ตอนที่ 3204 เข้าหอเซียน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ความ​กระสับกระส่าย​เด่นชัด​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจของ​ระดับ​อมตะ​อย่าง​พวก​เลี่ย​หย่ง​

“ลงมือ​!”

พวกเขา​ลงมือ​พร้อมกัน​โดย​ไม่ลังเล​

ตูม​!

แสงมรรค​อมตะ​เจิด​จรัส​แสบตา​นานัปการ​พุ่ง​ขึ้น​มา ประสาน​เป็น​กระแส​พลัง​ปั่นป่วน​กลาง​ฟ้าดิน​ ศาสตรา​มรรค​อมตะ​มากมาย​เคลื่อน​ผ่าน​อากาศ​ มีประทับ​มรรค​ แส้หาง​ม้า กระบี่​เซียน​ กระถาง​โบราณ​ คทา​สมประสงค์​… หมอก​แสงเจิด​จรัส​แผ่​อานุภาพ​ไร้​ใด​เปรียบ​

กระแส​พลัง​เช่นนี้​ล้วน​ม้วน​ซัด​ไป​ทาง​หลิน​สวิน​คนเดียว​

ฟ้าดิน​พลัน​คร่ำครวญ​ สรรพสิ่ง​ล้วน​หม่น​แสง

ภาพ​เหตุการณ์​นั้น​ทำให้​ชิงเหิง​ขนพองสยองเกล้า​

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​ส่าย​หัว​เหมือน​ผิดหวัง​อยู่​บ้าง​

สาเหตุ​อยู่​ที่​ภาพ​เช่นนี้​เขา​ผ่าน​มาเยอะ​แล้ว​ ปี​นั้น​ยาม​อยู่​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​ แค่​พลิก​ฝ่ามือ​ยัง​กำจัด​ได้​ นับประสาอะไร​กับ​ตอนนี้​

“ทะยาน​!”

แขน​เสื้อ​เขา​พลิก​ตลบ​ เสียง​กระบี่​ครวญ​ดังก้อง​ทันที​ มีเจต​กระบี่​ไร้​สิ้นสุด​ปรากฏ​กลาง​ฟ้าดิน​แถบ​นี้​

ฟุ่บ​!

ปราณ​กระบี่​สาย​หนึ่ง​กวาด​ผ่าน​อากาศ​

การ​โจมตี​ที่​ระดับ​อมตะ​สามสิบ​หก​คน​ร่วมมือ​กัน​ถูก​แหวก​เป็น​ทาง​มหึมา​โดยง่าย​ราว​ผืน​ผ้า​ทันที​

ฟุ้งกระจาย​ดุจ​กระแสน้ำ​!

ตู​ม…

จากนั้น​เสียง​ระเบิด​น่ากลัว​ดังก้อง​ ฟ้าดิน​พลิก​ตลบ​ ตะวัน​จันทรา​พลิกคว่ำ​ เจต​กระบี่​ไร้​ขอบเขต​โน้ม​ลงมา​ดุจ​ธาร​ดารา​เก้า​ฟ้า ปกคลุม​ทั่วโลก​หล้า​

เจต​กระบี่​นั้น​ยิ่งใหญ่​เกินไป​ ทำให้​ฟ้าดิน​ขาวโพลน​ทั้ง​แถบ​!

“ไม่…!”

มีเสียง​ตะโกน​ตื่นตระหนก​ดัง​ขึ้น​

“สหาย​ยุทธ์​โปรด​ออม​มือ​ พวกเรา​ยอมจำนน​!”

มีคน​ตะโกน​ยอมแพ้​

…ไม่นาน​ฝุ่น​ควัน​จางหาย​ เจต​กระบี่​ไร้​ขอบเขต​ซึ่งปกคลุม​ทั่วหล้า​หาย​ไป​ ใต้​หล้า​ฟ้าดิน​กลับ​สู่ความสงบ​ดังเดิม​ ทัศนวิสัย​เปลี่ยนเป็น​แจ่มชัด​

จากนั้น​ชิงเหิง​ก็​เห็น​ระดับ​อมตะ​สามสิบ​หก​คน​นั้น​หน้าซีด​ อกสั่นขวัญหาย​ สีหน้า​แต่ละคน​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​และ​มึนงง​

ลำคอ​พวกเขา​ต่าง​มีปราณ​กระบี่​กระจ่าง​แวววาว​สาย​หนึ่ง​จ่อ​อยู่​!

ชิงเหิง​อึ้ง​งัน​โดย​สมบูรณ์​

การ​โจมตี​เดียว​พิชิต​ระดับ​อมตะ​สามสิบ​หก​คน​?!

นี่​ล้มล้าง​ความเข้าใจ​ของ​เขา​โดยสิ้นเชิง​ ทำให้​กาย​ใจเขา​ตระหนก​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

เมื่อ​มอง​หลิน​สวิน​อีกครั้ง​ ชาย​เสื้อ​เขา​พลิ้วไหว​ ยืน​สันโดษ​ ราบเรียบ​นิ่ง​สงบ​เหมือนเคย​

แต่​ตอนนี้​ใน​สายตา​ทุกคน​ หลิน​สวิน​ราวกับ​เทพ​ผู้ยิ่งใหญ่​องค์​หนึ่ง​ ทำให้​พวกเขา​รู้สึก​ว่า​ตัวเล็ก​จ้อย​ไร้​กำลัง​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​

ไม่มีใคร​เคย​จินตนาการ​ว่า​คน​ผู้​หนึ่ง​ซึ่งมีมรรค​วิถี​แค่​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ ทำไม​กลับ​มีอานุภาพ​น่ากลัว​เช่นนั้น​ใน​พริบตา​

ทุก​อย่างนี้​ราวกับ​ฝันร้าย​ไม่ใช่ความจริง​…

บรรยากาศ​กดดัน​ อากาศ​ราว​ค้าง​แข็ง​

“ตอนนี้​ทุกท่าน​พอใจ​หรือยัง​”

หลิน​สวิน​กล่าว​ราบเรียบ​ เสียง​นั้น​ลอย​อยู่​กลาง​ฟ้าดิน​ ทำให้​ระดับ​อมตะ​อย่าง​เลี่ย​หย่ง​สั่น​ไป​ทั้งตัว​ ได้สติ​กลับ​มาจาก​ความ​ตระหนก​เหมือน​เพิ่ง​ตื่น​จาก​ฝัน​

“พวกเรา​… ยอมจำนน​”

เลี่ย​หย่ง​กล่าว​ขมขื่น​

คนอื่น​ต่าง​หดหู่​เช่นกัน​

การ​โจมตี​เดียว​ก็​สยบ​พวกเขา​ได้​ นี่​ทำให้​พวกเขา​รู้ซึ้ง​ว่า​ความแตกต่าง​และ​ห่าง​ชั้น​ด้าน​พลัง​คือ​อะไร​

ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ยัง​คิด​ว่า​ต่อให้​หลิน​สวิน​เป็น​ผู้​แปร​มรรค​ แต่​ย่อม​ไม่มีทาง​ต้านทาน​ได้​แน่​

ทว่า​ตอนนี้​พวกเขา​ถึงเพิ่ง​รู้​ว่า​ผู้​แปร​มรรค​อย่าง​หลิน​สวิน​เป็น​ตัวตน​น่ากลัว​เพียงใด​!

“มอบ​สมบัติ​ติดตัว​มา ข้า​คน​แซ่หลิน​จะไม่ทำให้​พวก​เจ้าลำบาก​”

หลิน​สวิน​กล่าว​

ปราณ​กระบี่​ยัง​จ่อ​อยู่​ตรง​ลำคอ​ พวก​เลี่ย​หย่ง​มีหรือ​จะกล้า​ลังเล​อีก​ ล้วน​เอา​สมบัติ​ติดตัว​ทั้งหมด​ออกมา​

หลิน​สวิน​ยื่นมือ​ไป​คว้า​สมบัติ​พวก​นี้​ลง​ถุงหนัง​ จากนั้น​จึงเอ่ย​ถาม “ทำไม​ไม่เห็น​หยวน​จงผู้อาวุโส​ชั้นสูง​แห่ง​หอ​เซียน​”

“ใต้เท้า​หยวน​จงจากไป​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​แล้ว​”

มีคน​กล่าว​เสียง​ขมขื่น​

หลิน​สวิน​อึ้ง​งัน​ ใคร่ครวญ​ครู่หนึ่ง​ก็​เข้าใจ​ กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​หยาม​เหยียด​ “เจ้าหมอ​นี่​ถือว่า​ฉลาด​ ปลีกตัว​ถอย​ล่วงหน้า​ เหลือ​แค่​พวก​เจ้าไว้​หยั่งเชิง​พลัง​ของ​ข้า​”

พวก​เลี่ย​หย่ง​ได้ยิน​ดังนี้​ต่าง​สบตา​กัน​ ใน​ใจพลัน​กระตุก​วูบ​ทันที​ คล้าย​ว่า​ในที่สุด​ก็​ได้สติ​กลับมา​ ที่แท้​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​หยวน​จงก็​สังเกตเห็น​ว่า​ไม่เข้าที​แล้ว​?

สีหน้า​พวกเขา​ทุกคน​ไม่น่าดู​ขึ้น​มา หาก​เป็น​เช่นนี้​พวกเขา​คง​เป็น​แค่​หมาก​ที่​ถูก​ใช้โดย​ไม่ต้องสงสัย​!

“สหาย​ยุทธ์​ หลาย​วัน​มานี้​แม้ว่า​เจ้ากำราบ​คู่ต่อสู้​มากมาย​ ทำไม​กลับ​ไม่เคย​ฆ่าใคร​สัก​คน​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​หลิน​สวิน​กำลังจะ​จากไป​ เลี่ย​หย่ง​อด​เอ่ย​ถามไม่ได้​

คนอื่น​ล้วน​เคลื่อน​สายตา​มอง​ไป​เช่นกัน​

“คู่ต่อสู้​ของ​ข้า​ไม่ใช่พวก​เจ้า”

หลิน​สวิน​กล่าว​ประโยค​นี้​ไว้​ ก่อน​พา​ชิงเหิง​ที่​ยัง​ตะลึง​ไม่อาจ​ควบคุม​ได้​ลอย​จากไป​

หลัง​มอง​พวก​หลิน​สวิน​จากไป​ พวก​เลี่ย​หย่ง​ล้วน​สีหน้า​ซับซ้อน​ อารมณ์​ความรู้สึก​พลุ่งพล่าน​

สี่สำนัก​ใหญ่​ที่​พวกเขา​ถวาย​ชีวิต​ให้​มอง​พวกเขา​เป็นตัว​หมาก​ สามารถ​ละทิ้ง​พวกเขา​ได้​ตลอดเวลา​ แต่​ภายใต้​สถานการณ์​ที่​ครอง​ความได้เปรียบ​ คู่ต่อสู้​อย่าง​หลิน​สวิน​กลับ​ไม่เคย​ทำร้าย​พวกเขา​สัก​คน​

เมื่อ​เทียบ​เช่นนี้​แล้ว​ยิ่ง​ทำให้​ใน​ใจพวกเขา​รู้สึก​ซับซ้อน​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​ กล่าว​ได้​ว่า​รู้สึก​สับสน​

วันนี้​ข่าว​ว่า​หลิน​สวิน​กำราบ​ระดับ​อมตะ​สามสิบ​หก​คน​หน้า​เขา​ผา​วาโย​แพร่​ออก​ไป​ ก่อให้เกิด​ความโกลาหล​ขึ้น​ใน​โลก​แปร​มรรค​ ผู้ฝึก​ปราณ​และ​ขุม​อำนาจ​ทุก​อาณาเขต​ล้วน​สั่นสะท้าน​และ​แตกตื่น​ไม่หยุด​

หอ​เซียน​

ใน​ถ้ำสถิต​แห่ง​หนึ่ง​

เมื่อ​จู๋เฉิงวาง​ม้วน​หยก​ส่งข่าว​ที่​เพิ่ง​ได้รับ​ลง​ เขา​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ขึ้น​มา

“หยวน​จงกล่าว​ไม่ผิด​ หลิน​สวิน​แปร​มรรคา​อมตะ​สมบูรณ์​สาย​หนึ่ง​ได้​แล้ว​”

เขา​กล่าว​เสียงต่ำ​

จู๋เฉิงเป็น​อันดับ​หนึ่ง​บน​มรรคา​อมตะ​แห่ง​หอ​เซียน​ ทั้งเป็น​ผู้นำ​ทูต​ชะตา​สวรรค์​เจ็ด​คน​แห่ง​ภาคี​อีสาน​ที่อยู่​บน​โลก​นี้​ มรรค​วิถี​ทั้งตัว​ลึกล้ำ​ยาก​หยั่งถึง​

ห่าง​จาก​จู๋เฉิงไม่ไกล​มีทูต​ชะตา​สวรรค์​อีก​หก​คน​นั่ง​อยู่​ ได้แก่​ผู้อาวุโส​ชั้นสูง​ของ​เรือน​เทพ​ ประตู​มาร​ สำนัก​อสูร​มาร​

หลาย​วันก่อน​หลังจาก​หยวน​จงพา​เถียน​รั่ว​จิ้งกลับ​มายัง​หอ​เซียน​พร้อมทั้ง​แจ้งข่าว​เกี่ยวกับ​หลิน​สวิน​ จู๋เฉิงออกคำสั่ง​ระดมพล​เหล่า​ทูต​ชะตา​สวรรค์​ซึ่งกระจาย​อยู่​ใน​อีก​สามสำนัก​ใหญ่​มาทันที​

“เพิ่ง​ผ่าน​ไป​สอง​ปี​เท่านั้น​ เจ้าหนุ่ม​นี่​หยั่งถึง​กฎระเบียบ​วัฏจักร​ของ​โลก​นี้​ แปร​ยอด​มรรคา​ซึ่งเหมาะกับ​ชิงเฟิงนั่น​ได้​แล้ว​ ไม่น่ากลัว​เกินไป​หน่อย​หรือ​…”

หยวน​จงสีหน้า​จริงจัง​

“หาก​ไม่เป็น​เช่นนี้​ ตอนนั้น​นาย​ท่าน​คง​ไม่ออกคำสั่ง​ให้​พวกเรา​หา​หลิน​สวิน​ให้​เจอ​โดยเร็ว​ และ​ฉวยโอกาส​ตอน​เขา​อ่อนแอ​กำจัด​เขา​ซะ”

จู๋เฉิงถอนใจ​ยาว​ “แต่​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ตอนนี้​ล้วน​สาย​ไป​อยู่​บ้าง​”

“มรรค​วิถี​ของ​พวกเรา​เหนือกว่า​ระดับ​อมตะ​ทุกคน​บน​โลก​นี้​แล้ว​ ต่อให้​เขา​หลิน​สวิน​บุก​มาก็​ไม่ต้อง​กลัว​”

ชาย​ชุด​ดำ​ร่าง​ผอม​บางคน​หนึ่ง​กล่าว​เสียง​ขรึม​ แววตา​เยียบ​เย็น​

“ไม่ผิด​ ถ้าเจ้าหลิน​สวิน​นี่​อยาก​จาก​โลก​นี้​ไป​ ย่อม​ต้อง​ทิ้ง​มรรคา​ของ​ตน​ไว้​บน​ศิลา​เทพ​แปร​มรรค​ของ​หอ​เซียน​ พวกเรา​แค่​วางแผน​และ​เฝ้ารอ​อยู่​ที่นี่​ก็​พอ​”

หญิง​สาวแรกแย้ม​สวม​ชุด​กระโปรง​เขียว​คน​หนึ่ง​กล่าว​เสียง​เบา​

จู๋เฉิงกวาดสายตา​มอง​คนอื่น​พลาง​กล่าว​เสียง​ขรึม​ “หลาย​ปี​นี้​พวกเรา​บ่ม​เพาะ​ระดับ​อมตะ​ภายใน​สี่สำนัก​ใหญ่​ออกมา​ไม่น้อย​เช่นกัน​ ถึงเวลา​ส่งลง​สนามรบ​แล้ว​ หลังจากนี้​ให้​เรียก​ระดมพล​พวกเขา​มาทั้งหมด​ คอย​เฝ้าหอ​เซียน​รอ​หลิน​สวิน​มาติดกับ​เอง​!”

ภายใน​หอ​หลัง​หนึ่ง​ใน​หอ​เซียน​

จิตใจ​เถียน​รั่ว​จิ้งไม่เป็นสุข​ อึ้ง​งัน​เหม่อลอย​

สัญชาตญาณ​บอก​นาง​ว่า​หลิน​สวิน​ไม่มีทาง​ปล่อย​นาง​ไป​แน่​!

ต่อให้​นาง​กับ​หลิน​สวิน​ไม่มีความแค้น​ต่อกัน​ แต่​เพราะ​มีความสัมพันธ์​กับ​ชิงเฟิงจึงทำให้​เรื่องราว​ต่าง​ออก​ไป​

‘ชิงเฟิงหนอ​ชิงเฟิง ชีวิต​ของ​สวะ​อย่าง​เจ้าช่างดี​นัก​…’

เถียน​รั่ว​จิ้งลอบ​กัดฟัน​กรอด​ ใน​ดวงตา​เปี่ยม​ความ​คั่งแค้น​

ใคร​จะคิด​ว่า​ผู้​แปร​มรรค​ที่​น่ากลัว​อย่าง​หลิน​สวิน​ถึงกับ​ปรากฏตัว​ใน​ร่าง​สวะ​อย่าง​ชิงเฟิง

สิ่งสำคัญ​ที่สุด​คือ​ชิงเฟิงยัง​เป็น​ปราการ​ใจใน​การ​แจ้งมรรค​อมตะ​ของ​นาง​ด้วย​!

แต่​เห็นชัด​ว่า​หาก​หลิน​สวิน​ไม่ตาย​ ย่อม​หมายความว่า​ชิงเฟิงก็​ไม่มีทาง​ประสบ​เคราะห์​ ทั้งหมด​นี้​ทำให้​นาง​แทบ​ไม่มีความหวัง​ไป​แจ้งมรรค​อมตะ​อีก​!

‘ถ้ารู้​แบบนี้​ปี​นั้น​ข้า​ควร​ทำ​ทุก​วิถีทาง​เพื่อ​กำจัด​เจ้า…’

ใบหน้า​งามของ​เถียน​รั่ว​จิ้งปรวนแปร​ไม่หยุด​

นาง​ไม่ได้​นึก​เสียใจ​ ต่อให้​ปี​นั้น​ชิงเฟิงเคย​ช่วยชีวิต​นาง​ ต่อให้​นาง​ผิด​ต่อ​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ ปฏิเสธ​การ​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​ของ​ชิงเฟิง หลาย​ปี​นี้​นาง​ไม่เคย​นึก​เสียใจ​สักนิด​

แม้แต่​ตอนนี้​นาง​ก็​ยัง​แค้น​ตัวเอง​ว่า​ทำไม​ปี​นั้น​ถึงไม่ฆ่าชิงเฟิงซะ!

ผ่าน​ไป​ครึ่ง​เดือน​

กลาง​ภูผา​ธารา​แถบ​หนึ่ง​ หลิน​สวิน​ลืมตา​จาก​การทำสมาธิ​

กลิ่นอาย​บน​ตัว​เขา​ปรากฏ​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​ระดับ​อมตะ​ขั้น​หลุดพ้น​แล้ว​!

‘ก็​ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​ซย่า​จื้อ​อยู่​ที่ไหน​ การแปร​มรรคา​ของ​นาง​บรรลุ​ถึงระดับ​ใด​แล้ว​…’

หลิน​สวิน​นึกถึง​ซย่า​จื้อ​ขึ้น​มา

ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​เขา​ส่าย​หัว​แล้ว​หยัด​ร่าง​ขึ้น​

ชิงเหิง​ซึ่งฝึก​ปราณ​อยู่​ใกล้เคียง​ตลอด​ลืมตา​ขึ้น​มาทันที​ เมื่อ​ลุกขึ้น​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงกลิ่นอาย​ระดับ​อมตะ​ขั้น​หลุดพ้น​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ตัว​หลิน​สวิน​ ใน​ใจเขา​พลัน​สั่นสะท้าน​

ชิงเหิง​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​พลาง​กล่าว​ “ผู้อาวุโส​คิด​มุ่งหน้า​ไป​หอ​เซียน​หรือ​”

แม้แต่​คำ​เรียก​หลิน​สวิน​ของ​เขา​ยัง​เปลี่ยนไป​ด้วย​

ความจริง​ใน​สายตา​ของ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ บุคคล​ที่​ก้าว​สู่ระดับ​อมตะ​พวก​นั้น​ล้วน​เป็น​ ‘ผู้อาวุโส​’ ซึ่งพวกเขา​ได้​แต่​แหงน​มอง​และ​เลื่อมใส​

หลิน​สวิน​มอง​เขา​ครา​หนึ่ง​พลาง​กล่าว​ “เรียก​ข้า​ว่า​สหาย​ยุทธ์​เถอะ​”

ชิงเหิง​อักอ่วน​อยู่​บ้าง​

“หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ ตอนนี้​หอ​เซียน​คง​เป็น​ถ้ำพยัคฆ์​วัง​มังกร​ ไอ​สังหาร​รอบด้าน​ แต่​สำหรับ​ข้า​เรื่อง​พวก​นี้​ไม่ถึงขั้นอันตราย​นัก​”

หลิน​สวิน​กล่าว​เสียง​ขรึม​ “หลังจาก​ข้า​จัดการ​คู่ต่อสู้​พวก​นั้น​แล้ว​ ใช้เวลา​ไม่นาน​ก็​คง​จาก​โลก​นี้​ไป​…”

เขา​พูดถึง​ตรงนี้​แล้ว​เหลือบมอง​ชิงเหิง​ “เอา​อย่างนี้​ สหาย​ยุทธ์​ไป​พร้อม​ข้า​ ถึงตอนนั้น​ค่อย​จัดแจง​ให้​สำนัก​สวรรค์​ยุทธ์​ฝึก​ปราณ​ใน​หอ​เซียน​ ถือ​เป็นการ​ชดเชย​และ​การตอบแทน​ที่​ข้า​มีต่อ​ชิงเฟิงและ​สหาย​ยุทธ์​”

ชิงเหิง​อึ้ง​งัน​

ยาม​เขา​ยัง​กังวล​ว่า​หลิน​สวิน​ไป​หอ​เซียน​แล้ว​จะเจอ​อันตราย​เพียงใด​ หลิน​สวิน​กลับ​พิจารณา​เรื่อง​ให้​พวกเขา​สำนัก​สวรรค์​ยุทธ์​พัก​อยู่​ใน​หอ​เซียน​แล้ว​!

นี่​ทำให้​เขา​รู้สึก​ว่า​ไม่ใช่ความจริง​

ทูต​ชะตา​สวรรค์​เจ็ด​คน​นั้น​น่ากลัว​ระดับ​ใด​ แต่​ยัง​ไม่อาจ​ทำให้​หลิน​สวิน​ใส่ใจได้​หรือ​

“ไป​กัน​เถอะ​”

หลิน​สวิน​ไม่รู้​ว่า​ชิงเหิง​กำลัง​คิด​อะไร​

เขา​แค่​กำลัง​ทำ​เรื่อง​บางอย่าง​ที่​ควร​ทำ​เท่านั้น​

สามวัน​ต่อมา​

ใต้​เวิ้ง​ฟ้าแถบ​หนึ่ง​เงาร่าง​หลิน​สวิน​ทะยาน​มาถึง

ชิงเหิง​หลบ​อยู่​บน​เขา​วิญญาณ​แสงเฟิงแล้ว​ ส่วน​เขา​วิญญาณ​แสงเฟิงก็​ถูก​หลิน​สวิน​เก็บ​ไว้​

เวลานี้​หลิน​สวิน​ยืน​มือ​ไพล่หลัง​กลางอากาศ​ เงยหน้า​มอง​เมฆมงคล​ขาว​หิมะ​แถบ​หนึ่ง​ภายใต้​เวิ้ง​ฟ้า

หลังจากนั้น​ครู่หนึ่ง​เขา​พลัน​ยื่น​นิ้ว​วาด​ออก​ไป​

วู้​ม!

เมฆมงคล​ขาว​หิมะ​แถบ​นั้น​ม้วน​ซัด​รุนแรง​ จากนั้น​ค่อย​ปรากฏ​บานประตู​เหมือน​ว่างเปล่า​

นี่​ก็​คือ​ทาง​เข้าสู่​หอ​เซียน​!

‘ดูท่า​ว่า​ศัตรู​พวก​นั้น​คง​เตรียมพร้อม​นาน​แล้ว​กระมัง​…’

ยาม​ครุ่นคิด​หลิน​สวิน​ก้าว​ออก​ไป​ก้าว​หนึ่ง​ เงาร่าง​เขา​พุ่ง​เข้าไป​ใน​บานประตู​เหมือน​ว่างเปล่า​นั่น​ หาย​ลับ​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​

“หลิน​สวิน​นั่น​ถึงกับ​บุกเข้าไป​เช่นนี้​!”

หลาย​วันนี้​เมื่อ​ทุก​ข่าว​แพร่สะพัด​ ใน​ภูผา​ธารา​แถบ​นี้​มีผู้ฝึก​ปราณ​นับไม่ถ้วน​มารวมตัวกัน​นาน​แล้ว​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ทุกคน​ล้วน​แตก​ตื่นขึ้น​มา แต่ละคน​สั่นสะท้าน​ไม่หยุด​

……………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท