​ไม่มีโอกาส​แก้แค้น​ ยิ่งไปกว่านั้น​ผู้ฝึก​ปราณ​อย่าง​พวกเรา​ต่อสู้​ตลอดชีวิต​ เลี่ยง​การ​สร้างศัตรู​มากมาย​ไม่ได้​ มีหรือ​ที่จะ​กลัว​การแก้แค้น​เหล่านั้น​”

เขา​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ด้วย​แววตา​หนักแน่น​ “การ​มีอยู่​ของ​ศัตรู​ มีแต่​จะกระตุ้น​ให้​ข้า​พัฒนา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ แข็งแกร่ง​ขึ้น​ไม่หยุด​!”

ในที่สุด​หลิน​สวิน​ก็​ยิ้ม​ออกมา​ พูด​คล้าย​ปลาบปลื้ม​ “เจ้ามีใจเมตตา​ แต่​ถึงอย่างไร​ก็​ยัง​ขาด​ประสบการณ์​ ไม่เข้า​ใจความ​ชั่วร้าย​และ​อันตราย​บน​โลก​ อย่าง​วันนี้​ ด้วย​ความสามารถ​ของ​ข้า​สามารถ​กวาดล้าง​ระดับ​นิรันดร์​ของ​ตระกูล​จี้ได้​ แต่​เหตุใด​พวกเขา​ยัง​กล้า​ลงมือ​กับ​พวก​เจ้า ประการ​แรก​เพราะ​พวกเขา​มั่นใจ​ว่า​สามารถ​จัดการ​ข้า​ได้​ ประการ​ที่สอง​เพราะ​เบื้องหลัง​พวกเขา​ยังมี​คน​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​หนุนหลัง​”

พูดถึง​ตรงนี้​หลิน​สวิน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ “นี่​ก็​หมายความว่า​ ในอนาคต​เจ้าอาจจะ​สามารถ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​กว่า​เดิม​ได้​ แต่​ยาม​ลูก​และ​คนใน​ครอบครัว​ของ​เจ้าพบ​เจอ​การ​คุกคาม​จาก​ศัตรู​ขึ้น​มาจะทำ​อย่างไร​”

หลิน​ฝาน​อึ้ง​ไป​ทันที​ จมสู่ภวังค์​ความคิด​

และ​ตอนนี้​สายตา​ของ​หลิน​สวิน​มอง​มายัง​ซูไป๋​แล้ว​ เอ่ย​ว่า​ “การตัดสินใจ​ของ​เจ้าดีมาก​ ผิดพลาด​ตรงไหน​ก็​แก้​ให้​ตรงจุด​ แต่​จำไว้​ว่า​ต่อไป​อย่า​ให้ความสำคัญ​กับ​อาจารย์​อย่าง​ข้า​มากเกินไป​ การตัดสินใจ​ของ​ข้า​ไม่สามารถ​เป็นตัวแทน​เจตจำนง​ของ​เจ้าได้​ อาจารย์​ข้า​บอ​กว่า​ศิษย์​ไม่จำเป็นต้อง​ด้อย​กว่า​อาจารย์​ แต่​สำหรับ​ข้า​ ลูกศิษย์​สามารถ​ด้อย​กว่า​อาจารย์​ได้​ ขอ​เพียงแค่​ยึดมั่น​ใน​สภาวะ​จิต​ แสวงหา​มรรคา​แห่ง​ตน​ก็​เพียง​พอแล้ว​”

ซูไป๋​สั่น​ไป​ทั้งตัว​ คารวะ​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ศิษย์​น้อม​รับ​คำสอน​”

หลิน​สวิน​ตบ​ไหล่เขา​เบา​ๆ “อย่า​กดดัน​ตัวเอง​เกินไป​ เช่นนี้​จะส่งผล​ต่อ​ใจแสวง​มรรค​ของ​เจ้า และ​จะกลายเป็น​ภาระ​อย่างหนึ่ง​”

ซูไป๋​พยักหน้า​ ความ​ยึดมั่น​ใน​ใจถูก​ตี​จน​แหลก​ละเอียด​ ทั้ง​ร่าง​ล้วน​ผ่อนคลาย​ขึ้น​มา

ตั้งแต่​กราบ​เป็น​ศิษย์​ของ​หลิน​สวิน​ใน​ปี​นั้น​ เขา​ก็​ยึด​เรื่อง​การ​ไล่ตาม​หลิน​สวิน​เป็น​เป้าหมาย​ กลัว​เพียง​ว่า​หาก​ช้าเกินไป​จะทำให้​อาจารย์​ผิดหวัง​ ดังนั้น​ใน​หลาย​ปี​มานี้​เขา​แทบจะ​ปฏิบัติ​กับ​ตนเอง​อย่าง​เข้มงวด​ถึงขีดสุด​ ไม่ว่า​ทำ​เรื่อง​อะไร​ก็​คิด​อยู่​เสมอ​ว่า​จะทำให้​ตนเอง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​อย่างไร​ จะทำ​อย่างไร​เพื่อให้​อาจารย์​ไม่ผิดหวัง​…

ด้วยเหตุนี้​จึงกลาย​เป็นการ​มอบ​แรงกดดัน​และ​ภาระ​ชิ้น​ใหญ่​ยิ่ง​มาให้​ตนเอง​อย่าง​ไร้​รูป​

ช่วยไม่ได้​ อาจารย์​ผู้​นี้​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​เกินไป​ ทำให้​เขา​ไล่ตาม​สุด​ชีวิต​ก็​ยัง​ตาม​ไม่ทัน​ กลับเป็น​ยิ่ง​ไกล​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​…

คำพูด​ของ​หลิน​สวิน​ใฝใน​ตอนนี้​ไม่ได้​เป็น​แก่น​อัศจรรย์​มหา​มรรค​อะไร​ ตื้นเขิน​เบาบาง​มาก​ แต่​สำหรับ​ซูไป๋​ กลับ​ทำให้​เขา​คลาย​ปม​ใน​ใจได้​อย่าง​สิ้นเชิง​ เหมือนกับ​ได้​ตื่น​เต็มตา​

“รอ​หลัง​จัดการ​ปัญหา​ของ​ตระกูล​จี้แล้ว​ ข้า​จะพา​พวก​เจ้าไป​ที่​น่าสนใจ​แห่ง​หนึ่ง​”

หลิน​สวิน​ว่า​พลาง​พลัน​สะบัด​แขน​เสื้อ​ ถอน​ประทับ​ผนึก​เวลา​แล้ว​พา​หลิน​ฝาน​กับ​ซูไป๋​มุ่งหน้า​ออก​ไป​

……

หนึ่ง​เค่อ​หลังจากนั้น​

พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​สามชนิด​ที่​ปกคลุม​เหนือ​ห้วง​อากาศ​เขา​เทพ​เฟิ่งฉีของ​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ รวมถึง​ทรัพย์สมบัติ​ที่​ตระกูล​จี้สั่งสมมาล้วน​ถูก​หลิน​สวิน​เก็บ​ไป​

ตระกูล​จี้เอง​ก็ได้​จ่าย​ค่าตอบแทน​มาแล้ว​ ระดับ​อมตะ​ถูก​กำจัด​ทั้งหมด​ ระดับ​จักรพรรดิ​ล้วน​ถูก​ทำลาย​ปราณ​ จุดจบ​เหมือนกับ​บรรดา​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​แห่ง​น่านฟ้า​ที่​เก้า​

นี่​ก็​คือ​ท่าที​และ​วิธีการ​ของ​หลิน​สวิน​

ทั้งหมด​นี้​อยู่​ใน​สายตา​ของ​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ ใน​ใจทั้งสอง​ต่าง​มีความประทับใจ​และ​ความคิด​ของ​ตนเอง​

กับ​เรื่อง​นี้​หลิน​สวิน​ไม่ได้​ถามอะไร​อีก​

เขา​ไม่หวัง​ให้​ลูกชาย​และ​ลูกศิษย์​ของ​ตน​มีท่าที​และ​ความคิด​เหมือน​ตน​ ขอ​เพียงแค่​พวกเขา​สามารถ​เรียนรู้​จาก​เรื่อง​นี้​ได้​ก็​เพียง​พอแล้ว​

ท้องฟ้า​รัตติกาล​มืดสนิท​

หลิน​สวิน​พา​หลิน​ฝาน​กับ​ซูไป๋​ออกจาก​ยุค​ทวยเทพ​ใน​คืน​นั้น​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​

ปี​นั้น​ยาม​เขา​กลายเป็น​เจ้าเมือง​ของ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ มรรค​วิถี​เพียง​ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​เท่านั้น​ แม้สามารถ​ควบคุม​และ​ใช้พลัง​กฎระเบียบ​ใน​เมือง​ได้​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​หยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​ที่​แท้จริง​ได้​

แต่​ตอนนี้​ไม่เหมือนกัน​ เขา​เป็น​ระดับ​นิรันดร์​ขั้น​ล่วง​กฎ​สัมบูรณ์​แล้ว​ สามารถ​หยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​แท้จริง​ของ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ได้​

ตอนนั้น​เฉิน​หลิน​คง​เอง​ก็​เคย​พูด​ไว้​ว่า​หลิน​สวิน​ซึ่งเป็น​เจ้าเมือง​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ หลังจาก​แจ้งมรรค​นิรันดร์​จะสามารถ​เก็บ​ยอด​สมบัติ​ลาย​ธาร​ที่​พิทักษ์​อยู่​เหนือ​เวิ้ง​ฟ้าเมือง​เทพ​ศุภโชค​ไป​ได้​

นี่​เป็น​ถึงสมบัติ​ล้ำ​ค่าที่​เฉิน​ซีท่าน​ปู่​ของ​เฉิน​หลิน​คง​ทิ้ง​เอาไว้​ชิ้น​หนึ่ง​!

……

ยาม​รุ่งอรุณ​ ข่าว​ที่​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ล่มสลาย​กระจาย​ออก​ปาน​ลมพายุ​

ทั้ง​เขตแดน​มหา​วัฏจักร​ล้วน​แตกตื่น​ เกิด​คลื่น​ลม​ไม่สิ้น​

ตระกูล​จี้!

เผ่า​เทพ​ที่​สามารถ​จัด​อยู่​ใน​สามอันดับ​แรก​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ได้​ กลับ​ถูก​กวาดล้าง​ใน​คืน​เดียว​ ข่าว​เช่นนี้​กระจาย​ออกมา​ใคร​เล่า​จะไม่ตกตะลึง​

“นี่​… เป็น​ฝีมือ​ของ​ใคร​กัน​แน่​”

“หนี​การ​ดับสิ้น​ของ​ยุคสมัย​มาได้​ แต่กลับ​หนี​การ​มาเยือน​ของ​เคราะห์​สังหาร​ใน​ชั่ว​ข้ามคืน​ไม่ได้​ ตระกูล​จี้ที่​ยิ่งใหญ่​จะพินาศ​ไป​เช่นนี้​หรือ​”

“สถานการณ์​ทั่วหล้า​กำลังจะ​เปลี่ยนแปลง​แล้ว​”

…ข่าว​กระจาย​ออก​ไป​ไม่หยุด​ เมื่อ​ไป​ถึงใน​แต่ละ​พื้นที่​ล้วน​ทำให้เกิด​ความโกลาหล​ครั้ง​ใหญ่​ มีเสียง​ตะลึง​และ​ฮือฮา​นับไม่ถ้วน​ดัง​ตามมา​

จาก​เรื่อง​นี้​ก็​มองออก​ว่า​ยาม​ยักษ์​ใหญ่​อย่าง​ตระกูล​จี้ล้ม​ลง​ ความ​สะท้าน​สะเทือน​ที่​นำพา​มายิ่งใหญ่​เพียงใด​

และ​ภายใต้​เสียง​วิพากษ์วิจารณ์​นี้​ คน​กลุ่ม​หนึ่ง​มาถึงตรง​บริเวณ​ที่​เขา​เทพ​เฟิ่งฉีตั้งอยู่​

เพียงแต่​เขา​เทพ​เฟิ่งฉีถูก​หลอม​เก็บ​ไป​นาน​แล้ว​ ทำให้​ที่นี่​ว่างเปล่า​ เงียบสงัด​วังเวง​เป็นพิเศษ​

“ถึงกับ​ประสบ​เคราะห์​จริงๆ​…”

สีหน้า​ของ​คน​กลุ่ม​นี้​ล้วน​เปลี่ยนไป​

พวกเขา​มาจาก​ตระกูล​เกา​หยาง​และ​ตระกูล​เจียง​ ผู้นำ​ยิ่ง​เป็น​ขั้น​สรร​สร้าง​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​นาม​ว่า​เกา​หยาง​ไหว​ ผม​ดำ​สวม​ชุด​ดำ​ รูปร่าง​ผอม​เพรียว​ รูปลักษณ์​กลับ​สง่างามปาน​เด็กหนุ่ม​

อีก​คน​หนึ่ง​นาม​ว่า​เจียง​เถา สวม​ชุด​ศึก​สีดำ​ ผม​เครา​ราวกับ​ทวน​ ดวงตา​เย็นเยียบ​ราวกับ​กระบี่​

เวลานี้​ขั้น​สรร​สร้าง​ทั้งสอง​คน​ล้วน​อึ้ง​งัน​ จิต​ใจสั่น​ไหว​

พวกเขา​มาครั้งนี้​ เพื่อ​หารือ​เรื่อง​ที่ว่า​หลังจาก​จับตัว​หลิน​สวิน​ได้​จะแบ่ง​ศุภโชค​บน​ตัว​หลิน​สวิน​อย่างไร​ ใคร​จะคิด​ว่า​ยาม​มาถึงกลับเป็น​ภาพ​เช่นนี้​

ชั่วขณะหนึ่ง​ทุกคน​ล้วน​เงียบกริบ​ สีหน้า​อึมครึม​ไม่สามารถ​สงบ​ได้​ บรรยากาศ​กดดัน​ยิ่งยวด​

“ตรงนั้น​มีป้าย​หิน​หนึ่ง​ตั้งอยู่​!”

ทันใดนั้น​เกา​หยาง​ไหว​ส่งเสียง​ สายตา​จับจ้อง​บน​พื้นดิน​ไกล​ออก​ไป​ ที่นั่น​กำแพง​ผนัง​ผุพัง​ราวกับ​ซาก​ปรัก​ ป้าย​หิน​หลัก​หนึ่ง​ปัก​อยู่​ประหนึ่ง​กระบี่​

บน​ป้าย​หิน​กลับ​สลัก​อักษร​เรียบง่าย​แถว​หนึ่ง​

เจียง​เถาที่​สังเกตเห็น​ป้าย​หิน​นี้​เช่นกัน​อ่าน​ออกมา​ลวกๆ​ “ภายใน​หนึ่ง​เดือน​ ข้า​คน​แซ่หลิน​จะรอ​ทุกท่าน​อยู่​ที่​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ มีความแค้น​ก็​มาแก้แค้น​ มีความชัง​ก็​มาระบาย​ หาก​ทุกท่าน​ไม่มา หนึ่ง​เดือน​ให้หลัง​ข้า​คน​แซ่หลิน​จะไป​เยี่ยมเยียน​ถึงที่​ด้วยตัวเอง​…”

ทุกคน​ต่าง​นัยน์ตา​หด​รัด​

“เป็น​ฝีมือ​ของ​หลิน​สวิน​!”

“เป็น​เขา​จริงๆ​ ด้วย​!”

คนใหญ่คนโต​ที่​มาจาก​เผ่า​เทพ​สอง​ตระกูล​ล้วน​มีท่าทาง​เหมือน​คาดเดา​เอาไว้​แล้ว​

เพียงแต่​ครู่​ต่อมา​ใน​ใจของ​พวกเขา​ก็​เกิด​ความปั่นป่วน​ขึ้น​

ทั้ง​ตระกูล​จี้มีขั้น​สรร​สร้าง​สี่คน​และ​ขั้น​ล่วง​กฎ​สิบสอง​คน​ดูแล​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​รากฐาน​พลัง​ไม่ด้อย​กว่า​ตระกูล​หยาง​และ​ตระกูล​เจียง​

แต่กลับ​ถูก​หลิน​สวิน​ทำลาย​ใน​คืน​เดียว​แล้ว​!

นี่​จะไม่ให้​คน​ตกใจ​ได้​อย่างไร​

“นี่​ยัง​ไม่ถึงร้อย​ปี​ เจ้าหมอ​นี่​… แข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​ได้​อย่างไร​”

มีคนพูด​เสียงสั่น​

สีหน้า​ของ​คนอื่นๆ​ เอง​ก็​ไม่น่ามอง​ การรับรู้​ที่​พวกเขา​มีต่อ​หลิน​สวิน​ยัง​หยุด​อยู่​ใน​ตอนที่​หลิน​สวิน​ไป​จาก​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ หลิน​สวิน​ใน​ตอนนั้น​เป็น​เพียง​ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​เท่านั้น​

แต่​ตอนนี้​ทุกสิ่ง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ได้​พิสูจน์​แล้ว​ ว่า​หลิน​สวิน​ครอบครอง​อานุภาพ​น่ากลัว​ที่​สามารถ​สังหาร​ขั้น​สรร​สร้าง​ได้​แล้ว​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

อีก​ทั้ง​แม้แต่​ตระกูล​จี้ยัง​ถูก​กวาดล้าง​ใน​คืน​เดียว​ หาก​เปลี่ยนเป็น​ตระกูล​เกา​หยาง​ของ​พวกเขา​หรือ​ตระกูล​เจียง​ จะสามารถ​ขวาง​การ​โจมตีจาก​หลิน​สวิน​ได้​หรือไม่​

แค่​คิด​ก็​ทำให้​ใน​ใจพวกเขา​หวาดหวั่น​ยาก​จะสงบ​แล้ว​

“ทำ​อย่างไร​ดี​”

ไม่นาน​สายตา​ของ​ทุกคน​ล้วน​หันไป​มอง​ขั้น​สรร​สร้าง​ทั้งสอง​อย่าง​เกา​หยาง​ไหว​และ​เจียง​เถา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท