ตูม!
รอบหุบเขาถล่มเป็นเศษซาก พื้นดินล้วนถูกพลิกเลิก พลังผนึกโหมกระหน่ำพรั่งพรู ปลดปล่อยอานุภาพราวทลายฟ้ามลายดิน
“พลังผนึกแข็งแกร่งยิ่ง!”
ผู้ที่ออกเคลื่อนไหวพร้อมเหวินไจ้ครั้งนี้ ยังมีขั้นไร้ขอบเขตเล็กห้าคนและผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างยี่สิบคน เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายพังทลายนี้ ทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี
เวลานี้เองเงาร่างสูงโปร่งสายหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศ รอบกายล้วนถูกแสงมรรคเจิดจ้าปกคลุม ราวกับเทพองค์หนึ่งมาเยือนโลก
คนผู้นี้ย่อมเป็นหลินสวิน
เมื่อเห็นพวกเหวินไจ้ เขาพลันทอดถอนใจ
เพิ่งผ่านมาสามวันก็ถูกศัตรูมาหาถึงที่ นี่เหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง ทั้งทำให้เขารู้ว่าต่อให้วางแผนและร่างโครงรอบคอบแค่ไหนก็มีโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝัน
“ทำไมเป็นแค่ขั้นสรรสร้างคนหนึ่ง…”
เหวินไจ้รู้สึกผิดคาด
ในการคาดเดาของเขา คนที่ทำลายฐานที่มั่นเผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูลอย่างตระกูลเย่ ตระกูลเจวี๋ย ตระกูลหยวน ทั้งสังหารคนเย้ยฟ้าอย่างเจวี๋ยอู๋เทียนครั้งนี้ เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่หลายคนลงมือพร้อมกัน!
แต่ใครจะคิดว่าสถานการณ์กลับเหมือนมีบางอย่างผิดแปลกไป…
“ผู้อาวุโสเหวินไจ้ คนผู้นี้คือหลินสวิน! เศษเดนคีรีดวงกมลนั่น!!”
มีคนร้องโพล่งออกมาด้วยความยินดีทันที
“อะไรนะ เป็นเขาจริงหรือ”
“เจ้าเดรัจฉานน้อยนี่มาถึงโลกวิญญาณยุทธ์แล้วหรือ”
“ฮ่าๆๆ ครั้งนี้สวรรค์ช่วยพวกเราจริงๆ!”
คนอื่นล้วนฮือฮา เผยสีหน้ายินดี นัยน์ตาแต่ละคนที่มองหลินสวินล้วนเจือความตื่นเต้นยากปกปิด ราวกับเจอเหยื่อที่เฝ้านึกถึงมานานตัวหนึ่ง
หลินสวิน!
หากกล่าวถึงคนที่ขุมอำนาจใหญ่อย่างพวกเขาแค้นที่สุดในช่วงหลายปีนี้ แน่นอนว่าเป็นหลินสวิน!
สิบกว่าปีก่อนเมื่อรู้ข่าวว่าหลินสวินคนเดียวกวาดล้างเผ่าเทพนิรันดร์แทบทุกตระกูลในน่านฟ้าที่เก้า ทำให้ลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌานเสียหายหนัก เฒ่าชราอย่างพวกเขาล้วนโกรธจนตัวสั่น เกือบจะคลุ้มคลั่ง
หากไม่ใช่ว่าไม่อาจออกไปจากโลกวิญญาณยุทธ์นี้ พวกเขาคงบุกไปโลกยอดนิรันดร์นานแล้ว
แม้แต่เหวินไจ้ยังอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยสีหน้ายินดีอย่างอดไม่อยู่
นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกผิดคาดเกินไปจริงๆ ใครจะคิดว่าพวกเขากลับจับพลัดจับผลูจับปลาใหญ่ตัวหนึ่งได้
“หึๆ ฮ่าๆๆๆๆ…”
เหวินไจ้หัวเราะขึ้นมา ยิ่งหัวเราะยิ่งดีใจ ยิ่งหัวเราะในใจยิ่งฮึกเหิม เขาไม่เคยดีใจเหมือนเวลานี้มานานมากแล้ว
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นถูกปิดล้อม ทั้งได้ยินเสียงหัวเราะน่ากลัวพวกนี้ เกรงว่าคงขนพองสยองเกล้า ตื่นตระหนกสิ้นหวังนานแล้ว
แต่หลินสวินกลับยิ้มพลางกล่าว “ตอนนี้ทุกท่านคิดว่ากำชัยไว้แล้วหรือ”
“สังหารเดรัจฉานน้อยอย่างเจ้าไม่ใช่ว่าง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือรึ”
ชายชราชุดเพลิงผมดำคนหนึ่งตวาดลั่น เงื้อมือฟาดผ่านอากาศไปทางหลินสวินทันที
นี่คือขั้นไร้ขอบเขตเล็กคนหนึ่งชื่อว่าชางโย่วจือ หลายปีก่อนเขาเฝ้าอยู่ใกล้ภูเขาเทพใบบัวร่วมกับหยวนจงฉี่ หยางเหิง ไท่เฮ่าจวี้มาตลอด
แต่ตอนนี้เขาลงมือโดยตรงแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าเขาอยากฆ่าหลินสวินจนทนไม่ไหวมากขนาดไหน
ตูม!
แสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ควบรวมเป็นประทับฝ่ามือราวกับบังฟ้าคลุมตะวัน คลื่นพลังกฎเกณฑ์ที่รวมตัวกันบีบกดห้วงอากาศจนทรุดตัว เกิดเสียงระเบิดดังเสียดหู
ฝ่ามือนี้เรียกว่าดุดันหาใดเปรียบ สำแดงพลังของขั้นไร้ขอบเขตเล็กออกมาอย่างหมดจด
กลับเห็นมุมปากหลินสวินยกยิ้มเย็นชา “ไม่เจียมตัว!”
ตูม!
‘ผนึกตัดเทพ’ ที่ปกคลุมอยู่ใต้หุบเขาดังเลื่อนลั่น แสงมรรคนับหมื่นแสนพวยพุ่ง ถึงกับขวางประทับฝ่ามือปรกฟ้าสีม่วงนี้ไว้ได้
เงาร่างของหลินสวินเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศไปนานแล้ว ราวกับอสนีบาตสายหนึ่งแหวกผ่านฟากฟ้า พุ่งโจมตีไปทางชางโย่วจือ
“เหอะ บอกว่าข้าไม่เจียมตัว เดรัจฉานน้อยอย่างเจ้าต่างอะไรกับมดเขย่าต้นไม้”
ชางโย่วจือกล่าวหยามเหยียด
นัยน์ตาเขาฉายแววเยียบเย็นน่าพรั่นพรึง แขนเสื้อพลิกตลบ ซัดฝ่ามือไปทางหลินสวินที่พุ่งเข้ามา
สำหรับขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างเขา ขั้นสรรสร้างคนหนึ่งถือว่าไม่เอาไหนจริงๆ!
“หลบเร็ว!”
แต่ยามนี้ในที่นั้นกลับมีเสียงเตือนของเหวินไจ้ดังขึ้น
ทว่าเตือนช้าไปก้าวหนึ่ง ไม่รอให้ชางโย่วจือตอบสนอง หลินสวินกำหมัดซัดมาแล้ว
ตูม!
พลังหมัดเจิดจรัสหาใดเปรียบพุ่งออกมา เหมือนทรงพลังเกินต้านทาน ไร้สรรพสิ่งทลายลงได้ ทะลวงฝ่ามือที่ชางโย่วจือซัดออกมาโดยตรง
เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามือขวาและแขนขวาทั้งแขนของชางโย่วจือระเบิดออกเหมือนกระดาษเปื่อย เลือดสีสดสาดกระเซ็น พลังหมัดน่ากลัวนั้นคลั่งระห่ำ ทลายพลังป้องกันและสมบัติบนตัวชางโย่วจือจนหมด เกิดเสียงระเบิดทึบหนักติดต่อกันเหมือนตีกลอง
ในฐานะขั้นไร้ขอบเขตเล็ก ปฏิกิริยาตอบสนองของชางโย่วจือไม่อาจพูดได้ว่าเชื่องช้า ภายใต้สถานการณ์ที่บาดเจ็บสาหัส เขาทิ้งการต้านทานอย่างเด็ดขาด ส่งเสียงตวาดลั่นและหลบหลีกเต็มกำลัง
แต่ที่ทำให้เขาสิ้นหวังคือสิ่งที่มาพร้อมกับหมัดของหลินสวินยังมีเจตกระบี่เวิ้งว้างดุจห้วงสมุทร ปกคลุมลงมาจากทั่วสารทิศก่อนแล้ว
‘นี่ใช่พลังที่ขั้นสรรสร้างครอบครองได้หรือ’
ในหัวชางโย่วจือมีความคิดเช่นนี้วาบผ่านเข้ามา เจือความตระหนก ไม่ยินยอม มึนงงสุดขีด
จากนั้นเจตกระบี่ขาวโพลนฝังกลบทั้งตัวเขา การรับรู้ทุกอย่างล้วนหายไป
และในสายตาคนอื่น…
พลันเห็นหลินสวินพุ่งตัวออกมา แค่พลังหมัดเดียวก็กำราบขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างชางโย่วจือได้ ท่าทางกร้าวแกร่งราวกับหักทำลายไม้ผุนั่นทำให้ทุกคนตื่นตระหนก
ก่อนหน้านี้พวกเขายังยินดีปรีดาเพราะมองฐานะของหลินสวินออก บนสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มเหล่านั้นล้วนแข็งทื่อในยามนี้ หัวใจกระตุกวูบอย่างหนักหน่วง
เป็นไปได้อย่างไร!?
ขั้นสรรสร้างเย้ยฟ้าถึงขั้นกำราบขั้นไร้ขอบเขตเล็กในหมัดเดียวได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เรื่องนี้ล้มล้างความเข้าใจของทุกคน!
“ตอนนี้ทำไมทุกท่านถึงไม่หัวเราะแล้วเล่า”
หลินสวินยืนอยู่จุดเดิม กวาดมองทุกคนโดยรอบด้วยแววตาราบเรียบ
สีหน้าทุกคนปรวนแปรไม่หยุด ล้วนไม่น่าดูนัก
หมัดของหลินสวินเหมือนอสนีบาต ทำให้พวกเขาตื่นจากความยินดีปรีดา
“มิน่าปีนั้นยามอยู่ขั้นล่วงกฎถึงกวาดล้างน่านฟ้าที่เก้าได้ คนเย้ยฟ้าอย่างเจ้าไม่อาจใช้ความเข้าใจทั่วไปมาประเมินได้จริงๆ”
ห่างออกไปเหวินไจ้กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “หากข้าเดาไม่ผิด คนที่บุกฐานที่มั่นตระกูลเย่ ตระกูลเจวี๋ย ตระกูลหยวนก่อนหน้านี้ก็คือเจ้ากระมัง”
ทุกคนนัยน์ตาหดรัดลง ก่อนหน้านี้มัวแต่ดีใจ พวกเขาจึงไม่ได้เชื่อมโยงว่าขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่บุกฐานที่มั่นเผ่าเทพนิรันดร์ทั้งสามตระกูล
หลินสวินแค่ตัวคนเดียว ทั้งมีมรรควิถีเพียงขั้นสรรสร้าง มีหรือจะทำถึงขั้นนั้นได้
แต่ตอนนี้หลังจากเห็นภาพขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างชางโย่วจือถูกสังหาร ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาพลาดตรงไหน
หลินสวินคนนี้เดิมทีก็ไม่ใช่ผู้ที่ใช้ความเข้าใจทั่วไปมาคาดคะเนได้!
ยามอยู่ขั้นล่วงกฎก็กวาดล้างน่านฟ้าที่เก้า
ตอนนี้เขามีพลังปราณขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์แล้ว!
ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น แค่ความเร็วในการเลื่อนขั้นนี้ก็เรียกว่าสะเทือนใต้หล้าแล้ว ทำให้เฒ่าชราที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่กาลเวลาอย่างพวกเขาอกสั่นขวัญแขวน
“หากข้าบอกว่าไม่ใช่เกรงว่าพวกเจ้าคงไม่เชื่อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะพูดมากอีกทำไม”
หลินสวินกล่าวเรียบๆ
ขณะกล่าวเขาเรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมา เงาร่างสูงโปร่งแผ่คลื่นอานุภาพชวนประหวั่น นัยน์ตาเยียบเย็นกวาดมองทั่วบริเวณ
“ตอนนี้ข้าอยากลองดูว่าพวกเจ้าจะขวางทางข้าได้หรือไม่!”
เสียงสะเทือนเก้าชั้นฟ้า หลินสวินบุกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญแล้ว กระโจนไปทางขั้นไร้ขอบเขตเล็กอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ
นี่เป็นชายสวมชุดศึกทองเทพสีดำนามว่าหยางเหิง มือถือทวนทองเล่มหนึ่ง เห็นภาพชางโย่วจือถูกฆ่าก่อนหน้านี้กับตาเขาย่อมระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นหลินสวินบุกเข้ามา เขาสะบัดทวนทองลงมือเต็มกำลัง
ตูม!
เงาทวนสีทองปรากฏทั่วฟ้า กลายเป็นเงามายาโลกเป็นชั้นๆ พลังกฎระเบียบเจิดจรัสสะท้านโลก อานุภาพทำลายล้างที่เกิดขึ้นแผ่กระจายราวกับมหาสมุทรกว้างใหญ่
ตึง!
แต่การโจมตีเช่นนี้กลับถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งซัดทลายโดยตรง ทวนทองนั้นถูกซัดจนส่งเสียงกระหึ่มเกือบกระเด็นหลุดจากมือ
ทั้งตัวหยางเหิงล้วนซวนเซถอยหลังออกไป เลือดลมตีกลับ
ไม่เหมือนชางโย่วจือก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้ประมาทแม้แต่น้อย ทันทีที่ลงมือก็สำแดงพลังเต็มกำลัง แต่ในการปะทะซึ่งหน้า ผู้ที่มีพลังปราณขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างเขากลับขวางการโจมตีของหลินสวินไม่ได้ นี่ทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสี รับรู้ถึงความน่ากลัวในพลังต่อสู้ของหลินสวิน
“กำเริบ!”
ห่างไปไม่ไกลเหวินไจ้สีหน้าเย็นชา ควบคุมกระบี่มรรคพุ่งเข้ามา
ตูม!
อสนีสีเงินเหมือนใยแมงมุมปรากฏทั่วฟ้า เบียดเสียดแน่นขนัด หนาราวแขนเด็ก ล้วนควบรวมจากพลังกฎระเบียบ สามารถทำให้ขั้นไร้ขอบเขตเล็กขวัญหนีดีฝ่อ
และกลางอสนีสีเงินป่วนคลั่งนี้ กระบี่มรรคของเหวินไจ้แทงเข้ามา ความเร็วว่องไว พลังสังหารยิ่งน่ากลัว ราวกับคมประกายที่แทงทะลวงนิรันดร์กาล
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
ขณะเดียวกันขั้นไร้ขอบเขตเล็กอีกสามคนก็ลงมือพร้อมกัน คือไท่เฮ่าจวี้ หยวนจงฉี่ ผานอู่ซิว
ต่างคนต่างใช้ศาสตรามรรค สำแดงยอดอภินิหาร!
ขั้นสรรสร้างพวกนั้นก็ร่วมมือกันตั้งกระบวนรบกระจายอยู่ห่างออกไป ปิดทางหนีรอบทิศ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้เป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ติดอยู่ในนั้นก็หนีไม่รอด
หลินสวินไม่ได้คิดหลบหนี
ทั้งยังคงพุ่งเข้าใส่หยางเหิง
ตูม!
เมื่อเหวินไจ้สะบัดกระบี่มรรคบุกมา กายมรรคทั้งสองอย่างไม้เขียวกับทองขาวพุ่งออกไปพร้อมกัน สกัดการโจมตีของเหวินไจ้ได้อย่างแข็งกร้าว
ในเวลาเดียวกันสามกายมรรคอย่างวารีดำ เพลิงแดง ดินเหลืองบุกโจมตีออกไปพร้อมกัน ต่างคนต่างต้านการโจมตีของขั้นไร้ขอบเขตเล็กสามคนอย่างไท่เฮ่าจวี้ หยวนจงฉี่ ผานอู่ซิวไว้
ตูม…
ศึกใหญ่ดุเดือดปะทุขึ้นแล้ว หลินสวินกับห้ากายมรรคของเขาสู้กับเหล่าขั้นไร้ขอบเขต ภาพนั้นทำให้ขั้นสรรสร้างที่อยู่ห่างไกลเหล่านั้นเห็นแล้วตกตะลึงตาค้างไปพักหนึ่ง
ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ!?
“บัดซบ!”
สีหน้าเหวินไจ้ที่ถูกกายมรรคไม้เขียวกับทองขาวร่วมมือสกัดเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมา ด้วยมรรควิถีและพลังของเขาถึงกับไม่อาจทำลายการร่วมกันระหว่างร่างแยกทั้งสองของหลินสวินได้ทันที!
เมื่อมองขั้นไร้ขอบเขตเล็กสามคนอย่างไท่เฮ่าจวี้ หยวนจงฉี่ ผานอู่ซิว แต่ละคนต่างตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการห้ำหั่น สถานการณ์อันตราย ล้วนถูกกายมรรคทั้งสามของหลินสวินกดข่ม!
ภาพนี้ทำให้เหวินไจ้พลันขนพองสยองเกล้า
แค่ร่างแยกมหามรรคเท่านั้น แต่ละคนกลับมีพลังไม่ด้อยไปกว่าร่างต้น นี่ทำให้เหวินไจ้นึกถึงเจวี๋ยอู๋เทียนที่ถูกหลินสวินสังหารขึ้นมา
คนเย้ยฟ้าที่ทัดเทียมขั้นไร้ขอบเขตใหญ่เช่นนั้น เกรงว่าคงถูกหลินสวินและร่างแยกของเขาปิดล้อมสังหารพร้อมกันแน่!
นี่หมายความว่าพลังต่อสู้ที่หลินสวินมีตอนนี้สามารถฆ่าขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างเขาได้โดยไม่ต้องสงสัย!
เหวินไจ้เพิ่งนึกถึงตรงนี้ ก็เห็น…
ตูม!
หยางเหิงที่ถูกร่างต้นหลินสวินโจมตีตลอด ร่างกายถูกหมัดหลินสวินซัดระเบิดอย่างแข็งกร้าว เลือดสีสดสาดพรมทั่วฟ้าเหมือนน้ำตก แดงก่ำชวนขนลุก