ตอนที่ 3054 เคราะห์สังหารทั่วฟ้าดารา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

เมฆาเคราะห์​บน​เวิ้ง​ฟ้าโหมกระหน่ำ​ อสนีบาต​เจิดจ้า​หลาก​สาย​ทิ้งตัว​ กลายเป็น​อักษร​มหา​มรรค​ส่อง​ประกาย​นับไม่ถ้วน​โปรยปราย​ลงมา​

อักษร​เหล่านี้​มีรูปลักษณ์​ต่างกัน​ไป​ ประทับ​กลิ่นอาย​ต่างๆ​ ประกอบ​กัน​ตามลำดับ​กลางอากาศ​ กลายเป็น​รูป​ประโยค​ราว​ดาบ​ดุจ​กระบี่​และ​บท​ความงดงาม​มากมาย​ มหัศจรรย์​เกิน​คาดเดา​

อานุภาพ​เรียก​ได้​ว่า​น่าหวาดกลัว​ไร้​ขอบเขต​!

อักษร​คือ​สื่อกลาง​แห่ง​อารยธรรม​ ประพันธ์​เป็น​รูป​เล่ม​หรือ​ก็​คือ​คัมภีร์​ อธิบาย​ถึงนัย​เร้นลับ​แห่ง​มหา​มรรค​ฟ้าดิน​ อักษร​แต่ละ​ตัว​ใน​เคราะห์​ปราชญ์​ไพศาล​นี้​ราวกับ​ภัยพิบัติ​ผลาญ​โลก​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พลัง​สังหาร​เกิน​จินตนาการ​

เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​กรำ​ศึก​อยู่​ใน​นั้น​ ถูก​ผ่า​จน​บาดเจ็บ​บ่อยครั้ง​ วิชา​มรรค​ทั้งตัว​ถูก​คุกคาม​สาหัส​ สถานการณ์​อันตราย​

สุดท้าย​เมื่อ​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​นี้​แล้ว​ ร่างกาย​หลิน​สวิน​ยับเยิน​ พลังจิต​พังทลาย​ น่าอนาถ​เป็น​อย่างยิ่ง​

แต่​ดวงตา​เขา​กลับ​ส่อง​ประกาย​หา​ใด​เปรียบ​

เคราะห์​นี้​ทำให้​มรรค​วิถี​ทั้งตัว​เขา​เปลี่ยนแปลง​ใหม่​ทั้งหมด​อีกครั้ง​!

‘ด่าน​เคราะห์​ที่​แปด​ชื่อว่า​เคราะห์​ธรรม​สงัด​ มาจาก​ยุค​ธรรม​…’

‘ด่าน​เคราะห์​ที่​เก้า​ชื่อว่า​เคราะห์​มรรค​สามกระจ่าง​ มาจาก​ยุค​มรรค​… ขอ​เพียง​ข้าม​ผ่าน​ไป​ได้​ก็​จะแจ้งมรรค​สำเร็จ​ ทั้ง​มีรากฐาน​หลุดพ้น​จาก​การสับเปลี่ยน​ยุคสมัย​…’

หลิน​สวิน​สัมผัส​ถึงการเปลี่ยนแปลง​พลิก​ฟ้าพลิก​ดิน​ทั่ว​ร่าง​ เขา​สูด​หายใจ​ลึก​ครา​หนึ่ง​ เปี่ยม​ความคาดหวัง​

ยาม​หลิน​สวิน​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​ โลก​ภายนอก​ผ่าน​ไป​วันแล้ววันเล่า​

ความอดทน​ของ​เหล่า​สัตว์ประหลาด​เฒ่าอย่าง​พวก​อู๋​ยาง​ ซิงเจีย​ที่​รอ​บน​ยอดเขา​ราตรี​สงัด​มาตลอด​หาย​ไป​ทีละน้อย​ ทนไม่ไหว​อยู่​บ้าง​แล้ว​

“เหลือ​เวลา​แค่​หนึ่ง​วัน​เผ่า​เทพ​ทั่วหล้า​จะบุก​โจมตี​ ไม่แน่​ว่า​ทัพ​ใหญ่​ศัตรู​อาจ​เร่ง​เดินทาง​มาแล้ว​”

หว่าง​คิ้ว​ซิงเจีย​ฉายแวว​กังวล​

นับตั้งแต่​เผ่า​เทพ​หลาย​ตระกูล​ทั่วหล้า​ประกาศ​ศึก​ ถึงตอนนี้​เวลา​ผ่าน​มาเก้า​วัน​แล้ว​ ปัจจุบัน​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ซบเซา​อ้างว้าง​ ใน​อากาศ​อบอวล​กลิ่นอาย​กดดัน​เหมือน​พายุฝน​กำลัง​มา

“เจ้าหนุ่ม​ เจ้าลอง​ไป​พบ​บิดา​เจ้าหน่อย​ไหม​”

มีคน​เหลือบมอง​หลิน​ฝาน​พลาง​เสนอ​

“ไม่ได้​”

ไม่รอ​ให้​หลิน​ฝาน​เอ่ยปาก​อู๋​ยาง​ก็​กล่าว​ห้ามปราม​ “ถ้ารบกวน​การ​ฝึก​ปราณ​หลิน​สวิน​จะทำ​อย่างไร​ อีก​อย่าง​ที่นี่​คือ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ อย่า​ลืม​สิ ต่อให้​ระดับ​นิรันดร์​บุก​มาก็​จะถูก​พลัง​กฎระเบียบ​ของ​เมือง​นี้​สกัดกั้น​และ​กระหน่ำ​โจมตี​”

“เช่นนั้น​พวกเรา​จะรอ​ต่อไป​เช่นนี้​หรือ​” มีคน​มุ่น​คิ้ว​

“หรือ​ยังมี​วิธี​อื่น​อีก​”

อู๋​ยาง​จนปัญญา​อยู่​บ้าง​เช่นกัน​

นาง​คิดไม่ถึง​ว่า​หลิน​สวิน​จะใจกล้า​เช่นนี้​ ก่อน​มาเมือง​เทพ​ศุภโชค​ยัง​ประกาศ​ศึก​กับ​ตระกูล​เกา​หยาง​และ​ตระกูล​เจียง​ แต่​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​เขา​ยัง​มุ่งมั่น​ปิด​ด่าน​ฝึก​ปราณ​ ความ​สงบใจ​เช่นนี้​ไม่ให้​คน​นับถือ​คง​ไม่ได้​

“ผู้อาวุโส​ทุกท่าน​ บิดา​ข้า​ต้อง​รับศึก​แน่​”

หลิน​ฝาน​อด​กล่าว​ไม่ได้​ บน​หน้า​หล่อเหลา​เปี่ยม​ความหนักแน่น​

ทุกคน​ต่าง​ยิ้ม​ขึ้น​มาอย่า​งอด​ไม่ได้​ พวกเขา​ย่อม​รู้​ว่า​หลิน​สวิน​ไม่กลัว​ศึก​นี้​เป็นธรรมดา​

สิ่งที่​พวกเขา​ห่วง​คือ​หลิน​สวิน​ไม่รู้​เลย​ว่า​ศัตรู​ที่มา​ครั้งนี้​นอกจาก​ตระกูล​เกา​หยาง​กับ​ตระกูล​เจียง​แล้ว​ ยัง​มีระดับ​นิรันดร์​ของ​เผ่า​เทพ​ตระกูล​อื่น​ใน​ใต้​หล้า​ด้วย​!

ก่อนหน้านี้​เฒ่าชรา​อย่าง​พวกเขา​เคย​วิเคราะห์​มาแล้ว​ ใน​บรรดา​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​นับ​ร้อย​ของ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ อารยธรรม​ที่​มีระดับ​นิรันดร์​มีสามสิบ​เก้า​แห่ง​

อารยธรรม​ที่​มีขั้น​สรร​สร้าง​มีสิบเอ็ด​แห่ง​

หาก​คำนวณ​โดยละเอียด​ ใน​ทัพ​ใหญ่​ของ​ศัตรู​ที่มา​ครา​นี้​อย่าง​น้อย​ก็​มีขั้น​ล่วง​กฎ​นับ​ร้อย​ ขั้น​สรร​สร้าง​เกือบ​ยี่สิบ​คน​!

ภายใน​นั้น​เพียง​ขุม​อำนาจ​ยักษ์​ใหญ่​อันดับ​หนึ่ง​อันดับ​สอง​อย่าง​ตระกูล​เกา​หยาง​กับ​ตระกูล​เจียง​ ต่าง​ก็​มีผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​ล่วง​กฎ​มากกว่า​สิบ​คน​และ​ขั้น​สรร​สร้าง​ราว​สี่คน​!

ทัพ​ใหญ่​ระดับ​นิรันดร์​รวมตัวกัน​เช่นนี้​ สามารถ​กวาดล้าง​อารยธรรม​แห่ง​ยุคสมัย​ใด​ก็ตาม​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ได้​โดยง่าย​

กระบวน​รบ​เช่นนี้​สามารถ​ทำให้​ระดับ​นิรันดร์​คนใด​ก็ตาม​นั่ง​นอน​ไม่เป็นสุข​

หาก​ไม่รู้​ว่า​หลิน​สวิน​เคย​คว่ำ​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ด้วย​ตัว​คนเดียว​มาก่อน​ เกรง​ว่า​พวก​อู๋​ยาง​คง​ไม่อาจ​อยู่​เฉย​เหมือน​ตอนนี้​

“หืม?”​

ทันใดนั้น​จักรพรรดิ​นรก​เลือด​ทมิฬ​ราวกับ​สัมผัส​ถึงอะไร​บางอย่าง​ นัยน์ตา​ทอด​มอง​เวิ้ง​ฟ้าห่างไกล​ ไม่นาน​ก็​หน้า​เปลี่ยนสี​ “ศัตรู​มาแล้ว​!”

เหล่า​สัตว์ประหลาด​เฒ่าใน​ที่​นั้น​ต่าง​ตกใจ​

“ไม่ได้​บอ​กว่า​อีก​สิบ​วัน​จะมาถึงหรอก​รึ​” มีคน​เอ่ย​ถามโดยไม่รู้ตัว​

“นี่​ได้​แต่​พิสูจน์​ว่า​พวกเขา​อยาก​เปิดศึก​จน​ทนไม่ไหว​แล้ว​”

ยาม​นี้​อู๋​ยาง​กลับ​สงบ​ลง​

เมื่อ​มอง​จาก​ใน​เมือง​ไป​ ส่วนลึก​ใน​ฟ้าดารา​ห่างไกล​มีเงาร่าง​มากมาย​ปรากฏ​ กำลัง​เข้ามา​ใกล้​ทาง​นี้​

มีกัน​ร้อย​กว่า​คน​

แต่ละคน​ล้วน​กด​กลิ่นอาย​ถึงขีดสุด​ ดังนั้น​จึงไม่ดึงดูด​พลัง​สะท้อน​กลับ​ของ​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​

พวกเขา​พุ่ง​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้าโดย​ไร้​สุ้มเสียง​เหมือน​เมฆดำ​แถบ​หนึ่ง​

ผู้นำ​คือ​เกา​หยาง​ไหว​ ขั้น​สรร​สร้าง​ของ​ตระกูล​เกา​หยาง​ กับ​เจียง​เถาขั้น​สรร​สร้าง​ของ​ตระกูล​เจียง​

ที่​ตามหลัง​พวกเขา​มาคือ​เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​สรร​สร้าง​ มีกัน​ราว​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​คน​ ไกล​ออก​ไป​คือ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​ล่วง​กฎ​ มีมากมาย​แน่นขนัด​

ยาม​อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​เทพ​ศุภโชค​หมื่น​จั้ง พวกเขา​พา​กัน​ยืน​นิ่ง​กลางอากาศ​ ทอดสายตา​มอง​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ราวกับ​เทพ​จาก​สวรรค์​

ระยะห่าง​นี้​ปลอดภัย​ที่สุด​ ถ้าเข้าใกล้​อีกหน่อย​ก็​จะถูก​พลัง​กฎระเบียบ​ของ​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ขับไล่​และ​กระหน่ำ​โจมตี​

ก่อน​จะเปิดศึก​พวก​เกา​หยาง​ไหว​กับ​เจียง​เถาย่อม​ไม่ดึงดัน​ก้าว​เข้าไป​แน่​

ฟ้าดารา​เงียบสงัด​ บรรยากาศ​กดดัน​เยียบ​เย็น​กลับ​แผ่​กระจาย​ใน​ทุก​อาณาเขต​ของ​ฟ้าดารา​ยิ่งใหญ่​แถบ​นี้​ดุจ​เขา​ถล่ม​สมุทร​คำราม​

ไม่ว่า​สำหรับ​หลิน​ฝาน​กับ​ซูไป๋​หรือ​เหล่า​สัตว์ประหลาด​อย่าง​พวก​อู๋​ยาง​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​เจอ​กระบวน​รบ​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​

ขั้น​สรร​สร้าง​เกือบ​ยี่สิบ​คน​!

ขั้น​ล่วง​กฎ​มากกว่า​ร้อย​คน​!

กองทัพ​ใหญ่​ระดับ​นิรันดร์​เช่นนี้​ ไม่ว่า​ปรากฏตัว​ที่ไหน​คง​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​สิ้นหวัง​และ​หมดหนทาง​

ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ กำลัง​พล​ขบวน​นี้​ก็​เหมือน​นาย​เหนือ​หัว​สูงสุด​!

พวก​อู๋​ยาง​รู้สึก​กดดัน​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ แต่ละคน​สีหน้า​อึมครึม​เป็น​อย่างยิ่ง​

เวลานี้​แม้แต่​หลิน​ฝาน​กับ​ซูไป๋​ก็​ไม่อาจ​นิ่งเฉย​ ต่อให้​พวกเขา​มั่นใจ​ใน​ตัว​หลิน​สวิน​แค่​ไหน​ ยาม​เผชิญหน้า​กับ​กระบวน​รบ​เช่นนี้​ก็​ยัง​รู้สึก​ตึงเครียด​และ​กังวล​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​

กลาง​ฟ้าดารา​

หลังจาก​พวก​เกา​หยาง​ไหว​และ​เจียง​เถามาถึงก็​เริ่ม​ลง​มือวาง​กระบวน​รบ​ทันที​

ฮูม… ฮูม…

พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ซึ่งแตก​ต่างกัน​โดยสิ้นเชิง​เก้า​ชนิด​กลายเป็น​ม่าน​นภา​ทะลวง​ขึ้น​เหนือ​เมฆ แผ่​กระจาย​ออกมา​เหมือน​กระแสน้ำ​ระลอก​แล้ว​ระลอก​เล่า​

สามารถ​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ว่า​ฟ้าดารา​ทั่ว​ทิศ​โดย​มีเมือง​เทพ​ศุภโชค​เป็น​ศูนย์กลาง​ ล้วน​ถูก​พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​มากมาย​ปกคลุม​

จากนั้น​กองทัพ​ใหญ่​ระดับ​นิรันดร์​อย่าง​พวก​เกา​หยาง​ไหว​ เจียง​เถาก็​ไม่ข่ม​กลิ่นอาย​ของ​ตน​อีก​ แต่ละคน​ปลดปล่อย​อานุภาพ​ร้ายกาจ​น่ากลัว​ออกมา​ทันที​

ตูม​!

ฟ้าดารา​ปั่นป่วน​ หมื่น​ดารา​ส่าย​สั่น​

อานุภาพ​ระดับ​นิรันดร์​โหมกระหน่ำ​รวมตัว​ พุ่ง​ใส่เมือง​เทพ​ศุภโชค​เต็มแรง​เหมือน​คลื่น​ซัดสาด​

แม้ว่า​อานุภาพ​เหล่านี้​จะถูก​พลัง​กฎระเบียบ​ที่​เมือง​เทพ​ศุภโชค​แผ่​ออกมา​ต้านทาน​ แต่​ความรุนแรง​ของ​กลิ่นอาย​ทำลายล้าง​ที่​เกิดขึ้น​ยัง​ทำให้​พวก​อู๋​ยาง​อกสั่นขวัญแขวน​ไป​พัก​หนึ่ง​

พวกเขา​เป็น​แค่​ขั้น​ล่วง​กฎ​ มีกัน​แค่​ยี่สิบ​กว่า​คน​ ไม่ต้อง​กล่าวถึง​การ​เผชิญหน้า​กับ​ทัพ​ใหญ่​ระดับ​นิรันดร์​เช่นนี้​ แค่​ขั้น​สรร​สร้าง​มาคนเดียว​ก็​ไม่ใช่คน​ที่​พวกเขา​ต้านทาน​ได้​!

พวกเขา​ถึงขั้น​เป็นห่วง​ว่า​หลิน​สวิน​คนเดียว​จะคลี่คลาย​สถานการณ์​คับขัน​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​

“จบกัน​…”

ใน​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ยังมี​ผู้ฝึก​ปราณ​ใจกล้า​บางส่วน​ไม่จากไป​ เดิม​คิด​ชมการต่อสู้​ แต่​เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​แต่ละคน​มือ​เท้า​เย็นเยียบ​ หนัง​ศีรษะ​ชาวาบ​

กระบวน​รบ​เช่นนี้​อยู่​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​พวกเขา​โดยสิ้นเชิง​!

ทุกคน​ต่าง​ไม่ฝาก​ความหวัง​กับ​หลิน​สวิน​อีก​แม้เพียง​เสี้ยว​

พวกเขา​ถึงขั้น​เป็นห่วง​ว่า​เมือง​เทพ​ศุภโชค​นี้​จะถูก​ทำลาย​จน​ทำให้​พวกเขา​โดน​ลูกหลง​ไป​ด้วย​

เพียง​พริบตา​คน​พวก​นี้​ทั้ง​ตื่นตระหนก​ทั้ง​นึก​เสียใจ​ อยาก​จะตบ​ปาก​ตัวเอง​ว่า​ทำไม​ต้อง​ฝืน​เลือก​อยู่​ต่อ​ด้วย​

ควร​จากไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​!

“หลิน​สวิน​อยู่​ที่ใด​ เจ้าป่าวประกาศ​ว่า​นัด​ต่อสู้​กับ​พวกเรา​ที่นี่​ไม่ใช่หรือ​ ตอนนี้​พวกเรา​มาแล้ว​ ทำไม​เจ้าถึงไม่กล้า​เผย​ตัว​เล่า​”

กลาง​ฟ้าดารา​เกา​หยาง​ไหว​ยืน​จองหอง​ นัยน์ตา​ทอด​มอง​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ เสียงดัง​กระหึ่ม​กลางอากาศ​เหมือน​อสนีบาต​จาก​เก้า​ชั้น​ฟ้า

เวลานี้​เขา​มั่นใจ​เต็มเปี่ยม​ ใบหน้า​เจือ​ความ​หยิ่งผยอง​เยียบ​เย็น​

“หลิน​สวิน​ เจ้าคง​คิดไม่ถึง​ว่า​พวกเรา​จะร่วมมือ​กับ​เผ่า​เทพ​ทั่วหล้า​มาจัดการ​เจ้า เมื่อ​มาถึงตอนนี้​เจ้าจึงไม่กล้า​ปรากฏตัว​แล้ว​กระมัง​”

เจียง​เถาหัวเราะ​ลั่น​

“สิงโต​ตะปบ​กระต่าย​ยัง​ใช้พลัง​ทั้งหมด​ อย่า​คิด​ว่า​ทำลาย​เผ่า​เทพ​ตระกูล​จี้ราบคาบ​แล้ว​ เจ้าจะไม่เห็น​พวกเรา​เผ่า​เทพ​อยู่​ใน​สายตา​อีก​!”

“ทุกท่าน​ เห็น​หรือยัง​ หลิน​สวิน​ตกใจ​จน​ไม่กล้า​ออกมา​แล้ว​!”

“มีความกล้า​แค่นี้​ยัง​กล้า​พูดเพ้อเจ้อ​ประกาศ​ศึก​ ต่าง​อะไร​กับ​รนหาที่​ตาย​”

ขั้น​สรร​สร้าง​คน​แล้ว​คน​เล่า​เอ่ยปาก​ เสียง​นั้น​ประหนึ่ง​อสนีบาต​ดัง​กระหึ่ม​ก้อง​ฟ้าดารา​

“หลิน​สวิน​ ไสหัว​ออกมา​รับ​ความตาย​!” ทั้ง​มีคน​อดใจ​รอ​ไม่ไหว​ ตวาด​เสียงกร้าว​

“ไสหัว​ออกมา​รับ​ความตาย​!”

พริบตา​นั้น​ขั้น​ล่วง​กฎ​นับ​ร้อย​คน​ตวาด​ลั่น​พร้อมกัน​

อานุภาพ​พวกเขา​ดั่ง​มรสุม​คลั่ง​ปกคลุม​ฟ้าดิน​ ม้วน​กลืน​ทั่ว​ฟ้าดารา​ ทำให้​ห้วง​อากาศ​สั่นสะเทือน​ ดวงดาว​ที่​ลอย​อยู่​ใน​ฟ้าดารา​แตก​ละเอียด​ทั้งหมด​ หาก​ไม่ใช่เมือง​เทพ​ศุภโชค​มีพลัง​กฎระเบียบ​ปกคลุม​ ต้านทาน​การ​โจมตี​ของ​อานุภาพ​ไร้​รูป​นี้​ เกรง​ว่า​เมือง​นี้​คง​ถูก​ซัด​ทลาย​ด้วย​เสียง​นี้​แล้ว​!

“น่ากลัว​ น่ากลัว​เกินไป​แล้ว​!”

เวลานี้​เหล่า​ผู้ฝึก​ปราณ​ที่​เหลืออยู่​ใน​เมือง​ตกใจ​จน​ทรุดตัว​ลง​กับ​พื้น​ สติ​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​

แม้แต่​สีหน้า​ของ​พวก​อู๋​ยาง​ก็​เปลี่ยนเป็น​ไม่น่าดู​ขึ้น​มา หว่าง​คิ้ว​เต็มไปด้วย​แวว​อึมครึม​ ศัตรู​กำเริบ​เกินไป​แล้ว​ ท่าทาง​เหมือน​กำ​ชัย​มั่นเหมาะ​

แต่​พวกเขา​กลับ​ไม่อาจ​ไม่ยอมรับ​ ทัพ​ใหญ่​ระดับ​นิรันดร์​ขบวน​นี้​สามารถ​ทำให้​ใครก็ตาม​สิ้นหวัง​ได้​จริงๆ​

ต่อให้​พวกเขา​เอาชีวิต​เข้า​แลก​ เกรง​ว่า​คง​ยืนหยัด​ไม่อยู่​แม้แต่​ครู่เดียว​!

“ศึก​นี้​จะสู้อย่างไร​”

เหล่า​สัตว์ประหลาด​เฒ่าหนักใจ​ยิ่ง​

เมื่อ​มอง​หลิน​ฝาน​กับ​ซูไป๋​ก็​เห็น​พวกเขา​กำ​สอง​มือ​แน่น​ สีหน้า​อึมครึม​ ระดับ​นิรันดร์​มาก​เช่นนี้​ร่วมมือ​กัน​เพื่อ​จัดการ​บิดา​และ​อาจารย์​ของ​พวกเขา​คนเดียว​ หน้าไม่อาย​อะไร​ปานนี้​!

“หลิน​สวิน​ ทำไม​ไม่กล้า​ปรากฏตัว​ รีบ​ไสหัว​ออกมา​รับ​ความตาย​ซะ!!”

กลาง​ฟ้าดารา​ขั้น​สรร​สร้าง​ร่าง​กำยำ​ดั่ง​ขุนเขา​คน​หนึ่ง​แผด​เสียงคำราม​ เย่อหยิ่ง​เป็น​อย่างยิ่ง​

“เจ้าสวะ​บัดซบ​นี่​ หาก​สู้ตัวต่อตัว​ท่าน​พ่อ​ต้อง​ฆ่าเขา​เหมือน​เชือด​ไก่​แน่​!”

หลิน​ฝาน​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​

“ฝาน​เอ๋อร์​ โกรธ​เพราะ​คน​ใกล้​ตาย​คน​หนึ่ง​ ควรค่า​หรือ​”

เวลานี้​เสียง​ราบเรียบ​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​

ทุกคน​ตัว​สั่นสะท้าน​ หันกลับ​ไป​พร้อมกัน​ตาม​จิตใต้สำนึก​…

ก็​เห็น​ประตู​ตำหนัก​ใหญ่​ที่​ปิด​สนิท​เปิด​ออก​ช้าๆ เงาร่าง​สูงตระหง่าน​ของ​หลิน​สวิน​ก้าว​ออกมา​แล้ว​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท