ตอนที่ 3108 สังหารจอมมารหูยง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3108 สังหารจอมมารหูยง

คนที่สามารถเทียบรัศมีซินหูได้ ย่อมไม่มีทางเป็นพวกธรรมดา

และก่อนหน้านี้หลินสวินก็เพียงแหวกทลายวงล้อมแน่นหนา แม้จะทำให้จอมมารหูยงถูกพลังสะท้อนกลับ แต่นั้นก็เป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

ที่ผู้คนสั่นสะเทือน หลักๆ ล้วนเป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าหลินสวินยังมีกายมรรคอีกสองร่าง

และเมื่อเห็นหูยงลงมือพร้อมโทสะในเวลานี้ ใช้ไพ่ตายโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด ผู้คนล้วนตระหนักได้ว่าช่วงเวลาแห่งการตัดสินเป็นตายของศึกครั้งนี้ใกล้มาเยือนแล้ว!

ตูม!

แรกกำเนิดดุจดั่งคุก กักขังหลินสวินและกายมรรคทั้งห้าของเขาไว้ในนั้น พลังกาลเวลาเติบโตบ้าคลั่งราวกับคมดาบทัณฑ์สวรรค์ เห็นชัดว่าคมกริบไร้ทัดเทียม

การโจมตีนี้น่าสะพรึงยิ่งกว่าทะเลครามกาลเวลาเสียอีก!

กลับเห็นนัยน์ตาหลินสวินดุจเหว สูดหายใจลึกคราหนึ่ง

บนตัวร่างต้นของเขาปลดปล่อยแสงสว่างเจิดจ้าโดยพลัน ละอองแสงไร้สิ้นสุดไหลทะลัก ประตูเนรเทศปรากฏขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียง เสมือนปากใหญ่เปื้อนเลือดที่กลืนกินอาณาเขตพันจั้ง

ตูม โครม!

พลังทัณฑ์กาลเวลาที่ซัดโจมตีมาเยือนถูกกลืนกินอย่างเงียบๆ ไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนบนตัวหลินสวินแม้แต่น้อย

จากนั้นเมื่อพลังประตูเนรเทศแผ่กว้างราวกับกลืนกินฟ้าดิน แดนแรกกำเนิดดุจดั่งคุกนั่นพลันแตกระแหงพังครืน ถูกประตูเนรเทศกลืนกินหมดจด!

ส่วนหลินสวินและกายมรรคทั้งห้าของเขาหลุดจากการกักขัง ไม่บาดเจ็บแต่อย่างใด!

พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

นี่เป็นถึงไพ่ตายของจอมมารหูยง แต่กลับถูกกลืนกินไม่เหลืออย่างง่ายดาย!!

ความแตกต่างเกินไปนี้ทำให้คนล้วนรู้สึกมึนตื้อ

“หุบเหวกลืนกิน! เจ้าเป็นอะไรกับจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์”

และอึดใจนี้จอมมารหูยงหน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิง ร้องเสียงหลงออกมา

จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์!

ทั่วลานเงียบกริบ สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยล้วนเผยสีหน้าแปลกไป นึกถึงบุคคลระดับตำนานที่เคยเดินทางทั่วหล้าเพียงลำพัง ลึกลับดุจความฝันเมื่อนานมาแล้ว

ในคำเล่าลือ จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ครอบครองโชคชะตา บงการกฎกรรม ควบคุมกาลเวลา ทิ้งเรื่องเล่าอันเป็นตำนานที่ไม่อาจลบล้างไว้ในหลายยุคสมัย

แต่ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์จนบัดนี้ยังทำให้คนหลงใหลเพลินเพลินราวปริศนา

แต่สำหรับจอมมารหูยงที่เสาะหามรรคแห่งกาลเวลา ยิ่งรู้เกี่ยวกับจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์มากกว่าคนทั่วไปหลายโข

กล่าวได้ว่าในมรรคแห่งกาลเวลา จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์คือภูเขาลูกใหญ่ที่สูงล้ำจนไม่อาจข้ามผ่านได้จนถึงบัดนี้!

“ใกล้เป็นคนตายแล้วแท้ๆ ยังจะพูดพล่ามมากความเช่นนี้อีก”

หลินสวินส่ายหน้าน้อยๆ พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับกายมรรคทั้งห้า

ก่อนหน้านี้ในการต่อสู้เขาก็ตระหนักได้อย่างฉับไวแล้ว ว่าแม้พลังกาลเวลาที่จอมมารหูยงครอบครองเหล่านั้นจะน่าสะพรึงยิ่ง แต่กลับไม่อาจสั่นคลอนตนได้อย่างแท้จริง

สาเหตุเป็นเพราะกฎระเบียบกาลเวลาที่ตนครอบครองสามารถสลายอานุภาพส่วนใหญ่ของอีกฝ่ายได้โดยง่าย

นี่ทำให้หลินสวินตระหนักได้ว่าบนมรรคแห่งกาลเวลา พลังกฎระเบียบที่ตนครอบครองอาจไม่หนาหนักแข็งแกร่งเท่าจอมมารหูยง

แต่อานุภาพกฎระเบียบกาลเวลาที่ตนครอบครองกลับชนะอีกฝ่าย!

นี่ก็ประหนึ่งกระบี่แบบเดียวกัน เล่มหนึ่งเป็นศาสตราเทพสะท้านยุคที่คุณลักษณะเหนือธรรมดา อีกเล่มหนึ่งสร้างขึ้นจากเหล็กทองแดงธรรมดา คุณภาพต่างกันราวฟ้ากับเหว

หากไม่เพราะหลินสวินทำเพื่อเคี่ยวกรำมหามรรคของตน ก่อนหน้านี้เพียงใช้พลังอภินิหารพรสวรรค์ตรงๆ ก็สามารถสลายการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายแล้ว

และย่อมไม่มีทางบาดเจ็บสะบักสะบอมในการต่อสู้เช่นกัน

และเวลานี้เมื่อเห็นสีหน้าเหมือนตกใจสติหลุดยามเอ่ยถึงจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ของจอมมารหูยง ทำให้หลินสวินตระหนักได้ว่าในมรรคแห่งกาลเวลา ต่อให้คนแข็งแกร่งอย่างจอมมารหูยงก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ได้แน่นอน!

“ไม่ว่าเจ้าเป็นใครล้วนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

จอมมารหูยงใจเย็นลงโดยสมบูรณ์ กลิ่นอายเริ่มน่าสะพรึงขึ้นเรื่อยๆ พู่กันมรรคสีเขียวในมือร้องสนั่นโดยพลัน กลายเป็นวงล้อแสงกลมมนแวววาวโปร่งใสสายหนึ่ง

นี่ต่างหากคือโฉมหน้าแท้จริงดั้งเดิมของสมบัตินี้… วงล้อกาลเวลา!

และเป็นศาสตรามรรคนิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของจอมมารหูยง

วู้ม…

ไม่ทันไรสมบัตินี้ก็พุ่งพาดออกไป พริบตานั้นเสมือนอาทิตย์ดวงใหญ่ที่แปลงมาจากพลังแห่งกาลเวลาเคลื่อนขวาง สิ่งที่ปลดปล่อยออกมาคือละอองแสงกาลเวลาไม่รู้จบ งดงามพร่างตา น่าสะพรึงไร้สิ่งใดเทียม

แทบจะพร้อมกันนั้นหลินสวินก็เรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมา รุกโจมตีเต็มกำลัง

การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้น

บนลานประลองเป็นตาย ก็เห็นจอมมารหูยงบังคับวงล้อกาลเวลา กลายเป็นภาพประหลาดกลียุคที่น่าเหลือเชื่อทั้งปวง มีวันโลกาวินาศ มีทะเลครามไหลแนวขวาง มีแรกกำเนิดดุจดั่งคุก มีรุ่งโรยเวียนว่าย มี…

ภาพต่างๆ เหล่านั้นเห็นชัดว่าน่าสะพรึงไร้ที่เปรียบ

อย่างน้อยพวกเฒ่าชราไม่น้อยในที่นี้ล้วนยอมรับว่าหากเปลี่ยนเป็นพวกเขา ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของจอมมารหูยงสักนิด

ทว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไปหลินสวินกลับเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน

ไม่ว่าการรุกโจมตีของจอมมารหูยงจะอหังการน่าสะพรึงปานใด ล้วนถูกเขาสลายไปได้อย่างง่ายดาย เห็นชัดว่าน่าเหลือเชื่อถึงขีดสุด

ต่อให้เป็นสมบัติแข็งแกร่งอย่างวงล้อกาลเวลาก็ยังถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งต้านไว้ได้อยู่หมัด!

นี่ก็คือสาเหตุที่ใช้อภินิหารพรสวรรค์

นัยน์ตาของพวกสิงเจี้ยนสยา จอมมรรคซานเฟิงล้วนเปลี่ยนเป็นทอประกายวาววับทีละน้อย สภาวะจิตที่แต่เดิมประหม่ากดดันก็เปลี่ยนเป็นฮึกเหิมตื่นเต้นขึ้นมา

ส่วนสีหน้าของพวกอิงเทียนเซิงก็อึมครึมลงทีละน้อยเช่นกัน แววตกใจปนเคลือบแคลงตรงหว่างคิ้วชัดขึ้นเรื่อยๆ

สวบ!

ทันใดนั้นหลินสวินในลานประลองเป็นตายสำแดงอภินิหาร ‘ดาบกาลเวลา’ ผสานไปกับกระบี่มรรคภายในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแล้วฟันออกมาอย่างรุนแรง

ปึง!

แม้ว่ากระบี่นี้จะถูกต้านทานและสลายไป แต่ผู้คนกลับสังเกตเห็นอย่างน่าตระหนกว่ากลิ่นอายบนตัวจอมมารหูยงลดฮวบลงสวมส่วน!

นี่ราวกับมรรควิถีที่มีอยู่ทั้งตัวเขาถูกตัดทอนไปส่วนหนึ่ง แม้จะน้อยนิด แต่นี่ก็สามารถทำให้คนหวาดหวั่นได้

“ดาบกาลเวลา!”

จอมมารหูยงเอ่ยเสียงตกใจปนเดือดดาล นัยน์ตาเจือแววกริ่งเกรงที่ยากสังเกตอยู่รางๆ เสี้ยวหนึ่ง

มีหรือเขาจะไม่รู้อานุภาพของอภินิหารระดับนี้

แต่ที่ทำให้เขารู้สึกถูกโจมตียิ่งกว่าคือ ด้วยมรรควิถีในปัจจุบันของเขากลับไม่อาจต้านทานมันได้อย่างแท้จริง!

นี่หมายความว่าในมรรคแห่งกาลเวลา แม้ว่าตนจะเสาะหามาจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังห่างไกลไม่อาจเทียบกับจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ในยามนั้นได้ใช่หรือไม่

หากเป็นเช่นนี้ จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ในตอนนั้นต้องครอบครองพลังแห่งกาลเวลาที่สูงล้ำปานใด

สวบ! สวบ! สวบ!

ไม่รอให้จอมมารหูยงตั้งสติได้ ร่างต้นของหลินสวินควบคุมพลังดาบกาลเวลาบุกเข้ามาแล้ว ชั่วขณะนั้นทุกแห่งหนในลานประลองเป็นตายล้วนมีแต่ลำแสงไร้ทัดเทียมขาวโพลน พาดขวางตัดสลับ กรีดห้วงอากาศบริเวณนั้นออกเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วน

และกายมรรคทั้งห้าของหลินสวินก็รวมตัวเป็นกระบวนทัพ ล้อมกรอบควบคุมจอมมารหูยง ทำให้เขาไม่อาจหลบหนีได้สักนิด ได้แต่ปะทะกับร่างต้นของหลินสวินซึ่งหน้า

ตูม… โครม… ตูม…

เสียงระเบิดสะเทือนฟ้าดินดังก้องต่อเนื่อง เห็นชัดว่าจอมมารหูยงกำลังสู้สุดชีวิต โจมตีโดยไม่สนทุกสิ่ง แต่ทุกครั้งที่ปะทะกับดาบกาลเวลา กลิ่นอายบนตัวเขาก็จะถดถอยลงส่วนหนึ่ง

แม้ว่าแต่ละครั้งจะลดลงเพียงน้อยนิด แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ ก็อันตรายยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!

ภาพเหล่านี้ล้วนถูกทุกคนในที่นี้มองเห็นอยู่ในสายตา ใจหายใจคว่ำไม่หยุด

พวกเขามองออกแล้ว จอมมารหูยงถูกอภินิหารพรสวรรค์ของหลินสวินกดข่ม ในมรรคแห่งกาลเวลาที่ตัวเขาภูมิใจและเชี่ยวชาญที่สุด!

หาไม่ด้วยพลังต่อสู้ของเขาไม่มีทางสะบักสะบอมดูไม่ได้อย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้เด็ดขาด

เพียงครู่เดียวเท่านั้นกลิ่นอายทั่วร่างของจอมมารหูยงลดลงหนึ่งส่วน!

และยามการตอ่สู้ดุเดือดครั้งนี้ดำเนินถึงหนึ่งเค่อ ผิวพรรณราวเด็กหนุ่มของจอมมารหูยงล้วนเปลี่ยนเป็นดำหม่น ผมยาวดุจหมึกเริ่มแซมสีขาวโพลน

เสมือนแก่ตัวลงนับปีไม่ถ้วนในพริบตาเดียว

และมรรควิถีของเขาก็อ่อนกำลังลงสี่ส่วนเทียบกับยามเรืองรองสูงสุดก่อนหน้านี้!

ความแข็งแกร่งต่างกันเพียงเสี้ยวยังเป็นโอกาสชี้เป็นชี้ตายได้

นับประสาอะไรกับอ่อนแอลงสี่ส่วนเต็ม

สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นที่ชมการต่อสู้มาโดยตลอดล้วนขนลุกขนพอง สำหรับขั้นไร้ขอบเขตใหญ่คนหนึ่ง มรรควิถีถูกตัดทอนทีละน้อย นี่ต้องเป็นเรื่องน่าสะพรึงปานใด

“คิดไม่ถึงว่าพลังที่เคยปรากฏในตัวจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ในปีนั้น บัดนี้กลับมาปรากฏบนตัวหลินสวินคนนี้ได้…”

แม่เฒ่ากระเรียนเซียนก็ยังสะเทือนไหว

บนด่านนภาสี่ลักษณ์ สีหน้าของพวกอิงเทียนเซิงไม่ได้เคร่งขรึมแล้ว หากแต่เขียวคล้ำและร้อนรน

ไม่ว่าใครล้วนมองออกว่าจอมมารหูยงในตอนนี้เข้าขั้นวิกฤต!

และเวลานี้เอง…

ในลานประลองเป็นตาย เสียงปะทะสนั่นฟ้าระลอกหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความเลือนราง ดาบกาลเวลาประหนึ่งภาพลวงตาพริบวาบเลือนหาย

จากนั้นจอมมารหูยงแข็งทื่อไปทั้งตัว นัยน์ตาเผยแววไม่ยินยอมยิ่งยวด เสียงแหบพร่ากล่าวขาดๆ หายๆ “ข้า… ไม่ได้… แพ้ให้เจ้า…”

เสียงยังคงก้องสะท้อน เงาร่างเขาพลันเหมือนต้นไม้ใหญ่เหี่ยวเฉาสูญเสียความมีชีวิตชีวาในทันที กิ่งก้านร่วงโรย ร่างแห่งเป็นเถ้าถ่าน ปลิวลอยหายลับไป

ภาพการตายนี้ทำให้ทั่วลานเกิดเสียงอุทานระลอกหนึ่ง

จอมมารหูยงถึงกับถูกสังหารทั้งอย่างนี้หรือ!?

นี่เป็นถึงคนระดับปลายยอดที่ไม่เป็นสองรองใครในฝั่งอิงเทียนเซิง ห่างไกลเกินกว่าพวกเฒ่าชราอย่างกู่เชาจือ นิ่งปู้ชวีจะเทียบได้

แม้กระทั่งในโลกยุคสมัยแต่ละแห่งยังเรียกได้ว่าเป็นจอมอหังการผู้โดดเด่น

กระนั้นเขากลับตายภายใต้มรรคแห่งกาลเวลาที่เจ้าตัวเชี่ยวชาญที่สุดในลานประลองเป็นตายวันนี้!

นี่ทำให้คนสั่นสะท้าน

ยามสายตามองไปทางหลินสวินในลานประลองเป็นตาย แววตาพวกแม่เฒ่ากระเรียนเซียนล้วนเจือความกริ่งเกรงอยู่รำไร

เริ่มจากฆ่ากู่เชาจือ จากนั้นสังหารจอมมารหูยง!

หากเปลี่ยนเป็นคนส่วนใหญ่ในหมู่พวกเขา เกรงว่าก็ทำไม่ได้ถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ

แต่ขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินกลับทำได้ ใครจะไม่ตกใจ ไม่กริ่งเกรงเพราะเหตุนี้บ้าง

“เยี่ยม!”

จอมมรรคซานเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ตื่นเต้นยิ่งนัก

และก็เป็นเวลานี้ที่เขาถึงกล้าเชื่อในที่สุดว่าซินหูตายด้วยน้ำมือของหลินสวิน

พวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีล้วนหัวเราะออกมา ยามนี้พวกเขาถึงพบว่าอาภรณ์บริเวณแผ่นหลังล้วนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ นี่เกิดจากถูกการต่อสู้ดุเดือดนั่นกระตุ้น

วู้ม!

คลื่นพลังกฎระเบียบแปลกประหลาดคลุมเครือระลอกหนึ่งปรากฏขึ้น เงาร่างของหลินสวินถูกเคลื่อนย้ายออกมา และลานประลองเป็นตายนั่นก็อันตรธานหายไปพร้อมกัน

และยามหลินสวินเพิ่งยืนทรงตัวมั่น อิงเทียนเซิงบนด่านนภาสี่ลักษณ์เอ่ยด้วยสีหน้าคล้ำเขียวว่า “ทุกคน ไปกำจัดเดรัจฉานหลินสวินนี่พร้อมกับข้า!”

เสียงดุจอสนีผ่าฟาด ก้องสะเทือนชั้นเมฆ

ก็เห็นสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอิงเทียนเซิง ฉู่ปู้จิ้ว นิ่งปู้ชวี พากันเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศเข้ามาในเวลานี้ พุ่งโถมเข้าใส่หลินสวิน

ทันใดนั้นรอยยิ้มพวกสิงเจี้ยนสยาแข็งทื่อ นัยน์ตาหดรัด

การตายของกู่เชาจือและจอมมารหูยงกระตุ้นโทสะอิงเทียนเซิงอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ด่านนภาสี่ลักษณ์ยังไม่สนใจแล้ว หมายจะกำจัดหลินสวินให้สิ้นในเวลานี้!

“ไป”

พวกสิงเจี้ยนสยาพุ่งขึ้นไปแทบจะในทันที หมายจะพาหลินสวินเคลื่อนย้ายหลบหนีไปไกลๆ

ในที่นี้โกลาหลขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่กระจายอยู่รอบพื้นที่อย่างพวกแม่เฒ่ากระเรียนเซียนยังพากันแปลกใจ หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่

ใครจะไปคิดว่าอิงเทียนเซิงนี่บอกจะลงมือก็ลงมือทันที

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท