ตอนที่ 3117 อานุภาพของหลินสวิน
ผู้คนในที่นั้นยังคงตื่นตะลึง
ด้านหลินสวินก็หันหลังมามองพวกสิงเจี้ยนสยา
ร่างสิงเจี้ยนสยายับเยินไปแล้ว เลือดไหลไม่หยุด
เกราะฟู่หนานหลีพังเสียหาย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
ศาสตรามรรคของจอมมรรคซานเฟิงยังถูกทำลายไปแล้ว กำลังถูกเงาร่างน่ากลัวมากมายล้อมโจมตี กลิ่นอายเกือบจะยุ่งเหยิงปั่นป่วน
เซียวเหอ…
เหลือแต่พลังจิต!
เหตุการณ์แต่ละอย่างนี้สะท้อนอยู่ในดวงตาดำของหลินสวิน กลายเป็นเปลวเพลิงลุกโชน นั่นเป็นความโกรธแค้นอันเดือดพล่าน
เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง
ตูม!
บัดนี้ร่างกายที่เดิมยับเยินยิ่งยวดปรากฏแสงน่าครั่นคร้ามเปล่งประกาย พุ่งทะลุเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ที่ตามมายังมีไอสังหารน่ากลัวมืดฟ้ามัวดินม้วนตลบ
ภายใต้สายตาตื่นตะลึงมากมายที่จับจ้อง อาการบาดเจ็บทั้งร่างหลินสวินสลายไปในพริบตา ส่วนอานุภาพบนร่างเขาปะทุเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ทะลวงผ่านพันธนาการแห่งขั้นไร้ขอบเขต พุ่งไปยังขั้นไร้ขอบเขตด้วยอานุภาพดุจทำลายไม้ผุหักกร่อน ประหนึ่งรุ้งเทพทะยานสูง!
อานุภาพน่าครั่นคร้ามที่ไม่อาจบรรยายได้อบอวลออกมาจากเงาร่างสูงโปร่งนั้นของหลินสวิน ทำให้ฟ้าดินโหยหวน หมื่นมรรคร่วมสะท้าน ประหนึ่งกำลังสยบแก่เขา
“ถะ… ถึงกับแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตแล้วจริงๆ!”
ผู้คนไม่รู้เท่าไรเสียขวัญ สั่นสะท้านอยู่ตรงนั้น
ปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคสมัยใด กลับเกิดขึ้นในวันนี้แล้ว
ไม่มีเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ
แต่หลินสวินกับแจ้งมรรคทะลวงขั้นในการต่อสู้ ก้าวสู่ขั้นไร้ขอบเขต!
“เหตุใดถึง…”
พวกอิงเทียนเซิงทั้งตกใจทั้งโกรธ ในใจต่างเกิดความรู้สึกหนาวสะท้านอย่างบอกไม่ถูก
ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดไว้ก่อนแล้ว คิดว่าโชคดีที่ที่นี่เป็นทะเลโชคชะตาไม่มีทางมีโอกาสให้หลินสวินบรรลุขั้นไร้ขอบเขตได้ มิเช่นนั้นผลลัพธ์ย่อมยากจะคิด
แต่ใครจะคิดว่าเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นี้กลับเกิดขึ้นในตอนนี้แล้ว
คิดๆ ดูแล้วสมัยหลินสวินอยู่ขั้นสรรสร้างยังสังหารจอมมารหูยงได้
แล้วเขาที่แจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต… จะแข็งแกร่งปานไหน
พวกเจียงหมิงสุ่ยยังตะลึงไปกับภาพนี้ แต่ละคนสีหน้าเหยเก
มีชีวิตมาไม่รู้กี่ปีแล้ว แต่ภาพในวันนี้กลับพลิกความเข้าใจและการรับรู้ของพวกเขาโดยสิ้นเชิง สร้างแรงสะเทือนให้พวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
“พวกเจ้า… สมควรตายให้หมด!”
ไกลออกไปหลินสวินเอ่ยเสียงเย็นชาชัดแจ้งทงุกคำ ประหนึ่งตั้งสัตย์สาบาน
จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวแล้ว
ก้าวออกมาก้าวเดียวฟ้าดินพลิกคว่ำ สุริยันจันทราอับแสง ห้วงอากาศบริเวณใกล้ปั่นป่วนไปหมด คล้ายรับอานุภาพบนตัวเขาไม่ได้
“ฆ่า!”
แทบจะในขณะเดียวกัน ในฝั่งของเจียงหมิงสุ่ยขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สองคนพุ่งออกมาจู่โจมหลินสวินด้วยกัน
สองคนนี้หนึ่งเป็นชายชุดงามหรู มือถือกระบองสำริดเล่มหนึ่ง ขณะที่ฟาดออกมาคล้ายจะซัดเอาโลกใบใหญ่ใบหนึ่งออกมาด้วย มีสุริยันจันทราดาราเคลื่อนคล้อย หลักการฟ้าดินไหลเวียน อานุภาพน่าครั่นคร้าม
อีกคนหนึ่งเป็นหญิงชุดกระโปรงม่วง มืออันขาวสะอาดตวัดโซ่เทพสีขาวหิมะคล้ายธาราดาราเก้าฟ้าสายหนึ่ง สั่นสะเทือนฟ้าดิน ดุดันอหังการ
ก็พบว่า…
หลินสวินยื่นมือออกมาคว้าไว้ทันใด
ตูม!
โลกใบใหญ่นั้นระเบิดแหลกกระจุย
กระบองสำริดที่ชายชุดงามหรูฟันกระแทกลงมากลับถูกหลินสวินบิดเป็นเกลียวขนมเกลียวอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ระเบิดท่ามกลางเสียงปังๆๆๆ แน่นขนัด
พรูด!
ชายชุดงามหรูถูกพลังสะท้อนกลับ พลันกระอักเลือดออกมา
เขาสีหน้าตื่นตะลึง กำลังหมายจะหลบหนี
ปราณกระบี่แถบหนึ่งลอยหวือออกมาจากร่างหลินสวิน เมื่อเกิดเสียงดังก็กลบร่างทั้งร่างของเขาไว้มิด
ชั่วพริบตาชายชุดงามหรูถูกกระแสปราณกระบี่ถล่มโจมตีเป็นผุยผง พินาศไปทั้งกายจิต
เคร้ง!!
ในขณะเดียวกันเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็ปรากฏเหนือหัวหลินสวิน ต้านโซ่เทพสีขาวหิมะคล้ายธารดาราที่ฟาดมานั้นเอาไว้
เห็นดังนี้หญิงสาวชุดกระโปรงม่วงก็หลบหนีอย่างไม่ลังเล
แต่ที่รวดเร็วยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวของนางก็คือหมัดที่ชกผ่านอากาศมาจากหลินสวิน
เปรี้ยง!
พลังหมัดนั้นคลุมเครือไร้รูปร่าง ไม่อาจบรรยายรูปร่างได้ กลิ่นอายนิพพานอันน่าหวาดผวาไหวเคลื่อน แต่กลับแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
ทันทีที่ชกหมัดนี้ออกมา
หญิงสาวชุดม่วงเพียงรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดมิดไปหมด พลังกฎระเบียบทั้งร่างถูกกดข่มโดยสมบูรณ์ สี่ด้านแปดทิศต่างคล้ายถูกผนึก ทำให้นางรู้สึกสิ้นหวัง จะหลบก็ไม่พ้น จะหนีก็ไม่ได้
จากนั้นก็เกิดเสียงดังปัง ร่างสูงเพรียวของหญิงชุดม่วงระเบิดออกกลางอากาศ วิญญาณแตกซ่าน
ชั่วพริบตาขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ทั้งสองก็ถูกสังหารคาที่อย่างง่ายดายเช่นนี้
แต่ละภาพเหล่านั้นทำให้ทั้งลานเงียบงัน หลายคนยังตกตะลึงจนศีรษะชาหนึบ
แข็งแกร่งไปแล้ว!
หลินสวินในตอนนี้อย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เทียบกับตอนที่สู้กับชิงเฟยหงเมื่อกี้ยังแข็งแกร่งขึ้นไม่รู้เท่าไร!
ควรรู้ว่าในโลกบัวชะตาแห่งนี้ ต่อให้ห้ำหั่นหรือประชันกันดุเดือดปานไหน แต่ขอเพียงไม่อยู่ใน ‘ลานประลองเป็นตาย’ ในสถานการณ์ที่สู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง การสังหารขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สักคนแทบจะเป็นเรื่องยากนัก
เพราะต่างอยู่ในระดับขั้นเดียวกัน ต่อให้ศักยภาพต่างกัน แต่ขอเพียงสู้สุดตัวก็มีหวังจะหนีออกจากโลกบัวชะตาแห่งนี้ไปได้อยู่มาก
โดยทั่วไปแล้ว ขั้นไร้ขอบเขตที่ตายอยู่ในโลกบัวชะตาพวกนั้น ไม่ถูกฆ่าตายท่ามกลางการล้อมโจมตี ก็ประสบเคราะห์ในการตัดสินเป็นตาย
อย่างพวกเจียงหมิงสุ่ยมีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ถึงสิบกว่าคน แต่เมื่อต้องการฆ่าคนอย่างพวกสิงเจี้ยนสยา ถึงตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้
แต่ตอนนี้หลินสวินกลับปลิดชีพขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สองคนได้อย่างง่ายดาย ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสหนีด้วยซ้ำ!
นี่ย่อมน่ากลัวเกินไปแล้ว!
สวบ!
และในระหว่างที่ผู้คนสั่นสะท้านกันอยู่ เงาร่างหลินสวินก็พุ่งออกไปเหมือนสายฟ้าฟาด
“เปิด!”
เขาสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเคลื่อนกวาดอากาศออกไป
เงาร่างน่าครั่นคร้ามที่กำลังล้อมโจมตีเซียวเหอหลายคนต่างหน้าเปลี่ยนสี กระตุ้นศาสตรามรรคต่างๆ ประจันหน้าเต็มกำลัง
ปังๆๆ!
ท่ามกลางเสียงระเบิด ศาสตรามรรคแต่ละชิ้นถูกกระแทกกระเด็นออกไป เงาร่างที่กำลังล้อมโจมตีเซียวเหออยู่หลายคนยังถูกซัดจนเลือดลมปั่นป่วน เงาร่างถอยหลัง
อานุภาพของการล้อมโจมตีก็สลายไปเช่นนี้
หลินสวินยื่นมือไปจับพลังจิตของเซียวเหอไว้ “ผู้อาวุโส ที่นี่ให้ข้าจัดการก็พอ”
บัดนี้เซียวเหอที่เงียบมาตลอดยังตื่นเต้นจนปากสั่น เอ่ยว่า “ต้องระวัง”
หลินสวินพยักหน้าเก็บพลังจิตเซียวเหอไว้ แววตาดุจสายฟ้า อานุภาพทั้งร่างพลันส่งเสียงดังกระหึ่ม เปิดฉากต่อสู้
โครม! โครม!
ก็พบว่าหลินสวินคล้ายพายุที่แผลงฤทธิ์กลางสนามรบ ทุกที่ที่ผ่านไม่มีศัตรูใดเทียบได้ ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่คนแล้วคนเล่า ไม่ถูกซัดให้ถอยไป ก็ตกใจจนหนีไป
ภาพเหตุการณ์อันแข็งกร้าวหาใดเทียบนั้นปั่นป่วนสถานการณ์ต่อสู้ไปในทันใด
ต่อให้พวกเจียงหมิงสุ่ยลงมือเต็มกำลังยังยากที่จะกดข่มทุกอย่างนี้
ครู่สั้นๆ เท่านั้น สิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีและจอมมรรคซานเฟิงที่ติดอยู่ในวงล้อมมาตลอดก็หลุดพ้น ถูกหลินสวินช่วยออกมาแล้ว
ขนาดสวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลงยังถือโอกาสไปรวมตัวกับหลินสวิน
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนจะถูกปิดล้อม แต่ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงนัก
บัดนี้เห็นหลินสวินปล่อยอานุภาพเทพยกใหญ่ ใช้พลังของตนเพียงผู้เดียวพลิกสถานการณ์ ทำให้ทั้งสองก็ตื่นเต้นนัก เลือดร้อนสูบฉีดด้วยความเหิมฮึก
“ขะ เขา… เพิ่งแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตเท่านั้น ถึงกับแข็งแกร่งถึงขั้นนี้หรือ”
เสียงอุทานเป็นระลอกดังขึ้นในหมู่ผู้ที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลออกไป
พลังที่หลินสวินสำแดงออกมาก่อนหน้านี้แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ อย่างกับพายุตลบเศษเมฆ ทำลายการล้อมโจมตีของเจียงหมิงสุ่ย ช่วยพวกสิงเจี้ยนสยาจากภัยพิบัติ!
ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ชมการต่อสู้เหล่านั้นรู้สึกเหมือนฝันไป
สำหรับพวกเจียงหมิงสุ่ยแล้ว นี่ก็คือความตื่นตระหนกครั้งหนึ่ง!
หลินสวินแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
เขาที่เพิ่งแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตกลับถึงกับมีอานุภาพใหญ่โตชนิดไร้ศัตรูแล้ว!
“ผู้อาวุโสทุกท่าน ให้ข้าจัดการคนเดียวเถอะ”
หลินสวินส่งพลังจิตของเซียวเหอให้สิงเจี้ยนสยา
จากนั้นเขาก็เดินไปบนฟ้า โจมตีไปทางพวกเจียงหมิงสุ่ย
มองจากไกลๆ เหมือนจอมเหนือหัวผู้หนึ่งมาเยือน หมายจะเคลื่อนกวาดฝูงชน!
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าคนมากมายขนาดนี้จะยังสยบเจ้านี่ไม่ได้”
เจียงหมิงสุ่ยสีหน้าอึมครึม ทันใดนั้นก็ฟาดแผนภาพภูผาธาราสุริยันจันทราในมือออกมา แผนภาพมรรคปูลาดห้วงอากาศ เปล่งแสงเจิดจ้า ทะลวงจันทราอาทิตย์ดวงดาราไพศาล บดขยี้ดังสนั่นไปหาหลินสวิน
ส่วนขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อีกสิบสี่คนต่างก็ร่วมมือกัน เรียกศาสตรามรรคของแต่ละคนออกมาโจมตีไปยังหลินสวินคนเดียว
ตูม!
ฟ้าดินแห่งนี้โกลาหล
กระแสพลังกฎระเบียบอันเกรียงไกรไพศาลอัดแน่นอยู่ในศาสตรามรรคต่างๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้ กลบฟ้าดินแห่งนั้นจนมิด
นี่น่ากลัวนัก
ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ถึงสิบห้าคนร่วมมือกันจะธรรมดาได้หรือ
เพียงแค่มองดูภาพนี้ไกลๆ ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง หายใจไม่ออก
ก็พบว่า…
หลินสวินพลันหายใจลึกๆ เงาร่างสูงโปร่งมีพลังกฎระเบียบอันน่าครั่นคร้ามอุบัติขึ้นเหมือนเขาถล่มทะเลคำราม แสงมรรคเปล่งประกายแปลงเป็นหุบเหวลูกหนึ่งทันที
มันใหญ่โตไร้สิ้นสุด
มันลึกล้ำไร้ขอบเขต!
ชั่วพริบตานั้นก็เหมือนปากเลือดใหญ่โตปากหนึ่งอ้าออกหมายจะกลืนกินฟ้าดินแห่งนี้!
ตูม!
พลังจู่โจมอันไพศาลดุจกระแสธารถูกหุบเหวกฎระเบียบที่ปล่อยออกมาจากร่างหลินสวินกลืนกินเหมือนหมื่นกระแสคืนสมุทร
ศาสตรามรรคนิรันดร์ที่มีอยู่ในนั้นสารพัดชนิดถูกบดขยี้โจมตีอย่างน่ากลัว ส่งเสียงโหยหวนเหมือนจะหลุดไปจากการควบคุมเมื่อไรก็ได้
“แย่แล้ว!”
“โอม!”
“กลับมานี่!”
เฒ่าชราพวกนั้นตกตะลึงจนต้านทานสุดพลังในทันที กว่าจะเก็บศาตรามหามรรคต่างๆ กลับมาได้อย่างยากลำบาก
ส่วนอภินิหารและวิชามรรคที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาล้วนถูกหุบเหวลึกล้ำไร้ขอบเขตบดขยี้กลืนกินจนเกลี้ยง!
สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยถูกพลังสะท้อนกลับ กระอักเลือดไม่หยุด ใบหน้าชรายังเปลี่ยนเป็นซีดเผือด หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
คนผู้เดียวทำลายการโจมตีที่พวกเขาร่วมมือกันได้ในหนึ่งการโจมตี!!
นี่เป็นพลังที่คนที่เพิ่งแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตคนหนึ่งพึงมีหรือ
เหล่าผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ไกลออกไปต่างมือเท้าเย็นเฉียบ
เมื่อคิดดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ต่างอยู่ในระหว่างที่หลินสวินบาดเจ็บเจียนตาย เริ่มตั้งแต่เมื่อเอาชนะชิงเฟยหง จากนั้นการโจมตีเดียวของเขาก็สังหารฉิวเฟิ่งฉือ…
และไม่ทันไรก็สังหารขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ที่มาขวางได้สองคน…
ทำลายสถานการณ์การต่อสู้ ช่วยพวกสิงเจี้ยนสยากลับมา…
และตอนนี้ท่ามกลางการร่วมกันจู่โจมของขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สิบห้าคน เขายังถล่มการโจมตีของคู่ต่อสู้จนกระเจิดกระเจิง แตกกระสานซ่านเซ็น!
ภาพที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ต่างขับเน้นว่าพลังที่หลินสวินครอบครองหลังจากแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตน่ากลัวปานไหน
ต่อให้เป็นพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่มาหลายยุคเหล่านั้นยังไม่อาจสงบใจได้สักนิด!
เพราะชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยเห็นคนอย่างหลินสวินมาก่อนเลยสักคน!
ส่วนพวกสิงเจี้ยนสยาต่างยิ้มแล้ว
ต่อให้พวกเขาบาดเจ็บหนัก ท่าทางก็น่าอนาถและยับเยินยัก แต่รอยยิ้มในตอนนี้กลับเบิกบานใจเช่นนั้น ทั้งจิตใจยังรู้สึกเบิกบานนัก!