ตอนที่ 3070 บัวชะตามหามรรค

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

เห็น​หลิน​สวิน​เดิน​ออกจาก​แท่น​มรรค​ ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​พลัน​เงียบกริบ​ทั้ง​แถบ​

เงาร่าง​ที่ซ่อน​ใน​มุมมืด​เหล่านั้น​ต่าง​ประหลาดใจ​มาก​ ล้วน​คิดไม่ถึง​ว่า​หลิน​สวิน​จะไร้​กลัวเกรง​และ​สงบ​เช่นนี้​

โดยเฉพาะ​เมื่อ​ได้ยิน​การ​ประกาศ​ศึก​ของ​หลิน​สวิน​ ทำเอา​ใน​ใจพวกเขา​ล้วน​อด​เสียววาบ​ไม่ได้​

ไม่ใช่มังกร​แกร่ง​ไม่ข้าม​ธาร​ การ​ที่​หลิน​สวิน​ดู​เยือกเย็น​เช่นนี้​ ความจริง​ท่าที​กลับ​แข็งกร้าว​ถึงขีดสุด​ ทำให้​พวกเขา​ไม่กล้า​ผลีผลาม​ลงมือ​

ไกล​ออก​ไป​ร้อย​จั้ง

ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​ดุจ​ภูเขา​หัว​คิ้ว​ก็​ขมวด​เช่นกัน​ แววตา​วาบ​ประกาย​ ภายในใจ​ทั้ง​แปลกใจ​และ​สงสัย​

หลิน​สวิน​เห็น​เช่นนี้​มุมปาก​ก็​อด​เจือ​รอยยิ้ม​เสี้ยว​หนึ่ง​ขึ้น​มาไม่ได้​

ไม่อาจ​ไม่พูด​ คน​พวก​นี้​รอบคอบ​อย่างยิ่ง​ แต่​ก็​เป็น​เพราะ​รอบคอบ​เช่นนี้​ ทำให้​สถานการณ์​ไม่อาจ​เปลี่ยนเป็น​ร้ายแรง​เกินไป​ได้​

“เหล่า​อิน​ เจ้ามาทดสอบ​ฝีมือ​สหาย​ยุทธ์​หน้าใหม่​ผู้​นี้​สักหน่อย​”

ไกล​ออก​ไป​เสียง​แก่​ชรา​นั่น​ดัง​ขึ้น​

ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​ที่​ถูก​เรียก​ว่า​เหล่า​อิน​พยักหน้า​ เขา​สะบัดมือ​ครา​หนึ่ง​

ฮูม…

ทันใดนั้น​ประกาย​เทพ​สีม่วง​พราว​ระยับ​ชั้นหนึ่ง​กลายเป็น​ม่าน​ฟ้า ปิด​ครอบ​ฟ้าดิน​แถบ​นี้​ไว้​

นี่​คือ​พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​สมบูรณ์​อย่างหนึ่ง​

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​หลิน​สวิน​กล่าว​คล้าย​ขบคิด​ “ที่แท้​ทุกท่าน​ก็​ห่วง​ว่า​แรง​สะเทือน​ที่เกิด​จาก​การต่อสู้​จะรุนแรง​เกินไป​ และ​จะถูก​คนอื่นๆ​ รับรู้​สินะ​”

ไม่ได้​แตกตื่น​ ไม่ได้​ประหม่า​ ท่าทาง​นิ่ง​สงบ​นั่น​ของ​หลิน​สวิน​ทำให้​ผู้​ที่​แอบ​อยู่​ใน​มุมมืด​เหล่านั้น​ยิ่ง​มอง​ไม่ออก​มากขึ้น​

ยัง​ไม่ทัน​ต่อสู้​ เสียง​หญิงสาว​ที่​เย็นเยียบ​นั่น​ก็​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ “เหล่า​อิน​ พวกเรา​กับ​สหาย​ยุทธ์​ผู้​นี้​ไร้​แค้น​ไร้​พยาบาท​ เอา​แค่​พอประมาณ​ก็​พอ​”

“ได้​”

ชาย​เงาร่าง​สูงใหญ่​ตอบรับ​

“สหาย​ยุทธ์​มีความเห็น​อย่างไร​” เสียง​หญิงสาว​ที่​เย็นเยียบ​นั่น​เอ่ย​ถามหลิน​สวิน​

“ได้​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​ง่ายๆ​

“ล่วงเกิน​แล้ว​”

ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​ เงาร่าง​ประหนึ่ง​ภูเขา​แผ่​แสงมรรค​นิรันดร์​สีทอง​อร่าม​ออกมา​ อานุภาพ​ทั่ว​ร่าง​พลัน​พุ่ง​ทะยาน​ถึงขีดสุด​

กลิ่นอาย​ระดับ​นั้น​แกร่ง​กร้าว​กว่า​เกา​หยาง​ไหว​ เจียง​เถาที่อยู่​ขั้น​สรร​สร้าง​สัมบูรณ์​เช่นกัน​ด้วยซ้ำ​!

“ทะยาน​!”

เขา​ตะโกน​ครา​หนึ่ง​ ดุจดั่ง​ฟ้าร้อง​ ธาร​เพลิง​สีทอง​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​กลางอากาศ​เบื้องหน้า​เขา​ พลัน​กลายเป็น​กระบี่​มรรค​สีทอง​เล่ม​หนึ่ง​ทันควัน​

กระบี่​มรรค​นี้​แม้ยาว​เพียง​สอง​ฉื่อ​ ทว่า​เจต​กระบี่​ที่​ปลดปล่อย​ออกมา​กลับ​ตระหง่าน​หนักแน่น​ราว​ภูเขา​เทพ​หมื่น​กาล​ คล้าย​สามารถ​สยบ​จักรวาล​ฟ้าดิน​ได้​

กระบี่​ยอด​สยบ​เพลิง​ทอง​!

เงาร่าง​ใน​มุมมืด​ไกล​ออก​ไป​เหล่านั้น​เห็นภาพ​นี้​ ใน​ใจล้วน​มาดมั่น​ไม่น้อย​

นี่​เป็น​สิ่งที่​หลอม​รวม​ขึ้น​จาก​อภินิหาร​สูงสุด​ของ​เหล่า​อิน​ เป็นการ​สำแดง​พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เขา​ อานุภาพ​หนึ่ง​กระบี่​สามารถ​สยบ​โลก​ใหญ่​ใบ​หนึ่ง​ บดขยี้​สุริยัน​จันทรา​ฟ้าดารา​ได้​!

จุด​นี้​เห็น​ได้​ว่า​เหล่า​อิน​มอง​อีก​ฝ่าย​เป็น​ ‘มังกร​แกร่ง​ข้าม​ธาร​’ แล้ว​ ไม่ได้​ประมาทเลินเล่อ​แต่อย่างใด​

“ไป​!”

ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​นัยน์ตา​ดุจ​สายฟ้า​เย็นเยียบ​ โบก​แขน​เสื้อ​ครา​หนึ่ง​

ฟ้าดิน​ปั่นป่วน​ กระบี่​มรรค​สีทอง​อร่าม​นั่น​พุ่ง​ขวาง​กลางอากาศ​ออก​ไป​

สวบ​!

เจต​กระบี่​ไพศาล​ประหนึ่ง​เปลวเพลิง​สีทอง​แผดเผา​เก้า​ชั้น​ฟ้า

กระบี่​เช่นนี้​ใน​ขั้น​สรร​สร้าง​เรียก​ได้​ว่า​เป็นการ​โจมตี​ชั้นยอด​ แข็งแกร่ง​เป็นเลิศ​

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​ยืน​นิ่ง​อยู่​ที่​เดิม​ เพียง​ยื่นมือ​ออก​ไป​ตบ​กลางอากาศ​ครา​หนึ่ง​

ก็​ได้ยิน​…

ปึง​!

เสียง​ระเบิด​ทึบ​หนัก​สาย​หนึ่ง​ดัง​กึกก้อง​ เปลวเพลิง​สีทอง​ท่วม​ฟ้าแหลก​สลาย​โครมคราม​ แผ่​กระจาย​ออก​ไป​

กระบี่​มรรค​สีทอง​ของ​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​คน​นั้น​ถึงกับ​ถูก​ฝ่ามือ​เดียว​ตบ​แตก​ง่ายๆ​!

“นี่​…”

เหล่า​คนใน​มุมมืด​นัยน์ตา​หด​รัด​ สภาวะ​จิต​พบ​เจอ​การ​โจมตี​ครั้ง​ใหญ่​ยิ่ง​

และ​พร้อมกัน​นั้น​เงาร่าง​หลิน​สวิน​หาย​ไป​จาก​จุด​เดิม​กลางอากาศ​

หนึ่ง​กระบี่​ที่​แกร่ง​ที่สุด​ถูก​ฝ่ามือ​เดียว​ตบ​ทำลาย​เช่นนั้น​ ทำให้​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​ที่​เดิม​ก็​สะท้าน​สะเทือน​อยู่แล้ว​ ยาม​เมื่อ​ตระหนัก​ได้​ว่า​หลิน​สวิน​โจมตี​เข้ามา​ มีหรือ​เขา​ยัง​จะกล้า​โอ้เอ้​ รีบ​ใช้วิชา​ก้น​กรุ​ออกมา​ทันที​

“ไป​!”

เกราะ​ศึก​สีแดง​ทึบ​ที่​ปกคลุม​บน​ร่าง​สูงใหญ่​พลัน​สาด​แสงมรรค​สะดุดตา​ สัญลักษณ์​อัคคี​เร้นลับ​คลุมเครือ​มากมาย​กำลัง​ผสาน​ควบ​รวม​กลางอากาศ​ กลายเป็น​ประทับ​ผนึก​ป้องกัน​สามสิบ​หก​ชั้น​ พลัง​กฎเกณฑ์​ที่​บรรจุ​ภายใน​กร้าว​แกร่ง​ถึงขีดสุด​

แทบจะ​ในเวลาเดียวกัน​ หลิน​สวิน​ฟัน​หนึ่ง​ฝ่ามือ​ลง​จาก​ฟากฟ้า​แล้ว​ ประหนึ่ง​เทพ​ศักดิ์สิทธิ์​บน​สวรรค์​ทุบ​ค้อน​กระแทก​ใส่โลก​มนุษย์​

ปึง​ๆๆ!

เสียง​ปะทะ​ก้อง​กระหึ่ม​ดัง​กึกก้อง​ต่อเนื่อง​ สามารถ​มอง​เห็นด้วย​ตาเปล่า​ว่า​ภายใต้​หมัด​นี้​ของ​หลิน​สวิน​ ประทับ​ผนึก​ป้องกัน​เป็นชั้นๆ​ นั่น​แตก​ระเบิด​ประหนึ่ง​กระจก​แก้ว​เปราะบาง​เป็นชั้นๆ​ ปลิว​กระเด็น​ออก​เป็น​ละออง​แสงระเบียบ​ประดุจ​เกลียวคลื่น​

สุดท้าย​พร้อมกับ​เสียง​กระหึ่ม​จน​ฟ้าดิน​สะเทือน​ไหว​สาย​หนึ่ง​ ร่าง​กำยำ​ดุจ​ภูเขา​ของ​ชาย​บ​เกราะ​แดง​ถูก​หนึ่ง​หมัด​ซัด​กระเด็น​ออก​ไป​ตรงๆ​ สุดท้าย​ร่วง​ลง​บน​พื้น​กว้างไกล​ออก​ไป​พัน​จั้งพร้อมกับ​เสียง​โครมคราม​ ฝุ่น​ควัน​คลุ้ง​ฟ้า

“เหล่า​อิน​!”

“เหตุใด​ถึง…”

“แข็งแกร่ง​ยิ่ง​!”

…เสียงร้อง​อุทาน​ระลอก​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ ใน​ฟ้าดิน​มืดมิด​ทั่ว​สี่ทิศ​แปด​ทาง​มีเงาร่าง​พุ่ง​ออก​มาสาย​แล้ว​สาย​เล่า​ เข้า​ไปหา​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​นั่น​ในทันที​

“ข้า​แพ้​แล้ว​…”

ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​ตะกาย​ขึ้น​จาก​พื้น​ สีหน้า​ยังคง​หลงเหลือ​แวว​แตกตื่น​หวาดผวา​อยู่​ เสียง​ก็​เจือ​แวว​ท้อแท้​และ​ขมขื่น​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​ เงาร่าง​เหล่านี้​ก็​พา​กัน​ถอนหายใจ​โล่งอก​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​

จากนั้น​สายตา​ของ​พวกเขา​มอง​ไป​ทาง​หลิน​สวิน​ที่อยู่​ไกลๆ​ สีหน้า​ล้วน​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ เจือ​แวว​กริ่งเกรง​ขึ้น​มา

ชายหนุ่ม​แปลกหน้า​คน​นี้​เป็น​มังกร​แกร่ง​ข้าม​ธาร​ที่​กร้าว​แกร่ง​ยิ่งยวด​จริงๆ​!

ใน​หมู่​พวกเขา​ พลัง​ต่อสู้​ของ​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​เป่น​อันดับ​ต้น​ๆ ทว่า​กลับ​ต้าน​การ​โจมตี​เดียว​ไม่อยู่​ แค่​คิด​ก็​รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​แข็งแกร่ง​แค่​ไหน​

และ​ในเวลาเดียวกัน​หลิน​สวิน​ก็​มอง​เงาร่าง​สามสาย​ที่​ปรากฏตัว​ใน​ที่​นั้น​ได้​ชัดเจน​แล้ว​ เป็น​ชาย​สอง​หญิง​หนึ่ง​

คน​หนึ่ง​คือ​ชาย​ที่​นั่งขัดสมาธิ​บน​เขา​เล็ก​ก่อนหน้านี้​ สวม​ชุด​ขาว​ ศีรษะ​สวม​เกี้ยว​ประดับ​สูง หน้าตา​หล่อเหลา​ดุจ​เด็กหนุ่ม​

อีก​คน​เป็น​ชาย​ชรา​แก่​หง่อม​ แผ่น​หลัง​โค้ง​ค่อม​ผอมแห้ง​ สะพาย​กล่อง​กระบี่​สีดำ​ขนาดใหญ่​ใบ​หนึ่ง​

ส่วน​อีก​คน​เป็น​หญิง​สวม​ชุด​ดำ​ เรือน​กาย​อรชรอ้อนแอ้น​ ใบหน้า​งามเกลี้ยงเกลา​ขาว​เนียน​

สามคน​นี้​ล้วน​มีปราณ​ขั้น​สรร​สร้าง​สัมบูรณ์​เหมือนกับ​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​คน​นั้น​

หาก​อยู่​ใน​โลก​ยอด​นิรันดร์​ตอนนี้​ ย่อม​ไม่มีทาง​เจอ​ยอด​บุคคล​เช่นนี้​ได้​อย่าง​แน่นอน​

ต่อให้​อยู่​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ก็​มีเพียง​ขุม​อำนาจ​เผ่า​เทพ​สิบ​อันดับ​แรก​เท่านั้น​จึงจะมีบุคคล​ระดับ​นี้​ดูแล​อยู่​ หนำซ้ำ​ยัง​ถูก​หลิน​สวิน​จัดการ​เรียบ​ตั้งแต่แรก​อีกด้วย​

และ​ตอนนี้​เพิ่ง​มาถึงเขต​ผนึก​ทะเล​โชคชะตา​ก็​เจอ​ยอด​บุคคล​เช่นนี้​ถึงสี่คน​แล้ว​ ทำให้​ใน​ใจหลิน​สวิน​อด​เสียววาบ​ไม่ได้​เช่นกัน​

แน่นอน​ เขา​คาดเดา​ล่วงหน้า​ถึงสถานการณ์​เช่นนี้​ไว้​ก่อน​แล้ว​

อย่างไร​ที่นี่​ก็​คือ​ทะเล​โชคชะตา​ ไม่กี่​ปี​มานี้​ไม่ว่า​จะเป็น​สิบสอง​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ หรือ​เฒ่าดึกดำบรรพ์​จาก​สี่หอ​บรรพ​จารย์​ ล้วน​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​เพื่อ​ช่วงชิง​โอกาส​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​

ภายใต้​สถานการณ์​ระดับ​นี้​ ทำให้​ทะเล​โชคชะตา​กลายเป็น​พื้นที่​อันตราย​ซึ่งระดับ​นิรันดร์​ต่อสู้​กัน​แล้ว​!

“สหาย​ยุทธ์​พลัง​ต่อสู้​กร้าว​แกร่ง​ ก่อนหน้านี้​เป็น​พวกเรา​ล่วงเกิน​แล้ว​”

ไกล​ออก​ไป​ หญิง​ชุด​ดำ​ประสาน​หมัด​ “ตอนนี้​สหาย​ยุทธ์​จากไป​ได้​แล้ว​ พวกเรา​จะไม่ขัดขวาง​สหาย​ยุทธ์​อีก​”

และ​พร้อมกัน​นั้น​ชาย​ร่าง​สูงใหญ่​โบกมือ​ สลาย​พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ที่​แผ่​ครอบ​ฟ้าดิน​แถบ​นี้​ออก​

แต่​หลิน​สวิน​กลับ​ไม่คิด​จากไป​ กล่าวว่า​ “ใน​เมื่อ​ทุกท่าน​ยอมแพ้​แล้ว​ เช่นนั้น​ตอนนี้​พวกเรา​พอ​จะพูดคุย​กัน​ดี​ๆ ได้​แล้ว​หรือไม่​”

ใน​ใจเขา​มีข้อง​สงสัย​มากมาย​ แทนที่จะ​บุ่มบ่าม​ไป​สืบ​ข่าว​ด้วยตัวเอง​ ไม่สู้อาศัย​ตอนนี้​สืบ​ข้อมูล​ที่​อยากรู้​จาก​ปาก​อีก​ฝ่าย​

หญิง​ชุด​ดำ​และ​คนอื่นๆ​ สบตา​กัน​ปราด​หนึ่ง​ ไม่ได้​ปฏิเสธ​ใดๆ​ อีก​

“สหาย​ยุทธ์​ ขอ​กล่าว​โดย​ไม่ปิดบัง​ หลาย​ปี​มานี้​พวกเรา​สี่คน​ได้​แต่​เคลื่อนไหว​อยู่​รอบนอก​แดน​ผนึก​นี้​ ถึงจะรู้เรื่องราว​ไม่น้อย​แต่​ก็​เป็น​เพียง​ส่วนหนึ่ง​เท่านั้น​”

หญิง​ชุด​ดำ​เอ่ย​เสียง​เบา​

“ไม่เป็นไร​” หลิน​สวิน​กล่าว​ “ข้า​ขอ​แค่​เข้าใจ​สถานการณ์​โดยรวม​ของ​ทะเล​โชคชะตา​นี่​ก็​พอ​”

หญิง​ชุด​ดำ​หยิบ​ม้วน​หยก​ม้วน​หนึ่ง​ออกมา​แล้ว​ยื่น​ให้​หลิน​สวิน​ผ่าน​อากาศ​ “สิ่งที่​บันทึก​ใน​ม้วน​หยก​นี้​ สหาย​ยุทธ์​ลอง​ดูก่อน​ก็แล้วกัน​”

หลิน​สวิน​ถือ​ม้วน​หยก​ใน​มือ​แล้ว​เริ่ม​เปิด​อ่าน​

ทะเล​โชคชะตา​ แปลง​มาจาก​พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​

ทุก​ครั้งก่อน​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​ ทะเล​โชคชะตา​จะปรากฏ​ใน​แดน​ผนึก​ไร้​นาม​แห่ง​นี้​

และ​มีเพียง​ช่วงนี้​เท่านั้น​ที่​ ระดับ​นิรันดร์​ถึงจะมีโอกาส​ช่วงชิง​โอกาส​การ​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ใน​ที่​แห่ง​นี้​ได้​

ฟ้าดิน​ที่​แผ่​ครอบ​ทะเล​โชคชะตา​กว้างใหญ่​ไพศาล​สุดขีด​

ใน​ยุคสมัย​ก่อนหน้านี้​ก็​มีผู้​แข็งแกร่ง​ที่​เหยียบย่าง​ระดับ​นิรันดร์​จำนวนมาก​มารวมตัวกัน​อยู่​ที่นี่​

และ​สิ่งที่​วิเศษ​อัศจรรย์​อย่างยิ่ง​คือ​ ระดับ​นิรันดร์​แต่ละ​ยุคสมัย​ หลังจาก​มาถึงทะเล​โชคชะตา​ พื้นที่​ที่​เข้าไป​ล้วน​แตก​ต่างกัน​

เหมือน​อย่าง​โลก​แถบ​นี้​ที่​พวก​หลิน​สวิน​อยู่​ใน​ตอนนี้​ ก็​เป็น​พื้นที่​ที่​ถือกำเนิด​ใหม่​ใน​ยุค​สมัยนี้​ ไม่ว่า​ระดับ​นิรันดร์​ใน​ยุค​สมัยนี้​คนใด​ก็ตาม​มุ่งหน้า​มา ล้วน​จะถูก​ย้าย​มาอยู่​ใน​โลก​นี้​ทั้งสิ้น​

เพราะฉะนั้น​พื้นที่​นี้​จึงถูก​ข​นาม​นาม​อีก​อย่างว่า​ ‘โลก​วิญญาณ​ยุทธ์​’

และ​จาก​ที่​บันทึก​ใน​ม้วน​หยก​

ใน​ทะเล​โชคชะตา​แห่ง​นี้​ยัง​แบ่ง​ออก​เป็น​โลก​อื่นๆ​ อีก​มากมาย​ โลก​เหล่านั้น​ล้วน​ถือกำเนิด​ใน​ยุคสมัย​ก่อนหน้า​

หาก​เปรียบ​แดน​ผนึก​ไร้​นาม​เป็น​บัว​ดอก​หนึ่ง​ เช่นนั้น​โลก​ที่​ถือกำเนิด​ใน​แต่ละ​ยุคสมัย​นั่น​ก็​เหมือน​กลีบดอก​เป็นชั้นๆ​

และ​ทะเล​โชคชะตา​นั่น​ก็​พาด​ขวาง​อยู่​บน​บัว​ดอก​นี้​

นี่​ก็​คือ​โครงสร้าง​ทั้ง​แดน​ผนึก​ไร้​นาม​

และ​ใน​โลก​วิญญาณ​ยุทธ์​ตอนนี้​ แบ่ง​ออก​เป็น​พื้นที่​แกนกลาง​และ​พื้นที่​รอบนอก​

พื้นที่​แกนกลาง​คือ​บริเวณ​ที่อยู่​ใกล้​ทะเล​โชคชะตา​ที่สุด​ ฉะนั้น​ใน​พื้นที่​แกนกลาง​จึงมีความหวัง​ใน​การช่วงชิง​โอกาส​การ​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ได้​มาก​ที่สุด​เช่นกัน​

พื้นที่​แกนกลาง​ใน​ตอนนี้​ถูก​ขุม​อำนาจ​ใหญ่​ต่างๆ​ ยึดครอง​และ​ควบคุม​ไว้​นาน​แล้ว​

อย่างเช่น​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​ สี่หอ​บรรพ​จารย์​

ส่วน​พื้นที่​รอบนอก​ ที่​กระจาย​อยู่​ล้วน​เป็น​พวก​ที่​ไม่ว่า​จะเป็น​รากฐาน​พลัง​หรือ​พลัง​ต่อสู้​ล้วน​เทียบ​กับ​คนใน​ขุม​อำนาจ​ใหญ่​เหล่านั้น​ไม่ติด​

เหมือน​อย่าง​พวก​หญิง​ชุด​ดำ​สี่คน​ ก็​ทำได้​เพียง​เคลื่อนไหว​อยู่​ใน​พื้นที่​รอบนอก​ของ​โลก​วิญญาณ​ยุทธ์​เท่านั้น​

ขณะเดียวกัน​ใน​ม้วน​หยก​ยังมี​บันทึก​เรื่อง​อื่นๆ​ บางส่วน​ด้วย​

อย่าง​ใน​พื้นที่​แกนกลาง​ยัง​ถูก​ข​นาม​นาม​อีก​ชื่อว่า​เป็นแดน​แห่ง​ ‘ต้นกำเนิด​หมื่น​มรรค​’ ของ​โลก​วิญญาณ​ยุทธ์​ หาก​ระดับ​นิรันดร์​ฝึก​ปราณ​อยู่​ใน​นั้น​ย่อม​สามารถ​ได้​รับประโยชน์​ที่​ไม่อาจ​ประเมิน​ได้​

เหมือน​ทุกๆ​ ช่วงเวลา​ ทะเล​โชคชะตา​ก็​จะเกิด​การเคลื่อนไหว​แปลก​ๆ ครั้งหนึ่ง​ ประหนึ่ง​กระแส​น้ำหลาก​ เมื่อนั้น​จะปรากฏ​ ‘บัว​ชะตามหา​มรรค​’ ขึ้น​มาดอก​หนึ่ง​

และ​โอกาส​การ​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​นั่น​ก็​ซุกซ่อน​อยู่​ใน​บัว​ชะตามหา​มรรค​!

บัว​ชะตามหา​มรรค​แต่ละ​ดอก​ สุดท้าย​ก็​จุระดับ​นิรันดร์​ได้​เพียง​สามคน​เท่านั้น​ พา​พวกเขา​ลัดเลาะ​ทะเล​โชคชะตา​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​บริเวณ​ที่​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​นั่น​ตั้งอยู่​

สามารถ​จินตนาการ​ได้​ว่า​ยาม​เมื่อ​โอกาส​เช่นนี้​ปรากฏ​ ต้อง​ชักนำ​ลม​คาว​ฝน​เลือด​อัน​น่ากลัว​ขึ้น​ครั้งหนึ่ง​อย่าง​แน่นอน​!

และ​จาก​บันทึก​ใน​ม้วน​หยก​

จนถึง​ตอนนี้​ทะเล​โชคชะตา​เคย​เกิด​การเคลื่อนไหว​ประหลาด​นี้​สามครั้ง​แล้ว​ บัว​ชะตามหา​มรรค​อุบัติ​ออกมา​สามดอก​

แต่​น่าเสียดาย​ โอกาส​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​สามครั้งนี้​ล้วน​ถูก​พวก​น่า​สะพรึง​จาก​ยุค​อื่น​ช่วงชิง​ไป​ ทั้งโลก​วิญญาณ​ยุทธ์​ไม่มีใคร​ชิงโอกาส​นี้​ได้​สำเร็จ​เลย​สัก​คน​

เมื่อ​รู้เรื่อง​เหล่านี้​แล้ว​ คราวนี้​หลิน​สวิน​ถึงเริ่ม​เข้าใจ​ขึ้น​มาบ้าง​แล้ว​

และ​เพิ่งจะ​รู้​ในที่สุด​ ว่า​ที่แท้​โอกาส​การ​ไป​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​นั่น​ ถึงกับ​ซุกซ่อน​อยู่​ใน​บัว​ชะตามหา​มรรค​ที่​ถือกำเนิด​ใน​ทะเล​โชคชะตา​!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท