ตอนที่ 3178 ก้าวสู่ธารชีวิต

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ในเรือน ซู่หวั่นจวินสวมกระโปรงแดง มือหยกขาวผ่องยกกาสุรารินให้หลินสวินกับซย่าจื้อเต็มจอก กลิ่นสุราอบอวลทั่วเรือนทันที

จากนั้นนางค่อยรินให้ตนจอกหนึ่งพลางกล่าว “สุรานี้นามว่า ‘จิตเขลา’ เป็นสิ่งที่ข้าขอมาจากสหายเก่าคนหนึ่ง ข้าเก็บรักษามานานแล้ว ปกติข้ายังรู้สึกเสียดายหากดื่มสักอึก พวกเจ้าลองชิมดู”

นางพูดพลางกระดกดื่มรวดเดียวหมด ใบหน้างามขาวผ่องแดงก่ำเสริมความงามเด่น

หลินสวินยกจอกลิ้มรส สภาวะจิตเกิดคลื่นอัศจรรย์มากมายทันที การรับรู้ทั้งตัวเลือนรางไปชั่วขณะ คล้ายมีความรู้สึกนับร้อยพันแผ่ซ่านเต็มทรวง

ครู่ใหญ่หลินสวินพยักหน้ากล่าว “สุราดีจริงๆ นี่… คงเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสมือกระบี่นั่นมอบให้กระมัง”

ซู่หวั่นจวินมองหลินสวินอย่างแปลกใจพลางกล่าว “ไม่ผิด แต่เจ้าอย่าสืบเรื่องเกี่ยวกับเขาจากข้ามิฉะนั้น…”

นางชี้ตรงหน้าอกตัวเอง “สภาวะจิตของข้าจะเกิดปัญหา”

หลินสวินผงะในใจ เขารู้ว่าเบื้องหลังคำพูดนี้ซ่อนอันตรายยิ่งใหญ่เพียงใดไว้ มีโอกาสสูงว่าเรื่องเกี่ยวกับมือกระบี่นั่นในใจซู่หวั่นจวินกลายเป็นความยึดติดของนางแล้ว!

ทั้งยังยึดติดจนไม่อยากพูดถึงกับใครก็ตาม

เดิมหลินสวินยังคิดจะเล่าเรื่องกระบี่ไม้สามชุ่นกับหลิงหยวน แต่ตอนนี้กลับล้มเลิกความคิดนี้แล้ว

ต่อจากนั้นพวกเขาร่ำสุราพลางพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับโลกย้อนกำเนิดนี้

นี่ทำให้หลินสวินเข้าใจระเบียบมรรควัฏจักรของโลกนี้ขึ้นอีกขั้น

พลังบ่อเกิดแรกกำเนิดของโลกย้อนกำเนิดกลายเป็นระเบียบมรรควัฏจักรซึ่งปกครองโลกทั้งใบแล้ว ถ้าผู้ฝึกปราณอยากออกไปจากโลกนี้ก็ต้องหยั่งถึง ‘หมอนหวงเหลียง’

เช่นนี้ไม่ว่าจะไปย้อนทวนหรือชดเชยความบกพร่องของชีวิตในอดีต ล้วนชักนำผลมรรคแรกกำเนิดมาจนเข้าไปในประตูสวรรค์ได้

หลายปีมานี้ซู่หวั่นจวินมีโอกาสจากไปนานแล้ว แต่นางกลับไม่ยอมจากไป ถึงขั้นตัดสินใจว่าจะอยู่ในโลกย้อนกำเนิดนี้ต่อ

ส่วนจะจากไปเมื่อไหร่ต้องดูจิตใจของนาง

แม้ว่านางไม่ได้บอกเหตุผลของการทำเช่นนี้ แต่หลินสวินยังพอเดาออกอยู่บ้าง

เมื่อใช้หมอนหวงเหลียงย่อมทำให้ซู่หวั่นจวินกลับเข้าไปสู่ธารชีวิตในอดีตได้ ชีวิตในอดีตของนาง การมีอยู่ของมือกระบี่นั่นย่อมครองตำแหน่งสำคัญที่สุดในใจนางโดยไม่ต้องสงสัย

“ผู้อาวุโส ข้ามีประโยคหนึ่งไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่”

หลินสวินกล่าวเสียงเบา

“ข้ารู้ว่าเจ้าอยากพูดอะไร วางใจเถอะ ข้าไม่มีทางไปชดเชยข้อบกพร่องในอดีตแน่ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ กลับจะทำให้ข้าตกอยู่ในสภาพที่ไม่อาจฟื้นคืนมาได้ตลอดกาล”

สีหน้าซู่หวั่นจวินราบเรียบ คล้ายมองทุกอย่างออกนานแล้ว

นางคิดดูครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “ตอนแรกที่มาถึงแหล่งสถานอัศจรรย์ เดิมข้าคิดว่าเขาจะรอข้าอยู่ในแหล่งสถานอัศจรรย์นี้ตลอด แต่ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าเขากลับไปฝึกปราณใหม่นานแล้ว…”

“แต่ก็ไม่เห็นเป็นไร ข้าเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันหนึ่งที่เขาจะกลับมา เมื่อก่อนเขารอข้าอยู่ที่นี่ ภายหน้าข้าก็จะรอเขาอยู่ที่นี่”

กล่าวถึงตอนท้ายเสียงนางเจือความนิ่งสงบแน่วแน่

หลินสวินฟังจบแล้วทอดถอนใจ

เขาไม่รู้ความสัมพันธ์ของซู่หวั่นจวินกับมือกระบี่นั่น แต่กลับรู้สึกถึง ‘ความงมงาย’ ในใจซู่หวั่นจวิน!

เรื่องแบบนี้เขาย่อมไม่มีทางช่วยอะไรได้

คืนวันนั้น

ภายในเรือนซย่าจื้อนั่งขัดสมาธิหลับตา สงบจิตสัมผัสระเบียบมรรควัฏจักรของโลกนี้

หลินสวินยืนห่างไปไม่ไกล คอยเฝ้าระวังให้นาง

ภายใต้รัตติกาลเงียบสงบ เวลาล่วงเลยโดยไร้สุ้มเสียง

ไม่ทันไรหลินสวินสังเกตเห็นฉับไว กลิ่นอายบ่อเกิดแรกกำเนิดลึกลับหลายสายโน้มลงมาจากเวิ้งฟ้า อาบไล้เงาร่างของซย่าจื้อไว้ภายใน

เวลานี้พลังขับเคลื่อนทั้งตัวซย่าจื้อเกิดการเปลี่ยนแปลงเงียบๆ ราวกับจิตวิญญาณปรากฏช่องว่าง นำมรรควิถีทั้งตัวของนางหายลับไปกลางอากาศ

ตรงจุดเดิมมีแค่ร่างงามอรชรของนางอาบไล้ด้วยกลิ่นอายบ่อเกิดแรกกำเนิด

“นางสัมผัสถึงหมอนหวงเหลียง เข้าสู่ชีวิตในอดีตของนางแล้ว” ซู่หวั่นจวินที่อยู่ด้านข้างพูดเสียงเบา

แววตาหลินสวินไหววูบพูดว่า “พลังต้นกำเนิดของโลกย้อนกำเนิดนี้ทำให้ผู้ฝึกปราณย้อนทวนอดีต พลังกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่อัศจรรย์เกินไปหน่อยหรือ”

“อดีต ปัจจุบัน อนาคต สื่อถึงชีวิตคน เมื่อศึกษาโดยละเอียดจะพบว่าสิ่งที่เกี่ยวข้องภายในนั้นคือพลังโชคชะตา กฎกรรม กาลเวลา การกลับสู่อดีตก็เหมือนการย้อนเวลา การชดเชยข้อบกพร่องก็เท่ากับเปลี่ยนแปลงโชคชะตา เมื่อโชคชะตาเปลี่ยน กฎกรรมก็เปลี่ยนตาม”

ซู่หวั่นจวินกล่าวง่ายๆ “แต่บ่อเกิดแรกกำเนิดของโลกย้อนกำเนิดนี้กลับเห็นชัดว่าไม่ง่ายดายเช่นนั้น มันสามารถทำให้พวกเราขั้นไร้ขอบเขตใหญ่กลับสู่อดีต ไปเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและกฎกรรม พลังเช่นนี้เกรงว่าคงอยู่เหนือโชคชะตา กฎกรรม กาลเวลา!”

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ เขาเคยนึกถึงเรื่องพวกนี้เช่นกัน แต่กลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป “หากพูดว่าอยู่เหนือโชคชะตา กฎกรรม กาลเวลาคงไม่ถึงขั้นนั้น จากมุมมองข้า พลังที่แฝงอยู่ภายในบ่อเกิดแรกกำเนิดของโลกย้อนกำเนิดนี้ ย่อมเกี่ยวข้องกับนัยเร้นลับสูงสุดของยอดมหามรรคสามอย่างนี้แน่”

เขาครอบครองกฎระเบียบโชคชะตาและกาลเวลาไว้เช่นกัน รู้ดีว่ายอดมหามรรคสองอย่างนี้ลึกลับและยากหยั่งถึงเกินจินตนาการ แม้แต่เขาในตอนนี้ก็ทำได้แค่ฝึกยอดมหามรรคสองอย่างนี้ถึงขั้น ‘กฎระเบียบไร้ขอบเขต’ เท่านั้น

ส่วนนัยเร้นลับสูงสุดของยอดมหามรรคสองอย่างนี้ แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้แน่ชัด

กล่าวกันถึงที่สุดแล้วก็อยู่ที่พลังปราณของตน

มรรค ไร้ขอบเขตถึงขีดสุด

ยามอยู่ห้าระดับล่าง สิ่งที่ผู้ฝึกปราณหยั่งถึงคือท่วงทำนองมรรคและเจตจำนงมรรค

ยามอยู่ระดับอมตะเคราะห์ สามารถหยั่งรู้กฎเกณฑ์อมตะเคราะห์

ระดับอริยะครอบครองกฎเกณฑ์อริยมรรค

ระดับจักรพรรดิควบคุมกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิ

ระดับอมตะสามารถใช้กฎเกณฑ์อมตะได้

ส่วนระดับนิรันดร์ก็ครอบครองกฎระเบียบนิรันดร์

แต่ไม่ว่าจะเป็นท่วงทำนองมรรค เจตจำนงมรรค อริยมรรค มรรคจักรพรรดิ หรือกฎเกณฑ์อมตะและกฎระเบียบนิรันดร์ กล่าวกันถึงที่สุดแล้วล้วนเป็นมหามรรค!

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะระดับปราณของตนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ความเข้าใจของตนที่มีต่อมหามรรคเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งทีละขั้น

เหมือนตอนนี้ แม้มรรควิถีทั้งตัวหลินสวินแข็งแกร่งถึงขั้นน่าเหลือเชื่อ แต่พลังมหามรรคที่ครอบครองกลับอยู่แค่ขั้นไร้ขอบเขตเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าพลังต้นกำเนิดของโลกย้อนกำเนิดนี้เกี่ยวข้องกับพลังแห่งโชคชะตา กาลเวลา กฎกรรม แต่กลับเกินความรู้ความเข้าใจของหลินสวินตอนนี้

ดังนั้นเขาจึงวิเคราะห์ออกมาเช่นนี้

“สิ่งที่เจ้ากล่าวมานั้นไม่ผิด ขั้นไร้ขอบเขตถูกมองเป็นขั้นสูงสุดของมหามรรค ผู้บรรลุถึงขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์เท่ากับก้าวสู่จุดสูงสุดของระดับนี้ แต่ข้าคิดมาตลอดว่าขั้นไร้ขอบเขตเป็นแค่ขั้นสุดท้ายของมรรคานิรันดร์ เหนือมรรคานิรันดร์นี้ยังมีมรรคาที่สูงกว่าอยู่หรือไม่…”

ซู่หวั่นจวินพึมพำเสียงเบา “นี่ย่อมเป็นปัญหาที่ไม่อาจเข้าใจ ถึงอย่างไรหากมีมรรคาที่สูงกว่าจริง เขา… มีหรือจะเลือกหวนกลับไปฝึกใหม่”

‘เขา’ แน่นอนว่าคือมือกระบี่คนนั้น

หลินสวินกล่าว “ข้าคิดว่าสาเหตุที่ผู้อาวุโสมือกระบี่คนนั้นกลับไปฝึกใหม่ อาจเป็นเพราะเขาเห็นมรรคาที่สูงกว่านั่นแล้ว เป้าหมายที่เขาย้อนกลับไปฝึกใหม่ก็เพื่อหาหนทาง ก้าวสู่มหามรรคที่สูงกว่าสายนั้นอย่างแท้จริง หลุดพ้นจากขั้นไร้ขอบเขตบนมรรคานิรันดร์”

ซู่หวั่นจวินอึ้งงัน เงียบไปครู่หนึ่งค่อยกล่าว “อาจจะกระมัง”

ความลับซึ่งเกี่ยวข้องกับการหลุดพ้นสูงสุดเช่นนี้ หากกวาดสายตามองทั่วแหล่งสถานอัศจรรย์ ปัจจุบันล้วนไม่มีใครให้คำตอบชัดเจนได้สักคน!

ดังนั้นจึงมีการสันนิษฐานและคาดเดานานัปการ

“เจ้าอยากไปหยั่งรู้ระเบียบมรรควัฏจักรหรือไม่ ข้าช่วยคุ้มครองกายมรรคของเจ้ากับแม่นางซย่าจื้อได้” ซู่หวั่นจวินกล่าว

หลินสวินส่ายหัวกล่าว “รอซย่าจื้อตื่นขึ้นมาเถอะ”

ซู่หวั่นจวินก็ไม่บังคับ

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของนางคือผ่านไปแค่ครึ่งชั่วยาม ร่างอรชรของซย่าจื้อพลันสะท้าน จากนั้นบนตัวค่อยแผ่พลังขับเคลื่อนและคลื่นชีวิตที่มีแต่เดิมออกมา ก่อนลืมตาขึ้นเงียบๆ

กลิ่นอายบ่อเกิดแรกกำเนิดที่ปกคลุมตัวนางก็หายไปด้วย

“เร็วขนาดนี้เชียว”

ซู่หวั่นจวินอดกล่าวไม่ได้

ซย่าจื้อหยัดร่างขึ้นกล่าว “ข้าแค่มองตามช่วงชีวิตในอดีต ไม่ได้ล่าช้าอะไร”

“เจ้าไม่คิดไปเปลี่ยนอะไรบ้างหรือ”

ซู่หวั่นจวินถามอีก

“เทียบกับเรื่องอดีตและอนาคตแล้ว ข้าสนใจปัจจุบันมากกว่า”

ซย่าจื้อพูดโดยไม่ต้องคิด

ซู่หวั่นจวินมองซย่าจื้อก่อนหันมองหลินสวิน คล้ายเข้าใจแล้ว ภายในใจอดสะท้านไหวอยู่บ้างไม่ได้ หากสักวันหนึ่งตนเป็นเหมือนนางได้ ไม่ใส่ใจอดีตหรืออนาคต สนใจแค่ปัจจุบัน นั่นจะเป็นสุขเพียงใด

ต่อจากนั้นหลินสวินนั่งขัดสมาธิ เริ่มสงบจิตหยั่งรู้ระเบียบมรรควัฏจักรของโลกนี้

เพียงพริบตาจิตรับรู้ของเขาก็สัมผัสถึงพลังบ่อเกิดแรกกำเนิดลึกลับอัศจรรย์ จิตวิญญาณของเขาล่องลอยเหนือเก้าชั้นฟ้าท่ามกลางความเลือนราง มาถึงห้วงอากาศเวิ้งว้างไร้สิ้นสุดแถบหนึ่ง

ต่อมาหมอนหยกที่วิวัฒน์จากบ่อเกิดแรกกำเนิดปรากฏขึ้นในใจ

บนหมอนหยกนั้นเห็นชัดว่าเปี่ยมกลิ่นอายโชคชะตา กฎกรรม กาลเวลาน่าอัศจรรย์เกินบรรยาย เมื่อหลินสวินขับเคลื่อนความคิด

พริบตานั้นจิตรับรู้ของเขาพลันเลือนราง คล้ายฝันท่องกาลนิรันดร์ จิตวิญญาณและมรรควิถีออกจากกายมรรคไปเงียบๆ

ซ่า…

กลางอากาศไร้ขอบเขต แม่น้ำใหญ่สายหนึ่งพลิกตลบออกมากลางอากาศอย่างยิ่งใหญ่ทรงพลัง ไหลเข้าไปในส่วนลึกของห้วงอากาศราวไร้สิ้นสุด

เงาร่างของหลินสวินปรากฏบนแม่น้ำใหญ่นี้

นี่ก็คือธารชีวิตในอดีตหรือ

เมื่อหลินสวินเหลือบมองไป ภาพหลายหลากแปลกตานับไม่ถ้วนปรากฏออกมาจากฟองคลื่นของแม่น้ำใหญ่นั้นทันที มีภาพเขาตอนเกิด มีภาพรายละเอียดยามติดตามลู่ป๋อหยาในคุกใต้เหมือง มีวันวานเงียบสงบยามอยู่หมู่บ้านเฟยอวิ๋นตอนเด็ก…

ฟองคลื่นม้วนซัดนั้นเหมือนรวมตัวจากช่วงชีวิตในอดีตของแต่ละคน กลายเป็นธารชีวิตเปี่ยมคลื่นโถมโอฬารสายหนึ่ง

ธารชีวิตในอดีตของหลินสวิน!

เมื่อเห็นภาพน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ หลินสวินเกิดความคิดมากมายอย่างควบคุมไม่อยู่

บนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง

แต่ตอนนี้มีโอกาสไปชดเชยความบกพร่องของช่วงชีวิตในอดีต ต่างอะไรกับได้รับยารักษาโรคเสียใจภายหลังที่แท้จริง

หากตอนนี้ตนมีโอกาสเช่นนี้แล้ว ขอแค่ตนต้องการก็ไปเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในอดีตได้!

เผชิญหน้ากับทางเลือกเช่นนี้ บนโลกนี้จะมีคนสักกี่มากน้อยต้านทานสิ่งเร้านั้นได้

แต่ไม่นานหลินสวินก็สงบลง

เขาก็เหมือนซย่าจื้อ ชีวิตในอดีตของเขาไม่ต้องชดเชยและเปลี่ยนแปลง

ต่อให้มีความบกพร่อง คับแค้น จนปัญญา นึกเสียใจมากมาย… แต่สำหรับหลินสวิน เรื่องพวกนั้นล้วนเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ล้วนเป็นฐานหินสร้างหนทางมหามรรคของเขา

ดังนั้นจึงทำให้เขามีวิชามรรคเช่นวันนี้ได้!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท