ตอนที่ 3210 ช่วยยามคับขัน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ชาย​หญิง​คู่​หนึ่ง​ใน​ถ้ำสถิต​คือ​พวก​หลิน​สวิน​

ครึ่ง​เดือนก่อน​พวกเขา​ทยอย​เข้าสู่​โลก​โลกา​สวรรค์​แล้ว​

เป็น​อย่าง​ที่​ศัตรู​พวก​นั้น​คาดเดา​ หลิน​สวิน​รู้เรื่อง​โลก​โลกา​สวรรค์​อยู่แล้ว​ ทั้ง​รู้ดี​ว่า​ก่อน​จะหยั่งรู้​และ​ครอง​พลัง​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ ต่อให้​พลัง​ต่อสู้​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​แค่​ไหน​ก็​ไม่มีพลัง​ไป​ต่อกร​กับ​ศัตรู​พวก​นั้น​

ดังนั้น​พริบตา​แรก​ที่​มาถึงโลก​นี้​ เขา​กับ​ซย่า​จื้อ​จึงเลือก​จำศีล​ฝึก​ปราณ​

เวลานี้​…

บน​ตัว​หลิน​สวิน​ปรากฏ​ภาพ​มหา​มรรค​อัศจรรย์​ออกมา​ ราวกับ​กลายเป็น​ฟ้าดิน​ไร้​รูป​ไร้​ขอบเขต​ ภายใน​แบกรับ​อารยธรรม​ยิ่งใหญ่​เจิด​จรัส​ เผย​มหา​มรรค​ทั่วหล้า​นับไม่ถ้วน​ หมื่น​ลักษณ์​หมื่น​วิญญาณ​ล้วน​วิวัฒน์​อยู่​ภายใน​ มีพลัง​ชีวิต​ไร้​สิ้นสุด​พลุ่งพล่าน​อบอวล​

เบิก​ม่าน​แรก​กำเนิด​ แรก​พบ​โลกา​สวรรค์​

สีดำ​ถูก​มอง​เป็น​สีแห่ง​สวรรค์​ สีเหลือง​ถูก​มอง​เป็น​สีแห่ง​โลก​หล้า​

โลกา​สวรรค์​จึงเป็นตัวแทน​แห่ง​ฟ้าดิน​

แต่​ใน​สายตา​ของ​ผู้ฝึก​ปราณ​ โลกา​สวรรค์​กลับ​เป็นแดน​ไร้​รูป​ยาม​จักรวาล​แรก​กำเนิด​ มีพลัง​แบกรับ​อารยธรรม​ มหา​มรรค​ พลัง​ชีวิต​ หมื่น​ลักษณ์​ หมื่น​วิญญาณ​

หรือ​กล่าว​ได้​ว่า​โลกา​สวรรค์​ก็​คือ​ฟ้าดิน​เช่นกัน​ แต่กลับ​สื่อ​ถึงโลก​ จักรวาล​ แดน​มีรูป​ไร้​รูป​ทั้งหมด​ โลก​เล็ก​เท่า​ทราย​หิน​ โลก​ใหญ่​เท่า​สรรพสิ่ง​ ล้วน​มองว่า​เป็น​ ‘โลกา​สวรรค์​’

เมื่อ​หยั่งรู้​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ มหา​มรรค​ที่​ผู้ฝึก​ปราณ​ครอบครอง​จะแปรสภาพ​เป็นแดน​แรก​กำเนิด​ ทำให้​มหา​มรรค​ของ​ตน​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​อัศจรรย์​

นี่​ไม่ใช่การ​ทะลวง​ระดับ​ปราณ​ แต่​เป็น​การเปลี่ยนแปลง​เหมือน​ย้อน​กำเนิด​มหา​มรรค​ของ​ตน​

กล่าวสรุป​โดยง่าย​ ใน​โลก​โลกา​สวรรค์​นี้​ การ​หยั่งรู้​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ทำให้​ควบ​รวม​ไอ​โลกา​สวรรค์​ใน​มหา​มรรค​ของ​ตน​ได้​ สามารถ​แปร​เปลี่ยนเป็น​ฟ้าดิน​ แบกรับ​อารยธรรม​ แบกรับ​มหา​มรรค​!

เมื่อ​ทำได้​ถึงขั้น​นี้​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​วิวัฒน์​ยุคสมัย​หนึ่ง​แล้ว​

ครึ่ง​เดือน​มานี้​หลิน​สวิน​หยั่งรู้​และ​ครอง​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ได้​โดยง่าย​ พลัง​มหา​มรรค​ทั้งตัว​กำลัง​ผ่าน​การเปลี่ยนแปลง​ชวน​ตะลึง​ช้าๆ!

การต่อสู้​ใน​โลก​โลกา​สวรรค์​นี้​ สิ่งที่​เทียบ​กัน​คือ​ไอ​โลกา​สวรรค์​ที่​ควบ​รวม​ของ​ใคร​แข็งแกร่ง​กว่า​ คน​นั้น​ย่อม​ได้เปรียบ​ใน​การต่อสู้​

ความจริง​คือ​นี่​เป็น​ ‘การต่อสู้​มหา​มรรค​’ ใน​อีกนัยหนึ่ง​

แค่​สิ่งที่​ประชัน​กัน​คือ​พลัง​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ที่​มหา​มรรค​ของ​ตน​ครอบครอง​เท่านั้น​

นับแต่​อดีต​จน​ปัจจุบัน​มีคำพูด​หนึ่ง​มาตลอด​ โดยทั่วไป​ผู้ฝึก​ปราณ​ที่​ออกจาก​โลก​โลกา​สวรรค์​ได้​ มรรค​วิถี​ของ​เขา​แทบจะ​บรรลุ​ถึงขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​กัน​ทั้งสิ้น​

สาเหตุ​อยู่​ที่​ไอ​โลกา​สวรรค์​ซึ่งควบ​รวม​ออกมา​ก่อให้เกิด​จุด​เปลี่ยน​หนึ่ง​บน​มรรคา​ของ​ผู้ฝึก​ปราณ​!

ถ้าอยาก​ออกจาก​โลก​โลกา​สวรรค์​ ไอ​โลกา​สวรรค์​ที่​ตน​ควบ​รวม​ต้อง​สามารถ​ดึงดูด​การ​ขานรับ​จาก​บ่อเกิด​แรก​กำเนิด​ของ​โลก​โลกา​สวรรค์​มาได้​!

เช่นนี้​จึงจะชักนำ​ผล​มรรค​แรก​กำเนิด​เพื่อ​เข้าสู่​ประตู​สวรรค์​

เท่านี้​ก็​คาดเดา​ได้​ว่า​เมื่อ​ผู้ฝึก​ปราณ​ควบ​รวม​ไอ​โลกา​สวรรค์​ถึงขั้น​ดึงดูด​การ​ตอบสนอง​จาก​ฟ้าดิน​มาได้​ ก็​จะมีจุด​เปลี่ยน​ซึ่งทำให้​มรรค​วิถี​ของ​ตน​บรรลุ​ถึงขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​แล้ว​

แต่​สำหรับ​หลิน​สวิน​เรื่อง​นี้​กลับ​ต่าง​ออก​ไป​โดยสิ้นเชิง​

เหตุผล​นั้น​ง่าย​มาก​ ตอน​อยู่​โลก​แปร​มรรค​หลิน​สวิน​บรรลุ​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​แล้ว​!

ด้วยเหตุนี้​หลังจาก​เขา​เข้าสู่​โลก​โลกา​สวรรค์​ เมื่อ​ไป​หยั่งรู้​และ​ควบคุม​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​อีก​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​ไม่เปลือง​แรง​แม้แต่น้อย​ สัมผัส​ถึงแก่น​อัศจรรย์​ของ​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ทั้ง​ยัง​ควบคุม​มัน​ได้​ด้วย​

แม้แต่​ตอน​ควบ​รวม​ไอ​โลกา​สวรรค์​ก็​มีท่าที​ว่า​จะรุดหน้า​ ทำให้​เขา​หลอม​ชำระ​มหา​มรรค​ทั้งตัว​ถึงห้า​ส่วน​ได้​ใน​เวลา​อัน​สั้น​แค่​ครึ่ง​เดือน​!

‘ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​สามารถ​แบกรับ​อารยธรรม​และ​มหา​มรรค​ ทำให้​ผู้ฝึก​ปราณ​แปลง​เป็น​ฟ้าดิน​ แบกรับ​อารยธรรม​และ​มหา​มรรค​ได้​เช่นกัน​ นี่​เท่ากับ​กลายเป็น​ยุคสมัย​หนึ่ง​แล้ว​…’

ระหว่าง​นั่งสมาธิ​หลิน​สวิน​ยัง​ทอดถอนใจ​อย่า​งอด​ไม่ได้​ ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​นี้​เลิศ​ล้ำ​เกิน​บรรยาย​จริงๆ​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​บน​ตัว​ซย่า​จื้อ​เปี่ยม​พลัง​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ต่าง​จาก​หลิน​สวิน​ ฟ้าดิน​ของ​นาง​กลับ​มืด​ดุจ​รัตติกาล​นิรันดร์​ อารยธรรม​และ​มหา​มรรค​ที่​นาง​แบกรับ​ไว้​ภายใน​ กลับ​เร้นลับ​ล้ำลึก​เหมือน​ดวงดาว​แต้ม​แต่ง​กลาง​ฟ้าดิน​ มืดมิด​ดุจ​รัตติกาล​นิรันดร์​

กาลเวลา​ล่วงเลย​ ผ่าน​ไป​หลาย​วัน​อย่าง​รวดเร็ว​

หลิน​สวิน​ที่​กำลัง​ฝึก​ปราณ​พลัน​ลืมตา​

พลัง​ผนึก​นอก​ถ้ำสถิต​เกิด​คลื่น​สะเทือน​ชั้นหนึ่ง​ ถูก​เขา​สังเกตเห็น​ตั้งแต่​พริบตา​แรก​ทันที​

‘มีผู้ฝึก​ปราณ​ผ่าน​หมู่​เขา​แถบ​นี้​!’

หลิน​สวิน​นึกถึง​ตรงนี้​แล้ว​ลุกขึ้น​ แผ่​จิต​รับรู้​เข้าไป​ใน​ผนึก​ ภาพ​เหตุการณ์​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ทันที​…

ก็​เห็น​ว่า​กลาง​หมู่​เขา​กว้างใหญ่​มีเงาร่าง​เหมือน​ลำแสง​หนึ่ง​วาบ​ผ่าน​ท้องฟ้า​เหนือ​หมู่​เขา​

จากนั้น​เงาร่าง​สามสาย​พลัน​ปรากฏ​ ตาม​คน​เบื้องหน้า​ไป​ติดๆ​!

‘เฒ่าโดดเดี่ยว​!’

แม้ว่า​ภาพ​นั้น​จะหาย​ไป​ชั่วพริบตา​ แต่​หลิน​สวิน​ยัง​รู้​ว่า​ผู้​ที่​ถูก​ตามล่า​นั้น​คือ​เฒ่าโดดเดี่ยว​!

นัยน์ตา​เขา​ฉายแวว​เยียบ​เย็น​น่า​พรั่นพรึง​ทันที​

ตอน​อยู่​โลก​แปร​ปุถุชน​สิงเจี้ยนส​ยา​เคย​บอ​กว่า​อาจารย์​ของ​เขา​หยวน​ชูส่งข่าว​มา กำชับ​ว่า​เมื่อ​หลิน​สวิน​เข้าสู่​โลก​โลกา​สวรรค์​แล้ว​ต้อง​ไปหา​เฒ่าโดดเดี่ยว​ เช่นนี้​ถึงจะได้รับ​การ​คุ้มครอง​จาก​เฒ่าโดดเดี่ยว​

แต่​เพราะ​หลิน​สวิน​รู้เรื่อง​โลก​โลกา​สวรรค์​ก่อน​แล้ว​ ดังนั้น​หลังจาก​เข้าสู่​โลก​นี้​จึงคิด​ว่า​รอ​หยั่งรู้​และ​ครอง​พลัง​ต้นกำเนิด​โลกา​สวรรค์​ก่อน​ค่อย​ไปหา​เฒ่าโดดเดี่ยว​

แต่​ใคร​จะคิด​ว่า​เฒ่าโดดเดี่ยว​กลับ​กำลัง​ถูก​คน​ตามล่า​!

“ซย่า​จื้อ​ เจ้าจดจ่อ​กับ​การ​ฝึก​ปราณ​อยู่​ที่นี่​ ข้า​จะออก​ไป​ข้างนอก​”

หลิน​สวิน​สูด​หายใจ​ลึก​พลาง​ตัดสินใจ​

“ได้​”

ซย่า​จื้อ​ที่​กำลัง​ฝึก​ปราณ​ตอบ​รับคำ​หนึ่ง​

หลิน​สวิน​พุ่งตรง​ออกจาก​ถ้ำสถิต​ใต้ดิน​ไป​โดย​ไม่รอ​ช้า จากนั้น​เงาร่าง​เขา​จึงเคลื่อน​แหวก​อากาศ​ไป​

ฟุ่บ​!

เขา​ใช้พลัง​ทั้งหมด​ ความเร็ว​ถึงขั้น​สะเทือน​ใต้​หล้า​ ทั้งตัว​ราว​ภาพมายา​ ทุก​ก้าวย่าง​คล้าย​ดารา​โคจร​สลัด​ภูผา​ธารา​ไร้​สิ้นสุด​ไว้​เบื้องหลัง​

ฮู่ว…​ ฮู่ว…​

ระหว่าง​หนี​ตาย​เฒ่าโดดเดี่ยว​หอบ​หายใจ​กระชั้น​ถี่ สีหน้า​ไม่น่าดู​

เขา​ถูก​ตามล่า​มานาน​ถึงสี่วัน​แล้ว​ ตลอดทาง​หลบหนี​ผ่าน​ภูผา​ธารา​ฟ้าดิน​มาไม่รู้​เท่าไร​ แต่กลับ​ไม่อาจ​สลัด​ทูต​ชะตา​สวรรค์​สามคน​ที่อยู่​ด้านหลัง​ได้​

และ​ตอนนี้​เฒ่าโดดเดี่ยว​คาดเดา​เจตนา​ที่​ศัตรู​ตามล่า​เขา​ออก​แล้ว​ เห็นชัด​ว่า​จะจับตัว​เขา​เป็น​ตัวประกัน​ ใช้วิธี​นี้​มาข่มขู่​หลิน​สวิน​

นอกจาก​ทำให้​เฒ่าโดดเดี่ยว​เดือดดาล​แล้ว​ เขา​ยัง​ลอบ​โล่งอก​อย่า​งอด​ไม่ได้​

แม้ว่า​ถูก​ตามล่า​จน​น่าอนาถ​อยู่​บ้าง​ แต่​อย่าง​น้อย​ทุก​อย่างนี้​ก็​พิสูจน์​แล้ว​ หาก​ไม่ใช่ว่า​หลิน​สวิน​ยัง​ไม่มาถึงโลก​โลกา​สวรรค์​นี้​

ก็​ต้อง​เป็น​มาถึงโลก​โลกา​สวรรค์​แล้วแต่​ยัง​ไม่ถูก​ศัตรู​เจอ​ตัว​!

สำหรับ​เฒ่าโดดเดี่ยว​เท่านี้​ก็​พอแล้ว​

‘ต้อง​คิด​หา​วิธี​สลัด​ศัตรู​พวก​นี้​’

เฒ่าโดดเดี่ยว​หน้านิ่วคิ้วขมวด​

สภาพ​ของ​เขา​ตอนนี้​ไม่เข้าที​นัก​ หนี​ติดต่อกัน​มาสี่วัน​ ทำให้​เขา​สูญเสีย​พลัง​ทั้ง​ตัวอย่าง​หนัก​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ใช้เวลา​ไม่นาน​ก็​จะยืนหยัด​ไม่อยู่​

แต่​เฒ่าโดดเดี่ยว​รู้ดี​ว่า​ตน​ทรมาน​ คู่ต่อสู้​สามคน​ที่​ตามล่า​ตน​มาตลอดทาง​นั้น​ก็​ไม่ดี​ไป​กว่า​กัน​เท่าไร​

ถึงอย่างไร​ตน​ก็​หนี​มาสี่วัน​ ส่วน​พวกเขา​ก็​ตามมา​สี่วัน​แล้ว​…

“เจ้าเฒ่า เจ้าหนี​ไม่พ้น​แล้ว​”

เสียง​ของ​ฉงซวี​ดัง​ไล่หลัง​มา แฝงความเกลียดชัง​เยียบ​เย็น​

“พูด​ไร้สาระ​ให้​น้อย​หน่อย​ ตาม​มาทัน​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​”

เฒ่าโดดเดี่ยว​กลอกตา​ใส่

สี่วันนี้​ไม่รู้​ว่า​เขา​ถูก​ถากถาง​ เย้ยหยัน​ ข่มขู่​มากี่​ครั้ง​ ตอนนี้​เมื่อ​ได้ยิน​คำขู่​เช่นนี้​อีก​จึงรู้สึก​ว่า​แค่​น่าขัน​

แต่​เวลานี้​กลาง​ฟ้าดิน​ที่​ห่าง​ออก​ไป​พลัน​ปรากฏ​เงาร่าง​หนึ่ง​กะทันหัน​ มือถือ​ทวน​ศึก​สีเงิน​เล่ม​หนึ่ง​ ร่าง​สูงโปร่ง​เหมือน​จอม​ศึก​เหนือ​พิภพ​

เมื่อ​เขา​ปรากฏตัว​ พลัง​โลกา​สวรรค์​ไร้​รูป​ปรากฏ​ กลายเป็น​ฟ้าดิน​แห่ง​หนึ่ง​ ภายใน​นั้น​แผ่​กลิ่นอาย​อารยธรรม​มหา​มรรค​ ยิ่งใหญ่​สง่างามผิดธรรมดา​

คน​ผู้​นี้​เหมือน​เฝ้ารอ​อยู่​นาน​แล้ว​ แหวก​อากาศ​มาปรากฏ​บน​ทาง​ข้างหน้า​เฒ่าโดดเดี่ยว​กะทันหัน​ ภายใต้​ความ​ไม่ทัน​ตั้งตัว​เฒ่าโดดเดี่ยว​ที่​กำลัง​หนี​เต็มกำลัง​หยุดชะงัก​ เมื่อ​คิด​จะหลี​กห​ลบโลก​ซึ่งวิวัฒน์​จาก​พลัง​โลกา​สวรรค์​นั้น​ก็​ปกคลุม​ลงมา​แล้ว​

ตูม​!

ฟ้าดิน​สะเทือน​ หมื่น​ลักษณ์​สะท้าน​

ต่อให้​เฒ่าโดดเดี่ยว​ตอบสนอง​รวดเร็ว​ ทั้ง​สำแดง​พลัง​โลกา​สวรรค์​ของ​ตน​ แต่​ยังคง​ถูก​ซัด​จน​ร่าง​โซเซ กระอัก​เลือด​ออกมา​อย่าง​กลั้น​ไม่อยู่​อีกต่อไป​

“เซียว​อวิ้นจื่อ!”​

เขา​หน้า​เปลี่ยนสี​ รู้​ฐานะ​ของ​ชาย​กุม​ทวน​ศึก​สีเงิน​นั่น​ เป็นหนึ่ง​ใน​ทูต​ชะตา​สวรรค์​เก้า​คน​ เซียว​อวิ้นจื่อ​

นี่​ทำให้​เฒ่าโดดเดี่ยว​ใจตกไป​ที่​ตาตุ่ม​

เขา​หนี​เต็มกำลัง​มานาน​สี่วัน​ ยัง​เจอ​การ​โจมตี​กะทันหัน​นี้​อีก​ สภาพ​ทั้งตัว​ดู​ย่ำแย่​ยิ่งกว่า​เดิม​แล้ว​

สิ่งสำคัญ​ยิ่งกว่า​คือ​ฉงซวี​ ปา​เจวี๋ย​ เฟ่ยห​ยา​ตาม​มาทัน​แล้ว​

“เจ้าเฒ่า เมื่อ​ครู่​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​เจ้าหนี​ไม่พ้น​!”

ฉงซวี​ยิ้ม​หยัน​

พวกเขา​สามคน​ยัง​มาไม่ถึง แต่​บน​ตัว​ทุกคน​กลับ​เผย​โลก​กว้างใหญ่​ วิวัฒน์​จาก​ไอ​โลกา​สวรรค์​ทั้งตัว​ สามารถ​แบกรับ​อารยธรรม​และ​มหา​มรรค​ได้​

ด้าน​หน้าเซียว​อวิ้นจื่อ​ลงมือ​อีกครั้ง​แล้ว​

ตีขนาบ​พร้อมกัน​ทั้ง​หน้า​หลัง​!

พลัน​เห็น​เฒ่าโดดเดี่ยว​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ พลัง​ขับเคลื่อน​บน​ตัว​ดัง​กึกก้อง​ โลก​โลกา​สวรรค์​แห่ง​หนึ่ง​แหวก​ผ่าน​อากาศ​ เผย​อานุภาพ​ไร้​ขอบเขต​ออกมา​

เขา​ตัดสินใจ​ทุ่ม​สุดตัว​เพื่อ​ตีฝ่า​หา​ทางรอด​

เมื่อก่อน​เขา​เคย​สู้กับ​ทูต​ชะตา​สวรรค์​พวก​นี้​มาไม่รู้​กี่​ครั้ง​ ทุกครั้ง​ล้วน​ถอย​หนี​ได้​เสมอ​

แต่​ครั้งนี้​ต่าง​ออก​ไป​ สภาพ​ของ​เขา​ย่ำแย่​เกินไป​แล้ว​ ตอนนี้​ยัง​ถูก​ทูต​ชะตา​สวรรค์​สี่คน​ที่​มีพลัง​ต่อสู้​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​เขา​ปิดล้อม​อีก​ สถานการณ์​เรียก​ว่า​อันตราย​ถึงขีดสุด​

“ทุกท่าน​ เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​กำจัด​หลิน​สวิน​ ครั้งนี้​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​อย่า​ปล่อย​ให้​เจ้าเฒ่านี่​หนี​ไป​!”

ฉงซวี​กล่าว​เสียง​ขรึม​

ขณะ​กล่าว​ศึก​ใหญ่​ปะทุ​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​

ก็​เห็น​ว่า​กลาง​ภูผา​ธารา​แถบ​นี้​ราวกับ​มีโลก​ยุคสมัย​มากมาย​ประลอง​และ​ต่อสู้​กัน​ ปะทะ​กัน​ไม่หยุด​ ก่อให้เกิด​ละออง​แสงน่ากลัว​เจิด​จรัส​ไร้​สิ้นสุด​

เฒ่าโดดเดี่ยว​ลอง​ฝ่าวงล้อม​หลายครั้ง​ แต่​ทุกครั้ง​ไม่เพียง​ถูก​สกัด​ ยัง​บาดเจ็บ​สะสมด้วยเหตุนี้​ ทั้งตัว​ล้วน​ชุ่มเลือด​

โลก​มหา​มรรค​ที่​เขา​วิวัฒน์​ออกมา​ก็​ม้วน​ตลบ​รุนแรง​ต่อเนื่อง​ ถูก​พวก​ฉงซวี​กำราบ​อย่าง​สมบูรณ์​ แทบจะ​พังทลาย​

‘ครั้งนี้​จะถูก​จัดการ​ตรงนี้​จริง​หรือ​’

เฒ่าโดดเดี่ยว​เช็ด​เลือด​แดงสด​ตรง​มุมปาก​ ใน​ใจรู้สึก​สิ้นหวัง​อยู่​บ้าง​อย่า​งอด​ไม่ได้​

จากนั้น​นัยน์ตา​เขา​ฉายแวว​คลุ้มคลั่ง​ “ต่อให้​ข้า​ต้อง​ตาย​ก็​จะลาก​พวก​เจ้าไป​ปรโลก​ด้วย​!!”

เขา​ส่งเสียงคำราม​ทุ่ม​สุดตัว​แล้ว​

เมื่อ​เห็น​ดังนี้​พวก​เซียว​อวิ้นจื่อ​ ฉงซวี​ ปา​เจวี๋ย​ เฟ่ยห​ยา​อด​ยิ้ม​หยัน​ไม่ได้​ ถึงตอนนี้​แล้ว​เพิ่ง​ทุ่ม​สุดตัว​ สาย​เกินไป​แล้ว​!

กล่าว​กัน​ถึงที่สุด​แล้ว​ การ​หนี​มาตลอด​สี่วัน​ทำให้​เฒ่าโดดเดี่ยว​ผลาญ​มรรค​วิถี​ทั้งตัว​ไป​มาก​ ซ้ำถูก​เซียว​อวิ้นจื่อ​โจมตี​อย่าง​หนัก​โดย​ไม่ตั้งตัว​อีก​ ต่อให้​เขา​ทุ่ม​สุดตัว​ ใน​สายตา​ศัตรู​พวก​นั้น​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​แมลงเม่า​บิน​เข้า​กองไฟ​

แต่​ก็​เป็น​ตอนนี้​ที่​พวก​เซียว​อวิ้นจื่อ​ตัว​แข็งทื่อ​ รู้สึก​ถึงอันตราย​ร้ายแรง​พุ่ง​เข้ามา​ใกล้​ ทำให้​พวกเขา​หน้า​เปลี่ยนสี​พร้อมกัน​ หลบหลีก​ไป​ตาม​จิตใต้สำนึก​

ฟุ่บ​!

พริบตา​ที่​พวกเขา​หนี​ห่าง​ออก​ไป​ ร่าง​สูงโปร่ง​หนึ่ง​เหิน​ห้วง​อากาศ​เข้ามา​ ปรากฏตัว​ตรงหน้า​เฒ่าโดดเดี่ยว​ที่​กำลังจะ​สู้สุด​ชีวิต​

………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท