ตอนที่ 1485 ได้รับชีวิตใหม่
ท่าป๋าเย่าชะงักไปครู่หนึ่ง เขาเงยหน้าสบตาไป๋ชิงเหยียนอย่างจริงจัง จากนั้นกล่าวต่อ “ฝ่าบาททรงให้โอกาสเย่าแก้แค้น เย่ารู้สึกซาบซึ้งมาก เย่าจะพยายามทำทุกทางให้ต้าโจวได้ครอบครองใต้หล้า ยินดีช่วยเหลือให้ฝ่าบาทได้ครอบครองใต้หล้าแห่งนี้พ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ตกลง เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้า ข้าจะส่งคนมาคอยลอบคุ้มกันเจ้า องค์ชายเจ็ดของตงอี๋อยู่ในกำมือของต้าโจว ฮองเฮาของตงอี๋ต้องช่วยปกป้องเจ้าอย่างสุดความสามารถของนางแน่นอน ข้าให้แม่ทัพเจียงไหวเซิงนำทหารเรือมาประชิดชายฝั่งแล้ว ทว่า ทัพทหารเรือถือเป็นทหารของต้าโจว พวกเขาไม่สามารถเปิดศึกกับต้าเยี่ยนได้โดยตรง เจ้าเข้าใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่”
ท่าป๋าเย่าพยักหน้า “เย่าเข้าใจดีพ่ะย่ะค่ะ! เย่าอายุยังน้อย หากมีเรื่องที่ตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้เย่าจะให้คนส่งจดหมายไปให้ฝ่าบาทเป็นคนตัดสินพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”
“ยังมีอีกเรื่อง คนของตงอี๋หลายคนเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงขององค์ชายเจ็ดมาก่อน เจ้าคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับทุกคนโดยใช้ใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าได้” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลูผิง
หลูผิงรีบยื่นหน้ากากที่เตรียมไว้นานแล้วให้ท่าป๋าเย่า
“บอกกับทุกคนว่าองค์ชายสองส่งคนไล่ตามไปสังหารองค์ชายเจ็ด เขาเผาเรือขององค์ชายเจ็ดจนองค์ชายเจ็ดเสียโฉมและเส้นเสียงถูกทำลาย…”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบเสิ่นชิงจู๋จึงยื่นขวดยาเล็กขวดหนึ่งให้หญิงสาว
“นี่คือยาที่ท่านหมอหงคิดค้นขึ้นมาตอนปรุงยารักษาเส้นเสียงให้น้องชายของข้า ยานี่จะทำให้คนเสียงแหบ ทว่า ไม่ถึงกับออกเสียงไม่ได้” ไป๋ชิงเหยียนก้มมองขวดยาในมือ จากนั้นส่งให้ท่าป๋าเย่า “เจ้าใช้ยานี่ไปก่อน เมื่อองค์ชายเจ็ดของตงอี๋เติบใหญ่ขึ้นเส้นเสียงจะค่อยๆ ดีขึ้น ถึงตอนนั้นผู้คนคงลืมเสียงที่แท้จริงขององค์ชายเจ็ดตัวจริงไปแล้ว”
ท่าป๋าเย่ารับยามาแล้วเปิดฝาเทใส่มือหนึ่งเม็ด จากนั้นกลืนลงไปในคอทันทีอย่างไม่ลังเล
ไป๋ชิงเหยียนตะลึงเล็กน้อย “จักรพรรดิแคว้นเว่ยไม่กลัวว่านั่นจะเป็นยาพิษที่ต้าโจวใช้ควบคุมเจ้าอย่างนั้นหรือ”
ไป๋จิ่นเซ่อมองไปทางท่าป๋าเย่าด้วยสีหน้าตื่นตระหนก จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่!”
“หากเป็นเช่นนั้นก็ถือเป็นเรื่องสมควรแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ท่าป๋าเย่าควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี “ตอนนี้ข้าไม่มีสิ่งใดเป็นจุดอ่อน ฝ่าบาททรงส่งข้ามาเป็นจักรพรรดิของแคว้นตงอี๋ย่อมต้องหาทางควบคุมหมากอย่างข้าให้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“อวี๋เซิง…” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกนามที่ไป๋จิ่นเซ่อตั้งให้ท่าป๋าเย่า “เสี่ยวชีตั้งนามใหม่ให้เจ้าว่าอวี๋เซิง…ไป๋อวี๋เซิง เจ้าใช้สกุลไป๋ก็คือคนในตระกูลไป๋ ไม่ใช่หมากตัวหนึ่ง ตระกูลไป๋ไม่มีวันใช้แผนการชั่วร้ายกับคนในครอบครัวเดียวกัน”
แม้ท่าป๋าเย่าจะคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ทว่า เขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้เขาจะแสดงสีหน้าเรียบนิ่งเพียงใด ทว่า ดวงตาที่ไหววูบของเขาฟ้องความรู้สึกที่แท้จริงของเขาออกมาจนหมด เขากำขวดยาในมือแน่น
ท่าป๋าเย่าเงยหน้ามองรอยยิ้มที่อบอุ่นของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นมองไปทางไป๋จิ่นเซ่อ
“พวกเราเดิมพันกับต้าเยี่ยนไว้สามปี อีกสามปีข้าจะมารับเจ้ากลับบ้านด้วยตัวเอง!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางไป๋จิ่นเซ่อ “ให้เจ้าได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขและปลอดภัยแบบที่เสี่ยวชีเคยกล่าวไว้”
“พี่หญิงใหญ่ ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนอวี๋เซิงเถิดเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นเซ่อกล่าว
“ไม่ได้!” ท่าป๋าเย่าคัดค้านเป็นคนแรกด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขาหันไปทางไป๋ชิงเหยียน โค้งกายคำนับนาง จากนั้นกล่าวขึ้น “คุณหนูเจ็ดคือพระขนิษฐาของฝ่าบาท หากฮองเฮาของตงอี๋รู้ฐานะที่แท้จริงของคุณหนูเจ็ด องค์ชายเจ็ดที่อยู่ในมือของต้าโจวจะหมดความหมายในทันที ฝ่าบาทได้โปรดพิจารณาให้ดีด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“พี่รู้ว่าเจ้าเป็นห่วงอวี๋เซิง!” ไป๋ชิงเหยียนกุมมือไป๋จิ่นเซ่อไว้ “พี่จะให้ซิงเฉินเป็นคนมาคอยคุ้มครองเขาอย่างลับๆ”
ไป๋จิ่นเซ่อเบิกตาโพลง “ซิงเฉินคือหัวหน้าองครักษ์ลับที่เก่งที่สุดของพี่หญิงใหญ่นะเจ้าคะ!”
“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” ท่าป๋าเย่าก้มศีรษะคำนับ “ชีวิตของเย่าต่ำต้อยนัก เทียบกับชีวิตอันทรงคุณค่าของฝ่าบาทไม่ได้แม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ เย่าจะให้องครักษ์ลับที่เก่งกาจที่สุดของฝ่าบาทมาคุ้มครองเย่าได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าคือคนของตระกูลไป๋ หากเจ้าอยากเป็นไป๋อวี๋เซิงก็จงทำตามคำสั่งของข้า ทว่า หากเจ้าอยากเป็นเพียงท่าป๋าเย่าข้าก็จะไม่ฝืนใจเจ้า” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางมองหน้าท่าป๋าเย่านิ่ง
ท่าป๋าเย่าก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้ง เขากำเบาะรองนั่งของตัวเองแน่นอย่างลังเล…
“ซิงเฉิน!” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียก
ไม่นานซิงเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกศาลา เขาคุกเข่าทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ข้าอยู่นี่ขอรับ!”
“ทำความเคารพเจ้านายคนใหม่ของเจ้า นับจากนี้เจ้าจงพาองครักษ์ลับคอยติดตามคุ้มครองไป๋อวี๋เซิง ต้องปกป้องเขาให้ปลอดภัย!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ซิงเฉินหันไปทำความเคารพท่าป๋าเย่าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “คารวะนายท่านขอรับ”
ท่าป๋าเย่าเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน
ขอบตาของท่าป๋าเย่าแดงก่ำ “ขอบพระคุณ…พี่หญิงใหญ่ขอรับ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนกว้างขึ้นกว่าเดิม “เช่นนี้พี่ขอฝากแคว้นตงอี๋ไว้กับเจ้าด้วย สามปีนี้เจ้าสามารถทำสิ่งที่ท่าป๋าเย่าอยากทำได้ตามสบาย อีกสามปีหลังจากนี้จงลืมว่าเจ้าเคยเป็นท่าป๋าเย่าไปเสียแล้วเริ่มด้วยชีวิตใหม่ด้วยการเป็นไป๋อวี๋เซิง เจ้าทำได้หรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนหวังว่าอีกสามปีหลังจากนี้ท่าป๋าเย่าจะวางความแค้นทั้งหมดลงและเริ่มต้นชีวิตใหม่
“ทำได้ขอรับ!” ท่าป๋าเย่าพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ดี เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ พวกเรา…เข้าไปในเมืองหลวงของตงอี๋กัน!” ไป๋ชิงเหยียนจับมือของเสิ่นชิงจู๋ลุกขึ้นยืน “เสี่ยวชี…ไปกันเถิด!”
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกไป๋จิ่นเซ่อ
ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า จากนั้นหันไปทางท่าป๋าเย่า “เจ้าระวังตัวให้ดี หากมีสิ่งใดจงเขียนจดหมายไปรายงานพี่หญิงใหญ่”
ท่าป๋าเย่าพยักหน้า “ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
ท่าป๋าเย่าหยิบหน้ากากพลางลุกขึ้นยืน เขามองส่งไป๋ชิงเหยียนเดินออกไปจากศาลา จากนั้นโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง เขาก้มมองหน้ากากซึ่งอยู่ในมือจากนั้นสวมมันที่ใบหน้าของตัวเอง
“องค์ชายเจ็ด พวกเราขึ้นรถม้ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ” หลูผิงกล่าวกับท่าป๋าเย่า
ท่าป๋าเย่าพยักหน้า เขารู้สึกเริ่มเจ็บที่ลำคอของตัวเอง เขาฝืนเดินตามหลูผิงไปยังรถม้า
“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นเซ่อเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนไป “ข้าขอบคุณแทนอวี๋เซิงด้วยนะเจ้าคะ”
ไป๋จิ่นเซ่อฉลาดตั้งแต่เล็กนางรู้ดีว่าที่พี่หญิงใหญ่อยากให้ไป๋อวี๋เซิงสวมรอยเป็นองค์ชายเจ็ดของแคว้นตงอี๋เพื่อขึ้นครองราชย์เป็นเพราะพี่หญิงใหญ่จดจำคำที่นางกล่าวว่าอยากให้อวี๋เซิงมีความสุขไปตลอดชีวิตได้
ไป๋จิ่นเซ่อไม่ได้ไม่รับรู้ความแค้นในใจของท่าป๋าเย่า ทว่า ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนคือพี่เขยของนาง ต่อให้นางจะรู้ว่าท่าป๋าเย่าอยากแก้แค้น ทว่า นางอยากเชื่อมากกว่าว่าท่าป๋าเย่าจะลืมเรื่องในอดีตทั้งหมดและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
ปล่อยให้ไหลไปดีกว่าอุดขวางไว้…
พี่หญิงใหญ่ให้เวลาท่าป๋าเย่าสามปีในการใช้ตงอี๋แก้แค้นต้าเยี่ยน สามปีหลังจากนี้ท่าป๋าเย่าต้องวางความแค้นทั้งหมดลง เช่นนี้ท่าป๋าเย่าจึงจะสามารถหลุดพ้นจากความแค้นได้อย่างจริงๆ
“เขายังเล็ก หนทางข้างหน้าของเขายังอีกยาวไกล แทนที่จะปล่อยให้เขาใช้ชีวิตอย่างจมอยู่กับความแค้น ไม่สู้ปล่อยให้เขาได้แก้แค้นให้สะใจ เมื่อต้าเยี่ยนแพ้เดิมพัน แคว้นต้าเยี่ยนก็จะดับสูญ เขามีส่วนช่วยให้ต้าเยี่ยนดับสูญ” ไป๋ชิงเหยียนกุมมือน้องสาวพลางอธิบายให้ฟังอย่างไม่รีบร้อน “เช่นนี้เขาถึงจะก้าวผ่านความแค้นที่มีและเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีความสุขได้อย่างแท้จริง!”