ตอนที่ 3050 ทั่วหล้าเดือดพล่าน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ทำ​อย่างไร​ดี​

นี่​เป็นปัญหา​ที่​ยาก​รับมือ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

เกา​หยาง​ไหว​และ​เจียง​เถาสบตา​กัน​ ขมวดคิ้ว​ขึ้น​มาโดยไม่รู้ตัว​

มีตระกูล​จี้ที่​พินาศ​ไป​เป็น​ตัวอย่าง​ จะให้​พวกเขา​กล้า​ดูถูก​หลิน​สวิน​ได้​อย่างไร​

ถึงขั้น​ที่​ใน​ใจพวกเขา​มีความคิด​จะถอย​หนี​แล้ว​!

ล่วงเกิน​ใคร​ไม่ล่วงเกิน​ กลับ​จะล่วงเกิน​จอม​โฉด​ที่​มีพลัง​กวาดล้าง​ตระกูล​

แต่​ตัวอักษร​บน​ป้าย​หิน​กลับ​ทำให้​ขั้น​สรร​สร้าง​ทั้งสอง​ตระหนัก​ได้​ว่า​ ต่อให้​พวกเขา​เลือก​ถอย​หนี​ หนึ่ง​เดือน​ให้หลัง​ก็​ต้อง​พบ​กับ​การ​ ‘เยี่ยมเยียน​ถึงที่​’ ของ​หลิน​สวิน​!

หาก​ถึงตอนนั้น​ผลลัพธ์​คง​ร้ายแรง​มาก​!

“การเคลื่อนไหว​ของ​พวกเรา​ใน​ครั้งนี้​เป็น​เจตจำนง​ของ​ราชัน​ไร้​เทียมทาน​ที่อยู่​เบื้องหลัง​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ผู้​นั้น​ จะล้มเลิก​กลางคัน​เช่นนี้​ไม่ได้​เด็ดขาด​!”

ครู่ใหญ่​เกา​หยาง​ไหว​ก็​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​ ใน​ดสง​ตา​เผย​การ​ตัด​สิ่น​ใจ “ยิ่งกว่านั้น​หลิน​สวิน​ได้​ประกาศ​ศึก​แล้ว​ หาก​พวกเรา​ถอย​จะไม่ใช่กลายเป็น​ตัวตลก​ของ​คน​ทั่วหล้า​หรือ​”

คำพูด​แม้ดูดี​ แต่​ใคร​ก็​รู้​ว่า​การตัดสินใจ​ของ​เกา​หยาง​ไหว​เป็น​เพราะ​ถูก​บีบบังคับ​…

แน่นอน​ว่า​ไม่มีใคร​เปิดโปง​จุด​นี้​

เพราะ​พวกเขา​ล้วน​รู้​ว่า​ถอย​ไม่ได้​จริงๆ​!

“ไม่ผิด​ จะปล่อยไป​เช่นนี้​ไม่ได้​ แม้บอ​กว่า​พลัง​ของ​หลิน​สวิน​แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​สามารถ​ทำลายล้าง​ตระกูล​จี้ได้​ แต่​อย่า​ลืม​ว่า​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​มีอารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​นับ​ร้อย​ แค่​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​ที่​มีระดับ​นิรันดร์​ดู​แลก็มี​มาก​ถึงสามสิบ​สามแห่ง​แล้ว​ หาก​ทุกคน​ร่วมมือ​กัน​ การ​กำจัด​หลิน​สวิน​ก็​ใช่ไม่มีความหวัง​!”

เจียง​เถาเอง​ก็​เอ่ย​เสียง​ขรึม​

ทุกคน​ล้วน​อึ้ง​ไป​ก่อน​ จากนั้น​ดวงตา​ล้วน​เป็นประกาย​ขึ้น​มา

ขิง​แก่​ย่อม​แก่​กว่า​ ลำพัง​พลัง​ของ​ตระกูล​เกา​หยาง​และ​ตระกูล​เจียง​ การ​ไป​จัดการ​หลิน​สวิน​อาจ​ต้อง​บาดเจ็บ​ล้มตาย​สาหัส​ แต่​หาก​ร่วมมือ​กับ​ขุม​อำนาจ​อื่นๆ​ แล้ว​เคลื่อนไหว​พร้อมกัน​ พลัง​ที่​รวบรวม​มาไม่เพียง​จะน่ากลัว​อย่าง​ที่สุด​ สภาพ​ที่​เสียหาย​บาดเจ็บ​ล้มตาย​ก็​จะลดลง​ได้​มาก​!

อีก​ทั้ง​ด้วย​ฐานะ​และ​อิทธิพล​ของ​พวกเขา​ตระกูล​เกา​หยาง​และ​ตระกูล​เจียง​ การ​รวมตัว​ระดับ​นิรันดร์​ใน​เผ่า​เทพ​แต่ละ​ตระกูล​ทั่วหล้า​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ง่าย​มาก​

“คำพูด​นี้​ของ​พี่​เจียง​ตรง​ใจข้า​”

เกา​หยาง​ไหว​จิตใจ​ฮึกเหิม​ กล่าวว่า​ “ทุกท่าน​อย่า​ลืม​ว่า​ที่นี่​คือ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ปกคลุม​ด้วย​พลัง​กฎระเบียบ​ของ​ราชัน​ไร้​เทียมทาน​ที่อยู่​เบื้องหลัง​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ และ​พวกเรา​ก็​เคลื่อนไหว​ตามคำสั่ง​ของ​ราชัน​ไร้​เทียมทาน​ผู้​นั้น​ ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​ราชัน​ไร้​เทียมทาน​จะทน​มอง​หลิน​สวิน​กำเริบเสิบสาน​ต่อไป​ได้​!”

คำพูด​กึกก้อง​ทรงพลัง​

ดวงตา​เจียง​เถาวาบ​ไหว​ อด​มอง​เกา​หยาง​ไหว​อีกครั้ง​ไม่ได้​ กล่าวว่า​ “คำพูด​ของ​สหาย​ยุทธ์​ปลุก​คน​ตื่น​จาก​ฝัน​ จาก​ที่​ข้า​ดู​ เรื่อง​นี้​จะรอ​ช้าไม่ได้​ พวกเรา​จะต้อง​เคลื่อนไหว​ทันที​”

ใน​คำพูด​ก็​แฝงความ​ฮึกเหิม​เสี้ยว​หนึ่ง​

“ดี​!”

เกา​หยาง​ไหว​พยักหน้า​

ทันใดนั้น​ทั้งสอง​ต่าง​นำ​คน​ของ​ตน​กลับ​ตระกูล​ ทั้ง​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ในทันที​

เพียง​สามวัน​หลังจากนั้น​

แต่​ละโลก​ยุคสมัย​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ล้วน​ฮือฮา​

ตระกูล​เกา​หยาง​กับ​ตระกูล​เจียง​ร่วมมือ​กัน​ ออกคำสั่ง​ไป​ทั่วหล้า​ ระดม​คน​ไป​สังหาร​หลิน​สวิน​ที่​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ใน​อีก​สิบ​วัน​!

ทันทีที่​ข่าว​นี้​เผยแพร่​ออก​ไป​ ทั่วหล้า​ล้วน​ตกใจ​

“เผ่า​เทพ​ตระกูล​เยี่ยน​ ตระกูล​เหลียง​ชิว​ ตระกูล​อิ๋ง​ต่าง​ประกาศ​ออกมา​ว่า​จะสนับสนุน​ทั้งสอง​ตระกูล​เต็มกำลัง​!”

“เผ่า​เทพ​ตระกูล​ผู​เอง​ก็​ประกาศ​มาเช่นกัน​ว่า​จะมาถึงนอกเมือง​เทพ​ศุภโชค​ใน​อีก​สิบ​วัน​!”

“เผ่า​เทพ​ตระกูล​ฉู่…”

ชั่วขณะหนึ่ง​เผ่า​เทพ​แต่ละ​ตระกูล​ทั่วหล้า​ต่าง​เผย​จุดยืน​ ต่าง​บอ​กว่า​จะส่งระดับ​นิรันดร์​ของ​ตระกูล​ตน​เคลื่อนไหว​พร้อมกับ​ตระกูล​เกา​หยาง​และ​ตระกูล​ล​เจียง​ ทำให้​ทุก​โลก​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​เกิด​ความโกลาหล​

“หลิน​สวิน​! ใคร​จะนึก​ว่า​หลังเขา​กลับมา​หลังจาก​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ จะนำพา​ความโกลาหล​ยิ่งใหญ่​ขนาด​นี้​มาด้วย​”

“ว่า​กัน​ว่า​เขา​กวาดล้าง​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ภายใน​คืน​เดียว​ และ​ประกาศ​ศึก​กับ​ตระกูล​เกา​หยาง​กับ​ตระกูล​เจียง​ ก็​เพราะ​เรื่อง​นี้​ถึงทำให้​เผ่า​เทพ​ทั่วหล้า​กราดเกรี้ยว​ ทำให้​เขา​กลายเป็น​เป้าหมาย​ของ​ทุกฝ่าย​”

“ปฏิเสธ​ไม่ได้​ว่า​หลิน​สวิน​นี่​เป็น​คน​ร้ายกาจ​คน​หนึ่ง​ แข็งแกร่ง​ถึงขนาด​นี้​ จะไม่ให้​เผ่า​เทพ​เหล่านั้น​หวาดหวั่น​ได้​อย่างไร​”

“ทั่วหล้า​… จะวุ่นวาย​แล้ว​!”

เสียง​วิพากษ์วิจารณ์​ต่างๆ​ ดัง​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ทั้ง​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​มีร้อย​กว่า​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​ แต่​ใน​เวลา​สามวัน​สั้น​ๆ ล้วน​ตื่นตระหนก​เพราะ​เรื่อง​นี้​

และ​ชื่อ​ของ​หลิน​สวิน​ก็​ดัง​ไป​ทั่ว​ใน​สามวันนี้​ เป็นที่รู้จัก​ของ​ผู้ฝึก​ปราณ​ใน​แต่ละ​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​เป็น​อย่าง​ดี​

“หลิน​สวิน​มีอานุภาพ​ที่​สามารถ​ทำลาย​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ได้​ พลัง​ต่อสู้​ของ​เขา​สามารถ​สังหาร​ขั้น​สรร​สร้าง​ได้​แล้ว​ และ​เป็นที่​รู้กัน​ว่า​เขา​ครอบครอง​นัย​เร้นลับ​ของ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​มาตั้งแต่​หลาย​ปีก่อน​ กลายเป็น​เจ้าเมือง​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ แม้เผ่า​เทพ​หลาย​ตระกูล​ร่วมมือ​กัน​เล่นงาน​เขา​ เกรง​ว่า​ก็​ต้อง​จ่าย​ค่าตอบแทน​ไม่น้อย​”

“คุย​เรื่อง​พวก​นี้​ตอนนี้​ก็​ไม่มีประโยชน์​ อีก​สิบ​วัน​ก็​จะได้​รู้​ผล​แล้ว​!”

……

ย้อนกลับ​ไป​เมื่อ​สามวันก่อน​

หลิน​สวิน​พา​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ทะยาน​ผ่านฟ้า​ดารา​ ครึ่ง​วัน​ให้หลัง​ก็​มาถึงเมือง​เทพ​ศุภโชค​

“เป็น​เมือง​ที่​ยิ่งใหญ่​นัก​!”

ยาม​เห็น​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ใน​ฟ้าดารา​จาก​ไกลๆ​ หลิน​ฝาน​อด​ส่งเสียงอุทาน​ด้วย​ความตกใจ​ไม่ได้​

ความยิ่งใหญ่​เกรียงไกร​ของ​เมือง​นี้​หา​ยาก​อย่าง​แน่นอน​ แม้แต่​ดวงดาว​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​เมือง​นี้​ยัง​ดู​เล็ก​จ้อย​เป็นพิเศษ​

แววตา​ของ​ซูไป๋​เผย​ความประหลาดใจ​เช่นกัน​

ระหว่างทาง​เขา​กับ​หลิน​ฝาน​ได้​รู้​ที่มา​ของ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​จาก​ปาก​หลิน​สวิน​แล้ว​ เพียงแต่​ตอนที่​เห็น​กับ​ตา​ ความรู้สึก​กลับ​แตกต่าง​โดย​สมบูรณ์​

สายตา​หลิน​สวิน​ทอด​มอง​ไป​ไกลๆ​ เหนือ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ ที่นั่น​มีม่าน​ฟ้าที่​คลุมเครือ​ปาน​แรก​กำเนิด​ปกคลุม​อยู่​ เมื่อ​มอง​อย่าง​ละเอียด​ ภายใน​มีสมบัติ​ลึกลับ​ชิ้น​หนึ่ง​ลอย​อยู่​ รูปลักษณ์​คล้าย​กระดอง​เต่า​สีดำ​

นั่น​ก็​คือ​ลาย​ธาร​!

ยอด​สมบัติ​ที่​ปู่​ของ​เฉิน​หลิน​คง​ทิ้ง​เอาไว้​

ก็​เพราะ​มีสมบัติ​นี้​คุ้มครอง​อยู่​ที่นี่​ ดังนั้น​ขอ​เพียงแค่​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​แจ้งมรรค​ใน​เมือง​นี้​ก็​จะไม่ถูก​โจมตีจาก​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​

แน่นอน​ว่า​พลัง​กฎระเบียบ​ของ​เมือง​นี้​จะกด​พลัง​ของ​ผู้ฝึก​ปราณ​ทั้งหมด​ไว้​ หาก​ระดับ​นิรันดร์​เข้าใกล้​ก็​จะถูก​โจมตี​และ​ขวาง​ไว้​ภายนอก​

แม้เป็น​ระดับ​อมตะ​ก็​ทำได้​เพียง​กด​พลัง​ปราณ​ให้​อยู่​ใน​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​จึงจะสามารถ​เข้า​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ได้​

ทั้งหมด​นี้​หมายความว่า​ นอกจาก​เจ้าเมือง​ที่​ควบคุม​เมือง​นี้​อย่าง​หลิน​สวิน​อนุญาต​ ไม่เช่นนั้น​ระดับ​นิรันดร์​คนอื่นๆ​ ย่อม​ไม่อาจ​หลบ​การ​โจมตี​ของ​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​

ตอนนั้น​หลังจาก​หลิน​สวิน​จากไป​ เหล่า​ผู้​มาก​สามารถ​ของ​พันธมิตร​สงคราม​รกร้าง​อย่าง​พวก​อู๋​ยาง​ ซิงเจีย​ต่าง​อยู่​ใน​เมือง​ต่อ​ เหตุผล​ประการ​แรก​เพื่อ​หลบ​การ​โจมตี​ของ​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​ เหตุผล​ประการ​ที่สอง​เพื่อ​หยั่งรู้​พลัง​ต้นกำเนิด​ศุภโชค​ เช่นนี้​จึงจะสามารถ​แจ้งมรรค​ทะลวง​ระดับ​ใน​เมือง​ได้​

“พวกเรา​ไป​กัน​”

หลิน​สวิน​พา​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ทะยาน​เข้า​เมือง​

เขา​เป็น​เจ้าเมือง​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ ย่อม​ไม่ถูก​พลัง​กฎระเบียบ​ของ​เมือง​นี้​กด​ข่ม​

ยาม​เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​ปรากฏ​ใน​เมือง​ ภาพ​แต่ละ​พื้นที่​ใน​เมือง​เทพ​อัน​ยิ่งใหญ่​ไร้​ใด​เปรียบ​นี้​ก็​ปรากฏ​ใน​ใจอย่าง​หมด​จรด​

ชั่ว​ขณะนี้​เขา​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​กฎระเบียบ​ของ​ที่​แห่ง​นี้​อย่าง​ชัดเจน​!

มัน​ก็​เหมือน​อากาศ​ไร้​รูป​ มีอยู่​ทุก​แห่งหน​ ปกคลุม​อยู่​ทุกที่​ภายใน​เมือง​ มหัศจรรย์​ไม่อาจ​คาดเดา​ เต็มไปด้วย​นัย​เร้นลับ​น่า​เหลือเชื่อ​

ยาม​หลิน​สวิน​ยัง​เป็น​ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​ แม้สามารถ​สัมผัส​ถึงพลัง​กฎระเบียบ​นี้​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​พิจารณา​และ​หยั่งรู้​ได้​

ทว่า​ตอนนี้​ต่าง​ออก​ไป​แล้ว​ เมื่อ​เขา​ขับเคลื่อน​ความคิด​ กลิ่นอาย​มหา​มรรค​อัน​มหัศจรรย์​ปาน​กระแส​น้ำหลาก​ชนิด​ก็​ถาโถมเข้ามา​ใน​ใจ ทำเอา​เขา​รู้สึก​อยาก​นั่งสมาธิ​เสีย​เดี๋ยวนี้​

แต่​สุดท้าย​เขา​ก็​ข่มใจ​ไว้​

เพิ่งจะ​กลับมา​ หลิน​สวิน​คิด​จะพบ​หน้า​คนรู้จัก​เก่า​ก่อน​เหล่านั้น​สักหน่อย​

‘ที่แท้​พวกเขา​ก็​ฝึก​ปราณ​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​นภา​ดารา​ศุภโชค​…’

ไม่นาน​หลิน​สวิน​ก็​จับ​กลิ่นอาย​ของ​พวก​จักรพรรดิ​สงคราม​อู๋​ยาง​ อริ​ย​พุทธ​ซิงเจีย​ได้​ พลัน​พา​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​เคลื่อนย้าย​ไป​

จากนั้น​พวกเขา​ก็​มาถึงบริเวณ​นภา​ดารา​ศุภโชค​

นี่​คือ​พื้นที่ราบ​ที่​กว้างใหญ่​ไพศาล​แห่ง​หนึ่ง​ ไม่มีพืชพรรณ​ พื้นดิน​แข็งแกร่ง​ ปู​ด้วย​หิน​เทพ​แกร่ง​สีดำ​ชั้นหนึ่ง​

บน​ท้องฟ้า​มีดวงดาว​สว่างไสว​แน่นขนัด​ส่องแสง​อยู่​ ดาว​ทุก​ดวง​ล้วน​เผย​กลิ่นอาย​มหา​มรรค​แตก​ต่างกัน​ ลอย​อยู่​ตรงนั้น​เงียบๆ​ ราวกับ​โคมไฟ​สวรรค์​มากมาย​ สาด​ประกาย​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​แตกต่าง​โดย​สมบูรณ์​ อบอวล​ใน​ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​แห่ง​นี้​

นภา​ดารา​ศุภโชค​นี้​เป็น​เฉิน​ซีปู่​ของ​เฉิน​หลิน​คง​สร้าง​ขึ้น​เช่นกัน​ บรรจุ​ระบบ​ฝึก​ปราณ​แห่ง​ยุคสมัย​นับ​ร้อย​ไว้​ใน​นภา​ดารา​เพื่อให้​คนรุ่นหลัง​ได้​ศึกษา​และ​หยั่งรู้​

ตอนนั้น​หลิน​สวิน​ก็​หยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​สูงสุด​ของ​นภา​ดารา​ศุภโชค​จน​กลายเป็น​เจ้าเมือง​เทพ​ศุภโชค​!

เหมือน​เช่น​ตอนนั้น​ บริเวณ​ที่​นภา​ดารา​ศุภโชค​ตั้งอยู่​มีเงาร่าง​มากมาย​นั่งขัดสมาธิ​ ล้วน​กำลัง​หยั่งรู้​พลัง​ปราณ​ใน​นภา​ดารา​ศุภโชค​

บ้าง​ขมวดคิ้ว​ใคร่ครวญ​ บ้าง​นั่ง​นิ่ง​ไม่ขยับ​ บ้าง​เลิกคิ้ว​ บ้าง​อึ้ง​ไม่พูดจา​…

ตอนที่​เห็นภาพ​นี้​หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​เอง​ก็​อด​ประหลาดใจ​ยิ่ง​ไม่ได้​

หลิน​สวิน​เห็น​เช่นนี้​จึงกล่าวว่า​ “พวก​เจ้าสามารถ​สงบ​จิต​หยั่งรู้​ที่นี่​ได้​ สัมผัส​ระบบ​การ​ฝึก​ปราณ​ที่​แตก​ต่างกัน​ของ​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​ มีผลดี​ต่อ​การ​ฝึก​ปราณ​ในอนาคต​ของ​พวก​เจ้า”

หลิน​ฝาน​และ​ซูไป๋​ตกลง​โดย​ไม่คิด​ด้วยซ้ำ​

ส่วน​หลิน​สวิน​ทะยาน​ไป​ส่วนลึก​ของ​พื้นที่​แห่ง​นี้​

ยิ่ง​ลึก​เข้าไป​คน​ก็​ยิ่ง​น้อย​ จนกระทั่ง​หลังจากนั้น​มีเพียง​ยี่สิบ​กว่า​ร่าง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​นั่น​

ยาม​หลิน​สวิน​ไป​ถึง เงาร่าง​เหล่านี้​ล้วน​สัมผัส​ได้​ ต่าง​ลืมตา​ขึ้น​

“ทุก​คนดู​ว่า​ใคร​มา”

“ฮ่าๆ ถึงว่า​วันนี้​ข้า​จิตใจ​กระสับกระส่าย​ ที่แท้​ก็​เป็น​สหาย​น้อย​มา”

“หลิน​สวิน​ เหตุใด​เจ้าจึงกลับมา​เวลานี้​”

ทันใดนั้น​เสียง​ต่างๆ​ ดัง​ขึ้น​ ก็​เห็น​เงาร่าง​เหล่านั้น​ลุกขึ้น​มาต้อนรับ​พร้อม​รอยยิ้ม​ และ​ผู้นำ​ก็​คือ​พวก​จักรพรรดิ​สงคราม​อู๋​ยาง​ อริ​ย​พุทธ​ซิงเจีย​ จักรพรรดิ​สงคราม​หลง​เซี่ยง​ สีหน้า​ล้วน​มีความประหลาดใจ​และ​ดีใจ​

“คารวะ​ผู้อาวุโส​ทุกท่าน​”

หลิน​สวิน​เอง​ก็​ยิ้ม​ประสาน​หมัด​ทักทาย​ ไม่เจอกัน​นาน​ แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​ดีใจ​มาก​

“เอ๋​ เจ้าแจ้งมรรค​นิรันดร์​แล้ว​หรือ​”

อู๋​ยาง​ดูออก​ทันที​ว่า​กลิ่นอาย​ของ​หลิน​สวิน​แตกต่าง​ไป​ อด​เผย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ไม่ได้​

พอ​พูด​เช่นนี้​คนอื่นๆ​ ก็​มีปฏิกิริยา​เช่นกัน​ แต่ละคน​อึ้ง​งัน​ไป​ รู้สึก​ยาก​จะเชื่อ​

พวกเขา​จำได้​แม่น​ว่า​ยาม​หลิน​สวิน​ออกจาก​เมือง​เทพ​ศุภโชค​เพิ่งจะ​มีพลัง​ปราณ​ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​เท่านั้น​ แต่​ตอนนี้​ไม่ถึงร้อย​ปี​หลิน​สวิน​ก็​แจ้งมรรค​นิรันดร์​แล้ว​!

ความเร็ว​ใน​การ​ทะลวง​ระดับ​เช่นนี้​ทำให้​เฒ่าชรา​เหล่านี้​ต่าง​ตกใจ​ สีหน้าแตก​ต่างกัน​ไป​

“เจ้ามานั่ง​คุย​กับ​พวกเรา​หน่อย​ไหม​ หลาย​ปี​นี้​เจ้าพบ​เจอ​อะไร​มาบ้าง​ และ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​ได้​อย่างไร​”

“ใช่ๆ วันนี้​พวกเรา​กับ​สหาย​น้อย​ได้มา​เจอกัน​อีกครั้ง​ ควร​ดื่ม​กิน​พูดคุย​กัน​เช่นนี้​จึงจะสะใจ ทุกท่าน​คิด​ว่า​อย่างไร​”

มีคน​เสนอ​

ทุกคน​ต่าง​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท