ตอนที่ 3213 การเคลื่อนไหวของบรรพจารย์วานร

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ภาพ​น่า​ตระหนก​ปรากฏ​…

ใน​ห้วง​อากาศ​ โลก​โลกา​สวรรค์​แห่ง​แล้ว​แห่ง​เล่า​อุบัติ​ ไพศาล​เจิด​จรัส​ยิ่ง​ ต่าง​รองรับ​อารยธรรม​แห่ง​หนึ่ง​และ​มหา​มรรค​มากมาย​ ปรากฏ​หมื่น​ลักษณ์​หมื่น​วิญญาณ​…

ราวกับ​รวมตัว​จาก​โลก​ยุคสมัย​มากมาย​!

นี่​ก็​คือ​มรรค​โลกา​สวรรค์​

ควบ​รวม​ไอ​โลกา​สวรรค์​แล้ว​กระตุ้น​มหา​มรรค​แห่ง​ตน​ให้​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ สำแดง​พลัง​ชั้นเลิศ​ที่​รองรับ​อารยธรรม​และ​มหา​มรรค​ออกมา​

และ​การครอบครอง​อานุภาพ​ระดับ​นี้​ไม่ต่าง​จาก​ราชัน​แห่ง​ยุคสมัย​แล้ว​

ตอนนี้​เมื่อ​ทูต​ชะตา​สวรรค์​ห้า​คน​อย่าง​พวก​ตี้​ฉางสู้สุด​ชีวิต​ โลก​โลกา​สวรรค์​ห้า​ใบ​ที่​ปลดปล่อย​ออกมา​ก็​เรียก​ได้​ว่า​น่ากลัว​ยิ่ง​!

สำหรับ​พวกเขา​ การ​โจมตี​นี้​สามารถ​เปิด​ทางรอด​สาย​หนึ่ง​ให้​พวกเขา​หนี​ออกจาก​ฟ้าดิน​แถบ​นี้​ไป​ได้​!

ใช่แล้ว​ เพียง​เพื่อ​หนี​เท่านั้น​

แต่​ครู่​ต่อมา​…

ตูม​!

โลก​โลกา​สวรรค์​ใบ​หนึ่ง​พัง​ถล่ม​ ราวกับ​โลก​ยุคสมัย​อัน​ไพศาล​แห่ง​หนึ่ง​เหี่ยวเฉา​ใน​ชั่ว​ขณะนี้​ อารยธรรม​และ​มหา​มรรค​ที่​รองรับ​ล้วน​แตกสลาย​ พังทลาย​อย่าง​สิ้นเชิง​

พรูด​!

สิงอ​วิ๋น​โจว​กระอัก​เลือด​ ราวกับ​ถูก​ฟ้าผ่า​ บาดเจ็บสาหัส​

นี่​คือ​โลก​โลกา​สวรรค์​ของ​เขา​ เป็น​สิ่งที่​สะท้อน​มรรค​วิถี​ของ​เขา​ กลับ​ยัง​ถูก​ซัด​สะเทือน​แตกสลาย​หมดสิ้น​ใน​ชั่ว​ขณะนี้​ ทำให้​มรรค​วิถี​ของ​เขา​ได้รับ​เสียหาย​รุนแรง​

“เป็นไปได้​อย่างไร​!?”

สิงอ​วิ๋น​โจว​เงยหน้า​ขึ้น​ ก็​เห็น​โลก​โลกา​สวรรค์​ของ​พวก​ตี้​ฉาง ตู​เทียน​หยวน​ ตาน​ถู หลิว​เหยา​ถูก​โจมตี​หนักหน่วง​ใน​ยาม​นี้​เช่นกัน​

ตูม​! ตูม​! ตูม​! ตูม​!

เสียงกึกก้อง​สะเทือน​ฟ้าดิน​ดัง​ขึ้น​ โลก​โลกา​สวรรค์​แห่ง​แล้ว​แห่ง​เล่า​ระเบิด​ออก​ราวกับ​ฟองสบู่​ ซัด​ละออง​แสงพร่างพราว​งดงาม​ออกมา​ ม้วนตัว​แล้ว​สลาย​ไป​ดั่ง​กระแสน้ำ​

ไม่มีใคร​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​โลก​โลกา​สวรรค์​ของ​หลิน​สวิน​ ล้วน​ถูก​ซัด​แตก​เป็น​เสี่ยง​ภายใน​การ​โจมตี​เดียว​

ภาพ​เหตุการณ์​นั้น​ราวกับ​โลก​ยุคสมัย​มากมาย​ถูก​กระแทก​แหลก​ละเอียด​อย่าง​หนัก​!

สิงอ​วิ๋น​โจว​อึ้ง​งัน​ย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​

เมื่อ​หัน​มองดู​พวก​ตี้​ฉาง ตู​เทียน​หยวน​ ล้วน​เงาร่าง​โซเซ กระอัก​เลือด​ไม่หยุด​ แต่ละคน​บาดเจ็บ​หนักหน่วง​ กลิ่นอาย​ทั้ง​ร่าง​ปั่นป่วน​

สีหน้า​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความหวาดกลัว​ กรีดร้อง​ไม่หยุด​ สภาวะ​จิต​ได้รับ​ความกระทบกระเทือน​รุนแรง​

ใช้พลัง​ของ​คน​ผู้เดียว​ ภายใต้​การ​โจมตี​เดียว​ก็​ทำลาย​โลก​โลกา​สวรรค์​ของ​พวกเขา​ห้า​คน​ได้​!

นี่​น่ากลัว​เกินไป​ ทำลาย​ความเข้าใจ​ของ​พวกเขา​โดย​สมบูรณ์​

ราชครู​ยัง​อึ้ง​งัน​จน​อ้าปากค้าง​อย่า​งอด​ไม่ได้​ สูด​หายใจ​สะท้าน​ ไม่กล้า​เชื่อ​สายตา​ตัวเอง​สักนิด​

“น่า​ตกใจ​มาก​ใช่ไหม​”

เฒ่าโดดเดี่ยว​กล่าว​กลั้ว​หัวเราะ​ เห็น​ท่าที​อึ้ง​งัน​ของ​ราชครู​ เขา​ก็​นึกถึง​ท่าทาง​โง่งมอึ้ง​งัน​ของ​ตน​ยาม​หลิน​สวิน​กำราบ​พวก​ฉงซวี​ก่อนหน้านี้​

“บอก​ให้​ถอย​นาน​แล้ว​ เหตุใด​ยัง​ดื้อดึง​อยู่​อีก​…”

พวก​ฉงซวี​ ปา​เจวี๋ย​เพิ่ง​หนี​จาก​ความตาย​มาได้​ แต่​หลังจาก​เห็นภาพ​นี้​ก็​อด​สิ้นหวัง​ไม่ได้​ แต่ละคน​ราว​สูญเสีย​บุพการี​ หมดหวัง​ถึงขีดสุด​

ตูม​!

แสงมรรค​ทั่ว​ฟ้าสลายตัว​

ใต้​ฟ้าเหลือ​เพียง​เงาร่าง​หลิน​สวิน​ยืน​อยู่​กลางอากาศ​เพียงลำพัง​ มอง​ลง​มายัง​พวก​ทูต​ชะตา​สวรรค์​ที่​บาดเจ็บ​เหล่านั้น​ กล่าวว่า​ “ยัง​จะลอง​อีก​หรือไม่​”

พวก​ตี้​ฉางเงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​ยากลำบาก​ มอง​ไป​ยัง​หลิน​สวิน​ สีหน้าซีด​ขาว​เต็มไปด้วย​ความ​อึ้ง​งัน​และ​หวาดหวั่น​

ใคร​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​หลิน​สวิน​ที่​เพิ่ง​มาถึงโลก​โลกา​สวรรค์​จะครอบครอง​มรรค​โลกา​สวรรค์​ที่​น่ากลัว​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​! ต่อให้​ยาม​นี้​ถูก​โจมตี​พ่ายแพ้​แล้ว​ ใน​ใจก็​ยัง​เต็มไปด้วย​ความ​ฉงน​ที่​ยาก​จะอธิบาย​

เป็น​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​

เห็น​ว่า​ไม่มีคน​ตอบ​ หลิน​สวิน​หมด​ความสนใจ​ทันที​ “ช่างเถอะ​ ข้า​จะส่งทุกท่าน​ไป​ลงนรก​เอง​”

ตูม​!

แสงมรรค​ทั่ว​ฟ้าปรากฏ​ กลายเป็น​โลก​โลกา​สวรรค์​ที่​ใหญ่​จน​บดบัง​ฟ้าดิน​ ตอนนี้​พวก​ตี้​ฉางไร้​แรง​ดิ้นรน​แล้ว​ ทำได้​เพียง​มอง​ตนเอง​ถูก​กลืน​กิน​ราวกับ​มด​ตัว​จ้อย​โดย​ไม่สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​

ถึงตอนนี้​ทูต​ชะตา​สวรรค์​ทั้ง​เก้า​ซึ่งอยู่​ใน​โลก​นี้​ล้วน​ร่วงหล่น​!

เฒ่าโดดเดี่ยว​และ​ราชครู​ที่อยู่​ใน​ไกลๆ​ สีหน้า​เหม่อลอย​ระลอก​หนึ่ง​

พวกเขา​สู้กับ​ทูต​ชะตา​สวรรค์​เหล่านั้น​มาไม่รู้​กี่​ปี​ หนี​อย่าง​สะบักสะบอม​ทุกครั้ง​ และ​หลายครั้ง​ที่​พบ​เจอ​อันตราย​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​รู้​ถึงความ​แข็งแกร่ง​ของ​ทูต​ชะตา​สวรรค์​เหล่านั้น​เป็น​อย่าง​ดี​

แต่​พวก​คน​ที่​แข็งแกร่ง​กลุ่ม​นี้​กลับ​ถูก​หลิน​สวิน​สังหาร​หมดสิ้น​ใน​ชั่วพริบตา​ นี่​ทำให้​เฒ่าโดดเดี่ยว​และ​ราชครู​ต่าง​รู้สึก​เหมือน​ไม่สมจริง​ ราวกับ​กำลัง​ฝัน​ไป​อย่างไร​อย่างนั้น​

จู่ๆ เสียง​ของ​หลิน​สวิน​ก็​ดัง​ขึ้น​ “ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​ พวก​ท่าน​รีบ​ไป​รักษา​แผล​เถอะ​ อย่า​ได้​ปล่อย​ให้​บาดแผล​กลายเป็น​ภัย​แฝง”

เฒ่าโดดเดี่ยว​และ​ราชครู​เงยหน้า​มอง​ไป​ก็​เห็น​หลิน​สวิน​ก้าวเดิน​มาจาก​ห้วง​อากาศ​แล้ว​

สวม​ชุด​สีขาว​พระจันทร์​ หล่อเหลา​ละ​โลกีย์​ รูปลักษณ์​ยังคง​เหมือน​ยาม​เป็น​เด็กหนุ่ม​ แต่​ใน​สายตา​ของ​เฒ่าโดดเดี่ยว​และ​ราชครู​ เด็กหนุ่ม​คน​นี้​… เป็น​คน​ที่​สามารถ​ทำให้​พวกเขา​แหงนหน้า​มอง​ชื่นชม​ได้​แล้ว​!

……

แดน​เทพ​มาก​เร้น​

จอม​มรรค​ชะตา​สวรรค์​ทั้ง​เก้า​อย่าง​พวก​เพ่​ย​ถู ชิงหยาง​จื่อ​ ขู่​เห​อ​ต่าง​เงียบงัน​

บรรยากาศ​กดดัน​อย่าง​ที่สุด​

“ตั้งแต่​หลิน​สวิน​เข้าสู่​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​จนถึง​ตอนนี้​ยัง​ไม่ถึงห้า​ปี​กระมัง​”

ครู่ใหญ่​เพ่​ย​ถูพึมพำ​ออกมา​เสียงต่ำ​ลึก​ “ตอนนี้​เขา​กลับ​ผ่าน​ประตู​สวรรค์​ชั้น​ที่​แปด​แล้ว​ ชักนำ​ผล​มรรค​แรก​กำเนิด​มาได้​แปด​ครั้ง​ ถ้าไม่ผิด​จาก​ที่​คาด​ อีกไม่นาน​เขา​ก็​จะออกจาก​โลก​โลกา​สวรรค์​ไป​ทาง​พิฆาต​มรรค​แล้ว​…”

ใน​น้ำเสียง​เผย​อารมณ์​ซับซ้อน​ที่​บอก​ไม่ถูก​

เริ่มแรก​พวกเขา​ไม่ใส่ใจหลิน​สวิน​ มอง​เขา​เป็น​เหยื่อ​ที่​สามารถ​ฆ่าได้​ตามใจชอบ​ หลังจากนั้น​เมื่อ​หลิน​สวิน​ผ่าน​โลก​เหล่านั้น​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ทำให้​พวกเขา​เดือดดาล​ ตกใจ​ หวาดหวั่น​… และ​ได้รับ​แรง​กระเทือน​อย่าง​ต่อเนื่อง​

จนกระทั่ง​ตอนนี้​พวกเขา​ทุกคน​ล้วน​รู้สึก​สิ้นหวัง​!

ล้วน​ตะลึง​กับ​อานุภาพ​ที่​หลิน​สวิน​สำแดง​ออกมา​ ต่อให้​พวกเขา​ไม่อยาก​ยอมรับ​แค่​ไหน​ ก็​ไม่อาจ​ไม่ยอมรับ​ว่า​หลิน​สวิน​ใน​ตอนนี้​ไม่ด้อย​กว่า​จอม​มรรค​ไร้​ขอบเขต​อย่าง​พวกเขา​ ถึงขั้น​ที่​มีแต่​จะเหนือกว่า​!

“ทาง​พิฆาต​มรรค​ สิ่งที่​พิฆาต​ก็​คือ​มรรค​แห่ง​อดีต​ ปัจจุบัน​ อนาคต​ ทาง​พิฆาต​มรรค​ที่​เก้า​มร​ณาหนึ่ง​รอดพ้น​นี้​ ก็​ไม่รู้​ว่า​จะสามารถ​กักขัง​หลิน​สวิน​ได้​หรือไม่​…”

ชิงหยาง​จื่อ​ถอนหายใจ​ยาว​

พวกเขา​ไม่แน่ใจ​แล้ว​ ไร้​ซึ่งความเย่อหยิ่ง​และ​มั่นใจ​เหมือน​ก่อนหน้านี้​ ยาม​พูดถึง​หลิน​สวิน​คิ้ว​ล้วน​ขมวด​แน่น​ สีหน้า​หนักใจ​

นี่​คือ​เรื่อง​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​

“พวกเรา​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ตอนนี้​ก็​ไม่มีประโยชน์​ และ​ไม่สามารถ​ไป​แทรกแซง​และ​หยุดยั้ง​หลิน​สวิน​ได้​อีก​ ทำได้​เพียง​รอ​อยู่​ที่นี่​อย่าง​ผู้ถูกกระทำ​ ไม่มีวิธี​อื่น​อีก​”

เสียง​ของ​ขู่​เห​อ​เผย​ความหดหู่​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​ “เรื่อง​ที่​โหดร้าย​ยิ่งกว่า​คือ​หาก​เขา​มีโอกาส​ข้าม​ผ่าน​ทาง​พิฆาต​มรรค​ มาถึงแดน​เทพ​มาก​เร้น​ ต่อให้​พวกเรา​ลงมือ​ด้วยกัน​ก็​เกรง​ว่า​จะไม่อาจ​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​เขา​ได้​อีก​…”

อารมณ์​ท้อแท้​หมดอาลัยตายอยาก​แผ่ขยาย​บน​ร่าง​จอม​มรรค​ชะตา​สวรรค์​เหล่านี้​ สีหน้า​ทุกคน​ล้วน​อึมครึม​

“นี่​… ก็​คือ​ตัวแปร​ที่​เจ้าลัทธิ​รอคอย​หรือ​ ข้า​คล้าย​จะเข้าใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​ตั้งแต่แรก​คุณหนู​และ​เจ้าลัทธิ​ถึงไม่แสดงท่าที​อย่าง​ชัดเจน​ พวกเขา​… เกรง​ว่า​คง​คาดเดา​ได้​นาน​แล้ว​ว่า​เพียงแค่​แดน​เทพ​สรรพ​วิญญาณ​ไม่สามารถ​ขวาง​หลิน​สวิน​ได้​”

เทียน​ซูพึมพำ​ออกมา​ “จะโทษ​ก็​ต้องโทษ​ที่​พวกเรา​ไม่เข้าใจ​ คิด​เอง​เออ​เอง​ว่าการ​ระดม​พลัง​ทั้งหมด​ไป​ขัดขวาง​และ​โจมตี​หลิน​สวิน​เป็นการ​ทำ​เพื่อ​เจ้าลัทธิ​และ​คุณหนู​ สุดท้าย​กลับ​เสียหาย​หนัก​ นี่​… น่าขัน​แค่​ไหน​…”

สีหน้า​ของ​ทุกคน​ไม่น่าดู​อยู่​บ้าง​ ใน​ใจมีความคิด​แตก​ต่างกัน​ไป​

ใช่แล้ว​ เหตุใด​ตั้งแต่​หลิน​สวิน​ปรากฏตัว​จนถึง​ตอนนี้​ เจ้าลัทธิ​และ​คุณหนู​ไม่เคย​แสดงท่าที​

หรือ​พวกเขา​เดา​ออก​นาน​แล้ว​ว่า​อานุภาพ​ของ​หลิน​สวิน​ไม่อาจ​ขัดขวาง​

หรือ​พูด​อีก​อย่างว่า​พวกเขา​เพียง​ต้องการ​มองดู​อยู่​ข้างๆ​ ดู​ว่า​ตัวแปร​อย่าง​หลิน​สวิน​จะสามารถ​รอด​ถึงแดน​เทพ​มาก​เร้น​ได้​หรือไม่​

ครู่หนึ่ง​หลังจากนั้น​เพ่​ย​ถูพูด​เสียง​ขรึม​ “จิตใจ​ของ​เจ้าลัทธิ​ลึกล้ำ​ราว​มหาสมุทร​ ไม่ใช่สิ่งที่​พวกเรา​คาดเดา​กันเอง​ได้​ พวกเรา​ทำ​เรื่อง​ที่​ตน​ควร​ทำให้​ดี​ก็​พอแล้ว​”

ตอนนี้​เอง​ที่​นอก​โถงใหญ่​ เงาร่าง​สูงใหญ่​ราวกับ​ภูเขา​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ปรากฏตัว​ออกมา​กลางอากาศ​ เสียง​แก่​ชรา​ก้อง​สะท้อน​ตามมา​

“พวก​เจ้าตาม​ข้า​มา”

พวก​เพ่​ย​ถูเก้า​คน​ลุกขึ้น​โดยพร้อมเพรียง​ สบตา​กัน​อย่าง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

“บรรพ​จารย์​วานร​ พวกเรา​จะไป​ไหน​กัน​”

เพ่​ย​ถูประสานมือ​ถาม

“ไป​ ‘แท่น​มรรค​มาก​เร้น​’ ดู​ว่า​หลิน​สวิน​จะสามารถ​ข้าม​ทาง​พิฆาต​มรรค​มาถึงแดน​เทพ​มาก​เร้น​แห่ง​นี้​ได้​หรือไม่​”

บรรพ​จารย์​วานร​พูด​จบ​ก็​หมุนตัว​ทะยาน​ออก​ไป​

พวก​เพ่​ย​ถูตกใจ​ จากนั้น​เผย​สีหน้า​ตื่นเต้น​ แม้แต่​บรรพ​จารย์​วานร​ก็​นั่ง​ไม่ติด​ ในที่สุด​ก็​เลือก​จะลงมือ​แล้ว​หรือ​

ระหว่าง​ที่​คิด​พวกเขา​ก็​เคลื่อนไหว​แล้ว​ ตาม​บรรพ​จารย์​วานร​ไป​ติดๆ​

……

“บรรพ​จารย์​วานร​เคลื่อนไหว​แล้ว​”

โลก​จำศีล​ จักจั่น​สัมผัส​บางอย่าง​ได้​ เผย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ออกมา​อย่า​งอด​ไม่ได้​ “เคลื่อนไหว​ตอนนี้​ใจร้อน​เกินไป​หน่อย​แล้ว​”

“บรรพ​จารย์​วานร​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ไท่​ซูตั้งแต่​เมื่อนานมาแล้ว​ เป็น​ทั้ง​ข้า​รับใช้​ทั้ง​สหาย​ มรรคา​ของ​เขา​ผสาน​พลัง​แห่ง​ความขุ่น​ใส หยิน​หยาง​ สอง​ลักษณ์​ไว้​ด้วยกัน​ วิวัฒน์​เป็น​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ยอด​เอกอุ​สัมบูรณ์​ สิ่งยาก​ที่สุด​คือ​มรรค​วิถี​ทั้งตัว​เขา​ฝึกฝน​มาอย่าง​ยากลำบาก​ด้วย​ตนเอง​ทั้งหมด​ แม้แต่​ไท่​ชูยัง​ไม่เคย​ให้​ความช่วยเหลือ​เขา​มาก​นัก​”

เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​พูด​เสียง​เบา​ “สหาย​ยุทธ์​คง​รู้ดี​ ใน​ทุก​ยุคสมัย​ตั้งแต่​อดีต​ถึงปัจจุบัน​ ผู้​แข็งแกร่ง​ที่​ฝึก​มรรคา​ยอด​เอกอุ​มีนับไม่ถ้วน​ แต่​คน​ที่​ไป​ถึงขั้น​สัมบูรณ์​บน​มรรคา​นี้​กลับ​มีเพียง​บรรพ​จารย์​วานร​คนเดียว​เท่านั้น​”

จักจั่น​ทอง​ยิ้ม​กล่าว​ “มรรค​แห่ง​ยอด​เอกอุ​ผสมผสาน​ความ​แข็งแกร่ง​และ​นุ่มนวล​ รวม​หยิน​หยาง​ หนึ่ง​นิ่ง​หนึ่ง​ขยับ​ ล้วน​สำแดง​ความมหัศจรรย์​ไร้​บกพร่อง​อัน​สมบูรณ์แบบ​ สหาย​ยุทธ์​คิด​ว่า​การเคลื่อนไหว​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ใน​ครั้งนี้​เตรียมพร้อม​มานาน​แล้ว​ ไม่ได้​กระทำ​ด้วย​ความ​เร่งรีบ​เช่นนั้น​หรือ​”

“ต้อง​เป็น​เช่นนี้​อยู่แล้ว​”

เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​กล่าว​ “หรือ​พูด​ได้​ว่า​ทันทีที่​บรรพ​จารย์​วานร​เคลื่อนไหว​จะต้อง​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ และ​การเปลี่ยนแปลง​เช่นนี้​อาจจะ​เป็น​สิ่งที่​ไท่​ชูอยาก​เห็น​พอดี​”

“ถ้าอย่างนั้น​สหาย​ยุทธ์​ไม่คิด​จะลงมือ​หรือ​”

จักจั่น​ทอง​อึ้ง​ไป​

เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ใคร่ครวญ​แล้ว​ให้​คำตอบ​หนึ่ง​ “ปล่อยไป​ตาม​ธรรมชาติ​”

……

“ท่าน​ปู่​ บรรพ​จารย์​วานร​เคลื่อนไหว​แล้ว​ ในที่สุด​เจ้าเฒ่านี่​ก็​หมด​ความอดทน​แล้ว​หรือ​”

โลก​หง​ห​ลิง​ เฉิน​หลิน​คง​ตา​เป็นประกาย​

“ขนาด​เจ้ายัง​รู้​ความเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ เขา​จะไม่รู้​ถึงความเปลี่ยนแปลง​ที่จะ​เกิดขึ้น​จาก​การ​ทำ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​”

ใน​กระท่อม​เสียง​ที่​กระจ่าง​กังวาน​ดัง​มา “อย่า​ร้อนใจ​ การกระทำ​นี้​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ทุกคน​ล้วน​เห็น​อยู่​ใน​สายตา​ ไม่ว่า​เขา​จงใจคิด​จะชิงลงมือ​ก่อน​ หรือ​คิด​จะวางแผน​หลอกล่อ​ก็​ไม่สำคัญ​ ขอ​เพียง​ไท่​ชูไม่เคลื่อนไหว​ การ​ประลอง​หมาก​ครั้งนี้​ก็​ยัง​ไม่ถือว่า​เริ่ม​ขึ้น​”

เฉิน​หลิน​คง​เลิกคิ้ว​กล่าว​ “ท่าน​ปู่​ ใน​สายตา​ท่าน​มีเพียง​ไท่​ชู แต่​ข้า​กลับ​เป็นห่วง​สถานการณ์​ของ​สหาย​น้อย​หลิน​ ไม่สู้… ข้า​ไป​ที่​แท่น​มรรค​มาก​เร้น​นั่น​สัก​รอ​บดี​หรือไม่​”

เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่​เสียง​ใน​กระท่อม​จะดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ “เจ้าไปดู​สักหน่อย​ก็ดี​”

เฉิน​หลิน​คง​ดีใจ​ทันที​ หมุนตัว​จากไป​

เขา​ใช้ชีวิต​อย่าง​สงบเงียบ​มานาน​แล้ว​

“จิตใจ​เช่นนี้​ ยัง​เทียบ​จักจั่น​ทอง​และ​โพธิ​ไม่ได้​ แต่​… ก็​ไม่เป็นไร​ แต่ละคน​ล้วน​มีมรรค​ของ​ตน​ มีอุปนิสัย​ของ​ตน​ มุ่งมั่น​จะพัฒนา​ก็ดี​ มั่นคง​ราวกับ​ภูเขา​ก็ช่าง​ ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​แตก​ต่างกัน​”

ใน​กระท่อม​เงาร่าง​โดดเด่น​สาย​หนึ่ง​จมสู่ภวังค์​ความคิด​

“กลับเป็น​หลิน​สวิน​นี่​ แม้ไม่เคย​ข้าม​ทาง​พิฆาต​มรรค​ ตอนนี้​มรรค​วิถี​ของ​เขา​น่าจะ​โดดเด่น​เหนือกว่า​คนรุ่นก่อน​แล้ว​… ใน​จุด​นี้​เจ้าโพธิ​นั่น​ช่างสมกับ​เป็น​คน​อาจหาญ​ความคิด​ยาว​ไกล​ แม้จ่าย​ค่าตอบแทน​ไป​มาก​ แต่​ได้​ผู้สืบทอด​เช่นนี้​มาคน​หนึ่ง​ก็​สามารถ​ทำให้​เขา​ปลาบปลื้ม​และ​ภาคภูมิใจ​ได้​แล้ว​…”

…………………..

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท