ตอนที่ 3086 ทำลายระเบียบระดับเทพ
“เช่นนั้นก็ดีๆ!”
ฟู่หนานหลียิ้มขึ้นมา หากหลินสวินช่วยชีวิตศิษย์คนโตของคีรีดวงกมลได้ ความรู้สึกผิดในใจเขาก็เบาบางลงบ้าง
ไม่นานพวกเขาก็มาถึง ‘ภูเขาเทพผาแดง’ ที่ตระกูลผานอู่อยู่
แต่บนภูเขาเทพผาแดงที่กว้างใหญ่ว่างเปล่าไร้ผู้คนนานแล้ว
“หรือว่าพวกเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างจึงหนีไปก่อนล่วงหน้าแล้ว”
สิงเจี้ยนสยาเลิกคิ้ว
“หากเป็นเช่นนั้นต่อจากนี้ก็ยุ่งยากแล้ว”
ฟู่หนานหลีอดมุ่นคิ้วไม่ได้เช่นกัน
โลกวิญญาณยุทธ์ยิ่งใหญ่ หากศัตรูพวกนั้นหนีไปก่อนล่วงหน้า ยามตามล่าก็เปลืองแรงแล้ว
“ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดรอสักครู่ ขอข้าตรวจสอบดูหน่อย”
ขณะกล่าวหลินสวินยกมือคว้าพลังจิตของชางโย่วจือที่กำราบอยู่ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมา แล้วทำการค้นวิญญาณโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
เพียงครู่เดียวหลินสวินพลันเป่าปากโล่งอกพลางกล่าว “เมื่อสามวันก่อนผู้แข็งแกร่งแต่ละขุมอำนาจล้วนรวมตัวกันบนภูเขาเทพรกร้างที่ลัทธิพ่อมดอยู่ ผู้ที่คอยดูแลบนภูเขานี้คืออูหงจื่อและขั้นไร้ขอบเขตเล็กอีกหกคน ขั้นสรรสร้างก็ไม่น้อย มีกันถึงยี่สิบเก้าคน”
เมื่อได้ยินดังนี้สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีล้วนยิ้มแล้ว
ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจศัตรูพวกนั้นต่างรวมตัวบนภูเขาเทพรกร้าง ถือว่าประหยัดเวลาพวกเขาไปมาก สามารถกำจัดพวกเขาได้หมด
“ไป ไปภูเขาเทพรกร้างกัน”
พวกเขาเปลี่ยนทิศทาง มุ่งตรงไปภูเขาเทพรกร้างฐานที่มั่นลัทธิพ่อมด
…
ภูเขาเทพรกร้าง
หนึ่งในภูเขาเทพที่อยู่ใกล้ทะเลโชคชะตาที่สุด ทอดยาวขึ้นลงเหมือนงูมังกร อาบไล้ด้วยพลังชะตามหามรรคแน่นหนา
จินตนาการได้เลยว่าเมื่อฝึกปราณที่นี่พลังชะตามหามรรคที่หลอมได้จะมากระดับใด
ตอนนี้หลินสวินรู้แล้ว ว่าผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างแม้รวมตัวในทะเลโชคชะตาแต่ไม่ได้ไปชิงโอกาสมุ่งสู่แหล่งสถานอัศจรรย์นั่น
เหตุผลนั้นง่ายมาก แม้ว่าแต่ละช่วงเวลาจะมีบัวชะตามหามรรคดอกหนึ่งปรากฏ แต่ด้วยพลังของพวกเขาย่อมแย่งชิงกับขั้นไร้ขอบเขตพวกนั้นไม่ได้แต่แรก
สาเหตุที่รวมตัวกันที่นี่ หนึ่งคือหลบการโจมตีของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพได้ ต่อให้โลกยุคสมัยภายนอกพินาศย่อยยับ หลังจากโลกยุคสมัยใหม่ก่อเกิดพวกเขาก็เลือกอยู่ต่อได้ ทั้งสามารถออกจากโลกวิญญาณยุทธ์นี้ไปอยู่ในโลกยุคสมัยใหม่ได้ด้วย
สองคือการฝึกปราณในพื้นที่แกนกลางของโลกวิญญาณยุทธ์นี้ สามารถหลอมพลังชะตามหามรรคได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย สิ่งนี้มีส่วนช่วยอย่างมากต่อการสะสมพลังแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตของพวกเขา!
นี่ต่างหากเป้าหมายที่ผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างทุกคนมุ่งหน้ามาทะเลโชคชะตา
แน่นอนว่าหากมีโอกาสไปแหล่งสถานอัศจรรย์ พวกเขาย่อมไม่มีทางพลาด
“ข้างหน้าก็คือภูเขาเทพรกร้างแล้ว”
เงาร่างของพวกหลินสวินยืนอยู่กลางอากาศที่ห่างไกล สายตามองภูเขาเทพรกร้างที่อยู่ห่างออกไป
“หนึ่ง สอง สาม สี่… เจ้าพวกนี้ช่างดีนัก มีพลังระเบียบระดับเทพถึงสิบแปดชนิด!”
สิงเจี้ยนสยากล่าวอย่างตกใจ
ฟู่หนานหลีอดไหวหวั่นไม่ได้เช่นกัน “ดูท่าว่าขุมอำนาจพวกนี้คงนำพลังระเบียบระดับเทพที่ตนมีมาปกคลุมทั่วภูเขาเทพรกร้างนี้จนหมด เรื่องนี้ยากจัดการอยู่บ้างแล้ว ถ้าหากว่าพวกเราลงมือเต็มกำลัง อยากทำลายระเบียบระดับเทพสิบแปดชั้นนี้เกรงว่าคงต้องใช้เวลาอย่างมาก”
บนภูเขาเทพรกร้างที่อยู่ห่างไปมีเสียงเย็นชาแก่ชราหนึ่งดังขึ้นทันที “สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลี? พวกเจ้าไม่หดหัวอยู่บนภูเขาเทพใบบัวแต่โดยดี กลับกล้าวิ่งมาถึงที่นี่ กล้ามากนักนะ!”
พร้อมกับเสียงนั้นเงาร่างหนึ่งปรากฏบนท้องฟ้าเหนือภูเขาเทพรกร้าง
เขาร่างผอมแห้งสูงใหญ่ เบ้าตาบุ๋มลึก มือถือไม้เท้าสีดำ ทั่วร่างแผ่แสงมรรคขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ดำทึบเหมือนน้ำหมึก ทั้งตัวราวกับจอมมารดึกดำบรรพ์ในตำนาน อานุภาพชวนขนพองสยองเกล้า
อูหงจื่อ!
ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่คนหนึ่งแห่งลัทธิพ่อมดที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่กาลเวลา
ตูม!
เมื่ออูหงจื่อปรากฏตัว ภูผาธาราสั่นสะเทือน สรรพสิ่งร่วงกราว พลังระเบียบระดับเทพสิบแปดชั้นที่ปกคลุมทั่วภูเขาเทพรกร้างล้วนโคจรท่ามกลางเสียงดังกระหึ่มเป็นระลอก เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์มหามรรคที่สวยสดงดงาม เปล่งประกายเจิดจรัสนานัปการ
หลังจากนั้นเงาร่างสายแล้วสายเล่าพุ่งออกมาจากภูเขาเทพรกร้าง ลอยขึ้นไปอยู่กลางอากาศ รวมตัวอยู่เบื้องหลังอูหงจื่อ ถึงกับเป็นขั้นไร้ขอบเขตเล็กหกคน
เมื่อเห็นสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี หลินสวินที่อยู่ห่างไป พวกขั้นไร้ขอบเขตเล็กพลันแตกตื่น สีหน้าปรวนแปร
พวกเขาก็เหมือนอูหงจื่อ คิดไม่ถึงว่าสิงเจี้ยนสยาและฟู่หนานหลีที่หลายปีนี้หดหัวอยู่ในภูเขาเทพใบบัวมาตลอดจะกล้าปรากฏตัวที่นี่
แต่เมื่อเห็นหลินสวินที่อยู่ข้างกายทั้งสองแล้วก็มีเสียงอุทานดังขึ้นทันที
“หลินสวิน!? ทำไมถึงเป็นเขา…”
“เจ้าเดรัจฉานน้อยนี้ถึงกับมาโลกวิญญาณยุทธ์ด้วย?”
“แปลกชอบกล ผู้อาวุโสซินอิ้งและสิงเทียนหยวนคอยประจำอยู่ใกล้ภูเขาเทพใบบัวตลอดไม่ใช่หรือ แต่ทำไมถึงปล่อยให้พวกสิงเจี้ยนสยามาปรากฏตัวที่นี่”
…ภาพตรงหน้านี้น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ ทำให้พวกเขาแปลกใจสงสัยไม่หยุด
เวลานี้แม้แต่อูหงจื่อก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ตระหนักถึงความผิดแปลกอยู่บ้าง
“อูหงจื่อ พวกเราใจกล้าหรือไม่อีกเดี๋ยวเจ้าก็รู้ ตอนนี้หากเจ้ากล้าออกมาสู้กันข้าจะให้เจ้าตายโดยไม่ต้องทรมาน มิฉะนั้นอย่าหาว่าพวกเราเหยียบที่นี่จนสิ้นซาก!”
แววตาฟู่หนานหลีเฉียบคม ไอสังหารแผ่ซ่าน
“น่าขัน ทำไมข้าต้องตอบกับการสู้กับเจ้าด้วย”
อูหงจื่อสีหน้าอึมครึม “หากมีความสามารถพวกเจ้าบุกเข้ามาโดยตรงก็จบ!”
แม้ว่าในใจเขาสับสนงุนงงอยู่มาก แต่เวลานี้กลับดูนิ่งสงบอย่างยิ่ง
เขารู้ถึงพลังของสิงเจี้ยนสยาและฟู่หนานหลีเป็นอย่างดี รู้ดีว่าขอแค่ตนควบคุมระเบียบระดับเทพสิบแปดชั้นเพื่อปกป้องภูเขาเทพรกร้างไว้ ถ้าอีกฝ่ายอยากบุกเข้ามาก็แทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อเห็นดังนี้สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีสบตากัน หัวคิ้วล้วนขมวดมุ่น
สำหรับพวกเขาพวกอูหงจื่อไม่ควรค่าแก่การหวาดกลัวสักนิด มีเพียงภูเขาเทพรกร้างซึ่งปกคลุมด้วยระเบียบระดับเทพสิบแปดชั้นนี้ที่ดูตึงมือนัก
“ทำไม พวกเจ้าก็รู้ว่าไม่อาจบุกเข้ามาได้ในเวลาสั้นๆ ด้วยเหตุนี้จึงแค่กล้าเห่าหอนอยู่ตรงนั้นหรือ”
บนท้องฟ้าเหนือภูเขาเทพรกร้าง อูหงจื่อเยาะหยัน ทำหน้าดูแคลน
นี่ทำให้สีหน้าสิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีอึมครึมไม่น้อย
ในตอนนี้เอง…
“ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดรอสักครู่ ข้าจัดการระเบียบระดับเทพพวกนี้เอง”
หลินสวินพูดพลางก้าวเดินไปกลางอากาศ
สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีอึ้งงัน
ในจุดที่ห่างออกไปอูหงจื่อหัวเราะลั่นอย่างอดไม่ได้ “หลินสวิน เจ้าตัวจ้อยขั้นสรรสร้างอย่างเจ้าไม่เจียมตัวเกินไปแล้วกระมัง!”
ข้างกายเขาขั้นไร้ขอบเขตเล็กหกคนนั่นอดหัวเราะไม่ได้
การกระทำนี้ของหลินสวินทำให้พวกเขานึกถึงคำหนึ่งขึ้นมา… มดเขย่าต้นไม้!
มีเพียงสิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีที่สีหน้าแปลกไป นัยน์ตาเต็มไปด้วยแววพิกล
ภายใต้การจับจ้องจากสายตาของทุกคน เงาร่างสูงโปร่งของหลินสวินหยุดเท้าอยู่ห่างจากภูเขาเทพรกร้างพันจั้ง ชุดสีขาวพระจันทร์โบกพลิ้วไปตามลม สันโดษไร้มลทิน
เขาชูมือขวาขึ้นก่อนคว้าผ่านห้วงอากาศ
“มา!”
มือใหญ่เหมือนบังฟ้าคลุมตะวันข้างหนึ่งควบรวมกลางอากาศ นิ้วมือทั้งห้าราวเสาค้ำสวรรค์ กลางฝ่ามือปรากฏคลื่นนัยเร้นลับนิพพานพลุ่งพล่านดั่งมหาสมุทร
เมื่อมือใหญ่นี้คว้าออกไป
ตูม!
ห้วงอากาศปั่นป่วน เสียงระเบิดราวอสนีบาต
ละอองแสงระเบียบหลากสีเจิดจรัสแผ่กระจาย ระเบียบระดับเทพชั้นหนึ่งที่ปกคลุมภูเขาเทพรกร้างอยู่รอบนอกสุดถูกคว้าขึ้นมาทั้งอย่างนั้น
ราวกับม่านนภาถูกพลิกตลบ!
“นี่…”
รอยยิ้มบนหน้าพวกอูหงจื่อแข็งทื่อ แววหยามเหยียดตรงหว่างคิ้วถูกความตกตะลึงเข้ามาแทน ท่าทางเหมือนยากจะเชื่อ
“สยบ!”
อูหงจื่อตวาดลั่น ใช้มรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ของเขาควบคุมระเบียบระดับเทพชั้นนั้น
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึง คือพริบตานี้เขาถึงกับสูญเสียการควบคุมระเบียบระดับเทพนั้นไปแล้ว
เวลานี้ท่ามกลางเสียงกัมปนาทรุนแรง ระเบียบระดับเทพที่ถูกคว้าขึ้นมานั้นถึงกับถูกกำราบลงอย่างแข็งกร้าว กลายเป็นรุ้งเทพเจิดจรัสสายหนึ่งตกสู่มือหลินสวินที่อยู่ห่างไปอย่างนุ่มนวล
สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีเห็นภาพนี้แล้วต่างสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้
ถ้าแค่จัดการระเบียบระดับเทพสายหนึ่ง พวกเขามั่นใจว่าทำลายมันได้โดยง่าย แต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างออกไป ระเบียบระดับเทพนั้นควบคุมโดยขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างอูหงจื่อ ทั้งสอดประสานกับระเบียบระดับเทพอื่นอีกสิบเจ็ดชนิด อานุภาพที่เกิดขึ้นน่ากลัวอย่างยิ่ง
แค่จัดการหนึ่งในนั้นก็เหมือนจัดการระเบียบระดับเทพทั้งหมด
แต่ตอนนี้หลินสวินกลับทำลายการควบคุมของอูหงจื่อโดยง่าย ทั้งคว้าพลังระเบียบระดับเทพนั้นขึ้นมาแล้วยังกำราบให้ศิโรราบได้ทั้งอย่างนั้น!
ตั้งแต่ต้นจนจบเรียบง่ายสบายๆ!
ตูม…
เวลานี้เมื่อหลินสวินขับเคลื่อนความคิด มือใหญ่บดบังฟ้านั้นคว้าออกไปอีกครั้ง ก่อให้เกิดละอองแสงระเบียบทั่วฟ้า
ภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาตื่นตะหนกของทุกคน ระเบียบระดับเทพชั้นที่สองนั้นก็ถูกคว้าขึ้นมา เพียงพริบตาก็ถูกกำราบให้สยบลง!
“บัดซบ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้”
อูหงจื่อตกใจเดือดดาล เขาควบคุมระเบียบระดับเทพนั้นเต็มที่ตลอด แต่เมื่อมือใหญ่ของหลินสวินคว้ามา พลังที่ปล่อยออกมากลับลบพลังควบคุมของเขาไป ทำให้ระเบียบระดับเทพนั้นถูกเก็บไปโดยควบคุมไม่ได้!
ทุกอย่างนี้ล้วนดูน่าเหลือเชื่อเกินไป
‘เตรียมพร้อมต่อสู้ ครั้งนี้อย่าปล่อยให้ศัตรูคนใดหนีไปได้เด็ดขาด’
เมื่อเห็นภาพนี้สิงเจี้ยนสยาสื่อจิตอย่างรวดเร็ว เรียกเจดีย์สมบัติอสนีออกมารอจังหวะลงมือ
‘ได้!’
ฟู่หนานหลีเรียกกระบี่บินแดงสดงดงามเล่มนั้นของตนออกมาเช่นกัน
ตูม… ตูม… ตูม…
พูดแล้วเหมือนนานแต่ความจริงนั้นรวดเร็วนัก เมื่อหลินสวินขับเคลื่อนความคิด มือใหญ่ปรกฟ้านั้นคว้าลงมาไม่หยุด เหมือนมือใหญ่ของนายเหนือหัวบนสวรรค์พลิกตลบม่านฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่ว่าอูหงจื่อลงมือเต็มกำลังอย่างไร ถึงตอนท้ายก็ได้แต่เบิกตามองระเบียบระดับเทพมากมายนั้นถูกเก็บไปทีละเส้น
ทุกอย่างนี้ทำให้ใบหน้าชราของเขาคล้ำเขียว ดวงตาปูดโปนแทบถลน รู้สึกแทบบ้าแล้ว
ตอนนี้ที่พึ่งสำคัญของพวกเขาก็คือพลังระเบียบระดับเทพสิบแปดชั้นนี้ แต่ปัจจุบันกลับถูกขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินเก็บไปทีละชั้นโดยง่าย นี่จะไม่ให้พวกเขาตกใจเดือดดาลได้อย่างไร
สิงเจี้ยนสยากลับเอ่ยปากเนิบช้า “จริงสิ ลืมบอกทุกท่านไป พวกซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนล้วนประสบเคราะห์หมดแล้ว ย่อมไม่มีทางมาช่วยพวกเจ้าได้อีกแน่ หรือกล่าวได้ว่าโลกวิญญาณยุทธ์ตอนนี้เหลือเพียงพวกเจ้าแล้ว”
เสียงสะท้อนทั่วทิศ
“อะไรนะ”
“เป็นไปไม่ได้!”
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้”
ข่าวร้ายนี้ช่างเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ทำลายความหวังว่าจะมีโชคช่วยเสี้ยวสุดท้ายในใจของพวกอูหงจื่อจนย่อยยับ แต่ละคนล้วนหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ขวัญหนีดีฝ่อ
เวลานี้เอง…
ตูม!
ท่ามกลางเสียงระเบิดราวฟ้าพลิกดินตลบ พลังระเบียบระดับเทพชั้นสุดท้ายที่ปกคลุมบนภูเขาเทพรกร้างนั้นก็ถูกหลินสวินเก็บไปโดยง่าย
ทั้งภูเขาเทพรกร้างเผยให้เห็นอยู่กลางฟ้าดินอย่างสมบูรณ์ในเวลานี้!