ที่แท้ก็เป็นศิษย์พี่จวินหวน!
หลินสวินประหลาดใจ จากนั้นพลันเผยรอยยิ้มจากใจจริง
เงาร่างนั้นสูงเพรียวสง่างาม หญิงแต่งเป็นชาย ความองอาจกลับไม่น้อยกว่าผู้ชายแท้ๆ โดยเฉพาะรูปลักษณ์ งดงามอย่างยิ่ง ไม่ใช่จวินหวนแล้วจะเป็นใคร
ตอนนี้ผู้คนมากมายบนภูเขาเทพถกมรรคตื่นตระหนก ต่างปรากฏตัวแหงนหน้าชื่นชม
“คิดไม่ถึงว่าคนที่แจ้งมรรคระดับนิรันดร์ก่อนไม่ใช่พวกศิษย์พี่ห้าชื่อจวิน กลับเป็นศิษย์น้องจวินหวน” หลี่เสวียนเวยถอนหายใจ
“ทำไม ท่านดูถูกข้าขนาดนี้เชียว”
บนห้วงอากาศจวินหวนเชิดคางขึ้นเล็กน้อย จ้องหลี่เสวียนเวยแวบหนึ่ง
ขณะพูดจู่ๆ นางก็อึ้งไป ดวงตาหงส์เบิกโต บนใบหน้างามปรากฏความยากจะเชื่อ “ศิษย์น้องเล็ก?”
เมื่อสามปีก่อนสิงเจี้ยนสยาหลอมภูเขาเทพใบบัวทั้งลูกแล้วนำมาด้วย จนกระทั่งลงหลักปักฐานบนภูเขาเทพถกมรรค ไม่ได้กระทบต่อเหล่าคนที่ปิดด่านอยู่
ทำให้จนถึงตอนนี้เมื่อจวินหวนออกด่านและตัดสินใจแจ้งมรรคทะลวงระดับ นางถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นหลินสวิน
“ศิษย์พี่ สงบใจแจ้งมรรคก่อน อย่าได้เสียสมาธิ”
หลินสวินโบกมือพร้อมรอยยิ้ม
จวินหวนกลอกตาใส่ “ข้ายังต้องให้เจ้าเตือนหรือ”
“จวินหวน ตอนนี้ศิษย์น้องเล็กครอบครองมรรควิถีระดับนิรันดร์ขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์แล้ว เขาน่ะ… ตอนนี้ถือว่าสามารถยุ่งเรื่องของเจ้าได้แล้วจริงๆ” หลี่เสวียนเวยหัวเราะฮ่าๆ
จวินหวนผิดคาด จ้องหลินสวินตาไม่กะพริบครู่ใหญ่ จู่ๆ ก็เผยรอยยิ้มเย้ายวนกระชากวิญญาณเอ่ยว่า “รอหลังจากข้าแจ้งมรรคจะใกล้ชิดสนิทสนมกับศิษย์น้องเล็กให้มาก”
พูดจบสายตาของนางก็มองไปยังท้องฟ้าอีกครั้ง
มหาเคราะห์กำลังจะมาเยือน นางไม่กล้าเสียสมาธิอีก
ไม่นานเคราะห์นิรันดร์ที่เพ่งเล็งจวินหวนก็มาเยือนแล้ว
สามชั่วยามหลังจากนั้น
ไม่มีเรื่องผิดคาดใดๆ จวินหวนทะลวงระดับแจ้งมรรคนิรันดร์สำเร็จ
นี่เป็นเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
ในโลกยอดนิรันดร์ เพราะเคราะห์แห่งยุคสมัยใกล้มาเยือนจึงไม่มีจุดเปลี่ยนของการแจ้งมรรคนิรันดร์นานแล้ว
จวินหวนสามารถแจ้งมรรคที่นี่ได้เรียกได้ว่าไม่ง่าย
ในบรรดาผู้สืบทอดคีรีดวงกมล นอกจากศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่สามและหลินสวิน ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนอื่นๆ ล้วนยังไม่แจ้งมรรคนิรันดร์
แต่ตอนนี้จวินหวนกลายเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนที่สี่ที่แจ้งมรรคนิรันดร์แล้ว
บางทีเมื่อเทียบกับขั้นสรรสร้าง ขั้นไร้ขอบเขตในโลกนี้ ผู้ที่เพิ่งแจ้งมรรคขั้นล่วงกฎอย่างจวินหวนไม่นับว่าร้ายกาจอะไร
แต่ควรรู้ว่าผู้คนทั่วโลกหล้า ผู้ที่สามารถก้าวสู่มรรคานิรันดร์เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
หลินสวินกรำศึกทั่วหล้ามานานปี บุกน่านฟ้าที่เก้า แหล่งสถานศุภโชค ระดับนิรันดร์ที่พบเจอแม้จะมาก แต่เมื่อเทียบกับผู้ฝึกปราณทั่วโลกแล้วเห็นได้ชัดว่ามีน้อยมาก
วันนั้นบนภูเขาเทพถกมรรคจัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองให้กับจวินหวน
เพียงแต่ไม่มีใครคิดว่าการแจ้งมรรคระดับนิรันดร์ของจวินหวนเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ในสิบปีหลังจากนั้นมีผู้สืบทอดคีรีดวงกมลแจ้งมรรคนิรันดร์เป็นระยะๆ อย่างเช่นชื่อจวิน ปู่ซ่วนจื่อ หลี่เสวียนเวย ผู่เจิน เสวี่ยหยา…
ล้วนแจ้งมรรคสำเร็จ!
ภาพเหล่านั้นในช่วงสิบปีนี้ทำให้เหล่าเฒ่าชราลัทธิแรกกำเนิดและลัทธิวิญญาณต่างตะลึงไม่อาจควบคุมได้
พวกเขารู้ดีว่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมลไม่มีใครไม่เย้ยฟ้า แต่ละคนล้วนมีพรสวรรค์และรากฐานพลังไม่ธรรมดา
หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้สถานการณ์ของพวกเขาสุ่มเสี่ยง ถูกคุกคามรุนแรงเกินไป คงสามารถแจ้งมรรคนิรันดร์ได้นานแล้ว!
แน่นอนว่าหากเพียงเท่านี้คงยังไม่ถึงขั้นทำให้เฒ่าชราพวกนั้นตะลึง
จุดสำคัญคือผู้สืบทอดคีรีดวงกมลที่แจ้งมรรคนิรันดร์ไม่มีใครล้มเหลวเลย และหลังจากก้าวสู่ขั้นล่วงกฎก็สำแดงพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งเหนือกว่าระดับขั้นเดียวกัน
นี่ต่างหากที่ทำให้ผู้คนตกใจ
และสำหรับหลินสวินแล้ว เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นข่าวดีใหญ่ยิ่ง
ในใจเขา ศิษย์พี่เหล่านั้นสามารถแจ้งมรรคนิรันดร์ได้เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว ไม่ถึงกับเป็นเรื่องไม่คาดฝันอะไร
ทุกครั้งที่มีศิษย์พี่แจ้งมรรคสำเร็จ หลินสวินก็จะมอบของขวัญชิ้นโตให้ ล้วนเป็นสมบัติชั้นเลิศที่ช่วยเสริมการฝึกปราณในระดับนิรันดร์ เป็นสิ่งที่ยากจะพบเจอ
และนี่ก็คือความตั้งใจของหลินสวิน
หลายปีมานี้เขาสังหารระดับนิรันดร์มาไม่รู้เท่าไร บนตัวมีทรัพย์สินที่ยากจะจินตนาการ เมื่อรวมกับนัยเร้นลับห้าระเบียบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ครอบครอง ทำให้เขาได้รับสมบัตินิรันดร์มากมายที่คนนอกไม่สามารถหามาได้
และความมั่งคั่งเหล่านี้ สำหรับเขาที่ครอบครองมรรควิถีขั้นสรรสร้างสมบูรณ์แล้วส่วนใหญ่ล้วนไม่มีประโยชน์ จึงถูกหลินสวินนำมาให้ศิษย์พี่เหล่านั้น
และเรื่องเช่นนี้ก็ทำให้ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนอื่นๆ เห็นความใจกว้างและมั่งคั่งของศิษย์น้องเล็กของตน ตอนแรกพวกเขายังรับด้วยความละอาย รู้สึกเกรงใจ
แต่ภายหลังต่างรับพร้อมรอยยิ้ม ถึงขั้นที่ยามขาดทรัพยากรฝึกปราณอะไรก็จะไปหาหลินสวินในทันที
แน่นอนว่าหลินสวินเต็มใจเป็น ‘กุมารแจกทรัพย์’ ของพวกศิษย์พี่มาก
สรุปแล้วขอเพียงสามารถช่วยพวกศิษย์พี่ได้เขาก็มีความสุขมาก!
ควรรู้ว่ายามเขายังเด็ก แม้อยากช่วยก็ไม่มีความสามารถช่วยเหลือได้
ในสิบปีนี้หลินสวินได้เจอไท่เสวียนและเหยียนจี้ที่ออกจากการปิดด่านเช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองต่างแจ้งมรรคขั้นสรรสร้างแล้ว
เพียงแต่ในด้านพลังปราณถูกหลินสวินนำหน้าไปไกลแล้ว
เมื่อได้เจอหลินสวิน พวกไท่เสวียน เหยียนจี้เองก็ทอดถอนใจ โดยเฉพาะหลังรู้เรื่องต่างๆ ที่หลินสวินทำหลังจากมาถึงโลกวิญญาณยุทธ์
ใครจะกล้าจินตนาการว่าเวลาไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น หลินสวินที่เข้ามาฝึกปราณยังลัทธิแรกกำเนิดในตอนนั้น ตอนนี้จะครอบครองพลังที่สามารถสังหารขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ได้แล้ว
สรุปแล้วสำหรับหลินสวิน สิบปีนี้เป็นช่วงเวลาสุขสงบสมบูรณ์และมีข่าวดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในสิบปีนี้ทั้งโลกวิญญาณยุทธ์ก็สงบสุขเช่นกัน บรรดาผู้ฝึกปราณที่กระจายอยู่ในบริเวณอื่นๆ ของพื้นที่แกนกลางล้วนกำลังหลอมพลังชะตามหามรรคเต็มกำลัง ไม่มีกะจิตกะใจไปต่อสู้และเข่นฆ่า
สิ่งเดียวที่ทำให้หลินสวินกังวลใจคือ ในหลายปีมานี้ห้ากายมรรคของเขาใช้นัยเร้นลับนิพพานหลอมและสร้างพลังชีวิตของศิษย์พี่ใหญ่ขึ้นมาใหม่โดยตลอด แต่ความก้าวหน้ากลับช้ามาก
ถึงตอนนี้พลังชีวิตของศิษย์พี่ใหญ่แข็งแกร่งถึงขั้นสามารถทัดเทียมระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎได้แล้ว แต่กลับไม่สามารถนิพพานและคืนชีพจากความตายได้อย่างแท้จริง
สิ่งที่ทำให้จิตใจของหลินสวินได้รับการปลอบประโลมคือ แม้ศิษย์พี่ใหญ่ยังไม่ฟื้นคืนชีพอย่างแท้จริง แต่พลังชีวิตของเขากลับกำลังแข็งแกร่งขึ้นทีละก้าว
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้อย่างน้อยก็นับเป็นความหวังอย่างหนึ่ง
……
เวลาอีกห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้จู่ๆ หลินสวินที่ฝึกปราณอยู่ก็ตกใจเพราะเสียงกึกก้องระลอกหนึ่ง
เมื่อเดินออกจากถ้ำสถิต ก็เห็นว่าทะเลโชคชะตาที่กว้างใหญ่ไพศาลเหนือฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดในยามนี้ ผืนน้ำพลุ่งพล่าน ซัดคลื่นรุนแรง
‘บัวชะตามหามรรคดอกที่ห้าจะปรากฏแล้วหรือ’
หลินสวินตาเป็นประกาย ในใจตื่นเต้น
หลายปีมานี้เขารอคอยจุดเปลี่ยนเช่นนี้มาโดยตลอด!
“ทุกๆ สิบแปดปีทะเลโชคชะตาจะปรากฏโอกาสเช่นนี้หนึ่งครั้ง และครั้งนี้ในที่สุดก็ถึงตาพวกเราเข้าสู่สนามรบแล้ว!”
เสียงหัวเราะระลอกหนึ่งดังขึ้นจากไกลๆ
ก็เห็นเงาร่างของผู้ยิ่งใหญ่อย่างพวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี เหรินฟู่เทียนปรากฏกาย แต่ละคนสีหน้าเผยแววดีใจ ฮึมเหิมเต็มเปี่ยม ภาคภูมิใจอย่างที่สุด
หลินสวินพุ่งออกไปทันที
“สหายน้อยหลิน ครั้งนี้ดำเนินการตามแผนที่พวกเราวางไว้ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร”
สิงเจี้ยนสยายิ้มถาม
“ได้”
หลินสวินพยักหน้าตอบรับ
ยามย้ายมาภูเขาเทพถกมรรค เขาก็ได้หารือกับพวกสิงเจี้ยนสยาถึงเรื่องที่จะไปแย่งชิงโอกาสในบัวชะตามหามรรคไว้แล้ว
แผนการง่ายมาก
เมื่อโลกบัวชะตาปรากฏ สิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี หลินสวินจะพาขั้นไร้ขอบเขตเล็กสามคนอย่างพวกกู่เยวี่ยหมิง เสวี่ยเย่ ซุ่นไหวเจี่ยไปแย่งชิง
โดยมีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างเหรินฟู่เทียนดูแลภูเขาเทพถกมรรค
แม้บอกว่าโลกวิญญาณยุทธ์ในตอนนี้ไม่มีคู่ต่อสู้ของพวกเขาแล้ว แต่ทุกสิ่งล้วนไม่แน่นอน มีเหรินฟู่เทียนดูแลอยู่จึงจะสามารถวางใจได้อย่างแท้จริง
และสำหรับเรื่องนี้หลินสวินเองก็เคยคุยกับศิษย์พี่รองจ้งชิวกับศิษย์พี่สามรั่วซู่ ทั้งเคยถามความคิดเห็นของพวกเขา
หากศิษย์พี่เหล่านี้หมายจะไปแหล่งสถานอัศจรรย์ แน่นอนว่าหลินสวินจะสู้สุดชีวิตเพื่อช่วงชิงโอกาสให้พวกเขา
แต่พวกจ้งชิว รั่วซู่ปฏิเสธ
พวกเขาเป็นเพียงผู้ฝึกปราณขั้นล่วงกฎเท่านั้น ก่อนหน้านี้เหตุผลที่มาแหล่งสถานคุนหลุนก็เพื่อแจ้งมรรคนิรันดร์ ไม่เคยคิดจะไปแหล่งสถานอัศจรรย์
อีกทั้งพวกเขารู้จากปากหลินสวินว่าแหล่งสถานอัศจรรย์นั่นก็อันตรายอย่างที่สุด ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างอิงซานอิงยังเกือบประสบเคราะห์อยู่หลายครั้ง แม้สุดท้ายรอดชีวิตแต่ก็กลายเป็นทูตชะตาสวรรค์ที่มอบชีวิตให้กับผู้บงการหลังม่าน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แม้มีโอกาสมุ่งหน้าไปแหล่งสถานอัศจรรย์ ด้วยมรรควิถีของพวกเขาก็ย่อมต้องประสบอันตรายและพบเจอเรื่องไม่คาดฝันต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
เทียบกันแล้วไม่สู้อยู่ที่ทะเลโชคชะตาแห่งนี้ต่อ
เหตุผลแรกเพราะไม่ต้องกังวลการคุกคามของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ เหตุผลที่สองเพราะสามารถสงบจิตพัฒนาพลังปราณได้
ต่อให้เคราะห์แห่งยุคสมัยมาเยือน ทำลายยุคสมัยนี้ พวกเขาที่หลบอยู่ในอาณาเขตทะเลโชคชะตาแห่งนี้ก็จะไม่ประสบเคราะห์
ว่ากันถึงที่สุด สำหรับพวกเขาเพราะพลังปราณที่มีจำกัดจึงไม่ได้สนใจจะไปแหล่งสถานอัศจรรย์อยู่แล้ว
ตูม โครม…
การเปลี่ยนแปลงในทะเลโชคชะตารุนแรงกว่าเดิม คลื่นทะเลทะยานฟ้า ซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง บรรดาผู้ฝึกปราณที่กระจายอยู่ในโลกวิญญาณยุทธ์และโลกยุคสมัยอื่นๆ ต่างรับรู้นานแล้ว
ไม่นานภายใต้สายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องอย่างร้อนเร่า ในทะเลโชคชะตานั่นปรากฏดอกบัวใหญ่ยักษ์หาใดเปรียบดอกหนึ่ง มีกลีบดอกทั้งหมดเก้ากลีบ ทุกกลีบล้วนใหญ่เหมือนภูเขา แผ่ประกายแสงงดงามสะดุดตา
เมื่อดอกบัวนี้ปรากฏ ทะเลโชคชะตาที่บ้าคลั่งส่งเสียงกึกก้องในตอนแรกก็สงบลงทันที ลมหยุดคลื่นสงบ แตกต่างยิ่งยวด
นี่ก็คือบัวชะตามหามรรค!
ภายในมีโอกาสการไปแหล่งสถานอัศจรรย์ซ่อนอยู่ เป็นศุภโชคไร้เทียมทานที่ระดับนิรันดร์ของทุกยุคสมัยต่างหมายปอง!
ภาพที่คุ้นเคยเหล่านี้หลินสวินเคยเห็นมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นอีกครั้งในใจก็ยังพลุ่งพล่านไม่หยุด จิตต่อสู้ที่หลับใหลอยู่ในใจมานานปีราวกับถูกปลุกขึ้นมา
เขาต้องการการต่อสู้ ต้องการเคี่ยวกรำและปลดปล่อยพลังถึงขีดสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
มีเพียงทำเช่นนี้จึงจะสามารถแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตได้เร็วที่สุด!
“สหายน้อยหลิน พวกเราควรออกเดินทางแล้ว”
“ได้”
พวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีที่เตรียมพร้อมลงมือนานแล้วเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศพร้อมกับหลินสวิน พุ่งไปทางทะเลโชคชะตา
เวลาเข้าสู่โลกบัวชะตามีเพียงสิบลมหายใจ
พวกเขาจำเป็นต้องเข้าไปภายในสิบลมหายใจ มีเพียงทำเช่นนี้จึงจะสามารถไปช่วงชิงโอกาสการไปแหล่งสถานอัศจรรย์ในโลกบัวชะตาได้