ตอนที่ 3107 แรกกำเนิดดุจดั่งคุก กาลเวลาเป็นบทลงทัณฑ์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3107 แรกกำเนิดดุจดั่งคุก กาลเวลาเป็นบทลงทัณฑ์

เสียงพูดเนิบนาบ ไอสังหารไม่รู้จบ!

วู้ม…

เพิ่งสิ้นสุดเสียง พลังกฎระเบียบที่กดทับบนตัวหลินสวินและจอมมารหูยงอันตรธานหายไป ทั้งคู่ล้วนเหมือนได้อิสรภาพคืนอีกครั้ง พลังขับเคลื่อนทั่วร่างกึกก้องโคจร

ก็เห็นแขนเสื้อจอมมารหูยงปลิวลอย กลางฝ่ามือปรากฏพู่กันเขียวมรกตหยาดเยิ้มด้ามหนึ่ง กระหวัดลากกลางห้วงอากาศ ภาพวันโลกาวินาศยามพลบค่ำที่ขุ่นมัวปรากฏ ปวงเทพร่วงหล่นอยู่ในนั้น ศพนับไม่ถ้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน กลิ่นอายความตายที่ไม่อาจอธิบายได้แผ่กว้างออกไปเงียบๆ

สายัณห์วันสิ้นโลกเคลื่อนคล้อย!

นี่คือวิชามรรคสูงสุดที่ผสานรวมอยู่ในกฎระเบียบกาลเวลา ระหว่างที่ละเลงวาด ดุจธรรมชาติรังสรรค์

พวกสิงเจี้ยนสยาหนังตากระตุก หน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ

ทันทีที่ลงมือจอมมารหูยงถึงกับใช้ไพ่ตายแล้ว!

“เห็นชัดว่าเจ้ามารเฒ่านี่ถูกการตายของกู่เชาจือกระตุ้นแล้ว!”

พวกแม่เฒ่ากระเรียนเซียนก็หัวใจหนักอึ้งเช่นกัน

โดยทั่วไปพลังแห่งกาลเวลายากยิ่งจะสั่นคลอนขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ เพราะผู้แข็งแกร่งที่มีพลังปราณระดับขั้นนี้แทบจะหยั่งถึงและครอบครองกฎระเบียบกาลเวลาส่วนหนึ่งได้นานแล้วไม่มากก็น้อย

แต่จอมมารหูยงต่างออกไป เขาหยั่งถึงฎระเบียบกาลเวลาถึงระดับสูงสุด ฐานมรรคและหัวใจหลักของมหามรรคที่เขาเสาะแสวงก็คือกฎระเบียบกาลเวลา

ในยุคมารก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว จอมมารหูยงก็มีฉายาว่า ‘ราชันกาลเวลา’

อย่าง ‘สายัณห์วันสิ้นโลกเคลื่อนคล้อย’ วิชามรรคสูงสุดที่เขาสำแดงในเวลานี้ ก็คือการใช้กฎระเบียบกาลเวลาจนถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง

ก็เห็นในลานประลองเป็นตาย หลินสวินรวบนิ้วเป็นกระบี่ฟันตัดออกไปอย่างเรียบง่ายแผ่วเบา

ฉัวะ!

เจตกระบี่สาบหนึ่งพุ่งปราดกลางห้วงอากาศ ดุจดั่งระลอกคลื่นเงาแสงที่ลอยล่องทอประกาย เมื่อเจตกระบี่แผ่กว้าง ฟ้าดินดุจกระดาษวาดภาพ ถูกกรีดกระจุยเป็นชิ้นๆ อย่างรุนแรง

ภาพสายัณห์วันสิ้นโลกนั่นก็พังทลายแตกกระจุยไปพร้อมกัน!

ทั่วลานโกลาหล

ลายไพ่ตายของจอมมารหูยงด้วยกระบี่เดียวเช่นนี้หรือ

ทุกคนล้วนถูกภาพนี้ทำให้ตกใจ เบิกตากว้าง ในใจก็ฮึกเหิมไม่หยุด เริ่มคาดหวังต่อหลินสวินอีกครั้ง

พวกอิงเทียนเซิงที่อยู่บนด่านนภาจตุลักษณ์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

“กระบี่นี้อัศจรรย์ยิ่ง ภายในนี้บรรจุนัยเร้นลับกาลเวลา มีการต่อต้านกับมหามรรคของข้ารำไร น่าสนใจ”

นัยน์ตาจอมมารหูยงวาววับ คล้ายถูกกระบี่นี้ปลุกจิตต่อสู้ทั้งหมดภายในใจขึ้น

ตูม!

แขนเสื้อเขาพลิ้วไหว เงาแสงทั่วร่างไหลหลั่ง กลิ่นอายพุ่งขวางเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน พู่กันมรรคสีเขียวในมือตวัดตามใจในห้วงอากาศ

พู่กันตวัดขึ้นสรรพสิ่งกำเนิด

พู่กันตวัดลงลมฝนแตกตื่น!

ก็เห็นแม่น้ำใหญ่เวิ้งว้างเป็นสายๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เสมือนธารแห่งเก้าสวรรค์ ไหลทะลักเชี่ยวกราก ฟองคลื่นซัดสาดนั่นเต็มไปด้วยเรื่องราวนับไม่ถ้วน สรรพชีวิตหมื่นเรื่องราวผันเปลี่ยนอยู่ในนั้น ร่วงโรยรุ่งโรจน์ว่ายเวียน เป็นตายแทรกสลับ

ก็เหมือนดั่งสายน้ำแห่งกาลเวลา เจาะทะลวงปราการอดีตและปัจจุบัน คำรามเคลื่อนขวางมาเยือน หมายจะท่วมทุกสิ่งภายในลานประลองเป็นตาย!

กว้างใหญ่ไพศาล ตระการตาซัดสาด!

อานุภาพสะเทือนโลกเช่นนั้นทำเอาอิงเทียนเซิงอดร้องชมไม่ได้ “‘ทะเลครามไร้ขอบเขตนภาหมื่นกาล’ เยี่ยมนัก!”

การโจมตีระดับนี้สามารถทำให้ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่บางส่วนจบชีวิตได้!

พริบตาเดียว…

หลินสวินเหมือนอยู่บนมหาสมุทรไพศาล สี่ทิศแปดทางเต็มไปด้วยกระแสกาลเวลาที่ไหลเชี่ยวเข้ามา อึงอลซัดกระหน่ำ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาเต็มไปด้วยอานุภาพยากจะจินตนาการ

กลิ่นอายอันตรายที่ปะทะเข้ามาทำเอาหลินสวินสัมผัสถึงแรงกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน

สมกับเป็นจอมมารสะท้านยุคที่ไม่ด้อยไปกว่าซินหู การใช้กฎระเบียบกาลเวลาระดับนั้นน่าสะพรึงอย่างเหนือคาด และห่างไกลเกินกว่ากู่เชาจือจะเทียบได้

ทว่านี่ก็เป็นการต่อสู้ที่หลินสวินตั้งตาคอยพอดี

เขาต้องการการเคี่ยวกรำเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย มีเพียงทำเช่นนี้จึงจะสามารถทำให้มรรควิถีในตัวเปลี่ยนแปลงโดยสมบูรณ์ และก้าวสู่ขั้นไร้ขอบเขตได้!

และการต่อสู้ตรงหน้านี้ก็คือสิ่งที่หลินสวินเฝ้ารอมากที่สุด

ฟุ่บ!

หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แขนเสื้อสะบัดโบก ฟันฝ่ามือดุจดาบ

ตูม… โครม… ตูม…

กระแสกาลเวลาที่โหมกระหน่ำซัดสาดลูกแล้วลูกเล่าถูกพลังฝ่ามือเรืองรองดุกร้าวผ่าออก แนวคลื่นพังทลาย ม้วนตลบนับพันชั้น

มองจากไกลๆ ก็เห็นหลินสวินเดินตะลุยคลื่น พลังฝ่ามือแต่ละสายดุจดั่งปราณดาบยาวพันจั้ง เคลื่อนขวางตัดสลับ ควบตะบึงเหนือหมื่นกระแสทะเลคราม!

เงาร่างเขาสูงโปร่ง ไม่ได้ใช้ร่างแยกทั้งสามก่อนหน้านี้ เดินตะลุยทะเลครามพลางโบกฝ่ามือผ่าคลื่น ดูสบายอารมณ์ปานนั้น เฉิดฉายเพียงนั้น

และพลังโจมตีแต่ละครั้งก็น่าสะพรึงถึงเพียงนั้น

ในลานประลองฟ้าดิน เสียงก้องกระหึ่มดังไม่หยุด ทะเลครามเดือดพล่าน กระแสคลื่นโหมสาดน่าสะพรึงขึ้นเรื่อยๆ แต่หลินสวินกลับเหมือนแสงคมกริบไร้ทัดเทียมสายหนึ่ง ผ่าแหวกกาลเวลา ฟันลมตัดคลื่น!

“หากเปลี่ยนเป็นข้า เกรงว่าอย่างมากที่สุดก็คงทำได้เพียงเท่านี้…”

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าพึมพำ จิตใจไหวสะท้าน ล้วนไม่กล้าเชื่อว่านี่คือพลังต่อสู้ที่ขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินจะมีได้

“พลังกาลเวลาที่เจ้าหมอนี่ครอบครองเห็นชัดว่าแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ หาไม่ย่อมไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนี้เด็ดขาด”

มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ขมวดคิ้ววิเคราะห์ ยิ่งมองยิ่งตกใจ

“น่าเสียดาย เขายังคงไม่สามารถหลุดพ้นจากทะเลครามกาลเวลานั่น…”

มีคนวิตกกังวล

พลังที่หลินสวินสำแดงออกมาเย้ยฟ้ายิ่งจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายก็ยังถูกพลังของจอมมารหูยงล้อมกรอบ!

พวกสิงเจี้ยนสยาล้วนไม่เอ่ยวาจา เพ่งสมาธิจับจ้องลานประลอง

เพียงแต่ในใจกลับเหมือนธนูที่ง้างตึง ไม่อาจผ่อนคลายลงได้

บนด่านนภาจตุลักษณ์ก็เงียบกริบทั้งแถบเช่นเดียวกัน เฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างพวกอิงเทียนเซิงล้วนจดจ่ออยู่ที่ลานประลอง กลั้นหายใจเพ่งสมาธิ

“จมลอยคล้อยตามคลื่น ต่อให้อาศัยความสามารถยิ่งใหญ่ของเจ้าก็ต้องถูกลมพัดฝนสาดอยู่ดี!”

ในลานประลองเป็นตาย จอมมารหูยงเอ่ยปากเนิบนาบ พู่กันมรรคสีเขียวในมือเขาเปลี่ยนไปทันควัน อานุภาพแข็งแกร่งรุนแรงดุจลากภูเขาเทพหมื่นกาล

และในทะเลครามกาลเวลา คลื่นยักษ์โหมสาดไร้จุดสิ้นสุด พายุหมุนกรรโชกและห่าฝนบ้าคลั่งพัดพาขึ้นพร้อมกัน หอบม้วนทะเลท้องฟ้าแผ่ออกไปเสียงดังโครมคราม

ยิ่งมีสายฟ้าแลบอสนีบาตรหนาเท่าถังน้ำหล่นร่วงลงมา!

ทั่วทั้งทะเลครามดุจดั่งกลายเป็นวันสิ้นโลก

และหลินสวินที่อยู่ในนั้นเงาร่างเริ่มซวนเซอย่างรุนแรง บางครั้งถูกคลื่นยักษ์ซัดสาด บางครั้งถูกพายุกระหน่ำกวาดพัด บางครั้งถูกสายฟ้าโจมตี บางครั้งถูกพายุฝนฟ้าคะนองปิดครอบ…

เพียงอึดใจเท่านั้นก็บาดเจ็บหมดสภาพ โลหิตย้อมอาภรณ์!

“นี่…”

“พลังของเฒ่าหูยงไม่ใช่สิ่งที่กู่เชาจือจะเทียบได้สักนิด!”

“เจ้าหลินสวินนี่อันตรายแล้ว!”

พวกแม่เฒ่ากระเรียนเซียนล้วนสีหน้าเปลี่ยนไปมา สถานการณ์ตรงหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดแล้ว หลินสวินตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ อาจประสบเคราะห์ได้ทุกเมื่อ

“เหล่าสิง…”

จอมมรรคซานเฟิงเคร่งเครียดจนเปล่งเสียงออกมาอย่างอดไม่ได้ กลับถูกสิงเจี้ยนสยาตัดบท “แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ตื่นเต้นอะไรกัน ชมการต่อสู้ต่อไปก็พอ”

จอมมรรคซานเฟิงหุบปากทันควัน

เขาไม่รู้ว่าภายในใจสิงเจี้ยนสยาเวลานี้ก็เคร่งเครียดไม่หยุดพอๆ กัน

เมื่อมองทางพวกฟู่หนานหลี สีหน้าแต่ละคนต่างก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน

ตูม!

เหนือหมื่นกระแสทะเลครามในพายุคลั่งฝนฟ้าคะนอง หลินสวินสำแดงกายมรรคทั้งสามอย่างไม้เขียว เพลิงแดงและดินเหลืองในที่สุด หลุดพ้นจากสถานการณ์อันตรายสุดหยั่งออกมาได้ในคราวเดียว

“เปิด!”

เขาตะโกนลั่น ร่างต้นของเขาและกายมรรคทั้งสามเปล่งแสงพร้อมกัน สั่งฟ้าฟาดดิน ปั่นป่วนทะเลคราม ทำลายเมฆลมสายฟ้า สำแดงอานุภาพอหังการไร้ขอบเขตออกมา

ตูม!

ทะเลครามกาลเวลาอันกว้างใหญ่ถึงกับมีร่องรอยฉีกขาดออกจากกันในชั่วอึดใจ

ทั่วลานปั่นป่วน

แต่มีเพียงจอมมารหูยงคนเดียวที่หัวเราะร่าเริง “สู้สุดชีวิตแล้วอย่างไร เสียแรงเปล่า”

พู่กันมรรคสีเขียวในมือเขาจรดลงพื้นอย่างแรง

ตูม!

ทะเลครามกาลเวลาเดือดคลั่งทันที ปรากฏเปลวเพลิงมหาศาลออกมา เพียงครู่เดียวก็ทำเอาที่นั่นกลายเป็นทะเลเพลิงแถบหนึ่ง กระแสเชี่ยวกรากเดือดพล่านลุกโชนเหมือนหินหนืดคำราม ปลดปล่อยอานุภาพน่าสะพรึงที่หลอมวัฏจักรผลาญทำลายหมื่นชีวิตออกมา

นั่นคือเพลิงแห่งกาลเวลา!!

และนี่ก็คือไพ่ตายของจอมมารหูยง หนึ่งความคิดทะเลเปลี่ยน หมื่นกระแสแปรเป็นเพลิง!

ตูมโครม…

ในลานประลองเป็นตาย เปลวเพลิงดุจกระแสน้ำครอบฟ้าคลุมดิน ทะเลไหลเชี่ยวผลาญเผาปวงหล้า

อานุภาพระดับนั้นทำให้บรรดาผู้ชมที่อยู่ไกลออกไปล้วนอุทานเหงื่อตก เสียวสันหลังวาบ!

และยามประสบกับการโจมตีระดับนี้ หลินสวินที่แต่เดิมจวนจะพ้นวิกฤตก็จมสู่อันตรายอีกครั้ง แม้ว่ากายมรรคทั้งสามจะร่วมกันบุกโจมตีเต็มกำลังแต่ก็ยังท่าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด

ภาพนั้นน่ากลัวเกินไป

ใช้กาลเวลาเป็นมหาสมุทร ผลาญฟ้าดับปฐพี!

ความกร้าวแกร่งของจอมมารหูยงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในเวลานี้เช่นกัน

“หากไม่เพราะนี่คือศึกตัดสินเป็นตาย ข้าก็อยากให้หูยงไว้ชีวิตเจ้าหมอนี่สักครั้งจริงๆ…” อิงเทียนเซิงทอดถอนใจ

กระนั้นภาพที่เหนือความคาดหมายของผู้คนก็ปรากฏขึ้น…

ยามเห็นว่าหลินสวินเริ่มส่อแววจะยืนหยัดไม่ไหว ข้างกายเขาก็มีกายมรรคพุ่งปราดออกมาอีกสองสาย

เป็นกายมรรคทองขาวและและกายมรรควารีดำ

และเวลานี้ร่างต้นของหลินสวินนัยน์ตาวาบประกายเย็นเยียบ คำรามเสียงยาว “เปิด!”

ตูม!!

กระแสกาลเวลาที่เปลวเพลิงท่วมฟ้าแตกระเบิดกึกก้อง

ทะเลครามกาลเวลาอันไพศาลถูกซัดระเบิดในเวลานี้!

หลินสวินและกายมรรคทั้งห้าของเขาบุกฝ่าวงล้อมแน่นประหนึ่งเทพสวรรค์ กลิ่นอายน่าสะพรึงที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างทำเอาทั่วลานล้วนเงียบกริบ ไหวสะท้านเพราะเหตุนี้

“ห้ากายมรรค!!?”

มีคนอุทานตกใจ

“เจ้าหมอนี่ซ่อนคมได้ลึกเกินไปแล้ว…”

มีคนสูดหายใจสะท้าน

“ฮ่าๆๆ ดี!”

ยิ่งมีคนหัวเราะลั่นด้วยความตื่นเต้น

จอมมรรคซานเฟิงที่ก่อนหน้านี้เคร่งเครียดเป็นกังวลแทนหลินสวินไม่หยุดยังอดระเบิดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ จุดพลิกผันนี่… ช่างเร้าใจเกินไปแล้ว!!

และสีหน้าของพวกอิงเทียนเซิงก็แข็งทื่อโดยพร้อมเพรียง

ห้ากายมรรคหรือ

นี่ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง!

และพร้อมกันนั้นบนลานประลองเป็นตายเงาร่างจอมมารหูยงโอนเอน ริมฝีปากหลั่งคราบเลือดออกมาสายหนึ่ง สีหน้าที่สงบเรียบนิ่งมาโดยตลอดเวลานี้ก็เผยแววอึมครึมขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งแล้วเช่นกัน

ทะเลครามกาลเวลาถูกทลาย ทำให้เขาก็ได้รับการสะท้อนกลับด้วยเช่นกัน

แต่เมื่อเทียบกับเรื่องพวกนี้ สิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าคือหลินสวินดันยังซ่อนสองกายมรรคเอาไว้อีก นี่คือสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนเช่นเดียวกัน

“น่าเสียดายนัก”

หลินสวินถอนใจเบาๆ

ก่อนหน้านี้ยามสังหารกู่เชาจือเขาก็เคยถอนใจเสียงเบาเช่นนี้ เพียงแต่กระทั่งหลังจากกู่เชาจือร่วงหล่น ผู้คนจึงตระหนักได้ว่าเขากำลังเสียดายอะไรอยู่

และตอนนี้เขาส่งเสียงทอดถอนใจอีกครั้ง

นี่หมายความว่าเขาเตรียมจะใช้พลังทั้งหมดสังหารจอมมารหูยงใช่หรือไม่

คิดถึงตรงนี้ในใจพวกแม่เฒ่ากระเรียนเซียนล้วนไหวสะท้าน

ตูม!

ไม่รอให้ผู้คนมีเวลาใคร่ครวญมากเกินไป หลินสวินและกายมรรคทั้งห้าของเขาออกโจมตีเต็มกำลัง

“น่าเสียดายหรือ วางใจได้ ในเมื่อข้าผู้นี้เคยบอกว่าจะวากภาพ ‘ใบเหี่ยวบัวเฉา’ ให้เจ้า ย่อมต้องทำตามที่พูดแน่นอน!”

จอมมารหูยงเอ่ยปากเย็นเยียบ

สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก นัยน์ตาวาบประกายคมกาลเวลาอันน่าสะพรึง กลิ่นอายทั้งตัวคนล้วนเปลี่ยนไป เงาแสงซ้อนทับทั่วร่าง เปลวเพลิงพวยพุ่ง

เขาในอดีตเหมือนบัณฑิตคงแก่เรียนคนหนึ่ง

แต่เขาในเวลานี้จึงจะเป็นจอมมารสะท้านยุคที่ทรงอิทธิพลในหลายยุคสมัยอย่างแท้จริง!

ฟึ่บ!

แขนเสื้อเขาโบกสะบัด พู่กันมรรคสีเขียวในมือไหวเคลื่อน วาดโครงร่างภาพแรกกำเนิดออกมาในอึดใจนั้น ในความว่างเปล่าเทาขุ่นมีพลังกาลเวลาเติบโตอย่างบ้าคลั่ง

ความรู้สึกที่ให้แก่ผู้คนคือแดนแรกกำเนิดนั่นก็คือคุกที่สยบปวงหล้า พลังกาลเวลาที่เติบโตอยู่ในนั้นก็คือบทลงทัณฑ์ที่สังหารหมู่สรรพชีวิต

แรกกำเนิดดุจดั่งคุก กาลเวลาเป็นบทลงทัณฑ์!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท