ตอนที่ 3084 จู่โจมต่อเนื่อง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3084 จู่โจมต่อเนื่อง

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ภูผาธาราดับสลาย

นี่คือการต่อสู้ชั้นยอดบนมรรคานิรันดร์

ในการต่อสู้ เหวินไจ้ ซินอิ้ง สิงเทียนหยวนล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ที่อยู่บนระดับขั้นสูงสุดของมรรคานิรันดร์ มีอานุภาพเหยียดหยันสรรพชีวิตทั่วหล้า

บุคคลอย่างพวกเขาท่องยุคสมัยมามากมาย ยิ้มมองคลื่นลมทั่วหล้า ทำให้จักรวาลพลิกคว่ำได้ในหนึ่งห้วงคิด เก็บดาวคว้าจันทร์ สะบั้นโลกใหญ่ แทบไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

แต่ตอนนี้ยอดยักษ์ใหญ่อย่างพวกเขากลับถูกหลินสวินคนเดียวต้านทาน!

ทั้งปัจจุบันหลินสวินเพิ่งมีพลังปราณแค่ขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์ด้วย!

ไม่ว่าใครเห็นภาพนี้ก็คงยากจะเชื่อ ความเข้าใจถูกทำลาย

น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

เวลานี้แม้แต่ศัตรูขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างพวกไท่เฮ่าจวี้ ผานอู่ซิวก็ยังใจสั่นไม่หยุด

ต่อให้เคยเจอเรื่องพลิกฟ้าแค่ไหน ก็ไม่เคยเจอเรื่องเย้ยฟ้าเช่นนี้!

ส่วนขั้นสรรสร้างยี่สิบคนที่อยู่ห่างไปนั้นล้วนเสียอาการต่อเนื่อง เทียบกับหลินสวินที่อยู่ระดับขั้นเดียวกันแล้ว พวกเขาน่าละอายมากจริงๆ

ตูม…

ศึกใหญ่ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม กลางฟ้าดินถูกกระแสพลังเชี่ยวกรากโหมกระหน่ำอัดแน่น พลังกฎระเบียบนานัปการพุ่งปะทะ ราวกับโลกใหญ่มากมายชนกัน ก่อเกิดลักษณ์ประหลาดปานทำลายล้างนับไม่ถ้วน

เคราะห์ดีที่นี่เป็นโลกวิญญาณยุทธ์ พลังกฎระเบียบที่ปกคลุมมาจากต้นกำเนิดแหล่งสถานคุนหลุน สามารถแบกรับศึกใหญ่ของระดับนิรันดร์ได้

ถ้าอยู่ภายนอกไม่รู้ว่าจะมีโลกเท่าไรถูกซัดระเบิด ทั้งไม่รู้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเท่าไรตายเพราะเหตุนี้!

“ฆ่า!”

เวลานี้ยักษ์ใหญ่สามคนอย่างซินอิ้ง สิงเทียนหยวน เหวินไจ้ต่างโทสะเดือดพล่าน แต่ละคนใช้วิธีแข็งกล้าถึงขีดสุด

ด้วยฐานะและพลังของพวกเขากลับจัดการหลินสวินไม่ได้ในคราเดียว เดิมทีนี่ก็ไม่โสภานัก

ความเย้ยฟ้าด้านพลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยออกมาให้เห็นกลับทำให้พวกเขาเกิดไอสังหารแรงกล้า ไม่อาจทนเห็นหลินสวินรอดไปได้

คิดดูแล้วเขาเพิ่งอยู่ขั้นสรรสร้างเท่านั้น แต่สามารถต่อกรกับขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ได้ หากให้เขาแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตนั่นจะไม่ยิ่งแย่หรือ

ในการต่อสู้เช่นนี้ สถานการณ์ของหลินสวินกับร่างแยกมหามรรคก็ท่าไม่ดีอยู่บ้างแล้ว

หากสู้กับขั้นไร้ขอบเขตใหญ่คนเดียว ด้วยพลังของเขากับร่างแยกมหามรรคย่อมสังหารได้

แต่เมื่อปะทะกับสามคนก็ดูกินแรงขึ้นมา ด้อยกว่าอย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นซินอิ้ง สิงเทียนหยวน หรือเหวินไจ้ พลังต่อสู้ของทุกคนล้วนแข็งแกร่งกว่าเจวี๋ยอู๋เทียนอยู่บ้าง ไม่ด้อยไปกว่าอิงซานอิงยามทุ่มสุดตัวเท่าไร

ทุกอย่างนี้ทำให้หลินสวินกดดันอย่างมาก

กล่าวกันถึงที่สุดแล้วต่อให้พลังต่อสู้ของเขาเย้ยฟ้าแค่ไหน แต่สุดท้ายก็มีมรรควิถีแค่ขั้นสรรสร้าง แม้อาจสังหารขั้นไร้ขอบเขตเล็กได้โดยง่าย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่ก้าวสู่ระดับขั้นสูงสุดของมรรคานิรันดร์อย่างขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ก็เห็นช่องว่างมหึมาระหว่างขอบเขตชัดเจน

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้กลับยิ่งกระตุ้นศักยภาพแฝงและจิตต่อสู้ทั้งตัวหลินสวิน

ร่างกายตกอยู่ในการเคี่ยวกรำของสถานการณ์คับขัน การประลองบนเขตแดนเป็นตายถึงจะทำให้ศักยภาพแฝงและพลังต่อสู้ของคนผู้หนึ่งปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด

สำหรับหลินสวินนี่ก็คือการต่อสู้ที่กดดันมากที่สุด สถานการณ์อันตรายที่สุดตั้งแต่เขาแจ้งมรรคขั้นสรรสร้างมา

ทุกอย่างนี้ทำให้สารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณ ศักยภาพแฝงทั้งตัวเขาพลุ่งพล่านลุกโหม ถูกโคจรถึงที่สุด

พลันเห็น…

เงาร่างเขาเปล่งประกาย ดุจเหวดั่งนรก แม้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่ยิ่งสู้ยิ่งแกร่งกล้า ทำให้พวกซินอิ้งเอาชนะเขาไม่ได้ในเวลาอันสั้น!

ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้พวกซินอิ้งเดือดดาลและหวาดกลัว ไอสังหารยิ่งหนักแน่น พลังที่หลินสวินเผยออกมาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว

ตั้งแต่อดีตพวกเขาเพิ่งเคยเจอคนรุ่นเยาว์ที่รับมือได้ยากและเย้ยฟ้าเช่นนี้เป็นครั้งแรก ทำให้ความเข้าใจที่พวกเขามีมานานถูกล้มล้าง!

“ทำไม… ทำไมถึงแข็งแกร่งเช่นนี้…”

พวกไท่เฮ่าจวี้ ผานอู่ซิวยิ่งมองยิ่งหวั่นใจ

พวกเขามีชีวิตอยู่มากี่หมื่นปี เคยเจอปีศาจไร้เทียมทานมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่ที่แข็งแกร่งเหมือนหลินสวินกลับไม่มีสักคน

“หากไม่กำจัดเจ้าหมอนี่ สถานการณ์ในโลกวิญญาณยุทธ์นี้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่…”

หยวนจงฉี่พึมพำ

หลินสวินคนเดียวต้านขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ได้สามคน หากพวกเฒ่าชราบนภูเขาเทพใบบัวเข้ามาร่วมด้วย ผลที่ตามมานั้นก็ไม่อยากจะคิดจริงๆ

หืม?

เดี๋ยวก่อน!

ผู้อาวุโสซินอิ้งกับสิงเทียนหยวนเข้าร่วมการต่อสู้แล้ว ไม่ได้หมายความว่าบริเวณภูเขาเทพใบบัวไม่มีใครเฝ้าหรอกรึ

หยวนจงฉี่นึกถึงตรงนี้แล้วหนาวเยือกไปทั้งตัว หันกลับไปมองทันที

ก็เป็นเวลานี้เอง…

กระบี่บินแดงสดเล่มหนึ่งพุ่งวาบผ่านอากาศ พริบตาที่หยวนจงฉี่หันกลับไป ศีรษะเขาถูกตัดขาด แม้แต่ร่างกายและพลังจิตของเขายังถูกเจตกระบี่แดงสดงามตระการนั่นบดขยี้

ร่างสูงโปร่งของฟู่หนานหลีปรากฏแต่ไกล ท่วงท่าสง่างาม อานุภาพดุจสวรรค์

“แย่แล้ว!”

“หนีเร็ว!”

ผานอู่ซิวกับไท่เฮ่าจวี้ที่กำลังมองดูการต่อสู้ล้วนตกใจ หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เคลื่อนหลบเต็มกำลังทันที

ตูม!

แต่เงาร่างผานอู่ซิวเพิ่งไปได้ครึ่งทาง เจดีย์สมบัติที่ปกคลุมด้วยพายุสายฟ้าเจิดจรัสก็กำราบลงมา ซัดร่างเขากระจุยอย่างแข็งกร้าว พลังทำลายล้างที่กฎระเบียบอสนีดุดันปล่อยออกมาป่นร่างกายและพลังจิตของเขาเป็นจุณ ไม่เหลือแม้แต่เศษซาก

ข้างเจดีย์สมบัติอสนีมีเงาร่างสิงเจี้ยนสยาปรากฏ แสงมรรคพันล้อมทั่วร่างราวกับเดินออกมาจากความศักดิ์สิทธิ์

มีเพียงไท่เฮ่าจวี้ที่หนีรอดมาได้ แต่เมื่อเห็นภาพผานอู่ซิวและหยวนจงฉี่สิ้นชีพกับตาตัวเองก็ตกใจจนสีหน้าซีดเผือด หนังศีรษะชาวาบ

“สิงเจี้ยนสยา เจ้ากับฟู่หนานหลีบังอาจก้าวออกมาจากภูเขาเทพใบบัว คิดจะเปิดศึกกับพวกข้ารึ”

ซินอิ้งเดือดดาล ใบหน้าเคร่งขรึมมีสง่าคล้ำเขียว

การมาของสิงเจี้ยนสยาและฟู่หนานหลีทำให้พวกเขาต่างรู้สึกว่าไม่เข้าที

หลินสวินคนเดียวยังยากรับมือขนาดนั้น หากเพิ่มขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สองคนเข้ามาอีกย่อมทำให้สถานการณ์ในที่นี้เปลี่ยนไปหมด

ส่วนหลินสวินคึกคักนัก ยิ่งสู้ยิ่งกร้าวแกร่ง

“เปิดศึกแล้วอย่างไร คิดจริงหรือว่าตอนนี้ยังเหมือนแต่ก่อน”

สิงเจี้ยนสยาพูดพลางถือเจดีย์สมบัติอสนีพุ่งโจมตี ลงมือกับซินอิ้งโดยตรง

“ฆ่า!”

ฟู่หนานหลียิ่งไม่พูดมาก สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง กระบี่บินแดงสดงดงามพุ่งออกมาฟันใส่ผานอู่ซิว

ขณะเดียวกันแขนเสื้อเขาพลิกตลบ สร้างกฎระเบียบโซ่เทพนับไม่ถ้วนโจมตีไปทางผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างยี่สิบคนที่อยู่ห่างไกลทันที

มีเพียงกำจัดคนพวกนี้ก่อนถึงจะป้องกันพวกเขาไม่ให้หนีกลับไปขอกำลังเสริมได้

เพียงชั่วขณะสนามรบเปลี่ยนเป็นอลหม่านขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

เดิมทีซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนก็ถูกหลินสวินและร่างแยกมหามรรคของเขาพัวพัน ตอนนี้มีสิงเจี้ยนสยาเพิ่มมาอีก ทำให้พวกเขารับมือไม่ทันยิ่งกว่าเดิม

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ฝั่งฟู่หนานหลีกลับปรากฏตัวด้วยท่าทีหมายทำลายล้าง

ผู้ประสบเคราะห์ก่อนก็คือผานอู่ซิว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว เมื่อฟู่หนานหลีบุกเข้ามาเขาก็พุ่งตัวหนีทันที ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่น้อย

แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง หรือพูดได้ว่าต่อให้หนีไปก็เปล่าประโยชน์ ด้วยคู่ต่อสู้ของเขาคือฟู่หนานหลี ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่แห่งลัทธิวิญญาณ!

ฉัวะ!

เพียงพริบตาเมื่อกระบี่บินแดงสดงดงามฟันลงมา ทั้งตัวผานอู่ซิวล้วนถูกผ่าแหวก เลือดสดสาดกระเซ็นก็พอว่า ยังถูกเจตกระบี่ดุดันบดขยี้เป็นจุณด้วย

ขั้นสรรสร้างยี่สิบคนที่คอยเฝ้าอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเห็นท่าไม่ดีพลันหนีไปทั่วทิศ

แต่น่าเสียดายพวกเขาไม่ใช่หลินสวิน ทั้งไม่ใช่เจวี๋ยอู๋เทียน ไม่มีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าที่สามารถต้านทานขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ได้

ก็เห็นพลังกฎระเบียบเหมือนโซ่เทพหลายสายพุ่งออกมาและทะลวงผ่านเงาร่างเหล่านั้นโดยง่าย สังหารพวกเขาตายคาที่อย่างหมดจดชัดเจน

สุดท้ายขั้นสรรสร้างยี่สิบคนถูกฆ่าตายหมด!

เหตุการณ์นองเลือดเหล่านั้นทำให้ซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนตาแทบถลน

พวกเขาไม่เคยคิดว่าสถานการณ์จะมาถึงขั้นนี้

กุญแจสำคัญก็คือหลินสวิน เพียงคนเดียวกลับสกัดพวกเขาขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สามคนได้ กระทั่งฟู่หนานหลีและสิงเจี้ยนสยาบุกมา พวกเขาจึงไร้กำลังไปปกป้องพวกผานอู่ซิวโดยสิ้นเชิง

“ไป!”

ซินอิ้งส่งเสียงตะโกน

สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่อาจล่าช้าอีก

“คิดหนี? มีหรือจะง่ายขนาดนั้น!”

ฟู่หนานหลีโจมตีมาก่อนแล้ว ฟันกระบี่บินสีแดงไปทางซินอิ้ง

หากกล่าวถึงพลังต่อสู้แท้จริง ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างฟู่หนานหลีและสิงเจี้ยนสยาแข็งแกร่งกว่าพวกซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนสามคนอยู่บ้าง

คนที่คุกคามพวกเขาได้อย่างแท้จริงคือซินหูแห่งลัทธิฌานและเหลยซ่งแห่งลัทธิพ่อมด

น่าเสียดายที่ซินหูกับเหลยซ่งมุ่งหน้าไปโลกบัวชะตาตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว ย่อมไม่มีทางมาปรากฏตัวเวลานี้

แน่นอนว่าหากสู้ตัวต่อตัว ถ้าพวกซินอิ้งคิดหนีสุดชีวิต ฟู่หนานหลีกับสิงเจี้ยนสยาก็ยากจะขวางได้

แต่ตอนนี้ต่างออกไป

หลินสวินกับร่างแยกมหามรรคของเขาสกัดเจ้าเฒ่าสามคนนี้ไว้อยู่หมัดนานแล้ว!

และนี่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ฟู่หนานหลีกับสิงเจี้ยนสยา!

ตูม…

การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิมแล้ว

เดิมซินอิ้งกำลังสู้กับกายมรรควารีดำและกายมรรคดินเหลืองของหลินสวิน แต่เมื่อสิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีบุกมาพร้อมกัน ทั้งหมดหันปลายหอกจ่อใส่เขาคนเดียว ทำให้สถานการณ์ของเขาเปลี่ยนเป็นล่อแหลมอันตรายในชั่วขณะ

ไม่นานซินอิ้งก็บาดเจ็บสะสม

แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ แม้ว่าบาดเจ็บต่อเนื่องแต่ก็แข็งแกร่งถึงขีดสุด ยากจะสังหารได้ในเวลาอันสั้น

แต่ใจของซินอิ้งตกไปที่ตาตุ่มแล้ว เขารู้ว่าวันนี้คงหนีไม่พ้นแน่

“ท่านทั้งสอง ข้าจะส่งพวกเจ้าจากไป!”

นัยน์ตาซินอิ้งฉายแววเด็ดเดี่ยว

เขาตัดสินใจสละชีวิตตัวเอง ต้องการส่งเหวินไจ้กับสิงเทียนหยวนจากไป เช่นนี้จึงจะรักษากำลังพลเพื่อฝั่งพวกเขาได้มากขึ้น

แต่เมื่อเขาคิดเอาชีวิตเข้าแลก ในจุดที่ห่างออกไปมีเงาร่างมากมายพุ่งมาอีกครั้ง

เป็นเหรินฟู่เทียน กู่เยวี่ยหมิง ซุ่นไหวเจี่ย เสวี่ยเย่ที่เฝ้าอยู่บนภูเขาเทพใบบัว ภายในนั้นเหรินฟู่เทียนยังเป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ด้วย!

ซินอิ้งเผยสีหน้าขมขื่นอย่างอดไม่ได้ทันที ตอนนี้ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลกก็คงส่งเหวินไจ้กับสิงเทียนหยวนจากไปไม่ได้แล้ว…

“พวกเจ้าคอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ข้าจะไปสังหารศัตรู”

ทันทีที่มาถึงเหรินฟู่เทียนซึ่งมีพลังปราณขั้นไร้ขอบเขตใหญ่เข้าสู่สนามรบทันที โบกสะบัดทวนสำริดจู่โจมไปทางสิงเทียนหยวน

ส่วนพวกกู่เยวี่ยหมิงก็เฝ้าอยู่โดยรอบห่างๆ

พวกเขามีมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตเล็กก็จริง แต่ในสถานการณ์ตรงหน้าแค่นี้ก็พอแล้ว

จากนี้ไปสถานการณ์ทั้งหมดเริ่มพลิกผัน กลายเป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สามคนอย่างซินอิ้ง สิงเทียนหยวน เหวินไจ้ถูกปิดล้อมอย่างแน่นหนา!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท