ตอนที่ 3126 ฆ่าตัวตายยอมพ่ายแพ้

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3126 ฆ่าตัวตายยอมพ่ายแพ้

สามหมัด ทำลายอภินิหารชั้นเลิศอย่างบันไดสวรรค์มหามรรค!

นี่ทำให้ทุกคนนอกลานต่างสะท้านสะเทือน ถูกโจมตีอย่างหนัก

ก่อนหน้านี้พวกอิงเทียนเซิงยังคิดว่าอาศัยอภินิหารบันไดสวรรค์มหามรรค ก็สามารถทำให้เจ้าแคว้นเฉิงถูยืนอยู่ในจุดไร้พ่ายได้

ใครเลยจะคาดคิด แค่สามหมัดบันไดสวรรค์มหามรรคก็ถูกทำลายแล้ว

โดยเฉพาะหลังจากหมัดสุดท้ายของหลินสวิน อานุภาพไร้เทียมทานนั่นทำให้พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งกลุ่มที่อยู่นอกลานต่างลมหายใจสะดุด รู้สึกถึงความอันตรายอย่างแรงกล้า

ตูม!

ละอองแสงพร่างฟ้าสาดกระเซ็น เจ้าแคว้นเฉิงถูที่เดิมนั่งขัดสมาธิ ด้วยไม่ทันตั้งตัวจึงถูกซัดจนซวนเซ เงาร่างโคลงเคลงระลอกหนึ่ง

จากนั้นริมฝีปากหลั่งเลือดสดออกมาสายหนึ่ง

สีหน้าเขาเผยแววตกใจยากจะควบคุมออกมา

บันไดสวรรค์มหามรรคเป็นอภินิหารแกร่งกล้าที่สุดของเขา ในการชิงชัยมหามรรคที่ผ่านมา อาศัยเพียงอภินิหารนี้ก็เคยทำให้เขาขึ้นไปยืนในจุดไร้พ่ายได้หลายครั้ง ต่อให้พบเจออันตรายถึงชีวิตก็ยังแคล้วคลาดหวุดหวิด

แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินทำลายอย่างง่ายดาย!

นี่ยังจะให้เจ้าแคว้นเฉิงถูเยือกเย็นได้อีกที่ไหน

“สหายน้อยหลินพลังต่อสู้เรียกได้ว่าเย้ยฟ้าไม่มีใครเหมือนจริงๆ แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้แค่นี้เด็ดขาด”

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง มือกระชับคทาม่วงสมประสงค์ เหินอากาศบุกเข้ามา

บันไดสวรรค์มหามรรคใช้ไม่ได้ แต่กายมรรคของเขายังคงแกร่งกล้าไร้เทียมทาน ไม่เกรงกลัวการต่อสู้ปะทะซึ่งหน้ากับหลินสวินสักนิด

แม้ว่าจะไม่อาจเอาชนะได้

แต่ก็ต้องผลาญพลังของอีกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!

วู้ม!

คทาม่วงสมประสงค์กระแทกออกไป พยัคฆ์มังกรตัดสลับ ไอม่วงลอยมาทางบูรพา ละอองแสงกฎระเบียบอันงดงามโปรยปรายดั่งน้ำตก ตวัดเลิกกระแสทำลายล้างดุจหมอกอบอวล

“คิดจริงๆ หรือว่าสู้แบบตัดสินแพ้ชนะแล้วจะไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไร ไม่ยอมแพ้ก็จะโจมตีจนกว่าเจ้าจะยอม!”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย กระโจนตัวโจมตีไปด้านหน้า

ศึกใหญ่ดุเดือดปะทุขึ้นมาทันที ทำเอาทั้งลานประลองแพ้ชนะถูกกระแสพลังกฎระเบียบแสบตาท่วมมิด หอบม้วนพลิกตลบ สั่นสะเทือนอลหม่าน

ชั่วอึดใจทั้งสองฝ่ายปะทะกันกว่าร้อยกระบวนท่า

ทุกครั้งการโจมตีของเจ้าแคว้นเฉิงถูล้วนถูกหลินสวินทำลายไม่เหลือ ซัดจนพลังขับเคลื่อนของเขาพลุ่งพล่าน สะบักสะบอมยิ่ง

ภาพเหล่านี้ทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่รู้เท่าไรมองจนหน้าเปลี่ยนสี

ทว่าทุกคนกลับไม่อาจไม่ยอมรับ พลังร่างมรรคของเจ้าแคว้นเฉิงถูแกร่งกล้าหาใดเปรียบ แม้จะถูกโจมตีขนาดนี้แต่ก็ยังต่อสู้อย่างดุดันได้อีก ได้รับบาดเจ็บก็ไม่สาหัส

ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือ ทุกครั้งหลังจากเจ้าแคว้นเฉิงถูเจ็บหนัก เมื่อพลังขับเคลื่อนบนร่างพริบไหวก็ฟื้นคืนสภาพเดิมในพริบตา

นี่ทำให้หลินสวินยังอดขมวดคิ้วน้อยๆ ไม่ได้

กายหยาบแจ้งมรรคเย้ยฟ้าขนาดนี้เชียวหรือ

‘จะยื้อยุดกับเจ้าเฒ่านี่ไม่ได้ หาไม่ยิ่งต่อสู้ต่อไปนานไปก็ยิ่งเสียพลังมากเท่านั้น…’ หลินสวินลอบกล่าวในใจ

ตูม!

ครู่ต่อมาเขาก็เรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมาใช้โดยไม่ลังเล โจมตีเต็มกำลัง

สถานการณ์การต่อสู้ก็เปลี่ยนตามไปด้วย

ก่อนหน้านี้เจ้าแคว้นเฉิงถูตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบระหว่างการปะทะซึ่งหน้า ถูกหลินสวินบุกโจมตีอยู่เสมอ แม้จะยืนหยัดมาได้แต่อย่างไรก็บาดเจ็บไม่หยุด

และเมื่อหลินสวินกระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง สถานการณ์ของเจ้าแคว้นเฉิงถูก็เปลี่ยนเป็นอันตรายในครู่เดียว

เปรี๊ยะ!

ชั่วอึดใจคทาม่วงสมประสงค์ในมือเจ้าแคว้นเฉิงถูแหลกละเอียด ถึงกับถูกซัดกระจุยในการปะทะกับเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

ภายใต้การโจมตีนี้ เจ้าแคว้นเฉิงถูกระอักเลือดรุนแรง สีหน้าล้วนเปลี่ยนเป็นซีดขาว

และยังไม่ทันรอให้เขาทรงตัวมั่น

ฟุ่บ!

กระบี่มรรคเล่มหนึ่งโฉบออกจากเตากระบี่ พริบวาบกลางห้วงอากาศ

เลือดสดสาดกระเซ็น

ร่างของเจ้าแคว้นเฉิงถูถูกฟันขาดเป็นสองท่อน

ภาพนั้นทำเอานอกลานเกิดเสียงร้องอุทานขึ้นมาระลอกหนึ่ง

แต่ไม่ช้าทุกคนก็มองเห็นว่าเมื่อปราณโลหิตพลิกม้วนระลอกหนึ่ง ร่างของเจ้าแคว้นเฉิงถูก็กลับคืนสู่สภาพเดิม เพียงแค่สีหน้าซีดขาวมากขึ้นเท่านั้น

ภาพน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ทำเอาพวกสิงเจี้ยนสยายังรู้สึกหวาดหวั่น

“ข้าอยากดูนักว่าเจ้ายังจะยืนหยัดได้อีกกี่ครั้ง!”

ไอสังหารในดวงตาหลินสวินยิ่งเพิ่มพูน เจ้าแคว้นเฉิงถูนี่เซ้าซี้นัก ประหนึ่งฆ่าไม่ตาย

ทว่าหลินสวินก็ตระหนักได้ว่าระหว่างที่บาดเจ็บต่อเนื่อง พลังของเจ้าแคว้นเฉิงถูก็ลดฮวบรวดเร็วจนแทบจะฝืนยืนหยัดไม่ไหวแล้ว

ตูม!

หลินสวินโจมตีอีกครั้ง อานุภาพดุจพายุคลั่งฝนกระหน่ำ เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งอึงอลไม่หยุด กดข่มไม่สิ้น

เจ้าแคว้นเฉิงถูพยายามต้านสุดกำลัง แต่อาการบาดเจ็บบนตัวกลับยิ่งสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ร่างมรรคของเขาถูกซัดแหลกไปหลายสิบครั้ง

แม้ว่าทุกครั้งจะคืนสภาพเดิมได้ แต่ไม่ว่าใครล้วนมองออกว่าสถานการณ์ของเขาคับขัน!

“มา!”

ยามโจมตีร่างของเจ้าแคว้นเฉิงถูกอีกครั้ง หลินสวินพลันยื่นมืออกไปคว้า

ตูม โครม!

เหวขนาดใหญ่แห่งหนึ่งปรากฏ ดุจดั่งน้ำวน ขณะที่เจ้าแคว้นเฉิงถูยังไม่ทันตั้งตัวร่างมรรคที่สลายเป็นชิ้นของเขาก็ถูกหุบเหวกลืนกิน นัยเร้นลับห้าระเบียบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อันแน่นในพลังของหุบเหวโคจร เริ่มหลอมไม่หยุด

“สมควรตาย!”

เวลานี้พลังจิตของเจ้าแคว้นเฉิงถูหน้าเปลี่ยนสีอย่างสิ้นเชิง

เขาใช้ร่างเนื้อแจ้งมรรค มรรควิถีแห่งตนล้วนผสานอยู่ในร่างกาย หากถูกทำลายสิ้นก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเขาไปด้วย

เมื่อเห็นว่าร่างตนถูกหลอมไปกว่าครึ่ง เจ้าแคว้นเฉิงถูจึงทำสิ่งที่คนทั่วลานต้องตกใจ…

ทำลายพลังจิตตัวเอง!

นี่ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย

ทว่าในลานประลองแพ้ชนะแห่งนี้กลับเกิดผลลัพธ์น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง

วู้ม!

เพียงชั่วขณะพลังกฎระเบียบแถบหนึ่งปรากฏ บังคับพาร่างมรรคที่กำลังถูกหลอมและพลังจิตของเจ้าแคว้นเฉิงถูออกไป

ภายใต้สถานการณ์ตั้งตัวไม่ทัน หลินสวินยังอึ้งไป นี่ใช้การฆ่าตัวตายมารักษาความเสียหายหรือ

ยังมีวิธีนี้ด้วยสินะ

ไม่นานเงาร่างของหลินสวินก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไป กลับสู่ด่านนภาปัญจธาตุ

และบรรยากาศในบริเวณนั้นก็เปลี่ยนเป็นอึมครึมแปลกประหลาด

เจ้าแคว้นเฉิงถูแพ้แล้ว

เพียงแต่เขากลับใช้วิธีฆ่าตัวตายมายุติการต่อสู้ครั้งนี้ ความรู้สึกที่มอบให้ผู้คน… ช่างเหลวไหลและแปลกพิลึกอย่างไม่ต้องสงสัย

สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยต่างปากอ้าตาค้างไประลอกหนึ่ง เข้าร่วมการแก่งแย่งในโลกบัวชะตามาหลายครั้งขนาดนี้ เคยพบเห็นศึกตัดสินแพ้ชนะมานับครั้งไม่ถ้วน

แต่ก็ยังเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนใช้การฆ่าตัวตายมาเป็นฝ่ายยอมแพ้…

นี่หากกระจายออกไปต้องกลายเป็นตัวตลกแก่คนทั่วหล้าแน่

ครั้นหันมองทางเจ้าแคว้นเฉิงถู เวลานี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาเช่นกัน

เขาบาดเจ็บสาหัส พลังของร่างมรรคทั้งร่างถูกหลินสวินหลอมไปสามส่วน นี่เท่ากับทำลายรากฐานมหามรรคของเขาอย่างหนักหน่วง!

และเมื่อรวมกับตอนนี้ ความอัปยศในใจจึงจะเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าแคว้นเฉิงถูอัดอั้นมากที่สุด

เขาจะทำอย่างไรได้

สถานการณ์ในตอนนั้นเขามีแต่ต้องทำเช่นนี้ ใช้ประโยชน์จากพลังกฎระเบียบของลานประลองแพ้ชนะมาช่วยเหลือร่างมรรคของตนเอาไว้

หาไม่เลือดเนื้อถูกหลอมหมดเกลี้ยงเหมือนลู่จงเยียนก่อนหน้านี้!

“น่าขายหน้านัก”

“เหอะๆๆ ‘ฆ่าตัวตายยอมพ่ายแพ้’ การกระทำน่าทึ่งเช่นนี้จะต้องทำให้เจ้าเจ้าแคว้นเฉิงถูดังกระฉ่อนแน่”

“ภายหน้าเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ เจ้าเฉิงถูต้องเป็นคนแรกในการบุกเบิกเส้นทางสายนี้ ชื่อเสียงระบือหมื่นยุค เล่าขานสืบทอดให้คนรุ่นหลังอย่างแน่นอน!”

ในด่านนภาปัญจธาตุ พวกสิงเจี้ยนสยาต่างไม่ปกปิดสักนิด ส่งเสียงเสียดสีออกมา

เมื่อหันมองทางเจ้าแคว้นเฉิงถู สีหน้าล้วนดำมืดเหมือนก้นหม้อ

เขากัดฟันแน่น ถึงกับบดขยี้มุกชะตามหามรรคออกจากโลกบัวชะตาไปเช่นนี้!

เห็นได้ชัดว่ารสชาติความอัปยศยิ่งใหญ่นั่นทำให้เขาไม่อาจทนอยู่ต่อไปได้อีก

พวกเจียงหมิงสุ่ย อิงเทียนเซิงต่างมองหน้ากันไปมา สีหน้าล้วนอึมครึมอย่างยิ่ง

หลังจากลู่จงเยียน เจ้าแคว้นเฉิงถูก็มาพ่ายแพ้อีกคน

ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขาได้เห็นความน่ากลัวในพลังต่อสู้ของหลินสวินกับตาตัวเองแล้ว ต่อให้เป็นคนระดับอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ย ก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะกำราบหลินสวินได้

นี่สร้างเงาทะมึนปกคลุมใจฝั่งพวกเขาชั้นหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่พวกเขาก็ตระหนักได้เช่นกัน ว่าหลังผ่านศึกครั้งนี้พลังของหลินสวินจะต้องถูกผลาญไปแน่ ซ้ำยังผลาญไปไม่น้อยด้วย หากไม่รีบไปท้าสู้ รอจนหลินสวินฟื้นสภาพกลับมา เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าแคว้นเฉิงถูทุ่มเทไปก็เสียเปล่าแล้ว

ทำอย่างไรดี

ยังจะสู้หรือไม่

บรรยากาศในที่นั้นกดดัน

นี่ทำให้คนรู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง สัตว์ประหลาดเฒ่าแต่ละฝ่ายรวมตัวกัน มีสี่สิบห้าสิบคนเต็ม กำลังพลเหลือล้นปานใด ทว่าตอนนี้ถึงกับอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยากจะลงจากหลังเสือ

หากกระจายออกไปพวกเขาต้องขายหน้ายับเยินแน่นอน

สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือหากยอมแพ้ล่าถอยเช่นนี้ ต่อไปก็จะมีผลเสียหายตามมาไม่รู้จบเช่นกัน

“เพิ่งจะต่อสู้กันแค่สองครั้งเท่านั้น ทุกท่านก็ยอมจำนนแล้วหรือ”

หลินสวินเอ่ยปากทำลายความเงียบในที่นั้น

“พวกเราเดินมาไกลจนถึงทุกวันนี้ เย้ยฟ้าผงาดผยอง จะเคยกลัวความเป็นตายเสียที่ไหน”

ทันใดนั้นในฝั่งจู๋เทียนจวิน ชายชราชุดป่านคนหนึ่งเดินฉุนเฉียวออกมา ท่าทางเที่ยงธรรมน่าเกรงขาม “ให้ข้าไปก็แล้วกัน!”

ทุกคนต่างสะท้านไหว

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ตั้งแต่นี้ไปพวกเราแต่ละฝ่ายจะผลัดกันส่งผู้แข็งแกร่งออกไปท้าสู้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะก็ห้ามหดหัว”

จู๋เทียนจวินเอ่ยเสียงขรึม

“ได้”

อิงเทียนเซิงพยักหน้าตอบรับ

จากนั้นขุมอำนาจฝ่ายอื่นอย่างเจียงหมิงสุ่ย จอมเทพหวงหลง จักรพรรดิเทพข่งอวี่ต่างก็ตอบตกลง

ขืนชักช้ามีแต่จะยิ่งวุ่นวาย

ในเมื่อรุกไม่ได้ถอยลำบาก ย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อคุมสถานการณ์ไว้ให้ได้!

หลังจากตัดสินใจเช่นนี้ สภาวะจิตของพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นต่างสงบลง สีหน้าแน่วแน่ บรรยากาศในที่นั้นก็พลอยเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

หลินสวินขมวดคิ้วน้อยๆ

เขามองออกเช่นกันว่าพวกเฒ่าชราเหล่านั้นต่างทุ่มทุกอย่าง เดิมพันทุกสิ่งเพื่อโจมตีแล้ว

พวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีต่างหวาดหวั่นเช่นกัน ตระหนักได้ว่าจากนี้อาจเกิดการต่อสู้ที่เลวร้ายขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

‘หลินสวิน ในเมื่อเป็นศึกตัดสินแพ้ชนะ เจ้าอย่างได้ฝืนดึงดัน พวกเราล้วนสามารถต่อสู้แทนเจ้าได้ และอาศัยจังหวะนี้เจ้าเองก็จะได้ฟื้นฟูร่างกายไปด้วย’

สิงเจี้ยนสยาสื่อจิตกล่าว

หลินสวินพยักหน้า

“ทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกัน ข้าปลาบปลื้มใจนัก”

เวลานี้ชายชราชุดป่านที่เดินออกมากล่าวอย่างชื่นชม

เขานึกไม่ถึงสักนิดว่าเพราะการกระทำของตน ถึงกับกระตุ้นทุกขุมอำนาจให้ตัดสินใจเช่นนี้ออกมาได้

จากนั้นเขาก็เดินตรงไปข้างหน้า เคาะผ่านศิลาสังเวียนมหามรรค ‘ศึกตัดสินแพ้ชนะ’

“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าไม่เคยกลัวความเป็นความตาย ข้ายังเข้าใจว่าเจ้าจะต่อสู้ตัดสินเป็นตายเสียอีก”

บนลานประลองแพ้ชนะหลินสวินหัวเราะน้อยๆ

ไกลออกไปชายชราชุดป่านแค่นเสียงเย็น “เจ้าหนุ่ม วิธียั่วโมโหไม่มีประโยน์หรอก ตอนนี้จะปล่อยให้เจ้าจองหองไปก่อน ยามถึงคราวตายของเจ้า ข้าล่ะอยากเห็นนักว่าเจ้าจะยังจองหองแบบเดิมได้หรือไม่”

หลินสวินระบายยิ้มบางๆ “ร่างมรรคของลู่จงเยียนก่อนหน้านี้ถูกทำลาย พลังจิตบาดเจ็บสาหัส เจ้าแคว้นเฉิงถูใช้การฆ่าตัวตายยอมแพ้ สร้างแบบอย่างใหม่ในประวัติศาสตร์ แล้วเจ้าล่ะ ตั้งใจจะเลือกจุดจบแบบไหน”

“เจ้า…”

ชายชราชุดป่านตั้งท่าจะพูดบางอย่าง พลังกฎระเบียบที่กดครอบบนตัวเขากับหลินสวินก็อันตรธานหายไปแล้ว

แทบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินเริ่มลงมือแล้ว

สวบ!

เสมือนแสงเคลื่อนไหวที่กรีดผ่านห้วงอากาศ รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ

ชายชราชุดป่านหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ใช้พลังทั้งหมดเข้าต้านโดยไม่ลังเลแต่

ตูม!

เสียงปะทะสะเทือนฟ้าดินดังก้อง ก็เห็นชายชราชุดป่านถูกฝ่ามือเดียวตบร่างแหลก พลังจิตล้วนถูกหลินสวินกำไว้ในมือแน่น

หนึ่งการโจมตีกำราบศัตรู!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท