ตอนที่ 1486 คนตกปลาได้ประโยชน์
ไป๋ชิงเหยียนจำได้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนเคยบอกนางว่าซีไหวอ๋องเคยกล่าวไว้ว่าหลานชายของเขามีจิตใจทะเยอทะยานมากกว่าเขา ดังนั้นต่อให้ไป๋ชิงเหยียนจะไม่เคยสนทนากับท่าป๋าเย่ามาก่อนนางก็รู้ดีว่าท่าป๋าเย่าโกรธแค้นต้าเยี่ยนมากเพียงใด เด็กคนนี้คงไม่ถึงกับขนาดหวาดระแวงอาแท้ๆ ของตัวเองหรอกกระมัง
ที่สำคัญท่าป๋าเย่าเป็นถึงจักรพรรดิของแคว้นเว่ย ทว่า กลับยอมลดตัวเป็นเพียงองครักษ์ของตระกูลไป๋เพื่อตอบแทนบุญคุณของไป๋จิ่นเซ่อ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มาก
การสูญเสียครอบครัวและทุกคนในตระกูลทั้งๆ ที่เป็นเพียงเด็กตัวเล็กอ่อนแอคนหนึ่ง ทว่า กลับมีใจแรงกล้าที่อยากจะแก้แค้นและสามารถอดกลั้นความแค้นไว้ในใจได้ทำให้ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงตัวเองในตอนที่ยังไม่ได้กลับมาเกิดใหม่ นางอยากช่วยดึงเด็กคนนี้ขึ้นมา ทว่า ไม่อยากใช้หลอกใช้เขาโดยที่เขาไม่รับรู้เช่นเดียวกับที่เหลียงอ๋องเคยใช้กับนาง แม้ท่าป๋าเย่าจะยังเล็ก ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเลือกที่จะบอกความคิดของตัวเองและเรื่องที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเขาให้เขารับรู้ทั้งหมด
“ซีไหวอ๋องคงไม่หยุดตามหาท่าป๋าเย่า ที่สำคัญเขารู้แล้วว่าท่าป๋าเย่าอยู่กับตระกูลไป๋ เราต้องหาทางรับมือกลับซีไหวอ๋องไว้ด้วย”
ไป๋ชิงเจวี๋ยนึกถึงสาเหตุที่ไป๋จิ่นเซ่อพาท่าป๋าเย่ามายังเมืองจินกว่านขึ้นมาได้
“เมื่อจบเรื่องของตงอี๋พี่จะไปพบซีไหวอ๋องด้วยตัวเอง”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางก้าวขึ้นไปบนหลังม้า
“ตอนนี้ผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนนำทัพถึงที่ใดแล้ว”
ไป๋ชิงเจวี๋ยก้าวขึ้นหลังม้าเช่นเดียวกัน จากนั้นเอ่ยตอบ
“น่าจะอยู่ห่างจากประตูทิศตะวันตกของเมืองหลวงแค่สี่ห้าลี้เท่านั้นขอรับ ทว่า ไม่ว่าอย่างไรก็เร็วสู้กองทัพไป๋ของพวกเราไม่ได้ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองเครื่องแต่งกายทะมัดทะแมงของน้องสาวคนเล็ก จากนั้นเอ่มถามยิ้มๆ
“นำเสื้อเกราะมาด้วยหรือไม่”
ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า
“นำมาเจ้าค่ะ”
“ชิงจู๋ เปลี่ยนชุดให้เสี่ยวชี พวกเราจะเข้าเมืองพร้อมกับกองทัพ!”
ไป๋ชิงเหยียนหันหัวม้าไปทางทิศที่กองทัพใหญ่รออยู่
“เจ้าค่ะ!”
เสิ่นชิงจู๋รับคำ
ไป๋จิ่นเซ่อเปลี่ยนไปสวมเสื้อเกราะเหล็กสีเงิน เมื่อนางไปรวมตัวกับกองทัพใหญ่พร้อมกับเสิ่นชิงจู๋ก็ถูกไป๋จิ่นจื้อลากไปอีกทาง
“เจ้าช่วยคลายความสงสัยให้พี่ที เจ้าพาองครักษ์ข้างกายของเจ้ามาทำอันใดที่นี่ สิ่งที่อวี๋เซิงกล่าวว่าพร้อมตายไปข้างหนึ่งกับต้าเยี่ยนหมายความว่าอย่างไรกัน”
ไป๋จิ่นจื้อขี่ม้าเคียงข้างไปกับไป๋จิ่นเซ่อพลางเอ่ยถามเสียงเบา
ไป๋จิ่นเซ่อรู้ว่าพี่หญิงสี่ของตัวเองเป็นคนเก็บความลับไม่ค่อยอยู่จึงกล่าวยิ้มๆ
“พี่หญิงสี่น่าจะรู้ว่าข้าช่วยชีวิตอวี๋เซิงมาจากซีเหลียง บิดาของอวี๋เซิงเสียชีวิตด้วยน้ำมือคนต้าเยี่ยน เขามีความแค้นกับต้าเยี่ยน พี่หญิงใหญ่อยากให้อวี๋เซิงอยู่เป็นสายลับของต้าโจวในตงอี๋ เขายังเด็กไม่น่ามีผู้ใดสงสัยในตัวเขา ที่สำคัญตระกูลไป๋มีบุญคุณต่อเขา อวี๋เซิงไม่มีทางทรยศตระกูลไป๋เจ้าค่ะ”
“อ้อ…”
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า นางไม่ได้ถามสิ่งใดต่อ ทำเพียงขี่ม้าตามหลังพี่หญิงใหญ่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของตงอี๋เท่านั้น
ทหารตงอี๋ที่อยู่บนกำแพงเมืองมองเห็นธงเฮยฟานไป๋หมั่งและขบวนทัพอันยิ่งใหญ่ของกองทัพไป๋มาแต่ไกล ทหารตงอี๋รีบวิ่งลงจากกำแพงเมืองไปรายงานฮองเฮา
“ฮองเฮา กองทัพไป๋มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
แค่ประโยคเดียวก็ทำให้เหล่าขุนนางตงอี๋ที่เผชิญกับเหตุการณ์ที่จักรพรรดิองค์ใหม่ของตงอี๋ถูกธนูสังหารเสียวสันหลังวาบทันที
ฮองเฮาจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อย ไม่รู้ว่าฝ่ามือของนางชื้นเหงื่อตั้งแต่เมื่อใด นางหันไปถามหัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์
“ผู้สำเร็จราชการขอต้าเยี่ยนนำทัพต้าเยี่ยนเดินทางมาถึงที่ใดแล้ว”
“ถ้าจะอยู่ห่างจากประตูทิศตะวันตกประมาณห้าลี้พ่ะย่ะค่ะ กองทัพไป๋คงถึงก่อนแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
หัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์กล่าว
ฮองเฮาแสร้งทำเป็นยิ้มออกมาด้วยท่าทีปกติ
“ต้าโจวและต้าเยี่ยนล้วนอยากเดินทางถึงเมืองหลวงตงอี๋เป็นฝ่ายแรกเพื่ออำนาจในการตัดสินขาดในเมือง เดี๋ยวปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกันเองแล้วกัน พวกเราจะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในภายหลัง”
“ฮองเฮาตรัสถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์กล่าวจบก็อดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ เขากำดาบในมือแน่น “ทว่า ตอนนี้ต้าเยี่ยนเดินทางมาเช่นเดียวกัน ต้าโจวจะคิดเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ ต้าโจวพาองค์ชายเจ็ดมาจริงหรือแค่หลอกให้พวกเราเปิดประตูเมืองเพื่อทำลายล้างแคว้นตงอี๋เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แน่ใจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องห่วง ต้าโจวไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่”
ฮองเฮาของตงอี๋มั่นใจว่าต้าโจวต้องเก็บตงอี๋ไว้เพื่อสร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยนแน่
“เก็บตงอี๋ไว้มีประโยชน์สำหรับต้าโจวมากกว่าทำลายตงอี๋ทิ้ง ต้าเยี่ยนสนับสนุนให้องค์ชายสองก่อกบฏขึ้นเป็นจักรพรรดิของแคว้นตงอี๋ก็เพื่อต้องการยืมมือของตงอี๋สร้างปัญหาให้ต้าโจว! ตอนนี้สถานการณ์กลับกันแล้ว ต้าโจวย่อมอยากให้ตงอี๋สร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยนเช่นเดียวกัน อย่าคิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวเป็นเพียงสตรีจึงไม่มีความกล้าและความแค้น สตรีเจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่งกว่าบุรุษเสียอีก! มิเช่นนั้นนางคงไม่ยกทัพบุกมาทำสงครามกับตงอี๋ด้วยตัวเองเพียงเพราะการเสียชีวิตของหานเฉิงอ๋องแน่!”
“ฮองเฮาตรัสถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์ได้ฟังการวิเคราะห์ของฮองเฮาจึงวางใจลงไม่น้อย
ไม่นานทหารอีกคนก็วิ่งลงมาจากกำแพงเมือง เขาทำความเคารพฮองเฮา
“ฮองเฮา กระหม่อมเห็นจักรพรรดินีต้าโจวทรงม้ามุ่งตรงมายังเมืองหลวงแล้ว ด้านหลังของนางมีรถม้าเคลื่อตามมาหนึ่งคัน อาจเป็นองค์ชายเจ็ดพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮองเฮาได้ยินรายงานจึงกำมือแน่น ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย ทว่า แฝงไปด้วยความกังวล นางหันไปกล่าวกับนางกำนัลของตัวเอง
“เจ้าขึ้นไปดูบนกำแพงทีว่าเจียงโข่วองครักษ์ขององค์ชายเจ็ดเดินทางมาด้วยหรือไม่”
“เพคะ!”
นางกำนัลของฮองเฮารีบวิ่งขึ้นไปดูบนกำแพงทันที ทว่า ไม่รู้เป็นเพราะแสงแดดจ้าเกินไปหรือไม่นางจึงมองเห็นภาพเบื้องหน้าไม่ชัดเจนสักเท่าใดนัก นางได้แต่กลับไปรายงานฮองเฮาว่าแสงแดดจ้าเกินไปจนนางมองเห็นไม่ชัด
ฮองเฮาได้ยินรายงานจึงมองไปทางนางกำนัลที่มีท่านทีอึกอักแวบหนึ่ง จากนั้นกำมือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อแน่นขึ้นกว่าเดิม นางกำผ้าเช็ดหน้าซึ่งอยู่ในมือข้างหนึ่งแน่นอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ปกติ ทว่า ยังคงเม้มปากแน่น
ไม่นานขบวนกองทัพไป๋ซึ่งมีธงสัญลักษณ์เฮยฟานไป๋หมั่งที่ยิ่งใหญ่จึงปรากฏแก่สายตาของฮองเฮาและเหล่าขุนนางของตงอี๋ท่ามกลางแสงแดดอ่อนในฤดูใบไม้ผลิ
ทหารหลายหมื่นของกองทัพไป๋เคลื่อนขบวนมาอย่างพร้อมเพรียงและเกรียงไกรจนผู้คนไม่กล้าสบตากับพวกเขา
เหล่าขุนนางหันไปวิพากษ์วิจารณ์กันเสียงเบา กองทัพไป๋เป็นกองทัพยอดฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาดีเช่นนี้นี่เอง…แคว้นตงอี๋จึงพ่ายแพ้อย่างราบคาบเช่นนี้ จักรพรรดินีต้าโจวจึงกล้าประกาศกร้าวว่าจะยึดครองตงอี๋ให้ได้ภายในสามวัน
ก่อนหน้านี้ขุนนางของตงอี๋ยังคิดว่าต้าโจวเหิมเกริมเกินไป ทว่า ต้าโจวมีสิทธิเหิมเกริมและมีความสามารถมากพอที่จะเหิมเกริมได้จริงๆ
ทหารเรือที่ตงอี๋ภาคภูมิใจไม่เพียงถูกต้าโจวโจมตีจนพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ ทหารบกของตงอี๋ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับกองทัพบกของต้าโจวอีกด้วย พวกเขาจะชนะได้อย่างไรกัน
องค์ชายสองผู้กบฏของตงอี๋ผู้นั้นเหิมเกริมเกินไปจนแคว้นตงอี๋ของพวกเขาเดือดร้อนเช่นนี้
ต้าโจวคือแคว้นที่ทำลายต้าเหลียงจนดับสูญได้ แคว้นเล็กอย่างตงอี๋เป็นเพียงแคว้นบรรณาการของแคว้นต้าเหลียงเท่านั้น!
ไม่นานฮองเฮาและขุนนางของตงอี๋จึงเห็นจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนของต้าโจวซึ่งสวมชุดเกราะสีเงินขี่ม้านำอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน